ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

อัญเชิญพระโกศกุดั่นใหญ่มาวัดบวรฯ http://bit.ly/1fYYGqE

#สมเด็จพระสังฆราช #Posttoday #โพสต์ทูเดย์

 

 

1384037_10151954307474835_310427292_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กลยุทธ์ลงทุนทอง-อนุพันธ์ 25 ต.ค.56 vdo.gif พลิกกลยุทธ์ลงทุนทองคำ-อนุพันธ์ภาคบ่าย 25 ต.ค.56 ช่วงพลิกเกม ติดตามได้ใน Market Wise "กรุงเทพธุรกิจทีวี" ธปท.หั่นเป้าจีดีพีโต3.7%ส่งออกขยายตัว1% ธปท.หั่นเป้าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ขยายตัวเพียง 3.7% จากเดิมคาด 4.2% ส่งออกขยายตัว 1% จากเดิมคาด 4% ผลพวงบริโภคพักฐานนานกว่าที่คาด-ส่งออกเดี้ยง คลังบี้ข้าราชการใช้งบ7แสนล้านภายในสิ้นปี คลังบี้หน่วยงานราชการทั่วประเทศเบิกใช้งบประมาณไตรมาสแรกของปี57 ให้ได้ 7 แสนล้านบาท หวังช่วยเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจโค้งสุดท้ายของสิ้นปี56 'กิตติรัตน์'ปัดขึ้นแวต10%ดันรายได้รัฐ สรุปภาวะซื้อขายหุ้นไทยภาคเช้า 25 ต.ค.56 vdo.gif หุ้นเช้าปิดร่วง8จุดหวั่นการเมืองแรง ธนชาตส่งกองMonthly Income Fund ลุย

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

การเงิน - การลงทุน

วันที่ 25 ตุลาคม 2556 10:06

เศรษฐกิจสหรัฐป่วนค่าเงินเอเชีย

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_538662_1.jpg

ธปท.ชี้ความไม่แน่นอนเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งผลกระทบค่าเงินบาทผันผวนแรง เคลื่อนไหวหวือหวา แต่ยังมั่นใจรับมือได้ เตือนระวังค่าเงินผันผวน

นางผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธ รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่าความผันผวนของสกุลเงินบาทช่วงที่ผ่านมาได้ปรับตัวขึ้นสูงสุด 10% ก่อนที่ปัจจุบันจะปรับลดลงเหลือ 7-8% โดยปัจจัยหลักยังคงมาจากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ค่าเงินบาทจะมีการผันผวนเพิ่มขึ้นในระดับที่สูง แต่เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านถือว่าผันผวนสูงเช่นเดียวกัน

"ความผันผวนของค่าเงินบาทช่วงที่ผ่านมา ปรับตัวสูงขึ้นมาก โดยทำสถิติความผันผวนที่ 10% ก่อนที่จะปรับลดลงมาเหลือ 7- 8% แต่เมื่อตรวจสอบความผันผวนของเงินในสกุลเพื่อนบ้านนั้นเป็นการปรับตัวสูงขึ้นทั้งหมด และค่อนข้างหวือหวา ทำให้ทุกฝ่ายต้องระมัดระวังมากขึ้น"

ทั้งนี้ ปัญหาในสหรัฐยังกดดันตลาด โดย ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประชุมวันที่ 29-30 ต.ค. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่ายังไม่ปรับลดคิวอี ขณะปัญหาทางการคลังสหรัฐ คองเกรสจะพิจารณาอีกครั้งในเดือนม.ค.-ก.พ. ปีหน้า โดยถือว่าเป็นปัจจัยยังกดดัน

นางผ่องเพ็ญ กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันชัดเจนว่าปัจจัยที่มีผลกระทบต่อความผันผวนเป็นเรื่องของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยในปีหน้า ปัญหาเพดานหนี้จะครบกำหนดที่ต้องขยายอีกครั้งในเดือนก.พ. 2557 ซึ่งยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากปัญหาดังกล่าวกลายเป็นประเด็นการเมืองไปแล้ว และเมื่อถึงเวลานั้นจะมีความผันผวนเกิดขึ้นในตลาดการเงินแน่นอน

"แบงก์ชาติพร้อมที่จะดูแลสกุลเงินบาทและขอยืนยันว่า ธปท. มีกระสุนที่เพียงพอในการดูแลเสถียรภาพ แต่ไม่ได้แปลว่าค่าเงินบาทจะคงที่ แต่ความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทนั้นจะเคลื่อนไหวในระดับที่นักลงทุนสามารถปรับตัวได้ ซึ่งนักลงทุนเองต้องตั้งรับและสร้างภูมิคุ้มกันในการลงทุนด้วย"

นางผ่องเพ็ญ กล่าวว่า สถานการณ์ภาวะเงินทุนเคลื่อนย้ายปัจจุบัน คาดการณ์ยาก จึงเห็นว่าเมื่อสหรัฐปรับเปลี่ยนนโยบาย ก็จะส่งผลกระทบต่อตลาด ส่งผลให้นักลงทุนมองภาพระยะที่สั้นมาก จึงอยากเตือนนักลงทุนว่าอย่าทำให้เกิดความเสี่ยงมากเกินไป แต่ต้องมีการระมัดระวังความเสี่ยง รวมถึงคำนวณถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตด้วย และรับผลกระทบดังกล่าวได้หรือไม่

ยูบีเอสคาดเฟดลดคิวอีเดือนม.ค. ปีหน้า

ด้าน นายพอล โดโนแวน กรรมการผู้จัดการและนักเศรษฐศาสตร์ของยูบีเอส วาณิชธนกิจชั้นนำของสหรัฐ กล่าวในการสัมมนาเรื่อง "เศรษฐกิจโลกบนความแตกต่าง" วานนี้ (24 ต.ค.) โดยยอมรับว่า ปัญหาขัดแย้งระหว่าง 2 พรรคการเมืองของสหรัฐ ในการเจรจาเกี่ยวกับงบประมาณรายจ่ายและการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบจำกัดต่อเศรษฐกิจและตลาดทั่วโลก

นายโดโนแวน กล่าวว่า การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐ (Government Shutdown) คาดว่า ทำให้จีดีพีสหรัฐไตรมาส 4 ปีนี้หาย 0.2% จึงไม่ใช่การสร้างความกังวลใหญ่โตต่อภาพรวมเศรษฐกิจโลก

"แต่ปัญหานี้กลับเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐ ในแง่การเปิดเผยข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจล่าช้าและบิดเบือนไปจากรายงานที่เคยมีในเดือนต.ค. การว่างงานกลับมาเพิ่มขึ้นหลังชัทดาวน์"

คาดเฟดเริ่มลดคิวอีเดือนม.ค.ปีหน้า

นายโดโนแวน มองว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังขยายตัวได้จากนี้ไปจนถึงต้นปีหน้า เพราะภาคการเงินของสหรัฐ ยังคงปล่อยกู้ให้เห็น และปล่อยกู้เพิ่มต่อเนื่อง จึงเป็นภาวะแวดล้อมทำให้เฟด จะลดการพิมพ์เงิน หรือลดการซื้อคืนพันธบัตร และลดการใช้นโยบายผ่อนคิวอีเดือนม.ค. ปีหน้า

เขาเพิ่มเติมว่า เศรษฐกิจยังคงขยายตัว ธนาคารยังปล่อยกู้ต่อเนื่อง และคาดการว่างงานของสหรัฐ จะลดลงเหลือ 6.7% สิ้นปีหน้า จากระดับ 7.3% ปีนี้

"การลดซื้อคืนพันธบัตร จะสร้างแรงกดดันอยู่บ้างต่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปีหน้า และการที่เฟดเริ่มลดใช้คิวอีเดือนม.ค.ปีหน้า จะส่งผลให้บอนด์ยีลด์พันธบัตรอายุ 10 ปีปรับขึ้นเหนือระดับ 3% หรืออยู่ระหว่าง 3-3.5% ในปี 2557"

นายโดโนแวน มองว่าเฟดเลื่อนลดคิวอีออกไป และคาดจะไม่ทำในปีนี้ ทำให้คาดการณ์ของตลาดการเงินผิดพลาดทั้งที่เตรียมตัวรับมือเฟด น่าจะลดคิวอีกตั้งเดือนก.ย.ปีนี้ จึงสร้างความสับสนให้นักลงทุน การกระทำของเฟดจึงมีนัยสร้างความกังวลใจให้ตลาดเอเชีย ตลาดอาเซียน และไทยอย่างมาก

สหรัฐโตส่งผลดีต่อเศรษฐกิจไทย

นายโดโนแวน กล่าวว่า เมื่อมองความต้องการนำเข้าของสหรัฐจากนี้ไปจะมากขึ้นและยังคงส่งผลดีต่ออาเซียนและไทย และแม้เศรษฐกิจไทยช่วงครึ่งแรกปีนี้จะขยายตัวช้าลง แต่เชื่อว่าจีดีพีไทยปีหน้าจะขยายตัวได้มากขึ้น

"เหตุผลที่ปีหน้าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ดีขึ้นนั้น เพราะว่าการส่งออกดีขึ้น ส่วนใหญ่เห็นได้ในอุตสาหกรรมรถยนต์เมื่อเร็วๆ นี้ เป็นผลจากการเติบโตดีขึ้นกับความต้องการมากขึ้นในสหรัฐกลายเป็นผลดีถึงอาเซียนด้วย"

เฟดลดคิวอีส่งผลดีบอนด์ไทย

นายโดโนแวน กล่าวว่า หากเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้นปีหน้า ยังคงเป็นเรื่องสำคัญต่อไทย ประเด็นหนึ่งคือช่วง 5 ปีเศรษฐกิจโลกอยู่กับภาวะแวดล้อมดอกเบี้ยต่ำ ทำให้นักลงทุนมีทางเลือกจำกัดในการลงทุน และการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในพันธบัตรรัฐบาล แต่ถ้าเฟดลดคิวอีคนเคยซื้อบอนด์ไว้ก็จะมีตัวเลือกให้ลงทุนมากขึ้น

"ยีลด์พันธบัตรสูงขึ้นจะทำให้บางตลาดอย่างอินโดนีเซีย อินเดีย และบราซิล ผันผวนช่วง 2-3 ดือนที่ผ่านมา เพราะนักลงทุนทั่วโลกที่ซื้อบอนด์กังวลมากไปกับนโยบายเฟด จนพากันถอนเงินออก แต่นโยบายไม่ได้สร้างปัญหาใหญ่ให้กังวลมากเกินไปแก่นักลงทุนต่างชาติในไทยเงินจึงไม่เห็นเงินไหลออกจากตลาดไทยมากในช่วงเดียวกัน"

ความเสี่ยงยังคงครอบงำตลาดอาเซียนอยู่ เพราะการดำเนินนโยบายของเฟด อาจทำให้ตลาดอาเซียนผันผวนและจากการถอนเม็ดเงินลงทุนเนื่องจากอัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรสูงขึ้น

เงินเอเชียแข็งค่ารับข้อมูลศก.จีนแข็งแกร่ง

วานนี้ (24 ต.ค.) ค่าเงินรูเปี๊ยะห์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ และนำสกุลเงินของประเทศตลาดเกิดใหม่ของเอเชียดีดตัวขึ้นจากผลสำรวจที่พบว่า ภาคการผลิตของจีนขยายตัวแข็งแกร่ง ส่วนวอนอ่อนค่าลง หลังจากที่ทางการเกาหลีใต้เข้าแทรกแซงเพื่อชะลอการแข็งค่าของวอน

รูเปี๊ยะห์พุ่งขึ้นถึง 1.3% มาที่ 11,125 เทียบดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ก.ย. จากแรงซื้อของธนาคารและกองทุน

หุ้นจาการ์ตาทะยานขึ้นมากกว่าตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคโดยพุ่งขึ้น 1% ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลส่วนใหญ่ร่วงลง

ริงกิตแข็งค่าขึ้น ขณะที่นักลงทุนบางส่วนหวังว่ารัฐบาลจะออกมาตรการเพื่อ แก้ไขภาวะขาดดุลทางการคลังในวันพรุ่งนี้

วอนแข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 27 เดือนในช่วงแรก แต่ต่อมาอ่อนค่าลง และร่วงลงมากที่สุดในรอบ 2 เดือน เมื่อพบว่าทางการเกาหลีใต้ได้เข้าซื้อดอลลาร์ หลังจากที่เจ้าหน้าที่รายหนึ่งได้ออกมาเตือนเรื่องวอนแข็ง

ขณะที่ค่าเงินบาท เคลื่อนไหวช่วงแคบในทิศทางแข็งค่า โดยช่วงท้ายตลาด อยู่ที่ 31.14/15 จาก 31.14/19 ในช่วงเช้า และตลาดต่างประเทศ (offshore) อยู่ที่ 31.12/16 จาก 31.15/19 ในช่วงเช้า

ต่างชาติซื้อพันธบัตรต่อเนื่อง

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวานนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 65,829 ล้านบาท โดย Yield Curve ปรับลดลงในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 1-3 bps. จากแรงซื้อส่วนใหญ่ของนักลงทุนต่างชาติ

ตลาดรอติดตามผลการประชุมเอฟโอเอ็มซีกลางสัปดาห์หน้า ซึ่งตลาดคาดว่าเฟดน่าจะเลื่อนการลดขนาดคิวอีออกไปเป็นการประชุมเดือนธ.ค. หรือต้นปีหน้า ทำให้มีเงินทุนไหลกลับเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ ด้านนักลงทุนต่างชาติมีแรงซื้อทั้งในพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาว ยอดซื้อสุทธิ 7,159 ล้านบาท

ต่างชาติลุยซื้อหุ้น-บอนด์ญี่ปุ่น

นักลงทุนญี่ปุ่นเข้าซื้อตราสารหนี้ต่างชาติสุทธิราว 1.45 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากการคลี่คลายปัญหางบประมาณในสหรัฐ และการที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน

กระทรวงการคลังญี่ปุ่น รายงานว่า นักลงทุนญี่ปุ่นเข้าซื้อสุทธิตราสารหนี้ต่างชาติราว 1.413 ล้านล้านเยน (1.45 หมื่นล้านดอลลาร์) ในช่วงสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันเสาร์ที่ 19 ต.ค. หลังจากเข้าซื้อสุทธิ 3.869 แสนล้านเยนในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น

การเข้าซื้อสุทธิตราสารหนี้ต่างชาติติดต่อกันสองสัปดาห์ในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากนักลงทุนญี่ปุ่นขายสุทธิตราสารหนี้ต่างชาติ 2.224 ล้านล้านเยน ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 5 ต.ค. ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งในช่วงนั้นนักลงทุนกังวลว่าสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐอาจจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกันได้ในเรื่องการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐก่อนกลางเดือนต.ค. ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิหุ้นญี่ปุ่นเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยเข้าซื้อสุทธิ 2.978 แสนล้านเยน หลังจากซื้อสุทธิ 1.447 แสนล้านเยนในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น

นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อสุทธิหุ้นญี่ปุ่นไปแล้ว 10.8 ล้านล้านเยนในปีนี้ ขณะที่ดัชนีนิกเคอิพุ่งขึ้นมาแล้ว 38% จากช่วงต้นปี โดยได้รับแรงหนุนจากนโยบายการเงินและการคลังของนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ในการยุติภาวะเงินฝืดที่ดำเนินมานาน 15 ปีในญี่ปุ่น

นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นญี่ปุ่น 1.539 แสนล้านเยน ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2554

Tags : ผ่องเพ็ญ เรืองวีรยุทธเศรษฐกิจสหรัฐคิวอีเพดานหนี้ค่าเงินผันผวน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณพรรณงาม อารยวุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุน SET50 Index Futures รายการ News@12:00 P.M. ทางช่อง Money Channel วันศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2556

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- สำหรับ SET 50 อ่อนตัวลงมาตามตลาดหุ้นเอเชีย เช่น Nikkei ที่อ่อนตัวลงมาถึง 300 จุดแล้ว รวมทั้ง SET 50 ที่อ่อนตัวลงเนื่องจากปัจจัยทางด้านการเมืองที่จะมีการนัดชุมนุมกันในช่วงสุดสัปดาห์นี้ รวมถึงต้องติดตามคณะกรรมการการพิจารณาร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่ตอนนี้มีอยู่ 2 ร่างที่จะพิจารณา รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจของไทยที่ ธปท. จะประกาศ คือ จะมีการปรับลด GDP ในปีนี้ของไทย จากเดิม 4.2% คาดการณ์ว่าน่าจะเหลืออยู่ประมาณ 3 % กว่าๆ

 

- สำหรับทิศทาง SET 50 ในวันนี้น่าจะแกว่งตัวอยู่ระหว่าง 980-1000 จุด คำแนะนำให้ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน โดยมีแนวรับที่ 990/980 จุด แนวต้านที่ 1000/1010 จุด โดยถ้าเกิดอ่อนตัวลงมาที่แนวรับให้เปิด Long และถ้าขึ้นไป High

ที่แนวต้านก็ปิดสถานะทำกำไร หรือจะเปิด Short

 

- คำแนะนำสำหรับการถือสถานะข้ามสัปดาห์ ถ้าจาก Sentiment ในภาคบ่ายต้องดูตลาดหุ้นในยุโรปประกอบด้วยว่ามี Sentiment ในภาคบ่ายเป้นอย่างไร ถ้าบวกก็เป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นไทย โดยคำแนะนำให้ปิดทำกำไรในสัปดาห์นี้ดีกว่า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Asia Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียประจำวันที่ 25 ตุลาคม 2556

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2556 16:30:00 น.

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น แม้ว่าจะมีแรงขายเข้ามาในตลาดหุ้นในภูมิภาคก็ตาม

ดัชนี S&P/ASX 200 บวก 13.40 จุด หรือ 0.25% ปิดที่ 5,386.30 จุด ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดวันนี้ที่ 5,385.70 จุด เพิ่มขึ้น 12.00 จุด หรือ 0.22%

-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ในวันนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินเยนและการปรับตัวลงของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย

ดัชนีนิกเกอิร่วงลง 398.22 จุด หรือ 2.75% ปิดที่ 14,088.19 จุด

-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ร่วงลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยอินเตอร์แบงก์ที่ดีดตัวขึ้น ขณะที่ผลประกอบการของบริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ ออกมาสวนทางกับการประเมินของนักวิเคราะห์

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วง 31.36 จุด หรือ 1.45% ปิดที่ 2,132.96 จุด

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดร่วงลง 0.6% ในวันนี้ โดยมีสาเหตุหลักมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของยูโรโซน ซึ่งจุดชนวนความวิตกกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ลดลง 12.3 จุด ปิดที่ 2,034.39 จุด โดยปริมาณการซื้อขายอยู่ในระดับต่ำที่ 230 ล้านหุ้น มูลค่า 3.95 ล้านล้านวอน (3.72 พันล้านดอลลาร์) โดยมีหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในสัดส่วน 470 ต่อ 318

-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวลดลงในวันนี้ เนื่องจากหุ้นที่อ่อนไหวต่อเศรษฐกิจจีนร่วงลง ท่ามกลางมุมมองที่ว่าธนาคารกลางจีนอาจจะใช้นโยบายคุมเข้มด้านการเงิน หลังอัตราดอกเบี้ยในตลาดเงินพุ่งสูงขึ้น

ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 137.48 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 22,698.34 จุด

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 25 ตุลาคม 2556

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2556 17:00:00 น.

นายวิลเลียม เมอร์เรย์ โฆษกกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) กล่าวว่า แม้มีข้อตกลงระยะสั้นเพื่อจัดสรรงบประมาณสำหรับการดำเนินงานของรัฐบาลกลางและเพิ่มเพดานหนี้ แต่สหรัฐควรให้ความสำคัญกับการจัดการความท้าทายทางการคลังในระยะกลาง

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของเกาหลีใต้ในช่วงไตรมาส 3 ขยายตัว 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 2 ซึ่งมีอัตราการขยายตัวของจีดีพีในระดับเดียวกัน

-- กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และสวัสดิการสังคมของจีน เปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราว่างงานในเขตเมืองลดลงแตะ 4.04% ณ สิ้นเดือนก.ย. จาก 4.1% ในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย.ปีนี้

-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน

-- นายเฮอร์แมน ฟาน รอมพาย ประธานสหภาพยุโรป (อียู) กล่าวในวันนี้ว่า อียูได้เตรียมเจรจากับสหรัฐอเมริกาในเรื่องข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการสอดแนมข้อมูลลับในประเทศต่างๆ ภายในสิ้นปีนี้ โดยการดำเนินการดังกล่าวมีสองประเทศแกนนำอย่างฝรั่งเศส และเยอรมนีเป็นผู้ริเริ่ม

-- บริษัทซัมซุง อิเล็คทรอนิคส์ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน ชิปความจำ และโทรทัศน์จอแบนรายใหญ่ที่สุดของโลก เปิดเผยว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 แตะระดับนิวไฮรายไตรมาส เนื่องจากยอดขายที่สดใสของสมาร์ทโฟนรุ่น “กาแล็กซี่"

-- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่าเฟดจะกำหนดให้ธนาคารในสหรัฐถือครองเงินสดและสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง เพื่อช่วยให้ระบบการเงินสามารถรับมือกับความเสี่ยงต่างๆได้ดีขึ้นในช่วงที่ตลาดเกิดความวุ่นวาย

-- ธนาคารกลางจีนได้เปิดตัวอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อ้างอิงใหม่ หรือ "loan prime rate" เพื่อใช้เป็นแนวทางให้กับธนาคารพาณิชย์กำหนดอัตราดอกเบี้ย เมื่อต้องปล่อยกู้ให้กับลูกค้าชั้นดีของธนาคาร

-- นักเศรษฐศาสตร์จากเอชเอสบีซีกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะสั้น (MMR-Money Market Rate) ของจีนพุ่งสูงขึ้นชั่วคราวเท่านั้น และไม่ได้เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่าธนาคารกลางจีนคุมเข้มนโยบายการเงิน

-- สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีในเดือนต.ค.ลดลงแตะ 107.4 จาก 107.7 ในเดือนก.ย. ซึ่งสวนทางกับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

การกำหนดวันหยุดทำการของสถาบันการเงินเป็นกรณีพิเศษ

ข่าวเศรษฐกิจ ธนาคารแห่งประเทศไทย -- ศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2556 16:52:00 น.

ฉบับที่ 46/2556

ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2556 กำหนดให้วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม 2556 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ นั้น

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พิจารณาแล้วเห็นว่า การกำหนดให้วันดังกล่าวเป็นวันหยุดทำการของสถาบันการเงินเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษอีก 1 วัน เป็นการสนับสนุนนโยบายกระตุ้นภาคธุรกิจท่องเที่ยวของรัฐบาลอันจะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม นอกจากนี้ การประกาศวันหยุดให้ทราบล่วงหน้าเป็นเวลาพอสมควร ทำให้ภาคธุรกิจสามารถเตรียมการปรับตัวได้ จึงไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินและระบบเศรษฐกิจของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ ธปท. จึงกำหนดให้วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม 2556 เป็นวันหยุดทำการของสถาบันการเงินเพิ่มเติม เป็นกรณีพิเศษอีก 1 วัน

อย่างไรก็ดี แม้ในวันดังกล่าวจะเป็นวันหยุดทำการ แต่สถาบันการเงินสามารถใช้ดุลยพินิจในการเลือกเปิดสาขาบางแห่ง เช่น สาขาในห้างสรรพสินค้า เพื่อให้บริการแก่ประชาชนได้ เช่นเดียวกับกรณีเป็นวันหยุดตามปกติทั่วไป แต่ทั้งนี้ก็ควรคำนึงถึงการดูแลพนักงานของสถาบันการเงินตามสมควรด้วย

ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายการ Gold Insight วิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ วันศุกร์ ที่ 25 ตุลาคม 2556 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้

- ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1340-1347 เหรียญ โดยราคาขึ้นไปทำ High เมื่อคืนที่ 1351 เหรียญ ในช่วงนี้มีแนวโน้มอ่อนตัวลงมาเล็กน้อย ซึ่งราคาทองคำสามารถไต่ระดับขึ้นได้ต่อเนื่อง แต่ในระยะสั้นอาจมีการย่อตัวลงจาก indicator RSI และ Macd ในราย 120 นาที ส่งสัญญาณการพักตัว

 

- ภาพทางเทคนิคของราคาทองคำ ตอนนี้ราคามาชนกรอบด้านล่างของเส้นแนวโน้มขาขึ้น ถ้ายืนไม่ได้ก็จะอ่อนตัวลงมา ตัวราคาทำยอดใหม่สูงขึ้นแต่ RSI ไม่ได้ปรับตัวสูงขึ้น และ Macd ก็ปรับตัวลดลง เพราะฉะนั้นโอกาสที่จะย่อตัวก็ยังมี โดยมีแนวรับอยู่ที่ 1335/1325 เหรียญ แนวต้านที่ 1350/1360 เหรียญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะซื้อขายทองคำ-อนุพันธ์ 25 ต.ค.56 vdo.gif สรุปภาวะซื้อขายทองคำ-อนุพันธ์ภาคบ่าย 25 ต.ค.56 แนวโน้มการลงทุนสัปดาห์หน้า ติดตามได้ใน Market Wise "กรุงเทพธุรกิจทีวี" มกอช.ปัดสหรัฐห้ามนำเข้า12อาหารไทย มกอช.ยันสหรัฐไม่ได้ห้ามนำเข้าอาหารไทย 12 รายการ แค่เตือน 12 ตู้คอนเทนเนอร์ที่ตรวจพบการปนเปื้อน-กระป๋องบวม ไม่เกี่ยวด้านความปลอดภัย สรุปภาวะซื้อขายตลาดหุ้น 25 ต.ค.56 vdo.gif สรุปภาวะซื้อขายตลาดหุ้นไทย 25 ต.ค.56 แนวโน้มการลงทุนสัปดาห์หน้า ติดตามได้ใน Market Wise "กรุงเทพธุรกิจทีวี" 'ธิดา'ปัด'ทักษิณ'เคลียร์ ย้ำจุดยืนไม่เปลี่ยน เนืองแน่นสรงน้ำพระศพสมเด็จพระสังฆราช จับโจรสลัดปล้นเรือขนเงินกลางทะเล200ลบ. ธปท.ประกาศ30ธ.ค.วันหยุดพิเศษธนาคาร

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ เพิ่มขึ้นแตะ 12,460 HKD/tael

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2556 17:35:19 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 60 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,460 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,349.57 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 6.5 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

 

ราคาน้ำมัน WTI เพิ่มเล็กน้อย ขณะตลาดมีกระแสวิตกสต็อกน้ำมันดิบพุ่งสูง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 25 ตุลาคม 2556 19:19:58 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนพ.ย.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ขยับขึ้น 37 เซนต์ สู่ระดับ 97.48 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อเวลา 11:33 น. ตามเวลาลอนดอน ในขณะที่ตลาดถูกปกคลุมด้วยกระแสคาดการณ์ที่ว่าผลผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์นั้นจะหนุนให้สหรัฐมีสต็อกน้ำมันดิบพุ่งสูง

โดยสัญญาน้ำมันดิบแกว่งตัวผันผวนอยู่ในแดนบวกสลับกับแดนลบ ขณะที่นักลงทุนมีความกังวลเรื่องสต็อกน้ำมันดิบหลังจากที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 18 ต.ค. พุ่งขึ้น 5.2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 379.8 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4 ล้านบาร์เรล

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: interdesk@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

*ย้อนหลัง* เทปพิเศษวันปิยมหาราช รายการ Money Biz ทาง Money Channel สัมภาษณ์คุณธนพล จุฑาวรากุล รองประธานบริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ จำกัด เกี่ยวกับแนวโน้มราคาทองคำไตรมาส 4 พร้อมปัจจัยและเหตุการณ์ที่ต้องติดตาม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รับรู้ข่าวสารอย่างมี"สติ"และ"ตื่นรู้"

 

 

603133_526278100788998_1245043574_n.jpg

สมเด็จพระญาณสังวร - Somdet Phra Nyanasamvara ·

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก:ทองคำปิดบวก$2.2 ตลาดคาดเฟดมีแนวโน้มเดินหน้าใช้QE

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2556 08:33:20 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) ทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันนานเกือบ 3 สัปดาห์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 1,352.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 22.639 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 18.3 เซนต์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.55 เซนต์ ปิดที่ 3.2690 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,455.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 70 เซนต์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 747.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 10 เซนต์

สำหรับภาพรวมการซื้อขายตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 2.9% ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.7% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเดือนต.ค.ร่วงลงแตะระดับ 73.2 จากระดับ 77.5 ในเดือนก.ย. และยังต่ำกว่าระดับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเพิ่มความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไปอีก สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th-

 

ภาวะตลาดน้ำมัน:น้ำมันWTIเพิ่มขึ้น74เซนต์ รับสต๊อกภาคค้าส่งสหรัฐปรับตัวขึ้น

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2556 07:58:40 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) ขานรับสต็อกภาคค้าส่งของสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 3 เดือนในเดือนก.ย.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ ปิดที่ 97.85 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ที่ตลาดลอนดอนลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 106.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 3.7% ทำสถิติขยายตัวสูงสุดในรอบ 3 เดือน เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากอุปสงค์เครื่องบินพาณิชย์และเครื่องบินกองทัพที่ขยายตัวแข็งแกร่ง ซึ่งช่วยชดเชยยอดสั่งซื้อสินค้าทุนที่ปรับตัวลดลงในเดือนที่ผ่านมาได้เป็นอย่างดี

เทรดเดอร์เชื่อว่า การปรับตัวขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนจะนำไปสู่อุปสงค์ที่แข็งแกร่งในด้านน้ำมัน ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดน้ำมัน

เอชเอสบีซี โฮลดิงส์ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 50.9 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน เทียบกับ 50.2 ในเดือนก.ย. ซึ่งส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจจีน

การปรับตัวขึ้นของดัชนี PMI ของจีนบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่อันดับที่สองของโลก จะยังคงแข็งแกร่งในเดือนต.ค. ซึ่งเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งนำไปสู่อุปสงค์ที่แข็งแกร่งในด้านพลังงาน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก:ทองคำปิดบวก$2.2 ตลาดคาดเฟดมีแนวโน้มเดินหน้าใช้QE

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2556 08:33:20 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ต.ค.) ทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันนานเกือบ 3 สัปดาห์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.2 ดอลลาร์ หรือ 0.16% ปิดที่ 1,352.5 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 22.639 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 18.3 เซนต์ ส่วนสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.55 เซนต์ ปิดที่ 3.2690 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,455.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 70 เซนต์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 747.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 10 เซนต์

สำหรับภาพรวมการซื้อขายตลอดทั้งสัปดาห์ ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 2.9% ในสัปดาห์นี้ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.7% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐจากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนเดือนต.ค.ร่วงลงแตะระดับ 73.2 จากระดับ 77.5 ในเดือนก.ย. และยังต่ำกว่าระดับคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอเพิ่มความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไปอีก สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

ภาวะตลาดหุ้นอินเดีย: ดัชนี Sensex ปิดลบ 41.91 จุด จากแรงขายทำกำไร

วันเสาร์ ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2556, 06.00 น.

tags : แบงก์ชาติ, พาณิชย์, ส่งออก, เดี้ยง

[/url]

74386.jpg

 

เศรษฐกิจไทยขยายตัวต่ำเกินคาด ธปท. หั่น “จีดีพี” ปีนี้จาก 4.2% เหลือ 3.7% ส่งออกเดี้ยง! ขยายตัวแค่ 1% ขณะที่ “พาณิชย์” ยังยืนกรานจะทำให้ได้ที่ 4%

 

นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แถลงภาพรวมเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2556 ว่า เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจในกลุ่ม อาเซียน (ASEAN) รวมทั้ง เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ เนื่องจาก เศรษฐกิจไทยอุปสงค์ในประเทศชะลอตัวมากกว่าคาดและการส่งออกฟื้นตัวล่าช้า ส่วนแรงกดดันเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากภาครัฐออกมาตรการเพื่อดูแลเสถียรภาพของเศรษฐกิจโดยรวมแล้วอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าไทยมีแนวโน้มไม่ต่างจากที่ประเมินไว้เดิม

“เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มชะลอตัวมากกว่าที่เคยคาดไว้ การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มพักฐานนานกว่าที่คาด โดยเฉพาะการซื้อสินค้าคงทนซึ่งชะลอลงหลังจากสิ้นสุดมาตรการรถคันแรก ในขณะที่ผู้บริโภค ระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้นเนื่องจากความเชื่อมั่นลดลงและมีภาระหนี้เพิ่มขึ้น ประกอบกับแรงกระตุ้นภาครัฐมีน้อยกว่าที่คาดไว้เดิม ทั้งรายจ่ายในงบประมาณที่ล่าช้าและรายจ่ายในแผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานที่คาดว่า จะเลื่อนออกไปเริ่มดำเนินการในปี 2557”

สำหรับการส่งออกยังฟื้นตัวล่าช้า และยังไม่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้อย่างเต็มที่ ส่วนหนึ่งเนื่องจากสินค้าส่งออกของไทยที่ใช้เทคโนโลยีสูงยังมีสัดส่วนน้อย เมื่อเทียบกับความต้องการของตลาดโลก อย่างไรก็ดีเชื่อว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2557 มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นจากปีนี้ เนื่องจากคาดว่าการบริโภคภาคเอกชนน่าจะปรับตัวเข้าสู่สภาวะปกติในปีหน้า

“จากการประเมินภาพเศรษฐกิจข้างต้น คณะกรรมการฯ จึงปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย หรือจีดีพี ในปี 2556 และ 2557 ลงจากที่เคยคาดไว้เดิม ปรับลดเป้าหมายการขยายตัวผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในปีนี้ขยายตัว 3.7% จากเดิมคาด 4.2%”

ส่วนการส่งออกคาดขยายตัวเพียง 1% จากเดิมคาด 4% รวมถึงในปี 2557 จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ 5.0% ลดลงเหลือ 4.8% ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจไทยยังคงโน้มไปทางด้านต่ำ จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่เปราะบาง และมีความเสี่ยงจากการใช้จ่ายโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของ ภาครัฐที่อาจล่าช้ากว่าที่คาดไว้ พร้อมทั้งปรับประมาณการเงินเฟ้อทั่วไปลดลง เหลือ 2.2% ในปี 2556 และ 2.4% ในปี 2557 ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าแรงกดดันด้านอุปสงค์อาจน้อยกว่าที่ประเมินไว้ในกรณีฐานเนื่องจากความเสี่ยงต่อประมาณการเศรษฐกิจในด้านต่ำมีมากขึ้น

ในวันเดียวกัน นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงถึงภาพรวมการค้าระหว่างประเทศประจำเดือนกันยายน 2556 ว่า สถานการณ์การส่งออกยังไม่ค่อยดีนัก โดยในเดือนกันยายน การส่งออกมีมูลค่า 19,303.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 7.09% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้ามีมูลค่า 18,830.5 ล้านเหรียญสหรัฐลดลง 5.23% ส่งผลให้ไทยเกินดุลการค้าสะสมมา 473.2 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนการส่งออกใน 9 เดือนแรกของปี’56 มีมูลค่า 172,139.8 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 0.05% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การนำเข้ามีมูลค่า 189,813.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 2.21% ส่งผลให้ 9 เดือนไทยขาดดุลการค้าสะสม 17,674.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมองว่าการที่การส่งออกของไทยมีความผันผวนมาก เป็นเพราะนโยบายเศรษฐกิจไทยที่เน้นตลาดในประเทศมากขึ้น ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ส่งออกลดลงไป

อย่างไรก็ตามยังประเมินว่าตัวเลขการส่งออกของไทยในปี’56 จะสามารถได้ 4% นั้น ในช่วง 3 เดือนที่เหลือของปีนี้จะต้องมีการส่งออกให้ได้เดือนละ 22,089 ล้านเหรียญสหรัฐ หากสามารถส่งออกได้ 21,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือนก็จะทำให้การส่งออกโตได้ 2.6% แต่ถ้าสามารถส่งออกได้เพียง 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือนก็จะทำให้การส่งออกโตได้ 1.3% เท่านั้น ซึ่งทางกระทรวงก็ยังคงเป้าส่งออกทั้งปีไว้ที่ 3-4% เช่นเดิมแม้ว่าหลายฝ่าย อาทิ ธปท.จะปรับลดการส่งออกให้เหลือ 1% และกระทรวงพาณิชย์จะพยายามทำให้เต็มที่และดีที่สุด ส่วนความชัดเจนของตัวเลขการส่งออกทั้งหมดคาดว่าจะทราบได้ในวันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ส่วนแนวโน้มการส่งออกของไทยในปี 2557 ยังเชื่อว่า มีโอกาสที่จะเติบโตได้ 5%

“พาณิชย์ยังตั้งเป้าส่งออกปีนี้ไว้ที่ 3-4% เพราะเชื่อว่าเป้าอยู่ที่ความพยายามว่าจะทำได้หรือไม่ และเราอยากทำให้ได้

เท่าไหร่ และมองว่าการที่ธปท.ให้ส่งออกปีนี้โตเพียง 1% นั้นน้อยไปหน่อย แต่ก็เข้าใจว่าการไปบังคับให้ใครมาซื้อสินค้าไทยมันเป็นไปไม่ได้ แต่ตัวเลขส่งออกก็เป็นเป้าหมายที่เราจะพยายามทำให้ถึงที่สุด” นางศรีรัตน์ กล่าว

 

 

สวัสดีวันหยุด news bas คุณๆ พี่น้องเพื่อนๆ พักผ่อนสบายใจนะคะ

1396020_675229022497169_722041387_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...