มือใหม่หัดวิเคราะห์

[goldgold 29]

Happy Valentine ginger news ย่าหยา และเพื่อนๆทุกคน

ginger เราสบายดีค่ะ ทองแท่งราคาต่ำยังอยู่ครบ ขอบคุณที่เป็นห่วงจ้า รักนะ จุ๊บๆๆๆ

[ginger 11,058]

Happy Valentine ginger news ย่าหยา และเพื่อนๆทุกคน

ginger เราสบายดีค่ะ ทองแท่งราคาต่ำยังอยู่ครบ ขอบคุณที่เป็นห่วงจ้า รักนะ จุ๊บๆๆๆ

 

รักจ้า ^_____^

[ginger 11,058]

ระเบิด!! หน้า ร.ร.เกษมพิทยา ตาย 1 เจ็บ 3 ราย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 14 กุมภาพันธ์ 2555 15:09 น.

 

Share9

เกิดเหตุระเบิดบริเวณหน้าโรงเรียนเกษมพิทยา ภายในซอยสุขุมวิท 71 แยกย่อยปรีดี 35 เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 1 ราย และบาดเจ็บ 3 ราย

ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติ คนดังกล่าวเพิ่งลงมาจากรถแท็กซี่ โดยพกพากระเป๋ามา 3 ใบ และเกิดเหตุระเบิดขึ้น

เมื่อเวลา 15.15น. สารวัตรจราจร สน.คลองตัน ระบุว่ายังปิดการจราจรอยู่ และแนะนำให้หลีกเลี่ยงแยกคลองตัน และสุขุมวิทขาเข้า ขณะที่ ซอยสุขุมวิท 71 ก็ปิดการจราจรทั้งหมด

[ย่าหยา 395]

[ginger 11,058]

บึ้มสุขุมวิท!ฉุดตลาดหุ้นไทยร่วง10จุด

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

บรรยากาศการลงทุนตลาดหุ้นไทยภาคบ่าย (14 ก.พ.) ดัชนีปรับตัวลดลงกว่า 10 จุด หลังมีรายงานว่าเกิดเหตุระเบิดบริเวณ สุขุมวิท ซอย 71 ซึ่งในเบื้องต้นพบว่ามีชาวต่างชาติได้รับาดเจ็บ 3 ราย โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายดัชนีต่ำสุดที่ 1,102.77 จุด

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.43 น.ดัชนีอยู่ที่ 1,108.18 จุด ลดลง 9.22 จุด หรือ 0.83% มูลค่าการซื้อขาย 33,206.47 ล้านบาท

นักวิเคราะห์มองว่า หลังเกิดเหตุระเบิด 3 จุด ส่งผลกระทบต่อการลงทุนตลาดหุ้นไทย ทำให้มีแรงเทขายหุ้นขนาดใหญ่ออกมาเพื่อลดความเสี่ยง โดยคาดว่าแนวรับอยู่ที่ 1,090 จุด

นอกจากนี้ เชื่อว่าหลังเกิดเหตุการณ์ระเบิดครั้งนี้ ไทยอาจถูกดิสเครดิต และอาจมีการส่งสัญญาณเตือนให้นักลงทุนระมัดระวังการเข้ามาในประเทศไทย และอาจกระทบต่อบรรยากาศการลงทุน

[ย่าหยา 395]

http://www.youtube.com/watch?v=0DMKf1HODkM

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[luck 512]

ขอบคุณมากค่ะ คุณginger ย่าหยา news baskie30 และทุกคน

และ Happy Valentine กันทุกๆคนนะคะ

[ginger 11,058]

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 16:52:21 น.

มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) 6 ประเทศ ซึ่งรวมถึง อิตาลี สเปน และโปรตุเกส พร้อมกับให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือที่เป็นลบต่อ อังกฤษ ฝรั่งเศส และออสเตรีย โดยระบุว่า ประเทศเหล่านี้กำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางการเงินและเศรษฐกิจมหภาพในระดับที่สูงขึ้น

-- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ 15 แห่งของสเปนลง 1-2 ขั้น โดยได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของธนาคารสเปน 10 แห่ง รวมถึงบังโค ซานตานเดร์ ลง 1 ขั้น และได้ปรับลดความน่าเชื่อถือของธนาคารอีก 5 แห่งลง 2 ขั้น ซึ่งคาดว่าการลดอันดับความน่าเชื่อถือในครั้งนี้จะส่งผลให้ต้นทุนในการระดมทุนของธนาคารเหล่านี้ ปรับตัวสูงขึ้นด้วย

-- บารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้แถลงแผนงบประมาณที่วิทยาลัยชุมชนเวอร์จิเนียเหนือในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย โดยโอบามาประมาณการว่ายอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐในปีงบประมาณ 2555 จะอยู่ที่ 1.33 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งนับเป็นยอดขาดดุลงบประมาณที่มีมูลค่าสูงสุดเป็นลำดับที่สอง และทำสถิติสูงกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ติดต่อกันเป็นปีที่ 4

-- ที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ 0-0.1% ในการประชุมวันนี้ พร้อมกับคงระดับการประเมินภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ

-- ธนาคารเนชั่นแนล ออสเตรเลีย แบงก์ (NAB) เปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ระบุว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจในออสเตรเลีย ดีขึ้นเล็กน้อยในเดือนม.ค. หลังจากธนาคารกลางออสเตรเลียปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งเมื่อปลายปีที่แล้ว

-- สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์วานนี้ว่า อัตราการเติบโตของการเดินทางทางอากาศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะอยู่ในระดับสูงกว่าภูมิภาคอื่นๆ ในช่วงหลายปีข้างหน้านี้

-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมญี่ปุ่นขยายตัว 3.8% ในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบรายเดือน โดยถูกปรับลดลงจากเบื้องต้นที่เปิดเผยว่าขยายตัว 4.0%

-- ยูโรสแตท ซึ่งเป็นสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า อียูมียอดขาดดุลการค้ากับจีนลดลงแตะ 1.32 แสนล้านยูโร (1.748 แสนล้านดอลลาร์) ในระหว่าง 10 เดือนแรกของปี 2554

-- ผลสำรวจของสื่อญี่ปุ่นระบุว่า คะแนนนิยมชองชาวญี่ปุ่นที่มีต่อรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี โยชิฮิโกะ โนดะ ลดลงเหลือประมาณ 30%

-- หนังสือพิมพ์จาการ์ต้า โพสต์รายงานอ้างคำกล่าวของนายดาห์ลาน อิสคาน รัฐมนตรีกระทรวงรัฐวิสาหกิจอินโดนีเซียในวันนี้ว่า รัฐบาลอินโดนีเซียต้องควบคุมการจัดสรรหุ้นในการเปิดขายหุ้นให้กับสาธารณะชนเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) เพื่อให้แน่ใจว่า นักลงทุนต่างชาติไม่ได้ถือครองหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัทท้องถิ่น

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

[ginger 11,058]

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000020577

 

 

จีนเผยต้นทุนโลจิสติกส์ที่อยู่ในระดับสูงเพิ่มแรงกดดันต่อเศรษฐกิจของประเทศ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 18:17:51 น.

รายงานซึ่งจัดทำขึ้นร่วมกันโดยคณะกรรมการเพื่อการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติสำนักงานสถิติแห่งชาติ และสหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน ระบุว่า จีนจะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายด้านโลจิสติกส์ เกือบ 1 ดอลลาร์ต่อ 5 ดอลลาร์ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ระดับ 9.2% ในปีที่ผ่านมา

รายงานดังกล่าวระบุว่า ต้นทุนด้านโลจิสติกส์ของจีนเพิ่มขึ้น 18.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะที่ 8.4 ล้านล้านหยวน (1.33 ล้านล้านดอลลาร์) ในปี 2554 ซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างสูง

อัตราการขยายตัวของต้นทุนโลจิสติกส์ที่เพิ่มขึ้น 1.8% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน จะทำให้ต้นทุนโลจิสติกส์มีสัดส่วนสูงถึง 17.8% ของจีดีพีมูลค่า 47.16 ล้านล้านหยวนในปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับ 18% ในปีก่อนหน้านั้น

นอกจากนี้ จีนมีค่าใช้จ่าย 4.4 ล้านล้านหยวนในการขนส่งสินค่า เพิ่มขึ้น 15.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในขณะที่ต้นทุนด้านคลังสินค้าเพิ่มขึ้น 22.6% สู่ 2.9 ล้านล้านหยวน และค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการสินค้าแตะที่ 1 ล้านล้านหยวน เพิ่มขึ้น 18.7%

นับตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีจีนได้รณรงค์เพื่อส่งเสริมศักยภาพด้านโลจิสติกส์ของประเทศ รวมทั้งการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคเพื่อลดต้นทุนในเรื่องของคนกลาง

ทั้งนี้ จีนขนส่งสินค้าทั้งหมดคิดเป็นมูลค่า 158.4 ล้านล้านหยวนในปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้น 12.3% ในขณะที่อุตสาหกรรมโลจิสติกส์มีมูลค่าผลผลิตทั้งสิ้น 3.2 ล้านล้านหยวนในปี 2554 เพิ่มขึ้น 13.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

[ginger 11,058]

ความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีพุ่งแรงในก.พ.รับจ้างงานสหรัฐ-ถกหนี้กรีซคืบ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 19:38:54 น.

นักลงทุนเยอรมันฟื้นความเชื่อมั่นทะยานพ้นระดับติดลบ หลังได้รับอานิสงส์จากข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสหรัฐ และความคืบหน้าในการเจรจาปล่อยกู้เงินช่วยเหลืองวดใหม่ให้กับกรีซ

สถาบัน (ZEW) ของเยอรมนีรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนพุ่ง 27 จุดมาแตะที่ 5.4 จุดในเดือนนี้ หลังจากเดือนม.ค.ที่ผ่านมาตัวเลขอยู่ที่ติดลบ 21.6 โดยได้รับปัจจัยหนุนจากตัวเลขการจ้างงานที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ตัวแทนชาติต่างๆในยุโรปต่างก็ร่วมหาหนทางปล่อยเงินกู้ช่วยเหลือให้กับกรีซ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้

ข้อมูลล่าสุดส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า เศรษฐกิจเยอรมนีจะไม่คงอยู่ในภาวะชะลอตัวนานนัก และน่าจะมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง แม้ว่าเมื่อเดือนที่แล้ว เยอรมนีได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในปี 2555 เนื่องจากผลกระทบของวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่ยังคงยืดเยื้อ โดยคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัว 0.7% จากเดิมที่รัฐบาลคาดไว้ที่ 1%

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างก็จับตาดูการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ ตามเวลายุโรป เพื่อพิจารณาอนุมัติมาตรการช่วยเหลือทางการเงินมูลค่า 1.3 แสนล้านยูโรสำหรับกรีซ หลังจากที่รัฐสภาของกรีซได้เห็นชอบมาตรการรัดเข็มขัดที่เข้มงวดรอบใหม่ ซึ่งนับเป็นความคืบหน้าที่สำคัญครั้งหนึ่งในการแก้ปัญหาหนี้กรีซที่เรื้อรังมาเป็นเวลานาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาริชาติ ชื่นชม/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th

[fung 40]

ขอบคุณครับคุณnews,คุณginger,คุณbmw2770,คุณbaskie30,คุณย่าหยา

สวัสดีพี่มดแดง,พี่พวงชมพู่,คุณchezและพี่ๆเพื่อนๆทุกท่านครับ

[ย่าหยา 395]

ค่ำอังคาร....สวัสดีจ๊ะ...ginger...มดแดง(หลายวันแล้ว....)และเพื่อนๆทุกๆคน(ขออภัยค่ะ...แรงหมด...จริงๆ..ง่วงนอนน่ะเพลียค้างจากงาน...)

 

สุข...สมหวัง...วาเลนไทน์...ทุกๆคนนะคะ...

 

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 14, 2012 โดย ย่าหยา

[ginger 11,058]

กรีซประมูลตั๋วเงินคลังได้ 1.3 พันล้านยูโร ผลตอบแทนลด ขณะจับตาวิกฤติหนี้

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 20:53:20 น.

กรีซเปิดขายตั๋วเงินคลังระยะเวลา 3 เดือน มูลค่า 1.3 พันล้านยูโรในวันนี้ ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมต้นทุนการกู้ยืมที่ลดลง

สัดส่วนความต้องการซื้อสูงกว่าปริมาณที่เสนอขายอยู่ที่ 2.7 เท่า ลดลงจากการเปิดประมูลเมื่อเดือนม.ค.ซึ่งอยู่ที่ 2.9 ขณะที่ผลตอบแทนลดลง 0.03% จาก 4.64% ในเดือนที่แล้วมาอยู่ที่ 4.61%

ขณะนี้ รัฐบาลกรีซกำลังเผชิญกับการต่อต้านอย่างรุนแรงจากประชาชน หลังจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ตามเวลายุโรป รัฐสภากรีซมีมติด้วยคะแนนเสียง 2 ใน 3 อนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดฉบับใหม่ เพื่อแลกกับความช่วยเหลือรอบที่ 2 จากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) วงเงิน 1.30 แสนล้านยูโร ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้

การผ่านมาตรการรัดเข็มขัดดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจแก่ชาวกรีซจำนวนมาก เนื่องจากมาตรการที่เข้มงวดจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่ย่ำแย่อยู่แล้ว โดยมีการออกมาชุมนุมตามท้องถนนจนลุกลามกลายเป็นการจลาจล ซึ่งมีการวางเพลิงโรงภาพยนตร์ ร้านค้า และธนาคารที่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงเอเธนส์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนในวันพรุ่งนี้ ตามเวลายุโรป เพื่อพิจารณาอนุมัติมาตรการช่วยเหลือทางการเงินงวดใหม่สำหรับกรีซ ก่อนที่กรีซจะถึงกำหนดต้องไถ่ถอนพันธบัตรมูลค่า 1.45 หมื่นล้านยูโร ในวันที่ 20 มี.ค.นี้ ซึ่งอาจส่งผลให้กรีซผิดนัดชำระหนี้

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาริชาติ ชื่นชม/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

[ginger 11,058]

อิตาลีประมูลพันธบัตรคึกคัก ขณะผลตอบแทนลด เมินมูดีส์หั่นเครดิต

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 20:39:47 น.

พันธบัตรรัฐบาลอิตาลีประสบความสำเร็จในการเปิดประมูลวันนี้ โดยมีต้นทุนการกู้ยืมลดลงอย่างมาก ซึ่งแสดงให้เห็นว่านักลงทุนไม่ได้ให้ความสนใจกับการที่มูดีส์ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงเมื่อคืนนี้ ตามเวลาท้องถิ่น

พันธบัตรรัฐบาลอิตาลีอายุ 3 ปีมีอัตราส่วนความต้องการต่อปริมาณการเสนอขายที่ 1.4 เท่า สูงกว่าเดือนที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ 1.2 เท่า โดยให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.41% ต่ำกว่าผลตอบแทนในการประมูลเมื่อเดือนที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 4.8%

ขณะที่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อิตาลีขายตั๋วเงินคลังได้ตามเป้าหมายที่ 1.2 หมื่นล้านยูโร (1.59 หมื่นล้านดอลลาร์) โดยมีผลตอบแทนลดลงเช่นกัน

ส่วนในวันนี้ อิตาลีสามารถจำหน่ายพันธบัตรอายุ 3 และ 5 ปีได้ 6 พันล้านยูโร

การประมูลพันธบัตรดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือประเทศสมาชิกกลุ่มยูโรโซน 6 ประเทศ ซึ่งรวมถึง อิตาลี สเปน และโปรตุเกส พร้อมกับให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือที่เป็นลบต่อ อังกฤษ ฝรั่งเศส และออสเตรีย โดยระบุว่า ประเทศเหล่านี้กำลังเผชิญกับความเสี่ยงทางการเงินและเศรษฐกิจมหภาคในระดับที่สูงขึ้น โดยมูดีส์ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของอิตาลีลงมาอยู่ที่ A3 จาก A2

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาริชาติ ชื่นชม/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th