ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

สรุปข่าวหน้า iBusiness หนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการรายวัน

 

ชงคลังเว้นภาษีบจ.ขนเงินลงทุนนอกเปิดทางสู้ต่างชาติ

สมาคมบจ.ส่งหนังสือถึงกระทรวงคลังขอยกเว้นภาษีเงินปันผลรับจาก

การไปลงทุนในบริษัทต่างประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับบริษัทไทย

แข่งขันกับต่างชาติได้ หลังศึกษาข้อมูลในต่างประเทศนั้นมีการยกเว้นภาษีดัง

กล่าว ยืนยันเอื้อให้บจ.ทุกบริษัทที่มีโอกาสไปลงทุน ไม่ใช่เอื้อเฉพาะบริษัท

ขนาดใหญ่

 

ธ.ก.ส.ทวงหนี้รัฐ6หมื่นล้านใช้ประกันรายได้เกษตร

ธ.ก.ส.เล็งเรียกหนี้รัฐบาลคืน 6 หมื่นล้านจากวงเงินรวม 2 แสนล้าน

บาท ใช้เดินหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกรรอบใหม่ หวั่นรายได้จากการ

ขายสินค้าเกษตรในสต็อกใช้หนี้คืนล่าช้า พร้อมปรับแนวทางประกันข้าวนาปี

ยึดข้อมูลเดิม

 

การเมืองฉุดยอดเทรดเน็ตฯวูบ!

นายกสมาคมโบรกเกอร์เผย สัปดาห์นี้ชมรมผู้ดูแลการปฏิบัติงานด้าน

หลักทรัพย์ เล็งหารือกับก.ล.ต.ถึงมาตรการดูแลการซื้อขายบัญชีอินเทอร์เน็ต

ยืนยันยอดเทรดอินเตอร์พ.ค.ลดลงไม่เกี่ยวกับการถูกก.ล.ต.ควบคุม แต่เชื่อ

มาจากปัญหาการเมืองที่ทำให้ระบบซื้อขายมีปัญหา

 

ธอส.ตรึงดบ.กู้ถึงสิ้นปีหวังลดภาระลูกค้าบ้าน

ธอส.ยันตรึงดอกเบี้ยถึงสิ้นปี แม้ธปท.-แบงก์พาณิชย์ทยอยปรับขึ้น หวัง

ช่วยลดภาระลูกค้า ด้านดอกเบี้ยฝากเตรียมปรับขึ้นตามแบงก์อื่น หวั่นเงินไหล

ออก เชื่ออสังหาฯครึ่งปีหลังไปโลด หนุนยอดปล่อยกู้ตามเป้า 90,000 ล้าน

บาท

 

กระแสพัทยาแรงแกรนด์เซลส์ฉลุยคาดจบงาน100ล.

เอกชนท่องเที่ยวเมืองพัทยาปลื้ม กระแสตอบรับสมัคร บัตร พัทยา แก

รนด์ เซลล์ ล้นหลาม 1 เดือน แห่สมัครแล้ว 2 หมื่นราย มั่นใจจบโครงการ มี

ยอดสมาชิก แตะ 8 หมื่นราย เตรียมดันเข้าปฎิทินท่องเที่ยวประจำปี พร้อม

จัดทำฐานข้อมูลนักท่องเที่ยว ที่เข้ามาเที่ยวและใช้จ่ายผ่านบัตรดังกล่าว เพื่อ

นำไปปรับปรุงสินค้าและบริการ ในปีต่อไป ระบุผลจากการจัดโครงการนี้ ได้

เงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท

 

สรุปข่าวหน้าตลาดเงิน หนังสือพิมพ์ ASTVผู้จัดการรายวัน

 

ธปท.วางกรอบบาเซิล3 เตือนแบงก์รับมือเงินกองทุนวูบ

ธปท.เตรียมหาแนวทางเหมาะสมนำ Bassel3 มาปรับใช้กับแบงก์

ไทย คาดได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ ระบุผลกระทบแบงก์ทำธุรกิจยาก มีค่าใช้

จ่ายเพิ่มและเงินกองทุนลด แต่ยังมั่นใจยืนได้ 2 หลักจากปัจจุบันที่อยู่ใน

ระดับ 16% พร้อมนำ IAS19 คาดรับรู้ในงบการเงินไตรมาสแรกของปีหน้า

 

กสิกรฯ เฟ้นผลิตภัณฑ์เด่น รับปลายปีแข่งดุชิงเงินฝาก

แบงก์กสิกรไทยชี้ ธปท. ส่งสัญญาณดอกเบี้ยขาขึ้นส่งผลดีต่อส่วนต่าง

อัตราดอกเบี้ยแบงก์ใหญ่ เหตุปรับดอกกู้มีผลเร็วกว่าฝากประจำ พร้อมเตรียม

ออกผลิตภัณฑ์ใหม่รับปลายปีแบงก์แข่งดุชิงเงินฝาก

 

CIMBT รุกแบงก์แอสชัวรันส์ ขายควบเงินฝากทุ่มดอก 2.5%

ซีไอเอ็มบี ไทยรุกขายประกันผ่านแบงก์เสนอชุดเงินออมสบายใจ

เพียงซื้อประกันชีวิต CIMB Express Savings(12/7) ด้วยวงเงินเอาประกันภัย

ขั้นต่ำเพียง 30,000 บาท รับสิทธิ์เปิดบัญชีเงินฝากประจำ 7 เดือน ในวงเงิน

สูงสุด 5 เท่าของวงเงินเอาประกันภัย พร้อมดอกเบี้ยเงินฝากพิเศษ 2.5%

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นอาหาร เด่นขั้นเทพ *ชู CPF- TUF-TVO แจ่มรับอานิสงส์ศก.ฟื้น-ภัยแล้ง

 

โบรกฯ เทใจหนุนลุยหุ้นอาหาร Q3/53 ตั้งแต่ ก.ค. เป็นต้นไป ชี้ ปลอดภัยสุด คันทรี่ กรุ๊ป

แนะเก็งกำไร ชู CPF- TUF-TVO โดดเด่นรับ ศก.ฟื้น-ภัยแล้งลาม ขณะที่กิมเอ็ง คาด CPF ผล

งานอย่างสวย มองQ2/53 คาดฟันกำไร 4 พันลบ. แถมแนวโน้มครึ่งหลังของปีทิศทางอย่างแจ่ม

ส่วนTUF ทั้งปีคาดกวาดกำไร 3.6 พันลบ. ฟากแหล่งข่าว TVO เชื่อรายได้ปีนี้ โตเข้าเป้า 14-

15% ดันกำไร โตกว่าปีก่อนแน่ เหตุ Q2/53 ลูกค้าสั่งสินค้าเก็บสต็อกกากถั่วเหลืองเพิ่ม

อาหารถือเป็นสิ่งจำเป็น ที่ไม่สามารถขาดได้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งความต้องการบริโภคมี

แนวโน้มขยายตัวมากขึ้น สวนทางกับปริมาณผลผลิตที่ลดลง เนื่องจาก โลกดูเหมือนกำลังถูกภัย

พิบัติทางธรรมชาติคุกคาม ไม่ว่าจะปัญหาแผ่นดินไหว ภัยแล้ง ตลอดจนภัยพิบัติอื่นๆ ซึ่งกระทบ

ต่อพื้นที่การผลิต อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดังกล่าวถือว่าส่งผลดีต่อราคาสินค้าอาหาร และหุ้นใน

กลุ่มอาหาร อย่างช่วยไม่ได้

 

* กูรู แนะลุยหุ้นอาหาร Q3/53 ตั้งแต่ ก.ค. เป็นต้นไป เหตุปลอดภัยสุด

นางสาววชิราลักษณ์ แสงเลิศศิลปชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า แนะ

นำการลงทุนในช่วงไตรมาส 3 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นไป แนะนำให้ลงทุนใน

หุ้นที่มีความปลอดภัย ประกอบกับในช่วงนี้จะมีการประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล โดยให้

พิจารณาราคาของหุ้น สำหรับหุ้นที่แนะนำประกอบไปด้วยหุ้นกลุ่มอาหาร ได้แก่ TVO -CPF

ทั้งนี้ แนวโน้มของราคาน้ำมันในตลาดโลก คาดว่าในช่วงครึ่งหลังของปีมีโอกาสที่จะอ่อน

ตัวลงจากราคาปัจจุบันที่ 72 เหรียญต่อบาร์เรล โดยทั้งปีคาดการณ์ว่าราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ

77 เหรียญต่อบาร์เรล โดยในช่วงครึ่งปีแรกราคาเฉลี่ยก็อยู่ในช่วงดังกล่าว

อีกทั้งคาดว่าราคาน่าจะมีการเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบระหว่าง 70-80 เหรียญต่อบาร์เรล ซึ่ง

เป็นระดับราคาที่ไม่ส่งผลดีต่อราคาหุ้นและสนับสนุนต่อกำไรของบริษัทในหุ้นกลุ่ม

พลังงาน

 

* ฟากคันทรี่ กรุ๊ป ชี้ หมวดเกษตรและอาหาร น้ำหนักการลงทุนเท่าตลาด ชู CPF- TUF-TVO

โดดเด่น รับ ศก.ฟื้น -ภัยแล้ง แนะเก็งกำไร

 

บทวิเคราะห์ บล.คันทรี่ กรุ๊ป ระบุว่า ราคาสินค้าเกษตรในเดือน มิ.ย. ยังคงอยู่ในระดับสูงได้

อย่างต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุสำคัญมาจากสภาวะอากาศที่ค่อนข้างร้อน รวมถึงปัญหาภัยแล้งที่เกิด

ขึ้นในประเทศ ทำให้ผลผลิตที่ออกสู่ตลาดมีปริมาณที่ลดลง ขณะที่ในแง่ความต้องการบริโภคมี

การปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากโรงเรียนกลับมาเปิดภาคเรียนตามปกติ รวมถึงภาคการส่งออกเนื้อไก่

ที่ในช่วง 5M53 มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 4 %YoY โดย ราคาเนื้อไก่ อยู่ที่ระดับ 42 บาท/กก. ส่วนราคา

ไข่ไก่ อยู่ที่ระดับ 2.7 บาท/ฟอง และ ราคาเนื้อหมู อยู่ที่ระดับ 62 บาท/กก.

สำหรับราคาต้นทุนการเลี้ยงสัตว์ในเดือน มิ.ย. มีการปรับตัวเพิ่มในส่วนของ ราคาข้าวโพด

มาอยู่ที่ระดับ 9.6บาท/กก. ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ต้นปี (เดือน ม.ค. อยู่

ที่ 8.1 บาท/กก.) เราคาดว่าเกิดจากปัญหาภัยแล้งที่ทำให้ผลผลิตออกมาน้อย รวมถึงเป็นช่วง

ปลายฤดูกาลเก็บเกี่ยวที่ทำให้ผลผลิตในท้องตลาดมีปริมาณที่น้อย ราคากากถั่วเหลือง ลดลงเล็ก

น้อยที่ระดับ 13.5 บาท/กก. สำหรับราคาปลาป่น อยู่ที่ระดับ 28 บาท/กก. ใกล้เคียงกับเดือน พ.ค.

ที่ผ่านมา

ราคาในตลาดโลกในเดือน มิ.ย. เริ่มมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 16-17

Cents/Pound หลังจากราคาน้ำตาลลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 14 Cents/Pound ในช่วงกลาง

เดือน พ.ค. โดยมีปัจจัยบวกมาจากความต้องการใช้น้ำตาลที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่ อเนื่อง ขณะที่

แนวโน้มผลผลิตคาดว่าประเทศอินเดียจะมีผลผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ด้านบราซิลอาจมีปัญหาบ้าง

เนื่องจากปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้น (แต่เป็นช่วงท้ายของการเพาะปลูกจึงคาดว่าได้รับผลกระทบไม่

มากนัก) อย่างไรก็ตามผลผลิตที่คาดว่าจะมีส่วนเกินในฤดูกาลผลิตหน้า (53/54) จะต้องไปเติม

ระดับสินค้าคงเหลือต่อการใช้ (Stock-to-Use Ratio) เสียก่อนหลังจากก่อนหน้านี้มีระดับที่ต่ำ

สุดในรอบ 20 ปี ทำให้เรามองว่าแนวโน้มราคาน้ำตาลทรายน่าจะยังทรงตัวได้ในระดับ 15-17

Cents/Pounds ต่อไป

เรายังคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มเกษตรและอาหารไว้ที่ “เท่าตลาด” เช่นเดิม แม้ว่าราคา

หุ้นจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมาค่อนข้างมากแล้ว แต่เนื่องจากกลุ่มเกษตรและอาหารเป็นธุรกิจที่ไม่

ได้รับผลกระทบจากปัญหาทางการเมืองที่เกิดขึ้นมากนัก อีกทั้งปัญหาภัยแล้งจะเป็นปัจจัยบวกที่

ทำให้ราคาสินค้าเกษตรยังคงอยู่ในระดับสูงได้ต่อไป รวมทั้งแนวโน้มเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น

จะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาสินค้าเกษตรในตลาดโลกอยู่ในระดับที่ดีได้ต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ผล

ประกอบการในช่วงที่เหลือของปี มีโอกาสที่จะออกมาสูงกว่าที่เราเคยประเมินไว้ อย่างเช่น CPF

ที่คาดว่าในงวด 2Q53 มีโอกาสที่จะมีกำไรสุทธิสูงถึงระดับ 4,000 ล้านบาท หรือ TVO ที่ในช่วง

2H53 จะเริ่มเดินเครื่องกำลังการผลิตในโรงงานใหม่และจะทำให้ผลประกอบการเติบโตอย่าง

มากเมื่อเทียบกับช่วง 1H53 นอกจากนี้หุ้นในกลุ่มเกษตรบางตัวมีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล

ดังนั้นเราจึงยังคงคำแนะนำ “เก็งกำไร” ในหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการจะออกมาดีทั้ง CPF,

TUF และ TVO

 

* กิมเอ็ง เล็งปรับเพิ่มราคาเหมาะสม CPF-TUF หลังมองแนวโน้มครึ่งปีหลัง แจ่ม

 

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า คาดการณ์ว่าแนวโน้มกำไรของ

CPF ในไตรมาส 2/2553 น่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาสก่อน โดยคาด

กำไรอยู่ที่ ประมาณ 4 พันล้านบาทเนื่องจากเป็นช่วง high season ของธุรกิจ ซึ่งบริษัทฯมีการ

เติบโตในทุกธุรกิจ ทั้งธุรกิจสัตว์น้ำและธุรกิจส่งออก ขณะที่ราคาเนื้อสัตว์ในประเทศดี ซึ่งบริษัทฯ

มีสต็อกสินค้าต้นทุนวัตถุดิบราคาต่ำ ทำให้ได้รับผลดี นอกจากนี้ คาดการณ์ว่าผลประกอบการใน

ไตรมาส 3/2553 น่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพราะยังเป็นช่วง High season ของธุรกิจ

ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยอยู่ระหว่างพิจารณาปรับเพิ่มราคาเหมาะสม จากเดิมอยู่ที่ 21 บาท สำหรับคำ

แนะนำ แนะ ถือ เนื่องจากราคาหุ้น CPF ปรับตัวเพิ่มขึ้นค่อนข้างแรงพทสมควรแล้ว

ส่วนแนวโน้มผลประกอบการของ TUF ในไตรมาส 2/2553 อาจจะใกล้คียงกับไตรมาสก่อน

เนื่องจากมีแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่า โดย TUF ส่งออกค่อนข้างมาก ขณะที่ต้นทุนปลาทู

น่าก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่าแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะมีทิศ

ทางที่ดีขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวขึ้น ทั้งนี้ ประเมินกำไรในปี 2553 ของ TUF ไว้ที่

3,620 ล้านบาท ส่วนรายได้คาดอยู่ที่ 73,700 ล้านบาท กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ ถือ ทั้งนี้ฝ่าย

วิจัยอยู่ระหว่างปรับประมาณการราคาเหมาะสมเพิ่มขึ้น จากเดิมที่ 41 บาท เนื่องจากมองแนว

โน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตที่ดี

 

* TVO เชื่อรายได้ปีนี้ โตเข้าเป้า 14-15% ดันกำไร โตกว่าปีก่อนแน่ เหตุ Q2/53 ลูกค้าสั่งสินค้า

เก็บสต็อกกากถั่วเหลืองเพิ่ม หลังหวั่นราคาครึ่งปีหลังพุ่ง

 

แหล่งข่าวจากบริษัท น้ำมันพืชไทย จำกัด (มหาชน) หรือ TVO กล่าวกับ

eFinanceThai.com ว่า มีความเป็นไปได้ที่รายได้ในปีนี้จะเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 14-

15% ขณะเดียวกันจะส่งผลให้กำไรในปีนี้เติบโตสูงกว่าปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ ได้คาดการณ์ยอด

ขายกากถั่วเหลืองในปีนี้เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 15% ซึ่งที่ผ่านมามีปริมาณการขายกากถั่วเหลืองที่ดี

ขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/53 เนื่องจากในไตรมาส 1/53 ลูกค้ามองแนวโน้มราคากากถั่ว

เหลืองเป็นช่วงขาลงจึงพยายามใช้สต็อกเดิมโดยไม่มีการสั่งซื้อ จากนั้นในช่วง Q2 เมื่อสต็อก

สินค้าเดิมหมดจึงมีคำสั่งซื้อกลับมาเพิ่มขึ้น

ขณะเดียวกันในช่วงครึ่งปีหลัง 2553 มีแนวโน้มราคากากถั่วเหลืองจะสูงขึ้นจากปัจจุบัน

ราคา spot ในตลาดชิคคาโกอยู่ที่ 10.20 เหรียญสหรัฐ ซึ่งมีโอกาสขยับไปได้ถึง 10.50-10.60

เหรียญสหรัฐ ตามสภาพอากาศในสหรัฐฯ ขณะที่ราคา Down Side จะอยู่ที่ประมาณ 9.50

เหรียญสหรัฐ ซึ่งราคาขาลงดังกล่าวยังไม่เกิดขึ้นในระยะนี้ ประกอบกับบริษัทฯ ยังสามารถบริหาร

จัดการราคาการซื้อขายได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงประเมินได้ว่าปริมาณการซื้อขายที่มากขึ้นจะช่วย

ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ เพิ่มมากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้เพิ่มกำลังการผลิตในปีนี้ให้มากขึ้นเป็น 5,000 ตันต่อวัน จากปัจจุบันอยู่ที่

4,000 ตันต่อวัน แม้ว่าการเดินเครื่องเต็มกำลังจะอยู่ที่ 6,000 ตันต่อวัน

 

* SCRI แนะ“ซื้อเมื่ออ่อนตัว” สำหรับ TVO

 

บทวิเคราะห์ สถาบันวิจัยนครหลวงไทย หรือ SCRI ระบุว่า ถั่วเหลือง : ในรายงานประจำ

เดือนก.ค. 2553 กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) ปรับประมาณการผลผลิตถั่วเหลืองของโลก

ขึ้นจากประมาณการเดิม 1.35 ล้านตันเป็น 251.3 ล้านตัน ซึ่งเป็นการประมาณการว่าผลผลิตถั่ว

เหลืองของโลกปี 2553/54 จะลดลง 3.24% yoy โดยเป็นการปรับประมาณการผลผลิตถั่วเหลือง

ของสหรัฐฯขึ้นจากประมาณการเดิมในเดือนมิ.ย. 2553 ราว 0.95 ล้านตัน เป็น 91.03 ล้านตัน

(ลดลง 0.4% yoy) อย่างไรก็ตามแม้ว่า USDA จะคาดการณ์ผลผลิตถั่วเหลืองของโลกในปี

2553/54 เพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิมก็ตาม แต่ USDA ได้ทำการทบทวนประมาณการความ

ต้องการบริโภคถั่วเหลืองของโลกปี 2553/54 เพิ่มขึ้นประมาณ 1 ล้านตัน เป็น 216.3 ล้านตัน

หรือเพิ่มขึ้น 5.2% yoy เนื่องจาก USDA ประมาณการความต้องการบริโภคถั่วเหลืองของ

ประเทศจีนเพิ่มขึ้น และคาดว่าประเทศจีนจะมีปริมาณความต้องการนำเข้าเพิ่มขึ้นจากประมาณ

การเดิมประมาณ 1 ล้านตัน เป็น 50 ล้านตันในปี 2553/54 หรือเพิ่มขึ้น 4.2% yoy แม้ว่าความ

ต้องการบริโภคถั่วเหลืองของจีนในปีนี้จะเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่เนื่องจากผลผลิตปรับสูงขึ้นเช่นกัน

ขณะที่มีปริมาณสำรองยกมาจากปีก่อนในปริมาณที่มาก ทำให้ปริมาณสำรองถั่วเหลืองปลายปี

2553/54 ของโลกจะยังคงอยู่ในระดับที่สูงคือประมาณ 67.7 หรือเพิ่มขึ้น 3.4% yoy

ปาล์มน้ำมัน : USDA ทำการทบทวนประมาณการปริมาณสำรองน้ำมันปาล์มของโลกลง

จากประมาณการเดิมประมาณ 11.9% เป็น 5.53 ล้านตัน (เพิ่มขึ้น 19.8% yoy) โดย USDA

ยังคงประมาณการผลผลิตน้ำมันปาล์มของโลกไว้ที่ระดับ 49.3 ล้านตัน (เพิ่มขึ้น 7.8% yoy) แต่

ได้ทำการปรับประมาณการความต้องการบริโภคน้ำมันปาล์มของโลกขึ้นจากเดิม 0.36% เป็น

48.03 ล้านตัน หรือเพิ่มขึ้น 5.6% yoy โดย USDA คาดการณ์ว่าปริมาณความต้องการบริโภค

นั้นปาล์มของไทยจะเพิ่มขึ้นจากประมาณการเดิม 20.9% เป็น 1.39 ล้านตัน

ข้าว : USDA ยังคงประมาณการอุปสงค์ – อุปทานข้าวของโลกไว้ในระดับเดียวกันกับประมาณ

การเมื่อเดือนมิ.ย. 2553 โดย USDA คาดปริมาณผลผลิตข้าวของโลกปี 2553/54 จะเท่ากับ

459.3 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 4.24% yoy และคาดปริมาณความต้องการบริโภคข้าวของโลกปี

2553/54 จะอยู่ที่ 452.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 2.3% yoy และคาดปริมาณสำรองข้าวของโลกปี

2553/54 จะอยู่ที่ระดับ 96.6 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 8% yoy

SCRI ประเมินแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรโดยรวมจะยังคงทรงตัวเนื่องจากปริมาณสำรอง

ปลายปี 2553/54 ที่เพิ่มขึ้น yoy จะเป็นปัจจัยกดดันราคาสินค้าเกษตรโดยรวม อย่างไรก็ตาม

SCRI ประเมินว่าจากรายงานล่าสุดของ USDA ในระยะสั้นปาล์มน้ำมันจะเป็นสินค้าเกษตรที่มี

แนวโน้มราคาปรับสูงขึ้น เนื่องจาก USDA ได้ทำการทบทวนประมาณการปริมาณสำรองลง ขณะ

ที่ราคาถั่วเหลืองในตลาดโลกมีโอกาสที่จะถูกกดดันจากการคาดการณ์ปริมาณผลผลิตที่เพิ่มขึ้น

ของสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม SCRI ยังคงมีมุมมองเดิมต่อแนวโน้มราคาสินค้าเกษตรจากผลกระทบของ

ภาวะ EL Nino ที่ได้ยุติลงแล้ว (จากรายงานของ Bureau of Meteorology หรือ BOM

ของออสเตรเลีย) และมีโอกาสที่จะเกิดภาวะ La Nina ตามมา โดยมีความน่าจะเป็นประมาณ

40% ซึ่งในกรณีที่เกิดภาวะ La Nina คาดว่าปริมาณน้ำฝนในทวีปสหรัฐฯจะลดต่ำลง ขณะที่

ปริมาณน้ำฝนในเอเชียจะปรับสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ผลผลิตถั่วเหลืองในสหรัฐฯและอเมริกาใต้ได้รับ

ผลกระทบ ขณะที่สินค้าเกษตรที่เพาะปลูกมากในเอเชีย เช่น อ้อย ยางพารา ปาล์มน้ำมัน และ

ข้าว จะได้รับปัจจัยบวกจากปริมาณฝนที่เพิ่มขึ้น ทำให้ถั่วเหลืองเป็นสินค้าเกษตรที่มีโอกาสปรับ

สูงขึ้นในระยะกลาง (ปลายปี 2553 – ต้นปี 2554) ขณะที่สินค้าเกษตรชนิดอื่นๆที่กล่าวมามี

โอกาสที่อ่อนตัวลงในช่วงปลายปี 2553 – ต้นปี 2554

คำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐาน: SCRI แนะนำเพียง “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” สำหรับ TVO โดยคาด

ว่าราคาถั่วเหลืองในตลาดโลกมีแนวโน้มอ่อนตัวลง หลัง USDA รายงานประมาณ

การผลผลิตถั่วเหลืองของสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อจิตวิทยาการลงทุน อย่างไรก็ตาม

SCRI ประเมินว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของ TVO จะเติบโตโดดเด่นใน 2H/53 จากการ

เริ่มเดินเครื่องจักรผลิตกากถั่วเหลืองใหม่ ทั้งนี้ SCRI ยังคงราคาเหมาะสมของ TVO ไว้ที่

21.00 บาท

 

* เอเซียพลัส แนะถือ TUF ปรับเพิ่ม Fair value ปีนี้ เป็น 49.08 บาท แม้แนวโน้มกำไร 2Q53

ยังสดใส แต่ Margin จะเริ่มได้รับแรงกดดันมากขึ้น

 

บทวิเคราะห์ บล.เอเซียพลัส ระบุว่า กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของ TUF ในฐานะที่เป็นผู้

ประกอบการปลาทูน่ากระป๋องรายใหญ่สุดของประเทศ ที่ยังคงเน้นการเติบโตด้วยการกระจายฐาน

รายได้ไปสู่ธุรกิจขั้นปลายน้ำที่เกี่ยวเนื่อง อาทิ ปลาซาร์ดีนกระป๋อง อาหารทะเลกระป๋อง ปลาหมึก

แช่แข็ง อาหารขบเคี้ยว และอาหารแมว ซึ่งเป็นสินค้าที่มี margin สูงนั้น จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่ม

ให้กับธุรกิจได้อย่างมีนัยฯในระยะยาว ทั้งนี้นอกเหนือจากการผลักดันการเติบโตของธุรกิจ

ปัจจุบัน TUF ยังแสวงหาการเติบโตจากภายนอก (Inorganic growth) อย่างต่อเนื่อง โดยใน

ช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มีการเข้าซื้อกิจการและธุรกิจร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมที่เกี่ยว

เนื่องโดยเฉพาะในต่างประเทศ (การเข้าซื้อกิจการ Chicken of the Sea และ Empress ใน

ปี 2540 และ 2546 ตามลำดับ) ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก และสามารถพิสูจน์ได้ถึงวิสัย

ทัศน์ของผู้บริหารได้เป็นอย่างดี โดยล่าสุด บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเข้าประมูลกิจการของ บ.MW

Brands ซึ่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายปลาทูน่ากระป๋อง ปลาซาร์ดีนและแมคคอเรลกระป๋อง

ภายใต้ตราสินค้า John West, Petit Navire, Hyacinthe Parmentier และ Mareblu โดยที่

คาดกระบวนการประมูลจะแล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนมิ.ย. 53 นี้ แม้จะยังไม่มีความชัดเจนในราย

ละเอียดเกี่ยวกับการเข้าประมูลดังกล่าว แต่หาก TUF เป็นผู้ชนะประมูลในราคาที่สมเหตุผล ก็จะ

ยิ่งช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจของ TUF มากยิ่งขึ้น เพราะจะเป็นฐานในการ

บุกเบิกตลาดส่งออกเข้าไปในสหภาพยุโรปมากขึ้น (TUF มีสัดส่วนการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ

ถึง 49% ของรายได้รวม ขณะที่สหภาพยุโรปมีสัดส่วนเพียง 13%) โดย MW Brands มีตลาดส่ง

ออกหลักในแถบประเทศ

อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี ไอร์แลนด์ และ เนเธอร์แลนด์

ฝ่ายวิจัยคาดแนวโน้มกำไรสุทธิ 2Q53 เบื้องต้นไม่ต่ำกว่าระดับ 900 ล้านบาท หรือเพิ่ม

ขึ้นราว 8% qoq (ฝ่ายวิจัยมีกำหนดจะเข้าพบผู้บริหารเพื่อจัดทำบทวิเคราะห์คาดการณ์ผลการ

ดำเนินงาน 2Q53 ในรายละเอียดอีกครั้ง) โดยมีปัจจัยผลักดันหลักจากปริมาณขายที่ปรับตัวสูง

ขึ้น เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วง High season ของการส่งออก โดยที่บริษัทฯ จะยังไม่ได้รับผล

กระทบจากต้นทุนปลาทูน่าที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงที่ผ่านมา เพราะยังมีสต็อคต้นทุนต่ำ

บางส่วนที่ยกมาตั้งแต่ 1Q53 อีกทั้งยังมีปัจจัยบวกจากธุรกิจกุ้ง (สัดส่วน 20% ของรายได้รวม)

จากผลกระทบเรื่องน้ำมันรั่วไหลบริเวณอ่าวเม็กซิโกซึ่งเป็นแหล่งจับสัตว์น้ำทะเลของโลก ทำให้

Supply กุ้งทั่วโลกเริ่มขาดแคลน (ตลาดส่งออกกุ้งของ TUF ไปยังสหรัฐฯ มีสัดส่วนถึง 76%

ของปริมาณการส่งออกกุ้งทั้งหมด) อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวโน้ม 3Q53 คาดว่า TUF จะได้รับ

แรงกดดันจาก Gross margin ที่หดตัวลงมากขึ้น จากการปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยฯ ของราคาต้น

ทุนวัตถุดิบปลาทูน่าดังกล่าว แม้ว่าผู้ประกอบการจะสามารถกำหนดราคาสินค้าในลักษณะ Cost

Plus เพื่อผลักภาระไปให้แก่ผู้ซื้อ แต่จากการศึกษาของฝ่ายวิจัยพบว่าต้นทุนปลาทูน่าที่ปรับตัวสูง

ขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ของทุกปีนั้น จะส่งผลกดดันต่อ Gross Margin ของผู้ประกอบการในไตร

มาสที่ 3 เนื่องจากมีความล่าช้าในการปรับเพิ่มราคาขายของผู้ประกอบการประมาณ 1-2 เดือน

จึงคาดว่า Gross Margin ใน 3Q53 ของ TUF น่าจะกลับหดตัวลงอีกครั้งหลังจากที่คาดว่าจะ

ฟื้นตัวกลับขึ้นไปที่ระดับเฉลี่ยราว 15% ใน 2Q53

ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการฯปี 2553-54 ของ TUF แต่ได้ปรับเพิ่ม Fair value ปี 2553

ขึ้นเป็น 49.08 บาท โดยอิง PER 12 เท่า เท่ากับค่าเฉลี่ยของหุ้นชั้นนำในกลุ่มอาหารคือ

CPF (เดิมอิง PER 10 เท่า คือ 40.90 บาท) ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำให้ถือเพื่อรับเงินปัน

ผลในระดับเฉลี่ยราว 4-5% p.a. (จ่ายปีละ 2 ครั้ง) เนื่องจากราคาหุ้นปัจจุบันได้สะท้อนมูลค่าพื้น

ฐานใหม่ไปมากแล้ว โดยเหลือ upside ราว 12%

 

* พัฒนสิน ชี้ น้ำตาลไม่หวาน คาดว่าแนวโน้มการฟื้นตัวช่วงครึ่งหลังปีนี้ของ KSL ช้ากว่าคาด

แนะนำ Neutral ราคาเป้าหมาย 12.80 บาท

 

บทวิเคราะห์ บล.พัฒนสิน ระบุว่า KSL แนะนำ Neutral ราคาเป้าหมาย 12.80 บาท (St-

ขายเมื่อมีข่าวบวก จากแนวโน้ม การฟื้นตัวของกำไรอาจช้ากว่าคาด) การประชุมน้ำตาลระหว่าง

ประเทศที่บาหลี เป็นปัจจัยบวกระยะสั้นต่อราคาน้ำตาลข่าวการขาดแคลนน้ำตาลของไทยและ

อินเดีย น่าจะเป็นทางจิตวิทยาให้ราคาน้ำตาลล่วงหน้าและราคาหุ้น KSL ปรับตัวเพิ่มขึ้น อย่างไรก็

ตามราคาหุ้นปัจจุบันที่มี upside เพียง 9% จากราคาเป้าหมาย (ปี FY11F ตามวิธี DCF ด้วย

WACC 9.1%, LTG 1.2%) เทียบกับการลงทุน 12 เดือนล่วงหน้า ทำให้ KSL มีความน่าสนใจ

น้อยลง ประกอบกับเราได้รับข้อมูลเพิ่มเติมและคาดว่าแนวโน้มการฟื้นตัวของผลประกอบการใน

2HFY10F อาจช้ากว่าที่เราคาด ขณะที่การคาดการณ์ผลผลิตน้ำตาลของ KSL และทั้ง

อุตสาหกรรมในปี FY11F มีแนวโน้มต้องปรับประมาณการลงตามข่าว ซึ่งอาจทำให้เราต้องปรับ

ประมาณการผลผลิตน้ำตาลและกำไรสุทธิปี FY11F ของ KSL ลงจากเดิม

ราคาน้ำตาลล่วงหน้าเริ่มมีเสถียรภาพแต่ราคาเงินสด (Cash price) ปรับตัวขึ้นสูง ใน

ตลาดล่วงหน้าราคาน้ำตาลทรายดิบส่งมอบเดือนกันยายน-10 อยู่ที่ 16.97 เซ็นต์/ปอนด์ เพิ่มขึ้น

จากสัปดาห์ที่แล้วที่ 16.80 เซ็นต์/ปอนด์แต่ยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าราคาเงินสด (ราคาที่ซื้อแล้วรับ

ของทันที) ที่อยู่ที่ 20-23 เซ็นต์/ปอนด์ ขณะที่ในตลาดล่วงหน้าราคาน้ำตาลทรายขาวส่งมอบเดือน

กันยายน-10 อยู่ที่ US$520/ตัน เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ที่แล้วที่ US$514/ตัน แต่ยังเป็นระดับที่ต่ำ

กว่าราคาเงินสด (ราคาที่ซื้อแล้วรับของทันที) ที่อยู่ที่ US$600//ตัน เพราะราคาเงินสดเป็นการ

ซื้อน้ำตาลในฤดูกาลนี้ซึ่งปัจจุบันไม่ค่อยมีใครมีน้ำตาลในสต๊อก และราคาล่วงหน้าก็เป็นน้ำตาลใน

เดือนแรกของฤดูกาลหน้าซึ่งยังมีคาดว่าจะมีสินค้าออกมามากให้เลือกซื้อ

ไทยไม่ได้นำเข้าแต่ซื้อออร์เดอร์ส่งออกคืนจากดีลเลอร์เพื่อรองรับการใช้ในประเทศช่วง

ก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ เดิมทีคณะกรรม การอ้อยและน้ำตาล (สอน) ตั้งโควต้า ก. ซึ่งเป็นน้ำตาลเพื่อ

บริโภคในประเทศปี 2009/10 ที่ 2.1ล้านตัน แต่ทีหลังทราบว่าไม่เพียงพอต่อการบริโภคจึงเพิ่ม

ปริมาณโควต้าเป็น 2.2 ล้านตัน ขณะที่โรงงานน้ำตาลส่วนใหญ่ตกลงขายน้ำตาลในสต็อกให้กับดี

ลเลอร์ส่งออกไปแล้ว ดังนั้นสอน.จึงต้องไปหาซื้อคืนมาจากดีลเลอร์ในราคาส่งออก และเราไม่

แปลกใจที่ราคาซื้อคืนสูงถึง US$ 705-720/ตัน เพราะเป็นราคาเงินสดบวก Thai premium

(ส่วนต่างที่ผู้นำเข้าส่วนใหญ่ซื้อน้ำตาลไทยแพงกว่าราคาตลาดโลกเนื่องจากเป็นผู้ส่งออกน้ำตาล

ทรายขาวรายเดียวในเอเชีย)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาพันธบัตรปิดบวกรับข้อมูลศก.อ่อนแอ -- ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ ขณะที่

ข้อมูลการลดลงของอัตราเงินเฟ้อและความเชื่อมั่นผู้บริโภคได้ส่งเสริมความน่าสนใจของพันธบัตรรัฐบาล ใน

ฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย ทั้งนี้ ราคาพันธบัตรอายุ 10 ปีปิดเพิ่มขึ้น 16/32 มาที่ 104-25/32 โดยมีผล

ตอบแทน 2.936% ส่วนราคาพันธบัตรอายุ 30 ปีปิดเพิ่มขึ้น 22/32 มาที่ 107-13/32 โดยมีผลตอบแทน

3.950%

 

ยูโรอ่อนค่าหลังทำนิวไฮ 2 เดือนทะลุ 1.3000 ดอลล์ -- ยูโรอ่อนค่าลงหลังแตะระดับสูงสุดใน

รอบ 2 เดือนเทียบดอลลาร์ในวันศุกร์ ขณะที่นักลงทุนมองว่า การแข็งค่าของยูโรที่ได้รับแรงหนุนจากอัตรา

ดอกเบี้ยในตลาดเงินยุโรปนั้น เป็นการปรับตัวที่มากเกินไป ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 86.590 เยน เทียบกับระดับ

ปิดตลาดวันพฤหัสบดีที่ 87.450 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.2933 ดอลลาร์ และ 112.01 เยน เทียบกับระดับปิด

ตลาดวันพฤหัสบดีที่ 1.2938 ดอลลาร์และ 113.14 เยน

 

หุ้นอ่อนแอกดน้ำมันดิบปิดร่วง 61 เซนต์ -- ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า nymex ปิดร่วงลงเป็น

วันที่ 3 ในวันศุกร์ และปิดตลาดขยับลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่ตลาดหุ้นดิ่งลงตามความเชื่อมั่นของ

ผู้บริโภค และทำให้นักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจอาจชะลอการฟื้นตัว ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง

61 เซนต์ หรือ 0.8 % มาปิดตลาด ที่ 76.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ทองปิดปรับลงเกือบ 2% หลังกองทุนส่งคำสั่งขาย -- ราคาทองที่ตลาดสหรัฐปิดปรับลงเกือบ 2%

ในวันศุกร์ ในขณะที่ข้อมูลเงินเฟ้อที่อ่อนแอ และการเทขายในตลาดหุ้น กระตุ้นการส่งคำสั่งขายของกองทุน

ทั้งนี้ ราคาทองส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาด comex ปิดร่วงลง 20.10 ดอลลาร์ ที่ 1,188.20 ดอลลาร์/ออนซ์

และราคาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ปิดร่วงลง 57.40 เซนต์ ที่ 17.788 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนที่ตลาด nymex

ราคาพลาตินั่มส่งมอบเดือนต.ค.ปิดร่วงลง 21.60 ดอลลาร์ ที่ 1,512.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียม

ส่งมอบเดือนก.ย.ปิดร่วงลง 18.60 ดอลลาร์ ที่ 448.60 ดอลลาร์/ออนซ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณต่วนคะดิฉันกำลังหัดลงทุนหุ้น และได้ติดตามอ่านผลงานของคุณ อยากจะลงทุนแบบ VI เช่นเดียวกับคุณ แต่ไม่รู้ว่าหุ้นตัวไหนจัดอยู่ในประตูกองหน้า กลาง หลัง อยากให้คุณต่วนช่วยแนะนำหุ้นแบ่งเป็นประเภทดังกล่าวให้ด้วย ดิฉันจะได้ติดตามดูหุ้นเหล่านี้ และถ้าจะซื้อตอนนี้เลย ได้รึเปล่า หรือรอให้ set ปรับลงเยอะๆก่อนแล้วค่อยเข้า ตัว maco ตัวสุดท้ายนี่เข้าได้เลยไหม kye ด้วย ขอบพระคุณมากค่ะ

 

MACO เป็นหุ้นที่ถูกกระทบจากเหตุวุ่ยวายทางการเมืองครับ ซึ่งหุ้นส่วนมากก็กระทบอยู่ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะ MACO มีโฆษณาที่อยู่ในห้าง CTW ด้วยรายได้ตรงนี้จะสูญเสียไปบ้าง มองข้อดีแล้วต้ิองมองข้อเสียด้วย ส่วนข้อดีก็มีจุดเด่นของเค้าอยู่ที่ ตำแหน่งโฆษณาที่ได้เปรียบ สามารถแข่งขันได้ในธุรกิจโฆษณาแบบป้ายน่าจะอยู่ในอันดับต้นๆของประเทศ แต่ยังไงก็ดี การโฆษณาแบบป้ายมีเม็ดเงินที่น้อยกว่าแบบทางทีวีอยู่มากพอควร เป็นหุ้นที่น่าสนใจในระดับนึง หวังว่าโฆษณาในส่วน CTW จะคิดเป็น % รายได้ไม่มาก ซึ่งเราคงต้องดูกันว่ากระทบมากน้อยแค่ไหน งบ Q2 จะบอกเราเอง

 

KYE อยู่ในธุรกิจที่กำลัง Boom ตอนนี้เลยครับ ทั้งตู้เย็น แอร์ ตัวนี้อะไรก็ดีอยู่หรอก ก็มีข้อเสียตรง ธรรมาภิบาลของผู้บริหาร ให้ความสำคัญกับองค์การในภาพรวมมากกว่าผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ในอดีตเคยเอาเงินของ KYE ออกไปให้บริษัทในเครือกู้ในอัตราที่ต่ำมาก หรือ ขายสินค้าที่ผลิตได้ให้ มิซซู ญี่ปุ่นในราคาที่ไม่สมเหตุสมผลกับต้นทุน

 

หุ้นก็เหมือนคนนะละครับ มีทั้งดีและไม่ดีในตัวคนคนเดียวกัน จะซื้อหุ้นก็เหมือนเราจะแต่งงานกับใครซักคน ถ้าเราชอบข้อดีเค้ามากกว่าข้อเสีย รับข้อเสียเค้าได้ก็OK แต่งได้ จะหาคนดีๆแบบ 100% สมัยนี้ก็แต่งงานมีเจ้าของกันไปหมด (หมายถึงหุ้นแพงแล้ว) ก่อนซื้อศึกษากันดีๆก่อน ดีกว่าไปรู้็ข้อเสียภายหลังแล้วรับไม่ได้ ต้องหย่า (ขายหุ้น เป็นภาระทางการเงินของเราอีก)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

MACO เป็นหุ้นที่ถูกกระทบจากเหตุวุ่ยวายทางการเมืองครับ ซึ่งหุ้นส่วนมากก็กระทบอยู่ไม่มากก็น้อย โดยเฉพาะ MACO มีโฆษณาที่อยู่ในห้าง CTW ด้วยรายได้ตรงนี้จะสูญเสียไปบ้าง มองข้อดีแล้วต้ิองมองข้อเสียด้วย ส่วนข้อดีก็มีจุดเด่นของเค้าอยู่ที่ ตำแหน่งโฆษณาที่ได้เปรียบ สามารถแข่งขันได้ในธุรกิจโฆษณาแบบป้ายน่าจะอยู่ในอันดับต้นๆของประเทศ แต่ยังไงก็ดี การโฆษณาแบบป้ายมีเม็ดเงินที่น้อยกว่าแบบทางทีวีอยู่มากพอควร เป็นหุ้นที่น่าสนใจในระดับนึง หวังว่าโฆษณาในส่วน CTW จะคิดเป็น % รายได้ไม่มาก ซึ่งเราคงต้องดูกันว่ากระทบมากน้อยแค่ไหน งบ Q2 จะบอกเราเอง

 

KYE อยู่ในธุรกิจที่กำลัง Boom ตอนนี้เลยครับ ทั้งตู้เย็น แอร์ ตัวนี้อะไรก็ดีอยู่หรอก ก็มีข้อเสียตรง ธรรมาภิบาลของผู้บริหาร ให้ความสำคัญกับองค์การในภาพรวมมากกว่าผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ในอดีตเคยเอาเงินของ KYE ออกไปให้บริษัทในเครือกู้ในอัตราที่ต่ำมาก หรือ ขายสินค้าที่ผลิตได้ให้ มิซซู ญี่ปุ่นในราคาที่ไม่สมเหตุสมผลกับต้นทุน

 

หุ้นก็เหมือนคนนะละครับ มีทั้งดีและไม่ดีในตัวคนคนเดียวกัน จะซื้อหุ้นก็เหมือนเราจะแต่งงานกับใครซักคน ถ้าเราชอบข้อดีเค้ามากกว่าข้อเสีย รับข้อเสียเค้าได้ก็OK แต่งได้ จะหาคนดีๆแบบ 100% สมัยนี้ก็แต่งงานมีเจ้าของกันไปหมด (หมายถึงหุ้นแพงแล้ว) ก่อนซื้อศึกษากันดีๆก่อน ดีกว่าไปรู้็ข้อเสียภายหลังแล้วรับไม่ได้ ต้องหย่า (ขายหุ้น เป็นภาระทางการเงินของเราอีก)

!thk พร้อมกดบวกให้ 1 คะแนนค่ะ

ไม่ทราบว่าเอาคะแนนไปทำอะไรได้บ้าง แต่พอทราบว่าในหนึ่งวันเรากดคะแนนได้จำกัด(น่าจะได้ไม่เกิน2ครั้ง)เลยอยากกดให้คุณ Toune เพื่อขอบคุณที่วิเคราะห์หุ้นรายตัวแบบมีหลักการแถมยังเพิ่มความรู้ให้เราได้ศึกษาเลือกดูหุ้นได้เองด้วยค่ะ

จะติดตามเป็นแฟนคลับคุณ TOUNE อีกคนค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

KK

 

ไตรมาสที่ 2 งวด 6 เดือน

ปี 2553 2552 2553 2552

 

กำไร (ขาดทุน) สุทธิ 765,300 607,552 1,583,986 986,395

กำไร (ขาดทุน) สุทธิต่อหุ้น (บาท) 1.44 1.16 2.98 1.89

 

KBANK

 

งบการเงินรวม

ไตรมาสที่ 2 งวด 6 เดือน

ปี 2553 2552 2553 2552

 

กำไรสุทธิ 4,763,418 3,704,536 9,127,330 7,504,296

กำไรสุทธิต่อหุ้น (บาท) 1.99 1.55 3.81 3.14

ถูกแก้ไข โดย TOUNE

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

!thk พร้อมกดบวกให้ 1 คะแนนค่ะ

ไม่ทราบว่าเอาคะแนนไปทำอะไรได้บ้าง แต่พอทราบว่าในหนึ่งวันเรากดคะแนนได้จำกัด(น่าจะได้ไม่เกิน2ครั้ง)เลยอยากกดให้คุณ Toune เพื่อขอบคุณที่วิเคราะห์หุ้นรายตัวแบบมีหลักการแถมยังเพิ่มความรู้ให้เราได้ศึกษาเลือกดูหุ้นได้เองด้วยค่ะ

จะติดตามเป็นแฟนคลับคุณ TOUNE อีกคนค่ะ

 

!32 !32

 

งบการเงินธนาคารของเราออกมา 2 ตัว เกียตินาคิน กับ กสิกรไทย ของเราออกมาดีขึ้นกว่างวดเดียวกันของปีที่แล้ว และ ดีกว่า Q1 ปีนี้ด้วย ทั้งคู่เลยครับ

SET เรายังแข็งได้เพราะเหตุนี้มั้งครับ

 

ธนาคารของเราออกมาดี ผิดกับของอเมริกาซึ่งเป็นสาเหตุให้ของเค้าลงเมื่อวันศุกร์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เช้าวันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 828.95 จุด เพิ่มขึ้น 1.41 จุด หรือ 0.17% มูลค่าการซื้อขาย 15,035.79 ล้านบาท

 

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่

1.CPF ปิดที่ 24.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,784.791 ลบ.

2.TMB ปิดที่ 2.12 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,365.89 ลบ.

3.TPIPL ปิดที่ 14.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.90 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,071.62 ลบ.

4.BJC ปิดที่ 18.40 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 673.33 ลบ.

5.JAS ปิดที่ 0.81 บาท เพิ่มขึ้น 0.07 บาท มูลค่าการซื้อขาย 552.74 ลบ.

 

ส่วน เช้าวันนี้ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 238.35 จุด เพิ่มขึ้น 2.34 จุด หรือ 0.99%

ด้าน SET50 Index ปิดที่ 561.97 จุด เพิ่มขึ้น 0.45 จุด หรือ 0.08%

และ SET100 Index ปิดที่ 1236.09 จุด เพิ่มขึ้น 1.34 จุด หรือ 0.11%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

TPIPL วื่ง

 

TPIPL สูงสุดรอบ 32 เดือน หลังดีเอสไอไม่ฟ้องความผิดไซฟ่อนเงิน

 

กรุงเทพฯ--19 ก.ค.--รอยเตอร์

 

หุ้นบมจ.ทีพีไอ โพลีน(TPIPL) พุ่งกว่า 6% สูงสุดรอบ 32 เดือน หลังกรมสอบสวน

 

คดีพิเศษ(ดีเอสไอ) สั่งไม่ฟ้องคดีในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.

 

2535 กรณีการจ่ายเงินค่าจ้างบริษัททำสื่อโฆษณา 258 ล้านบาท

 

หุ้น TPIPL ปรับขึ้นโดดเด่นตั้งแต่เช้านี้ โดยราคาหุ้นปรับขึ้นแตะ 14.50 บาท

 

สูงสุดนับจากระดับ 14.80 บาท เมื่อ 19 พ.ย.50 ล่าสุดราคาหุ้นปรับขึ้น 0.70 บาท

 

มาที่ 13.80 บาท ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยปรับขึ้น 0.56%

 

วันนี้ ดีเอสไอ สั่งไม่ฟ้อง TPIPL ในความผิดตาม พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาด

 

หลักทรัพย์ พ.ศ.2535 เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอ ต่อกรณีการจ่ายเงินค่าจ้างบริษัท เมส

 

ไซอะ บิซิเนส แอนด์ ครีเอชั่น จำกัด เพื่อจัดทำสื่อโฆษณาและป้ายประชาสัมพันธ์ มูลค่า 258

 

ล้านบาท ซึ่งเมสไซอะฯได้นำเงินดังกล่าวไปจัดทำสื่อโฆษณาให้กับพรรคประชาธิปัตย์

 

"อาจจะมีผลทางจิตวิทยา แต่คดีดังกล่าวก็ไม่ได้เคยนำมาอยู่ในประมาณการ ซึ่ง

 

ไม่ได้มีผลต่อ fundamental"นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์

 

บล.เอเซีย พลัส กล่าว

 

เขา แนะ"ทยอยขายทำกำไร"สำหรับหุ้น TPIPL หลังราคาหุ้นปรับขึ้นมามาก

 

เกินราคาเหมาะสมที่ระดับ 9.22 บาท ขณะที่มีความเสี่ยงสำคัญจากคดีเงินค่าปรับ 6.9

 

พันล้านบาท --จบ--

 

(โดย วิลาวัลย์ พงษ์พิทักษ์ รายงานและเรียบเรียง--วพ--)

ถูกแก้ไข โดย TOUNE

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 830.40 จุด เพิ่มขึ้น 2.86 จุด หรือ 0.35% ณ เวลา 16.43 น. มีมูลค่าการซื้อขาย 29,940.91 ล้านบาท

 

หลักทรัพย์ที่มีการซื้อขายสูงสุด 5 อันดับได้แก่

1.CPF ปิดที่ 23.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,926.70 ลบ.

2.TMB ปิดที่ 2.04 บาท ลดลง 0.06 บาท มูลค่าการซื้อขาย 2,815.86 ลบ.

3.TPIPL ปิดที่ 14.30 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท มูลค่าการซื้อขาย 1,503.92 ลบ.

4.BJC ปิดที่ 18.60 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท มูลค่าการซื้อขาย 913.51 ลบ.

5.JAS ปิดที่ 0.86 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท มูลค่าการซื้อขาย 883.11 ลบ.

 

 

ส่วน วันนี้ดัชนีตลาด mai ปิดที่ 237.03 จุด เพิ่มขึ้น 1.02 จุด หรือ 0.43% ด้าน SET50 Index ปิดที่ 563.22 จุด เพิ่มขึ้น 1.70 จุด หรือ 0.30% และ SET100 Index ปิดที่ 1238.98 จุด เพิ่มขึ้น 4.23 จุด หรือ 0.34%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประจำวันที่ 19 ก.ค. 2553

 

ทั้งหมด 26 รายการ

 

แกรนด์ คาแนลแลนด์ บมจ.(GLAND) มงคล เปาอินทร์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/07/2553 14/07/2553 10,000 8.20 ซื้อ

ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) บมจ.(DSGT) ประพันธ์ อนุวงศ์นุเคราะห์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/07/2553 14/07/2553 200,000 9.51 ขาย

ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) บมจ.(DSGT) ประพันธ์ อนุวงศ์นุเคราะห์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/07/2553 15/07/2553 22,300 9.65 ขาย

ดีเอสจี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) บมจ.(DSGT) ประพันธ์ อนุวงศ์นุเคราะห์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/07/2553 16/07/2553 50,000 9.85 ขาย

ถิรไทย บมจ.(TRT) ไต้ จงอี้ ผู้จัดทำ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น 19/07/2553 14/07/2553 359,200 2.88 ขาย

ทรีซิกตี้ไฟว์ บมจ.(TSF) นิมิตร หมดราคี ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/07/2553 14/07/2553 10,000,000 0.90 ขาย

ทรีซิกตี้ไฟว์ บมจ.(TSF) นิมิตร หมดราคี ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/07/2553 15/07/2553 20,000,000 0.90 ขาย

ทีพีไอ โพลีน บมจ.(TPIPL) ทยุติ ศรียุกต์สิริ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/07/2553 16/07/2553 2,000,000 12.97 ขาย

ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น บมจ.(TICON) วีรพันธ์ พูลเกษ คู่สมรส หุ้นสามัญ 19/07/2553 14/07/2553 148,600 11.20 ขาย

ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น บมจ.(TICON) วีรพันธ์ พูลเกษ คู่สมรส ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น4 19/07/2553 14/07/2553 147,600 2.98 ซื้อ

ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น บมจ.(TICON) วีรพันธ์ พูลเกษ คู่สมรส ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น4 19/07/2553 15/07/2553 1,000 2.92 ซื้อ

ไทยออพติคอล กรุ๊ป บมจ.(TOG) บัญชา ยงฤทธิกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 16/07/2553 14/07/2553 30,000 4.08 ขาย

ปิโก (ไทยแลนด์) บมจ.(PICO) ศีลชัย เกียรติภาพันธ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 16/07/2553 14/07/2553 70,000 3.07 ขาย

พฤกษา เรียลเอสเตท บมจ.(PS) รัตนา พรมสวัสดิ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/07/2553 16/07/2553 200,000 21.00 ขาย

พฤกษา เรียลเอสเตท บมจ.(PS) รัตนา พรมสวัสดิ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/07/2553 16/07/2553 200,000 20.90 ขาย

พาโตเคมีอุตสาหกรรม บมจ.(PATO) ชาญวุฒิ คุณีย์พันธุ์ คู่สมรส หุ้นสามัญ 19/07/2553 16/07/2553 30,000 10.17 ขาย

แพรนด้า จิวเวลรี่ บมจ.(PRANDA) ปราณี คุณประเสริฐ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/07/2553 16/07/2553 24,500 6.68 ขาย

รถไฟฟ้ากรุงเทพ บมจ.(BMCL) ปลิว ตรีวิศวเวทย์ คู่สมรส หุ้นสามัญ 19/07/2553 15/07/2553 50,100 0.69 ซื้อ

สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) บมจ.(SMT) พิทักษ์ ศิริวันสาณฑ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/07/2553 15/07/2553 200,000 10.10 ขาย

สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) บมจ.(SMT) พิทักษ์ ศิริวันสาณฑ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/07/2553 16/07/2553 150,000 10.77 ขาย

สยามสปอร์ต ซินดิเคท บมจ.(SPORT) ระวิ โหลทอง บุตร หุ้นสามัญ 19/07/2553 14/07/2553 25,000 3.12 ซื้อ

สยามสปอร์ต ซินดิเคท บมจ.(SPORT) วิลักษณ์ โหลทอง ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/07/2553 15/07/2553 25,000 3.16 ซื้อ

สาลี่อุตสาหกรรม บมจ.(SALEE) สาทิส ตัตวธร ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 18/07/2553 15/07/2553 50,000 2.96 ซื้อ

อาร์เอส บมจ.(RS) สุวัฒน์ เชษฐโชติศักดิ์ ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 19/07/2553 15/07/2553 600,000 2.43 ซื้อ

เอสวีไอ บมจ.(SVI) สุวรรณ วลัยเสถียร ผู้จัดทำ ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้น 19/07/2553 16/07/2553 450,000 1.77 ซื้อ

แฮลเซี่ยน เทคโนโลยี่ บมจ.(HTECH) ชัว เช็งควน ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 16/07/2553 15/07/2553 200,000 3.17 ขาย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

!thk พร้อมกดบวกให้ 1 คะแนนค่ะ

ไม่ทราบว่าเอาคะแนนไปทำอะไรได้บ้าง แต่พอทราบว่าในหนึ่งวันเรากดคะแนนได้จำกัด(น่าจะได้ไม่เกิน2ครั้ง)เลยอยากกดให้คุณ Toune เพื่อขอบคุณที่วิเคราะห์หุ้นรายตัวแบบมีหลักการแถมยังเพิ่มความรู้ให้เราได้ศึกษาเลือกดูหุ้นได้เองด้วยค่ะ

จะติดตามเป็นแฟนคลับคุณ TOUNE อีกคนค่ะ

คะแนนทำอะไรไม่ได้หรอกครับ เพียงแต่มันเป็นกุศโลบายอันชาญฉลาดของเฮียกัมหลอกให้คนทำความดี (อิอิ รู้ทัน รู้ว่าเค้าหลอกแต่ก็ยอมครับ อิอิ)

ในสมัยก่อน นโปเลียนก็ใช้กุศโลบายคล้ายกัน แกมักจะแจกเหรียญกล้าหาญแก่เหล่าจอมพลที่ทำความประโยชน์ให้ประเทศชาติ จอมพลบางคนอย่าง เนย์ หรือ มามองค์ ได้กันไปคนละเกินครึ่งร้อย แต่ละเหรียญที่ได้ก็หลายรุ่นไม่ซ้ำแบบทำจากโลหะมีค่าติดโบว์หลากสีสวยๆ มีชื่อเก๋ๆเท่ๆต่างกันไป มีรูปลักษณ์ที่ผิดกันไปบ้าง ติดอยู่บนเครื่องแบบทหาร บางคนที่ได้เยอะก็มีติดกันแบบเต็มพื้นที่หาที่ติดกันไม่ได้ ว่ากันไปแล้วราคาเหรียญก็ไม่ได้เท่าไร (เทียบกับความดีความชอบที่ทำ) แต่ถ้าได้รับแล้วยืดชะมัด

ไม่มีคุณค่าเป็นตัวเงิน แต่มีคุณค่าทางใจครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ

วันนี้ DTAC ผมขึ้นจริงๆด้วยเข้าทันพอดี พอไปลบล้างกับ CK ได้ มีแต่ข่าวดีแต่งบดุลติดลบ ไม่น่าเล่นหุ้นประมูลเลยครับ ถ้ายังลงมากกว่านี้ขายตัดขาดทุน

ดีกว่า คุณ TOUNE ครับ Hemraj กับ ROJNA มีข่าวอะไรมั้ยครับ แรงช่วงปิดตลาดเลย ผมเกือบขายหมูไปแล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...