ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

กระทู้เริ่มคึกคัก

 

ดอลเด้ง แต่ไม่มีตัวไหนยอมย่อ เป็นขาขึ้นที่แข็งแรง หากจะเอาลงต้องออกแรงทุบหนักๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สงสัยตรงนี้แหละมั้งที่ทำให้ทองพุ่งคืนนี้

 

A Federal Reserve Governor Announced A Surprising Change-Of-Mind About How He Sees The Economy

 

FED'S KOCHERLAKOTA WANTS RATE AT ZERO UNTIL 5.5% UNEMPLOYMENT (คงต้องรอชาติหน้า ไม่ก็ต้องเมคตัวเลขเอาถึงจะได้)

 

Read more: http://www.businessinsider.com/kocherlakota-sees-unemployment-as-being-cyclical-2012-9#ixzz2773SrN7i

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

t

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วรวรรณ ธาราภูมิ

 

16 ชั่วโมงที่แล้ว

มี คนถามว่า สงคราม จะช่วยให้เศรษฐกิจดีขึ้นได้อย่างไร (น้าพอล ครุกแมน) เคยพูดเหมือนกัน จนลุงมาร์ค ฟาเบอร์ โวยกลับไปว่า ถ้าสงครามจะช่วยให้ดีขึ้น ก็ขอให้เอานิวเคีบร์ไปลงหลังคาบ้านเจ้าพอลสักลูกไปเลย)

 

พอดีเจอบทความของ คุณเปลว สีเงิน วันนี้ เลยขออนุญาตคัดส่วนที่เกี่ยวข้องมาลง เพราะเขียนได้อ่านง่ายดีมากค่ะ

 

ขอบคุณไทยโพสท์สำหรับเนื้อหา และขอบคุณ Iraq War Life Magazine สำหรับภาพประกอบ

--------------------------------------------------------------------------

 

เศรษฐกิจกับสงคราม

 

 

เปลว สีเงิน

 

22 กันยายน 2555

 

โลกกำลังปั่นป่วน มวลมนุษยชาติสร้างภัยมาให้เผชิญกันเองไม่เว้นวัน จีนกับญี่ปุ่น ฝรั่งตะวันตกกับชาวมุสลิม นี่จะเป็นภัยใหม่ที่จะมาแทนภัยก่อการร้าย หรือไม่

 

หรือจะเป็นการก่อการร้ายรูปแบบใหม่

 

ใครที่ติดตามข่าวสารทางการฝรั่งเศสสั่งปิดสถานทูตและสถาบันวัฒนธรรมฝรั่งเศส ใน ๒๐ ประเทศทั่วภูมิภาคอาหรับ และในประเทศเสี่ยง รวมถึงไทย รับมือหนังสือพิมพ์ชาร์ลี เฮบโดของฝรั่งเศส ตีพิมพ์การ์ตูนรูปล้อเลียนศาสดามูฮัมหมัด รู้สึกแปลกใจเหมือนผมมั้ยครับ

 

รู้อนาคตอยู่แล้วว่าถ้าตีพิมพ์คือการจุดไฟความขัดแย้งให้ลุกโชนไปทั่วโลก ประเมินกันได้อยู่แล้วว่าไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ผมไม่รู้ว่ากฎหมายฝรั่งเศสบัญญัติไว้อย่างไร แต่ทุกประเทศในโลกนี้สามารถระงับการตีพิมพ์อะไรก็ตามที่มีผลกระทบต่อความ มั่นคง และที่ขัดศีลธรรมได้ ด้วยการขอคำสั่งศาล

 

ไม่เว้นกระทั่งฝรั่งเศส

 

ดูไปเหมือนเจ้าจักรวรรดิพวกนี้ต้องการให้บางอย่างเกิดขึ้น ในภาวะเศรษฐกิจที่ง่อนแง่นของยุโรป-อเมริกา อย่างไรอย่างนั้น

 

ทฤษฎีทำสงครามเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ พูดกันมานานตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ ๒ ทำนองมีการสมคบคิดเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

 

ความขัดแย้งในวงกว้างครอบคลุมทุกทวีปและประเทศส่วนใหญ่ในโลกในสงครามโลก ครั้งที่ ๒ แบ่งความขัดแย้งได้เป็น ๒ ภูมิภาค ทวีปเอเชียเริ่มขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๗๔ คือสงครามระหว่างจีนกับญี่ปุ่น

 

ทวีปยุโรปเริ่มต้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๐ จากการรุกรานโปแลนด์ และดำเนินไปจนกระทั่งสิ้นสุดในปี พ.ศ.๒๔๘๘

 

คาดว่ามีผู้เสียชีวิตในสงครามครั้งนี้มากกว่า ๖๐ ล้านคน นับเป็นสงครามที่ก่อให้เกิดความสูญเสียชีวิตมนุษย์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ของมนุษยชาติ

 

ผู้เข้าร่วมสงครามแบ่งเป็น ๒ ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งคือฝ่ายสัมพันธมิตรเดิม ประกอบด้วย อังกฤษ ฝรั่งเศส และสหภาพโซเวียต ส่วนฝ่ายตรงข้ามเรียกว่า ฝ่ายอักษะ นำโดย เยอรมนี อิตาลี และญี่ปุ่น ซึ่งมีการระดมกำลังทหารทั้งหมดมากกว่า ๑๐๐ ล้านนาย นับเป็นสงครามขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

 

เป็น "สงครามเบ็ดเสร็จ" ซึ่งได้นำทรัพยากรต่างๆ ไปใช้ในการสงคราม โดยไม่เลือกว่าเป็นของพลเรือนหรือทหาร

 

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ได้ส่งผลกระตุ้นให้เกิดการขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ อุตสาหกรรม และวิทยาศาสตร์ของชาติ เพื่อนำไปใช้ในการทำสงคราม ประมาณกันว่าสงครามโลกครั้งนี้มีค่าใช้จ่ายเป็นมูลค่าราวหนึ่งล้านล้าน ดอลลาร์สหรัฐ ตามค่าเงินในปี พ.ศ.๒๔๘๘

 

สงครามอ่าวในปี พ.ศ.๒๕๓๓-๒๕๓๔ ครั้งนั้น ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงพรวดพราด และสงครามสหรัฐบุกอิรัก พ.ศ.๒๕๔๖ ได้กระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ไม่ต่างจากสงครามโลกครั้งที่ ๒

 

เพราะจักรวรรดินิยมทางเศรษฐกิจอเมริกา มาพร้อมกับธุรกิจบริษัทค้าอาวุธเป็นแนวหน้า มีบริษัทน้ำมันเดินตามเป็นแนวหลัง

 

๒ ธุรกิจนี้คือผู้สนับสนุนรายใหญ่ของพรรคการเมืองในอเมริกา

 

ยามเศรษฐกิจโลกตกต่ำย่ำแย่ เศรษฐศาสตร์สงครามมักถูกนำมาเป็นคัมภีร์ แก้ไขปัญหาด้วยการก่อหนี้สาธารณะ ใช้นโยบายงบประมาณขาดดุล นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจนำหน้าด้วยการทหารทำศึกสงครามที่เรียกว่า "Keynesian Militarism" ถูกผลักดันโดยบริษัทค้าอาวุธผ่านนโยบายของประเทศมหาอำนาจตะวันตก

 

เหตุผลง่ายๆ การค้าอาวุธให้อัตราผลตอบแทนสูง สินค้าต่อหน่วยราคาสูงลิ่ว

 

ค่าใช้จ่ายภาครัฐบาล และภาคการผลิตอาวุธที่เพิ่มขึ้น ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ แม้เป็นการเติบโตที่ไม่ยั่งยืนก็ตาม

 

ข้อมูลตลาดหลักทรัพย์วอลสตรีทระบุว่า อุตสาหกรรมอาวุธยุทโธปกรณ์ในปี พ.ศ.๒๕๕๓ ขยายตัวในอัตราสูงเพิ่มขึ้น ๖๐% สวนทางกับสภาวะเศรษฐกิจทุนนิยมโลกที่ตกต่ำย่ำแย่

 

ข้อมูลของ SIPRI หรือสถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ระบุว่า ในปี พ.ศ.๒๕๕๓ ยอดทำสัญญาขายอาวุธ ๑๐๐ บริษัททั่วโลกเพิ่มขึ้นอยู่ที่ ๔.๑๑ แสนล้านดอลลาร์ ไทยเราเองก็เป็นลูกค้ารายใหญ่ของสวีเดน ช็อปฝูงบินกริพเพน จำนวน ๑๒ ลำ มูลค่า ๓๔,๔๐๐ ล้านบาทมาแล้ว

 

๑๐ อันดับบริษัทค้าความตาย เป็นบริษัทสัญชาติอเมริกัน ๗ บริษัท ที่เหลือเป็นอังกฤษ อิตาลี ฝรั่งเศส และยุโรป

 

ยิ่งรบยิ่งรวยครับ!

 

ส่วนธุรกิจน้ำมันตามเข้าไปหลังการยึดครอง มหาอำนาจทั้งสหรัฐ อังกฤษ และยุโรป แบ่งสันปันส่วนกัน

 

ลอร์ด บราวน์ ผู้บริหารระดับสูงของ BP ขณะนั้น ให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “มันไม่ได้อยู่ในความคิดของผมหรือของ BP เลย เรื่องสงครามเกี่ยวกับน้ำมัน อิรักเป็นผู้ผลิตที่สำคัญรายหนึ่ง แต่จะต้องตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับมรดกและน้ำมันของอิรัก”

 

แม้แต่สงครามเวียดนาม สหรัฐให้ความช่วยเหลือทางทหารและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแก่ไทยเป็นจำนวนมาก

 

ขณะเดียวกันการลงทุนภาคเอกชน สหรัฐเข้ามาในไทยจำนวนมาก เศรษฐกิจไทยขยายตัว ความต้องการใช้เงินลงทุนมีมาก กลุ่มธนาคารไทยมุ่งสนับสนุนธุรกิจในเครือข่ายของตน รัฐบาลต้องผ่อนปรนให้มีการตั้งบริษัทเงินทุนและเครดิตฟองซิเอร์ขึ้น

 

ทุกสงครามจึงเต็มไปด้วยผลประโยชน์ของมหาอำนาจ

 

ความตึงเครียดในภูมิภาคเอเชีย จีนกับญี่ปุ่นในข้อพิพาทเกาะเตียวหยู จีนกับเวียดนาม ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน มาเลเซีย ในข้อพิพาทหมู่เกาะสแปรตลีย์ ล้วนส่งผลทางเศรษฐกิจโดยตรงต่อสหรัฐ

 

โดยเฉพาะธุรกิจค้าอาวุธสงคราม

 

ครับผมไม่รู้ว่ารัฐบาลฝรั่งเศสคิดอย่างไร แต่ไม่น่าทำได้แค่สั่งปิดสถานทูตและสถาบันวัฒนธรรมฝรั่งเศสใน ๒๐ ประเทศทั่วภูมิภาคอาหรับ และในประเทศเสี่ยง รวมถึงไทย

 

เพราะความรุนแรงจากการหมิ่นศาสดาจะรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ อย่าลืมนะครับ ขบวนการก่อการร้ายระดับโลก โดยเฉพาะอัลกออิดะห์ได้เข้ามามีบทบาทแล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ส่วน ตัว(ไม่ยืนยันความถูกต้อง) เหตุการณ์911บางส่วนที่เกิด รัฐมีข้อมูลกลุ่มที่จะก่อเหตุมาก่อนแล้วแต่ก็ไม่เข้าไปขวาง(เขาคิดกันเอง หรือใครช่วยวางแผนและกระตุ้นให้เขาทำ) ที่คนสงสัยกันมากคือที่ตึกเพนตากอนใช่โดนเครื่องบินจริงมั้ยรูปภาพที่เห็น ตัดต่อได้ ส่วนที่สำคัญมากคือมีการอพยพคนจากตึกเพนตากอนก่อนถูกชน(เพื่อนที่เชื่อ ว่า911ไม่ได้สร้างสถานการณ์บอกว่ามีการอพยพจริงเพราะหลังเกิดเรื่องเขาสำรวจ เจอเครื่องบินมาทางนี้ แต่ที่เขาสงสัยกันคืออพยพคนเฉพาะฝั่งที่จะชน ส่วนอื่นของตึกไม่มีการอพยพ จะรู้ขนาดว่าจะชนมุมไหนของตึก ที่สำคัญหากล่องดำที่ชนตึกเพนตากอนไม่ได้ คนจำนวนน้อยแค่นั้นถ้าไม่เบื้องหลังหนุนช่วยจะได้ผลขนาดนั้นหรือ เครื่องบินชนตึกworld tradeจะเกิดผลขนาดนั้นจริงหรือ เขาอ้างปริมาณน้ำมันที่มีเยอะ ที่ผมสงสัยคือถ้าเผาไหม้นานมากๆแล้วถล่มผมจะเชื่อ แต่นึกย้อนอดีตซึ่งจำเหตุการณ์ไม่ค่อยได้แล้ว เผาไม่นานตึกทั้งตึกก็ถล่ม แน่ใจนะไฟเผาไม่นานถล่มได้แบบที่เห็น ช่วงหลังๆมีการพูดว่าภาพเครื่องบินก่อนชนมีอะไรเกิดเล็กๆที่ตึกก่อนเครื่อง บินชน ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นการตัดต่อ ถ้าเป็นการตัดต่อภาพผมเดาแค่2กลุ่ม 1)รัฐบาลตัดต่อเองแล้วก็โยนเข้ามาว่า เหตุการณ์911เป็นของจริงแต่ดูนี่ซิมีกลุ่มคนพยายามบิดเบือนและตัดต่อภาพ 2)กลุ่มที่บอกว่ารัฐบาลอเมริกาวางแผนตัดต่อภาพขึ้นมา ----------ถามคนที่เคยเห็นภาพตอนตึกถล่มณเวลานั้น ทุกคนตกใจมากและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตึกถล่มให้เห็นกับตา พอมีคำอธิบายออกมาทุกคนก็เชื่อแล้วเพราะเห็นตึกทรุดกับตา ถามกลับว่าถึงมีน้ำมันในเครื่องบินเยอะแต่เผาไม่นานตึกถล่มแล้ว ผมว่าแปลก(ผมไม่มีความรู้ด้านนี้นะแค่สงสัย) -----------อย่าเชื่อผมมากเรื่องแนวนี้ผมข้อมูลน้อยและไม่ใช่คนชอบหาข้อมูล ด้านนี้

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Seam Arsenalการลงทุนด้วยระบบ

21 นาทีที่แล้ว

 

GC จะมีการย่อตัวเร๊วๆนี้

 

534213_442127649167154_808011847_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อย่าพลาดการอ่านในGuru Corner นะครับ

Good Morning News จาก กองทุนบัวหลวง

มิตรแท้ตลอดเส้นทางลงทุน

 

24 กันยายน 2555

 

General News

------------------

 

• องค์กรการค้าโลก (WTO) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวการค้า ทั่วโลกปี 2555 ลงเหลือเพียง 2.5% จากระดับก่อนหน้าที่ 3.7% และปรับลดปีหน้าลงเหลือ 4.5% จาก 5.6% โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากวิกฤตหนี้ในยุโรป

 

• เลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาเศรษฐกิจ (OECD) กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในภาวะที่เปราะบางมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินปี 2008-2009 โดยการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจกำลังถูกสกัดกั้นโดยภาวะการค้าที่ชะลอตัวทั่วโลกและข้อพิพาทด้านดินแดนระ หว่างจีนและญี่ปุ่น (ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดรองจากสหรัฐ) โดยการค้าระหว่าง 2 ประเทศเพิ่มขึ้น 14.3% ในปีที่แล้ว สู่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 3.45 แสนล้านดอลลาร์

 

• รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม 7 ประเทศ (G7) เตรียมจัดการประชุมในโตเกียวในเดือนหน้า ประมาณวันที่ 11 ต.ค. เพื่อหารือในประเด็นวิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซน ตลอดทั้งประเด็นเศรษฐกิจโลกอื่นๆ

 

• สเปนเตรียมพร้อมรับมือการประท้วงต่อต้านรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีมาริอาโน ราฮอย เรื่องการปรับลดค่าใช้จ่ายที่เริ่มขึ้นในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งการประท้วงครั้งนี้จะตึงเครียดมากกว่าการครั้งอื่นๆ เนื่องจากรัฐสภาจะมีการประชุมในสัปดาห์นี้และกฎหมายของสเปนมีข้อห้ามอย่างชัดเจนต่อการประท้วงที่ด้านนอกของอาคารรัฐสภาในขณะที่มีการประชุม

 

• สเปนพยายามจะลดงบใช้จ่ายลงในช่วงนี้ โดยกำลังพิจารณาจะตรึงเงินบำนาญ และอาจเร่งเพิ่มอายุสำหรับการเกษียณสู่ 67 ปี จากเดิมที่ 65 ปี ซึ่งมาตรการชุดนี้จะช่วยออมเงินให้สเปนได้อย่างน้อย 4 พันล้านยูโรต่อปี และเป็นการปฏิบัติตามคำแนะนำในเอกสารของสหภาพยุโรป (อียู) ที่ออกมาในเดือน พ.ค.

 

• AGETT ซึ่งเป็นสมาคมการจ้างงานชั่วคราวของสเปน เปิดเผยว่า จำนวนประชาชนชาวสเปนที่ไม่มีงานทำในระยะยาวได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเกือบแตะระดับ 3 ล้านคน ซึ่งเป็นสัดส่วนกว่าครึ่งหนึ่งของประชาชนที่ไม่มีงานทำ หรือ 52.2%

 

• รัฐบาลอิตาลี ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจถดถอยของอิตาลีในปีนี้จะรุนแรงกว่าที่เคยคาดการณ์กันไว้ โดยคาดว่า GDP อาจหดตัวลง 2.4% ซึ่งสูงเป็นสองเท่าของ 1.2% ที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือน เม.ย. รวมทั้งได้ปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ยอดขาดดุลงบประมาณประจำปีนี้ขึ้นสู่ 2.6% จากเดิมที่ 1.7% ของ GDP แต่เพิ่มตัวเลขคาดการณ์ประจำปีหน้า สู่ 1.8% จากเดิมที่ 0.5% หรือเป็นการปรับขึ้นกว่า 3 เท่าจากตัวเลขคาดการณ์เดิม

 

• ยอดการกู้ยืมสุทธิของภาครัฐบาลอังกฤษ ซึ่งนับเป็นมาตรวัดยอดขาดดุลงบประมาณ ได้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.44 หมื่นล้านปอนด์ (2.341 หมื่นล้านดอลลาร์) ในเดือนส.ค. ซึ่งเพิ่มขึ้น 45 ล้านปอนด์จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

 

• ผู้นำสหภาพยุโรปและจีนได้บรรลุข้อตกลงหลีกเลี่ยงนโยบายกีดกันทางการค้า หลังจากเกิดสถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นและนานหลายเดือน โดยจีนจะยังคงลงทุนในพันธบัตรของยุโรปต่อไป ทั้งนี้ จีนมีทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ 3.24 ล้านล้านดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดในโลก โดยนักเศรษฐศาสตร์ระบุว่าทุนสำรองประมาณ 25% เป็นสินทรัพย์สกุลยูโร

 

• รมว.คลังบราซิล กล่าวว่า มาตรการพิมพ์ธนบัตรครั้งล่าสุดของสหรัฐและญี่ปุ่นจะทำให้สงครามค่าเงินทั่วโลกรุนแรงขึ้น เนื่องจากจะดึงดูดให้ประเทศอื่นๆ ดำเนินนโยบายเดียวกัน

 

• ผลสำรวจของ รอยเตอร์ ชี้ว่า บริษัทญี่ปุ่น 41% คาดว่าความขัดแย้งเรื่องเขตแดนระหว่างจีนกับญี่ปุ่นที่ทวีความรุนแรงขึ้นในช่วงนี้จะส่งผลกระทบต่อแผนธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทญี่ปุ่นบางแห่งพิจารณาที่จะถอนการลงทุนออกจากจีนเพื่อโยกย้ายไปยังประเทศอื่นๆอย่างเช่น ไทย อินโดนีเซีย และ มาเลเซีย แทน

 

• จีนจะขยายโครงการนำร่องการปฏิรูปภาษีอสังหาริมทรัพย์นอกเหนือไปจากเมืองเซี่ยงไฮ้และฉงชิ่งเพื่อชะลอราคาบ้านที่พุ่งขึ้น ซึ่งเป็นการยืนยันความตั้งใจของรัฐบาลที่จะสกัดการเก็งกำไรตลาดอสังหาริมทรัพย์หลังข้อมูลใหม่ระบุว่า ราคาบ้านพุ่งขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ร่วงลง 8 เดือนติดต่อกันจากมาตรการควบคุมราคาที่ใช้มากว่า 2 ปีแล้ว

 

• IMF ลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจเกาหลี ใต้ลงสู่ระดับ 3% ในปีนี้ หลังจากได้ขยายตัว 3.6% ในปี 2554 ก่อนจะฟื้นตัวขึ้นที่ 3.9% ในปี 2556 รวมทั้ง เรียกร้องให้เกาหลีใต้ยังคงดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายไปจนถึงปลายปีหน้า

 

• รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน ธปท. ประเมินแรงกดดันจากมาตรการ QE3 ของธนาคารกลางสหรัฐว่ามีแรงกดดันน้อยกว่าที่คาด และยังไม่พบการเก็งกำไรในสินทรัพย์ต่างๆ ที่มากเกินไป แต่ก็ยังต้องติดตามดูอย่างใกล้ชิด เพราะยังเป็นเพียงช่วงเริ่มต้นของการใช้มาตรการดังกล่าวเท่านั้น ทั้งนี้ หลังจากที่ FED ประกาศใช้ QE3 จนถึงวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเพียง 0.5% ซึ่งเป็นระดับที่ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาค

 

Equity Market

------------------

 

• SET Index ปิดที่ 1,286.26 จุด เพิ่มขึ้น 3.58 จุด หรือ 0.28% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 39,572 ล้านบาท และนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 508 ล้านบาท ทั้งนี้ ดัชนีตลาดหุ้นเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังขาดปัจจัยใหม่ๆ เข้ามา แต่การที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับขึ้น ถือเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้นต่อตลาดหุ้น

 

Fixed Income Market

--------------------------

 

• อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลส่วนใหญ่ทรงตัว ยกเว้นช่วงอายุ 5-10 ปี ที่ปรับเพิ่มขึ้นในช่วงระหว่าง 0.01% ถึง 0.03%

 

Guru Corner

----------------

 

Marc Faber

--------------

 

“ถ้าเรามีวิกฤติเศรษฐกิจเกิดขึ้นในโลกตะวันตก ก็เป็นเพราะรัฐบาลมีส่วน 50% หรือมากกว่า โดยทำตัวเป็นมะเร็งร้ายที่เอาเสรีภาพในการดำเนินธุรกิจออกไปจากประชาชน

 

ดังนั้น คนที่พิมพ์แบงค์ออกมาในระบบจะต้องรับ ผิดชอบกับวิกฤติครั้งนี้ และถ้าหากยังทำไม่หยุด เราไม่เพียงแต่จะเผชิญกับ Fiscal Cliff เท่านั้น มันจะเป็น Fiscal Grand Canyon เลยทีเดียว”

 

”ต่อให้ Mitt Romney (Republican) ชนะเลือกตั้งได้เป็นประธาสนาธิบดีอเมริกา ประธาน FED คนต่อไปก็จะเป็นนักพิมพ์แบงค์ดอลลาร์เหมือนกัน โดย FED คิดว่าพิมพ์เงินออกมาแล้วเงินจะสะพัดไปอยู่ในมือคนบนท้องถนน มันไม่ไปแน่ๆ เพราะเงินจะไปอยู่ในมือคนส่วนน้อยที่ร่ำรวยมีสินทรัพย์ โดยจะทำให้ราคาสินทรัพย์พุ่งสูงขึ้น

 

ขอแสดงความยินดีต่อ Ben Bernanke ด้วยที่ทำให้คนรวย คนมีสินทรัพย์ มีความสุขมากๆ และผมก็มีความสุขมากด้วย”

 

”ขณะนี้ผมไม่ชอบพันธบัตร และผมก็ไม่ชอบหุ้นด้วย แต่ลงทุนในหุ้นก็ยังดีกว่าลงทุนในพันธบัตร แต่ในสภาพแวดล้อมที่อัตราดอกเบี้ยสุทธิหลังหักเงินเฟ้อแล้วกลายเป็นติดลบ เราจะเผชิญกับความผันผวนเป็นอย่างมาก ซึ่งเรามี 2 กลยุทธ์ในการลงทุน

 

อย่างแรกคือแสวงหาสินทรัพย์ที่คิดว่าจะดีแล้วโยกไปมาบ่อยๆ เพราะมันจะผันผวน

 

อีกวิธีคือแบ่งเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ 4 ประเภทหลัก ได้แก่ โลหะมีค่า หุ้น อสังหาริมทรัพย์ และเงินสดกับพันธบัตร”

 

”แนวโน้มราคาทองคำจะมั่นคงแต่ดอลลาร์กับสกุลเงินอื่นๆ จะเสื่อมค่า นั่นก็คือราคาทองคำที่คิดป็นดอลลาร์มีแนวโน้มจะสูงขึ้น

 

หากอยากรู้ว่าจะขึ้นไปได้เท่าไรก็ให้โทรศัพท์ไปถาม Ben Bernanke เพราะที่ธนาคารกลางสหรัฐนั้นมีคนจำนวนมากที่พยายามทำให้ Bernanke ดูเป็นสายเหยี่ยว ซึ่งจะทำให้พวกเขาพิมพ์แบงค์ออกมาได้

 

ทางที่ดีแล้วเราควรมีทองคำกันไว้ แต่อย่าเก็บมันในสหรัฐ เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED) จะปล้นมันไปจากเราสักวันหนึ่ง”

 

“หุ้นในตลาดจีนกำลังน่าซื้อ ส่วน Kazakhstan ก็มีเศรษฐกิจดีกว่าสหรัฐและยุโรปมาก”

 

Nouriel Rubini

------------------

 

“Recession ในกลุ่มยูโรโซนกำลังเลวร้ายลงไปเรื่อยๆ อิตาลีกำลังถลำลึก ฝรั่งเศสกำลังเข้าโซนถดถอย ในขณะที่อัตราการขยายตัวของเยอรมนีที่เคยลดลงแรงๆ ดูดีขึ้นบ้าง”

 

“พิจารณาจากการเมืองอเมริกาที่เป็น 2 ขั้วกับนโยบายที่ตีบตัน ทำให้คาดเดาได้ว่า 2 พรรคนี้จะต่อสู้กันอย่างหนักอีกครั้งในเรื่องของงบประมาณ เรื่องเพดานหนี้ และเรื่องจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถืออีกครั้ง แล้วก็จะตกลงกันไม่ได้ในเรื่องนโยบายแก้ปัญหา Fiscal Cliff ได้อย่างยั่งยืนในระยะกลาง

 

ทั้งนี้ ไม่ว่าโอบามาจะกลับมาเป็นประธานาธิบดีอีกหรือไม่ ในทางตรงข้าม เราคาดหวังได้ว่า 2 พรรคนี้จะตกลงกันได้เฉพาะในขอบเขตที่ขัดแย้งกันน้อยที่สุดเท่านั้น จนกว่าผู้ลงทุนในพันธบัตรจะไหวตัวตื่นแล้วทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรระยาวสูงขึ้น จนกดดันให้ต้องปรับนโยบายการคลัง”

 

“น่าแปลกใจนิดหน่อยที่เยอรมันซึ่งการเมืองในประเทศนั้นไม่สามารถลงคะแนนให้ไปอุ้มใครเพิ่มได้อีกกลับส่ง ผ่านภาระนี้ไปให้ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งกลายเป็นสถาบันเดียวที่ไม่ต้องใส่ใจรัฐบาลของประเทศสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งได้

 

แต่การอัดฉีดเงินของ ECB อย่างเดียวเพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ ในยุโรป โดยไม่มีนโยบายทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้โดยเร็วนั้น จะช่วยเพียงชะลอแต่จะไม่ช่วยป้องกันการสลายตัวของสหภาพยุโรปได้เลย ทั้งยังจะนำไปสู่การสลายตัวด้วย”

 

“ไม่เกินปีหน้า ไม่ว่าจะถูกหรือผิด อิสราเอล และ/หรือ สหรัฐอาจตัดสินใจเข้าโจมตีอิหร่าน ซึ่งจะทำให้เกิดสงครามและทำให้ราคาน้ำมันพุ่งทะยานขึ้นมหาศาล”

 

Jim Rogers

--------------

 

“การพิมพ์แบงค์ออกมาไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใครได้เลย ในระยะสั้นมันอาจทำให้อะไรๆ ดูดีขึ้น จะหวังว่าครั้งนี้อาจจะแตกต่างก็ได้ แต่คนที่ศึกษาประวัติศาสตร์หรือเศรษฐศาสตร์ย่อมรู้ดีว่าในระยะยาวมันไม่ได้ผล และไม่เคยช่วยเปลี่ยนปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจได้เลย

 

ที่ผมลงทุนในโลหะมีค่าก็เพราะรู้ว่ารัฐบาลในหลายๆ ประเทศจะพิมพ์เงินออกมาจนท่วมระบบ และผมจะไม่ขายทองคำออกไปเป็นอันขาด ถ้าราคาลงผมก็จะซื้อเพิ่ม ถ้าลงมากๆ ผมหวังว่าจะฉลาดพอที่จะซื้อมากๆ เพราะในทศวรรษหน้าราคาทองคำจะพุ่งขึ้นสูงกว่านี้อีกมาก

 

เมื่อนักการเมืองทั่วโลกกำลังทำผิดด้วยพิมพ์เงินออกมามากๆ วิธีป้องกันตนเองของเราคือการสะสมทองคำ แร่เงิน แพลทตินัม พาลาเดียม หรือโลหะมีค่าอื่นๆ เพราะโลหะมีค่าจะปกป้องเราให้คงอำนาจซื้อไว้ได้ในยามที่เงินตราหมดค่า”

 

“เราเจอ Recession ในปี 2002 และเจออีกครั้งในปี 2007-2008 ซึ่งแย่ลงมากเพราะเรามีหนี้เพิ่มมากขึ้น แต่ Recession ในรอบหน้านี้จะยิ่งหนักกว่าเดิมหลายเท่า เพราะว่าหนี้ของเราเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล และเราใช้กระสุนไปจนหมดแล้ว รัฐบาลจะแก้ได้อย่างไรอีก ด้วยการเพิ่มหนี้อีก 4 เท่าอย่างนั้นหรือ ?”

 

Peter Schiff

---------------

 

“คนต้องการทางเลือกอื่นที่ไม่ใช่ดอลลาร์และยูโร นั่นก็คือทองคำกับแร่เงิน”

 

“พวกอัจฉริยบุคคลใน FED ได้ผลิตแผนกระตุ้นเศรษฐกิจอเมริกาด้วยการพิมพ์แบงค์ออกมาอีกแล้ว แล้วก็จะปล่อยกู้ให้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำที่สุด เพื่อว่าพวกที่เอาเงินไปจะได้ไปเก็งกำไรในราคาอสังหาริมทรัพย์ที่กำลังเพิ่มขึ้น เอาไปเก็งกำไรในหุ้นแล้วขายออก พอได้เงินมาก็เอาไปซื้อข้าวของ

 

พูดง่ายๆ ก็คือ อเมริกากำลังสร้างเศรษฐกิจของกลุ่มอ สังหาริมทรัพย์ โดยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และเพื่อกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ แต่ปัญหาเดียวที่เราพบก็คือ ครั้งสุดท้ายที่ทำไปนั้นมันทำลายเศรษฐกิจอเมริกาทั้งระบบ ดังนั้น พวกที่ทำงานที่ FED ควรโดนไล่ออกได้แล้ว”

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

CDC Talk Webinar 20120917 (ลุงโฉลก สุดยอดTA) พูดเกี่ยวกับสงคราม ช่วงท้ายบอกว่าทองคำใกล้1800น่าจะย่อพอควรระยะยาวทองคำไปไกลมาก ส่วนSETยังขึ้นต่อเป้าหมายยาวไกล

 

http://www.youtube.com/watch?feature=player_embedded&v=aNwpiFKwO5Y

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ห้องดีๆ ห้องนี้ยังไม่เงียบเพราะมีคุณส้มโอมืออยู่

 

ขอบคุณข่าวคราวที่เอามาฝากเสมอครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันที่ 24 กันยายน 2555 03:35 news_img_ceo_6.jpg ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ

ผลกระทบของคิวอี 3

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

นโยบายการเงินที่ผ่อนปรนของสหรัฐนั้นเป็นการซื้อเวลา แต่มิได้เป็นการแก้ปัญหาหลักแต่อย่างใด

 

ครั้งที่แล้วผมเกริ่นถึงผลกระทบของคิวอี3 ที่ธนาคารกลางสหรัฐประกาศ ออกมา ครั้งนี้ผมจะขอขยายความเกี่ยวกับผลกระทบแต่ต้องยอมรับว่าการคาดการณ์นั้นอาจ ผิดพลาดได้โดยง่าย เพราะมีปัจจัยและตัวแปรหลายด้านที่จะทำให้คำตอบออกมาแตกต่างกัน แต่หากจะสรุปจากเสียงส่วนใหญ่ จะเห็นว่ากังวลว่าเงินทุนจะไหลเข้าประเทศไทยทำให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่าง มากในระยะสั้น ซึ่งจะส่งผลต่อการขยายตัวของการส่งออกของไทยและจะทำให้การขยายตัวของ เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลงในครึ่งหลังของปีนี้

การคาดการณ์ดังกล่าวมีเหตุมีผล เพราะการประกาศมาตรการผ่อนปรนเชิงปริมาณ (quantitative easing) ของธนาคารกลางสหรัฐเมื่อวันที่ 13 กันยายนที่ผ่านมานั้นถือได้ว่าเกินเลยจากการคาดการณ์ของตลาดค่อนข้างมาก ซึ่งผมสรุปว่าธนาคารกลางสหรัฐต้องการจะสื่อให้ทราบว่า

1. นโยบายผ่อนปรนทางการเงินนั้นจะทำอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวแล้วก็ยังจะทำต่อไป ดังนั้นจึงไม่ต้องห่วงเลยว่าธนาคารกลางจะปรับเปลี่ยนนโยบายใน 2-3 ปีข้างหน้านี้

2. หากจะคาดคั้นว่านโยบายผ่อนปรนเช่นว่านี้จะยืดเยื้อต่อเนื่องไปอีกนานเท่า ไหร่ ก็อาจพูดได้ว่าจะยาวนานไปถึงกลางปี 2015 (เทอมของนายเบอร์นันเก้หมดต้นปี 2014) หรืออาจยาวนานกว่านั้น หากอัตราการว่างงานไม่ลดลงต่ำกว่า 7% (ปัจจุบันอยู่ที่ 8.1%)

3. ธนาคารกลางจะพิมพ์เงินใหม่ออกมาซื้อพันธบัตรที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (MBS) เดือนละ 40,000 ล้านเหรียญ โดยเริ่มวันที่ 14 กันยายนเป็นต้นไปและไม่มีการกล่าวถึงข้อจำกัดทั้งในเชิงของปริมาณหรือระยะ เวลาเช่นที่เคยทำ

4. นอกจากนั้นนักลงทุนก็ยังค่อนข้างจะเชื่อมั่นว่าธนาคารกลางสหรัฐจะ พิมพ์เงินใหม่ออกมาอีก 45,000-60,000 ล้านเหรียญเพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป โดยไม่มีข้อจำกัดในเชิงของปริมาณหรือระยะเวลาเช่นเดียวกัน

หากเป็นเช่นนั้นจริงเราอาจเห็นธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์เงินใหม่ออกมาเดือนละ 85,000 ถึง 100,000 ล้านเหรียญอย่างต่อเนื่องถึงกลางปี 2015 ซึ่งเป็นเงินมหาศาล เพราะก่อนวิกฤติเศรษฐกิจธนาคารกลางสหรัฐพิมพ์ เงินทั้งหมดออกมาหมุนเวียนในระบบเพียง 870,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่เมื่อเกิดวิกฤติก็ได้พิมพ์เงินเพิ่มออกมาจนกระทั่งปัจจุบันงบดุลของ ธนาคารกลางขยายตัวออกมาเป็น 2.8 ล้านล้านเหรียญแล้วและหากพิมพ์เงินออกมาอีกเดือนละ 85,000 ล้านเหรียญไปอีก 30 เดือน งบดุลของธนาคารกลางสหรัฐจะเพิ่มขึ้นมาอีก 2.75 ล้านล้านเหรียญ แปลว่างบดุลของธนาคารกลางสหรัฐจะเพิ่มขึ้นอีกเกือบเท่าตัวในอีกไม่ถึง 3 ปีข้างหน้า

นายเบอร์นันเก้ทำเช่นนี้ เพราะกลัวว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะซึมยาวเช่นเดียวกับญี่ปุ่น ซึ่งเศรษฐกิจฟื้นตัวแบบล้มลุกคลุกคลานมาตั้งแต่ปี 1989 และปัจจุบันก็ยังอยู่ในภาวะเงินฝืด(เงินเฟ้อติดลบ) ซึ่งนายเบอร์นันเก้เคย “สั่งสอน” ธนาคารกลางญี่ปุ่นเอาไว้ว่าควรดำเนินนโยบายการเงินที่ “แหวกแนว” เพื่อป้องกันมิให้เกิดสภาวะดังกล่าว ซึ่งบั่นทอนเศรษฐกิจอย่างยิ่ง ดังนั้นเมื่ออเมริกาเสี่ยงที่จะเผชิญปัญหาเช่นที่เคยเกิดกับญี่ปุ่น เขาจึงดำเนินนโยบายที่ “สุดโต่ง” ดังที่ปรากฏอยู่ในขณะนี้ ทั้งนี้จะเห็นว่านายเบอร์นันเก้ให้น้ำหนักกับเงินเฟ้อน้อยลงไปทุกทีและมุ่ง เน้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นหลัก

หลายคนออกมาสนับสนุนและสรรเสริญมาตรการของนายเบอร์นันเก้ โดยเฉพาะนักลงทุนเพราะการกดดอกเบี้ยให้ต่ำจะช่วยทำให้ราคาสินทรัพย์ทุก ประเภทปรับตัวสูงขึ้นไม่ว่าจะเป็นหุ้น ทองคำ ที่ดิน ฯลฯ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเมื่อคนรู้สึกร่ำรวยขึ้น (wealth effect) ก็จะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอยซึ่งจะสามารถกระตุ้นให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้ใน ที่สุด ผมเป็นเสียงข้างน้อยที่มองต่างมุมว่าการลดดอกเบี้ยลงต่ำอย่างต่อเนื่องจะไม ได้ช่วยคนที่มีปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัวหรือคนที่ว่างงานมากนัก และธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐเองก็ยังปล่อยกู้อย่างระมัดระวังแม้ว่าดอกเบี้ยจะ ต่ำ

ที่สำคัญที่สุดคือปัญหาพื้นฐานของประเทศสหรัฐ (และของยุโรปหลายประเทศ) คือการที่ภาครัฐมีหนี้สินมากเกินไปและขาดดุลงบประมาณมากเกินไป ดังนั้นผมจึงไม่เชื่อว่านโยบายการเงินจะแก้ปัญหาได้ เนื่องจากปัญหาเกิดจากภาคการคลังเป็นหลัก ในตรงกันข้ามหากธนาคารกลางสหรัฐกดดอกเบี้ยลงต่ำก็ยิ่งจะทำให้นักการเมืองสหรัฐไม่ตื่นตัวที่จะร่วมกันอย่างจริงจังที่จะแก้ปัญหาการคลังของประเทศ

เช่นที่เห็นในปัจจุบันว่าพรรครีพลับลิกันและพรรคเดโมแครท นำเอาปัญหาการคลังมาใช้ประโยชน์ในทางการเมือง และในการหาเสียงก็กล่าวโจมตีซึ่งกันและกัน โดยรีพลับลิกันอ้างว่าสามารถลดการขาดดุลได้โดยการลดรายจ่าย ไม่ต้องขึ้นภาษี ส่วนเดโมแครทอ้างว่าจะแก้ปัญหาโดยการปรับขึ้นภาษีคนรวย ซึ่งในข้อเท็จจริงนั้นการจะแก้ปัญหาหนี้สาธารณะของสหรัฐนั้นจะต้องปรับลด สวัสดิการด้านสุขภาพและอื่นๆ ลงอย่างมากและจะต้องเพิ่มภาษีพร้อมกันไปด้วย กล่าวโดยสรุปคือนโยบายการเงินที่ผ่อนปรนของสหรัฐนั้นเป็นการซื้อเวลา แต่มิได้เป็นการแก้ปัญหาหลักแต่อย่างใด

ประเทศอื่นๆ เช่นไทยก็ได้ประโยชน์ไปด้วยในส่วนของการปรับขึ้นของราคาหุ้นและสินทรัพย์ อื่นๆ นอกจากนั้นหากเศรษฐกิจของสหรัฐและยุโรปฟื้นตัวขึ้นจริง การส่งออกของไทยก็ย่อมจะได้ประโยชน์ตามไปด้วย แต่ข้อเป็นห่วงคือเมื่อดอกเบี้ยสหรัฐจะต่ำติดดินต่อเนื่องไปอีก 2 ปีครึ่งและจะมีสภาวะเงินดอลลาร์ล้นตลาด ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะมีการนำเงินมาซื้อเงินบาทเพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาล และพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยที่ให้ผลตอบแทนสูงถึง 3% (พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 2 ปี ดอกเบี้ย 0.25% พันธบัตร 10 ปี ดอกเบี้ย 1.8%) หากดูตัวเลขการถือพันธบัตรรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยของนักลงทุนต่างชาติ ก็จะเห็นว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา

ที่สำคัญคือ มาตรการคิวอีของนายเบอร์นันเก้ ทำให้พันธบัตรคุณภาพดีขาดแคลนไปทั่วโลก (เพราะธนาคารกลางสหรัฐกว้าน ซื้อไปเก็บเอาไว้เอง) ทำให้พันธบัตรของไทยดูน่าลงทุน เพราะไทยมีหนี้สาธารณะต่ำและพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยก็ย่อมปลอดภัย เพราะธนาคารแห่งประเทศไทยมีอำนาจพิมพ์เงินออกมาจ่ายเงินต้นและดอกเบี้ย นอกจากนั้นหากมีการไหลเข้ามาของเงินทุนเป็นจำนวนมาก ก็จะส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นโดยเร็วหรือธนาคารแห่งประเทศไทยอาจต้องยอมลด ดอกเบี้ยลง

ซึ่งทั้งสองทางเลือกจะเป็นประโยชน์กับนักลงทุนต่างประเทศ ที่ถือพันธบัตรรัฐบาลไทยและพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย บางคนอาจมองว่าธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถแทรกแซงไม่ให้เงินบาทแข็งค่า แต่ก็จะเสี่ยงต่อการทำให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเผชิญกับภาวะขาดทุนเพิ่มขึ้นไป อีก ดังนั้นจึงอาจจะนำไปสู่มาตรการสกัดกั้นการไหลเข้าของเงินทุนอื่นๆ ได้ เว้นแต่ธนาคารแห่งประเทศจะประสบความสำเร็จในการเชื้อเชิญให้คนไทยและบริษัท ไทยนำเงินไปลงทุนในต่างประเทศ แต่การกระทำดังกล่าวย่อมจะไม่เป็นประโยชน์กับคนไทยที่อยู่ในประเทศไทย เพราะการลงทุนในต่างประเทศจะไม่ทำให้ผลผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น

การพิมพ์เงินเพิ่มขึ้นของสหรัฐนั้น ผมเชื่อว่าเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นต้องพิมพ์เงินเพิ่มขึ้น (โดยได้ประกาศคิวอีออกมาเมื่อ 19 กันยายน) เพราะมิฉะนั้นแล้วเงินเยนก็จะแข็งค่าขึ้นอีกและสำหรับไทยนั้นก็จะมีความ เสี่ยงว่าเงินจะไหลเข้าทำให้เงินบาทแข็งค่า เพราะธนาคารแห่งประเทศไทยอาจไม่ต้องการเข้าแทรกแซงเพื่อรับภาระจากการเพิ่ม ขึ้นของทุนสำรอง (และการต้องออกพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นการเพิ่มหนี้สินของ ธนาคารแห่งประเทศไทย) แต่ก็ไม่อาจจะลดดอกเบี้ยลงได้ เพราะกลัวปัญหาเงินเฟ้อ ตรงนี้เป็นสิ่งที่ท้าทายการดำเนินนโยบายการเงินอย่างมาก

นอกจากนั้นดอกเบี้ยต่างประเทศที่ต่ำมากก็ชักจูงให้ธนาคาร พาณิชย์ไทยและบริษัทไทยกู้เงินจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สะท้อนให้เห็นว่าการกำหนดดอกเบี้ยของไทยมีประสิทธิผลน้อยลงในการควบคุมสิน เชื่อ ซึ่งผมมองว่าเป็นเพราะเศรษฐกิจไทยนั้นเปิดมากขึ้นอย่างต่อเนื่องครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ห้องดีๆ ห้องนี้ยังไม่เงียบเพราะมีคุณส้มโอมืออยู่

 

ขอบคุณข่าวคราวที่เอามาฝากเสมอครับ

ได้ความรู้จากห้องนี้จนพื้นฐานแน่นขึ้นมาก ยังไงก็ต้องช่วยให้ห้องนี้มีความเคลื่อไหว คนมาใหม่จะได้ไม่พลาดเนื้อหาดีๆจากกระทู้คุณNEXT เมื่อไหร่คุณNEXTแวะมาจะได้เห็นว่าบ้านของคุณNEXTมีคนคอยดูแล(คุ้นว่าช่วงนี้คุณwcgไม่ว่างแต่เกริ่นไว้ว่าถ้ามีข้อมูลสำคัญจะรีบมาบอก)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...