ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

สรุปสถานการณ์ตลาดหุ้น-ทองรอบวัน 8 ต.ค.56vdo.gif

 

Exclusive News ประจำเช้าวันพุธที่ 9 ตุลาคม 2556 ให้เพื่อนๆ ติดตามมาแล้วค่ะ

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- เศรษฐกิจโลก: กองทุนการเงินระหว่างประเทศ(IMF) ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปีนี้เหลือ 2.9% จากที่เคยประเมินไว้เมื่อเดือน ก.ค.ที่ 3.2%

 

- เศรษฐกิจสหรัฐ: ประธานาธิบดีบารัค โอบามา มีแผนจะเสนอชื่อ จาเน็ต เยลเลน ต่อวุฒิสภา เพื่อให้สืบทอดตำแหน่งประธานธนาคารกลางต่อจาก เบน เบอร์นันเก้ และธนาคารกลางสหรัฐเตรียมนำธนบัตรฉบับละ 100 ดอลลาร์สหรัฐ รูปแบบใหม่ ออกมาหมุนเวียนอย่างเป็นทางการทั่วโลก

 

- เศรษฐกิจเอเชีย: ทหารทุกกรมกองของเกาหลีเหนือได้รับคำสั่งฉุกเฉินจากผู้บัญชาการทหารสูงสุด ให้ทบทวนแผนปฏิบัติการและพร้อมดำเนินการได้ทันทีทุกเวลา

 

- ราคาทองคำ: World Gold Council คาดการณ์ว่า ปริมาณความต้องการทองคำของอินเดียในไตรมาส 4 ของปีนี้ จะเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว แตะระดับ 300 ตัน

 

- ราคาน้ำมัน: รัฐบาลจีนแนะนำผู้เชี่ยวชาญ 10 คน ให้แก่คณะทำงานร่วมระหว่างองค์การห้ามอาวุธเคมี(OPCW) เพื่อช่วยเหลือเรื่องการทำลายอาวุธเคมีในซีเรีย รวมทั้งให้การสนับสนุนทางการเงินด้วย

 

 

1381782_704569246238095_395632953_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นิคมอมตะ'น้ำทะลัก!200โรงงานปิดหนี-กบอ.ส่งเรือดันน้ำ3ลำช่วย

http://www.naewna.com/business/72028

 

 

1375329_623650804352382_1004451011_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณพรรณงาม อารยวุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

ร่วมพูดคุยเกี่ยวกับแนวโน้ม ราคาทองคำและปัจจัย ที่มีผลทำให้ราคาทองคำขึ้นและลง

พร้อมทั้งคำแนะนำสำหรับการลงทุน ในรายการ Stock in Trend

ทางเว็บไซต์ efinancethai.com ในวันพุธที่ 9 ตุลาคม 2556

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- เมื่อคืนราคาทองคำปิดที่ 1318.30 เหรียญ ลดไป 2.99 เหรียญ แกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1315-1325 เหรียญ

 

- ยังมีความกังวลเรื่องการขยายเพดานหนี้ และเรื่องงบประมาณสหรัฐฯ โดยหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯ ก็ปิดทำการเข้าสู่วันที่ 8 แล้ว และทางรีพับลิกันเสนอให้มีคณะกรรมการร่วม

ระหว่างพรรคเดโมแครต และพรรครีพับลิกันเพื่อให้มีคำแนะนำเรื่องการขยายเพดานหนี้ แต่พรรคเดโมแครตก็ปฏิเสธ ส่วนวันนี้มีการประกาศรายงานการประชุม FOMC ครั้งที่แล้ว ในวันที่ 17 - 18 ก.ย. โดยที่ต้องติดตามในรายงานคือ เรื่องมุมมองของธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

และในวันที่ 29-30 ต.ค.นี้ จะมีการประชุม FOMC ครั้งถัดไป ซึ่งคาดการณ์ว่าจะยังไม่มีการปรับลด QE เนื่องจาก FED ยังคงต้องกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป และเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ก็คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มเพดานหนี้ได้ทันภายใน 17 ต.ค.นี้ และ World Gold Council ประกาศว่าอินเดียมีความต้องการในการถือครองทองคำถึง 300 ตันในไตรมาสสี่

 

- แนวรับ Gold Spot ของวันที่ 1315/1305 เหรียญ แนวรับของทองคำแท่งที่ 19610/19460 บาท

แนวต้าน Gold Spot ของวันที่ 1335/1340 เหรียญ แนวต้านของทองคำแท่งที่ 19910/19980 บาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
แบงก์ฟันกำไรไตรมาส3พุงปลิ้น5หมื่นล้าน โบรกฯคาดกลุ่มแบงก์กำไรไตรมาส 3 กว่า 5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ยกทหารไทย-กรุงศรี-กรุงไทย เติบโตสูงสุด กลยุทธ์การลงทุนหุ้นไทยภาคเช้า9ต.ค.56 vdo.gif Market Wise ช่วง เปิดกลยุทธ์การลงทุนตลาดหุ้นไทยภาคเช้า สดตรงจากนักวิเคราะห์ ออกอากาศ 9 ต.ค.56 กลยุทธ์ลงทุนทอง-อนุพันธ์ภาคเช้า9ต.ค.56 vdo.gif Market Wise ช่วง เปิดกลยุทธ์การลงทุนทอง-อนุพันธ์ภาคเช้า ออกอากาศ 9 ต.ค.56 Market Warm Up 9 ต.ค.56 vdo.gif ทองลง50บ.ทองแท่งขายออก19,600 เงินบาทเปิด31.38/40แกว่งแคบจับตาสหรัฐ คาดหุ้นไทยเช้านี้ร่วงจับตาสหรัฐ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

NationPhoto

ชาวชุมชนหลังวัดเทวราชกุญชร ต้องเดินลุยน้ำหลังจากน้ำทะเลหนุนสูง ที่วัดเทวราชกุญชร เขตดุสิต กทม

Photographer ประเสริฐ เทพศรี (Prasert Thepsri) #nationphoto

 

 

1374189_10151915077892855_117900900_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคับเพื่อนๆทุกท่าน :Announce ช่วงเช้าติดภาระกิจแจกเบี้ยยังชีพ มาดูกราฟกันเลย9-10-56-01.gifกราฟแรกราย15นาทีจะเห็นว่าที่ลงมา1316เกิดไดเวอร์จิ้นเล็กๆและตอนนี้เริ่มรีบาวกลับวัดด้วยฟิโบได้น่าจะรีบาวแถว1322-1324-1327 ไม่เกินแนวต้านสีขาวที่เมื่อวานฝ่าขึ้นแล้วโดนตบร่วงลงมา :ghost ตรงนี้ให้เป็นคลื่นชุดที่2 ที่ต้องดูอนาคตว่าจะเป็น2 หรือB นะครับ ส่วนตัวเชียร์2นะ และตอนนี้เกิดแพทเทิ้ลh&S ซ้อนกันสีม่วงและสีขาวแนวเนคไลน์ก็ใกล้กันแถวๆ1316 เเข็งแน่ๆ ตรงนี้ ยังไงต้องรีบาวก่อนแล้วลงต่อส่วนจะผ่านแนวรับทั้ง2เส้นรึป่าวเดี๋ยวรู้กันไม่ผ่านก็เทสบนต่อแต่ว่าปลายทางบีบเเคบลงเรื่อยๆวันนี้คงรุ้ผลแล้วละจะเลือกบนหรือล่างส่วนตัวเชียร์ลงนะ :57 มาต่อกัน ดูด้วยฟิโบ สังเกตที่ฟิโบ161.8-227.2 (1307-1298) กรอบสีส้มนี้ ถ้าราคาลงมาไม่ถึง1307 ฟันธงเป็นคลื่นC จบ15mA ตรงนี้รีบาวกลับต่อเป็น15mB แล้วค่อยลง15mC แต่ถ้าลงลึกเกิน1307 ลงมาออกได้2หน้าทั้ง3 และC ต้องมาลุ้นคลื่นรีบาวกลับไม่ให้สูงเกิน1316 ถ้าไม่เกินก็ลงต่อเป้าลงต่ออาจลงได้ถึงปลายเส้นเหลืองแถวๆ1294 แต่ถ้าเกิน1316 เท่ากับจบ15mAและกำลังทำ15mB ครับ คลื่น15mCก็คงลงไม่ลึกมากอาจเท่าโลวเดิม1277หรือเลยไปเล็กน้อย แตถ้าทำ5คลื่นก็จะลงลึกพอสมควรอาจได้เห็น1230

มาดูกราฟที่2ต่อ9-10-56-02.gifจากกราฟราย1ชม ดูที่ฟิโบสีเหลืองในกรอบสีส้มตรงฟิโบ161.8 (1231) ตรงนี้ถ้าราคาคลื่นย่อยลงมาไม่ถึง เท่ากับจบ1hC ของ4hC และเป็นการจบคลื่นDb ในรายวัน ทันทีแต่ถ้าลงเกิน1231 ก็จะยังคลุมเครือไม่ตัดสินใจเลือกข้าง ว่าจะเป็น1hCหรือ1h3 ก็ต้องลุ้นกันต่อไป

มุมมองการเล่นวันนี้ :aa สำหรับคนซื้อ

1 รอซื้อ buy limit 1295 cut 1290 เป้า 1305

2 หากถูกกินcut ข้อ1 รอซื้อ buy limit 1258 cut 1250 เป้า 1434

3 หากถูกกินcut ข้อ2 รอซื้อ buy limit 1234 cut 1225 เป้า 1434

4 หากถูกกินcut ข้อ3 แนะนำรอดูสถานการณ์ต่อไป

สำหรับคนขาย

1 รอขาย sell limit 1323 cut 1330 เป้า 1298

2 หากถูกกิันcut ข้อ 1 แนะนำรอดูสถานการณ์ต่อไป

ปล.ส่วนตัวผมเมื่อวานเล่นสั้นๆsellไปสามไม้เก็บกำไรมาได้เล็กน้อยตามตารางพอร์ท ส่วนวันนี้ตั้งขายตามข้อ1 และซื้อตามข้อ 2&3 ครับ ส่วนทองแท่งบาทอ่อนช่วยเรื่องราคาได้เยอะเลยส่วนตัวผมรอเก็บที่1287-1257-1234 ครับ :aa 9-10-56-03.gif

ปล2. ขำขำนะครับ1377009_594884740547806_118373572_n.jpg1375910_594884373881176_2040411643_n.jpg

ชื่อภาพว่า" ทดสอบความเเข็งแรงกล่องเก็บของ7-11ครับ"

 

ปล3.ขอให้เพื่อนๆโชคดีในการลงทุนนะครับ :bye

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธปท.ถกนอกรอบ-ก.ล.ต.-ตลาดหลักทรัพย์ฯ หาแนวทางคุ้มครองผู้ซื้อขายทองคำ รับเตรียมศึกษาตั้งตลาดรองซื้อขายทองในประเทศ

นางเกศรา มัญชุศรี รองกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และกรรมการผู้จัดการ บริษัทตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้า(ประเทศไทย) (TFEX) เปิดเผยภายหลังการหารือระหว่าง ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท.,สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ว่า ทุกฝ่ายมาหารือร่วมกัน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล และข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการซื้อขายทองคำเพื่อหาข้อสรุปว่าจะมีการจัดตั้งตลาดรองเพื่อการซื้อขายทองคำเหมือนในบางประเทศ หรือจะมีการซื้อขายเช่นปัจจุบันต่อไป เนื่องจากในต่างประเทศ การซื้อขายทองคำสามารถทำได้ทั้ง 2 ระบบ โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะศึกษาอย่างรอบคอบ เพื่อหาแนวทางที่เหมาะสมที่สุดกับผู้ค้าทองคำของไทย

ทั้งนี้หากได้ข้อสรุปแล้ว จะเสนอเรื่องให้กับคณะทำงานเพื่อศึกษาแผนดูแลการซื้อขายทองคำ ที่มีนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค.เป็นประธานคณะทำงาน พิจารณาต่อไป ก่อนที่จะหารือร่วมกับสมาคมผู้ค้าทองและผู้ประกอบการค้าทองคำ เพื่อรับฟังความคิดเห็นต่อไป โดยในที่ประชุมธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันการศึกษาแนวทางดังกล่าว เป็นการปกป้องและคุ้มครองผู้บริโภค ไม่ใช่ดำเนินการเพื่อแก้ปัญหาการเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน ตามที่เคยมีกระแสเกิดการเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราในตลาด Spot Market หรือ การซื้อขายสัญญาซื้อขายทองคำที่มีการชำระราคาในทันที

"ธปท.บอกว่าการที่ดูแลค่าเงินเป็นเรื่องการปกป้องผู้บริโภค ไม่ได้เกี่ยวกับการดูแลอัตราแลกเปลี่ยน วันนี้เรามาคุยกันนอกรอบหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางร่วมกัน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป" นางเกศรา กล่าว

Tags : เกศรา มัญชุศรีธปท.ก.ล.ต.ตลาดหลักทรัพย์ 'จิตติ'พร้อมเป็นเจ้าภาพจัดการข้อมูลตลาดทอง "จิตติ" พร้อมเป็นเจ้าภาพ หากธปท.ต้องการข้อมูลในการดูแลตลาดทองคำ วอน "ประสาร" รับนัดหารือแก้ปัญหา เจาะหุ้นเด่นภาคบ่าย 9 ต.ค.56 vdo.gif เจาะหุ้นเด่นภาคบ่าย 9 ต.ค.56 สดตรงจากนักวิเคราะห์ ติดตามได้ใน Market Wise กลยุทธ์ลงทุนทอง-อนุพันธ์ 9 ต.ค.56 vdo.gif พลิกกลยุทธ์ลงทุนทองคำ-อนุพันธ์ภาคบ่าย 9 ต.ค.56 ช่วงพลิกเกม ติดตามได้ใน Market Wise กลยุทธ์ลงทุนตลาดหุ้นภาคบ่าย 9 ต.ค.56 vdo.gif 'จรัมพร'เชื่อวิกฤตคลังสหรัฐไม่กระทบหุ้นไทย กสิกรฯผนึกแบงก์นอกจับคู่ธุรกิจไทย-เทศ ธปท.ถกหาแนวทางคุ้มครองผู้ซื้อขายทองคำ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

In Focus: ทำความรู้จักกฎหมายประกันสุขภาพที่ โอบามาแคร์ แต่ รีพับลิกันไม่แคร์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 9 ตุลาคม 2556 14:15:00 น.

ล่วงเข้าสู่สัปดาห์ที่สองแล้วสำหรับการปิดหน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลกลางสหรัฐชั่วคราว หรือ Government Shutdown ซึ่งผิดความคาดหมายของใครหลายคนที่มองในแง่ดีว่าสถานการณ์นี้ไม่น่าจะยืดเยื้อนานเกินหนึ่งสัปดาห์ โดยจนถึงตอนนี้ลูกจ้างรัฐบาลกลางกว่า 700,000 คนยังคงต้องถูกพักงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทน ขณะที่พิพิธภัณฑ์และอุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ รวมถึงอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ ต้องปิดให้บริการโดยไม่มีกำหนด

แต่ทว่าในขณะที่วิกฤต "ชัตดาวน์" ยังไม่ทีท่าจบลงง่ายๆ สถานการณ์ที่น่าหวาดหวั่นยิ่งกว่าก็กำลังคืบคลานเข้ามา นั่นก็คือการที่สหรัฐกลับมาเผชิญกับภาวะ "หน้าผาการคลัง" หรือ Fiscal Cliff เป็นคำรบสอง เข้าตำรา "ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก"

ทั้งนี้ หนี้สาธารณะของสหรัฐพุ่งชนเพดานตามที่กฎหมายกำหนดไว้ที่ระดับ 16.699 ล้านล้านดอลลาร์แล้ว และสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถังแตกหากสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ได้ทันกำหนดเส้นตายวันที่ 17 ตุลาคม

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนสิงหาคม 2012 สหรัฐเคยเผชิญภาวะ "ฟิสคัล คลิฟฟ์" มาแล้ว แต่ยังเคราะห์ดีที่ในครั้งนั้นลงเอยด้วยการที่สภาคองเกรสสามารถบรรลุข้อตกลงก่อนถึงกำหนดชำระหนี้เพียงสองวัน

อย่างไรก็ตาม บรรดานักเศรษฐศาสตร์กำลังกังวลกันว่า คราวนี้สหรัฐอาจไม่สามารถหลบเลี่ยงการตกหน้าผาได้อย่างหวุดหวิดเหมือนครั้งที่แล้ว หากสองขั้วอำนาจการเมืองยังถือคติ "ยอมหัก ไม่ยอมงอ" ในการอภิปรายจัดทำงบประมาณประจำปี 2014 อันจะส่งผลให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ซึ่งจะสร้างความเสียหายรุนแรงกว่าชัตดาวน์เป็นไหนๆ และอาจนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจโลกครั้งใหญ่เกินกว่าที่ใครจะคาดคิด

ชนวนเหตุ "ชัตดาวน์" สู่ "ฟิสคัล คลิฟฟ์"

ชนวนเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤต "ชัตดาวน์" และกำลังขยายวงสู่ "ฟิสคัล คลิฟฟ์" นั้นมีที่มาที่ไปจากความขัดแย้งเรื่องกฎหมาย Patient Protection and Affordable Care Act หรือกฎหมายประกันสุขภาพที่เรียกกันติดปากว่า "โอบามาแคร์" (Obamacare) ซึ่งพรรคเดโมแครตภูมิใจหนักหนา แต่ข้างฝ่ายรีพับลิกันกลับพยายามขวางทางมาโดยตลอด

โอบามาแคร์ ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับงบประมาณโดยตรง กำลังถูกทั้งสองพรรคใช้เป็น "เครื่องต่อรอง" ทางการเมือง โดยฝ่ายเดโมแครต ซึ่งครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาต้องการให้กฎหมายงบประมาณบรรจุโอบามาแคร์ลงไปด้วย แต่รีพับลิกัน ซึ่งเป็นเสียงส่วนใหญ่ในสภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นด้วย และเสนอให้เลื่อนการบังคับใช้โอบามาแคร์ออกไปอีกหนึ่งปี มิฉะนั้นจะไม่ผ่านร่างงบประมาณสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่างๆของรัฐบาลกลางสหรัฐ ด้วยเหตุนี้เองจึงนำมาสู่เหตุการณ์ชัตดาวน์ในรอบ 17 ปี ที่กำลังปั่นป่วนสหรัฐ รวมไปถึงตลาดการเงินทั่วโลกอยู่ในขณะนี้

"โอบามาแคร์" คืออะไร

"โอบามาแคร์" คือชื่อเล่นของกฎหมายประกันสุขภาพที่มีชื่อยาวอย่างเป็นทางการว่า The Patient Protection and Affordable Care Act (PPACA) ซึ่งเกิดจากแนวคิดของประธานาธิบดีบารัค โอบามา และพรรคเดโมแครต ที่ช่วยกันผลักดันจนสามารถลงนามเป็นกฎหมายเมื่อปี 2010 และกำหนดให้มีผลบังคับใช้ในปีงบประมาณ 2014 ซึ่งเริ่มต้นไปแล้วเมื่อวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยกฎหมายฉบับนี้ถือเป็นการยกเครื่องระบบประกันสุขภาพครั้งใหญ่ที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1960 ด้วยเป้าหมายที่ต้องการให้ชาวอเมริกันทุกคนได้รับความคุ้มครองจากประกันสุขภาพอย่างทั่วถึง

โอบามาแคร์ ถือเป็นหนึ่งในนโยบายเด่นของปธน.โอบามาซึ่งต้องการขยายความคุ้มครองประสุขภาพให้ครอบคลุมชาวอเมริกันราว 15% หรือ 40-50 ล้านคน ซึ่งรวมถึงผู้มีฐานะยากจนและผู้สูงอายุ ที่ยังไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการประกันสุขภาพจากนายจ้างหรือจากรัฐบาล โดยชาวอเมริกันที่เป็นผู้ทุพพลภาพ ผู้มีรายได้ต่ำ หรือผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไปจะต้องได้รับประกันสุขภาพจากรัฐบาล ส่วนบุคคลที่ไม่เข้าข่ายได้รับประกันสุขภาพจากรัฐบาลหรือจากนายจ้างจะต้องซื้อประกันสุขภาพด้วยตนเอง

ในขณะที่กฎหมายกำหนดให้ชาวอเมริกันทุกคนต้องซื้อประกันสุขภาพ รัฐบาลก็จะให้ความช่วยเหลือผู้มีฐานะยากจนที่ไม่สามารถซื้อประกันดังกล่าวเองได้ ด้วยการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนให้กรมธรรม์หรือเบี้ยประกันถูกลง

นอกจากนี้ กฎหมายยังกำหนดให้ผู้ประกอบการที่มีพนักงานหรือลูกจ้างทำงานเต็มเวลามากกว่า 50 คนจะต้องช่วยทำประกันสุขภาพให้ลูกจ้าง อย่างไรก็ดีข้อกำหนดนี้ได้รับการชะลอออกไปจนถึงปี 2015 เพื่อให้ภาคธุรกิจได้มีเวลาเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติตามกฎหมาย

สำหรับสาระสำคัญอื่นๆของกฎหมายฉบับนี้ ได้แก่ การห้ามบริษัทประกันปฏิเสธรับทำประกันแก่ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้บุคคลที่มีสภาพความเจ็บป่วยมาก่อน (pre-existing conditions) สามารถซื้อประกันสุขภาพได้, การอนุญาตให้บุตรสามารถได้รับสิทธิประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันสุขภาพของบิดามารดาได้จนอายุถึง 26 ปี และการห้ามมิให้บริษัทประกันกำหนดเพดานมูลค่าสิทธิประโยชน์ตลอดชีพสำหรับบริการที่จำเป็น

โดยนับจากต้นปี 2014 บุคคลที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดดังกล่าวจะต้องจ่ายค่าปรับ

เหตุใดรีพับลิกันจึงคัดค้าน "โอบามาแคร์" อย่างหัวชนฝา

พรรครีพับลิกันได้ต่อสู้เพื่อขัดขวางกฎหมายฉบับนี้อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู นับตั้งแต่ที่ได้รับการเสนอจากโอบามาเป็นครั้งแรกในปี 2009 ซึ่งเป็นปีที่เขาเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก หรือจนกระทั่งเมื่อกฎหมายผ่านการรับรองจากสภาคองเกรสในปี 2010 แล้วก็ตาม

สมาชิกสภานิติบัญญัติทุกคนจากพรรครีพับลิกันออกเสียงคัดค้านกฎหมายฉบับนี้ เนื่องเห็นว่าเป็นการเพิ่มภาระให้กับประชาชนและภาคเอกชน โดยมีการโหวตคว่ำกฎหมายนี้นับสิบๆครั้ง รวมถึงมีการยื่นฟ้องกฎหมายนี้ต่อศาล แต่การต่อสู้ในชั้นศาลได้สิ้นสุดลงในเดือนมิ.ย.2012 เมื่อศาลฎีกาของสหรัฐประกาศว่ากฎหมายไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ

กฎหมายนี้ยังได้กลายเป็นประเด็นหลักที่สองพรรคนำมาใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีปี 2012 โดยมิตต์ รอมนีย์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งปธน.จากพรรครีพับลิกัน ประกาศกร้าวว่าเขาจะผลักดันให้มีการยกเลิกกฎหมาย ขณะที่โอบามาให้คำมั่นว่าจะปกป้องกฎหมายฉบับนี้

รอมนีย์นำประเด็นดังกล่าวมาใช้โจมตีปธน.โอบามา โดยเรียกโอบามาแคร์ว่าเป็นกฎหมายที่ขัดขวางการจ้างงาน (job-killer) พร้อมอ้างผลสำรวจของหอการค้าอเมริกันที่ระบุว่า กฎหมายดังกล่าวลดโอกาสที่บริษัทถึงสามในสี่จะจ้างงานเพิ่ม

พรรครีพับลิกันมองว่า โอบามาแคร์จะเพิ่มภาระงบประมาณด้านบริการสุขภาพ และทำให้สหรัฐขาดดุลงบประมาณและมีหนี้สินภาครัฐเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากนี้ รัฐบาลไม่ควรบังคับประชาชนเรื่องการประกันสุขภาพด้วย

ในส่วนของภาคธุรกิจนั้น ผู้ประกอบการขนาดเล็กเกรงว่าจะไม่สามารถรับภาระค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นในด้านนี้ไหวในอนาคต แม้จะได้ส่วนลดทางภาษีจากการทำประกันให้ลูกจ้างก็ตาม

นักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่ากฎหมายประกันสุขภาพโอบามาแคร์ทำให้นายจ้างรู้สึกกังวล ส่งผลให้มีการตัดชั่วโมงการทำงานของลูกจ้างเหลือเพียงสัปดาห์ละ 30 ชั่วโมง และธุรกิจหลายแห่ง เช่น วอลมาร์ท หันมาจ้างพนักงานประเภทชั่วคราวแทน เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของกฎหมายประกันสุขภาพโอบามาแคร์ที่กำหนดให้นายจ้างที่มีจำนวนพนักงานหรือลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป และมีการจ้างลูกจ้างทำงานมากกว่า 30 ชั่วโมง/สัปดาห์ ต้องทำประกันสุขภาพให้ลูกจ้าง

จนถึงตอนนี้ ยังไร้วี่แววว่าความขัดแย้งระหว่างสองขั้วจะยุติลง เมื่อสองฝ่ายยังไม่หันหน้ามาคุยกัน ในขณะที่กำหนดเส้นตายเพิ่มเพดานหนี้งวดเข้ามาทุกขณะ โดยบรรดานักวิเคราะห์เชื่อว่า วิกฤตการคลังที่สหรัฐกำลังเผชิญอยู่นี้เป็นเกมการเมือง ซึ่งทั่วโลกกำลังจับตาดูว่าตอนจบของเกมนี้จะออกมาเป็นแบบใด ระหว่าง Game Over หรือ Happy Ending

อินโฟเควสท์ โดย ปนัยดา ปัทมโกวิท/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...