มือใหม่หัดวิเคราะห์

[jewjang40 5,712]

ฝากเอาดอกอัญชัญทาคิ้วน้องบีมแทนป้าด้วยนะ จุ๊ฟจุ๊ฟ

 

 

http://www.classicgold.co.th/

 

[jewjang40 5,712]

ย่าน้องบีมทาให้จนหนาไปแล้วคะพี่อังคณา

 

 

http://www.huasengheng.com/

 

[jewjang40 5,712]

สวัสดีคะคุณ news ginger bmw bas+trader กระต่ายทอง ย่าหยา พวงชมพู Pasaya Pa'ree fung bbeem chinchilla foo wann

 

deb99 nice999 ตังเม เด็กสยาม เด็กอู่ทอง แสงแดด ขุนศึกปทุม กบจ๊า ปุยเมฆ Dr.Polar Bear B2B

 

และเพื่อนทุกคน

 

 

http://www.globlexholding.co.th/

 

[jewjang40 5,712]

ขอบคุณทุก ๆ ท่านค่ะ

 

 

http://www.ylgbullion.com/th/

 

[ginger 11,058]

 

สุขสันต์วันพักผ่อนนะคะทุกคน

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดลดลง 10.9 ดอลลาร์ จากแรงขายทำกำไร

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2555 08:47:57 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) จากแรงขายทำกำไร หลังจากในช่วงที่ผ่านมา ราคาทองได้แรงหนุนจากแนวโน้มการผ่อนคลายทางการเงินโดยธนาคารกลางของประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งมาตรการลักษณะดังกล่าวได้ช่วยดึงดูดนักลงทุนให้เข้าซื้อโลหะมีค่าเพื่อเป็นเกราะป้องกันเงินเฟ้อ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 10.9 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ 1,759.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย. หลังจากเคลื่อนไหวในช่วง 1,753.50 - 1,775.00 ดอลลาร์ในระหว่างวัน สำหรับตลอดสัปดาห์ ราคาทองลดลง 1.2%

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 41.3 เซนต์ หรือ 1.2% ปิดที่ 33.669 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,659.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ร่วงลง 30.30 ดอลลาร์ หรือ 1.8% และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 639.05 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 11.85 ดอลลาร์ หรือ 1.8%

เทรดเดอร์กล่าวว่า ดูเหมือนทองจะได้อานิสงส์เต็มๆ จากการประกาศใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อเดือนที่แล้ว ส่งผลให้เริ่มมีแรงขายทำกำไรเข้ามาในตลาด ก่อนที่จะถึงการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า

ทั้งนี้ มาตรการผ่อนคลายทางการเงินดังกล่าวดึงดูดให้นักลงทุนเข้าซื้อโลหะมีค่า เพราะวิตกว่ามาตรการเหล่านี้อาจทำให้มูลค่าของเงินลดลง นอกจากนี้ นักลงทุนมักใช้ทองเป็นตัวปกป้องความเสี่ยงจากเงินเฟ้อซึ่งมีแนวโน้มว่าจะเกิดขึ้นจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินต่างๆ

ขณะเดียวกัน ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ดีขึ้นและข้อมูลด้านแรงงานที่ฟื้นตัวแข็งแกร่งได้จุดปะทุความวิตกกังวลว่าเฟดอาจควบคุมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากที่มาตรการดังกล่าวได้ช่วยหนุนราคาทองในช่วงที่ผ่านมา

นักวิเคราะห์กล่าวว่า เศรษฐกิจสหรัฐส่งสัญญาณดีขึ้น ดังนั้นระยะเวลาในการใช้มาตรการ QE อาจไม่ยาวนานเหมือนที่มีการคาดการณ์ในตอนแรก ดังนั้นผู้ที่ซื้อทองในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราเงินเฟ้อนั้น จึงเริ่มปลีกตัวออกจากตลาด

ราคาทองปรับตัวลงหลังความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนต.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนปรับตัวสูงขึ้นเกินคาดสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงก่อนที่จะเกิดภาวะถดถอยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มผู้ค้าปลีกจะได้เห็นยอดขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนต.ค. จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 83.1 จุด จากระดับ 78.3 จุดในเดือนก่อนหน้า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่า จะลดลงสู่ระดับ 78 จุด

ขณะที่ในวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 6 ต.ค. ร่วงลง 30,000 ราย มาอยู่ที่ 339,000 ราย ซึ่งดีกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 370,000 ราย นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่ช่วยเพิ่มความหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของตลาดแรงงานสหรัฐ หลังจากที่เพิ่งมีการเปิดเผยอัตราว่างงานที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 4 ปีที่ 7,8%

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเผยเมื่อวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวขึ้น 1.1% ในเดือนกันยายน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.7% ในเดือนสิงหาคม และดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานทรงตัวในเดือนก.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้นักลงทุนส่วนหนึ่งขายสัญญาทองก่อนช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลดลง 21 เซนต์จากแรงขายทำกำไร,อุปสงค์อ่อนแอ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2555 07:53:12 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนตัวลงเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) จากแรงขายทำกำไรหลังจากที่ราคาปรับตัวขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังถูกกดดันจากรายงานของ IEA ที่ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลก ขณะที่คาดว่าอุปทานจะเพิ่มสูงขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ปรับตัวลง 21 เซนต์ หรือ 0.23% ปิดที่ 91.86 ดอลลาร์/บาร์เรล อย่างไรก็ดี ตลอดสัปดาห์ ราคายังปรับตัวขึ้น 1.98 ดอลลาร์ หรือ 2.20%

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.09 ดอลลาร์ หรือ 0.94% ปิดที่ 114.62 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ตลอดสัปดาห์ สัญญาพุ่งขึ้น 2.6 ดอลลาร์ หรือ 2.32%

ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดแนวโน้มอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2555 และ 2556 ลงอีกปีละ 100,000 บาร์เรล โดยอ้างถึงสภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงซบเซา

นอกจากนี้ รายงานประจำเดือนของ IEA ยังระบุว่า อุปทานน้ำมันทั่วโลกจะฟื้นตัวดีขึ้นใน 5 ปีข้างหน้า เนื่องจากอุปสงค์ชะลอตัว ขณะที่การผลิตเพิ่มขึ้นในอเมริกาเหนือและตะวันออกกลาง ซึ่งอุปทานที่มากพอ ประกอบกับอุปสงค์ที่ลดลงอาจทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 366.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล

ขณะเดียวกัน นางคริสทีน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจยังไม่เร็วพอที่จะช่วยควบคุมอัตราว่างงานไม่ให้ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแออาจส่งผลกระทบต่อความต้องการน้ำมัน

อย่างไรก็ดี สถานการณ์ความตึงเครียดในตะวันออกกลางช่วยจำกัดช่วงขาลงของราคาน้ำมัน โดยมีรายงานว่า องค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ได้วางแผนที่จะปกป้องตุรกีจากการโจมตีของซีเรีย ซึ่งแสดงให้เห็นว่านาโต้พร้อมที่จะใช้กำลังทางทหารเพื่อช่วยเหลือตุรกีหากจำเป็น และสถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลว่าการส่งออกน้ำมันจากตะวันออกกลางอาจลดลง

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวกแค่ 2.46 จุด วิตกกำไรแบงก์ถ่วงความเชื่อมั่นผู้บริโภคสดใส

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2555 06:55:32 น.

ดัชนีหุ้นสหรัฐปิดผันผวนในกรอบแคบๆเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) หลังหุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงภายหลังจากที่มีการเปิดเผยผลประกอบการของสองธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐอย่างเวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค และ เจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งบดบังปัจจัยบวกจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่แสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกันมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจ โดยดัชนีหุ้นสหรัฐปิดท้ายสัปดาห์ย่ำแย่สุดในรอบ 4 เดือน ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ซบเซาและฤดูการรายงานผลประกอบการที่อ่อนแอ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ขยับขึ้นเล็กน้อย 2.46 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 13,328.85 จุด หลังปิดลบมา 4 วันติดต่อกัน

ดัชนี S&P 500 ลดลง 4.25 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 1,428.59 จุด

และดัชนี Nasdaq ปรับตัวลงเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน โดยลดลง 5.30 จุด หรือ 0.17% ปิดที่ 3,044.11 จุด ซึ่งเป็นการปิดลบต่อเนื่องยาวนานสุดในปีนี้

สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ร่วง 2.7% S&P ร่วง 2.21% และ Nasdaq ดิ่งลง 2.94%

หุ้นเคลื่อนไหวแดนบวกในการซื้อขายภาคเช้า โดยดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นถึง 75 จุด เพราะได้แรงหนุนจากการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวสูงขึ้นเกินคาดสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงก่อนที่จะเกิดภาวะถดถอยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้ที่กลุ่มผู้ค้าปลีกจะได้เห็นยอดขายที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่า นักลงทุนยังเข้าซื้อหุ้นที่ราคาตกลงในช่วงหลายวันที่ผ่านมา

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนต.ค. จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ 83.1 จุด จากระดับ 78.3 จุดในเดือนก่อนหน้า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 78 จุด

มูลค่าตลาดหุ้นและอสังหาริมทรัพย์ที่พุ่งสูงขึ้นประกอบกับอัตราว่างงานที่ลดลงทำให้ชาวอเมริกันเกิดแรงกระตุ้นทางจิตวิทยา ซึ่งช่วยสร้างมุมมองที่เป็นบวกต่อการใช้จ่ายภาคครัวเรือนในช่วงเทศกาลวันหยุดช่วงปลายปี

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวไม่สามารถช่วยให้หุ้นสหรัฐพุงตัวอยู่ในแดนบวกได้จนถึงช่วงปิดตลาด เมื่อแรงซื้อเริ่มอ่อนแรงลงและดัชนีปรับตัวลงในภาคบ่าย

หุ้นกลุ่มการเงินร่วงลงถ่วงตลาดมากที่สุด โดยหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ร่วง 2.6% หลังธนาคารรายใหญ่อันดับ 4 และผู้ปล่อยสินเชื่อบ้านรายใหญ่สุดของสหรัฐรายงานรายได้ไตรมาส 3 ที่น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งบดบังข้อมูลบวกอย่างกำไรสุทธิที่สูงกว่าคาดการณ์เล็กน้อย โดยกำไรสุทธิแตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 4.94 พันล้านดอลลาร์ ทะยานขึ้น 22% จากปีก่อน เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำช่วยหนุนธุรกิจรีไฟแนนซ์

สิ่งที่ทำให้นักลงทุนส่วนหนึ่งวิตกเป็นพิเศษคือส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง 0.25% แตะ 3.66% ซึ่งแย่กว่าที่ธนาคารได้คาดการณ์ไว้เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อนว่าจะลดลงแค่ 0.17%

ด้านเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่สุดของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ รายงานผลกำไรไตรมาส 3 ที่สูงทำสถิติ เนื่องจากยอดรีไฟแนนซ์สินเชื่อบ้านทะยานขึ้นและยอดปล่อยกู้เพื่อการพาณิชย์ขยายตัว อย่างไรก็ตาม แม้กำไรและรายได้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ แต่หุ้นของธนาคารก็ยังปรับตัวลดลง 1.1% เนื่องจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยที่ลดต่ำลง

ทั้งนี้ นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับฤดูการรายงานผลประกอบการ ซึ่งคาดกันว่าจะอ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่ช่วงวิกฤตการเงินเป็นต้นมา โดยข้อมูลจากธอมสัน รอยเตอร์เผยว่า ผลประกอบการรายไตรมาสของบริษัทจดทะเบียนในดัชนี S&P 500 มีแนวโน้มว่าจะลดลง 3% จากปีก่อน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 3 ปี

สำหรับในสัปดาห์หน้า นอกจากอีกหลายบริษัทจะทยอยรายงานผลประกอบการซึ่งเป็นที่จับตาแล้ว นักลงทุนยังจะรอดูความเคลื่อนไหวจากฝั่งยุโรป เมื่อบรรดาผู้นำมีกำหนดประชุมร่วมกันที่กรุงบรัสเซลส์ ขณะที่นักลงทุนหลายรายเชื่อว่า สเปนจะขอความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศในเร็วๆนี้ภายใต้ความกดดันที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่สเปนถูกลดอันดับเครดิต ซึ่งยิ่งกระพือกระแสคาดการณ์ดังกล่าว แม้รัฐบาลสเปนออกมาย้ำแล้วย้ำอีกว่า สเปนไม่ต้องการความช่วยเหลือก็ตาม

ทั้งนี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปนลง 2 ขั้น สู่ระดับ BBB- ซึ่งสูงกว่าระดับขยะเพียงขั้นเดียวเท่านั้น โดยเอสแอนด์พีระบุว่า เศรษฐกิจของสเปนอยู่ในภาวะที่ถดถอยรุนแรงและจำกัดทางเลือกด้านนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะแก้ไขปัญหาหนี้ภายในประเทศ

เอสแอนด์พีเปิดเผยในรายงานครั้งล่าสุดว่า การลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ความเสี่ยงต่างๆที่มีต่อการเงินสาธารณะของสเปนนั้น เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

[ginger 11,058]

กังวลเฟดไล่เกียร์ถอยกระตุ้นเศรษฐกิจฉุดทองคำดิ่งลงแรง

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 ตุลาคม 2555 04:31 น.

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นจากเดือนกันยายน ถึง 4.8 จุด แตะระดับ 83.1 จุด กลับฉุดให้ทองคำปิดในแดบอย่างไม่น่าเชื่อวานนี้(12) เนื่องจากเริ่มมีความกังวลว่าเฟด(ธนาคารสหรัฐฯ) อาจยับยั้งมาตรการกระตุ้นเชิงปริมาณ (QE3) เนื่องจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเริ่มดีขึ้น

 

ทองคำตลาดโคเมกซ์ของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 9.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,761.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

 

ราคาทองคำปิดลบ หลังพลังงานสากลปรับลดอุปสงค์โลก

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 ตุลาคม 2555 05:30 น.

ราคาน้ำมันขยับลงวานนี้(12) หลังหน่วยงานพลังงานสากลปรับลดคาดคะเนอุปสงค์โลก

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 21 เซนต์ ปิดที่ 91.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 114.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

[ginger 11,058]

ประเทศไทยยังมีฝนเป็นแห่งๆถึงกระจายในระยะนี้ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 ตุลาคม 2555 05:56 น.

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันเสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2555 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่ปกคลุมภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนลมตะวันออกพัดนำความชื้นจากทะเลจีนใต้ และอ่าวไทย เข้ามาปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจายในระยะนี้

 

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

 

ภาคเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา ลำพูน และตาก อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นในตอนเช้า และมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาคบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี และนครปฐม อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรแข็งค่า ขณะนลท.คาดสเปนขอรับความช่วยเหลือแน่

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2555 09:13:23 น.

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและเยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเชื่อว่าสเปนจะขอรับความช่วยเหลือทางการเงินจากต่างประเทศในเร็วๆนี้ภายใต้ความกดดันที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่สเปนถูกลดอันดับเครดิต ซึ่งยิ่งกระพือกระแสคาดการณ์ดังกล่าว แม้รัฐบาลสเปนออกมาย้ำแล้วย้ำอีกว่า สเปนไม่ต้องการความช่วยเหลือก็ตาม

ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้น 0.19% แตะที่ 1.2951 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.2926 ดอลลาร์สหรัฐ และแข็งค่าขึ้น 0.29% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 101.56 จากระดับ 101.27 เยน

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 78.400 จากระดับ 78.320 เยน และปรับตัวขึ้น 0.10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ 0.9793 จากระดับ 0.9783 แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.15% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9336 จากระดับ 0.9350 ฟรังค์

เงินปอนด์เพิ่มขึ้น 0.17% แตะที่ 1.6072 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6044 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วง 0.30% แตะที่ 1.0233 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0264 และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับลง 0.01% แตะที่ 0.8169 จากระดับ 0.8170 ดอลลาร์สหรัฐ

ทั้งนี้ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปนลง 2 ขั้น สู่ระดับ BBB- ซึ่งสูงกว่าระดับขยะเพียงขั้นเดียวเท่านั้น โดยเอสแอนด์พีระบุว่า เศรษฐกิจของสเปนอยู่ในภาวะที่ถดถอยรุนแรงและจำกัดทางเลือกด้านนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะแก้ไขปัญหาหนี้ภายในประเทศ

เอสแอนด์พีเปิดเผยในรายงานครั้งล่าสุดว่า การลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปนในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ความเสี่ยงต่างๆที่มีต่อการเงินสาธารณะของสเปนนั้น เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นทั้งทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง

นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้ปัจจัยหนุนจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมในยุโรปที่ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนส.ค. และดีกว่าการประเมินก่อนหน้านี้ โดยสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยวานนี้ว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมขยายตัว 0.6% ในเดือนส.ค.และก.ค.

ด้านดอลลาร์สหรัฐถูกแรงขายกดดัน หลังจากที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ปรับตัวขึ้นเกินคาดสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ช่วงก่อนที่จะเกิดภาวะถดถอยเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกันมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งข้อมูลดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐช่วงต้นเดือนต.ค. จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 5 ปีที่ 83.1 จุด จากระดับ 78.3 จุดในเดือนก่อนหน้า สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 78 จุด

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

[ginger 11,058]

Chart This! Consolidation or Correction

 

 

[ginger 11,058]

ราคาทองปิดลบ หลังพลังงานสากลปรับลดอุปสงค์โลก05:30 น.

ตลาดหุ้นสหรัฐฯขยับลง แม้ข้อมูลผู้บริโภคแข็งแกร่ง05:12 น.

กังวลเฟดไล่เกียร์ถอยกระตุ้นเศรษฐกิจฉุดทองคำดิ่งลงแรง04:31 น.

อังกฤษไล่ต้อนสมันน้อย5-0ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก03:46 น.

อิตาลีอาศัยเก๋าบดชนะอาร์มาเนีย3-1คัดบอลโลก01:44 น. ตร.เนเธอร์แลนด์-เบลเยียมร่วมยึดโคเคน8ตันจากเอกวาดอร์01:30 น. เนปาลจัดกีฬาคนเบี่ยงเบนทางเพศครั้งแรกของเอเชีย 00:00 น.

ถูกแก้ไข ตุลาคม 13, 2012 โดย ginger

[ginger 11,058]

จีนเผยยอดส่งออกเดือนก.ย.โต 9.9% นำเข้าเพิ่ม 2.4% ดันยอดเกินดุลการค้าขยาย

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2555 09:34:00 น.

สำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่า ยอดส่งออกของจีนปรับตัวขึ้น 9.9% เมื่อเทียบรายปี สู่ระดับ 1.8635 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐในเดือนก.ย. ซึ่งอัตราการขยายตัวของตัวเลขส่งออกในเดือนที่แล้วสูงกว่าที่เพิ่มขึ้นเพียง 2.7% ต่อปีในเดือนส.ค.

ขณะที่การนำเข้าดีดตัวขึ้น 2.4% จากปีก่อน สู่ระดับ 1.5868 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนก.ย. หลังจากที่ปรับตัวลดลงตลอดช่วง 3 เดือนก่อนหน้านั้น

สำหรับยอดเกินดุลการค้าของจีนในเดือนก.ย.ขยับขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 2.767 หมื่นล้านดอลลาร์ จากระดับ 2.666 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

[NEWS 2,613]

สวัสดีวันเสาร์แสนสุข ครอบครัวสุขสันต์

หัวใจอบอวลไปด้วยความรัก ความอบอุ่นนะครับ

ชาวมือใหม่หัดวิเคราะห์ ทุกท่าน

ถูกแก้ไข ตุลาคม 13, 2012 โดย news

[ginger 11,058]

สวัสดีวันเสาร์แสนสุข ครอบครัวสุขสันต์

หัวใจอบอวลไปด้วยความรัก ความอบอุ่นนะครับ

ชาวมือใหม่หัดวิเคราะห์ ทุกท่าน

สวัสดีคับ news

 

เอาทะเลยามเย็นมาฝาก

สุขสันต์วันหยุด เวลาของครอบครัว ^____________^

มือใหม่ทุกท่าน แฟนๆกระทู้มือใหม่และชาวเวปThaiGOLDทุกท่าน

 

 

สหรัฐเรียกร้องจีนกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ, เดินหน้าปล่อยเงินหยวนยืดหยุ่น

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2555 14:00:03 น.

ทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลังสหรัฐขอให้จีนกระตุ้นอุปสงค์ในประเทศและเดินหน้าสู่การใช้นโยบายเงินหยวนตามกลไกตลาด เพื่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

ในแถลงการณ์ซึ่งนำเสนอในที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMFC) ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงโตเกียว วันนี้ นายไกธ์เนอร์ระบุว่า การส่งเสริมความต้องการภายในประเทศให้แข็งแกร่งจะเป็นผลดีต่อจีนและเศรษฐกิจโลก

นอกจากนี้ นายไกธ์เนอร์ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้หลายประเทศกำลังพยายามปรับนโยบายเพื่อกระตุ้นอุปสงค์ภายในประเทศ ซึ่งเขาชี้ว่า อัตราแลกเปลี่ยนที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเอเชีย จะช่วยสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้าง ซึ่งถ้อยแถลงนี้ถูกมองว่าพุ่งเป้าไปที่จีน

"เรายังคงสนับสนุนอย่างเต็มที่ให้มีการตรวจสอบนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนของประเทศสมาชิกไอเอ็มเอฟอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นภารกิจหลักของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ" รมว.คลังสหรัฐกล่าว

ขณะเดียวกันในแถลงการณ์ IMFC ไกธ์เนอร์ยังได้กล่าวถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐและจีนว่ามีการพัฒนาไปในเชิงบวก โดยระบุว่า การส่งออกของสหรัฐไปยังจีนเพิ่มขึ้นสองเท่าอันเป็นผลมาจากที่เงินหยวนแข็งค่าขึ้นราว 11% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

รมว.คลังสหรัฐระบุด้วยว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดของสหรัฐกับจีนยังลดลงเหลือไม่ถึง 3% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศปีที่แล้ว จากระดับ 9% ในปี 2551

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า สหรัฐตัดสินใจที่จะเลื่อนการเผยแพร่รายงานนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนรอบครึ่งปีเพื่อประเมินความคืบหน้าของการปฏิรูปค่าเงินของประเทศคู่ค้าของสหรัฐไปจนกระทั่งการประชุมรมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G20 ที่กรุงเม็กซิโกซิตี้ ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นในเดือนพ.ย.นี้

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

ปธ.อีซีบีเห็นสัญญาณบวกในเศรษฐกิจยูโรโซน หลังภาคธนาคารเริ่มมีเสถียรภาพ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2555 15:38:24 น.

นายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวว่า เขามองเห็นสัญญาณเชิงบวกในเศรษฐกิจยูโรโซน ซึ่งเป็นผลมาจากความมีเสถียรภาพมากขึ้นในภาคการธนาคาร

นายดรากิกล่าวในการแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นนอกรอบการประชุมประจำปีของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่กรุงโตเกียวว่า ปัจจัยต่างๆ ดังกล่าว ได้แก่ การที่ธนาคารในยูโรโซนสามารถฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤตหนี้ในภูมิภาค และความคืบหน้าในการจัดตั้งสหภาพธนาคารยุโรป เป็นต้น

"สถานการณ์ดีขึ้นกว่าเมื่อต้นปีนี้มาก" เขากล่าว แต่ขณะเดียวกันก็ระบุว่า สถานการณ์ยังคงท้าทาย

นายโอลลี เรห์น รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรปกล่าวในทำนองเดียวกับประธานอีซีบีในระหว่างการแถลงข่าว โดยระบุว่า มุมมองในแง่ลบของเขาที่มีต่ออนาคตของเศรษฐกิจยูโรโซนนั้นน้อยลงกว่าเมื่อหลายเดือนก่อน เนื่องจากตอนนี้ยูโรโซนมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจยุโรป อาทิ สหภาพธนาคาร สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

 

พอล ครุกแมน ชี้รบ.สหรัฐมองศก.แง่บวกเกินไป แนะใช้จ่ายเพิ่มเพื่อกระตุ้นศก.

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 13 ตุลาคม 2555 17:08:41 น.

นายพอล ครุกแมน นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบลชาวสหรัฐกล่าวว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีบารัค โอบามา มีมุมมองในแง่บวกมากเกินไปว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มฟื้นตัวเร็ว พร้อมทั้งระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงต้องการการใช้จ่ายของภาครัฐมาช่วยกระตุ้น

"ในการคาดการณ์เมื่อเดือนม.ค.2552 ซึ่งกำลังถูกกล่าวถึงในด้านลบอยู่ในขณะนี้นั้น บรรดานักเศรษฐศาสตร์ที่ทำงานให้กับรัฐบาลได้คาดการณ์ว่าเราจะสามารถผ่านพ้นผลกระทบส่วนใหญ่ของวิกฤตการเงินปี 2551 ไปได้ และอัตราว่างงานจะต่ำกว่า 6% ซึ่งถึงตอนนี้ก็ได้เห็นกันแล้วว่า สิ่งนั้นไม่เกิดขึ้น" ครุกแมนกล่าวในบทความล่าสุดของเขาในหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในสัปดาห์ที่แล้วว่า อัตราว่างงานลดลงจากระดับ 8.1% ในเดือนส.ค. มาอยู่ที่ 7.8% ในเดือนก.ย. แต่อัตราว่างงานในเดือนที่แล้วก็ยังสูงกว่าระดับ 6% ที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ได้ให้สัญญาไว้ในปี 2552 เมื่อครั้งที่เขาขอให้สภาคองเกรสอนุมัติแผนกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 8 แสนล้านดอลลาร์

"ทีมงานของโอบามาไม่สามารถเล็งเห็นถึงสิ่งที่นักวิเคราะห์เศรษฐกิจต่างยอมรับกันในตอนนี้ว่า วิกฤตการเงินที่รุนแรงได้สร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง และต้องใช้เวลานานกว่าที่จะฟื้นตัวได้" เจ้าของรางวัลโนเบล สาขาเศรษฐศาสตร์กล่าว

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

[ginger 11,058]

 

กบบนใบบัว ความสุขเรียบง่าย

 

มิต้องยิ่งใหญ่ มิต้องสะสม

 

มิต้องแสวงหา กระวนกระวาย

 

เพื่อได้มา....เบาโปร่ง...แค่พอดี พอใจ

สุขสันต์วันหยุดนะคะ

 

 

USGSเผยเกิดแผ่นดินไหว5.2ริกเตอร์ใกล้ชายฝั่งภาคเหนือปาปัวนิวกินีเช้านี้

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2555 07:09:10 น.

สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ (USGS) เปิดเผยว่า เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.2 ริกเตอร์ใกล้กับบริเวณชายฝั่งในภาคเหนือของปาปัวนิวกินี ในเวลา 06.07 น. ตามเวลาไทยวันนี้

USGS ระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวครั้งนี้อยู่ที่ระดับความลึก 6.7 กิโลเมตร โดยวัดพิกัดเบื้องต้นได้ที่ 2.52 ละติจูดองศาใต้ และ 142.3012 ลองจิจูดองศาตะวันออก สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: ket@infoquest.co.th

 

 

ญี่ปุ่นเผยอาจซื้อพันธบัตรช่วยเหลือเพิ่มเติมหากรัฐบาลยูโรโซนพยายามมากพอ

 

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2555 07:44:50 น.

นายโคริกิ โจจิมะ รัฐมนตรีคลังญี่ปุ่นกล่าวว่า ญี่ปุ่นอาจซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมเพื่อช่วยยุโรปแก้ปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะหากผู้นำประเทศยูโรโซนดำเนินการอย่างเพียงพอ

“ญี่ปุ่นจะพิจารณาว่าจะซื้อพันธบัตรหรือไม่ควบคู่ไปกับการประเมินความพยายามของยุโรป" นายโจจิมะกล่าว โดยอ้างถึงศักยภาพของญี่ปุ่นในการจ่ายเงินสมทบให้กับกองทุนกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือถาวรอย่างเป็นทางการที่พึ่งเปิดตัวของภูมิภาค โดยรัฐบาลญี่ปุ่นจะประเมินความน่าเชื่อถือของกองทุน

การแสดงความเห็นของนายโจจิมะมีขึ้นภายหลังการประชุมนอกรอบของการประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลกร่วมกับนายปิแอร์ มอสโควิซี รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสที่กรุงโตเกียว

นายมอสโควิซีได้แสดงความขอบคุณสำหรับความร่วมมือของญี่ปุ่นในอดีตในการซื้อพันธบัตรในลักษณะเดียวกันของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งเป็นกองทุนช่วยเหลือชั่วคราวของภูมิภาคซึ่งก่อตั้งขึ้นเพื่อให้ความช่วยเหลือกรีซในปี 2553 โดยนายมอสโควิซีได้แสดงความหวังว่าญี่ปุ่นจะซื้อพันธบัตรของกองทุน ESM

ในขณะเดียวกัน ไอเอ็มเอฟได้ออกแถลงการณ์แสดงความวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความแข็งแกร่งด้านการคลังของญี่ปุ่น ซึ่งมีความอ่อนแอที่สุดในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรม โดยนายโจจิมะกล่าวว่า ญี่ปุ่นจะปรับปรุงด้านการคลังอย่างต่อเนื่องเพื่อป้องกันไม่ให้ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการคลังของประเทศสั่นคลอน โดยจะเพิ่มความพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้ผ่านพ้นทางตันทางการเมืองในการผ่านร่างกฎหมายเงินกู้ เพื่อนำมาใช้ในงบประมาณปีนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: ket@infoquest.co.th-

 

 

แบงก์ชาติญี่ปุ่นย้ำการผ่านพ้นภาวะเงินฝืด,เติบโตอย่างยั่งยืนสำคัญที่สุด

 

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 14 ตุลาคม 2555 08:34:09 น.

นายมาซาอากิ ชิรากาวา ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวย้ำวานนี้ว่า ญี่ปุ่นได้ให้ความสำคัญในเรื่องการผ่านพ้นภาวะเงินฝืดและกลับมามีอัตราการเติบโตอย่างยั่งยืนมากที่สุดในการใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลาง

นายชิรากาวา ให้สัมภาษณ์ในระหว่างการเข้าร่วมการประชุมของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และธนาคารโลกที่โตเกียวว่า “การผ่านพ้นภาวะเงินฝืดของเศรษฐกิจญี่ปุ่นและการกลับมาเติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้เสถียรภาพด้านราคาเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด"

นอกจากนี้ นายชิรากาวายังกล่าวว่า การจัดการประชุมอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากเขาและเจ้าหน้าที่จากประเทศอื่นๆ จะเข้าใจเกี่ยวกับปัญหาของแต่ละฝ่ายในเชิงลึกมากขึ้นผ่านการหารือในหลายประเด็น ซึ่งรวมไปถึงปัญหาหนี้สินในยุโรป ท่ามกลางความไร้เสถียรภาพของภาวะเศรษฐกิจโลก

ก่อนหน้านี้ นายชิรากาวากล่าวในงานสัมมนาซึ่งจัดโดยบีโอเจและไอเอ็มเอฟว่า จำเป็นต้องมีการการปรับโครงสร้างและการคลังนอกเหนือไปจากนโยบายด้านการเงินเพื่อส่งเสริมการเติบโตในประเทศอุตสาหกรรม เช่น สหรัฐ และ ยุโรป โดยระบุว่า ถึงแม้ว่าจะใช้นโยบายการเงินในเชิงรุก แต่ยุโรปและสหรัฐก็ยังคงมีอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจช้ากว่าญี่ปุ่นเล็กน้อย ภายหลังช่วงเศรษฐกิจฟองสบู่ในญี่ปุ่นแตกในทศวรรษที่ 1990

“สิ่งที่เราต้องการก็คือ การปฏิรูปโครงสร้าง การปฏิรูปด้านการคลัง นโยบายการเงินที่เหมาะสม และยอมรับความจริงที่ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะอยู่ในระดับต่ำ" เขากล่าว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: ket@infoquest.co.th

ถูกแก้ไข ตุลาคม 14, 2012 โดย ginger

[ginger 11,058]

พยากรณ์อากาศ 14/10/2012 กรุงเทพ มีเมฆมาก สูงสุด 34 ° C ต่ำสุด 25 ° C

กาญจนบุรี มีแดดจัด สูงสุด 34 ° C ต่ำสุด 24 ° C

เชียงใหม่ มีแดดจัด สูงสุด 31 ° C ต่ำสุด 19 ° C

ขอนแก่น มีเมฆหมอก สูงสุด 32 ° C ต่ำสุด 23 ° C

นครราชสีมา มีเมฆหมอก สูงสุด 32 ° C ต่ำสุด 22 ° C

ชลบุรี มีเมฆมาก สูงสุด 31 ° C ต่ำสุด 26 ° C

สงขลา มีเมฆมาก สูงสุด 32 ° C ต่ำสุด 25 ° C

ภูเก็ต มีเมฆมาก สูงสุด 29 ° C ต่ำสุด 24 ° C

ตรวจสอบสภาพอากาศเพิ่มเติม