โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Safe Heaven

[ส้มโอมือ 4,910]

Thanong Fanclub

 

7 ชั่วโมงที่แล้ว

 

 

 

ได้เวลาธนาคารแห่งประเทศไทยขายพันธบัตรสหรัฐฯทิ้งให้หมดพอร์ตได้แล้ว

 

เมื่ออาทิตย์ที่แล้ว คุณผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ ผู้ช่วยช่วยว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยออกมายอมรับว่าทางแบงค์ชาติได้มีการ ขายพันธบัตรสหรัฐฯออกมามาก เพื่อตัดเขาดทุน แต่ไม่บอกว่าจะโละให้หมดพอร์ตหรือเปล่า

 

ความจริงได้เวลาเกินพอแล้วที่ทางแบงค์ชาติไทยน่าจะขายทิ้งพันธบัตรสหรัฐฯให้ หมดทั้งพอร์ตที่ถืออยู่ประมาณ$50,000-$60,000ล้าน ก่อนที่จะออกตัวไม่ทันไปมากกว่านี้

 

เหตุผลมี4ประการใหญ่ๆ คือ

 

1. ถ้าสหรัฐฯก่อสงครามในซีเรีย (โอบามาไม่อยากก่อสงคราม แต่ไม่รู้ว่าจะทานพวกกลุ่มผลประโยชน์ที่เป็นรัฐบาลเงาได้นานแค่ใหน) รับรองได้ว่าเงินดอลล่าร์พังแน่ เพราะว่าจีนและประเทศพันธมิตรจะรวมหัวกันทิ้งพันธบัตรสหรัฐฯหมดเลยทีเดียว จีนถือพันธบัตรสหรัฐฯประมาณ$1.2ล้านล้าน หรือประมาณ10%ของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯทั้งหมด

 

ถ้าทิ้งตูมเดียวเลยมันส์แน่ ไม่รู้ว่าราคาบอนด์จะไปใหน และดอกเบี้ยสหรัฐฯจะพุ่งไปถึงใหน และค่าเงินดอลล่าร์จะเป็นอย่างไร

 

2. จีนและกลุ่มบริกส์หาทางเลิกผูกค่าเงินตัวเองกับเงินดอลล่าร์อยู่แล้ว โดยจีนจะใช้หยวนสว๊อปกับค่าเงินคู่ค้าอื่นๆ อินเดียก็กำลังจะใช้การชำระบัญชีการค้าระหว่างประเทศด้วยรูปี และรัสเซียก็อยากจะทิ้งดอลล่าร์เต็มแก่ จังหวะเวลาอาจจะเริ่มเวลาใดก็ได้หลังตุลาคม (Red October) นี้เป็นต้นไป จนถึงปีหน้า เป็นการเร่งการรีเซ็ทระบบดอลล่าร์

 

3. นักวิเคราะห์หลายคนรวมทั้งMarc Faberมองว่าทางวิหารเฟดเดอรัล ได้สูญเสียการควบคุมดอกเบี้ยไปแล้ว นั้นหมายความว่าจะกดดอกเบี้ยให้ต่ำติดดินแบบนี้ไม่ได้อีก เพราะว่าพลังตลาดกำลังจะมีชัยเหนือการปั่นดอกเบี้ยของเฟด เพราะฉะนั้นทิศทางดอกเบี้ยสหรัฐฯมีแต่จะขึ้น อาจจะรวดเร็วพรวดพราดก็เป็นได้ ผู้ที่ถือพันธบัตรในบรรยากาศดอกเบี้ยขาขึ้นมีแต่จะเจ้งลูกเดียว

 

4. โอบามาอาจจะล่อวิหารเฟดก็ได้ เพื่อล้มวอลล์สตรีท สำหรับประเด็นนี้จะเขียนตอนหัวค่ำนี้ โปรดติตาม เพราะว่ามันส์สุดๆๆๆๆ

 

Bloomberg รายงานเมื่อต้นอาทิตย์ที่ผ่านมาวว่าแบงค์ชาติไทยขายพันธบัตรสหรัฐฯมากที่สุด ในบรรดาธนาคารกลางทั้งหลายในช่วงไตรมาส2 คือขายออกไป$18.2 พันล้าน หรือ27%ของพอร์ตพันธบัตรสหรัฐฯทั้งหมดที่ถืออยู่ประมาณ$50พันล้านกว่าๆ นับว่าเป็นการปรับพอร์ตที่เฉียบพลันที่สุดของแบงค์ชาติ

 

แรงกดดันดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา หลังจากเฟดส่งสัญญานว่าจะลดขนาดคิวอี และตลาดเริ่มไม่มั่นใจในความสามารถของเฟดจะกดดอกเบี้ยได้ตลอด ทำให้ดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลขยับขึ้น จาก1.5%ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา จนแตะ 3%เมื่อเร็วๆนี้ ทำให้ผู้ถือพันธบัตรขาดทุน เพราะว่าราคาบอนด์ตก

 

thanong

14/9/2013

 

 

 

[นัย 232]

ดูวิเคราะห์นี้แล้วหนาว :_cd ขอให้วิเคราะห์ผิดทางนะคะ หุหุ

ถูกแก้ไข กันยายน 14, 2013 โดย น้ำใส

[MOR LEK 2,835]

นอกเรื่องครับ....การศึกษาวันนี้

 

 

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[ส้มโอมือ 4,910]

“เคร์รี-ลาฟรอฟ” บรรลุข้อตกลงร่วม หาทางออกวิกฤตซีเรีย ปูทางทำลาย “อาวุธเคมี”ของอัสซาดภายในกลางปีหน้า โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กันยายน 2556 23:18 น.

 

 

 

เอเอฟพี/เอเจนซีส์-สหรัฐฯและรัสเซียบรรลุข้อตกลงครั้งประวัติ ศาสตร์ร่วมกันในวันเสาร์ (14) เกี่ยวกับการทำลายอาวุธเคมีในครอบครองของรัฐบาลซีเรียภายในช่วงกลางปี 2014

ข้อตกลงดังกล่าวระหว่างสหรัฐฯและรัสเซียเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ ขั้นต้นในซีเรียภายในเดือนพฤศจิกายนนี้ และจะมีการให้เวลาแก่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรีย 1 สัปดาห์ ในการเปิดเผยคลังแสงอาวุธเคมีในความควบคุมของรัฐบาลดามัสกัส เพื่อปูทางไปสู่การทำลายอาวุธเคมีทั้งหมดในความครอบครองของรัฐบาลซีเรียภาย ในช่วงกลางปีหน้า ขณะเดียวกัน การเห็นชอบจากองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ยังคงเป็นสิ่งจำเป็น สำหรับการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรใดๆต่อซีเรีย

 

ข้อตกลงเพื่อหาทางออกต่อวิกฤตซีเรียมีขึ้นหลังการหารือนานกว่า 3 วันที่นครเจนีวาของสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ และเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศของรัสเซีย

 

อย่างไรก็ดี รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ยืนยันว่า แม้จะมีการบรรลุข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซีย ต่อวิกฤตในซีเรียที่เจนีวา แต่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาซึ่งตัดสินใจเลื่อนการโจมตีซีเรียมาแล้วถึง 2 ครั้ง ยังคงสงวนสิทธิใดๆในการที่จะใช้มาตรการทางทหารต่อซีเรียได้หากระบอบอัสซาด บิดพลิ้ว หรือ ไม่จริงใจ ในการส่งมอบการครอบครองอาวุธเคมีและน้อมรับการตรวจสอบจากนานาชาติ

 

ขณะที่บรรดาแหล่งข่าวในแวดวงการทูตต่างแสดงความคาดหวังว่า ข้อตกลงดังกล่าวอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรื้อฟื้นกระบวนการสันติภาพ เพื่อยุติสงครามกลางเมืองในซีเรียที่ดำเนินมานานกว่า 2 ปีครึ่ง และคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 100,000 คนด้วยเช่นกัน แม้จนถึงขณะนี้ บรรดาฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียยังคงยืนยันว่า การเจรจาสันติภาพใดๆจะมีขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ผู้นำซีเรียยอมรับในเงื่อนไขที่ว่าตัวเขาต้องยอมสละอำนาจ

 

ขณะเดียวกัน มีการยืนยันว่า ทั้งเคร์รีและลาฟรอฟ มีกำหนดจะเข้าหารือภายในเดือนนี้กับลัคดาร์ บราฮิมี ทูตพิเศษของยูเอ็นด้านปัญหาซีเรีย ชาวแอลจีเรีย อีกครั้งระหว่างการเปิดประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติที่มหานครนิวยอร์ก

 

ข้อตกลงทางการทูตครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯและรัสเซียมีขึ้น หลังบรรดาหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯและชาติพันธมิตรต่างอ้างว่า รัฐบาลอัสซาดอยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยอาวุธเคมีที่ย่านชานกรุงดามัสกัส เมื่อ 21 สิงหาคมที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คน รวมถึงเด็กๆอย่างน้อย 400 คน สวนทางกับข่าวกรองของรัสเซียที่ยืนยันว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของ ฝ่ายกบฏในซีเรีย มิใช่ฝีมือของฝ่ายอัสซาด

 

ล่าสุด วิลเลียม เฮก รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ออกโรงแสดงความยินดีในวันเสาร์ (14) ต่อการบรรลุข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย แต่ย้ำว่าการบังคับใช้ข้อตกลงดังกล่าวอย่างทันทีทันใดและเต็มรูปแบบถือเป็น สิ่งที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด และต้องแน่ใจว่า ระบอบอัสซาดจะไม่บิดพลิ้วต่อการส่งมอบอาวุธเคมีในครอบครองของตนให้กับนานา ชาติ

ถูกแก้ไข กันยายน 14, 2013 โดย ส้มโอมือ

[chirasak 14]

มีข้อสงสัยขอสอบถามจากผู้รู้ในบอร์ดครับ

 

เนื่องจากผมได้ซื้อทองเก็บไว้ตอนราคาประมาณ 20,000 ตอนขึ้นถึง 21000 ก็ไปได้ขาย (แบ่งเงินมาซื้อเก็บ-กลัวไซปรัส)

แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากซื้อเก็บในราคาที่ต่ำสักหน่อย(เก็บเพื่อความปลอดภัยไม่ได้เก็งกำไร)

 

แล้วก็มีเรื่องครับ

วันเสาร์ 14-09-56 ฟังข่าวตอนเช้า "คุณสรยุทธ์พูดในรายการ" โคเม็ก(ขออภัยถ้าสะกดผิด) บอกว่าราคาทองจะตกถึง 1000$

จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะตกลงไปถึง 1000$ (ตอนแรกกะจะซื้อตอนสัก 19xxxx 1320$ เพราะคิดว่าราคาก็น่าเก็บแล้ว แต่พอฟังข่าวก็เลยกลัว)

 

1.จากข้อมูลในบอร์ด(เท่าที่อ่านมา) ราคาทองคำส่งมอบเหมืองทอง อยู่ที่ราคา 900-1200 $ (ราคาหน้าเหมืองไม่น่าจะเปลี่ยแปลงมาก)

แล้วกรณีที่ราคาทองต่ำกว่า เช่น 1100$ (เนื่องจากเราซื้อทองตามราคา spot) คนที่เอามาขายเราเขาทำยังไรครับ(ซื้อแพงมาขายถูกก็ขาดทุนซีครับ)

2.ใครเป็นคนขายทองให้เรา(เช่นผมซื้อที่ฮั่ว แล้วฮั่วไปสั่งจากใครที่เมืองนอกครับ ใครเป็นคนกลางในการแลกเปลี่ยนเงินทองกันแน่)

3.ตลาดทอง(ที่ไม่ใช่กระดาษ) ตกลงแล้วใครเป็นตัวกลางกันแน่ครับ (เหมือนธนาคารชาติเป็นคนพิมพ์และจัดการเงิน)

4.ในภาวะที่เลวร้ายที่สุด(ระบบดอลล่า-ล่ม) มีโอกาสที่ธนาคารในประเทศเราจะทำแบบไซปรัสไหมครับ (ที่แบ่งเงินมาซื้อทองก็เพราะแบบนี้แหละครับ)

5.ที่ภาวะเดียวกัน กรณีแบบโปแลนด์ โอกาสเป็นไปได้ไหมครับ(เคยคิดจะซื้อพันธบัตรครับแต่มันยาวไปเลยเปลี่ยนใจ)

 

 

****แต่ที่แน่ๆ ประกันสังคมของเรากำลังจะทำเหมือน USA แล้วครับ(ถังแตกแล้ว-เตรียมแล้วครับ) คือ 1.เก็บเงินเพื่ม 2.ยืดอายุจ่ายออกไป

คือว่าผมอายุมากแล้วบริษัทที่ทำงานอยู่ปิดกิจการ ก็เลยออกมาขายของชำเล็กๆน้อยๆ ตอนนี้ก็รออายุครบจะได้รับเงินประกันสังคม(ไม่รู้จะโดนยืดออกไปหรือเปล่า)

 

 

ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้ความรู้ครับ และขอขอบคุณทางเว็ปบอร์ดด้วยครับ

[leo_attack 579]

ปีก่อนตอนทองขึ้นถึง 1900 โคเม็กก็บอลว่าทองจะไป 2000 นะครับ

 

ถามว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรคงต้องบอกว่าไม่มีใครทราบหรอกครับ(ฮ่า) เพราะคนที่รู็ก็คงจะรวยเอามากๆ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการลงทุนคือ การบริหารจัดการเงินครับ

 

ถ้าราคาทองตำกว่าราคาทุนเหมืองจะเป็นอย่างไร เหมืองนั้นก็คงหยุดขุดทองแหละครับ แล้วอุปทานก็จะลดลงเป็นกลไกตลาด

 

แต่ทองบ้านเรานี่จะต่างกับทางต่างชาตินะครับ เห็นทองต่างประเทศเข้าของขาดๆ กัน แต่บ้านเราไม่เพราะบ้านเราใช้ทอง 96.5 ครับ ส่วนต่างประเทศใช้ทอง 99.9 และต้องมาจากโรงหลอมที่ได้รับการรับรองดังนั้นของขาดเวลาความต้องการสูงครับ

 

บ้าาเราเป็นประเทศที่เอื้อต่อการซื้อทองเอามากๆ ครับ อย่างเมืองจีนต้องซื้อทองกับธนาคาร แต่บ้านเราซื้อจากร้านตู้แดงซึ่งเป็นเอกชนครับ เอกชนเป็นผู้จัดการ และไม่เก็บภาษีทองด้วยทำให้ทองบ้านเราค่ามอร์จินต่ำมากเมือเทียบกับประเทศอื่น นัยนึงก็คือว่าสนับสนุนกลายๆ ว่าซื้อทองกันเถอะ ปีนี้บ้านเราเห็นขาดดุลๆ กันแต่พอหัวตัวเลขที่เป็นการนำเข้าทองไปปรากฏว่ากลายเป็น เกินดุลทุกเดือนนะครับ ......ไปเจอมาแล้วแอบอึ้งๆ

 

ถามว่าธนาคารยึดเงินเราได้มั้ย ก็ถ้าเขาจะยึดก็ไม่มีอะไรยากหรอกครับ ทุกอย่างทำได้ถ้าเขาจะทำ ไอ้ประกันเงินฝากโดยรัฐบาลตอนนี้ก็ไม่แน่ใจแล้วว่าประกันเท่าไหร่

 

 

 

แต่จริงหรอครับที่ว่าเขาจะยึดเงินฝากประกันสังคมทำเป็นแบบอเมริกาแล้ว ชักเริ่มแอบกลัวแล้วสิครับ T0T

[ส้มโอมือ 4,910]

มีข้อสงสัยขอสอบถามจากผู้รู้ในบอร์ดครับ

 

เนื่องจากผมได้ซื้อทองเก็บไว้ตอนราคาประมาณ 20,000 ตอนขึ้นถึง 21000 ก็ไปได้ขาย (แบ่งเงินมาซื้อเก็บ-กลัวไซปรัส)

แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากซื้อเก็บในราคาที่ต่ำสักหน่อย(เก็บเพื่อความปลอดภัยไม่ได้เก็งกำไร)

 

แล้วก็มีเรื่องครับ

วันเสาร์ 14-09-56 ฟังข่าวตอนเช้า "คุณสรยุทธ์พูดในรายการ" โคเม็ก(ขออภัยถ้าสะกดผิด) บอกว่าราคาทองจะตกถึง 1000$

จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะตกลงไปถึง 1000$ (ตอนแรกกะจะซื้อตอนสัก 19xxxx 1320$ เพราะคิดว่าราคาก็น่าเก็บแล้ว แต่พอฟังข่าวก็เลยกลัว)

 

1.จากข้อมูลในบอร์ด(เท่าที่อ่านมา) ราคาทองคำส่งมอบเหมืองทอง อยู่ที่ราคา 900-1200 $ (ราคาหน้าเหมืองไม่น่าจะเปลี่ยแปลงมาก)

แล้วกรณีที่ราคาทองต่ำกว่า เช่น 1100$ (เนื่องจากเราซื้อทองตามราคา spot) คนที่เอามาขายเราเขาทำยังไรครับ(ซื้อแพงมาขายถูกก็ขาดทุนซีครับ)

2.ใครเป็นคนขายทองให้เรา(เช่นผมซื้อที่ฮั่ว แล้วฮั่วไปสั่งจากใครที่เมืองนอกครับ ใครเป็นคนกลางในการแลกเปลี่ยนเงินทองกันแน่)

3.ตลาดทอง(ที่ไม่ใช่กระดาษ) ตกลงแล้วใครเป็นตัวกลางกันแน่ครับ (เหมือนธนาคารชาติเป็นคนพิมพ์และจัดการเงิน)

4.ในภาวะที่เลวร้ายที่สุด(ระบบดอลล่า-ล่ม) มีโอกาสที่ธนาคารในประเทศเราจะทำแบบไซปรัสไหมครับ (ที่แบ่งเงินมาซื้อทองก็เพราะแบบนี้แหละครับ)

5.ที่ภาวะเดียวกัน กรณีแบบโปแลนด์ โอกาสเป็นไปได้ไหมครับ(เคยคิดจะซื้อพันธบัตรครับแต่มันยาวไปเลยเปลี่ยนใจ)

 

 

****แต่ที่แน่ๆ ประกันสังคมของเรากำลังจะทำเหมือน USA แล้วครับ(ถังแตกแล้ว-เตรียมแล้วครับ) คือ 1.เก็บเงินเพื่ม 2.ยืดอายุจ่ายออกไป

คือว่าผมอายุมากแล้วบริษัทที่ทำงานอยู่ปิดกิจการ ก็เลยออกมาขายของชำเล็กๆน้อยๆ ตอนนี้ก็รออายุครบจะได้รับเงินประกันสังคม(ไม่รู้จะโดนยืดออกไปหรือเปล่า)

 

 

ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้ความรู้ครับ และขอขอบคุณทางเว็ปบอร์ดด้วยครับ

 

ลองฟังเรื่องเนื่องนี้ดูครับ อาจเพิ่มเติมสิ่งที่อยากรู้ ด้านข้างก็มีคลิปอื่นที่น่าสนใจด้วย ฟังหลายเรื่องน่าจะช่วยให้มองภาพเห็น

[oasis 315]

มีข้อสงสัยขอสอบถามจากผู้รู้ในบอร์ดครับ

 

เนื่องจากผมได้ซื้อทองเก็บไว้ตอนราคาประมาณ 20,000 ตอนขึ้นถึง 21000 ก็ไปได้ขาย (แบ่งเงินมาซื้อเก็บ-กลัวไซปรัส)

แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากซื้อเก็บในราคาที่ต่ำสักหน่อย(เก็บเพื่อความปลอดภัยไม่ได้เก็งกำไร)

 

แล้วก็มีเรื่องครับ

วันเสาร์ 14-09-56 ฟังข่าวตอนเช้า "คุณสรยุทธ์พูดในรายการ" โคเม็ก(ขออภัยถ้าสะกดผิด) บอกว่าราคาทองจะตกถึง 1000$

จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าจะตกลงไปถึง 1000$ (ตอนแรกกะจะซื้อตอนสัก 19xxxx 1320$ เพราะคิดว่าราคาก็น่าเก็บแล้ว แต่พอฟังข่าวก็เลยกลัว)

 

1.จากข้อมูลในบอร์ด(เท่าที่อ่านมา) ราคาทองคำส่งมอบเหมืองทอง อยู่ที่ราคา 900-1200 $ (ราคาหน้าเหมืองไม่น่าจะเปลี่ยแปลงมาก)

แล้วกรณีที่ราคาทองต่ำกว่า เช่น 1100$ (เนื่องจากเราซื้อทองตามราคา spot) คนที่เอามาขายเราเขาทำยังไรครับ(ซื้อแพงมาขายถูกก็ขาดทุนซีครับ)

2.ใครเป็นคนขายทองให้เรา(เช่นผมซื้อที่ฮั่ว แล้วฮั่วไปสั่งจากใครที่เมืองนอกครับ ใครเป็นคนกลางในการแลกเปลี่ยนเงินทองกันแน่)

3.ตลาดทอง(ที่ไม่ใช่กระดาษ) ตกลงแล้วใครเป็นตัวกลางกันแน่ครับ (เหมือนธนาคารชาติเป็นคนพิมพ์และจัดการเงิน)

4.ในภาวะที่เลวร้ายที่สุด(ระบบดอลล่า-ล่ม) มีโอกาสที่ธนาคารในประเทศเราจะทำแบบไซปรัสไหมครับ (ที่แบ่งเงินมาซื้อทองก็เพราะแบบนี้แหละครับ)

5.ที่ภาวะเดียวกัน กรณีแบบโปแลนด์ โอกาสเป็นไปได้ไหมครับ(เคยคิดจะซื้อพันธบัตรครับแต่มันยาวไปเลยเปลี่ยนใจ)

 

 

****แต่ที่แน่ๆ ประกันสังคมของเรากำลังจะทำเหมือน USA แล้วครับ(ถังแตกแล้ว-เตรียมแล้วครับ) คือ 1.เก็บเงินเพื่ม 2.ยืดอายุจ่ายออกไป

คือว่าผมอายุมากแล้วบริษัทที่ทำงานอยู่ปิดกิจการ ก็เลยออกมาขายของชำเล็กๆน้อยๆ ตอนนี้ก็รออายุครบจะได้รับเงินประกันสังคม(ไม่รู้จะโดนยืดออกไปหรือเปล่า)

 

ขอขอบคุณทุกท่านที่ได้ให้ความรู้ครับ และขอขอบคุณทางเว็ปบอร์ดด้วยครับ

 

คุณคิดถูกแล้วที่ซื้อเพื่อ ประกันความเสี่ยงในกรณีแบงค์ล้ม หรือประกันสังคมถังแตกไม่ยอมจ่ายเงินบำนาญ

1. ทองที่เอามาขายไม่ได้มาจากเหมืองอย่างเดียวนะครับ มันมาจากสถาบันต่าง ๆ ที่เก็บไว้ในนานแล้ว เช่น ธนาคารของประเทศตะวันตก ทำให้มันกดราคาจนตำกว่าราคาหน้าเหมืองได้

2. คนกลางคือ ตลาด LBMA(ลอนดอน) และ COMEX (อเมริกา)

3. ตามข้อสอง ทั้งสองแห่ง เป็นตัวกำหนดราคาทองทั่วโลก

4. มีโอกาสครับ แม้ว่าตอนนี้กฎหมายจะประกันเงินฝากที่ 50 ล้าน (ต่อไปลดเหลือ1 ล้าน) แต่ถ้าธนาคารล้ม คุณไม่สามารถไปถอนออกได้แน่นอน อาจให้ถอนได้แค่วันละพัน เงินฝากจริง ๆ เป็นเงินที่เราให้ธนาคารกู้ แล้วธนาคารก็จ่ายดอกให้คุณ เงินในธนาคารเป็นของธนาคารไปแล้ว ถ้ามันล้ม เราก็เป็นเจ้าหนี้คนหนึ่ง

5. มีโอกาศครับ ผมกลัวว่าการจำนำข้าวที่ใช้เงินไป 5แสนล้านแล้ว จะทำให้ภาระรัฐบาลหนักมาก จนเอามาลงกับนักลงทุนก็ได้

[MOR LEK 2,835]

Goldman warns gold could fall to $1,000 or lower. HSBC disagrees

Mega investment bank Goldman Sachs’ senior commodity analyst, Jeff Currie, warns that gold could even drop below $1,000 an ounce, but HSBC has raised its 2013 forecast to $1,446.

 

 

http://www.mineweb.c...04923&sn=Detail

 

เจ้ามือยังเห็นไม่ตรงกันเลยครับ

[mdaddy 2,443]

มีข้อสงสัยขอสอบถามจากผู้รู้ในบอร์ดครับ

 

เนื่องจากผมได้ซื้อทองเก็บไว้ตอนราคาประมาณ 20,000 ตอนขึ้นถึง 21000 ก็ไปได้ขาย (แบ่งเงินมาซื้อเก็บ-กลัวไซปรัส)

.....

 

มิใช่ผู้รู้ แต่ขออนุญาตนำเสนอข้อมูล แง่คิด ที่ได้อ่านมาในช่วงสองสามปีนี้ เพื่อพิจารณานำไปประกอบการตัดสินใจครับ

1. ~~ ความกลัวทำให้เสื่อม ~~
   
2. ไม่มีใครจะซื้อของที่ราคาต่ำสุด และสูงสุด ได้ตลอดเวลา ครูท่านหนึ่งว่าไว้ ว่าใครที่บอกไว้ว่าทำได้ตลอดหน่ะ "ขี้โม้"
   
3. กูรู้ที่ว่าแน่ๆ อย่างลุงจิม ที่เคยมองกรอบราคา และเวลา ของทองคำได้แม่นถึง ๒ ครั้ง มาคราวนี้แกก็ไม่กล้าฟันธงในเรื่องราคา และกรอบเวลา ยอมให้แต่กรอบราคาอย่างเดียว
   
4. กูรู้ ที่ชื่อว่า จิม ริคเคิรดส์ ที่เขียนหนังสือสงครามค่าเงิน แนะนำให้ถือทองคำร้อยละ ๑๐-๒๐ ของพอร์ตการลงทุน/เงินเก็บ เหตุผลของแกก็คือ จากสัดส่วนที่แกคำนวณแล้ว ถ้าเงินกระดาษกลายเป็น ๐ ราคาที่เพิ่มขึ้นมาของทองคำ จะช่วยชดเชยไม่ให้กำลังซื้อของทุนทั้งหมดหายไป
   
5. ใครจะแน่ขนาดไหน ถ้าไม่ใช่คนล็อกราคาเอง ไม่มีทางรู้ราคาในอนาคตครับ ขนาดคนในวงการอย่างท่านนายกสมาคมทองคำ พวกเรายังชอบเอามาแซวขำๆตลอดเลย ว่าท่านให้สัมภาษณ์อย่างไร ให้แทงสวนถึงจะได้กำไร ... นับประสาอะไรกับคนที่บอกว่าเพื่อนเขาสั่งซื้อไอโฟนรุ่นใหม่ ราคาสามสี่พันบาท ตั้งแต่ก่อนผู้ผลิตออกมาเปิดตัวสินค้าครับ?
   
6. อย่างไรก็ตาม เท่าที่มองจากคนรู้เรื่องทางเทคนิค เขาบอกว่าพันนึงก็มีโอกาสไปถึง .... อะไรๆก็มีโอกาสทั้งนั้นครับ อยู่แต่ว่าโอกาสมาก โอกาสน้อย แล้วแต่การประเมินของแต่ละคน
   
7. ถ้ากังวลเรื่องความผันผวนราคามากๆ และมิได้ซื้อเพื่อเก็งกำไร แต่เป็นการซื้อเพื่อลดความเสี่ยงของการด้อยค่าของเงิน ลองพิจารณาเอาเงินก้อนที่จะซื้อทองคำ ค่อยๆทยอยซื้อเข้าดีไหมครับ -- แต่ก่อนอื่น ต้องพิจารณาให้ดีก่อน ว่าควรจะกันเงินไว้ซื้อทองคำเท่าไหร่ดี
   
8. กรณีกลัวโดนไซปรัส ฯลฯ ... กูรู้นอกหลายๆท่าน มองว่า กลุ่มประเทศที่สุ่มเสี่ยง คือพวกยุโรป กับลุงแซม หลายๆท่านมองในโซนเอเชีย ว่ายังมีความปลอดภัยมากกว่า ถึงแม้ว่าส่วนมากจะชอบพูดถึงแต่สิงคโปร์ และฮ่องกงก็ตาม -- อย่างลุงจิมในตอนนี้ ก็แนะนำให้สมาชิกเวบแก "ออกนอกระบบ" ให้มากที่สุด ด้วยการเก็บเงินในเอเชีย (แทนที่จะเก็บในยุโรป/ลุงแซม), ถอนใบหุ้นมาเป็นกระดาษ/ใส่ชื่อเราเป็นเจ้าของให้หมด(อย่าฝากไว้กับศูนย์ฝากหลักทรัพย์), ซื้อทองคำ ฯลฯ
   
9. เวลาเกิดวิกฤติไม่มีใครบอกได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น นอกจากเจ้ามือ -- กรณีไซปรัสมันหนักหน่อย ระบบการเงินของเขามันไปอิงกับยูโรโซน ต้องการเงินหนุนจากกลุ่มยูโรอย่างเร่งด่วน (คือ แต่ละประเทศในนั้น ไม่สามารถตัดสินใจพิมพ์เงินเองได้) เขาสั่งให้ปล้นเงินประชาชน ก็ต้องปล้น ... แถมมีเรื่องการเมืองกับรัสเซียเข้ามาพัวพันอีก
   
10. โดยทั่วไปแล้ว นักวางแผนทางการเงินท่านบอกว่า เมื่ออายุมากขึ้นเรื่อยๆ ให้ปรับสัดส่วนของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงลดลงตามลำดับ จะได้ไม่ผันผวนมาก -- อายุมากๆ จะทำให้ทนความผันผวนได้ต่ำ
    
11. ถ้ากังวลเรื่องประกันสังคม ลองมองวิธีคิดแบบ คุณตาลินด์ซีย์ ดีไหมครับ ... แกบอกว่า แกไม่รับเงินประกันสังคมใดๆจากรัฐบานทั้งนั้น เพราะแกไม่ต้องการเป็นขี้ข้ารัฐบาน ... ในเมืองลุงแซม ตอนนี้คนรับเช็ค รับเงินเยียวยา จากรัฐบานมีเยอะมาก (มากจริงๆ ตามที่ตัวเลข/ข่าวที่คุณหมอเล็กนำมาเสนอ) จนกูรู้นอกบางท่าน มองว่า รัฐบานใช้เรื่องพวกนี้ในการกุมคนให้อยู่ในมือ ...
     
    แม้คุณ chirasak อาจจะไม่มองโลกในทางลบแบบนั้น แต่ถ้าเราตัดประเด็นการใช้ชีวิตโดยอิงเงินประกันสังคมไปได้ จะช่วยให้เราเป็น "อิสระ" จากระบบประกันสังคมครับ ถ้าได้มาก็เป็นกำไร ออมไว้เพื่ออนาคต แต่ถ้าไม่ได้ ก็ไม่รู้สึก รู้สาอะไร อยู่ได้ด้วยตัวเอง
     
    เมื่อไหร่ระบบมันจะล้ม หรือไม่ล้ม ไม่มีใครรู้ได้ แต่ถ้าเราพึ่งตัวเองได้ระดับหนึ่ง ก็ไม่ต้องง้อเขามาก
     
    เคยได้คุยกับผู้สูงอายุ ที่ต้องพึ่งเงินประกันสังคมของลุงแซม -- เงินประกันสังคมของลุงแซมนั้นผูกกับอัตราเงินเฟ้อ "อย่างเป็นทางการ" ถ้าเงินเฟ้อเยอะ ก็ได้เบี้ยเพิ่ม ฯลฯ -- แกบ่นว่าตั้งกะปธน.คนนี้เรืองอำนาจ เช็คแกไม่ได้ขึ้นมาหลายปีเลย นี่ปีล่าสุดได้ขึ้นมาไม่กี่เหรียญเอง -- ทั้งๆที่เงินเฟ้อ "จริงๆ" มันแซงหน้าไปไหนต่อไหนแล้ว -- ที่ร้ายกว่านั้น คือเงินประกันสังคมของลุงแซม แทนที่จะเอาไปเก็บไว้ดีๆ รัฐบานท่านดันเห็นเป็น "กระเป๋าตังค์" ของท่านเสียอีก เลยหักคอให้เอาเงินประกันสังคมไป "ลงทุน" ในพันธบัตรของรัฐบาน ที่เราๆท่านๆเห็นกันจากตัวเลขในทุกวันนี้ ว่ายังไงมันก็ไม่มีปัญญาจ่ายคืน
     
    ส่วนที่รัฐสารขัน ณ ดาวพลูโต จะมีการบริหารกองทุนประกันสังคมอย่างไร ต้องลองหาอ่านดูครับ
    

หวังว่าที่ผมเพ้อให้ฟัง คงมีประโยชน์ต่อการตัดสินใจบ้าง ไม่มากก็น้อย

โชคดีกับการค้าขาย ร่ำรวย ร่ำรวย ครับ ...

[chirasak 14]

ขอบคุณ คุณleo_attack , คุณส้มโอมือ , คุณoasia ครับ

 

 

พิมพ์ผิดครับ ตอนขึ้นถึง 21000 ก็ไปได้ขาย ไม่ได้ขายครับ ผลก็คือตอนนี้ขาดทุนทางบัญชี (แต่ก้อนยังเท่าเดิมครับไม่หดลงครับ)

 

 

แก้ไขนิดนึงครับ ประกันสังคมของเราไม่ได้ยึดเงินครับ แต่มีการโยนหินถามทางโดยนักวิชาการ(คาดว่าของประกันสังคม) เป็นเอกสารพี่สาวเป็นฝ่ายบุคคลเอามาให้อ่าน

 

เนื่องจากเิริ่มมีคนได้เงินบำนาญและกองทุนจะเริ่มเงินหด(มากกว่าเงินที่เก็บได้) มีการเสนอแนะแนวทางไว้ 3 ทาง จำได้แค่ 2 ทางครับ

1.เก็บเงินเพิ่มครับ

2.ยืดเวลาการจ่ายเงินบำนาญออก(ไม่ใช่ยึดครับ) เช่น เดิมรับตอน 55 ปี อาจขอเลื่อนออกไปเป็น 60 ปี(คือทาง USA ก็เสนอให้ยือออกไป ไม่รู้ใครลอกใคร)

 

 

***ยังติดใจอยู่นิดหน่อยครับ กรณีราคา spot ถูกกว่าหน้าเหมือง ถ้าเหมืองปิดแล้วเขาจะเอาทองที่ใหนมาส่งให้ผู้ซื้อเล่าครับ ถ้ากดราคาระยะสั้นๆ

คงเอามาจากธนาคารหรือกองทุนได้(ยืมมาทุบ) ถ้ากดราคาระยะยาวเกินไปก็ไม่น่าจะมีทองมาส่งมอบ

 

***โดยส่วนตัวผมที่ผ่านมา ผมมองที่ราคาหน้าเหมืองเป็นหลักครับ ถ้าใกล้ก็ตั้งใจจะเก็บเพิ่มไม่ค่อยได้สนใจเรื่องกำไรขาดทุนเท่าไร

 

ตีว่าราคาหน้าเหมือง + ค่าอื่นๆสัก 1300 $ เงินบาท 32 b/US => ราคาทอง 19700 บาท (ตั้งใจว่าต่ำ 20000 ก็จะเก็บแล้ว แต่พอฟังข่าวก็ชักเสียดายครับ)

 

 

ยังใช้งานบอร์ดไม่คล่อง(อ้างอิงยังไม่คล่อง) เลยต้องใช้พิมพ์เอาครับ

ขอบคุณทุกท่านครับ

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[ส้มโอมือ 4,910]

 

คนแก่ตรงกลางที่ใส่แว่นเนคไทสีฟ้า ใครครับ คุ้นหน้าเหมือนกัน ปกติผมอ่านแต่ข่าวแต่ไม่ค่อยสนใจหน้าคนในข่าวครับ เลยรู้จักรูปภาพคนน้อยครับ

ถูกแก้ไข กันยายน 15, 2013 โดย ส้มโอมือ

[ส้มโอมือ 4,910]

1%ของคนอเมริกันเป็นเจ้าของ42%ของทรัพย์สินทางการเงินทั้งหมด

4% ของคนอเมริกันเป็นเจ้าของ 27%ของทรัพย์สินทางการเงินทั้งหมด

5% ของคนอเมริกันเป็นเจ้าของ 11%%ของทรัพย์สินทางการเงินทั้งหมด

10%ของคนอเมริกันเป็นเจ้าของ 12%ของทรัพย์สินทางการเงินทั้งหมด

80% ของคนอเมริกันเป็นเจ้าของ 7%ของทรัพย์สินทางการเงินทั้งหมด

 

สรุป 5%ของคนอเมริกันที่รวยที่สุดเป็นเจ้าของทรัพย์สินทางการเงิน70%ของทั้งหมดของประเทศ หรือ10% ของคนอเมริกันเป็นเจ้าของ80%ของทรัพย์สินทางการเงินทั้งหมด

 

รวยกระจุก จนกระจายจริงๆ

 

ยิ่งทำQE เพิ่มความรวบในตลาดหุ้น หรือสินทรัพย์ทางการเงินให้เป็นฟองสบู่ คนรวยยิ่งรวย คนจนยิ่งแย่ เพราะเจอเงินเฟ้อ

 

ถ้าโอบามารีเซ็ทระบบ แค่คนรวยสุด10%โดนผลกระทบ ที่เหลือแทบจะไม่มีอะไรอยู่แล้ว

 

credit.thanong fanclub

15/9/2013