ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

หวัดดีทุกท่านคับ ขอบคุณมากมายสำหรับบทวิเคราะห์คับ

 

ขอฝากคำสอนดีๆอีกบทด้วยคับ

 

หยาดน้ำค้างบนยอดหญ้า เมื่ออาทิตย์ขึ้นมาย่อมแห้งหายไปได้เร็ว ไม่ตั้งอยู่นาน ฉันใด ชีวิตของมนุษย์ทั้งหลาย ก็เปรียบเหมือนหยาดน้ำค้าง ฉันนั้น ชีวิตมุนษย์ทั้งหลายน้อย นิดหน่อย รวดเร็ว

 

มีทุกข์มาก มีความคับแค้นมาก พึงถูกต้องไ้ด้ด้วยปัญญา ควรกระทำกุศล ควรประพฤติพรหมจรรย์ เพราะสัตว์ที่เกิดมาแล้ว จะไม่ตายไม่มี

 

 

คำสอนสมเด็จพระสังฆราช

 

สาธุ คุณ namkin

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธรรมะคือ สิ่งที่เกิดขึ้นและเป็นโดยธรรมชาติ

มิได้มีอะไรที่บิดเบือนไป

 

เกิดขึ้น มีอยู่ แล้วดับ เร็วไวดุจน้ำค้างบนยอดหญ้า

ผู้ใดฉุกคิดได้ รู้ได้ โดยเห็นความเป็นจริงที่มีอยู่

จะด้วยการสดับฟํง ปฎิบัติโดยตนเอง ตอบ-ถาม อ่าน

จนเห็นความจริงที่เกิด ละซึ่งความยึดมั่นด้วยทิฐิ

 

ย่อมพ้นจากทุกข์ แห่งการกลัวเจ็บ กลัวตาย

ใยจะไม่สุขใจ ทุกสรรพชีวิต ย่อมเป็นไป...ตามการกระทำของตน

 

ท่านจึงเตือนใจให้ ละ ลด รู้ และทำดี

เพราะชีวิตนั้น...สั้นนัก...จะทำตัวให้ทุกข์ทำไม

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันพุธ ที่ 27 กรกฎาคม 2554

ขอความช่วยเหลือด่วน!!!

Posted by เจ้าพระยา1 , ผู้อ่าน : 12 , 08:36:08 น.

หมวด : นักข่าวอาสา

พิมพ์หน้านี้ โหวต 0 คน

 

ขอความช่วยเหลือด่วน....

 

ได้รับ mail จากเพื่อนมาค่ะ...

 

ตอนนี้แพทย์รพ.มหาสารคาม ต้องการเลือดกรุ๊ป ORh- (เป็นกรุ๊ปพิเศษ-หายาก)อาการผู้​ ป่วยคือ ประจำเดือนไหลไม่หยุด ขูดมดลูก..แต่ทำไม่ได้ ไม่มีเลือดสำรองตอนนี้ มีเลือดในร่างกาย 19 %ถ้าคุณมีเลือดกรุ๊ปนี้ ติดต่อ ได้ 24 ชม.ที่เบอร์ 081 433 2598 รบกวนช่วยส่งต่อด้วย.ช่วยกัน ทีนะทุกคน ด่วนๆก๊อปลงหน้าเพจทุกคนด้วยขอบ​คุณมากๆสำหรับน้ำใจนะจ๊ะ ช่วยส่ง ต่อทีบางครั้งปาฏิหาริย์อาจเกิดขึ้น....

 

ขอขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เก็บมาฝาก ให้อ่านเล่นกัน

 

เอาเหรียญทองหรือความซื่อสัตย์

Posted by กระเรียนป่า , ผู้อ่าน : 138 , 07:57:47 น.

หมวด : วรรณกรรม/กาพย์กลอน

พิมพ์หน้านี้ โหวต 0 คน

ในการแข่งขันสะกดคำครั้งที่สี่ของอเมริกาที่จัดขึ้นที่กรุงวอชิงตัน โรซาลี่ เอลเลียต เด็กหญิงอายุ 11 ขวบเจ้าของเหรียญทองที่มาจากเซาท์แคโรไลนากำชัยผ่านมาได้ทุกด่าน จนเข้ารอบชิงชนะเลิศ ตอนที่เธอถูกถามว่าคำว่า “ Admit ” สะกดอย่างไร สำเนียงทางใต้ที่แผ่วเบาและนุ่มนวลของเธอ ทำให้คณะกรรมการพิจารณายากที่จะตัดสินว่าอักษรตัวแรกที่ธอพูดนั้นเป็น A หรือ E กันแน่

 

หลังจากที่คณะกรรมการปรึกษากันอยู่หลายนาที เอาเทปที่บันทึกเสียงมากรอกลับเพื่อฟังใหม่อีกครั้ง ก็ยังคงไม่สามารถยืนยันการออกเสียงของเธอว่าเป็น A หรือ E

 

ผู้คลายปมควรเป็นผู้ที่ผูกปม สุดท้าย จอห์น ลอย เจ้าหน้าที่ควบคุมการสอบตัดสินใจนำปัญหานี้มอบให้กับผู้ที่รู้คำตอบเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เขาถามโรซาลี่อย่างเมตตาและอ่อนโยนว่า “เสียงที่หนูเปล่งออกมานั้น A หรือ E ”

 

ความจริงแล้ว โรซาลี่ได้ยินคนอื่นวิพากย์วิจารณ์เบา ๆ เธอรู้แล้วว่าอักษรตัวแรกควรจะเป็นตัว A แต่เธอไม่ลังเลเลยที่จะตอบว่าการออกเสียงของเธอนั้นผิด เธอพูดว่า E

 

จอห์น ลอย เจ้าหน้าที่ควบคุมการสอบถามโรซาลี่ด้วยความเมตตาและอ่อนโยนอีกครั้งว่า “ หนูคงจะรู้คำตอบที่ถูกต้องแล้วและสามารถได้รับเหรียญทอง ทำไมจึงยอมรับว่าหนูออกเสียงผิดล่ะ ”

 

โรซาลี่ตอบอย่างจริงจังว่า “หนูยอมที่จะเป็นเด็กที่ซื่อสัตย์ค่ะ ”

ขณะที่เดินลงจากเวทีนั้น ผู้ชมเกือบทั้งหมดต่างปรบมือให้กับเธอดังสนั่น

วันรุ่งขึ้น มีรายงานฉบับหนึ่งชื่อ ( เอาเหรียญทองหรือความซื่อสัตย์) วิจารณ์ไว้ดังนี้ : โรซาลี่ถึงแม้จะไม่ได้รับเหรียญทองในการแข่งขันสะกดคำครั้งที่สี่นี้ แต่ความซื่อสัตย์ของเธอสะเทือนใจผู้ชมทั้งหมด ได้ใจจากผู้ชมอย่างล้นหลาม

 

***โรซาลี่รู้คำตอบที่ถูกต้องก่อนแล้ว แต่เธอละทิ้งเหรียญทอง และเลือกความซื่อสัตย์ เพราะว่าเธอรู้ว่าเหรียญทองเป็นเพียงเกียรติยศชั่วขณะ แต่ความซื่อสัตย์เป็นชัยชนะของเธอทั้งชีวิต

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ ginger moddang Mr.Li news mtts chez goldofcourse raty bleem deb99 vanta คุณน้อย เด็กสยาม ตังเม วิภาดา ปุยเมฆ และเพื่อนๆทุกท่าน

ช่วงนี้น้องทองเหมือนเปลี่ยนเวลาขึ้น มาขึ้นหลังตลาดเมกาปิด ... ขึ้นไม่หยุดแบบนี้คงแฮปปี้กันถ้วนหน้านะครับ :D

 

 

ทองถ้าจะลง ลงไปแล้วครับ !031

เมื่อย้ำฐานที่ 1607 แล้วยืนได้ ก็น่าจะไปต่อก่อน

หากจะเทอีกทีปรับฐานก็มีโอกาสดิ่งลงไปถึง 1540-1550 ครับ (แต่ผมยังไม่ขอเดานะครับว่าจะสุดที่ตรงไหน)

ราคาน่าจะลงตั้งแต่รอบที่แล้วก็ย่อนิดเดียวแล้วพุ่งขึ้น ติดจรวดทุกที

ปกติราคาจะขึ้นช้าๆ แต่ช่วงนี้ขึ้นเร็วจนงงครับ แล้วลงช้าๆ แปลกดี

ช่วงนี้คงต้องปรับแผนใหม่ เล่นแต่ L น่าจะดีกว่าครับ

แล้วลดพอร์ทลงหน่อย ทิศทางไม่ชัด และราคาผันผวนขึ้นๆลงๆอย่างนี้ ความเสี่ยงสูงครับ !_cd

จริงครับ ผมก็มองเวลาแล้วทองคงยังไม่ลงถ้าจะลงน่าจะลงวันจันทร์กลางคืนอย่างไว อีกนัยนึงจันทร์หน้าน่าจะเป็นไฮ ของรอบนี้... อยู่ที่ว่าจะทำกราฟรูปแบบไหน

ช่วงนี้เล่นสั้นๆ ตามแนวรับ - ต้าน ก็ทำกำไรได้พอสมควร สำหรับคนเล่นสั้นๆ แต่ต้องเฝ้าพอสมควร... โดยส่วนตัวเป็นคนใจไม่แข็ง กำไรแล้วยังไงก็เอาไว้ก่อน

เวลาทองลง นานๆทีจะเห็นลงขา 2 แล้วจังหวะต้องลงหลุดแนวรับมักยืนได้เสมอ

ตราบใดที่เงินยังเฟ้อ คนเล่นยาวยังไงก็ต้อง L ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดียามเย็นครับ เพื่อน ๆ ทุกท่าน

 

มีใคร เล่น SF บ้างครับ วันนี้ ราคา เดือน สิงหา เท่ากับหรือน้อยกว่า ราคา spot silver อีกครับ งงอ่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี raty bleem deb99 vanta คุณน้อย เด็กสยาม ตังเม วิภาดา ปุยเมฆ primmark bbeem beam sss GODRON

goldgold happy_go _lucky puggy Jije_NPT หนูอร thon

 

tanusg [ขอบคุณที่บอก :) ช่วงนี้น้องทองเหมือนเปลี่ยนเวลาขึ้น มาขึ้นหลังตลาดเมกาปิด ... ขึ้นไม่หยุดแบบนี้คงแฮปปี้กันถ้วนหน้านะครับ ]

 

มาอ่านเรื่องขำกัน

 

. ความหมายของนานาอาชีพ

 

เจ้านาย - ใครบางคนที่ชอบมาทำงานแต่เช้าในวันที่คุณมาสาย

 

และก็มาซะสาย ในวันที่คุณอุตส่าห์มาเช้า

 

ทนายความ - คนที่คอยช่วยเหลือคนที่ทำผิดกฎหมาย

 

โดยวิธีที่ถูกต้องตามกฎหมาย

 

อาชญากร - ก็คนธรรมดาเหมือนเราๆท่านๆนี่แหละ

 

เพียงแต่โดนจับได้

 

นักโฆษณา - คนที่รู้จักเลือกพูดความจริง

 

เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ เฉพาะครึ่งที่ดี

 

หมอดูลายมือ - คนแปลกหน้าที่สามารถจับมือแฟนของคุณ

 

ได้ต่อหน้าต่อตาโดยไม่โดนเตะ และได้ตังค์อีกต่างหาก

แพทย์ - คนที่ช่วยชีวิตคุณด้วยยา

 

แล้ว ฆ่าคุณทีหลังด้วยบิลค่ารักษา

 

พยาบาล - อาชีพที่เด็กๆมักจะเหมาเอา ว่าเป็นเมียของหมอ

 

(แต่พยาบาลบางคนก็ชอบคนธรรมดานะครับ )

 

ขอบคุณเจ้าของเรื่องและผู้ที่เก็บไว้แบ่งปัน

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แถม GF ก็ กั๊ก ๆ ราคาพอควร

ยังไง ยังไง อยู่ สงสัย เจ้ามือ กั๊กราคา ทั้ง ขา S ขา L (กะกินทั้ง 2 ขา เลยมั้งครับangry.gif)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กูรูหุ้นพันล้าน : ตอนที่ 4 รู้ไม่จริง

 

ถ้าเราเลือกหุ้นพี/อี ต่ำ พื้นฐานดี แต่ซื้อแล้วราคาไม่ขึ้น..มีแต่ลง แสดงว่าความคิดของเรา “ผิด” คุณต้องเปลี่ยน “อย่าดันทุรัง”

 

โดยพื้นฐานแล้ว “ความสำเร็จ” ไม่ได้ยากไปกว่า “ความล้มเหลว” แต่ทำไม!นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้น จึงมักสัมผัสรสชาติของการ “ขาดทุน” มากกว่า “กำไร”

 

วิชัยสรุปด้วยคำพูดสั้นๆ ที่เข้าใจง่ายว่า “เพราะคุณ…รู้ไม่จริง”

 

เขาบอกว่า นักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ จะต้องค้นให้พบแนวทางของตัวเอง มีต้นแบบได้แต่ต้องไม่ใช่การลอกเลียนแบบผู้อื่น..ต้องไม่ยืมจมูกคนอื่นหายใจ

 

“ลองถามตัวคุณเองว่า เป็นอย่างนั้นหรือไม่…ถ้าใช่! ต้องรีบหาแนวทางของตัวเองให้เจอ”

 

วิชัย เล่าหนทางเข้าสู่ตลาดหุ้นครั้งแรกในชีวิต ช่วงนั้นมีญาติฝั่งภรรยาเอาหุ้นจองธนาคารมหานคร (ปัจจุบันปิดกิจการไปแล้ว) มาให้จำนวน 1 แสนหุ้น ที่ราคาไอพีโอ 6 บาท หลังจากหุ้นตัวนี้เข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ราคาวิ่งขึ้นไป 7.50 บาท ได้กำไรมาประมาณ “แสนห้า”

 

เราก็คิดว่า เอะ! ในโลกนี้มีวิธีหาเงินง่ายๆ อย่างนี้ด้วย!!!

 

ความสนใจเรื่องหุ้นของวิชัย เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยที่ยังช่วยงานกงสี สมัยก่อนยังไม่มีหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ระหว่างที่อ่านละครในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เดลินิวส์ ทุกๆ วันก็จะพลิกไปดูความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น

 

ความสนใจยิ่งทวีมากขึ้น ก่อนเกิดเหตุการณ์ Black Monday (วันจันทร์ทมิฬ 19 ตุลาคม 2530) ช่วงนั้นหุ้นขึ้นมาตลอด

 

วิชัย ตัดสินใจเดินทางจากจังหวัดอยุธยา เข้ามากรุงเทพฯ หาซื้อหนังสือวิธีการเล่นหุ้นกลับไปอ่าน และสนใจศึกษาตำราการเล่นหุ้นของบุคคลที่ประสบความสำเร็จหลายต่อหลายคน

 

เขาบอกว่า เรื่องหุ้นถือเป็นเรื่องไกลตัวในตอนนั้น ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งจากที่ไม่มีความรู้อะไรเลย พอศึกษาไประยะหนึ่ง ก็คิดว่าตัวเองรู้ดีแล้ว เก่งแล้ว

 

เซียนหุ้นพันล้านเล่าว่า เคล็ดลับการเล่นหุ้นให้ประสบความสำเร็จที่อ่านเจอจากตำรา บอกว่า หุ้นจะมี Cycle (วัฏจักร) หรือ “รอบ” ของมัน คุณต้องรอให้มันตกก่อนคุณค่อยเข้ามาเล่น ช่วงนั้นก็รออย่างเดียว..เชื่อว่า “เดี๋ยวมันต้องพัง”

 

“ผมก็ทำตามตำราเป๊ะ ! พอ Black Monday หุ้นตกหนัก เราก็เข้าไปลุยเลย เลือกซื้อแต่หุ้นค่าพี/อี ต่ำๆ สมัยนั้นก็หุ้นแบงก์ทั้งนั้น ซื้อไปแล้วมันก็ไม่ขึ้น…หุ้นตัวอื่นขึ้น หุ้นเราก็ไม่ขึ้น”

 

ประสบการณ์ขาดทุนครั้งแรก เอาเงินมาเล่น 2 ล้านกว่าบาท ขาดทุนไป 5 แสนกว่า นั่งมองคนอื่นกำไร ตัวเองขาดทุน เพราะเล่นแต่หุ้นแบงก์ค่าพี/อี ต่ำๆ สุดท้ายก็รู้ว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผล คนส่วนใหญ่เขาไม่คิดเหมือนเรา ในที่สุดก็ตัดสินใจ “ล้างพอร์ต”

 

“ในใจตอนนั้นคิดว่า..ไม่ไหว เราสู้เขาไม่ได้จริงๆ เมื่อสู้ไม่ได้เราต้องถอย..อย่าฝืน”

 

วิชัย บอกว่า ถ้าเราเลือกหุ้นพี/อี ต่ำ พื้นฐานดี แต่ซื้อแล้วราคาไม่ขึ้น..มีแต่ลง แสดงว่าความคิดของเรา “ผิด” คุณต้องเปลี่ยน “อย่าดันทุรัง”

 

เมื่อมีโอกาสกลับบ้านที่จังหวัดอยุธยา วิชัยก็เล่าประสบการณ์ “ขาดทุน” ให้พี่ชายฟัง พี่ชายก็บอกว่า มันต้องจ่ายค่าเทอมก่อน

 

“คุณยังไม่มีประสบการณ์เลย คุณต้องขาดทุนก่อน ในชีวิตจริงต้องเป็นอย่างนั้น นักลงทุนมือใหม่ “ขาดทุน” ถือเป็นเรื่องปกติ”

 

เขาสรุปข้อผิดพลาดในครั้งแรกว่า เป็นเพราะว่าเรารู้แค่ในทฤษฎี ในทางปฏิบัติจริงต้องอาศัยการพลิกแพลงให้เข้ากับสถานการณ์

 

การเล่นหุ้นขาดทุนแสดงว่า “คุณยังรู้ไม่จริง”

 

หลังจากจ่ายค่าเทอมแพง วิชัยตัดสินใจที่จะกลับมาสู้ใหม่ ครั้งนี้เขาให้สัตย์ปฏิญาณไว้กับตัวเองว่า ถ้าวันหนึ่งคนอื่นทำงาน 8 ชั่วโมง เราต้องทำงาน 10 ชั่วโมง ต้องกลับมา “ชนะ” ให้ได้

 

ในที่สุดก็พบว่า วิธีที่จะเอาชนะคนอื่นได้ ต้องเอาชนะความมุ่งมั่นของตัวเองให้ได้เสียก่อน ในช่วงที่ยังเป็นมือใหม่ในตลาดหุ้น หลังจากไปส่งลูกสาวที่โรงเรียนตอน 7 โมงครึ่ง วิชัยต้องรีบบึ่งรถมาที่บริษัทหลักทรัพย์ (โบรกเกอร์) ไปถึงประมาณ 8 โมงเช้า ถึงก่อนมาร์เก็ตติ้งเกือบทุกเช้า เมื่อไปถึงก็จะนั่งดูข้อมูลหุ้นให้ได้มากที่สุด และจะปฏิบัติเช่นนี้ในทุกๆ วัน

 

เขาบอกว่า อยู่ในตลาดหุ้นอย่าคิดว่าเราเก่งกว่าคนอื่น ยังมีคนที่รู้มากกว่าและเก่งกว่าเราตั้งเยอะแยะ เราต้องรู้ให้ได้ว่าหุ้นที่เราจะซื้อ…เราซื้อเพราะอะไร ? เราต้องตอบให้ได้ว่า หุ้นตัวนี้มันจะขึ้นด้วยเหตุผลอะไร ? ถ้าคุณตอบได้ โอกาส “ชนะ” ก็มีมากกว่าครึ่ง

 

“คนจะเกิด (ในตลาดหุ้น) มันต้องเกิดจากการไขว่คว้า…ไม่ใช่ฟลุ้ค!”

 

วิชัย เล่าต่อว่า สมัยก่อนการเล่นหุ้นยังไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีกราฟราคาหุ้นให้เคาะดูง่ายเหมือนทุกวันนี้ จะใช้วิธีการจำราคาหุ้น แล้วไปซื้อสมุดกราฟแผ่นใหญ่ๆ มาพ็อตกราฟราคาเอง หุ้นตัวไหนที่เราสนใจก็จะพ็อตกราฟมาติดไว้ข้างฝาเล็งมันทุกวัน

 

สมัยนั้นยังไม่มีรีเสิร์ช หรือบทวิจัยแพร่หลายหาอ่านง่ายอย่างในสมัยนี้ นักลงทุนรายย่อยต้องรอให้ “มาร์เก็ตติ้ง” มาบรีฟ (สรุปข้อมูล) ให้ฟังอีกทีหนึ่ง

 

เมื่อ 10 กว่าปีก่อน รายย่อยจะมองมาร์เก็ตติ้งเป็นพระเจ้า เขาเล่าว่า ขำที่สุด..สมัยก่อนผมรู้จักมาร์เก็ตติ้งอยู่ไม่กี่คน ตอนนั้นเล่นหุ้นอยู่ที่ บล.ธนสยาม เล่นช่วงแรกๆ ขาดทุนจนเราท้อ เคยไปคุยกับมาร์เก็ตติ้งว่า…เธอมาบริหารพอร์ตให้ฉันหน่อยสิ !

 

… ในสายตาตอนนั้น ผมมองมาร์เก็ตติ้งว่าต้องเล่นหุ้นเก่งมาก เพราะเรายังมองหุ้นไม่ออก ผิดกับเดี๋ยวนี้มาร์เก็ตติ้งรุ่นเก่าๆ ต้องโทรศัพท์มาถามว่าช่วงนี้เล่นหุ้นยังไง มีหุ้นอะไรเด็ดๆ อย่าลืมบอกกันด้วยนะ

 

วิชัย วชิรพงศ์ เฉลยว่า ที่จริงความรู้เรียนทันกันได้ ประสบการณ์ก็เรียนรู้ได้ แต่อุปนิสัยกับวิธีคิดของคนเรา “เปลี่ยนไม่ง่าย” เราต้องเริ่มต้นจากการยอมรับความผิดพลาดของเราเอง อย่าไปโทษคนอื่น นำกลับมาแก้ไข เชื่อผม! แล้วคุณจะเล่นหุ้นเก่งขึ้น

 

ขอบคุณผู้เขียน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีตลาดรวมต่างประเทศ เงิน ทอง โลหะ น้ำมัน ตลาดหุ้น โภคภัณฑ์ เรือขนส่ง

การเงิน-หลักทรัพย์ - ตลาดหลักทรัพย์

Wednesday, 27 July 2011 10:24

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์ค : วิตกเจรจาหนี้ชะงักฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 0.73%

 

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดร่วงลงเป็นวันที่สองในวันอังคาร โดยถูกถ่วงลงจากภาวะชะงักงันในการเจรจาเรื่องหนี้สินของสหรัฐ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายที่เบาบางบ่งชี้ว่านักลงทุนยังคงลังเลที่จะเข้าซื้อหุ้น แม้มีการประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่งก็ตาม

 

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วง 91.50 จุดหรือ 0.73% สู่ 12,501.30, ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 5.49 จุดหรือ 0.41% สู่ 1,331.94 และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวลง 2.84 จุดหรือ 0.10% สู่ 2,839.96

 

ปริมาณการซื้อขายเบาบางเพียง 6.46 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค, ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaq ขณะที่จำนวนหุ้นลบแซงหน้าหุ้นบวกอย่างมาก

 

หากสหรัฐไม่สามารถเพิ่มเพดานหนี้ได้ภายในกำหนดเส้นตายในวันที่ 2 ส.ค. ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อตลาดและเศรษฐกิจ หากสหรัฐต้องเลื่อนการชำระหนี้ โดยพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันยังคงขัดแย้งกันในวันอังคารเกี่ยวกับแผนการที่มีโอกาสจะผ่านการอนุมัติของสภา

 

การเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสสองที่ส่วนใหญ่แข็งแกร่งเกินคาดนั้นได้ช่วยพยุงตลาดที่ได้รับผลกระทบจากการเจรจาเรื่องหนี้ที่ชะงักงัน (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค : ดอลล์อ่อนค่าหนุนน้ำมันดิบปิดบวก 39 เซนต์

 

ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปรับขึ้นในวันอังคาร ในขณะที่การอ่อนค่าของดอลลาร์กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.บวกขึ้น 39 เซนต์ หรือ 0.39 % มาปิดตลาดที่ 99.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 97.76-100.62

 

ดอลลาร์ โดยจุดสูงสุดของวันอังคารถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 มิ.ย. เป็นต้นมา ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปรับขึ้น 34 เซนต์ สู่ 118.28 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 116.53-119.05 ดอลลาร์

 

ปัจจัยทางเทคนิคช่วยหนุนราคาน้ำมัน ในขณะที่วอลุ่มการซื้อขายอยู่ในระดับปานกลาง เนื่องจากนักลงทุนหลายคนรอดูผลการเจรจาเรื่องเพดานหนี้ในกรุงวอชิงตัน นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาน้ำมันดิบสหรัฐมีแนวรับอยู่ที่ 97.36 ดอลลาร์ ซึ่งตรงกับค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วัน

 

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 22 ก.ค.ในวันพุธ

 

การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานหลังจากตลาดปิดทำการในวันอังคารว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 4.0 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว, สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 2.9 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 639,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 0.3 % (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค : ทองทรงตัว,ตลาดจับตาปัญหาเพดานหนี้

 

ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐทรงตัวในวันอังคาร หลังจากทำสถิติสูงสุดที่ 1,622.49 ดอลลาร์ในวันจันทร์ โดยนักลงทุนรอดูท่าทีอยู่นอกตลาดในวันอังคาร และจับตาดูการเจรจาเรื่องงบประมาณในสหรัฐ เพื่อดูว่าสหรัฐจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือหรือผิดนัดชำระหนี้หรือไม่

 

ราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนส.ค.เคลื่อนตัวในช่วง 1,607.80-1,619.00 ดอลลาร์

 

ราคาทองได้รับแรงกดดันจากคำสั่งขายที่เกี่ยวเนื่องกับการครบกำหนดส่งมอบออปชั่นในวันอังคาร และปัจจัยนี้ส่งผลบวกต่อวอลุ่มการซื้อขายสัญญาล่วงหน้า

 

ราคาโลหะเงินในตลาดสปอตพุ่งขึ้น 1.1 % สู่ 40.74 ดอลลาร์ หลังจากแตะจุดสูงสุดรอบ 2 เดือนที่ 41.05 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ส่วนสถิติสูงสุดของโลหะเงินยังคงอยู่ที่ 49.51 ดอลลาร์ ซึ่งทำไว้ในวันที่ 28 เม.ย.

 

นักยุทธศาสตร์การลงทุนกล่าวว่า ราคาทองอาจมีแนวรับอยู่ใกล้ 1,580 ดอลลาร์ ส่วนนักวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคกล่าวว่า ราคาทองมีเป้าหมายอยู่ที่ 1,670 ดอลลาร์

 

สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันอังคารมีดังต่อไปนี้

 

ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)

 

ทองเดือนส.ค. 1,616.80 + 4.60

 

เงินเดือนก.ย. 40.698 + 33.70 (เซนต์)

 

พลาตินั่มเดือนต.ค. 1,807.20 + 13.20

 

พัลลาเดียมเดือนก.ย. 836.10 + 27.10 (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดเงินนิวยอร์ค : ดอลล์ร่วงต่อขณะสหรัฐยังไม่บรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้

 

ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆในวันอังคาร และนักลงทุนคาดว่าดอลลาร์จะยังคงร่วงลงต่อไปตราบใดที่สมาชิกสภานิติบัญญัติของสหรัฐยังไม่สามารถประนีประนอมแผนการด้านงบประมาณเพื่อสกัดกั้นการผิดนัดชำระหนี้

 

ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 77.910 เยน เทียบกับระดับปิดวันจันทร์ที่ 78.280 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4508 ดอลลาร์และ 113.05 เยน เทียบกับระดับปิดวันจันทร์ที่ 1.4374 ดอลลาร์และ 112.54 เยน

 

ดอลลาร์ร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสซึ่งเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัย, ร่วงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนเมื่อเทียบกับเยน และระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโร

 

คำเตือนจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่ว่า ความล้มเหลวในการเพิ่มเพดานหนี้ให้ทันกำหนดเส้นตายในวันที่ 2 ส.ค.จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสหรัฐนั้น ได้กระตุ้นแรงขายดอลลาร์

 

พรรคเดโมแครตดูเหมือนเต็มใจที่จะยอมรับข้อตกลงที่จะไม่รวมการขึ้นภาษี แต่ยังไม่ชัดเจนว่า การเพิ่มเพดานหนี้จะเป็นการชั่วคราวหรือระยะยาวไปจนถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพ.ย.ปี 2012

 

นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถืออย่างน้อย 1 แห่ง จะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงจากอันดับสูงสุดที่ AAA

 

ดัชนีดอลลาร์ร่วงลง 0.8% สู่ 73.498 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมิ.ย. (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดเงิน Emerging Asia : สกุลเงินเอเชียแข็งค่า ขณะนักลงทุนหวั่นปัญหาหนี้สหรัฐ

 

ดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนริงกิตพุ่งทะลุแนวต้านสำคัญ และนำสกุลเงินเอเชียปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนวิตกว่าสหรัฐจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ได้ทันเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้

 

ดอลลาร์สิงคโปร์พุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ขณะที่นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสิงคโปร์จะปล่อยให้ดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่าขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

 

ริงกิตดีดตัวทะลุแนวต้านทางเทคนิค ขณะที่นักลงทุนยังคงขายดอลลาร์ออกมา และไม่มีการแทรกแซงของธนาคารกลางมาเลเซีย

 

วอนขยับขึ้นใกล้แตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ทำไว้เมื่อวันศุกร์ โดยได้แรงหนุนจากอุปสงค์ช่วงปลายเดือนของกลุ่มผู้ส่งออก ขณะที่นักเก็งกำไรในประเทศขายดอลลาร์ออกมา

 

เปโซได้แรงหนุนอย่างมากจากกองทุน และนักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์ แต่ก็พบว่าธนาคารกลางฟิลิปปินส์เข้าซื้อดอลลาร์เพื่อสกัดการแข็งค่าของเปโซด้วย สแตนชาร์ทคาดว่า เปโซและบาทจะแข็งค่าขึ้นตามสกุลเงินอื่นๆในเอเชียเพื่อชดเชยการอ่อนค่าลงในช่วงที่ผ่านมา

 

บาท/ดอลลาร์ภาคบ่ายยังคงรักษาทิศทางการแข็งค่าไว้ได้ ตามสกุลเงินในภูมิภาคและยูโร หลังความกังวลต่อปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ ยังคงกดดันดอลลาร์ บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 29.69/73 จาก 29.68/70 ช่วงเช้า ขณะที่ในตลาด offshore อยู่ที่ 29.71/72 จาก 29.67/70 ช่วงเช้า (รอยเตอร์)

 

 

 

ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index)

 

ปิดวานนี้ (26 ก.ค.) ลบ 7 จุด หรือ 0.53% สู่ระดับ 1310

 

ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554

 

ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-

 

วันที่ ระดับปิด เปลี่ยนแปลง (จุด)

 

25 ก.ค. 1317 -6

 

22 ก.ค. 1323 -2

 

21 ก.ค. 1325 -3

 

20 ก.ค. 1328 -2

 

19 ก.ค. 1330 -10 (รอยเตอร์)

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะสำหรับทุกบทความและกราฟจาก ginger news มดแดง ฯลฯ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะคุณ Ginger คุณปุยเมฆ คุณ news และทุกท่านคะ ขอบคุณสำหรับแนวทาง และบทความดีๆที่มาแบ่งปันนะคะ ลุ้นทองกันแล้วก็อย่าลืมรักษาสุขภาพนะคะ ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนเดายากเหมือนทองเลยค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ช่วงนี้งานยุ่งทั้งวันเลยครับ !034

ใกล้ปิดงบประมาณแล้ว อ่ะครับ

ยังไม่ได้ดูกราฟละเอียด นะครับ !17

แต่จาก macd ตอนนี้ 19.668 19.663 จะเท่ากันแล้วครับ ราคาวันนี้สามารถกลายเป็นราคาสูงสุดของรอบนี้ได้เลยนะครับ

รอดูราคาพรุ่งนี้ ถ้าไม่มีไฮใหม่ แนะนำปิดพอร์ท แล้วมานั่งข้างสนามรอราคาย่อลงมาแล้วค่อยเข้าใหม่ดูจะปลอดภัยกว่านะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถือ (ก็) หนัก วาง (ก็) เบา...โดยท่านพระมหาวุฒิชัย ว. วชิรเมธี

 

ปุจฉา

 

อยากขอคำอธิบายเรื่อง

“สัพเพ ธัมมา นาลัง อะภินิเวสายะ”

ที่ท่านพุทธทาสกล่าวว่า

เป็นคำสอนระดับหัวใจสำคัญของพุทธศาสนา

 

วิสัชนา

 

ลองอ่านนิทานปรัชญาต่อไปนี้

บางทีอาจมีคำตอบที่ตรงกับใจของคุณก็เป็นได้

แม้จะเขียนไว้นานแล้ว

แต่เมื่อว่าโดยเนื้อหาสาระ

คิดว่าคงพอจะทำให้มองเห็นแก่นสาระสำคัญ

ของข้อความข้างต้นนั้นได้บ้าง

 

 

ถือ (ก็) หนัก วาง (ก็) เบา

 

เคยมีคนไปกราบทูลถามพระพุทธเจ้า

พระพุทธเจ้าพระองค์ให้เหลือเพียงสั้นๆ

ทว่า ครอบคลุมใจความทั้งหมดแห่งพระพุทธศาสนา

 

พระองค์ตรัสว่า หากจะให้สรุปเช่นนั้น

ก็ขอสรุปเช่นนั้นก็ขอสรุปว่า

ใจความแห่งคำสอนของพระองค์ขึ้นอยู่กับประโยคที่ว่า

 

“สัพเพ ธัมมานาลัง อะภินิเวสายะ

ใดใดในโลกอันบุคคลไม่ควรยึดติดถือมั่น”

ทำไมจึงไม่ควรยึดติดถือมั่น

 

เพราะที่ใดมีความถือมั่น ที่นั่นก็มีความทุกข์

 

ความทุกข์ขยายตัวตามระดับความเข้มข้นของความยึดติด

 

ยึดมาก ติดมาก จึงทุกข์น้อย

 

ไม่ยึด ไม่ติด จึงไม่ทุกข์

 

ความไม่ยึดติดถือมั่น กล่าวอีกอย่างหนึ่งว่า “ความปล่อยวาง”

 

ทำไมจึงต้องปล่อยวาง

 

เพราะทุกอย่าง “มีความว่าง” มาแต่เดิม

 

คนที่หลงกอด “ความว่าง”

โดยคิดว่าเป็น “ความมี” ทำไมจะไม่ทุกข์ ?

 

พระบวชใหม่รูปหนึ่ง

เดินบิณฑบาตผ่านชุมชนแห่งหนึ่งซึ่งมีผู้คนจอแจ

 

ขณะเดินสำรวมก้มหน้าแต่พอประมาณ

เพื่อเดินผ่านชุมชนไปอย่างช้าๆ นั้นเอง

จู่ๆ ก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งใส่สูท

ผูกเนคไท สวมแว่นตาดำเดินเข้ามาหาท่าน

พร้อมทั้งชี้หน้าด่าท่านอย่างสาดเสียเทเสีย

 

พระรูปตกตะลึง รีบเดินหนี

 

แต่แม้ท่านจะเดินหนีชายคนนั้นพ้นแล้ว

แต่เสียงด่าของเขายังคงก้อง

อยู่ในโสตประสาทของท่านอย่างชัดถ้อยชัดคำ

 

เมื่อกลับถึงวัด พลันที่คิดถึงเหตุการณ์

ที่ตนถูกชี้หน้าด่ากลางฝูงชน

พระหนุ่มก็รู้สึกโกรธจนหน้าแดงก่ำ

ยิ่งคิดต่อไปว่าชายคนนั้นมาชี้หน้าด่าตน

ซึ่งเป็นพระและตนเองก็จำได้ว่า

ตั้งแต่บวชเข้ามาในพระธรรมวินัย ก็ยังไม่เคยทำอะไรผิด

 

คิดมาถึงขั้นว่า ตนไม่ผิด

แต่ทำไมตนต้องถูกด่า ยิ่งเจ็บ ยิ่งแค้น

วันที่ท่านถูกด่ากลางชุมชนนั้นเป็นวันศุกร์

แต่ตกถึงเช้าวันจันทร์ท่านก็ยังไม่หายโกรธ

 

เช้าวันจันทร์นั้น พระบวชใหม่ประคองบาตร

เดินผ่านชุมชนนั้นเหมือนเดิม

ท่านพยายามสอดส่ายสายตามองหาชายคนเดิม

ตั้งใจว่าวันนี้จะต้องถามให้รู้เรื่อง

ว่าเหตุจึงมาชี้หน้าด่าตนเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

 

ยิ่งพยายามค้นหา กลับยิ่งไม่พอ

ท่านจึงเดินสำรวจรับอาหารบิณฑบาตต่อไป

จนได้อาหารเต็มบาตรแล้วจึงเดินกลับวัด

 

ระหว่างทางกลับวัด โดยไม่คาดฝัน

พระหนุ่มทอดสายตาไปพบกับชายคนหนึ่งสวมสูท ผูกเทคไท

ใส่แว่นตาดำ ท่านอุทานในใจว่า

“อ๋อ เจ้าคนนี้เองที่ด่าฉันเมื่อวันศุกร์”

 

ภาพที่เห็นก็คือ ชายแต่งตัวดีคนนั้น

นอนหลับหมดสติอยู่ข้างศาลเจ้าแห่งหนึ่ง

ข้างๆ ตัวเขามีขวดเหล้าล้มกลิ้งอยู่

พอท่านพยายามเดินเข้าไปมองใกล้ๆ

เขาจึงเริ่มรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา

พอเห็นท่านเท่านั้นชายคนนั้นก็ร้องขึ้นมาว่า

 

“ขอเดชะ พระอาญาไม่พ้นกล้าฯ บัดนี้

พระองค์ทรงกลับมาครองอยุธยาอีกครั้งหนึ่งแล้วกระนั้นหรือ...”

ว่าแล้วก็ลุกขึ้นกำเฉิบๆ

 

พลันที่ท่านประเมินว่าชายแต่งตัวดี

คนที่ชี้หน้าด่าท่านเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว

เป็นคนบ้าที่มาในร่างของคนแต่งตัวดีเท่านั้นเอง

 

ความโกรธที่ก่อตัวเป็นเมฆดำทะมึน

อยู่ในใจของท่านมานานถึงสามวัน

ก็พลันอันตรธานไปอย่างง่ายดายชนิดไร้ร่องรอย

 

ทำไม

เราจึงปล่อยวางต่อคนบ้าได้ง่ายดายเหลือเกิน ?

แต่กับคนปกติ

ทำไม เราจึงมีความรู้สึกว่าต้องเอาเรื่องราวให้ถึงที่สุด ?

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...