ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ฝรั่งเศสเผยยอดขาดดุลการค้าลดลงในเดือนส.ค. หลังส่งออก-นำเข้าหดตัว

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 8 ตุลาคม 2556 15:24:01 น.

สำนักงานศุลกากรฝรั่งเศสเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าในเดือนส.ค.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 4.91 พันล้านยูโร เมื่อเทียบเดือนก.ค.ที่ขาดดุล 5.08 พันล้านยูโร

ยอดขาดดุลที่ลดลงเป็นผลมาจากการนำเข้าที่ปรับตัวลงมากกว่าการส่งออกเล็กน้อย โดยการส่งออกลดลงในกลุ่มเวชภัณฑ์ น้ำมันกลั่น เครื่องจักรอุตสาหกรรมและอุปกรณ์อิเล็คทรอนิก ส่วนสินค้านำเข้าที่ลดลงได้แก่ น้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์ด้านเกษตรและเคมี

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นจีน: หุ้นค้าปลีกหนุนเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดพุ่ง 1.08%

1383046_663070297046375_2093889037_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวโน้ม ราคาทองคำและปัจจัยที่กระทบต่อราคาทองคำในช่วงสัปดาห์ ในรายการ Get SET ทางช่อง Money Channel ดำเนินรายการโดยคุณบรรพต ธนาเพิ่มสุข ในวันอังคารที่ 8 ตุลาคม 2556

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- ราคาทองคำในช่วงนี้เป็นสัญญาณที่ดี จุดต่ำสุดยกตัวสูงขึ้น

หากวันนี้สามารรถยืนเหนือระดับ 1320 เหรียญได้ ก็อาจจะมีแรงขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ระดับ 1335/1350 เหรียญ

ส่วนแนวรับของวันให้ที่ระดับ 1310/1300 เหรียญ

จะเห็นได้ว่าเมื่อปี 2011 ที่ราคาทองคำปรับตัวขึ้นแรงที่ระดับ 1920 เหรียญ ตรงนั้นก็เกิดจากเรื่องความขัดแย้งของนักการเมืองเรื่องเพิ่มเพดานหนี้ จึงคาดการว่าเรื่องนี้น่าจะยังคงมีความขัดแย้งต่อเนื่อง และส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อจนถึงสัปดาห์หน้า นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องค่าเงิน USD ที่อ่อนค่าลง รวมไปถึงการปิดทำการของหน่วยงานสหรัฐ ประเด็นเหล่านี้ส่งให้ราคาทองคำปิดบวกขึ้นไป10.68 เหรียญ

 

- GFV 13 ให้แนวรับที่ระดับ19550/19400 บาท

แนวต้านที่ระดับ 19910/20130 บาท

 

- ประเด็นเรื่องสหรัฐก็ยงคงต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง

ทั้งเรื่องกำหนดเรื่องเพดานหนี้วันที่ 17 ตุลาคมนี้

รวมไปถึงการประชุม FOMC ในปลายเดือนนี้ด้วย

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ Gold Futures Strategy Report ประจำสัปดาห์ที่ 7-11 ตุลาคม 2556 ให้เพื่อนๆ ติดตามมาแล้วค่ะ

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- สัปดาห์ที่ผ่านมา (30 ก.ย.-4 ต.ค.) ราคาทองคำปรับตัวลดลง 24.50 USDต่อออนซ์ (+1.83 %) มาปิดที่ 1,310.79 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,278–1,343 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำผันผวนค่อนข้างแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยราคาทองคำปรับตัวลดลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,278 USDต่อออนซ์จากกระแสเก็งกำไรว่า กฎหมายงบประมาณน่าจะผ่านไปได้ด้วยดี แต่ราคาดีดกลับขึ้นมาอีกครั้งหลังพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตไม่มีท่าทีที่ประนีประนอมให้กัน โดยพรรครีพับลิกันเองนั้นต้องการที่จะเลื่อนการใช้ออกไปเป็นปีหน้า แต่ทางพรรคเดโมแครตนั้นยืนยันชัดเจนว่าจะไม่ยอมให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้น ทำให้กฎหมายงบประมาณไม่สามารถผ่านร่างได้ทันเส้นตาย ส่งผลให้หน่วยงานของรัฐบางหน่วยงานต้องปิดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปี ซึ่งความขัดแย้งระหว่าง 2 พรรคการเมืองนั้นมีโอกาสลามไปถึงเรื่องของการขยายเพดานหนี้ที่มีเส้นตายในวันที่ 17 ตุลาคมนี้ด้วย โดยประธานาธิปดี บารัค โอบาม่ายังคงปฏิเสธที่จะเจรจาใดๆร่วมกับพรรครีพับลิกันจนกว่าสภาล่างจะยอมผ่านกฎหมายงบประมาณฉุกเฉินเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลกลับมาเปิดทำการได้อีกครั้ง ซึ่งหากเหตุการณ์ยังยืดเยื้อออกไปอีกจะส่งผลบวกต่อราคาทองคำ ทำให้แนวโน้มในสัปดาห์นี้ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อไปในลักษณะ sideway up ต่อไปจนกว่าทั้งสองพรรคจะตกลงกันได้ แต่ราคาทองคำมีโอกาสปรับตัวลดลงทุกเมื่อหากสถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายลง

 

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://classicgoldfutures.co.th/image/strategy_analysis/filestrategy081020131358561339.pdf

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับคุณ..Ginger TraderJunior Alan Gejen Wann ตู้เย็น Pasaya OKorNO เด็กสยาม MegaGold meng166 deb99 เต้าหู้ ปุยเมฆ tuktaaaa Lekk Espresso’(S) และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้เป็นเขียวแท่งห้าครั:17

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1315 ราคาสูงสุด1329

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1319.x ครับ

 

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทางsideway อัฟ ครับ

RSI Price Line เส้นเขียว 46.77 วิ่งมา 46.02 ครับ

Trade Signal Line เส้นแดง 43.90 วิ่งมา 43.91 ครับ

market base Line เส้นเหลือง 51.25 วิ่งมา 50.69 ครับ

เส้นแดงเพิ่มเล็กน้อยครับ

 

 

สัญญานรองQQE ทิศทางsideway

เส้นฟ้า 45.42 วิ่งมา 45.54 อยู่ต่ำกว่าเส้นประเหลืองครับ

เส้นประเหลือง 47.52 วิ่งมา 47.52 ครับอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าครับ

(เส้นเหลืองถ้าคงที่นานๆ จะแสดง side way หรือกลับตัวและ

ถ้าทิศทางลงจะเด้งไปอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าทันทีถ้าขึ้นจะลงมาต่ำกว่าเส้นฟ้าทันที)

แนวต้าน 1333 1347 1351 1371

แนวรับ 1313 1305 1298 1281

ภาพรวมๆจากสัญญานราคาsideway ครั

 

อยู่กลางๆแบบนี้เจ้าได้เปรียบ จะพาขึ้น พาลงก็ได้

รอเบรคฝั่ง ไหน ก็ตาม ฝั่งน้านครับ

 

 

 

ขอให้โชคดีครับ

:bye

post-1891-0-13548700-1381277068_thumb.png

บาย

ถูกแก้ไข โดย news

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1380477_245430672275701_102536824_n.jpg

GOOD MORNING

NEWS BAS WANN ขวด น้อย อยากเล่นด้วยคน ตังเม เด็กหัดเล่นทอง เพื่อนๆ ทุกท่าน

สวัสดีครับคุณ..Ginger TraderJunior Alan Gejen Wann ตู้เย็น Pasaya OKorNO เด็กสยาม MegaGold meng166 deb99 เต้าหู้ ปุยเมฆ tuktaaaa Lekk Espresso’(S) และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้เป็นเขียวแท่งห้าครับ :17

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1315 ราคาสูงสุด1329

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1319.x ครับ

แนวต้าน 1333 1347 1351 1371

แนวรับ 1313 1305 1298 1281

ภาพรวมๆจากสัญญานราคาsideway ครั

 

 

ธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกาตีพิมพ์ธนบัตรมูลค่า 100 เหรียญสหรัฐรูปแบบใหม่

ข่าวต่างประเทศ Asianet Press Release -- พุธที่ 9 ตุลาคม 2556 08:04:53 น.

วอชิงตัน--9 ต.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

เมื่อวันอังคาร ธนาคารกลางแห่งสหรัฐเริ่มจัดหาธนบัตรมูลค่า 100 เหรียญสหรัฐรูปแบบใหม่ แก่สถาบันทางการเงิน ซึ่งธนบัตรนี้มีคุณสมบัติทางด้านความปลอดภัยใหม่เพื่อป้องกันการปลอมแปลง และช่วยให้ธุรกิจและผู้บริโภคสามารถระบุได้ว่าธนบัตรเป็นของจริงหรือไม่

 

ระยะทาง ความต้องการ และนโยบายของสถาบันทางการเงินแต่ละแห่ง จะมีผลต่อความ รวดเร็วในการแพร่กระจายธนบัตรรูปแบบใหม่ที่ให้เข้าถึงธุรกิจและผู้บริโภคทั่วโลก

ดูมัลติมีเดียเกี่ยวกับข่าวประชาสัมพันธ์นี้ ไปที่: http://www.prnasia.com/story/86940-1.shtml

“ธนบัตรรูปแบบใหม่จะมีคุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่ง่ายต่อการพิสูจน์ และยากต่อการ ลอกเลียนแบบ” ผู้ว่าการบอร์ดธนาคารกลางแห่งสหรัฐ Jerome H. Powell กล่าว “เมื่อธนบัตรใหม่ กำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่การธุรกรรมประจำวัน คุณลักษณะด้านความปลอดภัยที่เอื้อต่อผู้ใช้จะช่วยให้ ประชาชนตรวจสอบความแท้จริงของธนบัตรได้โดยง่าย”

ธนาคารกลางแห่งสหรัฐ กระทรวงการคลังแห่งสหรัฐ สำนักงานการแกะสลักและภาพพิมพ์ แห่งสหรัฐ และหน่วยเจ้าหน้าที่ลับแห่งสหรัฐร่วมมือกันในการออกแบบธนบัตรเพื่อให้ล้ำหน้าจาก การปลอมแปลง

ธนบัตรมูลค่า 100 เหรียญสหรัฐรูปแบบใหม่ประกอบด้วยคุณลักษณะด้านความปลอดภัยใหม่ สองประการ ได้แก่ แถบป้องกัน 3 มิติสีฟ้าที่มีรูประฆังและตัวเลข 100 และระฆังที่เปลี่ยนสีได้ใน ขวดหมึก คุณลักษณะใหม่และคุณลักษณะเพิ่มเติมที่มาจากการออกแบบก่อนหน้า เช่น ลายน้ำ ช่วยให้ประชาชนตรวจสอบความแท้จริงของธนบัตรมูลค่า 100 เหรียญสหรัฐด้วยสายตาได้ง่าย

ผู้บริโภคทั่วโลกได้รับแจ้งว่าไม่จำเป็นที่จะต้องนำธนบัตรเก่าไปแลกธนบัตรใหม่ เนื่องจาก เป็นนโยบายของรัฐบาลสหรัฐที่ต้องการให้สกุลเงินทุกรูปแบบของสหรัฐสามารถชำระหนี้ได้ตาม กฎหมาย โดยไม่คำนึงถึงว่าจะถูกตีพิมพ์ออกมาเมื่อใดก็ตาม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับธนบัตรมูลค่า 100 เหรียญสหรัฐรูปแบบใหม่และเนื้อหาการ ฝึกสอนและการศึกษา โปรดไปที่ www.newmoney.gov.

สำหรับการสอบถามจากสื่อ โปรดโทร +1-202-452-2955

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 9 ตุลาคม 2556 07:59:05 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 8 ต.ค. 2556

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 14,776.53 จุด ลดลง 159.71 จุด -1.07%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,655.45 จุด ลดลง 20.67 จุด -1.23%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,694.83 จุด ลดลง 75.55 จุด -2.00%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,133.53 จุด ลดลง 32.05 จุด -0.77%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,555.89 จุด ลดลง 35.69 จุด -0.42%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,365.83 จุด ลดลง 71.45 จุด -1.11%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,432.51 จุด เพิ่มขึ้น 57.55 จุด +1.32%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดวันนี้ที่ 8,375.65 จุด เพิ่มขึ้น 41.99 จุด +0.50%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดวันนี้ที่ 13,894.61 จุด เพิ่มขึ้น 41.29 จุด +0.30%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดวันนี้ที่ 2,002.76 จุด เพิ่มขึ้น 8.34 จุด +0.42%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดวันนี้ที่ 2,198.20 จุด เพิ่มขึ้น 23.53 จุด +1.08%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดวันนี้ที่ 6,454.86 จุด เพิ่มขึ้น 11.65 จุด +0.18%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ที่ 23,178.85 จุด เพิ่มขึ้น 204.90 จุด +0.89%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดวันนี้ที่ 1,777.50 จุด เพิ่มขึ้น 0.68 จุด +0.04%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดวันนี้ที่ 3,146.50 จุด เพิ่มขึ้น 9.91 จุด +0.32%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดวันนี้ที่ 19,983.61 จุด เพิ่มขึ้น 88.51 จุด +0.44%

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขาดความเชื่อมั่นที่จะลงทุนในตลาดหุ้น อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลว่าสหรัฐอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ หลังจากสภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลาง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 14,776.53 จุด ร่วงลง 159.71 จุด หรือ -1.07% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,655.45 จุด ลดลง 20.67 จุด หรือ -1.23% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,694.83 จุด ลดลง 75.55 จุด หรือ -2.00%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดยังคงวิตกกังวลว่าวิกฤตการณ์ด้านการคลังของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการผิดนัดชำระหนี้หนี้ของรัฐบาลกลาง อาจส่งผลให้อุปสงค์พลังงานและภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวลง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 103.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 110.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงเมื่อวันก่อน อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนยังคงเข้าถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.045 ปิดที่ 1,324.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.7 เซนต์ ปิดที่ 22.443 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1403.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 9.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 714.90 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน เนื่องจากตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากสหรัฐไม่สามารถเพิ่มเพดานหนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 96.98 เยน จากระดับของจันทร์ที่ 96.91 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9044 ฟรังค์ จากระดับ 0.9039 ฟรังค์

ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3566 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3577 ดอลลาร์ เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.6081 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6092 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9424 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9440 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) ในขณะที่ตลาดจับตาการเปิดเผยรายได้ของบริษัทเอกชนสหรัฐในฤดูกาลรายงานผลประกอบการ และการเจรจาในเรื่องการหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐ

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,365.83 จุด ลดลง 71.45 จุด หรือ -1.11%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการผิดนัดชำระหนี้และการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูรายงานผลประกอบการของบริษัทรายใหญ่ในสหรับ

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.8% ปิดที่ 306.84 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,555.89 จุด ลดลง 35.69 จุด หรือ -0.42% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,133.53 จุด ลดลง 32.05 จุด หรือ -0.77% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,365.83 จุด ลดลง 71.45 จุด หรือ -1.11%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงขายทำกำไรฉุดทองคำปิดลบ 50 เซนต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 9 ตุลาคม 2556 06:43:02 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงเมื่อวันก่อน อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงเพียงเล็กน้อยเพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนยังคงเข้าถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.045 ปิดที่ 1,324.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.7 เซนต์ ปิดที่ 22.443 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.80 ดอลลาร์ ปิดที่ 1403.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 9.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 714.90 ดอลลาร์/ออนซ์

นักวิเคราะห์กล่าวว่า สัญญาทองคำสามารถยืนเหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนมองว่าทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยในช่วงที่สหรัฐเผชิญกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้และการปิดหน่วยงานของรัฐบาล

ทั้งนี้ สภาคองเกรสจำเป็นจะต้องผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานการกู้ยืมให้กับรัฐบาลกลางภายในวันที่ 17 ต.ค.นี้ มิฉะนั้นรัฐบาลกลางสหรัฐจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ และจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลงอย่างหนัก

ด้านนายจอห์น โบเนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลีกันกล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรจะไม่ผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลและจะไม่เพิ่มเพดานหนี้จนกว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะหันหน้ามาเจรจากัน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่าเล็กน้อย ขณะตลาดยังวิตกปัญหาหนี้สหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 9 ตุลาคม 2556 07:33:02 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน เนื่องจากตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากสหรัฐไม่สามารถเพิ่มเพดานหนี้

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 96.98 เยน จากระดับของจันทร์ที่ 96.91 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9044 ฟรังค์ จากระดับ 0.9039 ฟรังค์

ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.3566 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3577 ดอลลาร์ เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.6081 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6092 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9424 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9440 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงได้รับแรงกดดันนับตั้งแต่นายจอห์น โบเนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลีกันกล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรจะไม่ผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลและจะไม่เพิ่มเพดานหนี้จนกว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะหันหน้ามาเจรจากัน

ความเคลื่อนไหวของนายโบห์เนอร์ทำให้ตลาดวิตกกังวลว่ารัฐบาลกลางสหรัฐจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ โดยสภาคองเกรสจำเป็นจะต้องผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานการกู้ยืมให้กับรัฐบาลกลางภายในวันที่ 17 ต.ค.นี้ มิฉะนั้นรัฐบาลกลางสหรัฐจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ และจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลงอย่างหนัก

อย่างไรก็ตาม เครดิต สวิส รีเสิร์ชเชื่อว่ามีโอกาสต่ำที่ความขัดแย้งในสภาคองเกรสจะกินเวลานาน เนื่องจากผลสำรวจความคิดเห็นของสหรัฐแสดงให้เห็นว่ารีพับลิกันกำลังถูกตำหนิอย่างหนักสำหรับการชัตดาวน์ ขณะที่เดโมแครตได้เสียงข้างมากเพิ่มขึ้นในวุฒิสภาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้พรรคมีความชอบธรรมทางการเมือง

นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังไม่ปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมเดือนต.ค. โดยมีเป้าหมายที่จะพยุงเศรษฐกิจให้สามารถขยายตัวต่อไปได้ในช่วงที่สหรัฐยังเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านการคลัง

ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะเปิดเผยรายงานการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. ในช่วงเช้าวันพฤหัสบดีนี้ตามเวลาไทย ซึ่งนักลงทุนคาดว่าเฟดอาจจะส่งสัญญาณว่าจะเกี่ยวกับมาตรการ QE

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: เงินดอลล์อ่อน หนุนน้ำมัน WTI ปิดบวก 46 เซนต์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 9 ตุลาคม 2556 06:28:49 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดยังคงวิตกกังวลว่าวิกฤตการณ์ด้านการคลังของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการผิดนัดชำระหนี้หนี้ของรัฐบาลกลาง อาจส่งผลให้อุปสงค์พลังงานและภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวลง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 103.49 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 110.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นหลังจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในตระกร้าเงิน ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนกังวลว่าปัญหาด้านหนี้สินและการคลังของสหรัฐจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วประเทศ และอาจจะทำให้ความต้องการพลังงานลดน้อยลงด้วย

ความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายจอห์น โบเนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลีกันกล่าวว่า สภาผู้แทนราษฎรจะไม่ผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลและจะไม่เพิ่มเพดานหนี้จนกว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามา จะหันหน้ามาเจรจากัน

ทั้งนี้ สภาคองเกรสจำเป็นจะต้องผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานการกู้ยืมให้กับรัฐบาลกลางภายในวันที่ 17 ต.ค.นี้ มิฉะนั้นรัฐบาลกลางสหรัฐจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ได้ และจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐหดตัวลงอย่างหนัก

นักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันสหรัฐประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 4 ต.ค.ในวันพรุ่งนี้ ด้านนักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะพุ่งขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.1 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.8% จาก 89%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ป่วนใต้!ลอบวางบึ้มเอทีเอ็มทั่ว4จว.ชายแดน ป่วนใต้! คนร้ายรอบวางบึ้มทั่วตู้เอทีเอ็ม ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา กว่า 20 จุด ดาวโจนส์ดิ่ง159จุด ผวาสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ ดาวโจนส์ปิดร่วง 159.71 จุด อยู่ที่ 14,776.53 จุด ผวาสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ น้ำมันบวกเล็กน้อย-ทองทรงตัว ญี่ปุ่นเล็งจับตลาดนักท่องเที่ยวมุสลิม ญี่ปุ่นเพิ่มความพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวมุสลิมจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการเพิ่มจำนวนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เกาะติดตลาดหุ้นโลก 9 ต.ค.56 vdo.gif จีนผงาดเวทีเอเปค ลั่นโตไม่ได้หากขาดจีน 'อัลคาเทล-ลูเซนต์'เลิกจ้างทั่วโลกนับหมื่น ยอดขายรถอินเดียดิ่งหนักรอบสิบปี

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

  • เกาะติดตลาดหุ้นโลก 9 ต.ค.56
  • ดวงพยากรณ์วันพุธที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2556
  • 'ไอเอ็มเอฟ'หวั่นโลกรับมือชะลอคิวอีไม่ไหว
  • 'อัลคาเทล-ลูเซนต์'เลิกจ้างทั่วโลกนับหมื่น
  • 'โออีซีดี'ชี้ชาวญี่ปุ่นมีทักษะการอ่านสูงสุด

  • อดีตข้าราชการกระทรวงการคลังผู้รักชาติ!ระบุพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท ตัดอำนาจสำนักงบ เตือน "ไม่เป็นเงินแผ่นดิน" สตง.สอบไม่ได้


    อดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงการคลัง ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งสำคัญในกรมสรรพสามิตและกรมบัญชีกลาง เขียนบทความเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท พ.ศ. .... หรือ "ร่าง พ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้านฯ" ตอนที่ 2 หลังจากเคยสร้างกระแสฮือฮาจากบทความชิ้นแรกมาแล้ว
    บทความชิ้นที่ 2 นี้ใช้ชื่อว่า "ถ้าเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทไม่เป็นเงินแผ่นดิน" โดยใช้นามปากกาเดิม คือ "ต.ม.ธ.ก. 2905" มีเนื้อหาระบุว่า เชื่อว่าทุกคนอยากให้ประเทศไทยมีรถไฟรางคู่ทั่วประเทศ มีรถไฟความเร็วสูง การคมนาคมสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และปลอดภัยด้วยกันทั้งนั้น และก็เชื่อมต่อไปด้วยว่าการที่จะบรรลุความอยากต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลและต้องใช้เวลาหลายปี ฉะนั้นปัญหาเรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องความอยาก แต่อยู่ที่วิธีการหาเงินมาใช้จ่าย ถ้าจะใช้จากเงินที่ทำมาหาได้ในปัจจุบันก็เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้ หรือจะค่อยๆ เก็บออมจากรายได้ในปัจจุบันสะสมให้มากพอแล้วจึงดำเนินการ ก็ไม่รู้ว่าอีกกี่ปีกี่ชาติถึงจะบรรลุความอยาก
    ด้วยเหตุนี้จึงเป็นเรื่องหนีไม่พ้นต้องใช้วิธีการนำเงินที่จะได้ในอนาคตมาใช้ก่อน ฉะนั้นการใช้วิธีกู้เงินจึงไม่มีปัญหา แต่ปัญหาอยู่ที่เมื่อได้รับเงินกู้มาแล้วจะนำไปใช้จ่ายด้วยวิธีการอย่างไรในทางการคลังมากกว่า
    รัฐบาลภายใต้การนำของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้เสนอร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท และให้นำเงินที่ได้รับจากการกู้เงินตามร่างกฎหมายดังกล่าวไปใช้นอกกฎหมายว่าด้วยงบประมาณ ในส่วนการให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินนั้นไม่มีปัญหา เพราะกระทรวงการคลังมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม อยู่แล้ว แต่ปัญหาอยู่ที่วิธีการนำเงินที่ได้รับจากการกู้ไปใช้ เพราะบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญมาตรา 169 บัญญัติว่า
    "การจ่ายเงินแผ่นดินจะกระทำได้ก็เฉพาะที่ได้อนุญาตไว้ในกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย กฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ กฎหมายเกี่ยวด้วยการโอนงบประมาณ หรือกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง..."
    จึงเกิดปัญหาว่า 1.เงินที่ได้รับจากกฎหมายดังกล่าวเป็น "เงินแผ่นดิน" หรือไม่ และ 2.ถ้าเป็นหรือไม่เป็นแล้วจะนำเงินนั้นไปใช้จ่ายนอกกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่าย ซึ่งได้แก่กฎหมายงบประมาณรายจ่ายประจำปี กฎหมายงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม และกฎหมายโอนเงินงบประมาณ รวมทั้งมีมติให้จ่ายเงินไปก่อนได้หรือไม่
    อดีตข้าราชการระดับสูงกระทรวงการคลัง ระบุในบทความอีกว่า ประเด็นที่ว่าเงินกู้ที่ได้รับมาจากกฎหมายดังกล่าวเป็นเงินแผ่นดินหรือไม่ ในที่สุดต้องไปยุติที่ศาลรัฐธรรมนูญ โดยหากคำตอบเป็นที่ยุติว่าเป็นเงินแผ่นดิน ก็จะมีปัญหาให้ต้องวินิจฉัยต่อไปว่า แล้วจะนำเงินนั้นไปใช้จ่ายนอกกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายได้หรือไม่ ซึ่งแม้ส่วนตัวจะตอบให้เป็นข้อยุติไม่ได้เช่นกัน แต่ก็พอจะมองเห็นว่าถ้าเงินที่ได้รับจากการกู้เงินตามกฎหมายดังกล่าว "ไม่เป็นเงินแผ่นดิน" แล้วจะมีผลทางกฎหมายตามมาอย่างไร และถ้าเป็นเงินแผ่นดินหรือไม่เป็นแล้วนำไปใช้นอกเหนือจากกฎหมายว่าด้วยงบประมาณรายจ่ายแล้วจะมีผลทางกฎหมายตามมาอย่างไร
    ทั้งนี้ การจัดทำงบประมาณนั้น ต้องให้สอดคล้องกับแผนการทำงานของหน่วยงาน ทั้งด้านนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยจัดลำดับก่อนหลังให้เหมาะสมสอดคล้องกับข้อจำกัดทางทรัพยากรในการทำงานประมาณแต่ละปี
    ฉะนั้นในปี พ.ศ. 2502 จึงได้มีการจัดตั้งสำนักงบประมาณขึ้นในสำนักนายกรัฐมนตรีภายใต้การกำกับดูแลของนายกรัฐมนตรี เพื่อรับโอนงานการจัดทำงบประมาณที่เคยเป็นหน่วยงานในกระทรวงการคลังภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไปอยู่ที่สำนักงบประมาณ แล้วให้สำนักงบประมาณมีภารกิจเกี่ยวกับการเสนอแนะ และให้ความเห็นแก่รัฐบาล ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐในด้านการงบประมาณ การจัดทำงบประมาณที่สนองต่อนโยบายและเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของรัฐบาล และการบริหารจัดการงบประมาณ ทั้งนี้ เพื่อให้บรรลุภารกิจของรัฐเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ ตอบสนองความต้องการของประชาชน รวมทั้งมีความคุ้มค่าสามารถตรวจและเปิดเผยต่อสาธารณะได้
    ฉะนั้นการที่คณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบันมีนโยบายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ และเลือกที่จะกู้เงินมาใช้จ่ายนอกงบประมาณ โดยให้ "สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ" ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังมีอำนาจหน้าที่ดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารจัดการเงินกู้ จึงมีผลเท่ากับกฎหมายกู้เงินตัดบทบาทหน้าที่ของ "สำนักงบประมาณ" ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีตามกฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งขณะนี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
    นอกจากนั้น เมื่อดูบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญในหมวด 11 ส่วนที่ 1 องค์กรตามรัฐธรรมนูญที่ 4 "คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน" มาตรา 252 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า "การตรวจเงินแผ่นดินให้กระทำได้โดยคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินที่เป็นอิสระและเป็นกลาง" ฉะนั้นถ้าเงินที่ได้รับจากกฎหมายกู้เงินฉบับดังกล่าว "ไม่เป็นเงินแผ่นดิน" ก็มีผลให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินไม่มีอำนาจตรวจสอบตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน
    โดยสรุป 1.การไม่นำรายจ่ายในการดำเนินการตามกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านระบุไว้ในกฎหมายงบประมาณ และให้ "สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ" ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลังมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารและจัดการเงินกู้ จึงมีผลเท่ากับกฎหมายเงินกู้ฉบับนี้ได้ตัดบทบาทหน้าที่ของ "สำนักงบประมาณ" ในการจัดทำงบประมาณตลอดทั้งการบริหารและควบคุมตามกฎหมายระเบียบบริหารราชการแผ่นดินโดยตรง
    2.ถ้าเงินที่ได้รับจากกฎหมายกู้เงินฉบับดังกล่าวได้ขอยุติว่า "ไม่เป็นเงินแผ่นดิน" ก็จะมีผลทำให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดินไม่มีอำนาจเข้าไปตรวจสอบตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 252
    Tags : พ.ร.บ.เงินกู้2ล้านล้านลงทุนโครงสร้างพื้นฐานสำนักงบฯเงินแผ่นดินสตง.-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 31.38/40 คาดแกว่งแคบ รอปัจจัยเดิมจากสหรัฐฯ

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 9 ตุลาคม 2556 09:23:55 น.

นักบริหารเงิน กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.38/40 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.36/38 บาท/ดอลลาร์

ทิศทางของค่าเงินบาทวันนี้คาดว่ายังแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ ซึ่งตลาดยังรอความชัดเจนจากสหรัฐฯ ทั้งในเรื่องการปิดหน่วยงานราชการบางแห่งเป็นการชั่วคราว ตลอดการเจรจาเรื่องการขยายเพดานหนี้ว่าจะมีข้อยุติไปในทางใด

 

"วันนี้น่าจะวิ่งในกรอบเดิม แกว่งแคบๆ ไปก่อน รอความชัดเจนจากทางสหรัฐฯ ทั้งเรื่องปัญหา shut down และเพดานนี้ว่าจะเคลียร์กันได้หรือไม่ อย่างไร ยังคงเป็นปัจจัยตัวเดิมตัวนี้อยู่" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.35-31.50 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 97.20/23 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 97.06 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3568/3569 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3570 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.3760 บาท/ดอลลาร์

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) อย่างไรก็ตาม ดอลลาร์ยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือน เนื่องจากตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากสหรัฐไม่สามารถเพิ่มเพดานหนี้ได้

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้แรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดยังคงวิตกกังวลว่าวิกฤตการณ์ด้านการคลังของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการผิดนัดชำระหนี้หนี้ของรัฐบาลกลาง อาจส่งผลให้อุปสงค์พลังงานและภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศชะลอตัวลง

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 46 เซนต์ ปิดที่ 103.49 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 48 เซนต์ ปิดที่ 110.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.045 ปิดที่ 1,324.6 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงเมื่อวันก่อน ทั้งนี้สัญญาทองคำปรับตัวลงเล็กน้อย เพราะได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนยังคงเข้าถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.3% ที่ระดับ 138.01 จุด เมื่อเวลา 09.34 น.ตามเวลาโตเกียว เนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่าความขัดแย้งด้านการเมืองของสหรัฐฯ จะทำให้รัฐบาลกลางต้องเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้

- สื่อมวลชนสหรัฐฯ รายงานว่าประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ เตรียมจะเสนอชื่อนางเจเน็ต เยลเลน รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้เข้ารับตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ต่อจากนายเบน เบอร์นันเก้ โดยจะมีการประกาศการเสนอชื่อในวันนี้

- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2556 ลงเหลือ 2.9% หรือลดลง 0.3% จากตัวเลขที่เคยประเมินไว้เมื่อเดือนก.ค.

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

 

เงินหยวนอ่อนค่าแตะ 6.1430 หยวนต่อดอลลาร์เช้านี้

 

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 9 ตุลาคม 2556 09:35:27 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.15% แตะที่ 6.1430 หยวนต่อดอลลาร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 1% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ศศิประภา อัครภูติ/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...