ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

post-2564-0-05571600-1363996278.png

  • แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีข้อสรุปว่าจะปล้นเงินประชาชนกันอย่างไรดี ตอนนี้ไซปรัสได้รับเกียรติเป็นประเทศแรกในยูโรโซน ที่ออกกฏหมาย แคปิตอลคอนโทรล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
  • ไม่ว่าจะปล้น หรือไม่ปล้นเงินประชาชน ตอนนี้ไซปรัสไม่มีทางเลือก เพราะเมื่อธนาคารเปิด สิ่งที่ผู้ฝากเงินจะทำก็คือแห่กันไปถอนเงินออกจากระบบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นรัฐฯจึงต้องเข้ามาแทรกแทรง เพื่อไม่ให้วิบัติไปกว่านี้

http://www.zerohedge...al-controls-law

http://www.zerohedge.com/news/2013-03-22/cyprus-cartoon-catalog

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

post-2564-0-05571600-1363996278.png

  • แม้ว่าตอนนี้จะยังไม่มีข้อสรุปว่าจะปล้นเงินประชาชนกันอย่างไรดี ตอนนี้ไซปรัสได้รับเกียรติเป็นประเทศแรกในยูโรโซน ที่ออกกฏหมาย แคปิตอลคอนโทรล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
  • ไม่ว่าจะปล้น หรือไม่ปล้นเงินประชาชน ตอนนี้ไซปรัสไม่มีทางเลือก เพราะเมื่อธนาคารเปิด สิ่งที่ผู้ฝากเงินจะทำก็คือแห่กันไปถอนเงินออกจากระบบให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดังนั้นรัฐฯจึงต้องเข้ามาแทรกแทรง เพื่อไม่ให้วิบัติไปกว่านี้

http://www.zerohedge...al-controls-law

http://www.zerohedge...cartoon-catalog

 

 

 

ถ้าแบงค์เปิดมาแล้วให้ถอนโดยไม่มีเงื่อนไข...ความตื่นตระหนกก็คงจะไม่ยาวนาน...

แต่ถ้าเงื่อนไขเยอะ....เรื่องแยะ

พังแน่ครับ....และไม่ใช่เฉพาะแค่ไซปรัสด้วย...

ภายในไม่เกิน 2 ปี ยุโรปเละแน่....

 

ตอนนี้เชื่อว่า...สถานการณ์ของระบบสถาบันการเงินในกลุ่มประเทศลูกหมูก็คงจะไม่ดีสักเท่าไร....

ความหวาดวิตก ความเชื่อถือ ในระบบสถาบันการเงินทั้งยูโรคงจะปั่นป่วนแน่....

ถึงแม้ว่าในประเทศที่ไม่มีปัญหาเรื่องหนี้....ก็ใช่ว่าจะนอนใจได้

เพราะหากเกิดความไม่มั่นใจในระบบสถาบันการเงินขึ้นมา....

ประเทศเพียงแค่ 1-2 ประเทศทำเอายูโรหรือโลกนี้ปั่นป่วนได้อย่างไม่ยาก...

เพราะระบบการเงินในโลกทุกวันนี้วันโยงกันไปมา....ยืมกันให้ยุบยับไปหมด...

สว๊อปกันไป กันมา ไม่รู้กี่สิบเที่ยว.....(ตัวเงินที่แท้จริงไม่ได้เคลื่อนไหวเท่าไรดอก แต่ตัวเลขนี่สิ...นับไม่ไหว)

 

ดังนั้น...เมื่อเกิดความไม่เชื่อถือในระบบสถาบันการเงิน...

มีการแห่กันถอนเงินสัก 20 -30 % เท่านั้น...เราจะรู้เลยว่า...เฮ้ย ตัวเงินที่แท้จริงมันหายไปไหนหว่า....

 

ปล.ตอนนี้แมวน้อย...เปลี่ยนเป็น Phormaew แล้วนะครับ....

เรื่องจากว่าผมเกิดอยากจะเปลี่ยน E-mail ทำไปทำมาเลยหาทางกลับเข้าบ้านไม่ได้..

เลยต้องแปลงร่างกลับเข้ามาใช้ชื่อใหม่ ครับเพื่อนๆ

ถูกแก้ไข โดย Phormaew

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สิ่งที่แปลกก็คือ ภาษีเงินฝากให้ผลอย่างไร ใคร ๆก็รู้ ทำไมถึงได้ประกาศออกมาได้

 

เหมือนยังกะมีจุดประสงค์อะไรแฝงอยู่

 

หรือว่าเขาเก็บทองกันครบแล้ว

 

เข้าใจว่า...น่าจะเกิดจากการคุมระบบไม่อยู่แล้วมากกว่า...

 

ซึ่งถ้าดูจาก Balance sheets ของ IMF ตัวเงินก็ไม่ได้ มีอยู่ อย่า่งมากมาย...

 

ดังนั้น...ความช่วยเหลือก็คงจะไม่สามรถจัดให้ใครได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย..

 

จึงจำเป็นต้องปล่อยให้ ลูกเลี้ยง ต้องตายไปครับ...

ถูกแก้ไข โดย Phormaew

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธนาคารกลางนักปั่นราคาทองใช้คุมค่าเงิน-กลบกระแสต้านอัดฉีด

  • 20 มีนาคม 2556 เวลา 09:14 น.

A4D5DAAFBFAE46D2B1D403486DBB626D.jpg

 

 

 

โดย...พันธสิทธิ เจริญพาณิชย์พันธ์

กลายเป็นข่าวใหญ่ที่สร้างความตื่นตระหนกให้กับวงการทองคำโลกไม่น้อย เมื่อสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ได้เกิดกระแสนักลงทุนรายใหญ่ทั่วโลกต่างเทขายทองคำอย่างหนักในเดือนที่แล้ว จนส่งผลให้ราคาทองคำตกอยู่ในสภาวะเลวร้ายที่สุดในรอบ 25 ปี (ราคาปิดตลาดในลอนดอนเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ 1,581.55 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์) และคาดว่าจะเกิดการเทขายทองคำอย่างหนักและต่อเนื่องยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา

แม้ว่านักวิเคราะห์หลายฝ่ายจะออกมาชี้ว่าการเทขายสัญญาทองคำที่เกิดขึ้น จนราคาที่ลดลงนั้นจะเป็นผลมาจากทิศทางเศรษฐกิจโลกในอนาคตที่คาดว่าจะดีขึ้น และเป็นผลทำให้เหล่าบรรดาประเทศยักษ์ใหญ่หยุดใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ทว่าในความเห็นของนักวิเคราะห์บางส่วนก็ไม่ได้เห็นไปตามนั้นทั้งหมด เพราะบางส่วนเห็นว่าทิศทางราคาทองคำปัจจุบันนั้นไม่ได้ขึ้นกับปัจจัยพื้นฐาน ของเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากการพยายามกดราคา หรือปั่นราคา โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากฝีมือธนาคารกลางยักษ์ใหญ่ของโลกนั่นเอง

ข้อมูลจากคณะกรรมการต่อต้านการผูกขาดทองคำ (จีเอทีเอ) ระบุว่า เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เหล่าบรรดาธนาคารกลาง โดยเฉพาะในประเทศตะวันตกพยายามกดราคาทองให้ต่ำลงกว่าความเป็นจริง เพราะจะทำให้ธนาคารกลางสามารถควบคุมและกำหนดทิศทางของผลิตภัณฑ์ทางการเงิน อื่นๆ ในตลาดได้ อาทิ อัตราแลกเปลี่ยน พันธบัตรรัฐบาล และอัตราดอกเบี้ย

สำหรับวิธีการที่เหล่าธนาคารกลางใช้ปั่นราคาทอง ก็คือ การพยายามแสดงให้เห็นว่าธนาคารเหล่านี้ถือครองสัดส่วนทองคำแท่งเป็นทุนสำรอง ไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งนั่นส่งผลเชิงจิตวิทยาของตลาดให้เกิดความรู้สึกไปว่ายังมี “ซัพพลาย” ทองคำแท่งที่จะเข้าสู่ตลาดมากพอต่อความต้องการจนในที่สุดทำให้ราคาทองในตลาด ก็ต่ำลง

แม้ว่าข้อมูลของสภาทองคำโลก (ดับเบิลยูจีซี) จะออกมาชี้ว่า ในปี 2012 ธนาคารกลางทั่วโลกหันมาเพิ่มสัดส่วนการถือครองทองคำเป็นทุนสำรองเป็นมูลค่า มากกว่า 12 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ปี 2000 อยู่ที่ 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น

ทว่าทางด้าน คริส โพเวล เลขาธิการคณะกรรมการต่อต้านการผูกขาดตลาดทองคำ ได้ออกมาแย้งว่า ทองคำสำรองที่เหล่าแบงก์ชาติระบุออกมาอย่างน้อย 7075% ไม่ได้มีอยู่ในการถือครองจริงๆ

“มีปริมาณซัพพลายของทองคำในตลาดมากมายมหาศาลที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยเหล่า บรรดาธนาคารกลางของประเทศตะวันตก และเป็นเรื่องง่ายมากที่จะเขียนออกมาในรายงานว่าแบงก์ชาติเหล่านั้นมีทองคำ เป็นทุนสำรองอยู่มาก ทั้งๆ ที่ไม่มีอยู่จริง” โพเวล กล่าว

คำกล่าวของ โพเวล ไม่ใช่คำกล่าวอ้างที่เลื่อนลอยแต่อย่างใด เพราะเมื่อปลายปีที่แล้วมีรายงานข่าวว่า องค์กรจีเอทีเอได้รับรายงานฉบับหนึ่งขององค์กรการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (บีไอเอส) ที่ตรวจสอบ พบว่า เหล่าบรรดาธนาคารประเทศตะวันตกพยายามปกปิด และปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูลการยืมทองคำ และการทำสัญญาสวอปทองคำเอาไว้

แม้ว่าในรายงานจะไม่ได้บอกถึงเหตุผลของการปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อมูล แต่ก็รู้ได้ไม่ยากว่าสาเหตุที่ต้องปกปิดเอาไว้ ก็เพราะเหล่าบรรดาแบงก์ชาติเหล่านี้กลัวว่า ข้อมูลดังกล่าวจะนำไปสู่การเปิดโปงโฉมหน้าของธนาคารกลาง ที่เป็นผู้แทรกแซงในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนมาเป็นเวลานาน

ขณะเดียวกัน อีกหลักฐานหนึ่งที่เป็นตัวบ่งถึงความผิดปกติที่บ่งชี้ว่า ธนาคารกลางเป็นตัวปั่นราคาไว้ ก็คือ ปริมาณซัพพลายของทองคำแท่งในตลาดโลกใน 12 ปีที่ผ่านมา ที่ไม่เปลี่ยนแปลงไปไหนเลย ทั้งๆ ที่ความต้องการซื้อทองคำจาก จีน อินเดีย สหรัฐ และจากประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเกินกว่าปริมาณซัพพลายในตลาด

“ทองคำมากมายนั้น มาจากไหน? ผมคิดว่าธนาคารกลางของตะวันตกพยายามขายทองคำออกมาเพื่อทำให้ราคาทองคำต่ำลง” อีลิก สปรอต ผู้ก่อตั้งกองทุนการจัดการสปรอตแอสเซทเมเนจเมนต์ กล่าว

นอกเหนือจากการที่เหล่าแบงก์ชาติยักษ์ใหญ่ต้องการกดราคาทอง เพื่อใช้เป็นเครื่องมือแทรกแซงอัตราแปลกเปลี่ยนแล้ว อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้แบงก์ชาติต้องกดราคาทองเอาไว้ ก็คือ การพยายามบิดเบือนความสนใจของตลาดไม่ให้หันไปกล่าวโทษการใช้นโยบายการ กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างหนัก จนส่งให้ราคาทองในช่วงก่อนหน้านี้พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยในเดือน ต.ค. ปี 2012 ราคาทองคำเคยทำสถิติพุ่งขึ้นไปแตะที่ 1,790 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์

“ผมยอมรับว่าการปั่นราคาทองคำของเหล่าแบงก์ชาติอาจฟังดูเป็นทฤษฎีการสมคบ คิด แต่ผมเชื่ออย่างสนิทใจว่าธนาคารกลางกำลังแทรกแซงราคาทองคำไม่ให้สูงขึ้น เพราะรู้ว่าการดำเนินนโยบายอัดฉีดทางการเงินอย่างหนัก กำลังส่งผลให้ราคาทองคำและสินค้าโภคภัณฑ์สูงขึ้น ดังนั้น พวกเขาจึงต้องแทรกแซงราคาทองคำไว้ไม่ให้สูงขึ้น และปกปิดการดำเนินนโยบายอย่างไม่รับผิดชอบเอาไว้” อีลิก สปรอต ผู้ก่อตั้งกองทุนการจัดการสปรอตแอสเซทเมเนจเมนต์ และเป็นผู้ถือครองทองคำแท่งรายใหญ่ของแคนาดา กล่าว

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์จากกองทุนการจัดการสปรอตแอสเซทเมเนจเมนต์ กล่าวเสริมว่า หากเหล่าแบงก์ชาติไม่เร่งแทรกแซงราคาทองคำ แน่นอนว่าอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูง จะเป็นตัวขับดันให้ราคาทองคำ และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องแน่นอน ดังนั้น จึงทำให้ธนาคารกลางต้องแทรกแซงราคาทองคำเอาไว้ไม่ให้สูง

จึงน่าจับตาว่า ต่อจากนี้ไปทิศทางราคาทองคำในอนาคตจะเป็นเช่นไร และบทบาทของธนาคารกลางในตลาดทองคำท่ามกลางภาวะราคาทองคำขาลงจะลดการแทรกแซง ลงหรือไม่

 

 

นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง....ถ้าคอนโทรลไม่อยู่....

 

จะเกิดอะไรขึ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Announceเมื่อวันที่ 21 กระทรวงต่างประเทศรัสเซียส่งหนังสือด่วนไปยังสถานฑูตรัสเซียทั่วโลก แนะนำให้ทั้งคนและบริษัทของรัสเซียให้รีบหนีออกจากระบบการเงินการธนาคารของโลกตะวันตกโดยทันที เนื่องจากกลัวโดนปล้น :_cd

 

 

 

 

 

Russian Leader Warns, “Get All Money Out Of Western Banks Now!”

 

 

A Ministry of Foreign Affairs (MFA) “urgent bulletin” being sent to Embassies around the world today is advising both Russian citizens and companies to begin divesting their assets from Western banking and financial institutions “immediately” as Kremlin fears grow that both the European Union and United States are preparing for the largest theft of private wealth in modern history.[/color]

 

http://www.eutimes.n...tern-banks-now/

ถูกแก้ไข โดย MOR LEK

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

post-2564-0-75056800-1364027084.jpg

 

มาดูเป็น กรณีศึกษา กัน ว่า แคปิตอลคอนโทรล ไซปรัสสไตล์ มีอะไรบ้าง (รัฐสามารถเลือกใช้ขอใด หรือไม่ใช้ก็ได้ตามอารมณ์)

  • การจำกัดการถอนเงินในแต่ละวัน (อันนี้มีอยู่ก่อนออกกฏหมายแล้ว)
  • ห้ามปิดบัญชีฝากประจำก่อนกำหนด (อืมมม)
  • บังคับให้ต่อฝากประจำอัตโนมัติเมื่อครบกำหนด (เฮ้ยยย)
  • บังคับให้เปลี่ยนบัญชีกระแสรายวันเป็นบัญชีฝากประจำ (ตายห่ะ สรุปว่าเป็น "โฮเต็ล แคลิฟอร์เนีย" ใช่ไม๊ ที่เช็คอินได้ แต่ห้ามเช็คเอ้าท์)
    :_10
  • ห้าม หรือมีข้อจำกัดในการทำธุรกรรมโดยไม่ใช้เงินสด (โอเค ใช้บัตรเครดิตแก้ขัดไปก่อน)
  • ข้อจำกัดในการใช้บัตรเครดิต/เดบิต และบัตรเติมเงินต่างๆ (อ้าว บัตรเครดิตก็ไม่ให้ตูใช้ .. เขียนเช็คก็ได้วะ)
  • ห้าม หรือมีข้อบังคับในการเปลี่ยนเช็คเป็นเงินสด (อิ๊บอ๋าย... สรุปว่าไอ้เงินนี่มันไม่ใช่ของตูใช่ม๊ายย)
    :033
  • มีข้อบังคับในการโอนเงินภายใน และระหว่างธนาคารในประเทศ (โอนไปโอนมา ก็เอาออกไม่ได้อยู่แล้ว กลัวไรว๊าา)
  • มีข้อบังคับในการติดต่อ และ/หรือ ทำธุรกรรม ระหว่างสาธารณะ กับสถาบันการเงิน (กลัวคนไปถล่มแบงค์เอาเงินคืนอ่ะดิ)
  • มีข้อบังคับในการเคลื่อนที่ของทุน การชำระเงิน การโอนเงิน (มันก็คือไอ้กฏที่ว่ามาข้างบนนั่นแหละ เอามาเขียนย้ำให้เจ็บใจทำไม๊)
  • และอะไรก็ตามที่รมว.คลัง หรือผู้ว่าการธนาคารกลางของไซปรัสเห็นควรเพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และความปลอดภัยของสังคม* (เอาเงินเค้าไปถลุงจนไม่เหลือ ไม่มีปัญญาเอามาคืนแล้ว ก็ต้องหาผักชีโรยหน้าเป็นธรรมดา อย่ามาอ้างข้างๆคูๆเล๊ยยยย)

http://maxkeiser.com...trols-approved/

แปลจากกรีก มาเป็นอังกฤษโดย @YiannisMouzakis

แปลจากอังกฤษ ใส่น้ำจิ้ม มาเป็นภาษาไทยโดย wcg

 

:_02

 

* อ่านถึงประโยคนี้แล้ว นึกถึงนวนิยายของ อายน์ แรนด์ ที่ชื่อ "แอทลาส ชรัค" ที่ตอนนี้ทำออกมาเป็นหนังจอเงินได้สองภาคแล้ว ---- มีหนังสืออยู่เล่มสองเล่ม ที่เขียนมาหลายสิบปีแล้ว แต่หยิบมาอ่านตอนนี้ นึกว่าเป็นการเขียนรายงานข่าวปัจจุบัน ---- ในไทยมีเป็นแผ่นออกมาแล้ว แนะนำๆ

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่เวียตนาม เคยอ่านข่าวมาว่ามีการซื้อบ้าน ซื้อที่ดินด้วยทองคำมาแล้ว เพราะค่าเงินด่องมันไม่คงที่จนคน

พยายามเก็บเป็นรูปอื่นมากกว่า (เช่นดอลล่าร์ และทองคำเป็นต้น)

เรื่องเวียดนามยืนยันตามที่คุณwcgเขียนเลยครับ(เคยไปเวียดนามมาหลายวัน) ในเวียดนามมีเงินสกุลหลักอยู่สามสกุลครับ ด่อง ทองคำ ดอลลาร์ ช่วงเงินด่องผันผวนมากๆ บางธุรกิจไม่ยอมรับเงินด่องเลย เวียดนามโดนมาเยอะครับ บางคนถึงวันนี้ยังไม่ยอมเอาเงินฝากธนาคารเลยครับ เก็บเป็นทองฝังดินครับ

ที่เวียดนามฝากเป็นทองคำได้ดอกเบี้ยด้วยครับ(แต่ได้น้อย)

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Announceเมื่อวันที่ 21 กระทรวงต่างประเทศรัสเซียส่งหนังสือด่วนไปยังสถานฑูตรัสเซียทั่วโลก แนะนำให้ทั้งคนและบริษัทของรัสเซียให้รีบหนีออกจากระบบการเงินการธนาคารของโลกตะวันตกโดยทันที เนื่องจากกลัวโดนปล้น :_cd

.........

  • รัฐบาลรัสเซีย - สหายรัสเซียทั้งหลาย รีบถอนเงินออกจากโลกตะวันตก ก่อนที่จะฉิบหายไปมากกว่านี้
  • รัฐบาลจีน - มีโฆษณาชวนเชื่อออกทีวี เชียร์ให้คนซื้อทอง และโลหะเงิน http://voices.yahoo.com/china-asks-citizens-buy-gold-silver-potential-4205357.html?cat=3
  • รัฐบาลลุงแซม - มีโฆษณาชวนเชื่อออกวิทยุ .. ไม่มีตังกินข้าวใช่ไม๊ เงินไม่พอใช้ใช่ไม๊ สมัครขอ "ฟูดแสตมป์" ให้รัฐเลี้ยงได้ตั้งแต่วันนี้ youtube.com/watch?v=QpqHZ2YxD4w

:37

 

เรื่องเวียดนามยืนยันตามที่คุณwcgเขียนเลยครับ(เคยไปเวียดนามมาหลายวัน) ในเวียดนามมีเงินสกุลหลักอยู่สามสกุลครับ ด่อง ทองคำ ดอลลาร์ ช่วงเงินด่องผันผวนมากๆ บางธุรกิจไม่ยอมรับเงินด่องเลย เวียดนามโดนมาเยอะครับ บางคนถึงวันนี้ยังไม่ยอมเอาเงินฝากธนาคารเลยครับ เก็บเป็นทองฝังดินครับ

ที่เวียดนามฝากเป็นทองคำได้ดอกเบี้ยด้วยครับ(แต่ได้น้อย)

 

นับว่าเรายังพอมีบุญเก่าเหลือนะครับ ที่ยังไม่มีวิกฤตการเงินแบบนั้นในตอนนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขาใหญ่เก็บทองเพิ่ม สงสัยใกล้ขึ้นแล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สิ่งที่แปลกก็คือ ภาษีเงินฝากให้ผลอย่างไร ใคร ๆก็รู้ ทำไมถึงได้ประกาศออกมาได้

 

เหมือนยังกะมีจุดประสงค์อะไรแฝงอยู่

 

หรือว่าเขาเก็บทองกันครบแล้ว

 

ผมคิดว่านี้คือการทดสอบครับ

- ทดสอบว่า ประชาชนจะมีความเห็นอย่างไร (แน่นอนต่อต้านอยู่แล้ว)

- ต้องการดูผลลัพธ์ ถ้าหักเงินจากบัญชีไม่ได้ ประเทศลูกหนี้จะทำยังไง (ใช้ Capital control)

- เป็นตัวอย่างให้ประเทศลูกหนี้ ถ้าไม่ยอมตามนายแบงค์ ก็ต้องล้มจมกันทั้งประเทศ แทนที่จะยอมสละเงินในบัญชีแค่ 10 %

 

เหนือสิงอืนใด ผมคิดว่าพวกขาใหญ่ ต้องการควบคุมการเงินโลก พูดแบบนี้อาจไม่เห็นภาพ

 

ลองคิดดูว่าในสถานะการปกติ ไม่มีใครบังคับใช้มาตรการณ์นี้กับคุณได้ (แม้คุณจะเป็นหนี้เขาก็ตาม)

แต่เมื่อคุณเข้าตาจน ก็ต้องไปอ้อนวอนเขา เป็นตามที่เขาขุดหลุมดักคุณไว้ แล้วคุณก็ยังเดินเข้าไป (ก็มันไม่มีทางอื่นแล้วนี้)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตอนนี้ไซปรัสลดจำเงินที่กดจาก ATM จาก 260 เป้น 100 ยูโรแล้ว

http://www.cyprus-mail.com/cyprus/cyprus-limits-atm-withdrawals-100-euros-day-and-popular-and-boc/20130324

 

ประเทศที่ใช้ได้แต่เงินสด แถมจำกัดจำนวนเงินที่กดได้ ผมคิดว่า

ไม่ต่างอะไรกับสมัยก่อนที่คนยังใช้เหรียญเงิน ชำระหนี้

พกเหร๊ยญเงิน เหร๊ยญทองยังจะใช้จ่ายได้มากกว่าธนบัตรอีกนะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วุฒิสมาชิกอเมริกาลงมติเฉียดฉิว ผ่านร่างงบประมาณครั้งแรกใน4ปี blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มีนาคม 2556 22:03 น.

 

 

blank.gif 556000003741401.JPEG อาคารรัฐสภาของ สหรัฐฯในกรุงวอชิงตัน วุฒิสภาสหรัฐฯเพิ่งผ่านร่างกฎหมายงบประมาณเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปี ทว่าความขัดแย้งระหว่างพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันในเรื่องวิธีการตัดลด ยอดขาดดุลงบประมาณยังคงดำเนินต่อไป blank.gif

เอเจนซีส์ - สภาสูงสหรัฐฯ ผ่านร่างงบประมาณครั้งแรกในรอบ 4 ปีด้วยคะแนนเฉียดฉิวเมื่อวันเสาร์ (23) ซึ่งถือเป็นบทโหมโรงสำหรับการอภิปรายเผ็ดร้อนเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้ของ รัฐบาลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงกลางปี

ร่างงบประมาณดังกล่าวได้รับความเห็นชอบด้วยคะแนน 50-49 หลังจากการอภิปรายมาราธอนตลอดคืนวันศุกร์ (22) ในวุฒิสภาที่เดโมแครตครองเสียงข้างมาก โดยที่มีวุฒิสมาชิกเดโมแครต 4 คนที่มีกำหนดลงสมัครรับเลือกตั้งใหม่ในปีหน้า แตกแถวเข้าร่วมกับรีพับลิกันคัดค้านร่างงบประมาณที่มีเป้าหมายเพิ่มรายได้ จากการเก็บภาษีใหม่เกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ด้วยการยุติการงดเว้นภาษีบางประเภทสำหรับเศรษฐี

หลังจากวุฒิสภาร่างงบประมาณฉบับนี้ ซึ่งสะท้อนเป้าหมายสำคัญอันดับแรกๆ ของเดโมแครตในการกระตุ้นการจ้างงาน ควบคู่กับการคงโปรแกรมโครงข่ายความคุ้มครองทางสังคม จึงเท่ากับว่า เวลานี้ในรัฐสภามีร่างงบประมาณรวม 2 ฉบับ โดยที่อีกฉบับหนึ่งนั้น สภาผู้แทนราษฎรที่มีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมาก เพิ่งผ่านออกมาก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน และก็สะท้อนเป้าหมายของฝ่ายรีพับลิกัน นั่นคือ มุ่งลดการขาดดุลงบประมาณในระยะยาว โดยไม่มีการขึ้นภาษีใดๆ ทั้งสิ้น

คาดหมายกันอยู่แล้วว่า ร่างงบประมาณทั้ง 2 ฉบับนี้จะไม่มีโอกาสเลยที่จะผ่านการเห็นชอบของทั้งสองสภา กระนั้น ร่างทั้งสองก็จะกลายเป็นพื้นฐานเพื่อให้สองพรรคต่อยอดวิสัยทัศน์ทางการคลัง ของตนเอง

แผนการของเดโมแครตที่นำเสนอโดยแพตตี้ เมอร์เรย์ ประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณวุฒิสภา ตั้งเป้าลดยอดขาดดุล 1.85 ล้านล้านดอลลาร์ภายใน 10 ปี ด้วยวิธีการขึ้นภาษีและการลดงบประมาณรายจ่ายในสัดส่วนเท่าๆ กัน

ส่วนแผนการของรีพับลิกันที่เสนอโดยพอล ไรอัน ประธานคณะกรรมาธิการงบประมาณสภาผู้แทนราษฎร ระบุถึงการลดงบประมาณรายจ่าย 4.6 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงเวลาเดียวกันนี้โดยไม่มีการขึ้นภาษีใหม่ และคาดหวังงบประมาณเกินดุลเล็กน้อยในปี 2023 ด้วยการลดโปรแกรมโครงข่ายความคุ้มครองทางสังคมที่ให้ความช่วยเหลือผู้สูงวัย และคนยากจน

ภายหลังการลงมติ เมอร์เรย์กล่าวว่า จะร่วมมือกับ ไรอัน เพื่อหาแนวทางที่ประนีประนอม

ด้านทำเนียบขาวแสดงความยินดีต่อความเคลื่อนไหวของวุฒิสภา และเรียกร้องให้ผู้นำทั้งสองพรรคหารือแนวทางร่วมกัน พร้อมย้ำว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ยินดีเจรจากับทุกฝ่ายเพื่อหาทางออกสำหรับความท้าทายด้านงบประมาณ

วุฒิสภาสหรัฐฯ ไม่เคยผ่านมติงบประมาณนับจากปี 2009 เนื่องจากข้อขัดแย้งเกี่ยวกับนโยบายการคลังกับสภาล่างที่รีพับลิกันควบคุม บีบบังคับให้รัฐสภาต้องหันไปหามาตรการใช้จ่ายเฉพาะหน้าหลายต่อหลายครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้รัฐบาลถังแตก และแม้เผชิญเส้นตายที่กดดันมาหลายครั้ง รวมทั้งแม้สมาชิกทั้งสองพรรคในคองเกรสเรียกร้องให้กลับสู่กระบวนการงบประมาณ ปกติ กระนั้น ถึงตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญยังเชื่อว่า มีโอกาสน้อยมากที่สองพรรคจะประนีประนอมกันได้

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รัฐสภาได้ตกลงผ่านมาตรการอัดฉีดงบประมาณเฉพาะหน้าให้แก่รัฐบาล เมื่อวันพฤหัสบดี(21) แล้ว ทำให้อุณหภูมิในถกเถียงเรื่องงบประมาณในรัฐสภาผ่อนคลายลง ด้วยการขจัดความเสี่ยงที่หน่วยงานของรัฐบาลจะต้องยุติการดำเนินงานในสัปดาห์ หน้า

สำหรับกระบวนการต่อไปนั้น คาดว่าผู้นำในทั้งสองสภาจะเปิดประชุมร่วมกัน ซึ่งจะไปสู่แนวโน้มการเผชิญหน้าครั้งใหม่ในช่วงฤดูร้อน เกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้ของรัฐบาล ที่คาดว่าทางกระทรวงคลังจะเสนอในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมหรือต้นเดือนสิงหาคม

จอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาล่างจากรีพับลิกัน เผยว่า ต้องการลดการใช้จ่าย 1 ดอลลาร์จากทุก 1 ดอลลาร์ที่ขยายเพดานหนี้ ขณะที่โอบามาไม่เห็นด้วย ทำให้เป็นที่คาดว่า สมาชิกรีพับลิกันในสภาและโอบามาอาจต้องใช้เวลาถกเถียงเรื่องนี้ยาวนานเหมือน ที่ผ่านมา

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

'ไซปรัส'เจรจายูโร'คืนวันอาทิตย์' ถ้า'ไม่ลงตัว'ยุติเงินฉุกเฉิน-แบงก์ล้ม blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 มีนาคม 2556 22:09 น.

 

 

blank.gif 556000003741601.JPEG พนักงานลูกจ้างหลาย พันคนของธนาคารในไซปรัส เดินขบวนไปยังรัฐสภา เพื่อแสดงการประท้วงในกรุงนิโคเซียเมื่อวันเสาร์(23 มี.ค.) หลังจากรัฐสภาหวนกลับมาลงมติปฏิรูปภาคธนาคาร และรัฐบาลเร่งรีบหาทางตกลงกับ “ทรอยกา” ให้ได้ภายในวันอาทิตย์ ด้วยความวิตกว่าถ้าหากถูกพวกเจ้าหนี้ระหว่างประเทศเหล่านี้ตัดเงินกู้ฉุก เฉิน ระบบธนาคารตลอดจนเศรษฐกิจของไซปรัสก็จะพังครืน blank.gif

เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีนิคอส อนาสตาเซียเดส ของไซปรัส เดินทางไปกรุงบรัสเซลส์ในวันอาทิตย์(24มี.ค.) เพื่อเจรจาหาทางทำให้ประเทศของเขารอดพ้นภาวะหลอมละลายทางการคลังในนาทีสุด ท้าย ขณะที่กรรมาธิการเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (อียู)ประสานเสียงรัฐมนตรีคลังเมืองเบียร์ ชี้ไซปรัสต้องตกลงเงื่อนไขเงินกู้ให้ได้ภายในคืนวันดังกล่าว ไม่เช่นนั้นยุโรปจะยุติการอัดฉีดเงินกู้ฉุกเฉินตั้งแต่วันจันทร์(25) ซึ่งจะทำให้แบงก์บางแห่งล่ม และอาจถึงขั้นที่ไซปรัสต้องอำลายูโรโซน

โฆษกรัฐบาลไซปรัส คริสตอส สตีเลียนิเดส แถลงที่กรุงนิโคเซียว่า อนาสตาเซียเดสเดินทางไปในเที่ยวบินพิเศษ พร้อมกับระบุว่า “การเจรจา (ระหว่างรัฐบาลไซปรัสกับพวกเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ ซึ่งจะเป็นผู้ให้เงินกู้ฉุกเฉิน เจ้าหนี้เหล่านี้มี 3 ฝ่าย จึงเรียกกันว่า “ทรอยกา” ประกอบด้วยอียู, ธนาคารกลางยุโรป หรือ อีซีบี, และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ) กำลังมาถึงขั้นตอนที่ละเอียดเป็นอย่างยิ่ง สถานการณ์มีความยากลำบากมาก และข้อจำกัดด้านเวลาก็ตึงตัวเหลือเกิน”

ทางด้าน ออลลี เรห์น กรรมาธิการฝ่ายเศรษฐกิจของอียู กล่าวเตือนไซปรัสว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องทำข้อตกลงให้ได้ภายในคืนวันอาทิตย์ เพื่อรักษาเศรษฐกิจของประเทศเอาไว้ให้ปลอดภัย

เขาแสดงความยินดีกับ “ความคืบหน้า” ของฝ่ายไซปรัส ในการทำตามข้อเรียกร้องต่างๆ ของอียู-ไอเอ็มเอฟ เกี่ยวกับการปฏิรูปภาคการธนาคารและระดมทุน 5,800 ล้านยูโร เพื่อจะได้รับเงินกู้ฉุกเฉิน 10,000 ล้านยูโรภายในเส้นตายวันจันทร์ (25)

ผู้นำไซปรัสมีนัดหารือกับบรรดารัฐมนตรีคลังยูโรโซนในค่ำวันอาทิตย์ ซึ่งเรห์นยอมรับว่า ผู้นำไซปรัสต้องตัดสินใจอย่างยากลำบากในการพยายามปกป้องเศรษฐกิจสืบเนื่อง จากระบบธนาคารที่พอกพูนด้วยหนี้เสียจากการปล่อยกู้ให้กรีซ อันเป็นศูนย์กลางวิกฤตยูโร ขณะที่ในอีกด้านหนึ่งประชาชนออกมาประท้วงอย่างหนักต่อแผนการของอียูในการ เรียกเก็บภาษีพิเศษจากบัญชีเงินฝาก

เขาสำทับว่า เหตุการณ์ช่วงหลายวันมานี้นำมาสู่สถานการณ์ที่ไม่เหลือทางเลือกที่น่าพอใจอื่นอีกต่อไป

ขณะที่ วูล์ฟกัง ชอยเบิล รัฐมนตรีคลังเยอรมนี เตือนเช่นกันว่า ไซปรัสจำเป็นต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขเงินกู้เพื่อแก้ไขถึงขั้นรากโคนของปัญหา มิเช่นนั้น ธนาคารกลางยุโรป จะยุติการให้เงินกู้ฉุกเฉินแก่บรรดาธนาคารไซปรัสตั้งแต่วันจันทร์ อันจะทำให้แบงก์บางแห่งล่ม และไซปรัสต้องอำลายูโรโซน

บรรดาผู้นำพรรคการเมืองต่างๆ ของไซรัสได้เจรจากันในกรุงนิโคเซียเมื่อวันเสาร์ (23) จนกระทั่งใกล้เวลาเที่ยงคืน เพื่อพยายามหาหนทางที่จะสามารถทำตามเงื่อนไขต่างๆ ของ ทรอยกา

เวลาเดียวกัน สื่อมวลชนรายงานว่า พวกเจ้าหน้าที่ของไซปรัสได้เจรจากับผู้แทนของอียูและไอเอ็มเอฟ จนกระทั่งมีความคืบหน้า โดยมีการตกลงกันว่า สำหรับ แบงก์ ออฟ ไซปรัส ที่เป็นธนาคารใหญ่ที่สุดของประเทศนั้น บัญชีเงินฝากที่มีเงินตั้งแต่ 100,000 ยูโรขึ้นไป จะถูกจัดเก็บภาษีครั้งเดียวในอัตรา 20% ส่วนบัญชีเงินฝากจำนวนเท่ากันในธนาคารอื่นๆ ที่ประสบปัญหาเช่นกันจะถูกเก็บ 4%

สถานีทีวีอิสระ เมกะ ทีวีรายงานว่า ภาษี 20% ที่จะเก็บจากผู้ฝากเงินของแบงก์ ออฟ ไซปรัส จะอยู่ในรูปพันธบัตรหรือการสวอปหุ้นเพื่อให้มาตรการนี้ผ่านความเห็นชอบของ รัฐสภา หลังจากเมื่อวันอังคารที่แล้ว (19) ที่รัฐสภาเพิ่งโหวตล้มแผนการฉบับก่อนที่รัฐบาลตกลงกับทรอยกา ซึ่งให้จัดเก็บภาษีเงินฝากทั้งหมด

เมกะ ทีวีรายงานต่อไปว่า รัฐบาลไซปรัสสามารถทำความตกลงเกี่ยวกับองค์ประกอบหลักๆ ส่วนใหญ่ในข้อตกลงที่จะไปทำกับพวกรัฐมนตรีคลังยูโรโซนแล้ว แต่พวกประเด็นท้ายๆ ที่คั่งค้างอยู่ อาจจะต้องไปต่อรองกันจนถึงนาทีสุดท้ายที่บรัสเซลส์

รัฐสภาไซปรัสนั้น หลังจากลงมติคว่ำมาตรการจัดเก็บภาษีเงินฝากทั้งหมดไปในวันอังคารแล้ว จากนั้นมาก็มีท่าทีอ่อนลง และได้ผ่านมาตรการปฏิรูปภาคธนาคารอันเจ็บปวดไปแล้วจำนวนหนึ่ง เป็นต้นว่า แบงก์ ไลคี (หรือ ป๊อปปูลา แบงก์) ซึ่งเป็นธนาคารใหญ่อันดับ 2 ของไซปรัสและประสบปัญหาหนักหน่วงที่สุด จะถูกปรับโครงสร้างอย่างรุนแรง โดยบัญชีเงินฝากตั้งแต่ 100,000 ยูโรขึ้นไปของแบงก์แห่งนี้จะถูกแยกไปอยู่ใน “แบดแบงก์” (bad bank) ซึ่งมีหวังจะติดอยู่ในนั้นนานหลายปี และในท้ายที่สุดผู้ฝากก็ยังอาจจะไม่ได้รับเงินคืนอย่างครบถ้วน

ในการประชุมที่บรัสเซลส์วันอาทิตย์ ประธานาธิบดีไซปรัสได้เชิญพวกหัวหน้าพรรคทั้งหมดเดินทางไปกับเขาด้วย เพื่อโน้มน้าวให้พวกรัฐมนตรียูโรโซนเชื่อว่า รัฐสภาจะไม่คัดค้านข้อเสนอใหม่อีก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอบีเอ็น แอมโร (ธ.ในฮอลแลนด์)

 

-คนที่ฝากทองคำไว้กับธนาคาร ตอนนี้ธนาคารไม่อนุญาตให้รับของจริงจากธนาคารแล้ว

-แต่ไม่ต้องกังวลใจไป บัญชีของคุณสามารถเปลี่ยนเป็นเงินสดได้ตามราคาตลาด เพราะเงินที่คุณลงทุนไว้ อยู่ในรูปโลหะมีค่า (จริงๆนะ)

 

http://www.zerohedge...l-gold-delivery

 

รัฐเทกซัส เตรียมตัวเรียกทองคำของรัฐคืนจากเฟดในนิวยอร์ค เพื่อเอามาเก็บไว้ด้วยตัวเอง (แทนที่จะถือตั๋วทองคำแยู่ในตอนนี้)

 

http://www.zerohedge...s-gold-back-fed

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...