ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ที่พูดว่า "ดังนั้นไม่มีหรอก เงินตราที่ tangible และ stable" ถ้าพื้นฐานคนคิดเป็นแบบนี้ จึงหมายความได้ว่า ระบบเงินตราใหม่ที่เตรียมนำมาใช้ก็คงไม่่แตกต่างกัน

 

ส่วนตัวกลับมองว่า....

 

จากนี้ระบบเงินตราต่อจากนี้.....มันไม่ใช่แค่เกมส์ของเงินตราอย่างเดียว

 

มันจะจะพัวพันกับอำนาจและการเมืองระดับโลก... (อาจจะต้องมีสงครามเข้ามาเกี่ยวข้อง)

 

ผู้ชนะเท่านั้น....ที่จะกำหนดชะตา และอนาคต....ว่าจะเป็นไปทางใด

 

จะเอาอะไรเป็นหลัก..เป็นเกณฑ์...

 

Armstrong คิด...โดยยังใช้สมมติฐานเดิมว่ามีแต่ระบบการเงินเท่านั้นที่จะเปลี่ยนเกมส์เล่นใหม่....

 

ย้ายสกุลเงิน....แต่กลุ่มผู้เล่นหลัก...และผู้ทรงอำนาจทางการเงินก็ยังคือคนกลุ่มเดิมๆ...

 

หลังการนองเลือด....ถ้ากลุ่มตะวันตก..เป็นผู้ชนะ...ผู้กำหนดเกมส์ก็คือคนกลุ่มเก่าๆนั่นแหละ

 

แต่ถ้าเป็นทางเอเซียและกลุ่มต่อต้านตะวันตก.....มันก็อาจจะไม่ใช่แบบที่ผ่านมาก็ได้นะครับ...

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ส่วนตัวกลับมองว่า....

 

จากนี้ระบบเงินตราต่อจากนี้.....มันไม่ใช่แค่เกมส์ของเงินตราอย่างเดียว

 

มันจะจะพัวพันกับอำนาจและการเมืองระดับโลก... (อาจจะต้องมีสงครามเข้ามาเกี่ยวข้อง)

 

ผู้ชนะเท่านั้น....ที่จะกำหนดชะตา และอนาคต....ว่าจะเป็นไปทางใด

 

จะเอาอะไรเป็นหลัก..เป็นเกณฑ์...

 

Armstrong คิด...โดยยังใช้สมมติฐานเดิมว่ามีแต่ระบบการเงินเท่านั้นที่จะเปลี่ยนเกมส์เล่นใหม่....

 

ย้ายสกุลเงิน....แต่กลุ่มผู้เล่นหลัก...และผู้ทรงอำนาจทางการเงินก็ยังคือคนกลุ่มเดิมๆ...

 

หลังการนองเลือด....ถ้ากลุ่มตะวันตก..เป็นผู้ชนะ...ผู้กำหนดเกมส์ก็คือคนกลุ่มเก่าๆนั่นแหละ

 

แต่ถ้าเป็นทางเอเซียและกลุ่มต่อต้านตะวันตก.....มันก็อาจจะไม่ใช่แบบที่ผ่านมาก็ได้นะครับ...

 

 

 

อย่างที่ว่าไว้ในบทความ ว่า Currency ใหม่ที่ว่า ไม่ใช่สกุลเงินที่ชาวบ้านร้านตลาด จะใช้ในชีวิตประจำวัน

มันเป็นสกุลที่ ธนาคารกลาง (แบงค์ชาติ) หรือกองทุนขนาดใหญ่ ใช้ Settle ระหว่างกันเวลาเกิดการแลกเปลี่ยนสกุลเงินกัน

 

จริงๆ แล้ว Electronic Currency นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่นะครับ เฉพาะ IMF ก็มีการนำระบบนี้มาใช้พักใหญ่แล้วมั้ง เรียก SDR

http://www.imf.org/external/np/fin/data/rms_sdrv.aspx

 

สกุลใหม่ที่ว่าก็น่าจะต่อยอดมาจากตรงนี้นั่นแหละครับ

ที่เขามั่นใจว่าจะออกมาแนวนี้ น่าจะเป็นเพราะ หลายๆ ประเทศที่เขาไปมีส่วนรับรู้ ก็ให้การสนุบสนุนแนวทางนี้ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หัวข้อน่าสนใจทั้งนั้นเลยครับคุณ john cm โดยเฉพาะ ทอง+สกุลเงิน

 

 

ปล. ที่ผมแซวคุณ deb99 น่ะ ไม่รู้มาก่อนเลยว่ามีเรื่องในใจกันอยู่ ไม่งั้นไม่โพสแซวเป็นแน่ ต้องขอโทษคุณ deb99+ทุกท่านด้วยนะครับ

 

ไม่เป้นไรครับพี่ milo จริงๆ ก้มีคนมาแซวผมบ่อย ผมก็ไม่ได้รุ้สึกโกรธเคืองอะไร รวมถึง คุณthon ในครั้งที่เค้าเข้ามาต่อว่าผม ผมก็ได้อธิบายเค้าไปแล้วว่า ผมแค่ต้องการขอบคุณผู้ที่ให้ความรุ้ และให้ข้อมูลที่มีประโยชน์ต่อเพื่อนๆ ผมได้อ่านกระทู้ใดๆ ผมก็จะพิมพ์ขอบคุณครับไป เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้ที่มีน้ำใจมาให้ความรุ้เรา และผมก็ได้บอกคุณthon ไปว่า ถ้าผมมาโพสแล้วมันทำให้เค้ารุ้สึกไม่ดี ผมก็ขอให้เค้าคอยพิมพ์ขอบคุณผู้ที่ให้ความรุ้ตามกระทู้ต่างๆเพื่อเป็นกำลังใจให้ท่านเหล่านั้น แต่เค้าก็ไม่ทำ และเรื่องก็ผ่านมานานเป้นปีแล้ว แต่ล่าสุด เค้ากลับไม่ยอมจบ ผมก็ไม่เข้าใจว่า ผมไปทำอะไรเค้า หรือ ไปล่วงเกินอะไรเค้าเข้า วันนั้นเค้าถึง มาโพสเช่นนั้นอีก แต่ก้มีเพื่อนๆมาบอกว่า ให้ใช้วิธีกด like แทน ผมก็ขอน้อมรับฟังครับ

 

 

มีเพื่อนๆส่งมาให้ ผมอ่านแล้วชอบ ขอพิมพ์ให้ทุกท่านอ่านเล่นๆนะครับ ผมไม่ได้คิดล่วงเกินอะไรคุณthon นะครับ

" คนที่ไม่เคยย่อท้อ ต่อคำอิจฉา นินทา และ คำวิพากษ์วิจารณ์ จะเติบโต .... และก้าวไปข้างหน้า

ส่วนคนที่ตั้งท่าคอย วิพากษ์วิจารณ์ หรือ อิจฉาคนอื่น ด้วยเจตนาไม่ดี เขามีแต่จะจมหายไปในกระแสธารแห่งกาลเวลา "

ถูกแก้ไข โดย deb99

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มองในแง่ ทั้งสองคนอาจยืนกันอยู่คนละจุด เลยมองต่างกันเท่านั้น

งั้นให้เรื่องนี้จบนะครับ :D :D :D :D

ให้อภัย ใจใส ใจสบายครับ

 

แหะๆ ผมเองก็ต้องระวังคำพูดเล่นให้มากขึ้น

ถูกแก้ไข โดย milo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอาเป็นว่า ทั้งสองคนอาจยืนกันอยู่คนละจุด เลยมองต่างกันเท่านั้น

งั้นเรื่องนี้จบนะครับ :D :D :D :D

ให้อภัย ใจใส ใจสบายครับ

ปล. = ถือว่าได้อ่านความเห็นคุณ deb99 นอกจากคำขอบคุณกันแล้ว happy ending :P

 

 

:_087 ยินดีครับพี่ ผมไม่ได้คิดจะมีปัญหากะใครๆอยุ่แล้วละครับ ผมเข้าเวบเฮียกัมมาก็เพื่อหาความรุ้และข้อมูลเท่านั้นอะครับพี่

ถูกแก้ไข โดย deb99

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ครับ ดีใจครับที่เคลียร์ได้

(จะเห็นได้ว่า ผมลบ ปล.ไป เผลอไปแซวอีกแล้ว :D :D )

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พูดถึงที่มีคนถามถึงแนวโน้มราคาทองคำในเฟซ และพี่ต้องตอบไปเพราะถามในเฟซพี่ใช่มั้ย เพราะคุ้นว่าในเวปนี้ไม่มีพูดความเห็นเรื่องราคา

 

ผมก็อ่านหลายๆที่วนเวียนไปมาก็เจอพี่ทั้งในนี้ ในเฟส ในคลับของอาจารย์ทนง แล้วยังกลุ่มข่าวสารการลงทุนอีก เลยไม่แน่ใจว่าอ่านมาจากตรงไหนแต่จำได้ว่าพี่บอกเกี่ยวกับราคาทองที่จะร่วง ก่อนลุงเบนประกาศ แล้วหลังประกาศก็จะเด้งขึ้นครับ เลยบอกว่าพี่แม่นมาก :gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดูเหมือน ถ้างั้นผลกระทบต่อชาวบ้านก็มีไม่มากนักหรือเปล่าครับคุณ johncm

สกุลเงินเดิมก็ยังใช้กันต่อไปเหมือนเดิม

 

คุณพ่อแมวครับคิดว่าสงครามจะเกิดที่ไหนครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

เรื่องเล่าจากเมืองลุงแซม ฝากไว้ให้เป็นอุทาหรณ์

 

เมื่อ ๑๓ ปีที่แล้ว คุณแม่คนหนึ่งซื้อกองทุนออมเงินเพื่อเรียนมหาลัยสำหรับลูกสาว โดยซื้อกองทุนกับ มอรอน สแตนเลย์ มูลค่า ๕๐๐ เหรียญลุงแซม (เมืองลุงแซมภาษีแพง และชอบมีสิทธิลดหย่อนภาษีเมื่อ "ลงทุน" ในกองทุนต่างๆ ผมเข้าใจว่าแกคงเลือกลงทุนเพื่อเหตุผลด้านภาษีด้วย)

 

เวลาผ่านไปนานจนแกลืมไปแล้วว่าซื้อกองทุนไว้ เลยลองไปเช็คยอดของกองทุนดู และคาดหวังว่ามันคงเพิ่มขึ้นมาบ้าง ... ที่ไหนได้ คำตอบที่แกได้รับก็คือ เงินที่ "ลงทุน" ไว้ ๕๐๐ เหรียญ ตอนนี้มีมูลค่าเหลือ ๑๗๓ เหรียญแล้ว .. (หายไป เกือบ ๓ ใน ๔)

 

มันจะไม่น่าโมโหเลยนะ ถ้าในช่วงเวลาเดียวกัน หุ้นมันตก ... แต่นี้หุ้นก็ขึ้น แสดงว่ามืออาชีพอย่าง มอรอน สแตนเลย์ บริหารเงินได้เก่งจริงๆ แพ้อัลฟ่าแบบหลุดลุ่ย

 

http://sherriequesti...-coverdell.html

 

ป.ล. อ่านแล้ว นึกถึงสถาบันการเงินในรัฐสารขันหลายๆแห่ง ที่มี กองทุน "การันตีผลตอบแทน" ให้เลือกมากมาย แต่ในหนังสือชี้ชวนอย่างเป็นทางการ จะไม่มีการการันตีใดๆทั้งสิ้น ในขณะที่กระดาษถ่ายเอกสารที่เขายืนมาให้ จะเขียนไว้ว่าการันตี และมักจะมีเขียนเน้นย้ำว่า ห้ามให้ลูกค้ากลับบ้าน

 

คุณ wcg ได้อ่านเหนือกว่าวอลสตรีทหรือยังครับ เขียนไว้ได้ละเอียดทีเดียวถึงการลงทุนของสถาบัน กองทุน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตามความเข้าใจของผม ตรงนี้ไม่ได้หมายถึง 1 ใน 9 คนที่มีสิทธิ์โหวต

แต่ละรัฐก็มีเฟดของตัวเอง ที่ลุงเหน่งพูดถึงหมายถึงอย่าไปฟังเฟดคนที่ไม่ได้มีสิทธิ์โหวตครับ

(ปล. ถ้าผมเข้าใจผิด ขออภัยด้วยนะครับ) :32

 

ถูกต้องตามคุณหมอเล็กเข้าใจเลยครับ ปกติประธาน FED แต่ละสาขาจะเข้าประชุม FOMC แต่คนที่มีสิทธิโหวตจะมีแค่ 5 คนจากทั้งหมด 11 สาขา ซึ่งในปี 2013 คือ สาขา นิวยอร์ค , เซนหลุยส์ , ชิคาโก , แคนซัสซิตี้ , บอสตัน

 

ส่วนปีหน้า 2014 จะเปลี่ยนเป็น นิวยอร์ค , คลีฟแลน , ฟิลาเดลเฟีย , ดัลลัส , มินิอาโพลิส

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นิวยอร์คได้สิทธิทุกปีเพราะเป็นสาขาใหญ่หรือครับ คุณหมีน้ำ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ส.ส.สหรัฐฯผ่านมติลดผลประโยชน์"สแตมป์อาหาร"สำหรับคนจน 39,000 ล้านดอลล์

 

 

วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 17:00:30 น.

 

13796711951379671213.jpg

 

 

 

 

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯลงมติยกเลิกผลประโยชน์ของสแตมป์อาหารตั้งแต่ปีหน้า เป็นต้นไป แม้ว่าทำเนียบขาวจะขู่วีโต และการคัดค้านจากลุ่มนักเรียกร้องก็ตาม

_70012464_156806564.jpg

 

สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรครีพับลิกันได้รับเสียงข้างมาก ผ่านมติไปอย่างเฉียดฉิวด้วยคะแนน 217-200 เสียง และคาดว่ามีโอกาสน้อยที่วุฒิสภาที่นำโดยพรรคเดโมแครต จะผ่านมติดังกล่าวเช่นกัน

 

กฎหมายฉบับนี้จะทำให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณไปได้ราว 39,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 10 ปีข้างหน้า แต่จะกระทบประชาชนผู้ยากไร้ที่เข้าร่วมโครงการสแตมป์อาหารกว่า 4 ล้านคน ตามรายงานของโครงการให้ความช่วยเหลือด้านโภชนาการ (สแนป) เปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้ว โครงการนี้ใช้งบประมาณไปถึง 78,000 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่าปี 2004 ถึง 3 เท่าตัว

 

กฎหมายฉบับนี้ยังอนุญาตให้แต่ละรัฐสามารถร้องขอเอกสารรับรองการทำงาน ของผู้ขอใช้สิทธิสแตมป์อาหาร และขอตรวจสอบการใช้ยาเสพติดได้ นอกจากนั้นยังยกเลิกการผ่อนผันที่อนุญาตให้ผู้ใหญ่ที่มีร่างการสมบูรณ์ ได้รับการยกเว้นที่ไม่ต้องติดตามที่จะได้รับแสตมป์อาหารไปเรื่อย ๆ

 

ทำเนียบขาวเปิดเผยในแถลงการณ์ว่า ร่างกฎหมายจะทำให้หนึ่งในโครงการที่มีขึ้นเพื่อต่อต้านภาวะความหิวโหยและ ความยากจนถูกทำลายลง ด้านสำนักงานงบประมาณรัฐสภา กล่าวว่า หากร่างกฎหมายมีผลบังคับใช้ ประชาชนกว่า 3.8 ล้านคนจะต้องสูญเสียผลประโยชน์ทั้งหมดภายในปีหน้า

 

แต่นายเอริค แคนเตอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นแกนนำในการผลักดันให้่มีการยกเลิกสแตมป์อาหาร เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องที่ชนชั้นกลางที่ต้องทำงานหนักเพื่อจ่ายภาษีให้กับ โครงการเช่นนี้ ขณะที่ผลการลงมติพบว่า ส.ส.เดโมแครตทุกคน และ ส.ส.รีพับลิกัน 15 คน ลงมติคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้

 

ด้านนางแนนซี โพเลซี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนฯ กล่าวตำหนิว่า การลงมติเห็นชอบเท่ากับเป็นการทำลายความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและสาธารณสุขของ ประชาชนนับล้านคน ส่วนนายลอยด์ ด็อกเก็ตต์ ส.ส.เดโมแครตจากรัฐเท็กซัส เรียกกฎหมายฉบับนี้ว่า "กฎหมายปล่อยให้อดตาย"

 

ร่างกฎหมายฉบับนี้ ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาเมื่อเดือนมิถุนายน โดยจะลดผลประโยชน์ของสแตมป์อาหารลงปีละ 400 ล้านดอลลาร์ หรือเพียง 1 ใน 10 ของการลดของสภาผู้แทนฯ ดดยทั้งสองสภา จะต้องหารือร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่กฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ส.ส.สหรัฐฯผ่านมติลดผลประโยชน์"สแตมป์อาหาร"สำหรับคนจน 39,000 ล้านดอลล์

 

 

วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 17:00:30 น.

 

13796711951379671213.jpg

 

 

 

 

 

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯลงมติยกเลิกผลประโยชน์ของสแตมป์อาหารตั้งแต่ปีหน้า เป็นต้นไป แม้ว่าทำเนียบขาวจะขู่วีโต และการคัดค้านจากลุ่มนักเรียกร้องก็ตาม

 

 

_70012464_156806564.jpg

 

 

 

สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพรรครีพับลิกันได้รับเสียงข้างมาก ผ่านมติไปอย่างเฉียดฉิวด้วยคะแนน 217-200 เสียง และคาดว่ามีโอกาสน้อยที่วุฒิสภาที่นำโดยพรรคเดโมแครต จะผ่านมติดังกล่าวเช่นกัน

 

กฎหมายฉบับนี้จะทำให้รัฐบาลประหยัดงบประมาณไปได้ราว 39,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายใน 10 ปีข้างหน้า แต่จะกระทบประชาชนผู้ยากไร้ที่เข้าร่วมโครงการสแตมป์อาหารกว่า 4 ล้านคน ตามรายงานของโครงการให้ความช่วยเหลือด้านโภชนาการ (สแนป) เปิดเผยว่า เมื่อปีที่แล้ว โครงการนี้ใช้งบประมาณไปถึง 78,000 ล้านดอลลาร์ หรือมากกว่าปี 2004 ถึง 3 เท่าตัว

 

กฎหมายฉบับนี้ยังอนุญาตให้แต่ละรัฐสามารถร้องขอเอกสารรับรองการทำงาน ของผู้ขอใช้สิทธิสแตมป์อาหาร และขอตรวจสอบการใช้ยาเสพติดได้ นอกจากนั้นยังยกเลิกการผ่อนผันที่อนุญาตให้ผู้ใหญ่ที่มีร่างการสมบูรณ์ ได้รับการยกเว้นที่ไม่ต้องติดตามที่จะได้รับแสตมป์อาหารไปเรื่อย ๆ

 

ทำเนียบขาวเปิดเผยในแถลงการณ์ว่า ร่างกฎหมายจะทำให้หนึ่งในโครงการที่มีขึ้นเพื่อต่อต้านภาวะความหิวโหยและ ความยากจนถูกทำลายลง ด้านสำนักงานงบประมาณรัฐสภา กล่าวว่า หากร่างกฎหมายมีผลบังคับใช้ ประชาชนกว่า 3.8 ล้านคนจะต้องสูญเสียผลประโยชน์ทั้งหมดภายในปีหน้า

 

แต่นายเอริค แคนเตอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นแกนนำในการผลักดันให้่มีการยกเลิกสแตมป์อาหาร เปิดเผยว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องที่ชนชั้นกลางที่ต้องทำงานหนักเพื่อจ่ายภาษีให้กับ โครงการเช่นนี้ ขณะที่ผลการลงมติพบว่า ส.ส.เดโมแครตทุกคน และ ส.ส.รีพับลิกัน 15 คน ลงมติคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้

 

ด้านนางแนนซี โพเลซี ผู้นำเสียงข้างน้อยในสภาผู้แทนฯ กล่าวตำหนิว่า การลงมติเห็นชอบเท่ากับเป็นการทำลายความมั่นคงด้านเศรษฐกิจและสาธารณสุขของ ประชาชนนับล้านคน ส่วนนายลอยด์ ด็อกเก็ตต์ ส.ส.เดโมแครตจากรัฐเท็กซัส เรียกกฎหมายฉบับนี้ว่า "กฎหมายปล่อยให้อดตาย"

 

ร่างกฎหมายฉบับนี้ ผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาเมื่อเดือนมิถุนายน โดยจะลดผลประโยชน์ของสแตมป์อาหารลงปีละ 400 ล้านดอลลาร์ หรือเพียง 1 ใน 10 ของการลดของสภาผู้แทนฯ ดดยทั้งสองสภา จะต้องหารือร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่กฎหมายฉบับนี้จะมีผลบังคับใช้

 

ตกลงนี่คือการบอกว่าเมกาฟื้นแล้วดิ เลยไม่ต้องมีคูปองอาหาร :uu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่ พูดว่า "ดังนั้นไม่มีหรอก เงินตราที่ tangible และ stable" ถ้าพื้นฐานคนคิดเป็นแบบนี้ จึงหมายความได้ว่า ระบบเงินตราใหม่ที่เตรียมนำมาใช้ก็คงไม่่แตกต่างกัน

 

 

อย่างที่ว่าไว้ในบทความ ว่า Currency ใหม่ที่ว่า ไม่ใช่สกุลเงินที่ชาวบ้านร้านตลาด จะใช้ในชีวิตประจำวัน

มันเป็นสกุลที่ ธนาคารกลาง (แบงค์ชาติ) หรือกองทุนขนาดใหญ่ ใช้ Settle ระหว่างกันเวลาเกิดการแลกเปลี่ยนสกุลเงินกัน

 

จริงๆ แล้ว Electronic Currency นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่นะครับ เฉพาะ IMF ก็มีการนำระบบนี้มาใช้พักใหญ่แล้วมั้ง เรียก SDR

http://www.imf.org/e...a/rms_sdrv.aspx

 

สกุลใหม่ที่ว่าก็น่าจะต่อยอดมาจากตรงนี้นั่นแหละครับ

ที่เขามั่นใจว่าจะออกมาแนวนี้ น่าจะเป็นเพราะ หลายๆ ประเทศที่เขาไปมีส่วนรับรู้ ก็ให้การสนุบสนุนแนวทางนี้ครับ

 

คิด ๆ ไปก็เป็นไปได้นะครับ ที่แต่ละประเทศจะชำระดุลบัญชีระหว่างประเทศด้วย เงินอ้างอิง เพราะเงินตอนนี้ ก็เป็นสิงสมมุติ ที่รัฐบาลให้ใช้ชำระหนี้(บังคับใช้)

 

แต่การจะรีเซ็ตระบบแบบนี้ หมายถึงการผิดนัดชำระหนี้ เงินในบัญชีกลายเป็นตัวเลขที่ไม่มีค่าอะไร อาจไม่เกิดสงคราม เพราะไม่มีประเทศไหนจะไปบังคับให้อเมริกาจ่ายหนี้ได้ (แม้จะจ่ายด้วยทรัพยากร ก็ตาม) ความเชื่อถือจะเป็นศูนย์ ประชาชนจะเข็ดขยาดกับระบบธนาคาร จนต้องหันไปหาโลหะเงิน โลหะทอง มาเก็บแทน แบบนี้ราคาทอง ก็จะกลายเป็นตัวอ้างอิงค่าเงินแต่ละประเทศ

 

ถึงตอนนั้น แม้ว่าสหรัฐจะสามารถบังคับให้อาหรับ ขายน้ำมันเป็นดอลล่าได้ แต่ราคาทองจะทำให้ประเทศเหล่านั้นรู้สึกขาดทุน จนพวกเขาต้องอิงน้ำมันกับราคาทอง

ไม่รู้ว่าจะถึงตอนนี้เมื่อไร อีกนานไหม 5 ปี 10 ปี ???

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...