ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

พ่อบอกมาว่าร้านฮ. เยาวราช คนแน่นมาก ทองแท่งรับของสัปดาห์หน้าครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พ่อบอกมาว่าร้านฮ. เยาวราช คนแน่นมาก ทองแท่งรับของสัปดาห์หน้าครับ

 

ดีจัง ตามอ่านฝรั่งคุยกัน เขาบอกว่าตอนนี้ร้านทองสั่งของจากร้านส่ง ต้องรอ ๔ สัปดาห์ขึ้นไป

หรือว่าทองมันจะไหลมาอยู่ในเอเชียหมดแล้ว ?!?!

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กระทู้สำหรับคนที่ถือสถานะL

http://pantip.com/topic/30371785

 

ตอนแรกว่าจะดักเล่น L สั้นๆ เพราะน่าจะโดน force จนทำให้ราคาต่ำกว่าจริง แต่มันเสี่ยงเกินไป ตลาดเปิดมาก็ราคาเกือบๆ floor แล้ว แถมไม่มี bid รอเลย บวกลบคูณหารแล้วท่าทางไม่คุ้มเลยไม่เอาดีกว่า โอกาสเสียมากกว่าได้ สงสารจัง อีกซักพักก็ไหลต่ออีกหลังจากมีการคำนวนราคา floor ใหม่ rebound ก็ได้แค่เส้น ema 5 หรืออาจรอเส้นวิ่งเข้าหา อย่าเสี่ยงเลยนะ ยากมากๆๆๆ ออกห่างๆ จะดีกว่า :Wt

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุหุ เขาเรียกว่าหมูไม่กลัวน้ำร้อน ....อินเดียกระหน่ำซื้อ :gd

 

ลูกสาวอายุ 6 เดือนก็ซื้อทองไว้รอแล้ว เพราะราคามันเร้าใจ :uu

 

Gold Bears Scarce in India as Rout Lures Buyers to Bazaar

 

“My daughter is just six months old, but I think it is never too early to buy gold,” said Sharmila Shirodkar, a 28- year-old housewife, while displaying a new pair of earrings she bought from a store in Mumbai’s Zaveri Bazaar. “I had been asking my husband every day if prices will go down more. I couldn’t wait anymore.”

http://www.bloomberg.com/news/2013-04-16/gold-bears-scarce-in-india-as-selloff-lures-shoppers-to-bazaars.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ความจริงต้องปรากฏเร็วๆนี้ครับ ^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Between January 1980 and August 1999, for example, gold lost 68% of its value – before accounting for inflation.

Bear in mind, this whopping loss didn’t just occur in the low-inflation ’90s but in the hyperinflationary ’80s. How any sober-minded person can call something that loses two-thirds of its value over two inflationary decades “the ultimate inflation hedge” is a bit of a mystery.

http://www.investmen...gold-bears.html

 

ข้างบนนี่ผมคิดว่าเป็นตัวอย่างอันนึงที่เขาเขียนตีทอง โดยบอกว่า ที่บอกว่าทองเป็นตัวกันเงินเฟ้อนั้นไม่ใช่เลย

ตั้งแต่มกรา1980-สิงหา1999 ราคาทองลงไป 68% โดยที่ราคาเริ่มลงตอนที่เกิดภาวะเงินโคดเฟ้อในปี 1980

ผมว่าเขาจงใจพูดไม่หมด เพราะเมกาเกิดภาวะ stagflation ในปี 1970 เงินเฟ้อถึงพีคในปี 1981 ที่13.5% พอล โวร์คเก้อร์ทำให้เงินเฟ้อลดลงเหลือ 3.2% ในปี 1983 โดยการขึ้นโดยเบี้ยมหาโหด ...ก็ถ้าดอกสูงขนาดนั้นกรูจะเก็บทองไปทำไมว๊ะ เอามาฝากกินดอกไม่ดีกว่าเหรอ

 

The Federal Reserve board led by Volcker is widely credited with ending the United States' stagflation crisis of the 1970s. Inflation, which peaked at 13.5% in 1981, was successfully lowered to 3.2% by 1983.

The Federal Reserve board led by Volcker raised the federal funds rate, which had averaged 11.2% in 1979, to a peak of 20% in June 1981.

http://en.wikipedia....ki/Paul_Volcker

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ดีจัง ตามอ่านฝรั่งคุยกัน เขาบอกว่าตอนนี้ร้านทองสั่งของจากร้านส่ง ต้องรอ ๔ สัปดาห์ขึ้นไป

หรือว่าทองมันจะไหลมาอยู่ในเอเชียหมดแล้ว ?!?!

โทรถาม GT เช้านี่ขอรับทองมาฝังใส้ใหไว้ 560 บาท

GT บอกรับได้เสาร์นี้ครับ แต่อาจจะมีของร้านอื่นในสมาคมปนบ้าง

แต่ถือว่าเร็ว แค่ 3 วันเองครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ดีจัง ตามอ่านฝรั่งคุยกัน เขาบอกว่าตอนนี้ร้านทองสั่งของจากร้านส่ง ต้องรอ ๔ สัปดาห์ขึ้นไป

หรือว่าทองมันจะไหลมาอยู่ในเอเชียหมดแล้ว ?!?!

โทรถาม GT เช้านี่ขอรับทองมาฝังใส้ใหไว้ 560 บาท

GT บอกรับได้เสาร์นี้ครับ แต่อาจจะมีของร้านอื่นในสมาคมปนบ้าง

แต่ถือว่าเร็ว แค่ 3 วันเองครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตอนนี้อยากช้อนทองบ้าง แต่กระดาษหมดแล้ว ทำไงดี หรือแต่ปืน 15 กระบอก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ความจริงต้องปรากฏเร็วๆนี้ครับ ^^

ความจริงอะไรอ่ะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองคำสัญญาณเตือนภัยของตลาดเงิน (Currency) blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 17 เมษายน 2556 14:34 น.

 

 

blank.gif

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นกับราคาของทองคำที่มีการปรับตัวลงกว่า 220 ดอลล่าร์ ต่อ ออนซ์ ในเวลา 2 วัน การปรับลงอย่างรุนแรงเช่นนี้ย่อมไม่ใช่เหตุธรรมดาอย่างแน่นนอน ขณะนี้ตามหัวข้อข่าวต่างๆคงหาเหตุผลการปรับตัวลงของราคาเช่น

  • รัฐบาลของประเทศไซปรัสต้องเทขายทองคำออกมาเพื่อใช้หนี้ อิตาลีก็เช่นเดียวกัน และอื่นๆ
  • กองทุน Hedge Fund เทขายเพื่อทำกำไร โดยเฉพาะ จอร์จ โซรอส
  • สัญญาณทางเทคนิค แสดงสถานะขาย และมีข่าวร้ายๆมากมายเกี่ยวกับทองคำออกมา
  • ปัญหาของสหรัฐอเมริกา และสหภาพยุโรป มีสัญญาณที่ดี และอื่นๆ
     

 

สิ่งเหล่านี้คือการหาเหตุระยะสั้น เฉพาะหน้าเพื่อมาอธิบายกันมาตลอด

การขายทองคำที่เป็นทุนสำรอง หรือการขายในปริมาณมหาศาลจะไม่มีการขายให้ตลาด แต่จะขายด้วยการเจรจาและตกลงราคาซื้อขายกัน โดยมีการอ้างอิงจากราคาตลาดโลก

การขายทำกำไรของกองทุน Hedge Fund หากเป็นของ จอร์จ โซรอส นั้น มีการขายออกมานานพอสมควรแล้ว และมีข่าวออกตามสื่อโดยทั่วไป การเคลื่อนไหวของ จอร์จ โซรอส นั้น นักลงทุนทั่วโลกจะติดตามเสมอ เพราะถือได้ว่าเป็น นกรู้ ( Insider ) คนหนึ่งของโลก ที่เห็นภาพการเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจและการลงทุนก่อนคนอื่นๆในโลก และยังมีอีกบุคคลหนึ่งที่ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญในวงการ Hedge Fund คือ จอห์น พอลสัน ที่มีชื่อเสียงมากในช่วงวิกฤต แฮมเบเกอร์ ที่ลงทุนในฝั่งขายของตราสาร CDO ซึ่งมีไม่กี่คนที่ถือสถานะ ขาย ทำให้ จอห์น พอลสัน ทำกำไรได้มหาศาลจากการหายนะทางเศรษฐกิจของ สหรัฐอเมริกา ช่วงปี 2008

ขณะนี้ พอร์ตการลงทุนของ จอห์น พอลสัน ตั้งแต่ปี 2012 ถือครองทองคำผ่านกองทุน ETF ถึง 25% และถือหุ้นเหมืองทองคำ 3 แห่ง อีกเกือบ 18% ( ซึ่ง1ใน 3 จะได้สัมปทานเหมืองทองคำในพม่า) ทำให้สัดส่วนการถือสินทรัพย์ที่เป็นทองคำถือเป็นสัดส่วน 45% ของพอร์ตการลงทุนมูลค่า 16,267 ล้านดอลล่าร์

การถือทองคำในปริมาณมหาศาลและยังคงถือครองอยู่ อาจเป็นสัญญาณบอกเหตุบางอย่างของนัก Insider ผู้นี้

ในการถือครองทองคำในโลกนี้ มีผู้ครอบครองเป็น 2 กลุ่มคือ ธนาคารกลาง ( Central Bank) ของแต่ละประเทศถือครองเพราะป้องกันการเสื่อมค่าของเงิน ดอลล่าร์สหรัฐอเมริกาและเป็นทุนสำรองมีปริมาณมูลค่าประมาณ 1.6 ล้านล้านเหรียญ อีกกลุ่มคือ นักลงทุน และประชาชนทั่วไปถือครองมีปริมาณมูลค่าประมาณ 9 ล้านล้านเหรียญ

แต่ยังคงมีทองคำอีกประเภทหนึ่งที่มีการ ซื้อ-ขาย กันมี มูลค่าประมาณ 1.1 ล้านล้านล้านเหรียญ คือ สัญญาทองคำที่ ซื้อ-ขาย กันในตลาดล่วงหน้าที่ส่งมอบเป็นเงินแทนทองคำ หรือ ที่รู้จักกันว่า สัญญาทองคำ ซื้อ-ขาย ล่วงหน้า (Gold-Future) ที่มีตลาด CME (Chicago Mercantile Exchange)เป็นศูนย์กลางมีการ ซื้อ-ขาย กัน เกือบ 24 ชั่วโมง ซึ่งตลาด CME นี้จะชี้นำราคาทองคำทั่วโลก และตลาดที่ ซื้อ-ขาย Gold-Future ในแต่ละประเทศก็จะอ้างอิงตลาด CME นี้ (ซึ่งมหันตภัยของตลาดท้องถิ่นคือ เวลา เปิด-ปิด ของแต่ละตลาด ในขณะที่ตลาดอ้างอิง ซื้อ-ขาย เกือบ 24 ชั่วโมง) ด้วยเหตุนี้ จึงมีอิทธิพลต่อการกำหนดราคาทองคำ และสิ่งสำคัญที่สุดคือ ปริมาณสัญญาการซื้อ-ขายนั้นมี 4 ธนาคารใหญ่ในอเมริกาคือ JP Morgan Chase, Bank of America, Morgan Stanley และ Goldman Sachs ถือครองสถานะรวมกันประมาณ 40-50% ของปริมาณการซื้อ-ขายทั้งหมด และมี4 ธนาคารใหญ่ในยุโรปคือ Deutsche Bank, UBS, Credit Suisse และ Barclays ถือครองสถานะรวมกันประมาณ 8-15% ของปริมาณการซื้อ-ขายทั้งหมด จากข้อมูลนี้จะเห็นได้ว่า ธนาคาร ทั้ง 8 แห่งมีบทบาทสำคัญกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ และสามารถชี้นำราคาได้จากการสัมภาษณ์ และการออกบทวิเคราะห์ ( หลังวิกฤตการเงินในสหรัฐอเมริกา กรรมาธิการ การเงิน ของ วุฒิสมาชิก ได้ทำการสอบสวนผู้บริหารธนาคารเหล่านี้ มีช่วงหนึ่งที่ถูกซักว่า “ทำไมธนาคารออกบทวิเคราะห์ว่าให้ซื้อ ในขณะที่พอร์ตของผู้บริหารและของธนาคารขายออกมา” ไม่มีคำตอบและปัจจุบันเรื่องนี้ก็เงียบไป)

ในช่วงระยะเวลากว่า 8 เดือนที่ผ่านมา 4 ธนาคารใหญ่ในอเมริกา ถือสถานะ ขาย (Short-position) โดย เฉลี่ย 42-48% ของปริมาณสัญญาทั้งหมดในตลาด CME และ 4 ธนาคารใหญ่ในยุโรป ถือสถานะ ขาย (Short-position) โดย เฉลี่ย 5-10% เมื่อผู้ควบคุมตลาดไม่ต้องการให้ขึ้น จึงถือ สถานะขายมาตลอด (หลังจากลงมามากขนาดนี้ตรงรอดูรายงานจากตลาด CME (Chicago Mercantile Exchange)ที่จะรายงานทุกวัน ศุกร์ ถึงการถือครองสถานะ แล้วจะแจ้งให้ทราบอีกในโอกาสต่อไป)

แต่ที่สังเกตได้ว่าตั้งแต่การปรับลงของราคาทองคำรอบนี้ 4 ธนาคารใหญ่ในอเมริกา ลดปริมาณการถือครอง สถานะขาย มาโดยตลอด อาจสันนิฐานว่าเป็นการกดราคาลงเพื่อ ปิดสถานะ ก็เป็นไปได้ ถึงอย่างไรก็ต้องรอดูวัน ศุกร์ หน้าจากรายงาน

ทำไมถึงมีสัญญาณเตือนภัยในตลาดเงิน

ทองคำในอีกสถานะหนึ่งก็คือ ทางเลือกของอัตราแลกเปลี่ยน จากประวัติศาสตร์อันยาวนานของทุกภูมิภาคในโลก “ทองคำคือสินทรัพย์ที่แสดงถึงมูลค่าที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวในการอ้างอิง”

จากเหตุการณ์ วิกฤตการณ์ทางการเงินในสหรัฐอเมริกาในปี 2008 และตามด้วย วิกฤติทางการเงินในยูโรโซน ในปี 2011-2012 แต่ละประเทศเลือกแก้ปัญหาหนี้สาธารณะด้วยการเพิ่มเงินเข้าไปในระบบผ่าน สถาบันการเงินประกอบด้วย

 

 

  • สหรัฐอเมริกาได้ใช้มาตรการ QE 1,2 และ3 ออกมาทำให้มีปริมาณเงินดอลล่าร์ ออกในระบบเป็นปริมาณมหาศาล แต่การแก้ปัญหาด้วยการอัดเงินผ่านระบบธนาคาร เพื่อให้ภาคการเงินนำไปลงทุนเก็งกำไรในตราสารทางการเงินทั่วโลกจนเกิดสภาวะ ฟองสบู่ในหลายๆตลาด จากหลายๆมาตรการในการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจส่งผลให้ สหรัฐอเมริกามีหนี้สาธารณะสูงถึง 107% ของ GDP
  • ยูโรโซน ประสบปัญหาการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะจากการแก้ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากฝั่ง สหรัฐอเมริกา และฟองสบู่ในอสังหาริมทรัพย์ใน ไอร์แลนด์ อังกฤษ และ สเปน จนลามไปถึงกรีซ ทำให้ ทำให้ ECB ต้องเข้ามาซื้อพันธบัตรที่ครบกำหนดของแต่ละประเทศ ตั้งกองทุน EFM เพื่อเข้าอุ้มธนาคารหลายแห่ง ทำให้หยุดวิกฤตได้ในระดับที่ดี การให้กรีซกู้ยืมเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่การทำให้ธนาคารกลางยุโรปต้องพิมพ์เงินในจำนวนมากออกมาเพื่อแก้ปัญหา จึงเป็นผลทำให้ปริมาณเงินยูโรเพิ่มขึ้นในระบบเป็นจำนวนมาก
  • ธนาคารกลางอังกฤษก็ทำการเข้าซื้อพันธบัตรอย่างต่อเนื่อง
  • สุดท้ายที่ธนาคารกลางประเทศญี่ปุ่นได้เปลี่ยนนโยบายทางการเงิน ด้วยการทำเป้าหมายเงินเฟ้อ และดำเนินการเข้าซื้อพันธบัตรอย่างต่อเนื่องในแต่ละเดือนที่เข้าซื้อปริมาณ ใกล้เคียงกับธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกา คือ ประมาณ 85,000 ล้านเหรียญต่อเดือน
     

 

จากการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจของแต่ละภูมิภาคนั้นทำให้เห็นได้ว่า ปริมาณเงินมหาศาลที่ถูกใส่เข้ามานั้นทำให้ตลาดตราสารทางการเงินประกอบด้วย ตลาดหุ้น พันธบัตร อนุพันธ์ อสังหาริมทรัพย์ ในหลายๆประเทศกำลังเข้าสู่ภาวะฟองสบู่ แต่เศรษฐกิจจริงยังไม่ได้ถูกแก้ปัญหา อัตราว่างงานยังเพิ่มขึ้นในประเทศที่ประสบปัญหา,การเก็บภาษีลดลงทำให้ต้อง เพิ่มอัตราภาษี,การเติบโตทางเศรษฐกิจที่มีอัตราที่ลดลง ทำให้ปัญหาที่แท้จริงยังไม่ถูกแก้ไข

แต่เงินปริมาณมหาศาลเหล่านี้ต้องการที่ไป ตลาดหุ้นหลายๆตลาดอยู่ในสภาวะฟองสบู่ที่ใกล้ระยะสุดท้าย โดยเฉพาะกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ทำให้เงินที่ผ่านการเก็งกำไรในตราสารต้องทยอยขายสินทรัพย์ออกมา

แต่ปัญหาใหญ่กำลังรออยู่คือ การเสื่อมค่าของสกุลเงินต่างๆที่มีอยู่ล้นโลก หากเกิด 2 สถานการณ์คือ การกลับมาของอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้หลายประเทศนั้นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย จะมีการเทขายครั้งใหญ่ในตลาดพันธบัตร และจะกระทบกลับตลาดหุ้นโดยตรง เงินที่เข้าไปลงทุนในแต่ละประเทศนั้น ในวันที่เข้าไปในระยะ 3-4 ปีที่ผ่านมากำไรกันกว่า 100-300% หากมีการถอนการลงทุนออกมาเงินเหล่านี้ไม่ได้สร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจแต่ เป็นการเก็งกำไร จะทำให้ธนาคารกลาง ในแต่ละประเทศจะมีปัญหาเรื่องทุนสำรองทันที เพราะเงินที่เข้ามาจะออกไปพร้อมกับผลกำไรที่เพื่อขึ้นกว่าเท่าตัว ปริมาณทุนสำรองของธนาคารกลางจะเกิดปัญหาทันที

อีกกรณีคือการแตกตัวของฟองสบู่ทางเศรษฐกิจในหลายประเทศในตลาดเกิดใหม่ที่ เร่งการเติบโตด้วยการก่อหนี้ในปริมาณมหาศาลเพื่อมาลงทุนที่ไม่เกิดผลที่ดี ต่อการเติบโตระยะยาว

ปัจจัยทั้งสองนี้ จะทำให้เกิดการเสื่อมค่าของสกุลเงินต่างๆ ได้มาก โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อ ด้วยเหตุนี้ ทองคำเป็นทางเลือกที่ดีทีสุดสำหรับการรักษาระดับความมั่งคั่ง แต่มีราคาที่สูงไปในสายตาของนักลงทุนรายใหญ่ จึงฉวยโอกาสจากการเป็นผู้ควบคุมตลาด ทำการเทขายในตลาดตราสารอ้างอิงออกมา ทำให้ราคาปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง หลังจากนี้จะพบข้อมูลว่านักลงทุนขนาดใหญ่ และธนาคารกลาง ของหลายประเทศจะเข้าซื้อทองคำเพื่อรักษาเสถียรภาพทางการคลัง และการลงทุน เพราะเมื่ออัตราเงินเฟ้อกลับมา ทองคำจะเข้ามามีบทบาทอย่างสูงต่อไป เห็นได้จาก การนำกลับทองคำทุนสำรองของ ธนาคารกลางประเทศเยอรมัน และ เวเนซูเอล่า การนำกองกำลังทหารเข้าสู้กับกลุ่มกบฏในซูดานของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแหล่งผลิตทองคำที่สำคัญ การลดการถือครองดอลลาร์สหรัฐของธนาคารกลาง รัสเซีย ยูเครน จีน เกาหลีใต้ ศรีลังกา อินเดีย บราซิล และอาเจนติน่า ประเทศเหล่านี้เข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการคลัง

หลังจากการกลับมาของอัตราเงินเฟ้อในอีกไม่นาน การเกิดฟองสบู่ลูกใหญ่ในตลาดเงินที่ล้นโลก และปริมาณหนี้มหาศาลของประเทศพัฒนาแล้วยังเป็นตัวเร่งของปัจจัยเสี่ยงที่ รุนแรง ดังนั้นเมื่อมีข่าวเชิงบวกต่อเศรษฐกิจ จึงมีเหตุผลที่จะทำให้ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง และเป็นโอกาสที่ดีที่จะเข้าซื้อทองคำแทนการถือเงินสดที่จะเสื่อมค่าอย่างรวด เร็วในไม่ช้านี้

 

T.Thammasak

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เครี่ ลัทซ์ คุยกับ เจฟฟรี่ คริสเตียน จากซีพีเอ็มกรุ๊ป -- บริษัทที่ปรึกษา และขายรายงานวิเคราะห์โลหะมีค่า

 

เขาบอกว่า ที่ทองคำในเมืองลุงแซมขาดตลาด ขาดแต่ก้อนเล็กๆ เหรียญเล็กๆเท่านั้น

อย่างเช่น โลหะเงินแท่งละ ๑๐๐ ออนซ์ หรือเหรียญ ๑ ออนซ์ อาจจะหมดจากตลาด

แต่โลหะเงินแท่งละ ๑๐๐๐ ออนซ์ ยังสามารถสั่งซื้อ และรับของได้ทันที

 

http://financialsurv...silver-crashed/

 

*****

 

จากคลิปสัมภาษณ์คนทำสารคดีทองคำ :: เขาบอกว่า เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ที่ทองคำโดนทุบไม่เหลือชิ้นดีนั้น เป็นเพราะมีคำสั่งขายมากว่า ๕๐๐ ตัน จากคนๆเดียว -- อย่างไรก็ตาม เขาบอกว่า การที่ขายออกมานั้น เป็นการขายจากธนาคารกลางเพื่อเอาเงินกระดาษไปจ่ายหนี้พันธบัตรต่างๆ

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถึงอย่างไรก็ต้องยอมรับว่าขาใหญ่ชนะในยกแรกนี้จริงๆ

ดูเหมือนสมรภูมิจะไม่ได้อยู่บนแ่ผ่นดินใดซะแล้ว แต่อยู่ที่ตลาดอนุพันธ์(บ่อนกระดาษ)นี่เอง

2 หนทางที่ทองจะขึ้น น่าจะมาจากปัญหาปูดออกมาเหมือนตอนแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งจะทำให้ขาใหญ่เจ็บปวด กับอีกทาง ต้องยอมให้ขาใหญ่ลากขึ้นเอง

ขอบคุณคุณส้มโอมือมากที่ทำให้เห็นภาพตลาดชัดเจน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โทรถาม GT เช้านี่ขอรับทองมาฝังใส้ใหไว้ 560 บาท

GT บอกรับได้เสาร์นี้ครับ แต่อาจจะมีของร้านอื่นในสมาคมปนบ้าง

แต่ถือว่าเร็ว แค่ 3 วันเองครับ

 

เอ กรณีนี้ ถ้าบริษัทเขามีวินัยอยู่แล้ว ทองคำที่เราฝากไว้ น่าจะอยู่ในตู้นิรภัยของเขา พร้อมให้เรารับออกเสมอนะครับ

ไม่แน่ใจว่าเทียบกับกรณีเอากระดาษไปแลกทองคำได้ หรือเอามาเป็นตัวชี้วัดได้หรือเปล่า

 

ใส่ไหอาจจะไม่ปลอดภัย ลองพิจารณาใส่ถังแซทแบบคุณหมอเล็กดูนะครับ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อ่านข่าวเหตุที่ทองลงเพราะ

1. เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ

2. ความกังวลเศรษฐกิจโลกลดลง

3. ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น เทขายทองคำ เพื่อนำเงินมาลงทุนในตลาดหุ้น

4. ดอกเบี้ยจ่อขยับขึ้น

 

เพื่อนๆ เห็นว่าไงบ้างครับ

ถูกแก้ไข โดย milo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...