ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ฟิทช์ขู่หั่นอันดับเครดิต AAA ของสหรัฐ หากเพิ่มเพดานหนี้ล่าช้า

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 มกราคม 2556 08:21:47 น.

สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำระหว่างประเทศ ฟิทช์ เรทติงส์ เปิดเผยวานนี้ว่า ความล้มเหลวในการเพิ่มเพดานหนี้ได้ทันเวลาจะส่งผลให้มีการพิจารณาทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ และอาจจะมีการปรับลดแนวโน้มเชิงลบของอันดับเครดิต AAA ในปัจจุบัน

ฟิทช์ระบุในแถลงการณ์ฉบับหนึ่งว่า หากไม่มีการบรรลุข้อตกลง กระทรวงการคลังจะต้องลดยอดขาดดุลในทันที และการหดตัวทางการคลังจะรุนแรงเป็น 2 เท่าของภาวะหน้าผาทางการคลัง (Fiscal cliff) ที่สหรัฐเพิ่งรอดพ้นมาได้เมื่อเร็วๆนี้emnb_1_370236.gif

เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2555 รัฐบาลกลางสหรัฐมีหนี้สินชนเพดานที่ 16.394 ล้านล้านดอลลาร์ หากวิกฤตเพดานหนี้ที่เกิดขึ้นเมื่อในเดือนส.ค.2554 เกิดซ้ำรอยอีก ฟิทช์จะต้องพิจารณาทบทวนการประเมินในปัจจุบันเกี่ยวกับสถานอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ในอดีตที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าจะมีการบรรลุแนวทางแก้ไขปัญหาในระยะสั้น และความเสี่ยงของการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐจะยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำมาก

นอกจากนี้ อันดับเครดิตที่ AAA ของสหรัฐยังได้รับแรงหนุนจากการขับเคลื่อนและศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งความเสี่ยงของภาคการเงินที่ลดลง

ฟิทช์ระบุว่า ในกรณีที่ไม่มีการตกลงเกี่ยวกับแผนลดยอดขาดดุลระยะกลางที่น่าเชื่อถือซึ่งจะสอดคล้องกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและการฟื้นความเชื่อมั่นในฐานะการเงินสาธารณะของสหรัฐที่ยั่งยืนในระยะยาวนั้น แนวโน้มเชิงลบของอันดับเครดิต AAA ในปัจจุบัน ก็อาจจะถูกปรับลดลงในช่วงต่อไปของปีนี้ แม้ว่าจะสามารถเลี่ยงวิกฤตเพดานหนี้ได้อีกครั้ง สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

 

ราคาทองคำฮ่องกงเปิดตลาดวันนี้ เพิ่มขึ้นแตะ 15,640 HKD/tael

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 มกราคม 2556 08:57:44 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 40 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 15,640 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,694.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 4.33 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

เวิลด์แบงก์ลดคาดการณ์ศก.ญี่ปุ่นปีนี้เหลือ 0.8% จากผลพวงข้อพิพาทดินแดน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 มกราคม 2556 09:36:25 น.

ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นเหลือ 0.8% ในปี 2556 จากตัวเลขประมาณการก่อนหน้าที่ 1.5% โดยมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากผลกระทบเชิงลบจากข้อพิพาทดินแดนระหว่างญี่ปุ่นกับจีนemnb_1_370236.gif

"ข้อพิพาทกับจีนปัจจุบันได้บั่นทอนการขยายตัวในญี่ปุ่น ขณะเดียวก็ต้องจับตามองหนี้การคลังก้อนใหญ่ของประเทศ" ธนาคารโลกเปิดเผยในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกฉบับล่าสุด ซึ่งออกทุกครึ่งปี

"หากความสัมพันธ์กับจีนดีขึ้นในช่วงปี 2556 ก็คาดว่าผลผลิตจะค่อยๆปรับตัวอย่างแข็งแกร่ง แต่จะขยายตัวเพียง 0.8% ในปี 2556 ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นสู่ 1.5% ภายในช่วงสิ้นสุดคาดการณ์" รายงานระบุ

ธนาคารโลกคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัว 1.2% ในปี 2557 เมื่อวัดจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่ปรับตามเงินเฟ้อ ลดลงจากตัวเลขประมาณการก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 1.5% และคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัว 1.5% ในปี 2558 สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

 

(เพิ่มเติม) เวิล์ดแบงก์คาดเศรษฐกิจโลกขยายตัว 2.4% ปีนี้ และขยายตัว 3.1% ปีหน้า

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 มกราคม 2556 09:15:11 น.

ธนาคารโลกเปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (GEP) ฉบับล่าสุด โดยคาดว่าเศษฐกิจโลกจะขยายตัวในอัตรา 2.4% ในปี 2556 ก่อนที่จะขยายตัวอย่างแข็งแกร่งที่ระดับ 3.1% ในปี 2557emnb_1_370236.gif

รายงานดังกล่าวระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงเปราะบางและมีแนวโน้มที่จะสร้างความผิดหวังให้กับตลาด แม้ว่าความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะปรับตัวขาลงนั้น มีน้อยกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็ตาม

ทั้งนี้ ธนาคารโลกคาดว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัวเพียง 2.3 ในปี 2555 และขยายตัว 2.4% ในปี 2556 จากนั้นจะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้นสู่ระดับ 3.1% ในปี 2557 และขยายตัว 3.3% ในปี 2558

ธนาคารโลกคาดว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 2.2% ในปี 2555 และจะขยายตัวชะลอลงมาอยู่ที่ระดับ 1.9% ในปี 2556 เนื่องจากปัญหาด้านการคลัง ขณะเดียวกันคาดว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะหดตัวลง 0.1% ในปี 2556 ก่อนที่จะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งที่ 0.9% ในปี 2557 และขยายตัว 1.4% ในปี 2558

นอกจากนี้ ธนาคารโลกได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ 7.9% จากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนมิ.ย.ที่ 8.2% และคาดว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวรวดเร็วขึ้นสู่ระดับ 8.4% ในปี 2556

นายฮันส์ ทิมเมอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายแนวโน้มการพัฒนาของธนาคารโลกกล่าวว่า "ความอ่อนแอของประเทศที่มีรายได้สูงกำลังส่งผลกระทบต่อการเติบโตของประเทศที่กำลังพัฒนา แต่อุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่งและการเติบโตของเศรษฐกิจจะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาสามารถต้านทานกับวิกฤตการณ์ได้ ซึ่งหลักฐานที่ชัดเจนก็คือ กลุ่มประเทศกำลังพัฒนามีส่วนผลักดันในการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2555 เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน"

สำหรับสหรัฐนั้น ธนาคารโลกเตือนว่า ความไม่แน่นอนด้านนโยบายการคลังจะยังคงเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต แม้การหดตัวด้านการคลังอันเนื่องมาจากภาวะหน้าผาการคลัง หรือ fiscal cliff ได้ผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม นอกจากนี้ ความขัดแย้งเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาตกอยู่ในความเสี่ยงด้วย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีนเผย FDI เดือนธ.ค.ลดลง 4.5%, FDI ปี 2555 ลดลง 3.7%

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 มกราคม 2556 09:32:51 น.

กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เดือนธ.ค.ปรับตัวลง 4.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี อย่างไรก็ตาม ตัวเลข FDI เดือนธ.ค.ยังลดลงน้อยกว่าเดือนพ.ย.ที่ร่วงลงอย่างหนักถึง 5.4%

ทั้งนี้ ตัวเลข FDI ของจีนปรับตัวลดลงนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว

ส่วนตัวเลข FDI ตลอดปี 2555 ของจีน ร่วงลงทั้งสิ้น 3.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีemnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

 

ออสเตรเลียเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค.เพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 มกราคม 2556 09:53:54 น.

เวสต์แพค แบงกิ้ง คอร์ป และสถาบันเมลเบิร์นเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของออสเตรเลียในเดือนม.ค. ปรับตัวขึ้นเล็กน้อย 0.6 จุด สู่ระดับ 100.6 จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 100.0 โดยดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 100 บ่งชี้ว่าผู้บริโภคที่มีมุมมองในด้านบวกต่อเศรษฐกิจมากกว่าในด้านลบ

นายบิล อีแวนส์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของเวสต์แพคกล่าวว่า นับเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเคลื่อนไหวอยู่ที่หรือเหนือระดับ 100

อย่างไรก็ตาม นายอีแวนส์กล่าวว่า ผลการสำรวจความเชื่อมั่นยังคงอยู่ในระดับที่น่าผิดหวัง เมื่อพิจารณาจากการที่ธนาคารกลางออสเตรเลียได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยหลายครั้งในช่วงปีที่แล้วemnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

การเงิน - การลงทุน

วันที่ 16 มกราคม 2556 07:31

 

เตือนต่างชาติขายทำกำไร2เด้ง'หุ้น-บาท'

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_485892_1.jpg

อุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย)

"อุสรา"คาดบาทแข็งช่วงสั้น เตือนนักลงทุนระมัดระวัง ต่างชาติขายทำกำไร 2 เด้ง "หุ้น-ค่าเงิน" เผยช่วง 3 ปีที่ผ่านมาหุ้นไทยพุ่ง 250%

นางอุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารแสตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย)กล่าวว่า การแข็งค่าของเงินบาทไทยในช่วงนี้ ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลจาก นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ออกมาแสดงความเห็นว่า จะยังไม่ยุติการใช้มาตรการคิวอี ซึ่งก็เป็นผลทางจิตวิทยาทำให้นักลงทุนกล้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีเงินทุนไหลเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม เงินทุนที่ไหลเข้ามาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งไทยนั้น น่าจะส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น โดยเงินบาทไทยมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ 30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และเชื่อว่าระดับการแข็งค่าไม่น่าจะเกิน 29.75 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

นางอุสรา กล่าวว่า สาเหตุที่มองเช่นนั้น เพราะช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา มีเงินทุนต่างชาติไหลเข้าลงทุนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ค่อนข้างมาก และทำให้สินทรัพย์ต่างๆ โดยเฉพาะดัชนีตลาดหุ้นใน 3 ประเทศหลัก คือ ไทย อินโดนีเซีย และ ฟิลิปินส์ ปรับตัวขึ้นแรง ประกอบกับค่าเงินบาทช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาก็ค่อนข้างนิ่ง ดังนั้นการที่เงินบาทกลับมาแข็งค่าเร็วในช่วงนี้ นักลงทุนต่างชาติจึงอาจอาศัยโอกาสนี้ขายทำกำไรในสินทรัพย์ต่างๆ ออกมาก่อนได้

"ก่อนหน้านี้ เงินบาทค่อนข้างนิ่งมานาน 4-5 เดือน และการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาเร็ว อาจกระตุ้นให้นักลงทุนต่างประเทศ ขายทำกำไรสินทรัพย์ในประเทศออกมาก่อน เพื่อล็อคกำไร เชื่อว่านักลงทุนบางกลุ่มที่ลงทุนไว้ก่อนหน้านี้ ก็คงรอดูจังหวะการขายออกเช่นกันเพราะเขาได้กำไร 2 ต่อ จากทั้งราคาหุ้นที่ปรับขึ้น และค่าเงินบาทที่แข็งค่า"

สำหรับดัชนีหุ้นไทยตั้งแต่ปี 2552 ปรับตัวขึ้นมากว่า 250% โดยปรับขึ้นจากระดับ 400 จุด มาอยู่ที่ระดับ 1,400 จุด ขณะที่ตลาดหุ้นอินโดนีเซียในช่วงเวลาเดียวกันปรับตัวขึ้นราว 207% หรือปรับขึ้นจากระดับ 1,300 จุด มาอยู่ที่ระดับ 4,000 จุด ส่วนตลาดหุ้นฟิลิปินส์ปรับตัวขึ้นประมาณ 233% หรือ ปรับขึ้นจากระดับ 1,800 จุด มาอยู่ที่ระดับ 6,000 จุดในปัจจุบัน

นางอุสรา กล่าวว่า การปรับขึ้นอย่างร้อนแรงของดัชนีตลาดหุ้นในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น หากเทียบกับตลาดหุ้นของประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะในกลุ่มเอเชียเหนือ อย่าง เกาหลีใต้ ไต้หวัน และ จีน จะเห็นว่า ดัชนีหุ้นของกลุ่มประเทศเหล่านี้ยังปรับขึ้นไปไม่สูงมากนัก จึงมีโอกาสที่เงินทุนต่างชาติจะไหลเข้าไปยังกลุ่มประเทศเหล่านี้มากกว่า

"เชื่อว่าค่าเงินบาทและตลาดหุ้นไทยในระยะต่อไป มีโอกาสที่จะผันผวนอย่างมาก จึงอยากแนะนำให้นักลงทุนใช้ความระมัดระวังในการลงทุน ขณะเดียวกันก็อยากฝากว่า สำหรับผู้ที่ต้องใช้เงินสกุลต่างประเทศนั้น ช่วงนี้ถือเป็นจังหวะเหมาะที่จะซื้อเก็บเอาไว้ ทั้งเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐและเงินเยนของญี่ปุ่น"นางอุสรากล่าว

เธอกล่าวด้วยว่า ในส่วนของเงินเยนนั้น จะเห็นว่าหลังจากรัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นประกาศนโยบายเงินเยนอ่อนค่า ทำให้เงินเยนเทียบเงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่องจาก 40 บาทต่อ 100 เยนในอดีต มาอยู่ที่ 34 บาทอต่อ 100 เยนในปัจจุบัน หรืออ่อนค่าลงไปราว 16% ซึ่งโอกาสที่เงินเยนจะอ่อนค่าไปมากกว่านี้นั้น เธอมองว่าน่าจะมีน้อย และมีโอกาสที่เงินเยนจะกลับมาแข็งได้แม้ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะประกาศนโยบายที่ชัดเจนออกมา ซึ่งเป็นผลจากนักลงทุนขายทำกำไรจากข่าวดังกล่าว (Sell on fact)

Tags : อุสรา วิไลพิชญ์ค่าเงินบาทตลาดหุ้นเงินไหลออก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีจ้า gingerและเพื่อนๆทุกคน วันนี้ทองบ้านเราเจอค่าเงินบาทแข็งโป๊ก แฮะแฮะ ราคาแบบนี้

ทำกำไรยากมากมาย สู้ต่อไปนะค่ะเพื่อน :Wt :17

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีจ้า gingerและเพื่อนๆทุกคน วันนี้ทองบ้านเราเจอค่าเงินบาทแข็งโป๊ก แฮะแฮะ ราคาแบบนี้

ทำกำไรยากมากมาย สู้ต่อไปนะค่ะเพื่อน :Wt :17

สู้อยู่แล้ว เจ้าเล่นทุกอย่างและทุกทาง แต่เราก็ทาทางของเรา

380257_517234981628044_1333699694_n.jpg

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 16 มกราคม 2556

ข่าวทั่วไป กรมอุตุนิยมวิทยา -- พุธที่ 16 มกราคม 2556 07:02:20 น.

พยากรณ์อากาศประจำวัน

ประจำวันที่ 16 มกราคม 2556emnb_18_18900.gif?1582170208emnb_1_370238.gif

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงระลอกใหม่จากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ในวันพรุ่งนี้ (17 ม.ค.56) ทำให้ในช่วงวันที่ 17-20 มกราคม 2556 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศหนาวเย็นลง อุณหภูมิ

จะลดลง 4-6 องศาเซลเซียสและมีลมแรง โดยเริ่มจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น

ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงวันที่ 18-21 มกราคม 2556 ไว้ด้วย

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่

ตอนบนของภาคอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 14-15 องศาเซลเซียส

ตอนล่างของภาคอากาศเย็น อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 29-34 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด

อุณหภูมิต่ำสุด 4-10 องศาเซลเซียส

ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส และมีลมแรง

อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-35 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส

ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับหมอกในตอนเช้า

โดยมีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากตามบริเวณชายฝั่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 22-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

สำหรับบริเวณเทือกเขาอากาศเย็นถึงหนาว

อุณหภูมิต่ำสุด 15-18 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัด

ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

อ่าวไทยตอนบนตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา:

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร

ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป :

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆบางส่วนและมีหมอกบางในตอนเช้า

อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาน้ำมัน WTI เพิ่มเพียง 6 เซนต์ หลัง API เผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 มกราคม 2556 10:44:02 น.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนก.พ.ขยับขึ้น 9 เซนต์ แตะที่ 93.37 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมัน WTI ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 สัปดาห์ หลังจากมีรายงานว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงกดดันหลังจากการปิโตรเลียมสหรัฐ (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 ม.ค. เพิ่มขึ้น 46,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 568,000 บาร์เรล และ สต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้นเกือบ 4.1 ล้านบาร์เรล

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ม.ค. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ โดยนักวิเคราะห์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะพุ่งขึ้น 3.1 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจลดลง 0.3%emnb_18_18900.gif?1089288522emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2556 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 16 มกราคม 2556 10:19:21 น.

กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,670 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,683 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.98 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 23,750 บาท กับ 23,850 บาท และกลับมาปิดที่ 23,850 บาท กับ 23,950 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 5,628 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 10,911 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 2 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 3% แบบ 10 บาทเพิ่มขึ้น 1 % และ Silver Futures ลดลง 0.2% GFG13 ปิด 24,090 บาท และ GFJ13 ปิด 24,240 บาท GF10G13 ปิดที่ 24,090 บาท GF10J13 ปิดที่ 24,240 บาท SVG12 ปิดที่ 943 บาทemnb_1_370232.gif

สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 14.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,683.9 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 41.9 เซ็นต์ มาปิดที่ระดับ 31.53 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,336.83 ตัน (ขายออก 0.9 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิด ลดลง 86 เซนต์ ปิดที่ระดับ 93.28 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 25.57 จุด ปิดที่ 13,534.89 จุด

Ratio Gold / Silver เท่ากับ 53 ต่อ 1

ข่าวที่สำคัญ

The Bullion Desk, Reuters, Bloomberg, Kitco News, Infoquest, USA Gold

นักลงทุนเก็งกำไรให้ความสนใจทองคำมากขึ้น หลังจากราคาปรับขึ้นตามราคาแพลทตินัมที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก แม้ว่าจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าทองคำ เนื่องจากความกังวลด้าน Supply หลังจากที่ บริษัท Amplats วางแผนที่จะลดการผลิต 400,000 ออนซ์ โดยราคาทองคำไปทำจุดสูงสุดเมื่อวานที่ระดับ 1,684.90 เหรียญ

CME Group กล่าวว่าการเพิ่มขึ้นของทองคำ มาจากการลดการผลิตทองคำในแอฟริกาใต้อย่างต่อเนื่อง

นายอิริค โรเซนเกรน ประธานเฟดสาขาบอสตัน หนึ่งในผู้มีสิทธิ์ลงมติในนโยบาย QE กล่าวว่า เฟดอาจจะยังคงขยายการซื้อพันธบัตรจำนวน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน หากไม่มีการฟื้นตัวเรื่องราคาสินค้าที่มีเสถียรภาพ และมีการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเขาคาดว่าเฟดมีศักยภาพที่จะขยายการเข้าซื้อเพียงพอหากจำเป็น แต่ก็หวังว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวเพียงพอที่จะไม่ต้องขยายขนาดการเข้าซื้อพันธบัตร

ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐส่งผลต่อราคาทองคำเพียงเล็กน้อย แต่ก็ได้ทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น หลังจากยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น และจำกัดการปรับตัวเพิ่มขึ้นของทองคำ แต่ค่าเงินดอลลาร์ก็ยังมีแนวโน้มขาลงในระยะสั้น

ขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงมาเกือบ 0.5% มาอยู่ที่ระดับ 1.3338 ดอลลาร์ต่อยูโรในช่วงต้นของการซื้อขายตลาด comex ที่ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น แม้ว่าดอลลาร์จะเริ่มอ่อนค่าในภายหลัง แต่ราคาทองคำก็ไม่ได้ปรับตัวสูงพอที่จะลดการปรับตัวลดลงในช่วงต้นตลาด

โดยยอดค้าปลีกสหรัฐในเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้นเกินคาด 0.5% แตะระดับ 4.1570 แสนล้านดอลลาร์ แม้ว่าประเทศยังคงเผชิญปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองเกี่ยวกับนโยบายปรับเพิ่มภาษีและลดรายจ่าย

ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) สหรัฐเดือนธ.ค.ลดลงต่อเนื่อง 0.2% หลังจากปรับลง 0.8% ในเดือนพ.ย. เนื่องจากราคาพลังงานยังคงปรับตัวลง

และดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมสหรัฐ (Empire State Index) เดือนม.ค.ร่วงลงแตะ -7.78 จาก -7.30 ในเดือนธ.ค. จากที่คาดว่าจะเพิ่มเป็นระดับ 1.9 โดยตัวเลขที่ต่ำกว่า 0 บ่งชี้ว่ากิจกรรมการผลิตในนิวยอร์กยังคงอยู่ในภาวะหดตัวในช่วงเริ่มต้นปี 2556 จากผลกระทบของพายุแซนดี้

ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากสัญญาณการต่อสู้กับปัญหาประเด็นระดับเพดานหนี้ หลังจากนายเบอร์นันเก้ออกมากล่าวเกี่ยวกับผลกระทบเชิงลบ หากไม่สามารถตกลงเพิ่มระดับเพดานหนี้ได้ และจากการที่เขากล่าวว่าแผนการซื้อพันธบัตรกำลังจะช่วยเศรษฐกิจสหรัฐให้ฟื้นตัวได้

อย่างไรก็ตามปัญหาระดับเพดานหนี้ยังคงกดดันราคาทองคำ หลังนายไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีการคลังสหรัฐ และนายโอบามาออกมาให้มุมมองว่าเศรษฐกิจจะทรุดตัว หากแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้

หลังจากที่นายเบอร์นันเก้ออกมาแถลงเมื่อวานนี้ ตลาดทองคำได้เปลี่ยนการจับตาไปที่ประเด็นระดับเพดานหนี้ ซึ่งระดับหนี้อาจจะแตะเพดานได้ในต้นเดือนหน้า รวมถึงการเจรจาด้านตัดลดงบประมาณ ที่ถูกเลื่อนกำหนดการสิ้นสุดเป็นวันที่ 1 มี.ค. อีกด้วย

นักลงทุนของตลาดลอนดอนกล่าวว่า แม้ว่าความไม่แน่นอนในการแก้ปัญหาของสหรัฐควรจะเป็นปัจจัยหนุนต่อทองคำ แต่ยังไม่มีความเชื่ออย่างแท้จริงจากตลาดถึงความเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยของทองคำที่จะทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นได้จริงๆ

คนส่วนใหญ่คาดว่า สหรัฐจะหาแนวทางการแก้ปัญหาในนาทีสุดท้ายเหมือนที่เคยเป็นมา ทำให้ไม่มีแรงจูงใจมากนักที่จะเปิดสถานะ Long หรือเกิดแรงซื้อตาม

โบรกเกอร์ Triland Metals สาขาลอนดอนกล่าวว่า แม้ว่าราคาจะยืนเหนือระดับ 1,680 เหรียญได้ ก็ยังไม่เกิดแรงดึงดูดอย่างมีนัยสำคัญที่จะทำให้เกิดแรงซื้อตามได้ โดยให้แนวต้านระดับต่อไปที่ 1,700 — 1,705 เหรียญ และแนวรับที่ 1,650 — 1,655 เหรียญ

ตลาดยังจับตารอตัวเลขจีดีพีของจีนที่จะประกาศในวันศุกร์นี้

ยอดขายบ้านใหม่ในเมืองขนาดใหญ่ของจีนได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากผู้บริโภคคาดว่าราคาจะดีดตัวขึ้นอีกในอนาคต

ในช่วงตลาดเอเชีย สกุลเงินเยนแข็งค่าขึ้นเทียบดอลลาร์ หลังนายอากิระ อามาริ รมว.นโยบายเศรษฐกิจและการคลังของญี่ปุ่น กล่าวเตือนว่านโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายอาเบะ อาจทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่ามากเกินไปเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ

ยอดเกินดุลการค้าของยูโรโซนในเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 1.1 หมื่นล้านยูโร จาก 7.4 พันล้านยูโรในเดือนต.ค. จากการส่งออกที่เพิ่มขึ้น แม้เศรษฐกิจภูมิภาคยังคงเผชิญภาวะถดถอย

ในรายงานมุมมองเศรษฐกิจทั่วโลกล่าสุดของธนาคารโลกที่ตีพิมพ์ออกมาวันนี้ ธนาคารโลกระบุเตือนว่าเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงเปราะบางและไม่แน่นอน จากวิกฤตในยูโรโซนและปัญหาหนี้ในสหรัฐที่ฉุดรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ธนาคารโลกลดการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจทั่วโลกในปีนี้ เดิมเศรษฐกิจในปี 2012 ขยายตัว 2.3% คาดการณ์ว่าในปีนี้จะขยายตัว 2.4% ซึ่งลดลงจากการคาดการณ์เดือนมิถุนายนที่ระดับถึง 3%

เมื่อวานนี้ฟิทช์ เรตติ้งส์ออกมาเตือนว่า อังกฤษ สหรัฐ และฝรั่งเศสอาจสูญเสียอันดับ AAA ของตนเอง ซึ่งมีนักวิเคราะห์ออกมากล่าวว่า ทั้งสหรัฐ ฝรั่งเศส และอังกฤษต่างมีมุมมองเชิงลบ โดยมีผลสะท้อนมาจากการเผชิญหน้ากับภาวะทางการคลัง และเศรษฐกิจที่ไม่เติบโตเท่าที่ควร

ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน

- Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 0.3%

- PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.8% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ -0.2%

- Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.3% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 0.5%

- Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 0.1%

- Empire State Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -8.1 ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ -7.8

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้

- Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.2%

- CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.3% คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.0%

- TIC Long-Term Purchases ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.3B คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 19.8B

- Crude Oil Inventories 1.3M คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 2.0M

วิเคราะห์ทางเทคนิค

Gold — ราคาทองคำเริ่มเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway up อย่างช้าๆ และยังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยการแข็งค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่อง โดยเงินบาทเองปรับตัวหลุดระดับ 30.00 บาท/ดอลลาร์ลงมาเมื่อคืนนี้ ทำจุดต่ำสุดที่ระดับประมาณ 29.95 บาท/ดอลลาร์ และยังเป็นตัวกดดันให้การขึ้นของราคาทองคำในรูปของค่าเงินบาททำได้ช้าลง ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาเมื่อวานดูจะเป็นการผสมระหว่างตัวเลขของอัตราเงินเฟ้อที่ออกมาคงที่เท่าเดิม ในขณะที่ตัวเลขอื่นๆ ออกมาดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขทางด้านยอดค้าปลีก และตัวเลขภาคการผลิตดีขึ้นบ้างส่งผลทำให้เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นบ้างเล็กน้อย ในขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยุโรปเองก็ออกมาเตือนว่าค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเกินไป ทำให้ค่าเงินยูโรเองกลับมาอ่อนค่าลงและถูกดึงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.3285 ดอลลาร์/ยูโรอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ขึ้นไปยืนและไปทดสอบ 1.3400 ดอลลาร์/ยูโรได้เมื่อวานนี้ ก็จะเห็นการแกว่งตัวของค่าเงินยูโรเช่นเดียวกัน ราคาทองคำยังมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,695 — 1,700 เหรียญ ในขณะที่แนวรับด้านล่างขยับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1,665 เหรียญ คำแนะนำเริ่มเป็นการแนะนำให้ซื้อเข้าแทนที่จะเล่น Short Position ขอย้ำว่าเป็นคำแนะนำในระยะสั้น เพราะเหตุผลที่เงินบาทเริ่มจะหยุดตก โดยเงินบาทมีจุดต่ำสุดที่เคยทำไว้ที่ระดับ 29.70 บาท/ดอลลาร์ เป็นระดับเมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2010 ประมาณ 2 ปีครึ่ง

Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 23,950 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,250บาท

Gold Futures J13 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,100 บาท และแนวต้านที่ระดับ 24,400บาท

Silver Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 930 บาท และแนวต้านที่ระดับ 970 บาท

คำแนะนำ

สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)

เก็งกำไรในทิศทางขาขึ้น ซึ่งคาดว่าราคาจะค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นช้าๆ โดยจะมีแนวรับรายวันอยู่ที่ 1,675 เหรียญ และมีแนวต้านอยู่ที่ระดับ 1,685 เหรียญ

นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)

เริ่มหาจังหวะทยอยเข้าซื้อเพื่อถือ Portfolio เพิ่มขึ้น ทิศทางโดยภาพรวมน่าจะเริ่มขยับขึ้นมาได้ คาดว่าระยะยาวราคาทองคำน่าจะทะลุ 1,700 เหรียญขึ้นไปได้

นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง

แนะนำให้ทยอยเข้าซื้อเพิ่ม หลังจากที่หยุดรอดูความชัดเจนมาระยะหนึ่ง ปรับเพิ่มพอร์ทเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น ภาพรวมเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าจนกว่าจะมีความชัดเจนในเรื่อง Fiscal Cliff น่าจะเป็นประโยชน์ต่อราคาทองคำในช่วงเดือนนี้

สรุปได้ว่า MTS Gold คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนตัวเป็นทิศทาง Sideway up อย่างช้าๆ โดยมีแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,695 — 1,700 เหรียญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 16 มกราคม 2556 10:16:56 น.

กรุงเทพฯ--16 ม.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส

Price Movement:

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,683.90 USDต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.50 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,666.20 — 1,684.90 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาพลาตินั่มที่เพิ่มสูงขึ้นกว่า 8% ในช่วง 6 วันทำการ เนื่องจากบ.แองโกล อเมริกา แพลทตินั่มจะปิดเหมืองแห่งหนึ่งในอาฟริกาใต้ทำให้อุปทานของแพลตินั่มตึงตัว ในขณะที่ความต้องการแพลทตินั่มจากจีนและสหรัฐเพิ่มสูงขึ้น และนักลงทุนเพิ่มสถานะซื้อจำนวนมาก ส่วนการประกาศตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ทำให้ค่าเงิน USD ลดช่วงติดลบลงในขณะที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่า หลังจากการประกาศตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 4 ของเยอรมันหดตัวลง 0.5% แสดงถึงเศรษฐกิจเยอรมันได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตยูโรโซน ในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวที่บริเวณ 1,683 คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,695/1,705 แนวรับบริเวณ 1,675 /1,670/1,666 แนะนำ นักลงทุนระยะสั้น ปิดทำกำไร และ รออ่อนตัว เพื่อสะสม Long เพิ่มemnb_1_370232.gif

Technical Analysis:

ภาพกราฟในราย 240 นาที ราคาดีดตัวขึ้นได้แรงส่งสัญญาณ bullish แต่ indicator ในระยะสั้นเริ่มส่งสัญญาณ over bought ทำให้ราคาอาจอ่อนตัวลงได้เล็กน้อย หลังจากนั้นคาดว่าจะปรับขึ้นได้ต่อจากสัญญาณที่เป็น bullish มากขึ้น คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 1,675/1,666 แนวต้านบริเวณ 1,695/1,705 แนะนำ นักลงทุนระยะสั้น รออ่อนตัว เพื่อสะสม Long เพิ่ม

Key Point in Precious Market:

ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ค่าเงิน USD กลับมาแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย ลดช่วงลบลง ( - ) ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ( - ) GDP ไตรมาสที่ 4 ของเยอรมันติดลบ 0.5% ( - ) ราคาแพลตินั่มสูงขึ้น ( + ) ปัญหา Fiscal Cliff และการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ ( - ) เงินบาทแข็งค่า ( - )

ประเด็นที่ต้องติดตาม เฟดอาจยุติการใช้มาตรการ QE การปะชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น 21 — 22 ม.ค. ญี่ปุ่นช่วยซื้อพันธบัตรของสหรัฐ การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน การประกาศตัวเลขอัตราเงินเฟ้อของยุโรป จีนประกาศ GDP ไตรมาสที่ 4 ในวันศุกร์ที่ 18 ม.ค.

การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ วันพุธ ดัชนีราคาผู้บริโภค เดือน ธ.ค., ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลของต่างชาติ เดือน พ.ย., ยอดผลผลิตภาคอุตสาหกรรม เดือน ธ.ค., อัตราการใช้กำลังผลิต เดือน ธ.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย เดือน ม.ค., ยอดสต๊อคน้ำมัน รายสัปดาห์, รายงานมุมมองทางเศรษฐกิจของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(Beige Book) วันพฤหัสบดี ยอดการอนุญาตก่อสร้าง เดือน ธ.ค., ยอดที่อยู่อาศัยที่เริ่มสร้างแล้ว เดือน ธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน รายสัปดาห์, ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจ เดือน ม.ค. โดย เฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย วันศุกร์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ช่วงต้นเดือน ม.ค.

SPDR ขาย 0.90 ตันถือทองจำนวน 1,336.83 ตัน

ราคาโลหะเงินปิดที่ 31.53 USDต่อออนซ์ราคาเพิ่มขึ้น 0.42 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 30.97 — 31.62 USDต่อออนซ์ ภาพกราฟในราย 240 นาที indicator ส่งสัญญาณ over bought คาดว่าจะอ่อนตัวลงเล็กน้อย ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวน 10,133.28 ตัน คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 31.0 / 30.7 ส่วนแนวต้านบริเวณ 31.5/31.8 แนะนำ รอราคาอ่อนตัวเพื่อสะสม Long เพิ่ม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิดตลาด 29.98/30.00 แข็งค่าในรอบ 16 เดือน ตามแรงเทขายดอลลาร์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 มกราคม 2556 08:47:37 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 29.98/30.00 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.03/05 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามค่าเงินในภูมิภาคและแรงเทขายดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวแข็งค่าสุดในรอบ 16 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.ย.54

"เปิดตลาดแข็งค่าหลุด 30.00 บาท/ดอลลาร์ เมื่อคืนต่ำสุด 29.93(บาท/ดอลลาร์) ตามแรงเทขายดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศที่สำคัญ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 88.25/29 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 88.80/82 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3284/3288 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 1.3376/3378 ดอลลาร์/ยูโร

นักบริหารเงินประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ในกรอบระหว่าง 29.95-30.05 บาท/ดอลลาร์

 

emnb_1_370232.gif

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/เสาวลักษณ์ โทร.02-2535000 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th-

 

(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิดตลาด 29.98/30.00 แข็งค่าในรอบ 16 เดือน ตามแรงเทขายดอลลาร์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 16 มกราคม 2556 11:13:15 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 29.98/30.00 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 30.03/05 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามค่าเงินในภูมิภาคและแรงเทขายดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวแข็งค่าสุดในรอบ 16 เดือน นับตั้งแต่เดือน ก.ย.54

"เปิดตลาดแข็งค่าหลุด 30.00 บาท/ดอลลาร์ เมื่อคืนต่ำสุด 29.93(บาท/ดอลลาร์) ตามแรงเทขายดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศที่สำคัญ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 88.25/29 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่ระดับ 88.80/82 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3284/3288 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 1.3376/3378 ดอลลาร์/ยูโร

นักบริหารเงินประเมินการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ในกรอบระหว่าง 29.95-30.05 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ 29.9625 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 6M อยู่ที่ 2.72585%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...