ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของธนาคารกสิกรไทย ประจำวันอังคารที่ 2 ส.ค. 2554 เวลา 08.09 น. มีดังนี้

 

เงินดอลลาร์สหรัฐ รับซื้อที่ 28.52 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขายออกที่ 29.91 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 42.77 บาทต่อยูโร เงินปอนด์อยู่ที่ระดับ 49.10 บาทต่อปอนด์ เงินหยวนของจีนอยู่ที่ระดับ 4.75 บาทต่อหยวน และ

เงินเยนของญี่ปุ่นอยู่ที่ระดับ 0.3893 บาทต่อเยน

 

ที่มา : สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น (วันที่ 2 สิงหาคม 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สภาผู้แทนฯสหรัฐโวตผ่านร่างงบประมาณแล้ว

02 สิงหาคม 2554 เวลา 06:49 น.

 

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐโวตผ่านร่างงบประมาณ ด้วยคะแนน 269 ต่อ 161 เสียง วุฒิสภาเตรียมโวตพรุ่งนี้

 

เมื่อเวลาประมาณ 05.30 ตามเวลาในไทย หรือ 18.30 น. ตามเวลาที่กรุงวอชิงตันดีซี สหรัฐ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ออกเสียงโวตผ่านร่างมติงบประมาณฉบับมีปัญหาผ่านแล้ว ด้วยคะแนนเสียงข้างมากที่ 269 ต่อ 161 เสียง ผ่านด่านแรกก่อนที่ร่างงบประมาณดังกล่าวจะส่งต่อขึ้นไปยังวุฒิสภาในวันอังคารนี้ (วันพุธตามเวลาในไทย) และจะทำการโวตกันอีกครั้ง

 

การออกเสียงรับรองร่างกฎหมายดังกล่าว มีขึ้นหลังจากที่ ประธานาธิบดี บารัค โอบามา และแกนนำสภคองเกรสของทั้งพรรครีพับบลิกกัน และเดโมแครต สามารถบรรลุข้อตกลงที่จะตัดลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มเพดานกู้หนี้ให้กับรัฐบาลสหรัฐ อีก 2.4 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ โดยการตัดลดค่าใช้จ่ายในร่างงบประมาณฉบับนี้นั้นส่วนหนึ่งจะเป็นการตัดลบงบประมาณการทหารลง 3.5 แสนล้านเหรียยญสหรัฐด้วย

 

ตามกำหนดเวลานั้น กฎหมายฉบับนี้จำเป็นต้องได้รับการโวตรับรองจากทั้งสองสภาให้ทันภายในวันอังคาร และจะต้องถึงมือประธานาธิบดี บารัค โอบามา เพื่อลงนามรับรองเป็นกฎหมาย ให้ทันภายในวันอังคารนี้ตามเวลาในสหรัฐ ซึ่งเป็นวันที่สหรัฐจะต้องชำระคืนพันธบัตรครบกำหนดชำระคืนในวันอังคาร หรือ 2 สิงหาคม นี้

 

ก่อนหน้า ได้เกิดความวิตกังวลมาโดยตลอดว่าสหรัฐอาจจะเพิ่มเพดานกู้หนี้เพิ่มของรัฐบาลไม่ทัน ทำให้ไม่มีเงินชำระหนี้คืนดังกล่าว ซึ่งจะทำให้สหรัฐกลายเป็นหนี้เสียอันจะส่งผลกระทบต่อภาคการเงินโลก และสหรัฐเองอย่างรุนแรงโดยค่าเงินดอลลาร์จะลดค่าลงอย่างรุนแรง ดอกเบี้ยจะพุ่งขึ้นในทันที อีกทั้งยังจะทำให้สหรัฐต้องถูกลดอันดับเครดิตลงจากที่ระดับสูงสุด AAA อีกด้วย

 

ทั้งนี้ ในข้อตกลงการตดลดรายจ่ายลงในร่างงบประมาณดังกล่าวจะแบ่งออกเป็นสองส่วน โดยส่วนแรก มีมูลค่า 9.17 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในส่วนนี้จะตัดลดงบประมาณด้านความมั่นคงแห่งชาติลง 4.20 แสนล้านเหรียญสหรัฐด้วย และในขั้นที่สอง คณะกรรมาธิการร่วมสภาคองเกรสจะเสนอให้ลดค่าใช้จ่ายลงอีก 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐหรือมากกว่านี้ ซึ่งจะไปออกเสียงโหวตกันอีกครั้งในปลายปี

 

จากการลดรายจ่ายในร่างงบประมาณดังกล่าวจะทำให้ จะทำให้รัฐบาลสหรัฐเพิ่มเพดานกู้หนี้ได้อัตโนมัติทันที 4 แสนล้านเหรียญสหรัฐ และประธานาธิบดี บารัค โอบามา จะมีสิทธิสั่งเพิ่มเพดานกู้หนี้ได้อีก 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐได้อีกถ้าหากไม่ถูกสภาคองเกรสคดค้านเสียก่อน

 

http://www.posttoday.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มติสภาล่างสหรัฐฯ 269 : 161 เสียง รับรองร่าง กม. เพิ่มเพดานหนี้ เปิดทาง รบ. กู้ยืมมากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ ก่อนเส้นตาย 2 ส.ค. เตรียมส่งวุฒิสภาลงมติต่อ

 

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติวานนี้ (1 ส.ค.) 269 ต่อ 161 เสียง ผ่านร่างกฎหมาย ที่จะเปิดทางให้รัฐบาลสหรัฐฯ กู้ยืมเงินได้มากขึ้น ก่อนหน้ากำหนดเส้นตายวันนี้ ที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงถึงการผิดชำระหนี้ขึ้นมา โดยร่างกฎหมายฉบับที่ผ่านการรับรองนี้ จะส่งต่อไปให้วุฒิสภาลงมติ ก่อนที่จะมีผลบังคับใช้ ทั้งนี้ เนื้อหาสำคัญภายใน รวมถึงการเปิดทางให้รัฐบาลเพิ่มเพดานหนี้มากกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และลดการใช้จ่ายลงในจำนวนที่ไล่เลี่ยกัน ในช่วง 10 ปีข้างหน้า

 

นอกจากนี้ ยังจะมีการจัดตั้งคณะกรรมาธิการพิเศษขึ้นมา เพื่อพิจารณาถึงการดำเนินการดังกล่าว และการเปลี่ยนแปลงมาตรการภาษีด้วย

 

ที่มา : ไอเอ็นเอ็น (วันที่ 2 สิงหาคม 2554)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นสหรัฐฯ ปิดผันผวนหนัก แม้ร่างกฎหมายขยายเพดานก่อหนี้สหรัฐฯ ตกลงกันได้ ด้านราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ ลดลง 81 เซนต์ ขณะราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ลดลง 9.50 ดอลลาร์

 

ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมา ปิดผันผวนหนัก แม้ร่างกฎหมายขยายเพดานก่อหนี้สาธารณะ และตัดลดงบประมาณรายจ่ายเพื่อหลีกเลี่ยงผิดนัดชำระหนี้ กำลังเข้าสู่สภาหลังผู้นำพรรคเดโมแครต และริพับลิกันตกลงกันได้แล้วก็ตาม

 

ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ลดลง 10.75 จุด หรือ 0.09 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 12,132.49 จุด ดัชนีแนสแด๊ค ลดลง 11.77 จุด หรือ 0.43 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 2,744.61 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี ลดลง 5.34 จุด หรือ 0.41 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1,286.94 จุด

 

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 81 เซนต์ หรือ 0.85 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 94.89 ดอลลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ ปิดที่ 116.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะราคาทองคำตลาดนิวยอร์กสหรัฐฯ ลดลง 9.50 ดอลลาร์ หรือ 0.58 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 1621.70 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

 

ที่มา : สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น  (วันที่ 2 สิงหาคม 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:ph34r: ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดซื้อขายวันนี้ ปรับลดลง 92.84 จุด มาอยู่ที่ 9,872.17 จุด เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ หรือ PMI ภาคการผลิตเดือน กรกฎาคม ของสหรัฐขยายตัวที่ระดับ 50.9 จุด ซึ่งชะลอตัวลงอย่างมากเมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน ที่ขยายตัว 55.3 จุด

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือ บีโอเจ จะเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศหรือไม่ หลังจากเงินเยนแข็งค่าขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

 

ด้านดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 2,152.85 จุด ลดลง 19.46 จุด ขณะที่ ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ที่ 4,479.20 จุด ลดลง 18.60 จุด

 

ที่มา : money channel (วันที่ 2 สิงหาคม 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:ph34r: ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีนเปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 40 ดอลลาร์ฮ่องกง แตะระดับ 15,050 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,621.52 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.65 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.791 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:ph34r: ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:ph34r: ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำนักงานสถิติเกาหลีใต้รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคของเกาหลีใต้ในเดือนกรกฎาคมปรับตัวสูงขึ้นแตะ 4.7% หลังจากที่ขยายตัว 4.4% ในเดือนมิถุนายน และทะยานขึ้น 0.7% จากเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งจุดชนวนความวิตกกังวลว่า แรงกดดันเงินเฟ้อกำลังก่อตัวขึ้น แม้มีมาตรการสกัดกั้นเงินเฟ้อของรัฐบาล

 

ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อในเดือนกรกฎาคม อยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่ที่พุ่งสูงขึ้น 4.8% ต่อปีในเดือนตุลาคม 2551 โดยเงินเฟ้อพุ่งทะลุเพดานเป้าหมายของธนาคารกลางเกาหลีใต้ที่ระดับ 2-4% เป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน

 

ที่มา : money channel (วันที่ 2 สิงหาคม 2554)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:ph34r: ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

            สมาคมผู้ค้ายานยนต์ญี่ปุ่นเผยยอดขายรถใหม่ของญี่ปุ่น ซึ่งไม่นับรวมรถยนต์ขนาดเล็ก ร่วงลง 27.6% ในเดือนก.ค. จากปีที่แล้ว แตะ 241,472 คัน นับเป็นการปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน ต่อเนื่องจากที่ร่วงลง 23.3% ในเดือนมิ.ย.

 

            สำนักข่าวเกียวโตรายงานว่า ยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลอยู่ที่ 215,265 คัน ลดลง 30% ส่วนยอดขายรถบรรทุกเพิ่มขึ้น 1.4% แตะ 25,281 คัน และยอดขายรถบัสลดลง 14.7% แตะ 926 คัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:ph34r: ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เวนย์ สวอน รัฐมนตรีคลังออสเตรเลีย บอกว่า ดีลนี้เป็นก้าวสำคัญที่มีผลต่อเสถียรภาพของโลก ซึ่งสอดคล้องกับรัฐมนตรีคลังญี่ปุ่น โยชิฮิโกะ โนดะ ที่บอกว่า ความวิตกเกี่ยวกับหนี้สาธารณะของสหรัฐเริ่มลดลง และหวังว่าตลาดจะสะท้อนภาพดังกล่าว

 

นายจู เปาเหลียง หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของศูนย์ข้อมูลแห่งชาติจีน บอกว่า ดีลนี้อาจบรรเทาความกังวลของนักลงทุนระยะยาว แต่สหรัฐฯ ก็ยังมีโอกาสสูงที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ ซึ่งหากเกิดขึ้น ประเทศทั่วโลกก็จะต้องการถือครองดอลลาร์น้อยลง และทำให้เกิดกระแสเงินทุนมหาศาลไหลเข้าบรรดาตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งจีน

 

นายโมฮาเหม็ด เอล-อีเรียน ผู้บริหาร แปซิฟิก อินเวสเมนท์ แมเนจเมนท์(PIMCO) บริษัทจัดการกองทุนพันธบัตรรายใหญ่ที่สุดของโลก เชื่อว่า ผลกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือระดับ AAA ขึ้นอยู่กับว่าสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส หรือ S&P ยังคงยึดมั่นกับคำพูดก่อนหน้านี้หรือไม่ โดย S&P เคยบอกว่ามีแนวโน้มจะปรับลดเครดิตของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่ายังคงมีแรงกดดันมหาศาลไม่ให้ S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ

 

ที่มา : money channel (วันที่ 2 สิงหาคม 2554)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...