ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

แจงกวป.รับหนังสือร้องเรียนสอบตลก.ศาลรธน. "สราวุธ"เผยกวป.รับหนังร้องเรียนตั้งกรรมการสอบวินัยตุลาการศาลรธน.แล้ว หลังแจงอำนาจคนละส่วน ตลาดฯทำแผน5ปี รองรับมูลค่าซื้อขายทะลัก ตลาดหลักทรัพย์ฯเร่งทำแผนยุทธศาสตร์ตลาดทุนช่วง 5 ปี หวังเห็นปริมาณการซื้อขายอยู่ระดับสูงและมีเสถียรภาพ คาดเริ่มใช้ปีนี้ เตือน'ปลอดประสพ'ท่าทีแข็งกร้าวยิ่งขัดแย้ง ส.ว.อุทัยออกโรงเตือน"ปลอดประสพ" ท่าทีแข็งกร้าวคนเห็นต่าง ถกประชุมน้ำที่เชียงใหม่ หวั่นงบ 3.5 แสนล้านไม่โปร่งใส เจาะหุ้นเด่นภาคบ่าย 14 พ.ค. 56 vdo.gif กมธ.แก้ไขรัฐธรรมนูญที่มาส.ว.ถกเสร็จแล้ว พม่าอพยพโรฮิงญาหนีพายุมาฮาเซน กลยุทธ์ลงทุนทอง-อนุพันธ์ 14 พ.ค.56 vdo.gif

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Analysis: โครงการโรงกลั่นน้ำมันขนาดใหญ่ในเวียดนามเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากหลายฝ่าย

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 พฤษภาคม 2556 15:59:00 น.

นายเหงียน ตัน ดุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามไฟเขียวโครงการสร้างโรงกลั่นน้ำมันมูลค่า 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯในจังหวัดบินห์ดินห์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่งทะเลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการลงทุนของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT)

 

emnb_1_370236.gif

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญ และผู้นำด้านอุตสาหกรรมในเวียดนามยังคงตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของโครงการ

VNExpress สื่อออนไลน์ในเวียดนามรายงานคำพูดของนายโฮ กุ๊ก ดุง รองประธานคณะกรรมการประชาชนบินห์ดินห์ เพื่อเป็นการยืนยันถึงการลงนามในข้อตกลงบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือ (MoU) เมื่อเดือนมีนาคม 2556 ซึ่งเป็นการลงนามระหว่างเจ้าหน้าที่ของจังหวดบินห์ดินห์ และปตท. หลังจากที่ได้เจรจาต่อรองกันมายาวนานถึง 3 ปี

โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการสร้างโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุด และยังเป็นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่มีมูลค่ามากที่สุดในเวียดนาม

โรงกลั่นน้ำมันดังกล่าวจะสร้างขึ้นในเขตเศรษฐกิจฮอนฮอย ซึ่งมีโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ดี แรงงานต้นทุนต่ำ และค่าเช่าที่ดินต่ำสุดในเวียดนามตามที่ทางปตท.ได้ประเมินไว้

นอกจากนี้ เขตเศรษฐกิจฮอนฮอยยังมีท่าเรือน้ำลึก และตั้งอยู่ในเส้นทางการค้าเหนือ-ใต้ ซึ่งเป็นประตูสู่เวียดนาม และตลาดประเทศอื่นๆ

การก่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันคาดว่า จะเริ่มดำเนินการในปี 2559 และจะเปิดใช้งานภายในปี 2563 โรงกลั่นดังกล่าวออกแบบมาเพื่อผลิตน้ำมันปีละ 30 ล้านตัน

น้ำมันดิบที่จะนำเข้ามาผลิตในโรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้ จะนำเข้ามาจากตะวันออกกลาง แอฟริกา และอเมริกาใต้ ซึ่งมีการกำหนดเป้าหมายไว้ว่าจะผลิตผลิตภัณฑ์น้ำมันได้มากกว่า 20 ชนิด โดยผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มีเป้าหมายเพื่อการส่งออก ภายใต้ MoUปตท. จะสนับสนุนเงินลงทุนในโครงการนี้ 60% ของการลงทุนทั้งหมด และเงินลงทุนส่วนที่เหลือจะมาจากนักลงทุนภายในประเทศ และต่างประเทศ

โฮ กุ๊ก ดุง กล่าวว่า ปตท. เป็นบริษัทที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีมูลค่าทางทรัพย์สินทั้งหมดกว่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดอันดับ 100 บริษัทยักษ์ใหญ่ทางการเงินของโลก ปตท. มีรายได้ต่อปีมากกว่า 8 หมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ และมีกำไรต่อปีเกือบ 3.5 พันล้านดอลลาร์

โฮ กุ๊ก ดุง ระบุว่า ปตท. วางเป้าหมายจะสร้างโรงกลั่นน้ำมันในเวียดนามเพื่อเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ในการพัฒนาของบริษัท

ปตท. ได้สำรวจในเวียดนาม มาเลเซีย และพม่า ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกเขตเศรษฐกิจฮอนฮอยที่อยู่ใจกลางจังหวัดบินห์ดินห์ของเวียดนามให้เป็นที่ตั้งโรงกลั่นน้ำมันของบริษัท วู ได ถัง หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเขตเศรษฐกิจภายใต้กระทรวงการวางแผนและการลงทุน (MPI) กล่าวว่า แม้โครงการขนาดใหญ่ยักษ์ต้องเผชิญกับภาวะผันผวนในระบบเศรษฐกิจปัจจุบัน แต่ MPI ก็เดินหน้าประเมินศักยภาพของโครงการอย่างสม่ำเสมอ

ขณะที่ บริษัท เวียดนาม ออย แอนด์ ก๊าซ กรุ๊ป (PVN) ระบุว่า โครงการสร้างโรงกลั่นน้ำมันที่ฮอนฮอยอาจก่อให้เกิดความไม่สมดุลของอุปสงค์ และอุปทานน้ำมันภายในเวียดนามได้

ปัจจุบัน โรงกลั่นดุงกวอในใจกลางจังหวัดกวางนัมสามารถผลิตน้ำมัน และก๊าซสำหรับใช้ในประเทศได้ 30% ของปริมาณการใช้น้ำมัน และก๊าซทั้งหมดในประเทศ ขณะที่โครงการอื่นๆ ซึ่งประกอบด้วย โรงกลั่นน้ำมันกีซอนในจังหวัดถันฮัว, โรงกลั่นน้ำมันวุงโรในจังหวัดฟู่เหยิน และโรงกลั่นน้ำมันวานฟงในจังหวัดคานห์ฮัว จะเริ่มเปิดทำการในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

PVN ชี้ว่า โครงการสร้างโรงกลั่นน้ำมันที่ฮอนฮอยไม่ได้รวมอยู่ในแผนแม่บทสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำมัน และก๊าซของเวียดนาม โครงการมูลค่ากว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ จะเดินหน้าได้ด้วยหุ้นส่วนจากต่างประเทศ ขณะที่ปตท. จะรับผิดชอบเพียง 5 พันล้านดอลลาร์นั้น เรียกได้ว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับโครงการดังกล่าว

ตรัน เวียต หงาย ประธานสมาคมพลังงานเวียดนาม เผยมุมมองผ่าน VNExpress ว่า ปัจจุบัน เวียดนามไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มโรงกลั่นน้ำมัน การที่จะรวบรวมเงินทุนจำนวนมหาศาลจากนักลงทุนต่างชาติมาใช้ในโครงการสร้างโรงกลั่นน้ำมันดังกล่าวถือเป็นเรื่องยากในสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยากลำบากในปัจจุบัน

กระทรวงการวางแผนและการลงทุน เปิดเผยว่า จังหวัดบินห์ดินห์ เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติ โดยในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ บินห์ดินห์สามารถดึงดูดเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศได้มากถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จัดเป็นเมืองที่มีเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศมากที่สุดติดอันดับ 1 ใน 3 ของปีนี้

โดย หลี ฟง สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ศศิประภา อัครภูติ/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรมีกำหนดเยือนประเทศไทย เพื่อร่วมเป็นประธานการหารือเชิงยุทธศาสตร์ไทย-สหราชอาณาจักร ครั้งที่ ๑

ข่าวต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ -- อังคารที่ 14 พฤษภาคม 2556 16:29:13 น.

กรุงเทพ--14 พ.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ

 

emnb_1_370236.gif

นายฮิวโก สไวร์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักรมีกำหนดการเยือนประเทศไทยระหว่างวันที่ ๑๙-๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๖ เพื่อเป็นประธานร่วมกับนายจุลพงษ์ โนนศรีชัย ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ ในการหารือยุทธศาสตร์ไทย-สหราชอาณาจักร ครั้งที่ ๑ (the First Thailand-United Kingdom Strategic Dialogue)

การหารือยุทธศาสตร์ครั้งนี้เป็นผลลัพธ์สำคัญจากการเยือนสหราชอาณาจักรของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เมื่อเดือนพฤศจิกายน ๒๕๕๕ โดยเป็นเวทีหารือทวิภาคีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสานความร่วมมือเป็นประจำระหว่างกัน โดยหัวข้อหลักของการหารือ ได้แก่ การค้าและการลงทุน ความร่วมมือด้านการศึกษา ความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคง การท่องเที่ยวและการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม นอกจากนี้ สองฝ่ายจะได้แลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับสถานการณ์ในภูมิภาค และประเด็นระหว่างประเทศที่มีความสนใจร่วมกันด้วย

ในช่วงที่พำนักอยู่ในประเทศไทย นายฮิวโก สไวร์ มีกำหนดการเข้าเยี่ยมคารวะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของส่วนราชการอื่น ๆ เช่น สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และโรงกษาปณ์ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและหารือเกี่ยวกับทิศทางการเสริมสร้างความร่วมมือทวิภาคีในอนาคต นอกจากนี้ นายสไวร์จะพบผู้แทนภาคเอกชนของไทยและนักธุรกิจสหราชอาณาจักรในไทย และเข้าร่วมกิจกรรมด้านกงสุลของสถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทยด้วย

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--

 

 

รมว.เศรษฐกิจญี่ปุ่นหวั่นผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งกระทบการฟื้นฟูด้านการคลัง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 พฤษภาคม 2556 13:12:00 น.

นายอากิระ อามาริ รัฐมนตรีนโยบายเศรษฐกิจและการคลังของญี่ปุ่นได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมาของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว โดยระบุว่าหากผลตอบแทนพุ่งขึ้น ก็จะทำให้การจ่ายผลตอบแทนเพิ่มสูงขึ้นและจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการเสริมความแข็งแกร่งทางการคลังของญี่ปุ่น

นายอามาริกล่าวในงานแถลงข่าวว่า “การปรับตัวขึ้นของอัตราผลตอบแทนจะส่งผลให้การจ่ายผลตอบแทนเพิ่มขึ้นสำหรับตราสารหนี้ของรัฐบาล เรื่องดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อการฟื้นฟูด้านการคลังอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้"

emnb_1_370236.gif

“รัฐบาลและธนาคารกลางญี่ปุ่นจะเดินหน้าใช้ความพยายามเพื่อลดความผันผวนลงในตลาดตราสารหนี้ของประเทศ ผ่านทางการสื่อสารกับตลาดและนโยบายบริหารจัดการหนี้ที่แข็งแกร่ง" เขากล่าว

อย่างไรก็ตาม นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่นไม่เห็นด้วยกับมุมมองที่ว่า ผลตอบแทนพันธบัตรอาจจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความแข็งแกร่งทางการคลังของญี่ปุ่น ซึ่งย่ำแย่ที่สุดในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว โดยระบุว่าการปรับตัวขึ้นในปัจจุบันของอัตราผลตอบแทนระยะยาวของประเทศได้รับแรงกระตุ้นจากการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้น

“นักลงทุนได้เทขายพันธบัตรรัฐบาลและหันไปซื้อหุ้น" นายอาโสะกล่าว โดยระบุว่าเขาเชื่อว่าอัตราผลตอบแทนระยะยาวกำลังเพิ่มขึ้นตามความคาดหวังเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น

เทรดเดอร์กล่าวว่า อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของรัฐบาลญี่ปุ่นพุ่งแตะที่ระดับ 0.8% ในช่วงเวลาสั้นๆเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในการซื้อขายในระหว่างวันในรอบประมาณ 3 เดือน เนื่องจากนักลงทุนได้เทขายทรัพย์สินที่มีความปลอดภัยเพราะต้องการสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ชาร์ปคาดพลิกกลับทำกำไรในปีงบการเงิน 2556 หลังขาดทุนหนัก 2 ปีติดต่อกัน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 พฤษภาคม 2556 13:55:24 น.

ชาร์ป คอร์ป เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในปีงบการเงินปัจจุบันด้วยกำไรสุทธิ 5 พันล้านเยน หลังจากที่ขาดทุนจำนวนมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากธุรกิจโทรทัศน์ที่ซบเซา

สำหรับปีงบการเงินซึ่งสิ้นสุดในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา บริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกของญี่ปุ่นมียอดขาดทุนสุทธิที่ 5.4535 แสนล้านเยน เพิ่มขึ้นจากระดับ 3.7608 แสนล้านเยนในปีงบการเงิน 2554 สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

CDB จัดสรรเงินกู้ฉุกเฉิน 18.7 ล้านดอลล์ช่วยกิจการสัตว์ปีกรับมือ H7N9

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 พฤษภาคม 2556 16:38:17 น.

ธนาคารไชน่า ดีเวลลอปเมนต์ แบงก์ (CDB) ซึ่งเป็นผู้ปล่อยกู้เชิงนโยบายของจีน เปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารได้ปล่อยเงินกู้ฉุกเฉินวงเงิน 116 ล้านหยวน หรือ18.7 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือบริษัทค้าสัตว์ปีกในการรับมือกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ H7N9

ธนาคารระบุ สินเชื่อดังกล่าว ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริษัทต่างๆใช้รับมือกับสถานการณ์ไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่นั้น ได้มีการจัดสรรแก่บริษัทค้าสัตว์ปีก 2 รายในเครือของกลุ่มบริษัทปักกิ่ง ฮั่วตู กรุ๊ป ซึ่งเป็นซัพพลายเออร์เนื้อไก่ชั้นนำ

 

emnb_1_370236.gif

การดำเนินการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่รัฐบาลประกาศเมื่อวานนี้ว่าจะจัดสรรเงินอุดหนุน 600 ล้านหยวนเพื่อช่วยเหลือบริษัทแปรรูปสัตว์ปีก

สินเชื่อดังกล่าวเป็นวงเงินก้อนแรกที่อนุมัติให้แก่กลุ่มผู้เพาะเลี้ยงสัตว์ปีกในปักกิ่ง นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก H7N9 เมื่อปลายเดือนมีนาคม

ตัวเลขจากสมาคมปศุสัตว์จีนชี้ให้เห็นว่า การแพร่ระบาดของโรค H7N9 ก่อให้เกิดความเสียหายในอุตสาหกรรมค้าสัตว์ปีกเป็นมูลค่ากว่า 4 หมื่นล้านหยวน

ทั้งนี้ รัฐบาลได้สั่งให้มีการฆ่าสัตว์ปีกและปิดตลาดสัตว์ปีกมีชีวิตในบางเมือง ซึ่งจะลดอุปสงค์โดยรวมในอุตสาหกรรมค้าสัตว์ปีก

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ศศิประภา อัครภูติ/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นบ่ายนี้ ขณะเยนแข็งค่า-ราคาทองดีดตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 พฤษภาคม 2556 12:04:39 น.

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นบ่ายนี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคของญี่ปุ่นที่ปรับตัวขึ้นช่วยชดเชยหุ้นของจีนที่อ่อนตัวลง ขณะที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ส่วนเงินเยนแข็งค่าขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 ปี

ดัชนี MSCI Asia Pacific บวก 0.2% เมื่อเวลา 12.54 น.ตามเวลากรุงโตเกียว

นายเวย์น สวอน รัฐมนตรีคลังของออสเตรเลียกล่าวว่า รัฐบาลจะพุ่งเป้าไปที่ตำแหน่งและการขยายตัวของเศรษฐกิจ ก่อนหน้าที่จะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาล ขณะที่ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีแนวโน้มว่า จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ในการประชุมวันนี้

สัญญาทองคำปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง หลังจากที่แข็งค่าต่อเนื่อง 3 วันทำการติดต่อกัน

เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.ตามเวลาประเทศไทย สัญญาทองส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาด COMEX เพิ่มขึ้น 6 ดอลลาร์ แตะที่ 1,440 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากที่ร่วงลง 2% เมื่อวานนี้

emnb_1_370235.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

947048_625879720773715_749732700_n.jpg

 

http://classicgoldfutures.co.th/image/strategy_analysis/filestrategy140520131451081092.pdf

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะซื้อขายตลาดหุ้น 14 พ.ค.56 vdo.gif สรุปภาวะซื้อขายตลาดหุ้นไทย 14 พ.ค.56 แนวโน้มการลงทุนพรุ่งนี้ ติดตามได้ใน Market Wise นายกฯห่วงเสถียรภาพค่าเงิน จี้คลังเร่งแก้ นายกฯห่วงเสถียรภาพค่าเงินบาท ระบุอยากเห็นทุกฝ่ายแก้ปัญหาในทิศทางเดียวกัน สั่ง"กิตติรัตน์"เร่งแก้ปัญหาภาคเอกชน UAC เร่งโครงการCBGให้เสร็จทันปี'58 UAC เร่งเดินหน้าขยายโครงการ CGB ทั้ง 20 โครงการ ให้แล้วเสร็จตามแผนทันปี"58 คาดส่งผลรายได้เพิ่มเข้ามาเฉลี่ย 1.2 พันล้านบาท/ปี กรุงไทยขายกองตราสารหนี้6เดือนชู2.7% EPCOโชว์ไตรมาส1กำไรทุบสถิติสูงสุด ตลาดฯทำแผน5ปี รองรับมูลค่าซื้อขายทะลัก เจาะหุ้นเด่นภาคบ่าย 14 พ.ค. 56 vdo.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Stork's nest Archita, Romania

 

 

486680_485096534896285_2083535117_n.jpg

 

สวัสดียามเย็น โชคดี สบายใจนะคะ

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 14 พฤษภาคม 2556

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 พฤษภาคม 2556 17:29:09 น.

-- สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐ (USGS) รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7 ริกเตอร์ในเขตปากัน ซึ่งอยู่บนหมู่เกาะมาเรียนาเหนือ เมื่อเวลา 07.32 น.ตามเวลาไทยในวันนี้

รายงานระบุว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้มีศูนย์กลางที่ระดับความลึก 566.30 กิโลเมตร วัดพิกัดเบื้องต้นได้ที่ 18.8180 ละติจูดองศาเหนือ และ 145.3820 ลองจิจูดองศาตะวันออก

emnb_1_370236.gif

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติสเปน (INE) เปิดเผยตัวเลขสถิติว่า ตัวเลขการซื้อบ้านในเดือนมี.ค. ของสเปนร่วงลง 12.6% แตะที่ 22,086 หลัง เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และนับเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดตั้งแต่เดือนเม.ย. 2555

-- นายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ป ประกาศว่า บรรดารมว.คลังกลุ่มยูโรโซนได้อนุมัติเงินช่วยเหลือ 2 งวดให้กับกรีซ คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 7.5 พันล้านยูโร หรือ 9.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายดิจเซลโบลมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เงินช่วยเหลืองวดแรกจำนวน 4.2 พันล้านยูโรนั้น จะได้รับอนุมัติในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และหลังจากนั้นจะมีการเบิกจ่ายโดยกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ส่วนเงินงวดที่เหลืออีก 3.3 พันล้านยูโรนั้น คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายในเดือนมิ.ย. ซึ่งจะขึ้นอยู่กับความคืบหน้าของโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจของกรีซ

-- นางเฮเลน เฉียว หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำภูมิภาคเกรทเทอร์ ไชน่า ของมอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2556 จะแตะ 8.2% ส่วนประเด็นที่ว่าการฟื้นตัวของจีนในปีนี้จะมีความยั่งยืนหรือไม่นั้น นางเฉียวมองว่าข้อมูลสถิติจนถึงขณะนี้แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวเล็กน้อย

--สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (OCHA) เตือนว่า พายุไซโคลนมาฮาเซนกำลังเคลื่อนตัวไปยังประเทศอินเดีย บังกลาเทศ และพม่า และคาดว่าจะขึ้นฝั่งในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ซึ่งจะสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนหลายล้านคนใน 3 ประเทศ

-- นายออลลี เรห์น สมาชิกคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการเศรษฐกิจและการเงินของสหภาพยุโรป (อียู) เรียกร้องให้กลุ่มประเทศอียูดำเนินขั้นตอนต่อไปเกี่ยวกับการจัดตั้งสหภาพการธนาคาร

“ผมเชื่อว่างานของเราในการจัดตั้งสหภาพการธนาคารจะเป็นหนึ่งในภารกิจที่สำคัญที่สุดในระดับยุโรปในช่วงหลายเดือนและหลายปีข้างหน้า สำหรับการสร้างพื้นฐานด้านการขยายตัวและการจ้างงาน" นายเรห์นกล่าวหลังกาสรประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน

-- นายอากิระ อามาริ รัฐมนตรีนโยบายเศรษฐกิจและการคลังของญี่ปุ่นได้แสดงความวิตกกังวลเกี่ยวกับการพุ่งขึ้นในช่วงที่ผ่านมาของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว โดยระบุว่าหากผลตอบแทนพุ่งขึ้น ก็จะทำให้การจ่ายผลตอบแทนเพิ่มสูงขึ้นและจะส่งผลกระทบเชิงลบต่อการเสริมความแข็งแกร่งทางการคลังของญี่ปุ่น

-- ชาร์ป คอร์ป เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าจะกลับมาทำกำไรได้อีกครั้งในปีงบการเงินปัจจุบันด้วยกำไรสุทธิ 5 พันล้านเยน หลังจากที่ขาดทุนจำนวนมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากธุรกิจโทรทัศน์ที่ซบเซา

-- ธนาคารไชน่า ดีเวลลอปเมนต์ แบงก์ (CDB) ซึ่งเป็นผู้ปล่อยกู้เชิงนโยบายของจีน เปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารได้ปล่อยเงินกู้ฉุกเฉินวงเงิน 116 ล้านหยวน หรือ18.7 ล้านดอลลาร์ เพื่อช่วยเหลือบริษัทค้าสัตว์ปีกในการรับมือกับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไข้หวัดสายพันธุ์ H7N9

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

IEA คาดภาวะขาดแคลนอุปทานจากอเมริกาเหนือจะส่งผลต่อการปรับโฉมตลาดน้ำมันโลก

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 พฤษภาคม 2556 17:42:52 น.

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า ภาวะขาดแคลนอุปทาน ซึ่งเกิดจากการผลิตน้ำมันของภูมิภาคอเมริกาเหนือที่จะขยายตัวอย่างมากในอีก 5 ปีข้างหน้า จะไม่เพียงส่งผลกระทบต่อการลงทุนเท่านั้น แต่จะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนรูปแบบการขนส่ง คลังสินค้า และโรงกลั่นน้ำมันอีกด้วย

นางมาเรีย แวน เดอร์ โฮเวน ผู้อำนวยการ IEA กล่าวหลังจากเปิดเผยรายงานตลาดน้ำมันในช่วงระยะกลางว่า “อเมริกาเหนือจะช่วยเชยภาวะขาดแคลนอุปทานที่จะส่งผลกระทบไปทั่วโลก"

นางมาเรียกล่าวว่า ภาวะขาดแคลนอุปทานจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ ไม่เพียงเพราะการขยายตัวด้านปริมาณเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะเหตุผลอื่นๆด้วยเช่นกัน โดยปัจจัยที่จะมีผลต่ออุปทานของอเมริกาได้แก่ คุณภาพของน้ำมันดิบ ข้อกำหนดในโครงการสาธารณูปโภค การกำกับดูแลในปัจจุบัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

รบ.เกาหลีใต้เตรียมให้เงินช่วยเหลือเพิ่มแก่บริษัทในนิคมอุตสาหกรรมแกซอง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 พฤษภาคม 2556 17:32:51 น.

รัฐบาลเกาหลีใต้เตรียมมอบเงินอุดหนุนเพิ่มเติมแก่บริษัทที่ต้องหยุดการดำเนินงานในนิคมอุตสาหกรรมแกซอง หลังจากที่ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่บริษัทกลุ่มดังกล่าวในช่วงต้นเดือนพ.ค.

กระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ระบุในแถลงการณ์ที่ออกร่วมกับกระทรวงอื่นๆที่เกี่ยวข้องว่า รัฐบาลได้ตัดสินใจจัดสรรงบช่วยเหลือจำนวน 3 หมื่นล้านวอน (270 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ให้แก่บริษัทสัญชาติเกาหลีใต้ที่นิคมฯแกซอง

 

emnb_1_370236.gif

งบประมาณดังกล่าวเกิดจากโครงการประกันภัยความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ ซึ่งสามารถชดเชยความเสียหายของสินทรัพย์ได้มากถึง 90% หรือ 7 พันล้านวอนต่อบริษัท

อย่างไรก็ตาม บริษัทเหล่านั้นจะไม่มีสิทธิ์ในสินทรัพย์ที่อยู่ในนิคมฯแกซอง เพื่อแลกเปลี่ยนกับการขอประกันภัย แต่จะได้รับสิทธิ์ในการซื้อสินทรัพย์ของบริษัทกลับคืนเป็นรายแรก เมื่อมีการเปิดนิคมฯอีกครั้ง

ความช่วยเหลือทางด้านการเงินเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลตัดสินใจเสนอกองทุนฉุกเฉินมูลค่า 3 แสนล้านวอนแก่กลุ่มบริษัทดังกล่าวเป็นครั้งแรกในวันที่ 2 พ.ค. นอกจากนี้ เกาหลีใต้ได้อพยพพนักงานของตนออกจากเขตนิคมฯ หลังจากเกาหลีเหนือปฏิเสธข้อเสนอของเกาหลีใต้เรื่องการเจรจาเพื่อคลี่คลายสถานการณ์ที่เกี่ยวกับนิคมอุตสาหกรรม

ในขณะเดียวกัน รัฐบาลได้เตรียมมอบเงินช่วยเหลือเพิ่มเติมผ่านทางงบประมาณเสริมแก่บริษัทต่างๆ หากเงินก้อนแรกซึ่งมีมูลค่า3 แสนล้านวอนหมดลง สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

เม็กซิโกรั้งตำแหน่งผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับสามให้สหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 พฤษภาคม 2556 17:49:00 น.

รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า เม็กซิโกเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบให้กับสหรัฐรายใหญ่สุดเป็นอันดับสาม รองจากแคนาดาและซาอุดิอาระเบีย

รายงานจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า มูลค่าการซื้อขายพลังงานระหว่างเม็กซิโกและสหรัฐ แตะที่ 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2555 คิดเป็น 13% ของมูลค่าการค้าทั้งหมดของสองประเทศที่ 4.94 แสนล้านดอลลาร์

น้ำมันดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมคิดเป็นสัดส่วนเกือบทั้งหมดของการค้าพลังงานระหว่างสองประเทศ โดยน้ำมันดิบจากเม็กซิโกคิดเป็น 11.4% ของยอดนำเข้าน้ำมันดิบทั้งหมดของสหรัฐ

โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐกลั่นน้ำมันดิบความหนาแน่นสูงที่นำเข้าจากเม็กซิโกเป็นจำนวนมาก และส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันที่มีความหนาแน่นน้อยกว่า เช่น น้ำมันเบนซิน และ น้ำมันดีเซล กลับไปยังเม็กซิโก

เม็กซิโกเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับที่ 9 ของโลกในปี 2555 และเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของซีกโลกตะวันตก สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับคุณ.. Ginger กระต่ายทอง bmw2770 baskie30 TraderJunior Gejen raty Pasaya Pa’ree พวงชมพู fung เด็กสยาม GoldOfCourse dep99 bbeam pps.aon Chez Moddang ปุยเมฆ ตังเม ย่าหยา Chinchilla Mr.Li Ohshikung แสงแดด put42 mateenee ลูกน้ำเค็ม เฟิร์ส Silver&Gold Goldbullish jojosung NOT4545 หัดเล่นgf firework SixMun ขุนศึกปทุม และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้เป็นแดงแท่งสี่ครับ :_cd

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1421 ราคาสูงสุด1445

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1426.x ครับ

 

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทาง sideway down ครับ

RSI Price Line เส้นเขียว 41.59 วิ่งมา 38.40 อยู่ต่ำกว่า50 ครับ

Trade Signal Line เส้นแดง 44.79 วิ่งมา 42.23 ครับอยู่ต่ำกว่า 50 ครับ

Market base Line เส้นเหลือง 39.15 วิ่งมา 38.48 ครับ

เส้นแดงลดครับ

 

 

สัญญานรองQQE ทิศทาง sideway

เส้นฟ้า 43.05 วิ่งมา 40.46 อยู่สูงกว่าเส้นประเหลืองครับ

เส้นประเหลือง 37.73 วิ่งมา 37.73 ครับอยู่ต่ำกว่าเส้นฟ้าครับ

(เส้นเหลืองถ้าคงที่นานๆ จะแสดง side way หรือกลับตัวและ

ถ้าทิศทางลงจะเด้งไปอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าทันทีถ้าขึ้นจะลงมาต่ำกว่าเส้นฟ้าทันที)

แนวต้าน 1445 1464 1475 1484

แนวรับ 1420 1412 1405 1384

ภาพรวมๆจากสัญญานราคา sideway ครับ

คงจะไซด์เวย์รอปริมาณต่อไป

 

 

 

ขอให้โชคดีครับ

:bye

post-1891-0-37875000-1368577705_thumb.gif

Bye

ถูกแก้ไข โดย news

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

933896_505058672883254_108969471_n.jpg

สวัสดีค่ะ คุณๆ แฟนมือใหม่ พี่น้องนักลงทุนทุกท่าน porn nutt modtanoiy

โพสต์ วันนี้, 07:26 AM

สวัสดีครับคุณ.. Ginger กระต่ายทอง bmw2770 baskie30 TraderJunior Gejen raty Pasaya Pa’ree พวงชมพู fung เด็กสยาม GoldOfCourse dep99 bbeam pps.aon Chez Moddang ปุยเมฆ ตังเม ย่าหยา Chinchilla Mr.Li Ohshikung แสงแดด put42 mateenee ลูกน้ำเค็ม เฟิร์ส Silver&Gold Goldbullish jojosung NOT4545 หัดเล่นgf firework SixMun ขุนศึกปทุม และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้เป็นแดงแท่งสี่ครับ :_cd

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1421 ราคาสูงสุด1445

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1426.x ครับ

 

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทาง sideway down ครับ

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 พฤษภาคม 2556 07:34:25 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของเยอรมนีและสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 305.66 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2551

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,339.11 จุด เพิ่มขึ้น 59.82 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,966.06 จุด เพิ่มขึ้น 20.86 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,686.06 จุด เพิ่มขึ้น 54.30 จุด

 

emnb_1_370236.gif

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาราอย่างคึกคัก และยังขานรับการแสดงความคิดเห็นในด้านบวกของผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้นขึ้น 123.57 จุด หรือ 0.82% ปิดที่ 15,215.25 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 16.57 จุด หรือ 1.01% ปิดที่ 1,650.34 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 23.82 จุด หรือ 0.69% ปิดที่ 3,462.61 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐอาจจะเพิ่มขึ้นอีก โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ในคืนนี้ตามเวลาไทย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 96 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 94.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 22 เซนต์ ปิดที่ 102.6 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำและหันไปลงทุนในตลาดหุ้น

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 9.8 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 1,424.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 23.379 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 31.7 เซนต์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 7.15 เซนต์ ปิดที่ 3.2880 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,501.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 17.40 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 727.15 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 8.45 ดอลลาร์

-- ราคาทองคำตลาดลอนดอนปิดวันทำการล่าสุด (14 พ.ค.) ที่ 1,433.75 ดอลล์/ออนซ์

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาล

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 102.3 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 101.93 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9658 ฟรังค์ จากระดับ 0.9585 ฟรังค์

ค่าเงินยูโรร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.2937 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2970 ดอลลาร์สหรับ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5221 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5290 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.9878 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9953 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุดในรอบ 5 ปีครึ่งเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) อันเนื่องมาจากข่าวการควบรวมกิจการของธุรกิจสาธารณูปโภคขนาดใหญ่

ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 54.30 จุด หรือ 54.30% แตะที่ 6,686.06 จุด ทำสถิติสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2550 อย่างต่อเนื่อง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดทองคำปิดร่วง $9.8

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 พฤษภาคม 2556 06:48:46 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐและการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำและหันไปลงทุนในตลาดหุ้น

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 9.8 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 1,424.5 ดอลลาร์/ออนซ์

emnb_1_370236.gif

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 23.379 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 31.7 เซนต์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 7.15 เซนต์ ปิดที่ 3.2880 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,501.90 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 17.40 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดที่ 727.15 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 8.45 ดอลลาร์

การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้สร้างแรงกดดันให้กับสัญญาทองคำอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวานนี้ ดัชนีดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับ 83.547 จากระดับของวันจันทร์ที่ 83.276

นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำและหันไปลงทุนในตลาดหุ้น

ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันมากขึ้นหลังจากนาชาร์ลส์ พลอสเซอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย ยืนยันความคิดของตนเองว่า เมื่อพิจารณาจากสภาพตลาดแรงงานในขณะนี้ เฟดควรเริ่มลดการซื้อพันธบัตรอย่างเร็วที่สุดในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ครั้งหน้า ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งรับกระแสคาดเฟดชะลอโครงการซื้อบอนด์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 พฤษภาคม 2556 07:05:09 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานยอดค้าปลีกที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาล

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 102.3 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 101.93 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 0.9658 ฟรังค์ จากระดับ 0.9585 ฟรังค์emnb_18_18900.gif?1037392471

ค่าเงินยูโรร่วงลงมาอยู่ที่ระดับ 1.2937 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2970 ดอลลาร์สหรับ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลงแตะระดับ 1.5221 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5290 ดอลลาร์สหรัฐ ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลงแตะระดับ 0.9878 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9953 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 0.1% ซึ่งสวนทางคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ว่าตัวเลขจะลดลงต่อเนื่องจากในเดือนมี.ค. โดยยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.ที่เพิ่มขึ้นผิดคาดแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคมีการใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งสัญญาณถึงความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนหลังจากหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลระบุว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้เริ่มกำหนดกลยุทธิ์ในการค่อยๆลดขนาดโครงการซื้อพันธบัตร โดยคณะกรรมการเฟดกำลังหารือกันเกี่ยวกับกรอบเวลาในการชะลอโครงการดังกล่าว

กระแสข่าวดังกล่าวเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นเมื่อนายชาร์ลส์ พลอสเซอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย ยืนยันความคิดของตนเองว่า เมื่อพิจารณาจากสภาพตลาดแรงงานในขณะนี้ เฟดควรเริ่มลดการซื้อพันธบัตรอย่างเร็วที่สุดในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ครั้งหน้า ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ โดยเขาคาดว่าอัตราว่างงานของสหรัฐจะอยู่ที่ราว 7% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งหากไม่มีอะไรมาทำให้การคาดการณ์นี้ผิดพลาด เขาก็คาดหวังว่า เฟดจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรก่อนสิ้นปีนี้

ส่วนเงินเยนร่วงลงอย่างหนักเมื่อเทียบกับดอลลาร์ นับตั้งแต่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ตัดสินใจเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ โดยมีเป้าหมายที่จะหนุนเงินเฟ้อให้อยู่ที่ระดับ 2% และสกัดภาวะเงินฝืดที่ยื้อเยื้อมานานกว่า 20 ปี

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.ในวันพฤหัสบดีนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI ทั่วไปจะลดลง 0.2% และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนเม.ย.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดร่วง 96 เซนต์จากคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 พฤษภาคม 2556 06:32:22 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐอาจจะเพิ่มขึ้นอีก โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ในคืนนี้ตามเวลาไทย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 96 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 94.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

emnb_1_370236.gif

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 22 เซนต์ ปิดที่ 102.6 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงในขณะที่นักลงทุนจับตาดู EIA ซึ่งจะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 พ.ค.ในวันนี้เวลา 21.30 น.ตามเวลาไททย ซึ่งนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่า สต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้น 450,000 บาร์เรล สู่ระดับ 396 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันคาดว่าสต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 550,000 บาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 650,000 บาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.5%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนของเยอรมนีและสหรัฐ โดยศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป หรือ ZEW ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนี เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีในเดือนพ.ค.ขยับขึ้นเล็กน้อย มาอยู่ที่ 36.4 จาก 36.3 ในเดือนเม.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะที่ประมาณ 40

ขณะที่สหพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) รายงานว่า ความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐปรับตัวขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือนในเดือนเม.ย. หลังจากที่ลดลงในเดือนก่อนหน้า แต่โดยรวมแล้ว ธุรกิจขนาดเล็กยังคงระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจ

ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ราคานำเข้าสินค้าลดลง 0.5% ในเดือนเม.ย.จากเดือนมี.ค.ที่ลดลง 0.2% เนื่องจากต้นทุนน้ำมันปรับตัวลดลง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในสหรัฐยังคงอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

เฟดเผยหนี้สินภาคครัวเรือนสหรัฐลดลงในไตรมาสแรก

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 14 พฤษภาคม 2556 22:44:41 น.

ธนาคารกลางสหรัฐ สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า ภาคครัวเรือนสหรัฐมีภาระหนี้ลดลงในช่วง 3 เดือนแรกของปีนี้ โดยหนี้สินรวมลดลง 1% จากไตรมาส 4 ปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 11.23 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ 12.68 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 3 ของปี 2551 ซึ่งเป็นช่วงที่วิกฤตการเงินเริ่มทวีความรุนแรง

แถลงการณ์ระบุว่า หนี้สินจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยลดลงมากที่สุด โดยลดลงแตะ 7.93 ล้านล้านดอลลาร์ จากระดับ 8.03 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่หนี้สินจากบัตรเครดิตลดลง 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์ แตะที่ 6.60 แสนล้านดอลลาร์

อัตราการผิดนัดชำระหนี้ลดลงในทุกภาคส่วน โดยอัตราการผิดนัดชำระหนี้จากสินเชื่อบ้านลดลงแตะ 5.4% จาก 5.6% อัตราผิดนัดชำระหนี้จากสินเชื่อที่ใช้บ้านปลอดจำนองเป็นหลักประกัน (home equity loan) ลดลงเหลือ 3.2% จาก 3.5% อัตราการผิดนัดชำระหนี้บัตรเครดิตลดลงแตะ 10.2% จาก 10.6% และอัตราการผิดนัดชำระหนี้เงินกู้เพื่อการศึกษาลดลงเหลือ 11.2% จาก 11.7%

emnb_1_370236.gif

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: แรงซื้อหุ้นแบงก์ หนุนดาวโจนส์ปิดพุ่ง 123.57 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 พฤษภาคม 2556 06:13:17 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาราอย่างคึกคัก และยังขานรับการแสดงความคิดเห็นในด้านบวกของผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งขึ้นขึ้น 123.57 จุด หรือ 0.82% ปิดที่ 15,215.25 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 16.57 จุด หรือ 1.01% ปิดที่ 1,650.34 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 23.82 จุด หรือ 0.69% ปิดที่ 3,462.61 จุด

emnb_1_370235.gif

ในช่วงแรกนั้นตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเนื่องจากข้อมูลที่ระบุว่า ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีในเดือนพ.ค.ขยับขึ้นเล็กน้อย มาอยู่ที่ 36.4 จาก 36.3 ในเดือนเม.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 40

ขณะเดียวกันตลาดในช่วงแรกได้รับแรงกดดันหลังจากชาร์ลส์ พลอสเซอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย ยืนยันความคิดของตนเองว่า เมื่อพิจารณาจากสภาพตลาดแรงงานในขณะนี้ เฟดควรเริ่มลดการซื้อพันธบัตรอย่างเร็วที่สุดในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ครั้งหน้า ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ โดยเขาคาดว่าอัตราว่างงานของสหรัฐจะอยู่ที่ราว 7% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งหากไม่มีอะไรมาทำให้การคาดการณ์นี้ผิดพลาด เขาก็คาดหวังว่า เฟดจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรก่อนสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดดีดตัวขึ้นในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อหุ้นกลุ่มธนาคาร โดยหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา พุ่งขึ้น 2.77% หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ดีดขึ้น 2.46% และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส พุ่งขึ้น 1.13%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากนายเดวิด เทปเปอร์ ผู้บริหารบริษัท แอพพาลูซา เมเนจเมนท์ ให้สัมภาษณ์ทางสถานีโทรทัศน์ CNBC ว่า "ผมมั่นใจว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงคึกคัก"

นักลงทุนจับตาดูธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนเม.ย.ในวันนี้ เวลา 20.15 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมจะลดลง 0.2% ในเดือนเม.ย. และคาดว่าอัตราการใช้กำลังผลิตจะอยู่ที่ 78.3%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดบวกหลังนักลงทุนเดินหน้าซื้อหุ้น

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 พฤษภาคม 2556 07:30:34 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเข้าซื้อหุ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของเยอรมนีและสหรัฐ

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 305.66 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2551

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,339.11 จุด เพิ่มขึ้น 59.82 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,966.06 จุด เพิ่มขึ้น 20.86 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,686.06 จุด เพิ่มขึ้น 54.30 จุด

 

 

 

 

 

 

 

emnb_1_370235.gif

ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงเนื่องจากข้อมูลที่ระบุว่า ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนีในเดือนพ.ค.ขยับขึ้นเล็กน้อย มาอยู่ที่ 36.4 จาก 36.3 ในเดือนเม.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 40

ขณะเดียวกันตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากชาร์ลส์ พลอสเซอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย ยืนยันความคิดของตนเองว่า เมื่อพิจารณาจากสภาพตลาดแรงงานในขณะนี้ เฟดควรเริ่มลดการซื้อพันธบัตรอย่างเร็วที่สุดในการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ครั้งหน้า ซึ่งมีกำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 18-19 มิ.ย.นี้ โดยเขาคาดว่าอัตราว่างงานของสหรัฐจะอยู่ที่ราว 7% ภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งหากไม่มีอะไรมาทำให้การคาดการณ์นี้ผิดพลาด เขาก็คาดหวังว่า เฟดจะยุติโครงการซื้อพันธบัตรก่อนสิ้นปีนี้

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อหุ้น โดยหุ้น ICAP พุ่งขึ้น 14% ขณะที่หุ้น EADS ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแอร์บัส พุ่งขึ้น 3% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

หุ้นเซเวิร์น เทรนท์ ผู้ประกอบการด้านการประปารายใหญ่อันดับสองของอังกฤษเพิ่มขึ้น 14% หลังหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สรายงานว่า กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของคูเวตได้ก่อตั้งกลุ่มทุนเพื่อเสนอซื้อกิจการของบริษัทในวงเงิน 5.3 พันล้านปอนด์ (8.1 พันล้านดอลลาร์)

นักลงทุนจับตาดูการรายงานจีดีพีเบื้องต้นประจำไตรมาส 1/2556 ของฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลีในเวลาประมารณ 13.00 -15.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ นอกจากนี้ ฝรั่งเศสจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนเม.ย.ในวันนี้เช่นกัน

ด้านสหภาพยุโรป (อียู) จะเปิดเผยจีดีพีเบื้องต้นประจำไตรมาส 1/2556 ในเวลา 16.00 น.ตามเวลาไทยในวันนี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พยากรณ์อากาศประจำวันที่ 15 พฤษภาคม 2556

ข่าวทั่วไป กรมอุตุนิยมวิทยา -- พุธที่ 15 พฤษภาคม 2556 06:30:37 น.

พยากรณ์อากาศประจำวัน

ประจำวันที่ 15 พฤษภาคม 2556

 

 

 

 

 

 

 

emnb_1_370238.gif

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. พายุไซโคลน“มหาเสน”(MAHASEN) บริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง กำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองจิตตะกอง ประเทศบังคลาเทศ ประมาณวันที่ 16 พฤษภาคม 2556 ลักษณะเช่นนี้จะทำให้มีลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยและมีฝนเพิ่มมากขึ้นหลายพื้นที่ ในช่วงวันที่ 16-17 พฤษภาคม 2556 โดยเฉพาะด้านตะวันตก

ของประเทศไทย และภาคตะวันออก สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันยังคงมีกำลังแรง

ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร เรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนือ อากาศร้อนในตอนกลางวัน

อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส

โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง ตาก กำแพงเพชร และเพชรบูรณ์

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ส่วนมากบริเวณจังหวัดหนองคาย บึงกาฬ อุดรธานี สกลนคร นครพนม อุบลราชธานี สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา

อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง อากาศร้อนในตอนกลางวัน

อุณหภูมิสูงสุด 37-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส

โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก อากาศร้อนในตอนกลางวัน

อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส

โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก และมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่

ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่

ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่

อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนในตอนกลางวัน

อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส

โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

ส่วนมากทางตอนบน และด้านตะวันออกของพื้นที่

ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กรมอุตุนิยมวิทยา 0-2399-4568-74

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
น้ำมันปิดลบ96เซนต์ คาดสต็อกน้ำมันดิบพุ่ง น้ำมันดิบ WTI ปิดร่วง 96 เซนต์ อยู่ที่ 94.21 ดอลลาร์/บาร์เรล จากคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบพุ่ง ดาวโจนส์ปิดพุ่ง123จุด เก็งกำไรหุ้นแบงก์ ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 123.57 จุด ที่ระดับ 15,215.25 จุด แรงเก็งกำไรหุ้นกลุ่มแบงก์หนุน ทองร่วง$9.8 นักลงทุนโยกเงินเข้าลงทุนหุ้น ทองร่วง 9.8 ดอลลาร์ อยู่ที่ 1,424.5 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังดอลลาร์แข็ง นักลงทุนโยกเงินกลับเข้าลงทุนตลาดหุ้น แองเจลีน่า โจลี่ ตัดหน้าอกทิ้งลดเสี่ยงมะเร็ง เกาะติดตลาดหุ้นโลก 15 พ.ค.56 vdo.gif ชี้อเมริกันยังบริโภคเกลือสูง ต่างชาติลงทุนพม่าพุ่ง5เท่า ลุยอุตฯเสื้อผ้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันที่ 15 พฤษภาคม 2556 00:09

 

เศรษฐีอินโดฯแห่ขายหุ้นรับตลาดพุ่งแรง

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

 

news_img_505579_1.jpg

 

ตลาดหุ้นอินโดนีเซียพุ่งกระฉูด มหาเศรษฐี ฉวยจังหวะขายหุ้นทำกำไร

 

รายงานจากดีลลอจิก เปิดเผยว่า บรรดาเศรษฐีอินโดนีเซียขายหุ้นในช่วงเวลาที่ดีที่ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นถึง 17% ในปีนี้ ตามหลังญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ เป็นหนึ่งในตลาดที่โดดเด่นที่สุดในภูมิภาค บริษัทต่าง ๆ ในอินโดนีเซียได้เงินเพิ่มจากการขายหุ้นรวมทั้งหุ้นไอพีโอมากกว่า 11,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 330,00ล้านบาท

นายซานดิอากา ยูโน วางแผนจะนำบริษัทซาราโตกา แคปิตอล ที่เขาร่วมก่อตั้งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเพิ่มเงินลงทุนในธุรกิจที่กำลังเติบโต ส่วนตระกูลของเอ็ดวิน เซอร์ยัดจายา ผู้ก่อตั้งบริษัทซาราโตกา แคปิตอลอีกคนหนึ่ง ประกาศขายหุ้นไอพีโอของ พีที มิตรา พินาสทิกา มุสติกา ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ยอดนิยมฮอนด้า เพียงรายเดียวในอินโดนีเซีย ด้วยมูลค่า 150 ล้านดอลลาร์ หรือราว 4,500 ล้านบาท โดยบริษัทมีแผนนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงสิ้นเดือนนี้

ตระกูลวิดจาจา ซึ่งนิตยสารฟอร์บส ประเมินความมั่งคั่งไว้ประมาณ 7,700 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2.3 แสนล้านบาท มีแผนทำไอพีโอบริษัทพัฒนาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ วิดจาจาส์ ซินาร์มาส แลนด์ มูลค่า 300 ล้านดอลลาร์ หรือราว 900 ล้านบาท

ขณะที่น้ำมันปาล์ม พีที ธรรมะ สัตยา นูซันตารา ของมหาเศรษฐีธีโอดอร์ เปอร์มาดี รัชมาต มีแผนขายหุ้นไอพีโอมูลค่า 110 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 3,300 ล้านบาท ในปีนี้ เช่นเดียวกับบลู เบิร์ด กรุ๊ป ของตระกูลเปอร์โนโม เจ้าของธุรกิจแท็กซีรายใหญ่สุดของอินโดนีเซีย ที่เตรียมทำไอพีโอ ระดมทุนประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 600 ล้านบาท

ส่วนบริษัทริอาดี้ส์ มีแผนจะขายหุ้นไอพีโอบางส่วนในพีที แบงก์ เนชันแนล โนบุ ซึ่งปล่อยกู้แก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก มูลค่า 89 ล้านดอลลาร์ (2,670 ล้านบาท)

แน่นอนว่า สำหรับนักลงทุนแล้ว ข้อเท็จจริงที่ว่า ผู้นำหุ้นออกมาขายเป็นมหาเศรษฐีนักธุรกิจนั้น ไม่ใช่เครื่องรับประกันถึงการสำเร็จในการเข้าจดทะเบียนเสมอไป โดยแม้จะมีบางรายที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่ก็มีบางรายที่ไปไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้เช่นกัน

วินีต มิชรา หัวหน้าฝ่ายตลาดเงินทุน ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จากเจพี มอร์แกน เชส แอนด์ โค ระบุว่า นักลงทุนให้ความสนใจกับบริษัทที่มีการเติบโตด้านรายได้ราว 30-40% ต่อปี และยินดีที่จะจ่ายค่าหุ้นในราคาแพงให้กับบริษัทที่มีการเติบโตเช่นนี้

นักวิเคราะห์มองด้วยว่า มูลค่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทำให้ความต้องการในตลาดหุ้นอินโดนีเซียยังคงอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าบริษัทตอบสนองชนชั้นกลางที่กำลังเติบโต และว่า ตลาดหุ้นจะมีอิทธิพลต่อความต้องการหุ้นไอพีโอมากกว่าเงื่อนไขเศรษฐกิจมหภาค

Tags : ตลาดหุ้นอินโดนีเซียมหาเศรษฐีอินโดฯขายหุ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...