ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

NNA NEWS >>

น้องปลื้ม” ประกาศสละโสด วิวาห์ “ทับทิม” เผย “ชวน”สุดเห่อว่าที่ลูกสะใภ้ อาสาออกแบบการ์ด-ของชำร่วยเอง#nsn

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

was tagged in Sazzy Luve's photo. — with Tipakorn Jeew and 3 others.

 

579220_438612019508252_676623587_n.jpg

มหาวิทยาลัยเอกชนจีน ชื่อดังย่านบางพลี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศูนย์วิจัยกสิกรฯ เชื่อกนง.17 ต.ค.คงดอกเบี้ย มองยังไม่ใช่จังหวะผ่อนคลายเพิ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2555 17:31:06 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) 17 ต.ค.อาจตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 3.00 ต่อไป ซึ่งเป็นทิศทางที่ค่อนข้างสอดรับกับการคาดการณ์ของตลาด

ทั้งนี้ เห็นได้จากเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทย และ Forward Curve อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลในช่วง 3 เดือนข้างหน้า โดยเฉพาะประเภทระยะสั้น ค่อนข้างทรงตัวนับตั้งแต่การประชุมรอบก่อน(5 ก.ย.55 จนถึงวันที่ 11 ต.ค.55) ขณะที่ประเภทระยะกลาง-ยาว ปรับขึ้นตามทิศทางตลาดพันธบัตรส่วนใหญ่ทั่วโลก โดยเฉพาะหลังการประกาศมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมของธนาคารกลางหลัก อันทำให้นักลงทุนคลายวิตกต่อกรณีเลวร้ายของเศรษฐกิจและคาดการณ์ถึงแนวโน้มเงินเฟ้อที่มีโอกาสเร่งตัวขึ้นในอนาคต

นอกจากนี้ เครื่องชี้การบริโภค-การลงทุนของภาคเอกชนที่ยังสามารถขยายตัวในเกณฑ์ค่อนข้างดี ซึ่งเป็นผลจากทั้งความต้องการซื้อสะสมและกิจกรรมการฟื้นฟูหลังเหตุอุทกภัย ตลอดจนมาตรการสนับสนุนจากภาครัฐ เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะที่ผ่านมา

ขณะที่ มองไปข้างหน้าศูนย์วิจัยกสิกรไทยเห็นว่าแม้กิจกรรมการฟื้นฟูและซ่อมแซมความเสียหายจากอุทกภัยคงทยอยเบาบางลง แต่การเติบโตของการใช้จ่ายภาคเอกชน คาดว่าจะยังคงได้รับแรงหนุนจากการเบิกจ่ายงบประมาณและการเดินหน้าแผนการลงทุนของรัฐ ทั้งโครงการวางระบบบริหารจัดการน้ำและในด้านโครงสร้างพื้นฐานระยะยาว รวมไปถึงมาตรการเพิ่มรายได้และบรรเทาค่าครองชีพที่ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ตลอดจนแผนการขยายการลงทุนของภาคเอกชนเพื่อเตรียมรับมือกับการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)น่าจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้เศรษฐกิจไทยสามารถรักษาแรงส่งการขยายตัวในช่วงที่เหลือของปีนี้ต่อเนื่องถึงปี 56 ได้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า การส่งออกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของไทยอาจมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้น โดยเฉพาะหากการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยธนาคารกลางหลักทั่วโลกในระยะที่ผ่านมาเริ่มสะท้อนผลในทางบวกที่ชัดเจนมากขึ้นต่อเศรษฐกิจ ขณะที่ การตัดสินใจใช้มาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมทั้งจากธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ธนาคารกลางยุโรป(ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงขาลงในการเกิดวิกฤตเลวร้ายลงส่วนหนึ่ง

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ช่วงเวลานี้อาจจะยังไม่ใช่จังหวะที่ กนง.จำเป็นต้องเร่งปรับจุดยืนด้วยการผ่อนคลายนโยบายการเงินในทันที ทั้งนี้ เหตุผลดังกล่าว ได้แก่ เศรษฐกิจไทยที่ยังมีแนวโน้มรักษาแรงส่งการขยายตัวได้จากแรงขับเคลื่อนของการใช้จ่ายภายในประเทศ ขณะที่การส่งออกน่าจะทยอยฟื้นตัวชัดเจนมากขึ้นในระยะถัดไป นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ร้อยละ 3.00 ในปัจจุบัน ถือเป็นระดับที่ยังเอื้อต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ส่วนการปรับตัวของค่าเงินบาทหลังการใช้มาตรการผ่อนคลายของธนาคารกลางหลัก ก็ยังไม่ได้ส่งผลกระทบหรือเป็นอุปสรรคต่อความสามารถทางการแข่งขันของภาคการส่งออก

อย่างไรก็ดี เชื่อว่า ทางการไทยคงจะติดตามพัฒนาการความเสี่ยงจากต่างประเทศที่ยังมีอีกหลายเหตุการณ์สำคัญรออยู่ เนื่องจากความเสี่ยงจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงมีระดับสูง โดยยังคงมีอีกหลายเหตุการณ์สำคัญที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นปัจจัยการเมืองของประเทศแกนหลัก อาทิ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และการเปลี่ยนตัวผู้นำจีนในเดือน พ.ย.ประเด็นข้อพิพาทเรื่องหมู่เกาะระหว่างจีนและญี่ปุ่น ความเสี่ยงที่สหรัฐฯ อาจจะประสบกับปัญหาด้านการคลัง(Fiscal Cliff)และพัฒนาการวิกฤตหนี้ยุโรป โดยเฉพาะท่าทีของสเปนในการขอรับความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ อันเป็นเงื่อนไขขั้นต้นที่จะทำให้ ECB สามารถเข้าซื้อพันธบัตรสเปนได้

ดังนั้น เชื่อว่าทางการไทยคงจะติดตามพัฒนาการความเสี่ยงจากต่างประเทศดังกล่าว รวมไปถึงความก้าวหน้าของการใช้จ่ายภาครัฐ และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศ โดยคงพร้อมที่จะปรับจุดยืนด้วยการผ่อนคลายนโยบายการเงินหากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหรือความเสี่ยงขาลงของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

รวมไปถึงความก้าวหน้าของการใช้จ่ายภาครัฐ และสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในประเทศ โดยคงพร้อมที่จะปรับจุดยืนด้วยการผ่อนคลายนโยบายการเงินหากสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คาดหรือความเสี่ยงขาลงของเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกเหนือจากนั้น คงต้องจับตาแรงกดดันเงินเฟ้อที่อาจมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะจากฝั่งอุปทาน (ตามราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์โลก รวมถึงนโยบายเพิ่มรายได้)

แต่ทั้งนี้ ประเมินว่า กนง.จะยังพอมีช่องว่างสำหรับการใช้นโยบายเพื่อดูแลความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจเป็นหลักตราบใดที่แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์หรือที่เกิดจากการใช้จ่ายภายในประเทศไม่ได้เร่งตัวขึ้นอย่างชัดเจน

"ช่วงเวลานี้ อาจจะยังไม่ใช่จังหวะเวลาที่ กนง.ต้องเร่งดำเนินการผ่อนคลายเพิ่มเติม อย่างไรก็ดี มองไปข้างหน้า ยังคงมีอีกหลายเหตุการณ์สำคัญที่มีผลต่อพัฒนาการทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในประเทศแกนหลักของโลก ดังนั้น เชื่อว่าทางการไทยคงจะติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด และพร้อมที่จะดำเนินการหากจำเป็นหรือเมื่อเกิดพัฒนาการเชิงลบอย่างชัดเจนต่อเศรษฐกิจไทย" เอกสารเผยแพร่ ระบุ

--อินโฟเควสท์ โดย รัชดา คงขุนเทียน/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ ร่วงลงแตะ 16,382 HKD/tael

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2555 17:26:35 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลดลง 182 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 16,382 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,754.24 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 19.71 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.752 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ศศิประภา อัครภูติ/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 15 ตุลาคม 2555 โดย YLG

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2555 16:59:58 น.

กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--PRdd

 

สภาวะตลาดวันที่ 15 ตุลาคม 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,741.69 — 1,755.08 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV12 อยู่ที่ 25,580 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 260 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,840 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVV12 อยู่ที่ 1,040 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,036 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.01 น.ของวันที่ 15/10/12)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 16 ตุลาคม 2555

สมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE) เปิดเผยผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆในปี 2556 ขณะที่ภาวะหน้าผาทางการคลัง (fiscal cliff) นักเศรษฐศาสตร์โดยทั่วไปคาดว่าจะไม่เกิดขึ้น และคาดว่ายอดขาดดุลของสหรัฐในปี 2556 จะต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยมีแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในเชิงบวก ซึ่งการที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น ทำลายความหวังของนักลงทุนเรื่องระยะเวลาในการใช้มาตรการ QE อาจไม่ยาวนานเหมือนที่มีการคาดการณ์ในตอนแรก กดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง ประกอบกับ สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์ จากความวิตกกังวลระลอกใหม่เกี่ยวกับวิกฤตหนี้สาธารณะยูโรโซน หลังสื่อต่างๆรายงานว่าสเปนอาจชะลอการขอรับเงินช่วยเหลือจนกว่าจะถึงเดือนพฤศจิกายน ขณะที่ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) คาดว่าสหภาพธนาคารยุโรปอาจยังไม่เริ่มดำเนินการ โดยกล่าวถึง การกำกับดูแลภาคธนาคารในเขตยูโรโซนโดยใช้มาตรฐานเดียวกันจะยังไม่เริ่มดำเนินการก่อนถึงปี 2557 ถึงแม้ว่าผลทางกฎหมายจะบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2556 เป็นต้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า การดำเนินการจะเริ่มต้นในวันที่ 1 มกราคม ปีหน้า โดยราคาทองคำได้ทิ้งตัวลงสู่แนวรับในโซน 1,740-1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากราคาทองคำไม่หลุดแนวรับ ประเมินว่าการดีดตัวจะสามารถไปได้ถึง 1,758 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามวายแอลจีแนะนำให้รอจัวหวะการย่อตัวของราคาเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตในช่วงนี้

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,758 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,740 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,736 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,725 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,740 (25,230บาท) 1,736 (25,180บาท) 1,725 (25,020บาท)

แนวต้าน 1,758 (25,500บาท) 1,765(25,600บาท) 1,770 (25,670บาท)

 

GOLD FUTURES (GFV12)

แนวรับ 1,740 (25,430บาท) 1,736 (25,370บาท) 1,725 (25,210บาท)

แนวต้าน 1,758 (25,690บาท) 1,765(25,800บาท) 1,770 (25,870บาท)

 

SILVER FUTURES (SVV12)

แนวรับ 33.00 (1,029บาท) 32.65 (1,019บาท) 33.30 (1,008บาท)

แนวต้าน 33.70 (1,051บาท) 33.95 (1,059บาท) 34.35 (1,071บาท)ฤ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากๆค่ะคุณ ginger คุณบาสคุณเอ๋ คุณ news คุณกระต่าย และทุกๆคนนะคะ^_____^

:Announce

 

 

http://www.gtgoldonline.com/

 

image-31AB_507BF3A9.jpg

image-8D22_507BF3A9.jpg

image-68B7_507BF3A9.jpg

image-6808_507BF3A9.jpg

image-B009_507BF3A9.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"ในหลวง"ทรงมีพระราชสาสน์แสดงความเสียพระราชหฤทัยยังกษัตริย์กัมพูชา

blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 15 ตุลาคม 2555 17:09 น.

blank.gif พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี แห่งกัมพูชา กรุงพนมเปญ

 

หม่อมฉัน และพระราชินี เศร้าสลดใจอย่างยิ่งที่ได้ทราบว่า สมเด็จพระนโรดม สีหนุ แห่งกัมพูชา สวรรคต หม่อมฉันและพระราชินี ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังฝ่าพระบาท และพระราชวงศ์ ตลอดจนประชาชนชาวกัมพูชา ในการสูญเสียอันยิ่งใหญ่ต่อประเทศและประชาชนในครั้งนี้

 

(พระปรมาภิไธย) ภูมิพลอดุลยเดช ปร.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 15 ตุลาคม 2555

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2555 18:00:00 น.

สมเด็จเจ้านโรดม สีหนุ อดีตกษัตริย์ของกัมพูชา ได้เสด็จสวรรคตแล้วที่กรุงปักกิ่งของจีนในช่วงเช้าวันนี้ ด้วยพระชนมายุ 90 พรรษา

 

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย.ของจีน ซึ่งเป็นมาตรดวัดเงินเฟ้อที่สำคัญ ขยายตัว 1.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี

 

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) รายงานว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย.ของจีน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อในระดับค้าส่ง ร่วงลง 3.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี และเมื่อเทียบกับเดือนส.ค.ที่ปรับตัวลดลง 3.5%

 

-- นายยี่ กัง รองผู้ว่าธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยในที่ประชุมร่วมประจำปีของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เมื่อวันที่ 13 ต.ค.ว่าการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนมีแนวโน้มจะยังคงอยู่ที่ 2.7% ในปีนี้ แม้ว่านโยบายผ่อนคลายทางการเงินของประเทศรายใหญ่ๆจะส่งผลกระทบต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

 

-- ผลสำรวจของบริษัทไรท์มูฟ ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ออนไลน์ เปิดเผยว่าราคาบ้านในอังกฤษในเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 3.5% จากเดือนก.ย. และปรับตัวขึ้น 1.5% เมื่อเทียบรายปี โดยราคาบ้านของอังกฤษในช่วงสัปดาห์แรกๆของเดือนต.ค.ทะยานขึ้นกว่า 8,000 ปอนด์

 

--- สมาคมเศรษฐศาสตร์ธุรกิจแห่งชาติของสหรัฐ (NABE) เปิดเผยผลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ที่คาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างช้าๆในปี 2556 ขณะที่ตลาดที่อยู่อาศัยจะยังคงปรับตัวขึ้น โดยคาดว่าจะมีการขยายตัว 1.9% ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2555 และจะปรับขึ้นต่อเนื่องแตะ 3% ในไตรมาส 4 ปีหน้า

 

-- อินเดียเผยเงินเฟ้อขยายตัวแตะ 7.8% ในเดือนก.ย. หลังจากที่รัฐบาลได้ขึ้นราคาเชื้อเพลิงที่ได้รับเงินอุดหนุน เพื่อควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณ

 

-- กระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ได้ปรับทบทวนผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค.เป็น หดตัวลง 1.6% จากเดือนก.ค. จากก่อนหน้านี้ที่ประมาณการว่า หดตัวลง 1.3%

 

-- สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ถือบัตรธนาคาร ได้ปรับตัวลงเล็กน้อยในเดือนกันยายน อันเนื่องมาจากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจที่ย่ำแย่และปัจจัยในเรื่องวันหยุด

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

'เลขาฯนรม.'สั่งคุมเข้ม'นักข่าวทำเนียบ "เลขาฯนรม."สั่ง คุมเข้ม"นักข่าวทำเนียบ"ห้าม ดอดเข้าห้อง"3 รองโฆษกฯ" หลังข่าวลับรั่ว เหตุสื่อให้ความสนใจ 3 รองโฆษกฯ มากกว่า "ศันสนีย์" 'มงคลกิตติ์'ยัน'ดุษฎี'มีข้อมูลไซฟ่อนเงิน "มงคลกิตติ์" ยัน "ดุษฎี" มีข้อมูลไซฟ่อนเงิน เชื่อรัฐบาลจีนส่งข้อมูลให้ไทยแล้ว แบงก์ชาติถกจีนใช้เงินหยวนเทรดสินค้า แบงก์ชาติหารือร่วมธนาคารกลางจีน หวังหนุนใช้เงินหยวนซื้อขายสินค้า ด้าน"กสิกรไทย"เผยลูกค้าสนใจจำนวนมาก แต่ยังติดเรื่องสภาพคล่อง พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ ต่างชาติขาย1.9พันล. หุ้นไทยปิดลบ6จุด กังวลเศรษฐกิจโลกชะลอ 'ดุษฎี'แจงไม่มีไซฟ่อนเงินไปฮ่องกง1.6หมื่นล้าน ศาลปกครองยกฟ้องประมูล'3จี'พรุ่งนี้10โมง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมัน WTI ร่วง $1.04 เหตุวิตกเศรษฐกิจโลกชะลอตัวฉุดอุปสงค์น้ำมันหดตัว

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2555 19:51:14 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนพ.ย. ร่วงลง 1.04 ดอลลาร์ แตะที่ 90.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 12.47 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกจะส่งผลให้ความต้องการเชื้อเพลิงลดลงด้วย

กระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกมีขึ้นหลังจากนายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางอิสราเอลกล่าวว่า "เศรษฐกิจโลกใกล้จะเข้าสู่ภาวะถดถอย" ซึ่งยิ่งเป็นการเพิ่มความวิตกกังวลหลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้เตือนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจในการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยว่า จีนซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก มียอดการนำเข้าน้ำมันดิบลดลง 1.8% ในเดือนก.ย.เมื่อเทียบเป็นรายปี มาอยู่ที่ระดับ 20.08 ล้านตัน

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยจะตัวเลขดังกล่าวในวันพุธนี้ตามเวลาไทย หลังจากสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ต.ค. เพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 366.4 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล

EIA คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบทั่วโลกในช่วงครึ่งแรกของปี 2556 จะปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับเดียวกับในปี 2555 ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากอุปทานที่เพิ่มขึ้นจากประเทศนอกกลุ่มโอเปค โดยคาดว่าประเทศในกลุ่มนี้ที่จะผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือสหรัฐและแคนาดา

ทั้งนี้ EIA คาดว่าปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐจะเพิ่มขึ้น 7.5% สู่ระดับ 10.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ และเพิ่มขึ้น 5% สู่ระดับ 11.44 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า ขณะเดียวกันคาดว่าปริมาณการผลิตน้ำมันของแคนาดาจะเพิ่มขึ้น 8.3% แตะที่ 3.9 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีนี้ และเพิ่มขึ้น 4.9% สู่ระดับ 4.09 ล้านบาร์เรลต่อวันในปีหน้า

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมัน WTI ร่วง $1.04 เหตุวิตกเศรษฐกิจโลกชะลอตัวฉุดอุปสงค์น้ำมันหดตัว

 

 

:57 :32

 

 

http://www.ylgbullion.com/th/index.php

 

image-019A_507C1347.jpg

image-1037_507C1347.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...