ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

คุณณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวโน้มราคาทองคำ

พร้อมปัจจัยที่กระทบต่อราคาทองคำ ในรายการ Market Wise ทางช่อง กรุงเทพธุรกิจทีวี

ดำเนินรายการโดยคุณณัฏฐ์ บุณยสิริยานนท์ ในวันพฤหัสบดีที่ 20 กันยายน 2556

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1234453_439647549489607_1468458097_n.jpg

 

สวัสดีเพื่อนๆ ขำๆยามเย็น

 

เงินบาทปิดตลาด 30.95/96 แข็งค่าจากช่วงเช้าจากแรงขายดอลล์-เงินไหลเข้า

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 กันยายน 2556 17:32:50 น.

นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นวันนี้อยู่ที่ระดับ 30.95/96 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากช่วงเช้าที่ระดับ 31.08/09 บาท/ดอลลาร์ ระหว่างวันเงินบาทไปทำโลว์ระดับ 30.88 บาท/ดอลลาร์ และทำไฮที่ระดับ 31.12 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทปรับตัวแข็งค่าตามแรงเทขายดอลลาร์ทำกำไร และการไหลเข้าของ flow" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์หน้าไว้ในกรอบระหว่าง 30.60-31.10 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยที่ตลาดจับตาดูเป็นกระแสการไหลเข้าของเงินทุนจากต่างประเทศที่เข้ามาในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตร

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.35 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 99.44 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3521 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3534 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,486.76 จุด ลดลง 2.30 จุด, -0.15% มูลค่าการซื้อขาย 44,462.75 ล้านบาท

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 1,968.79 ล้านบาท(SET+MAI)

- นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้ตลาดเงินอ่อนไหว โดยการตอบสนองของนักลงทุนในตลาดเป็นไปตาม Data Dependence อย่างกรณีเฟดครั้งล่าสุด ตลาดตอบสนองสิ่งที่ออกมาเหนือความคาดหมาย ทำให้มีแรงเหวี่ยงค่อนข้างแรงเล็กน้อย แต่การประชุมครั้งต่อไปของเฟดที่จะมีขึ้นช่วงเดือน ธ.ค.เป็นช่วงใกล้เทศกาลวันหยุดยาว ไม่รู้ว่าตลาดจะตอบสนองเร็วและแรงกว่านี้หรือไม่ เป็นเรื่องที่คาดการณ์ได้ยาก

- นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นแสดงความมั่นใจเกี่ยวกับการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2% ของธนาคารกลาง ซึ่งมีจุดประสงค์ที่จะขจัดภาวะเงินฝืดว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังขับเคลื่อนไปอย่างราบรื่นสู่เป้าหมายดังกล่าว แต่เพื่อให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน สำหรับรัฐบาลก็คือต้องวางรากฐานโครงสร้างทางการคลังที่ยั่งยืน

- นายฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีต่างประเทศของญี่ปุ่น กล่าวว่า เขาวางแผนหารือกรณีความขัดแย้งในซีเรียกับรัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่าน อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี ออสเตรเลียและอียิปต์เป็นรายบุคคล นอกรอบการประชุมของสมัชชาแห่งสหประชาชาติที่นิวยอร์กในสัปดาห์หน้า

- นายฆอร์เก้ ซิซิเลีย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์จาก BBVA Research ชี้ว่าเศรษฐกิจสเปนน่าจะมีการขยายตัวภายในช่วงสิ้นเดือน ก.ย.และจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องไปอีก 6 ไตรมาส โดยสเปนมีแนวโน้มจะขยายตัวที่ 0-0.1% ในไตรมาส 3 ของปีนี้

- นายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ เปิดเผยว่า สภาความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(UNSC) จะต้องเตรียมดำเนินมาตรการต่อโครงการอาวุธเคมีซีเรีย ภายหลังคณะผู้ตรวจสอบของสหประชาชาติ(ยูเอ็น) แสดงหลักฐานแน่นหนาที่บ่งชี้การใช้อาวุธเคมีในซีเรีย โดยแถลงการณ์ของนายแคร์รี่มีขึ้นภายหลังนายเซอร์ไก ลาฟรอฟ ระบุว่ารัสเซียมีหลักฐานหนาแน่นพอที่ชี้ว่ากลุ่มกบฏซีเรียใช้รายงานการโจมตีอาวุธเคมีดังกล่าวเพื่อกระตุ้นให้เกิดการแทรกแซงจากต่างประเทศ

- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐกล่าวย้ำต่อสภาที่ปรึกษาด้านการส่งออกที่ทำเนียบขาวถึงความสำคัญของการส่งออกที่มีต่อเศรษฐกิจ โดยอุตสาหกรรมการส่งออกถูกจัดลำดับให้มีความสำคัญเป็นอันดับแรกนับตั้งแต่นายโอบามาเข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในสมัยแรก โดยในปี 2553 เขาตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มยอดการส่งออกของสหรัฐเป็น 2 เท่าภายในปี 2558 แต่ถึงกระนั้นก็ดี สหรัฐยังไม่มีแนวโน้มที่จะบรรลุเป้าหมายดังกล่าว ขณะที่ยอดส่งออกได้ขยายตัวแตะที่ 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบันจากระดับ 1.8 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือน ม.ค.2552

- สามประเทศมหาอำนาจ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และอังกฤษ ออกมาผลักดันให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงมติเรื่องซีเรียภายในสัปดาห์หน้า เพื่อให้รัฐบาลซีเรียปฏิบัติตามแผนปลดอาวุธตามข้อตกลงระหว่างสหรัฐ-รัสเซีย ซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 14 ก.ย. ที่นครเจนีวา โดยมติดังกล่าวต้องการให้มีการระบุเงื่อนไขของการใช้กำลังทางทหารเป็นมาตรการลงโทษหากนายบาชาร์ อัล-อัสซาด ประธานาธิบดีซีเรีย ไม่ทำตามข้อตกลงในการเปิดเผยข้อมูลคลังอาวุธเคมี

- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันนี้จากแรงขายทำกำไร หลังจากที่ราคาหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้นเมื่อวานนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 330 ซึ่งเป็นมาตรวัดดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.690% เพิ่มขึ้น 0.020% จากระดับปิดเมื่อวานนี้ ส่วนราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 0.17 จุด แตะที่ 143.86 ที่ตลาดหุ้นโตเกียว

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

เจ้าหน้าที่อินเดียกล่าวว่า การนำเข้าทองคำของอินเดียจะกลับมาอีกครั้งเร็วๆนี้ โดยอินเดียผ่อนคลายมาตรการสำหรับผู้ส่งออกเครื่องประดับ เพื่อการนำเข้าทองคำ ทั้งนี้รัฐบาลอินเดียกล่าวว่า ความแตกต่างระหว่างแต่ละฝ่ายในการนำเข้าทองคำได้ถูกแก้ปัญหาแล้ว คาดว่าการนำเข้าทองคำจะเริ่มขึ้นในเร็วๆนี้

 

ที่มา : MKS News

 

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 20 กันยายน 2556 โดย YLG

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 20 กันยายน 2556 17:03:46 น.

กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--PRdd

สภาวะตลาดวันที่ 20 กันยายน 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,352.73-1,368.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV13 อยู่ที่ 20,000 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 120 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,120 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVV13 อยู่ที่ 717 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 717 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.31 น.ของวันที่ 20/09/13)ออกมา คือ ออกมา คือ

แนวโน้มวันที่ 23 กันยายน 2556

ตลาดทองคำปรับตัวลงบ้างเล็กน้อย ขณะที่นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อทองคำหลังการราคาทองคำทะยานขึ้นตอบรับข่าวเรื่องที่ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)คงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ประกอบกับการอ่อนตัวลงของราคาน้ำมัน ยังส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคำ ทั้งนี้ราคาน้ำมันดิบดิ่งลงอย่างรุนแรง หลังจากปริมาณการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในลิเบียสู่ระดับราว 40 % ของกำลังการผลิตก่อนเกิดสงครามกลางเมือง ขณะที่ความก้าวหน้าทางการทูตระหว่างอิหร่านกับสหรัฐพัฒนาขึ้น ทั้งนี้ ประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานีของอิหร่าน กล่าวว่า อิหร่านไม่ได้ต้องการจะทำสงคราม และ ไม่ต้องการจะพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และเขากล่าวว่าเขามีอำนาจในการเจรจาต่อรองทำข้อตกลงกับสหรัฐ โดยทำเนียบขาวเปิดเผยว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาเปิดการเจรจาระดับทวิภาคีกับประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานีว่า อิหร่านจะยอมส่งมอบอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ ทั้งนี้ คณะบริหารของประธานาธิบดีโอบาม่า สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญอย่างเห็นได้ชัดในด้านคำพูดและน้ำเสียงของรัฐบาลอิหร่านชุดใหม่เมื่อเทียบกับรัฐบาลชุดที่แล้ว ส่งผลให้ความตึงเครียดด้านอุปทานน้ำมันลดความตึงตัวลง เนื่องจากนี้ นอกจากนี้ ตลาดจะจับตาผลการเลือกตั้งทั่วไปของเยอรมนีอย่างใกล้ชิด โดยคาดว่า นายกรัฐมนตรีแองเจลา เมอร์เคล จะได้ดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 3 แต่ก็มีข้อสงสัยว่า เขาจะสามารถรักษารัฐบาลผสมไว้ได้หรือไม่ ซึ่งอาจจะสร้างความยุ่งยากให้แก่นโยบายยูโรโซนของนางแองเจลา อย่างไรก็ตามวายแอลจีเชื่อว่าบริเวณ 1,340 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นแนวรับหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซนดังกล่าวได้มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบน แต่หากไม่สามารถยืนได้ราคาก็มีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับสำคัญบริเวณ 1,332 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามนักลงทุนสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของกระแสข่าวที่เกิดขึ้นนั้น โดยปัจจัยพื้นฐานมีนัยสำคัญกับราคาทองคำ

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำมีการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมกำลังในระยะสั้น เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,340 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้าน อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,368 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,375 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,340 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสค่อยๆขยับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป แต่หากราคาหลุดโซนดังกล่าวจะปรับตัวลงไปต่อ โดยมีแนวรับถัดไปที่บริเวณ 1,332 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,340 (19,610บาท) 1,332 (19,490บาท) 1,323 (19,360บาท)

แนวต้าน 1,368 (20,030บาท) 1,375 (20,130บาท) 1,385 (20,280บาท)

GOLD FUTURES (GFV13)

แนวรับ 1,340 (19,760บาท) 1,332 (19,640บาท) 1,323 (19,510บาท)

แนวต้าน 1,368 (20,170บาท) 1,375 (20,270บาท) 1,385 (20,420บาท)

SILVER FUTURES (SVV13)

แนวรับ 22.30 (705 บาท) 22.05 (697 บาท) 21.70 (686 บาท)

แนวต้าน 23.10 (729 บาท) 23.45 (740 บาท) 23.90 (754 บาท)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

การเงิน - การลงทุน

วันที่ 20 กันยายน 2556 10:36

 

เงินไหลเข้าเก็งกำไรช่วงสั้น

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_531185_1.jpg

 

ธปท.เกาะติดสถานการณ์เงินบาทใกล้ชิด หลังจากทุนนอกไหลกลับเข้าไทยและตลาดเอเชีย พร้อมรับ"เฟด"คงมาตรการคิวอี นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น

หลังจากที่ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (เอฟโอเอ็มซี) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) ไว้ระดับเดิม ได้ส่งผลกระทบต่อตลาดทุนและตลาดเงินเมื่อวานนี้ (19 ก.ย.) โดยดันหุ้นไทยพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 49.93 จุด หรือเพิ่มขึ้น 3.47% ปิดตลาดที่ระดับ 1,489.06 จุด มูลค่าการซื้อขายหนาแน่นถึง 82,711.82 ล้านบาท

ส่วนตลาดเงินบาทแข็งค่าอย่างรวดเร็ว จากการปิดตลาดเงินบาทอยู่ที่ 31.67 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งวานนี้แข็งค่าสุดแตะที่ระดับ 30.93 บาทต่อดอลลาร์ หรือวันเดียวแข็งค่าถึง 74 สตางค์ กว่า 2% แต่ปิดที่ระดับ 30.96-30.98 บาทต่อดอลลาร์

จากกระแสความผันผวนดังกล่าว นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาย้ำว่า ธปท.กำลังติดตามดูภาวะตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด หลังจากเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้น และถ้าเห็นว่าอัตราแลกเปลี่ยนมีความผันผวนมากเกินไป ก็พร้อมเข้าดูแล แต่ถ้าการปรับตัวที่เกิดขึ้นเป็นไปตามกลไกตลาด ธปท.ก็จะปล่อยให้กลไกตลาดทำงานต่อไป

นักลงทุนเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น

สำหรับการแข็งค่าของเงินบาทวานนี้ (19 ก.ย.) ถือว่าเป็นไปทิศทางเดียวกับค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค ซึ่งเป็นลักษณะของการปรับตัวกลับหลังจาก 2 เดือนก่อนหน้า ค่าเงินบาท รวมถึงค่าเงินสกุลอื่นในภูมิภาค และสินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ อ่อนค่าลง ซึ่งเป็นผลจากการส่งสัญญาณของเฟดว่าอาจลดปริมาณการใช้มาตรการคิวอีลง

"สิ่งที่เห็นในช่วงเช้าวานนี้ คือ ตลาดเริ่มปรับตัวกลับ เพราะช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เป็นภาวะ Risk Off (นักลงทุนปิดรับความเสี่ยง) ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงต่างๆ ในสายตานักลงทุนทั่วโลก รวมถึงสกุลเงินในภูมิภาค และค่าเงินบาท อ่อนค่าลงกันหมด แต่มติเฟดที่ออกมาก็ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับมาสู่ภาวะ Risk On (กล้าเปิดรับความเสี่ยง) มากขึ้น จึงเห็นสินทรัพย์ที่อ่อนตัวลงไปก่อนหน้านี้เริ่มปรับขึ้นมา" นายประสาร กล่าว

ชี้สินทรัพย์เสี่ยงพุ่งชั่วคราว

ส่วนแนวโน้มการปรับขึ้นของสินทรัพย์เสี่ยงเหล่านี้ จะเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหนนั้น นายประสาร กล่าวว่า การปรับตัวคงมีข้อจำกัด เพราะอย่างน้อยเฟดก็ระบุชัดเจนว่า สุดท้ายแล้วเขาจะลดมาตรการคิวอีลง เพียงแต่จะลดเมื่อไร เป็นประเด็นที่ยังต้องติดตาม

"ถามว่าจะไปเยอะแค่ไหน เราก็เห็นการปรับตัวระยะสั้นๆ ไม่ใช่เฉพาะเงินบาท แต่เป็นทั้งภูมิภาค และถามว่าจะมีลิมิตหรือไม่ ก็คงมีลิมิต เพราะเฟดบอกว่า เขาจะทยอยลดคิวอีลง เพียงแต่ว่าจะเป็นเมื่อไหร่เท่านั้น" นายประสาร กล่าว

"ประสาร"เตือนอย่าตื่นบาทแข็ง

ทั้งนี้สิ่งที่ เฟด พยายามทำในคิวอี 3 คือ การไม่นำมาตรการดังกล่าวไปผูกติดกับเงื่อนเวลาเหมือนกับ คิวอี 1 และคิวอี 2 เพราะเฟดเห็นแล้วว่า การผูกติดกับเงื่อนเวลา ไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจฟื้นตัวได้เต็มที่ และที่หนักกว่านั้นยังทำให้เศรษฐกิจฟุบลงหลังมาตรการคิวอี 1 และคิวอี 2 จบลง ดังนั้นบทเรียนดังกล่าวจึงทำให้การทำคิวอี 3 ของเฟด เปลี่ยนมาสร้างเงื่อนไขโดยยึดติดกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจแทน

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐนั้น แม้ภาพรวมจะเห็นการฟื้นตัวขึ้น แต่ก็ยังมีตัวเลขบางตัวที่เฟดยังไม่แน่ใจว่า จะสามารถฟื้นตัวได้อย่างเข้มแข็งหรือไม่ จึงเป็นเหตุผลที่เฟดตัดสินใจดำเนินมาตรการคิวอีต่อเพื่อประคับประคองเศรษฐกิจไปก่อน

"การตัดสินใจของเฟดที่ออกมานั้น ไม่อยากให้ตลาดเงิน หรือผู้เกี่ยวข้องไปตื่นตระหนกกับเรื่องดังกล่าวมากเกินไป เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการปรับตัวของตลาดเท่านั้น เมื่อตลาดเงินอ่อนตัวเร็วเกินไป ก็จะเห็นการปรับตัวในช่วงสั้นๆ ที่อาจจะมากหน่อย แต่เมื่อถึงจุดหนึ่ง การเคลื่อนไหวในตลาดก็จะมีเสถียรภาพมากขึ้นเอง" นายประสาร กล่าว

คลังฝากธปท.ดูแลค่าบาท

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ต้องการฝากให้นายประสาร ดูแลอัตราดอกเบี้ย และค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ ไม่ให้ผันผวน เพราะจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกและนำเข้า

หลังจาก เฟด ยังคงมาตรการคิวอีครั้งนี้ ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจไทย เพราะรัฐบาลมีเครื่องมือรองรับเงินทุนไหลเข้าและไหลออกอยู่แล้ว โดยที่ผ่านมาเมื่อครั้งสหรัฐประกาศมาตรการคิวอีก่อนหน้านี้ ไทยก็สามารถรับมือได้

แนะบริหารความเสี่ยงใกล้ชิด

ขณะที่ นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธนาคารทหารไทย กล่าวถึงแนวคิดการคงคิวอีรอบนี้ แม้ช่วงแรกจะมีความผันผวนจากตลาดหุ้นและตลาดเงิน แต่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องระยะสั้น และเชื่อผู้ประกอบการจะปรับตัวได้ โดยจะต้องมีการบริหารความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด ในแง่สภาพคล่องของธนาคารยังเพียงพอสนับสนุนการทำงานของธนาคารและลูกค้า

"สภาพคล่องจะตึงตัวไม่ได้มาจากคิวอี แต่ยังมาจากการใช้ภาครัฐ การออมและการลงทุน ซึ่งมีหลายปัจจัยที่ต้องพิจารณา แต่ในช่วงนี้ไม่มีปัญหาเรื่องตึงตัว"

แนะระวังคิวอีลดเงินไหลออกอีก

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มองว่าส่งผลดี เพราะเงินลงทุนจากต่างประเทศจะไหลกลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย โดยเฉพาะช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ ที่เม็ดเงินลงทุนจะกลับมาคึกคัก

แต่เขาก็เชื่อว่า มาตรการคิวอียังมีโอกาสที่จะถูกปรับลดลงได้ จึงเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังในการลงทุน เนื่องจากในปัจจุบันสภาพคล่องในตลาดส่วนหนึ่งมาจากเงินที่ไหลเข้าจากต่างประเทศ และมีโอกาสที่จะไหลกลับหากมีการปรับลดมาตรการคิวอีลง

"การที่เฟดยังไม่ลดคิวอี เป็นผลบวกต่อตลาดในระยะสั้น แต่แน่นอนว่า เงินที่ไหลกลับเข้ามาได้ก็ไหลกลับออกไปได้ แต่จะเป็นเมื่อไหร่นั้น ต้องติดตาม ซึ่งสหรัฐเองก็รอดูตัวเลขเศรษฐกิจเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นนักลงทุนยังต้องระวังอยู่"

กสิกรเชื่อสุดท้ายคิวอีต้องลด

นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า การที่สหรัฐไม่ปรับลดมาตรการคิวอีในการประชุมรอบที่ผ่านมานั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย และส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกนั้นปรับตัวเพิ่มขึ้นไปด้วยและส่งผลให้ค่าเงินบาทนั้นแข็งค่าไปด้วย แต่เชื่อว่าในสุดท้ายเชื่อว่าเฟดต้องปรับลดมาตรการคิวอีอยู่ดี หากเศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น

สำหรับภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2557 นั้น เชื่อว่าจะมีการขยายตัวของจีดีพีที่ระดับ 4.5%ได้ จากปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโตที่ 3.7% ซึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ปรับตัวดีขึ้น ทั้งเศรษฐกิจสหรัฐ ยุโรป และจีน เริ่มฟื้นตัว จะผลักดันให้การส่งออกของไทยนั้นปรับตัวดีขึ้นไปด้วย โดยคาดการณ์ว่า การส่งออกในปีหน้า จะเติบโตใกล้เคียงระดับ 10 % จากปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโต 1.5%

ด้านนายวิรไท สันติประภพ นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ อดีตรองผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การที่เฟดชะลอการปรับลดวงเงินการทำมาตรการคิวอีนั้น ถือว่าผิดความคาดหมาย โดยหลังจากเฟดมีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยง และหลักทรัพย์ในตลาดทุนปรับตัวเพิ่มขึ้น และช่วงผ่อนคลายความกังวลในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ในเรื่องดอกเบี้ยขาขึ้นให้มีความคลายกังวลไป

"เชื่อว่า เฟด ยังคงต้องปรับลดมาตรการคิวอีในอนาคตอีกแน่นอน และจะส่งผลให้ราคาสินทรัพย์เสี่ยงนั้นอาจปรับตัวลดลงอีกครั้ง แต่ปัจจุบันสหรัฐเริ่มตระหนักถึงความผันผวนของเศรษฐกิจโลกจากมาตรการคิวอีมากขึ้น ทำให้สหรัฐเองก็ต้องพิจารณาผลกระทบของการหยุดมาตรการคิวอีต่อเศรษฐกิจโลกเช่นกัน"

ราคาสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกพุ่งขึ้น

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ผลการประชุมเฟดที่ออกมาถือว่าค่อนข้างผิดความคาดหมาย ส่งผลให้สินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกนั้นปรับตัวขึ้นรับข่าวดังกล่าว โดยมองว่าตลาดการเงินหลังจากนี้น่าจะมีความผันผวนต่อไป และหากมีการประชุมเฟดในครั้งต่อไป ก็จะมีปัจจัยการปรับลดคิวอีเข้ามากดดันเช่นเดิม

สำหรับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาวนั้น เชื่อว่าน่าจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น แต่ดอกเบี้ยในระยะสั้นนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะได้รับผลกระทบ ทั้งนี้เชื่อว่าเฟดน่าจะมีการปรับลดวงเงินในการทำคิวอี ภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน

ส.อ.ท.เชื่อคงคิวอี ไม่กระทบส่งออก

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า การที่เฟดไม่ปรับลดคิวอี จะไม่ส่งผลกระทบต่อการส่งออก การเคลื่อนไหวของตลาดทุน และอัตราแลกเปลี่ยน เนื่องจากรับรู้สัญญาณนี้มานานแล้ว โดยค่าเงินบาทจะทรงตัวอยู่ในระดับปัจจุบัน จะไม่อ่อนค่ามากไปกว่านี้ ส่วนเศรษฐกิจโลกยังอยู่ในภาวะที่ทรงตัวขณะที่เศรษฐกิจไทยปีนี้ คาดว่าจะขยายตัว 3-4%

"ผลกระทบที่มาจากภายนอกประเทศ เช่น ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมัน ทุกประเทศได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด แต่ปัญหาเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศ และการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ จะเป็นตัวชี้วัดผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศมากกว่า"นายพยุงศักดิ์ กล่าว

Tags : ธปท.เฟดตลาดทุนตลาดเงินเงินไหลเข้าคิวอี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1237001_560847797304341_1916029058_n.jpg

สวัสดี news bas wann raty Magagold deb meng Goldleng นัอย Espresso.... ..... ....

ตังเม เด็กสยาม Alan juy Pasara yot gejen put เพื่อนๆ

มีความสุขวันหยุด

ภาวะตลาดน้ำมัน: แรงขายทำกำไรฉุดน้ำมัน WTI ปิดร่วง 1.72 ดอลลาร์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 21 กันยายน 2556 07:18:36 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแข็งแกร่งก่อนหน้านี้ ขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ตัดสินใจเดินหน้ามาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากข่าวลิเบียเพิ่มกำลังการผลิต และจากกระแสความวิตกกังวลเกี่ยวกับซีเรียเริ่มคลี่คลายลง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.72 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.67 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ ปิดที่ 109.22 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นก่อนหน้านี้ ขานรับข่าวที่ว่าเฟดยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ พร้อมกับยืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น จนกว่าอัตราว่างงานจะแตะ 6.5% และอัตราเงินเฟ้อไม่เคลื่อนไหวสูงกว่า 2.5%

นอกจากนี้ สัญญานำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการที่วิกฤตการณ์ซีเรียเริ่มคลี่คลายลง หลังจากประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ของซีเรีย ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์ นิวส์ ว่า ซีเรียจะรีบจัดข้อมูลเกี่ยวกับอาวุธเคมี และเปิดพื้นที่ให้คณะผู้ตรวจสอบของต่างชาติเข้ามา รวมทั้งกำจัดอาวุธยุทโธปกรณ์ภายในระยะเวลา 1 ปี

ขณะเดียวกัน สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงกดดันหลังจากนายอิรอฮิม อัล อาวามี เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงพลังงานลิเบียกล่าวว่า ลิเบียจะเพิ่มปริมาณการผลิตน้ำมันดิบเป็น 800,000 บาร์เรลต่อวัน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดร่วง 185.46 จุด หลังจนท.เฟดส่งสัญญาณลด QE

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 21 กันยายน 2556 06:57:32 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงในการประชุมเดือนต.ค.

ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,451.09 จุด ลดลง 185.46 จุด หรือ -1.19% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,709.91 จุด ลดลง 12.43 จุด หรือ -0.72% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,774.73 จุด ลดลง 14.65 จุด หรือ -0.39%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงหลังจากนายบุลลาร์ดกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในการประชุมครั้งล่าสุดซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันพุธที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น คณะกรรมการเฟดไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการปรับลดขนาด QE และคาดว่าในการประชุมเดือนต.ค.นี้ อาจจะมีการปรับลดขนาด QE ลงเล็กน้อย พร้อมกับกล่าวว่า เฟดสามารถรอเวลาการปรับลดขนาด QE ได้ หลังจากดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อนั้น ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนส.ค.

ขณะที่อีสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้แสดงความเห็นว่า การที่เฟดยังคงเดินหน้าใช้มาตรการ QE ในการประชุมครั้งที่ผ่านมานั้น ถือเป็นการสร้างความสับสนให้กับตลาด

ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เฟดประกาศว่าจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งตรงข้ามกับที่ตลาดคาดว่าเฟดอาจจะลดขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ หรือ QE ลงประมาณ 1-1.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน

นายเบน เบอร์นันเก้ ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวภายหลังการประชุมที่ว่าการเลื่อนระยะเวลาในการลดขนาด QE จะส่งสัญญาณที่สร้างความสับสนต่อตลาดหรือไม่ โดยนายเบอร์นันเก้ตอบว่า "สิ่งที่เฟดกำลังดำเนินการเป็นสิ่งที่เหมาะสมสำหรับเศรษฐกิจ เฟดไม่สามารถปล่อยให้การคาดการณ์ของตลาดมาครอบงำการดำเนินนโยบายของเรา"

หุ้นไมโครซอฟท์ และหุ้นเจนเนอรัล อิเล็กทริก ร่วงลงอย่างน้อย 1.8%

หุ้นแคทเตอร์พิลลาร์ ดิ่งลง 3.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายลดลง ส่วนหุ้นแบล็คเบอร์รี่ ดิ่งลง 17% หลังจากบริษัทประกาศลดพนักงาน 4,500 ตำแหน่ง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: วิตกเฟดจ่อลด QE เดือนหน้า ฉุดทองคำปิดร่วง $36.8

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 21 กันยายน 2556 07:34:56 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 ก.ย.) หลังจากนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ ส่งสัญญาณว่าเฟดอาจจะลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงในการประชุมเดือนต.ค.

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 36.8 ดอลลาร์ หรือ 2.69% ปิดที่ 1,332.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.365 ดอลลาร์ ปิดที่ 21.927 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 40.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1432.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 16.25 ดอลลาร์ ปิดที่ 721.95 -16.25 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลดขนาด QE ของเฟด หลังจากนายบุลลาร์ดกล่าวให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ในการประชุมเดือนต.ค.นี้ อาจจะมีการปรับลดขนาด QE ลงเล็กน้อย เมื่อพิจารณาจากข้อมูลการจ้างงานที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าเฟดสามารถรอเวลาการปรับลดขนาด QE ได้ หลังจากดัชนี CPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อนั้น ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยในเดือนส.ค.

ขณะที่อีสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัสซิตี้แสดงความเห็นว่า การที่เฟดยังคงเดินหน้าใช้มาตรการ QE ในการประชุมครั้งที่ผ่านมานั้น ถือเป็นการสร้างความสับสนให้กับตลาด

การแสดงความคิดเห็นของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟดได้กระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาทองคำพุ่งขึ้น 4.72% เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ขานรับเฟดที่ยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงาน ขณะเดียวกันเฟดยืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น จนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงแตะ 6.5% และอัตราเงินเฟ้อไม่เคลื่อนไหวสูงกว่า 2.5%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อุตุเตือนภัยคลื่นลมแรงในอันดามันและอ่าวไทยตอนบน,กทม.มีโอกาสฝนตก 70%

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 21 กันยายน 2556 07:57:19 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยจากคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้บริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในระยะ 2-3 วันนี้

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น "อุซางิ"(USAGI) ซึ่งเป็นพายุอีกลูกหนึ่งทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฟิลิปปินส์เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย จะเข้าใกล้ตอนใต้ของเกาะไต้หวัน และเข้าสู่ประเทศจีนตอนใต้ประมาณวันที่ 23 กันยายน 2556 สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปเกาะไต้หวัน ฮ่องกง และมณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06.00 น.วันนี้ ถึง 06.00 น.วันพรุ่งนี้

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-33 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดชัยภูมิ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 26-30 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวนความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-30 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวนความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไปร้อยละ 70 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจายร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 20-45 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีเมฆมาก โอกาสมีฝนตกร้อยละ 70 อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม โทร.02-2535000 ต่อ 325 อีเมล์: tanawat@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เจ๋ง! ลูกยางสาวไทยล้มสาวแดนมังกร 3-2 เซต ศึกชิงแชมป์เอเชีย

 

 

 

ข่าวกีฬา RYT9.COM -- ศุกร์ที่ 20 กันยายน 2556 18:33:41 น.

iq19a24229519c63d538da593a2a335be8.jpg

 

ศึกวอลเลย์บอลหญิง ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 17 ณ สนามชาติชาย ฮอลล์ ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา โดยทีมสาวไทย พบกับ จีน

เซตแรก ทั้งสองทีมทำแต้มไล่ตามกันสูสีที่ 4-4 จากนั้นจีนหนีห่างไทย 12-9 และนำห่างไปเรื่อยๆ จบเกมจีนชนะไป 25-18 จีนนำไทย 1-0 เซต

เซตสอง ไทยนำก่อนและจีนไล่บี้ตามมาติดๆ แต่ไทยหนีห่างมาถึง 5 แต้มที่ 12-7 จบเกมไทยชนะไป 25-19 ไทยเสมอจีน 1-1 เซต

เซตสาม ไทยนำก่อนแต้มแรกเซตนี้ทั่งคู่คะแนนสูสีมากแบบไม่มีใครยอมใครตามหลังกันแค่แต้มเดียว จบเกมไทยชนะไป 25-22 ไทยนำจีน 2-1 เซต

เซตสี่ และไทยเป็นฝ่ายทำแต้มได้ก่อนเช่นเดียวเซตสองและสามทั้งคู่ตามกันอย่างสูสี จบเกมจีนชนะไป 25-21 ไทยเสมอจีน 2-2 เซต

เซตตัดสิน ไทยได้แต้มนำก่อนและหนีห่างอยู่ 4 แต้มที่ 7-3 จบเกมไทยชนะไป 16-14 ส่งไทยสยบสาวจีน 3-2 เซต สกอร์ 25-18, 25-19, 25-21 และ 16-14

 

 

อินโฟเควสท์ โดย สุดทีวัล สุขใส โทร.02-2535000 อีเมล์: sudteewan@infoquest.co.th--

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองคำตลาดCOMEXปิดร่วง36.8ดอลล์ ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 36.8 ดอลลาร์ วิตกธนาคารกลางสหรัฐจ่อลดคิวอีเดือนต.ค. น้ำมันเวสต์เทกซัสปิดร่วง1.72ดอลล์ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.72 ดอลลาร์ ปิดที่ 104.67 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดร่วง185.46จุด ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง185.46จุด หลังเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณลดคิวอี พายุไต้ฝุ่น'อุซางิ'มุ่งหน้าสู่ฮ่องกง คาดนโยบายศก.เยอรมนีไม่พลิกหลังเลือกตั้ง หงส์แดงปรับทัพรับนักบุญ ตบสาวไทยล้มจีนชิงศึกอช.

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

PostToday

อยากถามความเห็นของเพื่อนในแฟนเพจ โพสต์ทูเดย์ว่า

 

เห็นด้วยกับการสร้างเขื่อนแม่วงก์หรือไม่? http://bit.ly/18HXOOd

 

 

1236879_10151879103289835_709086730_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี news bas เพื่อนๆ เรื่องน่ายินดีวันนี้

ฮีโร่สาวไทยซิวแชมป์เอเชียสมัย2 ไล่ทุบ'ญี่ปุ่น'กระจุย3เซตรวดฮีโร่สาวไทย

ซิวแชมป์เอเชียสมัย2 ไล่ทุบ'ญี่ปุ่น'กระจุย3เซตรวด

วันเสาร์ ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2556, 18.55 น.

 

 

 

 

69558.jpg

21 ก.ย.56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแข่งขันวอลเล่ย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย 2013 ครั้งที่ 17 ที่ ชาติชายฮอลล์ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯ จังหวัดนครราชสีมา ท่ามกลางกองเชียร์ที่แน่นขนัดในสนาม เพื่อลุ้นนัดชิงแชมป์เอเชียระหว่าง เจ้าภาพ ทีมตบลูกยางหญิงของไทย ทีมอันดับ 16 ของโลก ในรายการนี้สาวไทยเกือบทั้งชุดเป็นแชมป์เอเชียเมื่อปี 2009 โดยครั้งนั้นชนะ จีน 3 ต่อ 1 เซต เจอกับ ทีมชาติญี่ปุ่น ทีมอันดับ 3 ของโลก และเป็นเต็งสองของรายการ ซึ่งการแข่งขันชิงแชมป์เอเชียครั้งที่แล้วเมื่อปี 2011 ได้รองแชมป์ โดยแพ้ให้กับ จีน ไป 3 ต่อ 1 เซต นับเป็นการเข้าชิงชนะเลิศ 2 ใน 3 ครั้งหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

ในปี 2013 ไทย พบกับ ญี่ปุ่น มาแล้ว 3 ครั้ง ญี่ปุ่นเอาชนะไทย 3 ต่อ 0 เซตมา 2 ครั้ง และล่าสุดที่เพิ่งจะแพ้สาวไทยคาถิ่นย่าโม 1 ต่อ 3 เซต นักกีฬา 6 คนแรกของไทย ประกอบด้วย วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ , ปลื้มจิตร์ ถินขาว , นุศรา ต้อมคำ , อรอุมา สิทธิรักษ์ , ทัดดาว นึกแจ้ง และ มลิกา กันทอง มี วรรณา บัวแก้ว และปิยะนุช แป้นน้อย สลับกันเล่นเป็นลิเบอโร่ ส่วน 6 คนแรกของญี่ปุ่น ประกอบด้วย มิยู นากาโอกะ, ซาโอริ คิมูระ ,คานาโอะ ฮิราอิ , ฮารุกะ มิยาชิตะ ,นานะ อิวาซากะ และ ริสะ ชินนาเบะ

v03.jpg

เซตแรก ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายเซิร์ฟลูกเล่นก่อน และเป็นฝ่ายไทยที่ออกนำจากการตบของ ปลื้มจิตร์ ไทยออกนำ 1-0 จากนั้นก็เป็นฝ่ายผลัดกันทำแต้มจนเสมอกันที่ 4-4 และเป็น ญี่ปุ่น ที่เป็นฝ่ายขึ้นนำ 7-8 กลับลงมาหลังจากพักเป็นสาวไทยฮอตและทำ 3 แต้มรวด กลับขึ้นนำ 10-8 แต่ญี่ปุ่นก็พลิกเกมทำ 4 คะแนนรวดกลับไปนำไทย 10-12 จากนั้นเกมของทีมไทยบ้าง แต้มมาเสมอกันที่ 14-14 ก่อนที่ ญี่ปุ่นจะกลับขึ้นไปนำ 15-16

เริ่มกันใหม่ก็ยังเป็นเกมของญี่ปุ่น ที่ทำแต้มทิ้งระยะห่างกับไทยไว้ตลอด แต่สาวไทยก็สู้สุดฤทธิ์ไล่มาทันกันที่ 22-22 จนโค้ชญี่ปุ่นต้องขอเวลานอก กลับลงมาเล่นอรอุมาเสิร์ฟได้อย่างยอดเยี่ยม ในขณะที่ วิลาวัณย์ ก็เล่นได้อย่างสะใจเมื่อขึ้นบล็อกลูกตบของญี่ปุ่น ทำให้แต็มไทยนำไปเป็น 23-22 และทีมชาติไทยก็สามารถเผด็จศึกในเซตแรกไปได้ 25-22

v06.jpg

เซตสอง ปลื้มจิตร์ เป็นฝ่ายเสิร์ฟ และสามารถทำให้ไทยออกนำก่อน 1-0 จากนั้นก็ยังเป็นฝ่ายไทยที่เล่นได้ดีกว่าเล็กน้อยทำแต้มหนีไปเป็น 6-3 และสามารถนำไปถึง 8-3 จากการเสิร์ฟของทัดดาว นึกแจ้ง คนเดียว 3 แต้มรวด หลังหมดไทม์เอาท์กลับลงมาเล่น ทัดดาว ยังคงเป็นคนเสิร์ฟ และสามารถทำแต้มได้เป็นกอบเป็นกำนำออกไปเป็น 12-5 จนกระทั่งเป็น 16-10 กลับลงมาเล่นอีกครั้ง ญี่ปุ่นทำแต้มได้ 3 คะแนนติดทำให้ตามมาอยู่ที่ 17-14 เกมทำท่าว่าจะเป็นของญี่ปุ่นที่เริ่มไล่แต้มขึ้นมาเรื่อยๆ แต่สาวไทยฮึดทุบทีเดียวนำห่างไปเป็น 24-18

ก่อนที่ไทยจะเอาชนะไปได้ในเซตที่สองด้วยคะแนน 25-18

8249d52.jpg

 

เซตสาม สาวไทยลงสนามด้วยความมั่นใจ เปิดเกมใส่กับญี่ปุ่นซึ่งยังตั้งตัวไม่ติดออกนำห่าง 5-3 ก่อนทิ้งไปเป็น 7-3 แต่ญี่ปุ่นก็ทำ 2 แต้มรวดไล่มาเป็น 7-5 ก่อนที่จะเป็น 8-5 เข้าช่วงไทม์เอาท์ กลับลงมาทีมไทยยังเล่นเป็นฮีโร่คนไทยนำห่างออกไปเป็น 12-6 ก่อนที่จะนำห่างออกไป 8 แต้ม เป็น 16-8 จากนั้นต่างฝ่ายต่างผลัดกันทำแต้ม ตบลูกยางสาวไทยออกนำเป็น 19-10 ญี่ปุ่นไล่มาเป็น 20-14 แต่ไทยก็ยังรักษาระดับความห่าง ในขณะที่ญี่ปุ่นเองก็ใช้ผู้เล่นหน้าใหม่ลงมาทดแทน เพราะคงทราบดีแล้วว่า เกมวันนี้ไม่สามารถสู้ทีมไทยได้เลย จนกระทั่งไทยสามารถปิดเซตนี้ได้ด้วยคะแนน 25-17 เป็นอันว่าทีมวอลเล่ย์บอลสาวไทยเอาชนะญี่ปุ่นไปได้ 3 เซตรวด ด้วยคะแนน 25-22 , 25-18 และ 25-17 คว้าแชมป์เอเชียได้เป็นสมัยที่ 2 ใน 3 ครั้งหลังสุด

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประธานเฟดเซนต์หลุยส์ชี้การเดินหน้าใช้ QE เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเฟด

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 21 กันยายน 2556 15:43:55 น.

นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าววานนี้ว่า การตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ได้เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเฟด เนื่องจากแสดงให้เห็นถึงการปล่อยให้ข้อมูลเศรษฐกิจ ไม่ใช่การทำตามพันธกิจที่ได้ระบุไว้ เป็นแรงผลักดันการดำเนินการของเฟด

นายบูลลาร์ดให้สัมภาษณ์กับนักข่าวภายหลังการกล่าวสุนทรพจน์ในนิวยอร์กว่า “ผมคิดว่านั่นเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) ในการผลักดันโครงการซื้อพันธบัตรในวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนให้เดินหน้าต่อไป"

ทั้งนี้ เฟดได้สร้างความประหลาดใจให้กับตลาดในสัปดาห์นี้ด้วยการไม่ปรับลดขนาดของโครงการซื้อพันธบัตรลงตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ซึ่งเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐได้ปรับตัวดีขึ้นมากพอที่เฟดจะเริ่มปรับลดขนาดของมาตรการกระตุ้นลง นอกจากนี้ นักวิเคราะห์หลายรายยังได้อ้างถึงคำพูดของนายเบน เบอร์นันเก้ ที่ระบุว่า การปรับลดขนาดของโครงการซื้อพันธบัตรจะเกิดขึ้นในปีนี้

นายบูลลาร์ดชี้แจงกับนักข่าวถึงการประชุมในครั้งต่อไปว่า เฟดอาจจะไม่ได้ให้รายละเอียดมากเหมือนปกติ พร้อมกับแจ้งให้ทราบว่า นายเบอร์นันเก้ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมประจำปีที่เมืองแจ็คสัน โฮล ในรัฐไวโอมิง ซึ่งถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติในการกล่าวสุนทรพจน์เพื่อชี้แจงนโยบายให้มีความชัดเจน

“มีบางปัจจัยที่อาจจะกดดันให้ปริมาณการสื่อสารที่ปกติตลาดจะได้รับก่อนการประชุมเฟดลดน้อยลง" นายบูลลาร์ดกล่าว พร้อมกับแสดงความเห็นเกี่ยวกับการตัดสินใจของเฟดว่า เป็นการคาดการณ์ไปเองของตลาด นายเบอร์นันเก้ไม่ได้ให้คำมั่นใดๆในเดือนก.ย. “เป็นคนอื่นที่ตอกย้ำว่า จำเป็นต้องมีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่นายเบอร์นันเก้ได้กล่าวย้ำหลายครั้งว่า การตัดสินใจเกี่ยวกับจังหวะในการลดขนาดของมาตรการกระตุ้นลงจะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจในระดับมหภาค"

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th-

 

“ศุภวุฒิ”จับตาสหรัฐฯหยุดกระตุ้นศก.กลางปีหน้า ฉุดยอดส่งออกไทยซึมต่อ

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- เสาร์ที่ 21 กันยายน 2556 06:00:00 น.

“บล.ภัทร”ฟันธง “จีดีพี”ปีนี้น่าจะไปได้แค่ 3.8% ขณะที่การส่งออกจะยังย่ำแย่ที่ 2% ลุ้นเศรษฐกิจโลกฟื้นปีหน้า ไทยได้อนิสงส์ตาม? แต่ยังห่วง ธนาคารกลางสหรัฐฯปรับลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปีหน้า ส่งผลให้จีดีพีปีหน้าไม่เป็นตามที่หวังไว้

เมื่อวันที่ 20 กันยายน2556 ที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จัดสัมมนาวิชาการประจำปี2556(Symposium 2013)วางรากฐานสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนของเศรษฐกิจไทย”ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ กรุงเทพ

นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าสายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ภัทร กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปีนี้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี) หรืออัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจน่าจะไปได้แค่ 3.8% ขณะที่การส่งออกจะยังย่ำแย่ที่ 2% อย่างไรก็ดีในช่วงปีหน้าหลายฝ่ายคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป น่าจะส่งผลให้การส่งออกไทยกลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ส่งผลให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะเพิ่มขึ้นเป็น 4.8% และการส่งออกจะเพิ่มขึ้นเป็น 5-7% ในรูปแบบเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ

ส่วนปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือด้านนโยบายโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ มูลค่าโครงการ 2 ล้านล้านบาทนั้น ยอมรับว่าเห็นด้วย และพร้อมสนับสนุน ที่ผ่านมาระบบการขนส่ง หรือการใช้ถนนถือเป็นอุปสรรค ค่อนข้างมีความเสี่ยง ได้ผลตอบแทนค่อนข้างน้อย หากมีการใช้ระบบราง เช่นรถไฟฟ้า ระบบโลจิสติกส์ เข้ามาช่วย คาดว่าจะมีประสิทธิภาพที่ดี

โดยเฉพาะการลงทุนระบบราง รถไฟความเร็วสูง ที่ใช้รางความกว้าง 1.435 เมตร จะช่วยเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อบ้านที่ใช้รางแบบเดียวกันได้ แต่หากไม่มีการลงทุน ประเทศไทยจะมีเฉพาะราง 1 เมตร ที่เชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านไม่ได้ แต่เราก็ยังคงเป็นศูนย์กลางอาเซียนในการใช้การขนส่งบนถนน ซึ่งมีต้นทุนที่สูง ไม่สามารถแข่งขันกันประเทศเพื่อนบ้านได้

นายศุภวุฒิ กล่าวถึงกรณีที่ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯหรือเฟด ประกาศคงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจในการเข้าซื้อพันธบัตร 85,000 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ (QE tapering) ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเงินลงทุนบางส่วนที่ไหลกลับมาลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่ รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยนแข็งค่าขึ้น แต่ทั้งนี้การปรับขึ้นของราคาสินทรัพย์เสี่ยงจะมีระยะเวลายาวนานเพียงใดไม่สามารถระบุได้ เนื่องจากเชื่อว่าสหรัฐจะต้องลดขนาด และยกเลิกมาตรการ QE ซึ่งตลาดกำลังจับตามองการประชุมของเฟดในเดือนธันวาคมนี้ ที่อาจจะเริ่มลดขนาด QE ลง หรือ อาจเลื่อนไปเป็นกลางปี 2557 โดยขึ้นอยู่กับตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ

“เชื่อว่าเฟดน่าจะมีการปรับลดQE ในช่วงกลางปีหน้า โดยทันทีที่ลดลงน่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก และประเทศไทย จากการหายไปของสภาพคล่องที่ถูกดึงออกนอกระบบ ” นายศุภวุฒิ กล่าว

นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธปท.กล่าวว่าเฟด ยังประกาศคงมาตรการ QE ไว้อย่างต่อเนื่อง ถือว่าผิดจากการคาดการณ์ของหลายฝ่าย ส่งผล ให้นักลงทุนที่กลับมาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดเกินใหม่จำนวนมาก

พร้อมกันนี้แนะนำให้ติดตามการประชุมของเฟด ในช่วงเดือนธันวาคม2556 ซึ่งเป็นเดือนที่ค่อนข้างมีเงินสะพัดอย่างรุนแรงในสหรัฐฯ เนื่องจากเป็นเทศกาลสำคัญ คงต้องติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดเงินว่าจะตอบสนองมาในทิศทางใด? คงต้องมีการประเมินจากตัวเลขเศรษฐกิจที่จะออกมา แต่เศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวขึ้น อย่างไรก็ตามในระยะถัดไปคงต้องมีการถอนมาตรการ QE? อย่างแน่นอน

ที่ผ่านมา ตลาดเงินมีการพัฒนามาก เชื่อว่าจะสามารถรองรับสถานการณ์ที่จะผันผวนในอนาคตได้เป็นอย่างดี รวมถึงภาคเอกชนที่เชื่อว่าจะมีการปรับตัวรองรับความผันผวนของค่าเงิน ทั้งนี้ทางธปท.ได้พยายามสนับสนุนให้เอกชนเปิดรับความเสี่ยงด้วยการซื้อประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนต่อเนื่อง รวมทั้งสถาบันการเงินต่างมีเครื่องมือช่วยบริหารจัดการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น ขณะที่ประเทศในภูมิภาคอย่างมาเลเซีย และสิงคโปร์ ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงควรติดตามข่าวสาร เรียนรู้การปรับตัวอย่างใกล้ชิด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันที่ 22 กันยายน 2556 09:00

 

'วิลาวัณย์' คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_531470_1.jpg

"วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์" กัปตันทีมสาวไทย คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า ประจำทัวร์นาเมนต์ ชิงแชมป์เอเชีย "นุศรา ต้อมคำ" มือเซตยอดเยี่ยม

ภายหลังจากที่ นักตบลูกยางสาวไทย เอาชนะญี่ปุ่น ไป 3-0 เซต คว้าแชมป์เอเชีย ไปครองเป็นสมัยที่ 2 ก่อนที่จะมีการมอบรางวัลมอบเหรียญรางวัล ฝ่ายจัดการแข่งขัน และสหพันธ์วอลเลย์บอลแห่งเอเชีย ก็ได้ประกาศผลรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมในตำแหน่งต่างๆ ซึ่งปรากฏว่า "กัปตันกิ๊ฟ" วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ มือตบหัวหน้าทีมของสาวไทย ได้คว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ประจำทัวร์นาเมนต์นี้ไปครอง ขณะ "ซาร่า" นุศรา ต้อมคำ มือเซต ซึ่งเคยได้รับการโหวตเป็นมือเซตที่ดีที่สุดของโลก จากเว็บไซต์ของอิตาลี ก็สามารถคว้าตำแหน่งมือเซตยอดเยี่ยมไปครองได้อีกรางวัล

ส่วนรางวัลอื่นๆ มีดังนี้ รางวัลตัวตบยอดเยี่ยม - จู่ถิง (จีน), ตัวบล็อกยอดเยี่ยม - ซูหยุ่นลี (จีน), ตัวเสิร์ฟยอดเยี่ยม - คิม ฮยอนคุง (เกาหลีใต้), ตัวรับอิสระยอดเยี่ยม - คิม แฮรัน (เกาหลีใต้), ผู้เล่นทำคะแนนสูงสุด - คิม ฮยอนคุง (เกาหลีใต้)

ทั้งนี้ หลังจากนักตบทีมชาติไทย รับเหรียญรางวัลแล้ว วรรณา บัวแก้ว ตัวรับอิสระของทีมสาวไทย และเพื่อนๆ ก็จะทำการเดินแก้บน จากที่เคยบนไว้ ตั้งแต่รอบจัดอันดับ 8 ทีม จากสนามแข่งขัน กลับไปยังโรงแรมที่พัก ซึ่งจะมีระยะทางประมาณ 10 ก.ม.ด้วย

Tags : วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์วอลเลย์บอล

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...