ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

จีนเผยรายได้การคลังเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 13.4% แตะ 9.36 แสนล้านหยวน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2556 14:11:29 น.

กระทรวงคลังของจีนเผยรายได้การคลังในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 13.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 9.36 แสนล้านหยวน หรือ 1.52 แสนล้านดอลลาร์ โดยขยายตัวขึ้นจากระดับเดือนส.ค.ที่ 9.2%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รู้กก่อนรวยกว่า

พบกับ รีรัน รายการรู้ก่อนรวยกว่า ประจำวันที่ 18/10/2556 ครับผม

ส่วนวันนี้ ในรายการไม่มีช่วง How To Trade ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นสพ.แนวหน้า

'โคราช'น้ำทะลักท่วม5หมู่บ้าน!! บ้านเรือนกว่า500หลังจมบาดาล

http://www.naewna.com/local/73329

 

 

1375666_629013390482790_1517152251_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กาชาดขาดโลหิตขอรับบริจาคด่วน http://bit.ly/1fHm3VI

#เลือดขาดแคลน #Posttoday #โพสต์ทูเดย์

 

 

1385189_10151939171014835_926663068_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายการ Gold Insight วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ วันพฤหัสบดีที่ 18 ตุลาคม 2556 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- ราคาทองคำแกว่งตัว 1315-1325 เหรียญ โดยถ้าหากราคายืนเหนือ 1311 เหรียญได้ก็ยังจะขึ้นต่อไปได้

 

- ดูภาพกราฟทางเทคนิคของราคาทองคำดีดตัวขึ้นมาแรง เลยอาจจะมีการพักฐานได้ แต่ถ้าไม่หลุด 1311 เหรียญก็ยังมีโอกาสขึ้นต่อไปได้ และถ้าดู indicator RSI ก็มีโอกาสที่จะ Overbought โดยให้แนวรับไว้ที่ 1312/1305 เหรียญ แนวต้านที่ 1328/1335 เหรียญ

โดยต้องดูว่าราคาที่ดีดตัวขึ้นมานั้นมีความต่อเนื่องหรือไม่ ถ้าหากราคาดีดตัวขึ้นมาไม่ต่อเนื่อง การปรับตัวลดลงมาแรงๆ ก็มีได้อีก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

548708_367119123384994_2093496747_n.jpg

ยามเย็นวันศุกร์

พักผ่อน สบายใจ นะคะ

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2556

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2556 17:00:00 น.

ทางการสหรัฐเตรียมเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญหลายตัว หลังสภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายทางการคลังเพื่อยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลและเพิ่มเพดานหนี้ โดยก่อนหน้านี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจต่างๆได้ถูกเลื่อนออกไปจากกำหนดเดิม อันเนื่องมาจากปัญหาชัตดาวน์

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ช่วงไตรมาส 3/2556 ขยายตัว 7.8%

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกของจีนในช่วง 9 เดือนแรกปรับตัวขึ้น 12.9%

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 10.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งลดลงเล็กน้อยจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนส.ค.

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ขยายตัว 20.2% ซึ่งขยับลง 0.1% จากอัตรา 20.3% ในช่วง 8 เดือนแรก

-- นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เผยขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เนื่องจากข้อมูลต่างๆยังไม่สามารถบ่งชี้ได้อย่างเพียงพอว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่สมควรจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน

-- กระทรวงคลังของจีนเผยรายได้การคลังในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 13.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 9.36 แสนล้านหยวน หรือ 1.52 แสนล้านดอลลาร์ โดยขยายตัวขึ้นจากระดับเดือนส.ค.ที่ 9.2%

-- นายทาโร่ อาโสะ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของญี่ปุ่น แสดงความยินดีที่สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ หลังจากที่สภาคองเกรสของสหรัฐได้มีมติขยายเพดานหนี้ชั่วคราวไปจนถึงต้นปีหน้า

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจ ซึ่งเป็นมาตรวัดภาวะเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ได้ดีดตัวขึ้นเล็กน้อยในไตรมาส 3

แถลงการณ์ของสำนักงานระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจในไตรมาส 3 อยู่ที่ระดับ 121.5 ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.9 จุด จากไตรมาสก่อนหน้า

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

Analysis: นักวิเคราะห์เตือนสหรัฐยังเผชิญความเสี่ยง แม้รอดผิดนัดชำระหนี้

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2556 15:51:00 น.

บรรดาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินของจีนเปิดเผยว่า แม้ว่าทั่วโลกจะขานรับการตัดสินใจของสหรัฐเมื่อวานนี้ในการเพิ่มเพดานหนี้อีกครั้ง แต่ความเสี่ยงก็ไม่ได้หมดสิ้นไป

สภาคองเกรสของสหรัฐมีมติเห็นชอบร่างกฎหมายในการเพิ่มอำนาจการกู้ยืมของรัฐบาล ซึ่งเป็นความพยายามเพื่อช่วยให้ประเทศรอดพ้นจากความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้และยุติการปิดหน่วยงานรัฐบาลที่ยืดเยื้อ

ด้วยการครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมูลค่ามหาศาลถึง 1.28 ล้านล้านดอลลาร์นั้น จึงทำให้จีนเป็นผู้ถือครองตราสารหนี้ของสหรัฐรายใหญ่ที่สุดโลก และความเสี่ยงที่จีนเผชิญอยู่นั้นจึงอาจจะรุนแรงมากที่สุด

ทั้งนี้ จีนขานรับทางออกในการผ่าทางตันเพดานหนี้ของสหรัฐ โดยนายฮัว ชุนหยิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีน เปิดเผยวานนี้ว่า "ทางออกดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐเอง แต่ยังช่วยหนุนเสถียรภาพของเศรษฐกิจของโลกด้วย"

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญประเมินทางออกดังกล่าวด้วยความระมัดระวัง และเตือนถึงความเสี่ยงในอนาคต

"แนวทางการคลี่คลายการเผชิญหน้าทางการคลังดังกล่าวเป็นไปตามการคาดการณ์ของเรา อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่สหรัฐมีการขยายเพดานหนี้" นายตัน หยาหลิง ประธานสถาบันวิจัยการลงทุนด้านปริวรรตเงินตราจีนกล่าว

"เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา เคยเกิดสถานการณ์ในลักษณะดังกล่าวแล้ว โดยในวิกฤตหนี้สหรัฐปี 2554 ก็มีภาวะหน้าผาการคลัง และความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้ตลอดจนการปิดหน่วยงานรัฐบาล นี่เป็นความผันแปรภายใต้ประเด็นหลักที่เหมือนกัน ซึ่งก็คือสหรัฐกำลังเบี่ยงเบนความสนใจของทั่วโลกไปจากเจตนารมณ์ที่แท้จริง มาอยู่ที่การระดมทรัพยากรเพื่อการพัฒนาประเทศของสหรัฐเอง" นายตันกล่าว

"ในท้ายที่สุด ก็จะลงเองด้วยการเพิ่มเพดานหนี้ตามเคย" นายตันกล่าวเสริม

ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ก่อให้เกิดความกังวลในประชาคมโลก ความโกลาหลทางเศรษฐกิจบนพื้นแผ่นดินสหรัฐไม่ว่าครั้งใดก็มีแนวโน้มทำให้ประเทศอื่นๆได้รับแรงสั่นสะเทือนอยู่เสมอ

"การผิดนัดชำระหนี้ไม่เพียงเป็นภัยต่อชื่อเสียงของสหรัฐเท่านั้น แต่ยังทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกเป็นอันต้องหยุดชะงักด้วย จีนหวังและเชื่อว่าสหรัฐจะสามารถแก้ปัญหาวิกฤตหนี้ได้ในเวลาอันเหมาะสม เพื่อช่วยการหนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเสถียรภาพทางการเงินของโลก" นายเซิน ตันหยาง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์วานนี้

แม้พรรคเดโมแครตและรีพับลีกันสามารถประนีประนอมได้ตามคาดและบรรลุข้อตกลงแล้ว แต่ผู้เชี่ยวชาญแสดงความคิดเห็นอีกมุมว่า ความเสี่ยงหนี้ส่อแววใกล้เข้ามา เนื่องจากระบบการพึ่งพาการก่อหนี้ของสหรัฐไม่มีแนวโน้มว่าจะเปลี่ยนแปลงไป

นายจาง ม่อหนาน นักเศรษฐศาสตร์จากศูนย์สารสนเทศแห่งรัฐกล่าวว่า การพึ่งพาการก่อหนี้เป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการบริโภคที่มากเกินไปในสหรัฐ

ขณะที่นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งระบุว่า สหรัฐควรปรับเปลี่ยนระบบการพึ่งพาต่างประเทศมากเกินไปในลักษณะดังกล่าว หากสหรัฐต้องการให้เศรษฐกิจของประเทศและของโลกมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน

"ยังมีประเด็นพื้นฐานที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข วิกฤตเช่นนี้อาจเกิดขึ้นอีก ในราว 3 เดือนข้างหน้า" นายหลี่ เต้าคุย อดีตที่ปรึกษาของธนาคารกลางจีน ซึ่งคาดถึงการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้สหรัฐในเร็วๆนี้

นายโจว ฉิงหมิง ผู้เชี่ยวชาญทางการเงินกล่าวว่า จีนควรเดินหน้ากระจายพอร์ทปริวรรตเงินตรา เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในสหรัฐที่มีสัดส่วนจำนวนมาก

นายเซิน ตันหยางกล่าวว่า การผิดนัดชำระหนี้อาจทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงอย่างหนัก และทำให้ผู้ส่งออกชาวจีนเผชิญความเสี่ยงที่หนักหน่วงยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ภาวะการหดตัวทั้งในด้านการนำเข้าและการส่งออก

"ทุกครั้งที่พูดถึงวิกฤตหนี้อเมริกาก็มักสร้างความวิตกกังวลต่อจีนได้เสมอ เมื่อพิจารณาจากปริมาณการส่งออกจำนวนมหาศาลของจีนไปยังสหรัฐ"

"แนวทางแก้ปัญหานี้ในระยะยาวจะขึ้นอยู่กับจีนเอง ในการเปลี่ยนจากเศรษฐกิจที่พึ่งพาการส่งออกมาเป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยการบริโภคในประเทศ" นายโจวกล่าว

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ค่าเงินบาทวันนี้ปิดที่ 31.04-31.06 บาท/ดอลลาร์ จับตาทิศทาง QE คาดสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบแคบ

นักบริหารเงินธนาคารพาณิชยื กล่าวว่า เงินบาทวันนี้ปิดตลาดที่ระดับ 31.04-31.06 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.00-31.01 บาท/ดอลลาร์โดยระหว่างวันเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 31.01-31.08 บาท/ดอลลาร์

ทั้งนี้ ประเมินว่า ทิศทางค่าเงินบาทยังต้องรอดูตลาดว่าจะมองข้าม Shot ไปถึงเรื่องมาตรการ QE ของสหรัฐหรือไม่ แต่ถ้าตลาดยังมองปัจจัยเดิมๆ คาดว่าค่าเงินบาทก็คงเคลื่อนไหวแคบๆ ต่อไป

"ถ้าตลาดยังมองแค่ปัจจัยเดิมๆ เงินบาทก็คงอยู่แถวๆ 31 บาท/ดอลลาร์ก่อน ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะหลุด 31 หรือไม่"นักบริหารเงิน กล่าว

Tags : ค่าเงินบาทดอลลาร์

หุ้นไทยปิดบวก15จุดตามตปท. หุ้นไทยปิดบวก 15.63 จุด อยู่ที่ 1,484.72 จุด คลายกังวลขยายเพดานหนี้สหรัฐ-จีดีพีจีนพุ่ง คาดสัปดาห์หน้าแกว่งตัว กรอบ 1,462 - 1,500 จุด พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติซื้อ994ล้าน พอร์ตลงทุนหุ้นวันที่ 18 ต.ค. ต่างชาติซื้อ 994 ล้าน รายย่อยขาย 1.2 ล้าน สถาบันขาย 815 ล้าน บัญชีบล.ซื้อ 1 พันล้าน ไทยพาณิชย์โชว์ไตรมาส3กำไร1.2หมื่นล้าน บสย.อุ้มผู้ประกอบการน้ำท่วมค้ำกู้1หมื่นล. สรุปภาวะซื้อขายทองคำ-อนุพันธ์ 18 ต.ค.56 vdo.gif คลังเผยงบปี56เก็บรายได้เกินเป้า5.7หมื่นล.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากค่ะ คุณginger news bas+trader+น้องบีม

สวัสดีทุกๆคนด้วยค่ะ ฝนตกทุกวัน รักษาสุขภาพ ระวังเป็นหวัดนะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากค่ะ คุณginger news bas+trader+น้องบีม

สวัสดีทุกๆคนด้วยค่ะ ฝนตกทุกวัน รักษาสุขภาพ ระวังเป็นหวัดนะคะ

คิดถึงนะคะ ดูแลตัวเองดีๆเช่นกัน

MTS

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้น ขานรับผลประกอบการเอกชนแข็งแกร่ง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 18 ตุลาคม 2556 20:56:41 น.

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวเพิ่มขึ้น บ่งชี้ว่าดัชนี S&P 500 อาจจะพุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์อย่างต่อเนื่อง หลังกูเกิล อิงค์ และเจเนอรัล อิเล็กทริก โค เปิดเผยผลประกอบการณ์ที่สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่จีนเปิดเผยว่าเศรษฐกิจขยายตัวในจังหวะที่รวดเร็วขึ้น

หลังจากที่ตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 28 จุด หรือ 0.2% ที่ระดับ 15,324 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.3% แตะที่ 1,732.1 จุด ณ เวลา 20.13 น. ตามเวลาในประเทศไทย

นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโก เผยขณะนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมที่จะชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เนื่องจากข้อมูลต่างๆยังไม่สามารถบ่งชี้ได้อย่างเพียงพอว่า ขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่สมควรจะผ่อนคลายนโยบายการเงิน

นายอีแวนส์ กล่าวสุนทรพจน์ที่วิสคอนซินเมื่อวานนี้ว่า โดยคาดว่าท่าทีของเฟดเรื่องนโยบายการเงินจะยังคงอยู่ที่การหนุนเศรษฐกิจอย่างมากต่อไปสักระยะหนึ่ง

ด้านสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ช่วงไตรมาส 3/2556 ขยายตัว 7.8% เทียบกับ 7.5% ในช่วงไตรมาสก่อนหน้า

การขยายตัวที่แข็งแกร่งขึ้นของเศรษฐกิจจีน ซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลกนั้น ส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มุ่งเน้นที่สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานและภาคที่อยู่อาศัย รวมทั้งมีปัจจัยบวกจากการส่งออกที่ฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย

หุ้นกูเกิล อิงค์ พุ่งขึ้น 9.1% หลังจากผู้ให้บริการคืบค้นข้อมูลรายใหญ่ที่สุดของโลกเปิดเผยผลประกอบการณ์ที่ดีกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

หุ้นเจเนอรัล อิเล็กทริก เพิ่มขึ้น 3% หลังเปิดเผยว่ามีบริษัทรายได้เพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ในสินค้าที่แข็งแกร่งของบริษัท

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th-

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1378244_491032257670525_1830529755_n.jpg

อรุณสวัสดิ์ วันหยุด

 

ออกกำลังใจ ออกกำลังกาย

สนุก สบายใจ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

“คลัง-ธปท.”เตือนรับมือทุนนอกไหลกลับ/บาทป่วน

วิกฤติหนี้สหรัฐยังไม่จบ

“คลัง-แบงก์ชาติ”เตือนวิกฤติหนี้ในสหรัฐฯยังไม่จบ ระวังทุนนอกไหลกลับ หลังจากก่อนหน้านี้เข้ามาลงทุนจำนวนมาก “ สมชัย”ให้รับมือค่าบาทผันผวน เผยทุนสำรองประเทศลดลง 600 ล้านเหรียญสหรัฐ

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า การขยายเพดานหนี้สหรัฐฯแม้ทำให้ตลาดเงินตลาดทุนผ่อนคลายลง แต่ถือว่าไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาอย่างถาวร เพราะเป็นการขยายหนี้ออกไป โดยรอลุ้นการครบกำหนดอีกรอบวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2557 ขณะที่ สศค. กับ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้รายงานให้ นายกรัฐมนตรี รับทราบไปแล้วว่า ได้เตรียมมาตรการรองรับความผันผวนของค่าเงินบาทจากการไหลเข้า-ออกของเงินทุน เพราะเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้ามาขณะนี้ 2,000 ล้านดอลาร์สหรัฐยังรองรับได้ เพราะไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจเข้มแข็ง สิ่งที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิดคือในช่วงครบกำหนดชำระหนี้กลางเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า เพราะจะเกิดปัญหาเงินทุนไหลกลับไปยังสหรัฐ สถานการณ์ดังกล่าวจะต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้ค่าเงินผันผวน และเงินทุนที่ไหลเข้ามาในช่วงนี้คงมีผลกระทบเพียงระยะสั้นเท่านั้น

ด้านนายปฤษันต์ จันทน์หอม ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ธปท. กล่าวว่า การขยายเพดานหนี้ของสหรัฐฯอาจส่งผลให้เงินทุนต่างชาติมีการปรับสถานะ และมีทุนบางส่วนที่จะไหลออกจากประเทศไทยบ้าง แต่อยากให้นักลงทุนมองระยะยาวมากกว่า

“ในระยะยาวนั้นเม็ดเงินก็น่าจะมีทิศทางไหลกลับไปยังสหรัฐบ้าง เพราะเงินที่ออกมาจากสหรัฐนั้นค่อนข้างเยอะมาก ทำให้เราต้องมาพิจารณาว่าเม็ดเงินต่างชาติจะไหลกลับไปเมื่อไหร่ โดยสถานการณ์การคลังของสหรัฐก็ยังไม่มีความแน่นอน ซึ่งรอให้สถานการณ์ต่างๆ เริ่มนิ่งก่อน และอยากให้รอดูการขยายเวลาเพดานหนี้ครั้งต่อไปในเดือนก.พ. ซึ่งทุกคนกลัวว่าอาจมีปัญหาการขยายเพดานหนี้เหมือนในครั้งนี้อีก แต่เชื่อว่าสหรัฐจะสามารถแก้ไขปัญหาได้” นายปฤษันต์ กล่าว

ขณะที่ธปท.ได้รายงานฐานะเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของ ณ วันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 1.716 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.374 ล้านล้านบาท ลดลง 600 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1.86 หมื่นล้านบาท หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนในปัจจุบันซึ่งเคลื่อนไหวที่ระดับ 31 บาท/เหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าทุนสำรองฯอยู่ที่ระดับ 1.722 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.390 ล้านล้านบาท

ทั้งนี้ สาเหตุที่ทุนสำรองฯลดลงน่าจะเป็นผลจากการเคลื่อนย้ายของเงินทุนผันผวนน้อยลง เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนรอความชัดเจนการแก้ปัญหาการหยุดทำการชั่วคราวของหน่วยงานราชการ (Government Shutdown) และการขยายเพดานหนี้สาธารณะซึ่งมีเส้นตายในวันที่ 17 ต.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม มีเงินทุนบางส่วนไหลออกจากไทยและภูมิภาคเพื่อความปลอดภัย ส่งผลให้สภาพคล่องเงินเหรียญสหรัฐในตลาดอาจจะตึงตัวขึ้นเล็กน้อย ทำให้ทางการสามารถทยอยปล่อยเงินเหรียญสรัฐออกมาเพิ่มสภาพคล่องในตลาด และลดภาระการถือครองเงินตราต่างประเทศลงได้บ้าง โดยค่าเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับ ฐานเงินหรือเงินสดหมุนเวียนในมือภาคเอกชน และเงินฝากของสถาบันการเงินที่ธปท. ในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.351 ล้านล้านบาท ลดลงจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1.409 ล้านล้านบาท สะท้อนปริมาณสภาพคล่องเงินสดในระบบเศรษฐกิจลดลง ตามความต้องการจับจ่ายใช้สอยที่ชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจ

แนวหน้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...