มือใหม่หัดวิเคราะห์

[baskie30 6,060]

สวัสดีคับทุกคน เมื่อคืนสวิงขึ้นลงอย่างกะรถไฟเล่นเอาอ้วกเลยมองไปมองมาไม่เล่นก็ได้ฟะ มาดูกราฟกันเลยหลังจากเมื่อวานถูกหลอกหลุดชายธงบนแต่ไปไม่ถึงเป้าเกิดเทรนย่อยในเทรนใหญ่มองในมุมขึ้นถ้าหากว่า4hCจบแบบล้มเหลวตรง1712 ขึ้นเมื่อคืนเป็น1h1 ตอนนี้กำลังทำ1h2 วิ่งในกรอบสีฟ้า แต่มุมมองนี้ผมเลยไม่มั่นใจเท่าไหร่จากเเรงขึ้นเมื่อคืนมีนิดเดียวแต่เเรงเทขายเยอะกว่า ยังดีไม่เกิดโลวใหม่ ถ้าจะให้เป็น1h2จริงๆราคาวันนี้ไม่ควรต่ำกว่า1712

ต่อไป มุมมองลงต่อ เนื่องจากว่าอาจทำคลื่นรีบาวBรายสี่(4hB) แบบขยายก็ได้ เพราะโดนหลอกแบบนี้บ่อยๆ ที่เด้งขึ้นไปถ้านับแบบนี้จะจบ1hCของ4hBที่1737 ตอนนี้กำลังลงมาทำ4hC จะทำ3หรือ5คลื่นคงต้องดูอีกที และจะมีคลื่นขยายอีกรึป่าวต้องลุ้นกันต่อ แต่จุดตัดสินอยู่ที่เแนวรับสีฟ้า ถ้าหลุดลงมา นั่นหมายความว่ามีโอกาสลงถึง1693แนวรับเเดงเลยทีเดียว

สรุปเลยละกัน หากใครจะซื้อรอดูตรงแนวรับสีฟ้าว่า"เอาอยู่"รึป่าว ถ้าเอาอยู่เป็นแบบ1 ถ้าเอาไม่อยู่ เป็นแบบ2ลงไปโน่นเลย1693เป็นอย่างน้อย เมื่อคืนใจร้อนโดนไปเยอะวันนี้ตั้งสติใหม่โชคดีร่ำรวยทุกคน

[idea 7]

ขอบคุณ คุณ baskies30 ที่มาแชร์ข้อมูลให้กันค่ะ...

[ย่าหยา 395]

http://www.youtube.com/watch?v=RidaZYV4kos&feature=player_detailpage

[jewjang40 5,712]

[ginger 11,058]

มูดีส์เตือนอาจลดเครดิตธนาคารทั่วโลก รวมเจพีมอร์แกน-โกลด์แมน แซคส์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 08:39:28 น.

มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส เปิดเผยว่า มูดีส์กำลังทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์และบริษัทหลักทรัพย์ที่ดำเนินธุรกิจในตลาดทุนทั่วโลก พร้อมกับเตือนว่า มูดีส์อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารชั้นนำหลายแห่ง

ทั้งนี้ มูดีส์เตือนว่า ธนาคารยูบีเอส เอจี, เครดิต สวิส กรุ๊ป เอจี และมอร์แกน สแตนลีย์ อาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 3 ขั้น ส่วนโกลด์แมน แซคส์ กรุ๊ป, ดอยช์ แบงก์ เอจี, เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, ซิตี้กรุ๊ป, ธนาคารบาร์เคลยส์, บีเอ็นพี พาริบาส์, เครดิต อากริโคล, เอชเอสบีซี โฮลดิงส์, แมคควอรี กรุ๊ป และรอยัล แบงก์ ออฟ แคนาดา อาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 2 ขั้น

นอกจากนี้ มูดีส์เตือนว่า แบงก์ ออฟ อเมริกา, โนมูระ โฮลดิงส์, รอยัล แบงก์ ออฟ สก็อตแลนด์ และโซซิเอเต เจเนอราล

(ซอคเจน) อาจถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือลง 1 ขั้น

มูดีส์ระบุในรายงานว่า "บริษัทที่ลงทุนในตลาดทุนกำลังเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เช่น สภาวะการระดมทุนที่มีความเปราะบางมากขึ้น, ส่วนต่างสินเชื่อที่กว้างขึ้น, ภาระที่มากขึ้นในการดำเนินการตามกฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้น และความยากลำบากในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งอุปสรรคเหล่านี้ได้ส่งผลกระทบต่อศักยภาพในการทำกำไรในระยะยาวและแนวโน้มการเติบโตของบริษัทเหล่านี้"

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนีย์พร โทร.02-2535000 อีเมล์: suneeporn@infoquest.co.th

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 09:29:40 น.

กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

Price Movement

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,728.10 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 10.40 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังจากจีนประกาศว่าจะลงทุนซื้อพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนต่อไป ทำให้มีความต้องการซื้อทองคำเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ

 

Key Points in Gold Market

- ราคาทองคำเมื่อวานมีความเคลื่อนไหวในกรอบ 1,720.30 - 1,739.20 ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากคำกล่าวของผู้ว่าธนาคารกลางจีนว่า จีนจะยังคงลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนต่อไป นอกจากจีนแล้วประเทศเกิดใหม่ เช่น บราซิล รัสเซีย และอินเดีย กำลังรอเวลาที่เหมาะสมในการเข้าช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาหนี้ในยูโรโซน แต่จีนไม่ได้ให้คำสัญญาอย่างเป็นรูปธรรมในเรื่องเงินช่วยเหลือ

- ราคาทองคำในช่วงเช้าวันนี้เคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,724 USDต่อออนซ์ ราคามีแนวโน้มอ่อนตัวลง โดยนักลงทุนมีความกังวลมากขึ้นเมื่อMoody’s ประกาศจะปรับลดอันดับเครดิตของธนาคารและบริษัทหลักทรัพย์ 17 แห่งทั่วโลก ซึ่งเป็นผลจากภาวะการระดมทุนที่เปราะบางมากขึ้น ภาระด้านกฏระเบียบที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ Moody’s ยังจะทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของสถาบันการเงิน 114 แห่งใน 16 ประเทศของยุโรป เพื่อสะท้อนผลกระทบของวิกฤตหนี้ยุโรป และความน่าเชื่อถือที่ลดลงของรัฐบาลในยูโรโซน ส่วนประเด็นของกรีซ EU และ IMF อาจเลื่อนการให้เงินช่วยเหลือแก่กรีซออกไป จนกว่าจะถึงการเลือกตั้งในเดือน เม.ย. แต่กรีซมีกำหนดจะต้องชำระหนี้จำนวน 14.5 พันล้านยูโรในวันที่ 20 มี.ค. ด้านผู้นำกรีซสามารถบรรลุเงื่อนไข 2 ใน 3 เงื่อนไขของ EU และ IMF

- ในสัปดาห์นี้คาดว่า ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อราคาทองคำ ได้แก่ ข่าวการแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ ซึ่งล่าสุดกรีซอาจไม่ได้เงินช่วยเหลือได้ทันกำหนดชำระหนี้ในวันที่ 20 มี.ค.นี้ และการที่ Moody’s จะปรับลดอันดับเครดิตของสถาบันการเงินเป็นข่าวลบที่กดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลงในวันนี้ ส่วนข่าวบวกได้แก่ การที่จีนประกาศจะลงทุนในพันธบัตรของยูโรโซน ราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นจากความกังวลว่าหลายประเทศผู้ส่งออกน้ำมันจะส่งออกน้ำมันไม่ได้ การคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำของเฟด จากที่เฟดระบุว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอ่อนแอ การที่ธนาคารกลางของประเทศต่างๆคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำและอาจมีการอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ

- ภาพกราฟในรายสัปดาห์มีแนวรับสำคัญบริเวณ 1,700 / 1,680 ส่วนแนวต้านมีที่บริเวณ 1,740/1,740 ส่วนแนวรับในวันนี้มีที่บริเวณ 1,700/1,680 ส่วนแนวต้านมีที่บริเวณ 1,728/1,738/1,750 คาดว่าราคาทองคำในวันนี้อ่อนตัวลง แนะนำ นักลงทุนระยะสั้นที่ปิด Long ทำกำไรไปแล้ว เปิด Shot โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,700/1,680 โดยมีจุด stop loss บริเวณ 1,735

- ประเด็นที่ต้องติดตาม ได้แก่ การแก้ปัญหาหนี้ของกรีซ การประชุมรมว.คลังยูโรโซนในวันที่ 20 ก.พ. การประกาศปรับลดอันดับเครดิตของสถาบันจัดอันดับ ประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีราคาผู้ผลิต ข้อมูลเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตสร้างบ้าน

- ราคาโลหะเงินปิดที่ 33.41 USDต่อออนซ์ ปิดเพิ่มขึ้น 0.06 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 33.10 — 33.98 ishares silver trust ขายโลหะเงินออก 33.25 ตัน รวมถือโลหะเงินจำนวน 9,591.72 ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 32.8/31.8 แนวต้านบริเวณ 34.5/35.0 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 31.8 — 35.0

- SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,278.26 ตัน

 

Technical Analysis:

++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,700/1,680 แนวต้าน 1,740/1,750 ภาพทางเทคนิคในราย 240 นาที ราคาทองคำพยายามต้านขึ้นให้ผ่าน DownTrend Line ระยะสั้น แต่ก็ยังไม่สามารถผ่านไปได้ คาดว่า อาจมีการอ่อนตัวลงมา โดยมีแนวรับสำคัญที่ 1,715 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,680 — 1,750

++ โลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 32.8/31.8 แนวต้านบริเวณ 34.5/35.0 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 31.8 — 35.0

[ginger 11,058]

สรุปภาวะ Precious Metals Futures By GT Wealth Management 16 ก.พ. 55 (ภาคเช้า)

 

http://gtgoldonline.com/files/2012-02-16_12.02.16am.pdf

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 10:29:05 น.

กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--GT Wealth Management

 

ราคาทองคำในตลาดโลกช่วงเช้าทรงตัวเหนือ 1,720 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ ราคาทรงตัวก่อนการตัดสินใจในการให้เงินช่วยเหลือกรีซของ EU และ IMF ขณะที่มูดี้ส์ขู่ที่จะทบทวนความน่าเชื่อถือของธนาคาร 114 แห่งใน 16 ประเทศในยุโรปซึ่งสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน SPDR รายงานการถือที่ระดับ 1,278.26 ตัน ลดลง 0.39 ตัน โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนกุมภาพันธ์ (GFG12) เปิดตลาดช่วงเช้าราคาเปิดที่ระดับราคา 25,300 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 25,100 บาท ราคาเสนอขาย 25,200 บาท

 

ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนบริษัทจีที เวลธ์ แมเนจเมนท์กล่าวว่า GT กล่าวว่าราคาทองคำยังมีแนวโน้มเชิงบวก ความผันผวนในตลาดการลงทุนซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤติหนี้สินยุโรป และความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะถดถอยทำให้ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความน่าสนใจในการถือครองรวมถึงการเข้าเก็งกำไร ความคาดหวัง QE3 รวมถึงการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสำคัญเป็นอีกปัจจัยที่จะส่งผลดีต่อราคาทองคำ

 

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 16, 2012 โดย ginger

[ginger 11,058]

http://www.classicgold.co.th/th/main/

 

 

สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 10:31:33 น.

กรุงเทพฯ--16 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

 

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,724 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,733 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.70 กับ 30.75 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,100 บาท กับ 25,200 บาท และกลับมาปิดที่ 25,100 บาท กับ 25,200 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,141 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,072 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 11 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.07 % แบบ 10 บาท ลดลง 2% GFG12 ปิดที่ 25,370 บาท เและ GFJ12 ปิดที่ 25,580 บาท และ GF10G12 ปิดที่ 25,580 บาท และ GF10J12 ปิดที่ 25,580 บาท

สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 10.40 เหรียญ ปิดที่ระดับ 1,728.10 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 6 เซนต์ ปิดที่ระดับ 33.408 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,278.26 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.06 เซนต์ ปิดที่ระดับ 101.80 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 97.33 จุดปิดที่ระดับ 12,780.95 จุด

Ratio Gold / Silver เท่ากับ 51.7 ต่อ 1

 

ข่าวที่สำคัญ

- วานนี้ ทางการกรีซได้แสดงออกถึงความหวังว่าจะสามารถรับเงินช่วยเหลือรอบที่สองจากอียูและไอเอ็มเอฟได้ในสัปดาห์หน้าโดยนายอีวานเจลอส เวนิสเซลอส กล่าวว่า กรีซเหลือเพียงทำความต้องการจากอียูและไอเอ็ม 2 ข้อสุดท้าย ซึ่งเขาระบุว่าคณะรัฐมนตรีได้ตัดสินใจว่าจะใช้เงินมูลค่า 325 ล้านยูโรปิดช่องว่างในการประหยัดงบประมาณ 3.3 พันล้านยูโรอย่างไร ตามข้อเรียกร้องจากอียูและไอเอ็มเอฟ อีกทั้งได้ให้ความสำคัญกับผู้นำทั้ง 2 พรรคการเมืองที่ได้ลงนามในสัญญาที่จะทำให้มาตรการรัดเข็มขัดประสบความสำเร็จ

 

- เงินยูโร อ่อนค่า 0.36% แตะที่ 1.3071 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันอังคารที่ 1.3118 ดอลลาร์สหรัฐ โดย สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง หลังจากนายฌอง-คล็อด ยุงเกอร์ ประธานยูโรกรุ๊ปเผยว่า รัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซน ตัดสินใจยกเลิกการประชุมอย่างเป็นทางการ และได้เลื่อนการประชุมอย่างเป็นทางการออกไปเป็นวันที่ 20 ก.พ. นอกจากนี้ สกุลเงินยูโร ยังได้รับแรงกดดันมากขึ้น หลังจากเจ้าหน้าที่อียู เปิดเผยว่า รัฐมนตรีคลังยูโรโซน อาจจะเลื่อนการตัดสินใจดังกล่าว ไปเป็นช่วงเวลาหลังจากการเลือกตั้งของกรีซ ซึ่งจะมีขึ้นในเดือนเม.ย.

 

- สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรปหรือยูโรสแตทเปิดเผยว่า เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวลง 0.3% ในไตรมาส 4 ปี 2554 ซึ่งถือเป็นสถิติที่อ่อนตัวลงเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปี 2552 จีดีพีของเยอรมนีร่วง 0.2% จากระดับไตรมาส 3 ปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับการขยายตัวต่อไตรมาสที่ 0.6% ในไตรมาสที่ 3 ส่วนเศรษฐกิจฝรั่งเศสนั้น ขยายตัว 0.2% แม้ว่า จะชะลอตัวลงจากระดับไตรมาสก่อนหน้านี้

 

- โปรตุเกสประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือน และ 6 เดือนได้ทั้งหมดเมื่อวานนี้ คิดเป็นมูลค่า 3 พันล้านยูโร นับเป็นการเสนอขายครั้งใหญ่ที่สุดของโปรตุเกสนับตั้งแต่ต้องขอรับความช่วยเหลือจากอียูและไอเอ็มเอฟเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่อัตราผลตอบแทนก็ลดลงจากการประมูลครั้งก่อน

 

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษรายงานว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานปรับเพิ่มขึ้น 6,900 รายในเดือนมกราคม สูงกว่าเดือนธันวาคมที่เพิ่มขึ้น 1,900 ราย และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 500 ราย ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมากเกินคาดในเดือนมกราคม ผลักดันให้จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานทั้งหมดพุ่งแตะ 1.61 ล้านราย ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2553 หรือสูงสุดในรอบ 2 ปี

 

- มีการรายงานผลการประชุมเฟด เมื่อวันที่ 24-25 ม.ค.ที่ผ่านมา ระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดบางรายเชื่อว่ามาตรการ QE อาจมีความจำเป็นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการว่างงานที่ยังคงมีระดับที่สูงและความกดดันในเรื่องภาวะเงินเฟ้อ ในขณะที่อีกส่วนหนึ่งคคิดว่าการเข้าซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมจะมีความสำคัญก็ต่อเมื่อขาดแรงผลักดันในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หรือหากภาวะเงินเฟ้อลดลงไปอีก

 

- นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน แสดงความเห็น ขณะกล่าวสุนทรพจน์ ในกรุงปักกิ่งว่า จีนจะยังคงลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนต่อไปและรัฐบาลจีนยังคงมีความเชื่อมั่นในสกุลเงินยูโร รวมทั้งความสามารถของประเทศสมาชิกยูโรโซนในการแก้ไขปัญหาหนี้ของตนเอง ถ้อยแถลงของนายโจว สอดคล้องกับนายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน ที่กล่าวก่อนหน้านี้ว่า จีนพร้อมที่จะเพิ่มบทบาทของตนเองในการแก้ไขปัญหาหนี้ยุโรป และตั้งข้อสังเกตว่า จีนไม่ได้ลดสัดส่วนการถือครองยูโร ในทุนสำรองของจีน

 

ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้

- Empire State Manufacturing Index ตัวเลขจริงออกมาที่ 19.5 จากตัวเลขเดิมที่ 13.5

- TIC Long-Term Purchases ตัวเลขจริงออกมาที่ 17.9B จากตัวเลขเดิมที่ 61.3B

- Crude Oil Inventories ตัวเลขจริงออกมาที่ 1.8M จากตัวเลขเดิมที่ 0.3 M

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม

- Building Permits คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 0.68M จากตัวเลขเดิมที่ 0.67M

- Housing Starts คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 0.68M จากตัวเลขเดิมที่ 0.66M

- PPI m/m คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 0.3% จากตัวเลขเดิมที่ -0.1%

- Core PPI m/m คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 0.1% จากตัวเลขเดิมที่ 0.3%

- Philly Fed Manufacturing Index คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 9.0 จากตัวเลขเดิมที่ 7.3

- Unemployment Claims คาดการณ์ว่าจะออกมาที่ 364K จากตัวเลขเดิมที่ 358K

- Fed Chairman Bernanke Speaks

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

Gold — โดยภาพรวมราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวไปในทิศทาง Sideway โดยที่เมื่อคืนนี้ราคาทองคำดูเหมือนจะ Break Out ฝ่าแนวต้านที่ระดับ 1730 เหรียญขึ้นไปได้ แต่ยังถูกแรงเทขายอย่างหนักที่ระดับ 1736 เหรียญ ทำให้ราคากลับมาปิดต่ำกว่าระดับ 1730 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง ภาพรวมจะเห็นได้ว่าราคาทองคำยังคงถูกกดดันจากค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลง และยังเป็นลักษณะของการที่ยังปรับฐานไม่เสร็จสิ้นโดยค่าเงินดอลลาร์เองกลับมาแข็งค่าอีกครั้งที่ระดับ 1.3054 ดอลลาร์/ยูโร โดยประมาณ จากข่าวที่ยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆของทางกลุ่มรัฐมนตรีคลังยูโรโซน เรื่องของการให้ความช่วยเหลือกรีซที่เลื่อนออกไป โดยคาดว่าราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในระดับ 1720 - 1735 เหรียญ และยังแนะนำให้ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว

 

Gold Futures G12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,250 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,450 บาท

Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,450 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,650 บาท

Silver Futures G12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,020 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,050 บาท

 

คำแนะนำ

สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)

เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัว ในกรอบแคบๆ แนะนำให้ซื้อที่ระดับ 1720 เหรียญ และรอขายที่ระดับ 1735 เหรียญ

นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)

ยังเป็นลักษณะของการรอความชัดเจนของทิศทาง โดยที่ภาพรวมยังเป็นการแกว่งตัวในลักษณะ Sideway รอ Break Out ทะลุแนวต้านที่ระดับ 1735 เหรียญ ขึ้นไป

นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง

รอความชัดเจนเช่นเดียวกัน จะเห็นได้ว่าราคาทองคำยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ และยังไม่สามารถ Break Out ทะลุแนวต้านด้านบนได้ ณ ขณะนี้

[ginger 11,058]

ว.วชิรเมธี (W.Vajiramedhi)

 

 

Ask not of birth but of deeds.

อย่าถามถึงชาติกำเนิด

แต่จงถามถึงความประพฤติจะดีกว่า

 

มา ชาตึ ปุจฺฉ จรณญจฺ ปุจฺฉ (๑๕/๖๖๐)

[ginger 11,058]

รมว.ต่างประเทศสหรัฐยืนยันไม่เคยคิดรับตำแหน่งปธ.เวิลด์แบงก์คนใหม่

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 11:48:34 น.

วิกตอเรีย นูแลนด์ โฆษกหญิงของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เปิดเผยว่า นางฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐไม่มีความสนใจที่จะก้าวขึ้นเป็นประธานธนาคารโลกคนใหม่

"รมว.ต่างประเทศกล่าวถึงเรื่องนี้หลายครั้งตั้งแต่ปีที่แล้ว เธอบอกว่า เรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้น และความคิดของเธอก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงไป" นูแลนด์กล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างการสรุปสถานการณ์ประจำวัน

คำยืนยันของโฆษกรมว.ต่างประเทศสหรัฐเกิดขึ้นในวันเดียวกันหลังจากที่นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมเสนอชื่อผู้ที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานเวิลด์แบงก์คนใหม่เร็วๆ นี้

ด้านเวิลด์แบงก์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตันนั้น ระบุว่า นายโซลลิค ประธานคนปัจจุบัน จะพ้นวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 30 มิ.ย. หลังจากบริหารงานมา 5 ปี

ทั้งนี้ มีการคาดการณ์กันว่า นางคลินตันจะเข้ารับตำแหน่งประธานเวิลด์แบงก์ หลังลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ แต่เธอก็ยังปฏิเสธกระแสข่าวดังกล่าว

ต่อข้อถามที่ว่านางคลินตันและนายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้มีการหารือถึงประเด็นนี้หรือไม่ นูแลนด์กล่าวว่า "ดิฉันไม่อาจเปิดเผยเรื่องนี้ได้"

อย่างไรก็ดี นูแลนด์ย้ำว่า "รมว.ต่างประเทศมีความชัดเจนอย่างมากกับความคิดของเธอต่อประเด็นนี้ และยังคงไม่เปลี่ยนความคิด" สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย มัณฑนา กิตติธรรมรักษ์/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th

[ginger 11,058]

manager

เอเอฟพี - ประธานธนาคารโลก โรเบิร์ต เซลลิก ประกาศลงจากตำแหน่งภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ เป็นการเปิดฉากต่อสู้แย่งชิงเก้าอี้ผู้นำเวิลด์แบงก์ครั้งใหม่ ในขณะที่สหรัฐฯ มีบทบาทสำคัญ

 

เซลลิก วัย 58 ปี เผยว่า เขาจะสิ้นสุดวาระ 5 ปีในการดำรงตำแหน่งประธานเวิลด์แบงก์ ซึ่งชี้นำทั้งธนาคาร และประเทศสมาชิกให้ผ่านพ้นวิกฤตการเงิน ซึ่งส่งผลกระทบใหญ่หลวงต่อประเทศยากจนหลายประเทศของโลก

 

"ผมรู้สึกยินดีที่เวลาโลกต้องการให้ธนาคารเดินหน้า ผู้ถือหุ้นของเราก็จะต้องสนองด้วยทรัพยากร และการสนับสนุนอย่างกว้างขวาง เพื่อการปฏิรูปสำคัญที่ทำให้เราไวกว่า มีประสิทธิภาพกว่า และเปิดกว้างมากกว่าด้วย" เซลลิกแถลงในวันพุธ (15)

 

เขาเสริมว่า "ขณะนี้ ธนาคารโลกแข็งแกร่ง สมบูรณ์ และพร้อมสำหรับปัญหาท้าทายใหม่ๆ ดังนั้นจึงเป็นเวลาที่ผมจะเปลี่ยนไปให้การสนับสนุนผู้นำคนใหม่แทน"

 

การลาออกของเซลลิกนั้นก่อให้เกิดการต่อสู้ครั้งที่ 2 ในรอบไม่ถึงปี ระหว่างสหรัฐฯ และชาติยุโรป ที่มีอิทธิพลในเวิลด์แบงก์ และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ สถาบันการเงินพหุภาคีชั้นนำของโลกทั้ง 2 แห่ง

 

ตามข้อตกลงที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างมหาอำนาจยุโรป และสหรัฐฯ ย้อนไปเมื่อปี 1945 ประธานเวิลด์แบงก์ทั้ง 11 คนเป็นชาวอเมริกัน และกรรมการผู้จัดการทั้งหมดของไอเอ็มเอฟก็มาจากประเทศในยุโรป

 

สำหรับผู้ที่คาดหมายกันว่าจะมาดำรงตำแหน่งประธานธนาคารโลกแทนเซลลิกนั้นเน้นที่ชาวอเมริกัน 3 คน คือ ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศ ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลัง และแลร์รี ซัมเมอร์ส อดีตขุนคลังสหรัฐฯ

 

อย่างไรก็ตาม การแย่งชิงเก้าอี้นี้ก็มีความเป็นไปได้ นับตั้งแต่การลาออกของโดมินิก สเตราส์-คาห์น อดีต ผอ.ไอเอ็มเอฟที่ลาออกอย่างกะทันหันในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ก็เริ่มมีแรงกดดันจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ให้เสนอชื่อผู้นำกองทุน ที่ไม่ใช่ชาติยุโรป มากขึ้น

 

ขณะที่ องค์กรด้านการพัฒนาระหว่างประเทศหลายแห่ง และนักเคลื่อนไหวหลายรายชี้ว่า ประเทศกำลังพัฒนาควรได้รับโอกาสในการเลือกผู้รับตำแหน่งแทนเซลลิกด้วย โดยเขียนในจดหมายเปิดผนึกว่า "ถึงเวลาที่สหรัฐฯ จะประกาศต่อสาธารณะว่าจะไม่ผูกขาดตำแหน่งประธานนี้อีกต่อไปแล้ว"

 

"ขณะที่ธนาคารโลกดำเนินการอยู่แต่ในประเทศกำลังพัฒนาเท่านั้น และมีผลกระทบต่อประเทศที่มีรายได้ต่ำมากที่สุด ดังนั้น ผู้สมัครที่ไม่ได้รับการสนับสนุนโดยประเทศเหล่านั้นก็จะขาดความชอบธรรมอย่างร้ายแรง" จดหมายดังกล่าวระบุ

 

ด้านกีโด มันเตกา รัฐมนตรีคลังของบราซิลก็แนะว่า ผู้สมัครจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ควรมีโอกาสในการเป็นนายใหญ่ของธนาคารโลกเช่นเดียวกัน

 

ทั้งนี้ ตำแหน่งประธานเวิลด์แบงก์มีอิทธิพลอย่างมาก โดยการบริหารโครงการใหญ่โตที่มีเป้าหมายในการช่วยเหลือประเทศต่างๆ และผู้คนให้พ้นจากความยากจน และสามารถกำหนดวาระการพัฒนา และความสำคัญทางสังคมทั่วโลกด้วย

[ginger 11,058]

ยุโรปหนาวหนักคร่าชีวิตคนกว่าตา600 รายแล้ว

 

 

 

-- พฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 12:20:45 น.

 

ภัยหนาวคุกคามยุโรปตะวันออกอย่างหนัก ขณะนี้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้วกว่า 600 ศพ รวมทั้งยังมีอีกกว่า 4,000 คนขาดแคลนอาหาร

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย มีประชาชนกว่า 600 คนแล้วที่ต้องเสียชีวิตไปเพราะคลื่นอากาศหนาวเย็นที่แผ่ปกคลุมไปทั่วทวีปยุโรปตะวันออก ในช่วงอากาศเย็นเป็นประวัติการณ์ของฤดูหนาวปีนี้

เจ้าหน้าที่ของรัสเซีย ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 205 ศพ เพราะอากาศหนาวเย็นต่ำกว่าจุดเยือกแข็งของฤดูหนาวปีนี้ ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา ขณะที่ยูเครนมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 112 ศพ โปแลนด์อีก 107 ศพ ฮังการี 35 ศพ เซอร์เบีย 20 ศพ และอีก 10 ศพในโคโซโว

ส่วนในประเทศโรมาเนียก็เป็นอีกประเทศหนึ่งในยุโรปตะวันออกที่ได้รับผลกระทบจากภาวะอากาศหนาวเย็นในขณะนี้ มีประชาชนในราว 23,000 คน ในเขตชุมชน 225 ชุมชน ที่ต้องอาศัยอยู่ในสภาพที่ถูกตัดขาดและโดดเดี่ยวจากโลกภายนอก รวมถึงประชาชนเกือบ 4,000 คน กำลังขาดแคลนอาหารอย่างหนักด้วยเช่นกัน

--อินโฟเควสท์ โดย สุดทีวัล สุขใส/ณัฐชญา อัครยรรยง อีเมล์: natchaya@infoquest.co.th-

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 16, 2012 โดย ginger

[ginger 11,058]

นักลงทุนไม่เชื่อมั่น "ทัวร์นกแก้ว" แก้น้ำท่วมได้จริง แห่ย้ายฐานผลิตเข้าโซนตะวันออก โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 กุมภาพันธ์ 2555 21:42 น.

 

Share39

คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

นักลงทุนไม่เชื่อมั่น "ทัวร์นกขมิ้น" แก้ปัญหาน้ำท่วมปี 55 ได้จริง "อมตะ" ยอมรับ รง.แห่ย้ายฐานผลิตไปโชนตะวันออกทุกวัน โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดซ้ำซากของ รบ. ที่ปล่อยให้พื้นที่ 2 อำเภอใน จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วมในฤดูแล้งนั้น ยิ่งสร้างความหวาดผวาต่อการลงทุนเป็นอย่างมาก ขณะที่ ส.อ.ท. กังวล พ.ร.ก.กู้เงิน 2 ฉบับสะดุด กระทบความมั่นใจนักลงทุน

 

นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การลงทุนของภาคอุตสาหกรรม โซนฝั่งภาคตะวันออกของประเทศขณะนี้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก เนื่องจากนักลงทุนทยอยเข้ามาลงทุนยังในพื้นที่กันอย่างคับคั่งแบบต่อเนื่องรายวัน หลังจากยังเกิดความไม่มั่นใจที่จะเข้าไปลงทุนในพื้นที่ทางโซนภาคกลาง

 

"แม้ว่า นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี (ครม.) จัดทัวร์นกขมิ้นล่องเหนือแก้ปัญหาน้ำท่วม แต่นักลงทุนก็ยังไม่มั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมปีนี้ได้ โดยเฉพาะการบริหารจัดการน้ำที่ผิดพลาดซ้ำซากของรัฐบาล ที่ปล่อยให้พื้นที่ 2 อำเภอใน จ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วมในฤดูแล้งนั้น ยิ่งสร้างความหวาดผวาต่อการลงทุนอีกเป็นอย่างมาก"

 

นายวิบูลย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้ยังคงมีกระแสของการลงทุนเข้ามาในพื้นที่แบบรายวันและคาดว่าจะสามารถขายพื้นที่อุตสาหกรรมได้ตามเป้าที่ได้วางแผนเอาไว้ในปีนี้ คือ ประมาณ 2 พันไร่ เพื่อรองรับนักลงทุนหน้าใหม่ และโรงงานอุตสาหกรรมเดิมอยู่ในพื้นที่ก็เตรียมขยายกิจการ การลงทุนเพิ่มขึ้นอีกโดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยานยนต์นั้น ถือว่าเติบโตมากที่สุด รองลงมา คืออุตสาหกรรมเคมี เครื่องมืองานหนัก และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับภาคการเกษตร

 

ด้านสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) แสดงความเป็นห่วงพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) เงินกู้ 2 ฉบับสะดุด ระบุหากออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ที่ต้องใช้เวลาพิจารณาค่อนข้างนาน จะกระทบแผนแก้ปัญหาน้ำท่วมล่าช้าออกไป จนกระทบความเชื่อมั่นและการตัดสินใจลงทุนในไทย ของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ

 

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า หาก พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2555 และ พ.ร.ก.ปรับปรุงการบริหารหนี้เงินกู้ที่กระทรวงการคลังกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ.2555 ต้องสะดุดลง และต้องออกเป็น พ.ร.บ.แทน ซึ่งต้องใช้เวลาในการพิจารณาค่อนข้างนานอาจเป็นเรื่องใหญ่

 

"หากต้องออกเป็น พ.ร.บ.จะกระทบถึงแผนงานแก้ปัญหาน้ำท่วมที่จะต้องเร่งดำเนินการทั้งหมดให้ล่าช้าออกไป จนกระทบต่อความเชื่อมั่นและการตัดสินใจลงทุนในไทยของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ เพราะขณะนี้นักลงทุนรอดูความชัดเจนเกี่ยวกับแผนการป้องกันน้ำระยะยาวเพื่อให้มั่นใจว่าไทยจะไม่เกิดปัญหาอุทกภัยหนักเหมือนปีที่ผ่านมา"

 

นอกจากนี้ การจัดตั้งกองทุนประกันภัยพิบัติเป็นอีกหนึ่งทางที่จะช่วยสร้างความมั่นใจ โดยในวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 จะประชุมเพื่อสรุปรายละเอียดการรับประกันของกองทุนนี้อีกครั้ง โดยประเด็นที่พิจารณากันเพิ่มเติม คือ เมื่อบริษัทประกันภัยรับทำประกันแล้วในส่วนของประกันภัยต่อ อาจจะโอนภาระให้กองทุนทั้งหมด โดยไม่ส่งประกันภัยต่อไปยังต่างประเทศ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเพื่อลงนามข้อตกลงกับบริษัทประกันในสัปดาห์หน้า และเปิดขายกรมธรรม์ได้ระหว่างวันที่ 20-24 กุมภาพันธ์ 2555

[luck 512]

สวัสดีและขอบคุณมากค่ะ คุณginger พี่มดแดง ย่าหยา news baskie30 พี่แสงแดด กบจ๊า กระต่ายทอง ตังเม เด็กสยาม goldtoy และทุกคน

สบายดีกันนะคะ ขอให้โชคดีทุกๆคนค่ะ

[ginger 11,058]

สวัสดีและขอบคุณมากค่ะ คุณginger พี่มดแดง ย่าหยา news baskie30 พี่แสงแดด กบจ๊า กระต่ายทอง ตังเม เด็กสยาม goldtoy และทุกคน

สบายดีกันนะคะ ขอให้โชคดีทุกๆคนค่ะ

 

 

โชคดีจ้า ขอบคุณ พวงชมพู และพี่น้องเพื่อนของพวกเรา ทุกคน

 

โชคดีสุขกาย สบายใจ นะจ๊ะ

 

 

 

จนท.กระทรวงพาณิชย์จีนเผยแนวโน้มการค้าระหว่างประเทศซบเซาหลังศก.โลกชะลอตัว

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2555 13:05:21 น.

นายเฉิน ตันหยาง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนเผยการค้าระหว่างประเทศของจีนนั้น ไม่สดใส ขณะที่การขยายตัวทั่วโลกซบเซา โดยเฉพาะประเทศพันธมิตรการค้าที่สำคัญ อย่างสหภาพยุโรป สหรัฐ และญี่ปุ่น

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายเฉินกล่าวว่า ความต้องการในต่างประเทศนั้นลดลง เนื่องจากการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกหดตัวลง และส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของการส่งออกจีน

ขณะเดียวกัน จีนก็ต้องพบกับอุปสรรคในการเพิ่มปริมาณการนำเข้า เนื่องจากการขยายตัวภายในประเทศที่ชะลอตัว และการคุมเข้มการส่งออกในสหภาพยุโรปและสหรัฐ

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th