ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

 

การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ

วันที่ 26 ตุลาคม 2556 08:15

 

ดาวโจนส์-ทอง-น้ำมันพุ่ง รับผลประกอบการ

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_538869_1.jpg

ดาวโจนส์ปิดบวก 61.07 จุด ปิดที่ 15,570.28 จุด S&P 500 พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รับผลประกอบการเอกชนสดใส ราคาน้ำมัน-ทอง ขยับขึ้นเล็กน้อย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 61.07 จุด หรือ 0.39% ปิดที่ 15,570.28 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 7.70 จุด หรือ 0.44% ปิดที่ 1,759.77 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 14.40 จุด หรือ 0.37% ปิดที่ 3,943.36 จุด จากการรายงานผลประกอบการที่สดใสของภาคเอกชน ดัชหุ้น S&P 500 พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบ ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ งวดส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ หรือ +0.76 เปอร์เซ็นต์ ปิดที่ 97.85ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ส่วน เบรนท์ ลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 106.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ราคาทองคำ ตลาดนิวยอร์ก เพิ่มขึ้น 2.20 ดอลลาร์ หรือ +0.16 เปอร์เซ็นต ปิดที่ 1,352.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

Tags : ราคาทองตลาดหุ้นสหรัฐดาวโจนส์น้ำมัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปภ.สรุป 16จังหวัดยังน้ำท่วม http://bit.ly/1g1M1Dk

#น้ำท่วม #Posttoday #โพสต์ทูเดย์

 

 

1374972_10151956547034835_1871065946_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

news_img_538871_1.jpg

นำเข้าทองคำพุ่ง ต่างชาติขนเงินกลับ ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดกระจาย

รายงานนโยบายการเงินจัดทำขึ้นเป็นรายไตรมาส โดยเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยความเห็นชอบของคณะกรรมการนโยบายการเงิน เพื่อสื่อสารแนวคิดและเหตุผลของการตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงินของคณะกรรมการต่อสาธารณชน และเพื่อเสนอกรอบประมาณการภาวะเศรษฐกิจ และแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่ชัดเจนและมองไปข้างหน้า ในรายงานนโยบายการเงินเดือนตุลาคม 2556 มีประเด็นขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งเป็นจุดกังวลว่าอาจจะเป็นจุดอ่อนทำให้เกิดการโจมตีค่าเงินเหมือนเช่นวิกฤตการเงินในปี 2540 แต่ธปท.ยังมั่นใจว่าไม่น่าเป็นห่วง

"ธนาคารแห่งประเทศไทย" (ธปท.) เปิดเผย รายงานนโยบายการเงิน ประจำเดือน ต.ค.2556 โดยระบุว่า ตั้งแต่หลังเกิดวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ภาพรวมความเคลื่อนไหวของดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยมีแนวโน้มเกินดุลมาอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจัยที่ส่งเสริมให้ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลนั้น มาจากการเกินดุลการค้าเป็นหลัก ต่างจากช่วงก่อนปี 2540 ที่ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยขาดดุลอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จากการขาดดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย ที่มีการนำเข้าสินค้าเพื่อลงทุน โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีความต้องการลงทุนเพื่อเก็งกำไรสูง รวมถึงการพึ่งพาเงินกู้จากต่างประเทศเพื่อการลงทุน

ผลจากพฤติกรรมดังกล่าว ส่งผลให้ราคาสินทรัพย์ต่างๆ ปรับสูงกว่าพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนต่างชาติ สูญเสียความเชื่อมั่น ต่อเศรษฐกิจไทยและเกิดการโจมตีค่าเงินบาทเกิดขึ้น เนื่องจากประเทศไทยเปิดเสรีเงินทุนเคลื่อนย้าย โดยใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่คงที่ ไม่ได้เป็นระบบการปล่อยลอยตัวค่าเงินบาทในปัจจุบัน จนนำไปสู่การภาวะวิกฤติการเงินในปี 2540

แม้ในปี 2555 จนถึงไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 ดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาขาดดุลได้อีกครั้ง โดยเฉพาะในไตรมาสที่ 2 สัดส่วนการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศจะอยู่ที่ 6.7% แต่การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ในปัจจุบันนั้นต่างจากวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 อย่างมาก เนื่องจากการขาดดุลครั้งนี้ไม่ได้สะท้อนความร้อนแรงของเศรษฐกิจหรือความไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ โดยการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในรอบนี้นั้นเกิดจากหลายปัจจัยด้วยกัน

รายงานนโยบายการเงินของ ธปท.ระบุว่า การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดในรอบนี้มาจาก ปัจจัยแรกการนำเข้าทองคำสุทธิเพิ่มขึ้นมาก ตามผลตอบแทนจากนักลงทุนให้ความนิยมและหันมาลงทุนทองคำมากขึ้น โดยในช่วงที่ผ่านมา ความต้องการทองคำนั้น มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น ตามความต้องการลงทุนทองคำส่วนหนึ่งมาจากภาวการณ์อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำ และการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มีความผันผวนรุนแรง ส่งผลให้นักลงทุนให้ความสนใจการลงทุนในทองคำมากขึ้น

แต่การนำเข้าทองคำไม่ได้มีผลต่อกิจกรรมในภาคเศรษฐกิจจริง ทั้งในภาคของการผลิต และไม่ก่อให้เกิดการจ้างงานมากนัก ดังนั้นการประเมินเสถียรภาพทางเศรษฐกิจจากภาวะดุลบัญชีเดินสะพัดควรพิจารณาจากดุลบัญชีเดินสะพัดไม่รวมทองคำเป็นหลัก หากไม่รวมทองคำเข้าไป ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยยังคงอยู่ในภาวะเกินดุล สะท้อนความสามารถในการแข่งขันของไทยไม่ให้ลดลงมากนัก

ปัจจัยต่อมานั้น มาจากกำไรและเงินส่งกลับประเทศสูงกว่าปกติ โดยในไตรมาสที่ 2 ของปี 2556 กำไรและเงินส่งกลับประเทศของธุรกิจของนักลงทุนต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ปีที่ผ่านมามีการเติบโตอย่างรวดเร็วจากอานิสงส์ของมาตรการคืนเงินภาษีรถยนต์คันแรก ผลักดันให้ผลประกอบการในปี 2555 นั้นออกมาอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทำให้นักลงทุนต่างชาตินำส่งเงินและกำไรกลับต่างประเทศสูงกว่าช่วงปกติ

ขณะที่ อีกส่วนหนึ่งของกำไรของธุรกิจต่างชาติในประเทศไทยที่ไม่ได้ส่งกลับประเทศ แต่นำกลับมาลงทุนในประเทศไทยใหม่นั้น เพิ่มขึ้นตามผลประกอบการของภาคธุรกิจในปีก่อน แม้การรวมข้อมูลกำไรที่นำกลับมาลงทุน ( Reinvested Earnings) ที่เพิ่มขึ้น นับเป็นรายจ่ายในดุลบริการ ทั้งรายได้ และเงินโอน แต่รายจ่ายที่เพิ่มขึ้นนี้ ไม่ได้มีความน่ากังวลแต่อย่างใด เพราะเป็นกำไรที่ผู้ประกอบการต่างชาตินำกลับมาลงทุนใหม่ในประเทศไทย และไม่ได้ทำให้ดุลการชำระเงินโดยรวมเปลี่ยนแปลง

อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวโน้มดุลบัญชีเดินสะพัดต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ในช่วงที่เหลือของปี 2556 คาดว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดจะยังคงขาดดุลต่อเนื่อง แต่จะมีทิศทางที่ดีขึ้นจากไตรมาสที่ 2 จากดุลการค้าที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงสิ้นปีตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัว ในขณะที่ดุลบริการ รายได้ และเงินโอน มีแนวโน้มขาดดุลลดลงจากรายรับการท่องเที่ยวที่ขยายตัวต่อเนื่อง

ประกอบกับการส่งกำไรและเงินปันผลกลับไปยังประเทศของผู้ประกอบการต่างชาติลดลง เนื่องจากผลประกอบการของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมยานยนต์จะลดลงมาตามมาตรการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล ที่เริ่มทยอยหมดไป ไม่ร้อนแรงเหมือนปีที่ผ่าน ประกอบกับในไตรมาสที่ 4 ของปีการส่งกลับกำไรและเงินปันผลจะลดลงตามปัจจัยด้านฤดูกาล

ส่วนความเคลื่อนไหวของดุลบัญชีเดินสะพัดในระยะยาวนั้น ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทย จะมีแนวโน้มขาดดุลต่อเนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลงประกอบกับความสามารถในการแข่งขันของไทยในสินค้าบางชนิดนั้น โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อย่าง ฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟ และแผงวงจรรวม ที่มีทิศทางลดลง จากความนิยมของอุปกรณ์สมาร์ทโฟนและแทบเล็ตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความนิยมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ลดลง ทำให้การส่งออกของไทยน่าจะได้รับผลกระทบจากการฟื้นตัวที่ช้ากว่าปกติ และการฟื้นตัวของการส่งออกของไทยนั้นจะมีการเติบโตที่ช้ากว่าประเทศอื่นในภูมิภาค

ต่างกับการนำเข้าสินค้านั้น คาดว่า จะขยายตัวตามแผนการลงทุนโครงการสาธารณูปโภคของภาครัฐบาล ทั้งโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท และโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท ทำให้ประเมินว่าการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยนั้นจะเป็นที่น่ากังวลหรือไม่นั้น สิ่งที่สำคัญ คือ สาเหตุที่ทำให้การขาดดุล หากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเกิดจากปัจจัยที่ส่งผลเสียต่อภาคเศรษฐกิจจริงและภาคการเงิน อาทิ การนำเข้าเพื่อบริโภคที่อาจจะขยายตัวมากจนเกินไป ทำให้ประเทศต้องมีภาระหนี้สินที่สูงขึ้นจากการพึ่งพาเงินกู้จากต่างประเทศในขณะที่การลงทุนในประเทศอยู่ในระดับต่ำจะเป็นเรื่องที่น่ากังวล

เพราะสาเหตุเหล่านี้ นอกจากไม่ทำให้ประเทศไทยมีการเติบโตในระยะยาวแล้ว ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อเสถียรภาพการเงินและเสถียรภาพต่างประเทศของไทย ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดีก็ถือว่าการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดยังไม่สะท้อนภาวะที่น่ากังวลจนเกินไป รวมถึงปัจจุบันไทยใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบลอยตัวภายใต้การจัดการของ ธปท. ซึ่งมีความยืดหยุ่นและช่วยให้ดุลบัญชีเดินสะพัดสามารถปรับตัวได้ตามกลไกตลาด

Tags : ขาดดุลนำเข้าทองส่งออกเงินไหลออกต่างชาติขนเงินกลับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เจพีมอร์แกนยอมจ่ายค่าปรับ5.1พันล้านดอลล์ตามข้อกล่าวหาขายทรัพย์สินด้อยคุณภาพ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2556 16:25:25 น.

เจพี มอร์แกน เชส ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อวัดจากมูลค่าทรัพย์สิน ตกลงจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 5.1 พันล้านดอลลาร์ให้กับสำนักงานเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) ตามคำร้องเรียนในเรื่องการขายหลักทรัพย์ที่มีสัญญาจำนองค้ำประกัน (MBS) ในช่วงก่อนเกิดวิกฤตการเงินในปี 2551

แถลงการณ์ของ FHFA ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่กำกับดูแลสมาคมการจำนองแห่งชาติของรัฐบาลกลาง (แฟนนี เม) และบรรษัทจำนองสินเชื่อบ้านของรัฐบาลกลาง (เฟรดดี แมค) ระบุว่า ค่าปรับดังกล่าวแบ่งเป็นเงินสดจำนวน 4 พันล้านดอลลาร์สำหรับการแก้ปัญหาตามคำร้องเรียนที่ว่า เจพีมอร์แกนทำให้แฟนนี เม และ เฟรดดี แมค เข้าใจผิดเกี่ยวกับคุณภาพของ MBS ที่ธนาคารเสนอขายในระหว่างปี 2548-2550

ข้อตกลงดังกล่าวรวมไปถึงค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 1.1 พันล้านดอลลาร์สำหรับข้อกล่าวหาที่ว่า เจพีมอร์แกนได้ขาย MBS ที่มีความเสี่ยงให้กับทั้งสองหน่วยงานในระหว่างปี 2543-2551

เอ็ดวาร์ด เดอมาร์โค รักษาการผู้อำนวยการของ FHFA ระบุว่า “การจ่ายค่าปรับดังกล่าวสร้างความแน่นอนให้กับตลาดและสอดคล้องกับความรับผิดชอบของเราในการคุ้มครองทรัพย์สินของแฟนนี เม และ เฟรดดี แมค ในนามของผู้เสียภาษี"

ด้านแถลงการณ์ของเจพีมอร์แกนระบุว่า “การจ่ายค่าปรับเป็นจำนวนเงิน 5.1 พันล้านดอลลาร์นับเป็นความคืบหน้าครั้งสำคัญ สำหรับการแก้ปัญหาเกี่ยวกับ MBS ระหว่างบริษัทและหน่วยงานอื่นๆของรัฐบาล" สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

 

รองนายกฯจีนเรียกร้องจีน-อียูเพิ่มความร่วมมือด้านการลงทุน,เทคโนโลยี

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2556 14:38:08 น.

นายหม่า ไค รองนายกรัฐมนตรีของจีน กล่าววานนี้ว่า จีนและสหภาพยุโรป (อียู) ควรเตรียมความพร้อมสำหรับการเจรจาในเรื่องข้อตกลงด้านการลงทุนและขยายความร่วมมือในหลายเรื่องๆ เช่น เทคโนโลยีสมัยใหม่

นายหม่ากล่าวในที่ประชุมว่าด้วยความร่วมสัมพันธ์ด้านการค้าและเศรษฐกิจระหว่างจีน-อียูร่วมกับนายโฮเซ มานูเอล บาร์โรโซ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปว่า ความร่วมมือระหว่างจีนและอียูจะไม่เป็นผลดีเฉพาะแต่ทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่จะรวมไปถึงทั่วโลก

ด้านนายบาร์โรโซระบุว่า การประชุมเชิงกลยุทธ์ระหว่างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนและอียูถือเป็นเรื่องที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นการวางกำหนดแนวทางสำหรับการประชุมสุดยอดระหว่างจีน-อียูที่จะมีขึ้นในปักกิ่งในเดือนหน้า ซึ่งเป็นการประชุมครั้งแรกของอียูกับผู้นำชุดใหม่ของจีน

นายบาร์โรโซได้กล่าวขอบคุณจีนที่สนับสนุนการรวมตัวกันของยุโรปและเงินสกุลยูโรมาอย่างยาวนาน

นายหม่าระบุว่า ก่อนหน้านี้ เขาได้ประชุมร่วมกับนายเอลิโอ ดี รูโป นายกรัฐมนตรีเบลเยี่ยมในประเด็นการขยายความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งปัจจุบันกำลังมีความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในทุกๆด้าน พร้อมกับระบุว่า จีนต้องการจะขยายการค้าและส่งเสริมการลงทุนร่วมกับเบลเยี่ยม สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

 

“โอบามา เรียกประชุมผู้นำเดโมเครทก่อนเจรจาเรื่องงบประมาณกับรีพับลิกัน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2556 12:52:00 น.

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐได้หารือกับผู้นำพรรคเดโมเครทในประเด็นงบประมาณรัฐบาลเมื่อวันวานนี้ ก่อนที่พรรคเดโมแครทและรีพับลิกันมีกำหนดจะเริ่มต้นการเจรจาในเรื่องดังกล่าวในสัปดาห์หน้า

นายจอช เอิร์นเนสท์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวในงานแถลงข่าวบนเครื่องบินแอร์ฟอร์ซวันว่า นายโอบามาได้เรียกประชุมผู้นำพรรคเดโมแครทเมื่อวันวานนี้ ซึ่งรวมไปถึงนายแฮร์รี รีด ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา, นางแนนซี เปโลซี ผู้นำเสียงข้างน้อยในรัฐสภา และนางแพตตี เมอร์เรย์ คณะกรรมการงบประมาณของวุฒิสภา

นายเอิร์นเนสท์ระบุว่า ประนาธิปดีโอบามาได้ขอบคุณผู้นำพรรคเดโมแครทที่พยายามหาทางออกในเรื่องความท้าทายเกี่ยวกับงบประมาณ และได้เน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญกับการขยายตัวของเศรษฐกิจและการสร้างตำแหน่งงานสำหรับครอบครัวชนชั้นกลาง ซึ่งนโยบายดังกล่าวเป็นเรื่องที่ผู้นำฝ่ายนิติบัญญัติควรสนับสนุนเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐชะลอตัวลง

ทั้งนี้ การประชุมในเรื่องงบประมาณซึ่งจะมีคณะกรรมการจากทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมประชุมจำนวน 29 คน ตามข้อตกลงร่วมกันเพื่อยุติการปิดการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐบาลเป็นเวลา 16 วัน จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าเพื่อปรับความเห็นให้สอดคล้องกันระหว่างข้อเสนองบประมาณปี 2557 ของรัฐสภาและของวุฒิสภาที่ได้อนุมัตไปเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

 

 

กสิกรฯคาดสัปดาห์หน้าเงินบาทเคลื่อน30.90-31.20จับตาประชุมเฟด, ตัวเลขศก.

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2556 14:19:44 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดสัปดาห์หน้า (28 ต.ค.-1 พ.ย.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหว ในกรอบ 30.90-31.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยต้องจับตาผลการประชุมนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐฯ วันที่ 29-30 ต.ค. รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญนอกจากนี้ ตลาดการเงินในประเทศอาจจับตารายงานข้อมูลเศรษฐกิจเดือนก.ย. และอัตราเงินเฟ้อเดือนต.ค. ของไทยด้วยเช่นกัน

อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: jumnain@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

NationPhoto

หมอ และ พยาบาล จากโรงพยาบาลรามาประมาณ 50 คน ได้เดินทางมาร่วมกับผู้ชุมนุมกับกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.) มีการมีป้ายข้อความ ต่อต้านร่างแก้ไข พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และโค่นล้มระบอบทักษิณ ที่แยกอรุพงษ์ Photographer สุกล เกิดในมงคล (Sukul Kerdnaimongkol)#nationphoto

 

 

1437_10151952928557855_1802967568_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หอการค้าฯค้านรัฐบาลขึ้นVATห่วงกำลังซื้อลด หอการค้าฯค้านขึ้น VAT เป็น 10% หวั่นกระทบกำลังซื้อ แนะรีดภาษีมูลค่าเพิ่มสินค้าฟุ่มเฟือยเพิ่ม-ลดภาษีสินค้าจำเป็นครองชีพ อัดรัฐคิดง่ายเกิน! ห่วงรัฐติดกับดักประชานิยม-นิรโทษ ห่วงรัฐติดกับดักประชานิยม-นิรโทษกรรม ลงทุน2ล้านล้านไม่เกิด-ต่างชาติเผ่น สหรัฐประท้วงให้รัฐบาลยุติโครงการสอดแนม ชาวสหรัฐเดินขบวนที่ด้านนอกอาคารรัฐสภาเมื่อวานเพื่อคัดค้านโครงการสอดแนมผู้ใช้อินเตอร์เน็ต น้ำท่วมอินเดียตาย39 อพยพปชช.7หมื่นคน กองทุนส่วนบุคคลลงทุนต่างแดน ตอนที่ 1 จี้เร่งผุดรถไฟฟ้าไม่มีขาดทุน 'กองประหยัดภาษี' ความหวังหุ้นโค้งสุดท้าย

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

  • 'ธนินท์'แนะ 2 วิธีแก้ขาดทุนจำนำข้าว
  • ดวงรายสัปดาห์ 27 ตุลาคม-2 พฤศจิกายน พ.ศ.2556
  • เรียก'หมอนิ่ม'สอบรอบ 4 ปมฆ่า'เอ็กซ์'
  • 10ข้อคิดวางแผนเกษียณอายุ(ตอนที่ 2)
  • ปลัดคลังจ่อรื้อ'ปิดบัญชีจำนำ'

  •  
    การเมือง : คุณภาพชีวิต

    วันที่ 26 ตุลาคม 2556 07:27
     
    'สังฆราช'สมณะผู้ทรงธรรม

    โดย : ผกามาศ ใจฉลาด
    "สมเด็จท่านสิ้นพระชนม์แล้ว"เสียงสั่นเครือของพระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัย 53 ปี


    หลังสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2556 เวลา 19.30 น. ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ บรรดาลูกศิษย์ ผู้รับใช้ใกล้ชิด พุทธศาสนิกชนที่ไปนั่งสวดมนต์และนั่งเจริญจิตตภาวนาอยู่นอกห้องที่ประทับ ต่างเศร้าสลดใจ แม้ปากจะนั่งสวดมนต์อธิษฐานจิตส่งเสด็จพระองค์ท่าน แต่เสียงสวดมนต์ปนไปด้วยเสียงสะอื้นและใบหน้าที่มีน้ำตาอาบแก้ม
    ณ เวลานี้ พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ กล่าวถึงความรู้สึกที่มีต่อสมเด็จพระสังฆราชว่า การเคารพนับถือพระองค์ท่านไม่ได้อยู่แค่ในฐานะพระอาจารย์กับลูกศิษย์ แต่พระองค์ท่านเป็นเสมือนพ่อที่ดูแลสั่งสอนมาตั้งแต่เด็ก
    "สมเด็จพระสังฆราชเสด็จประเทศเนปาลเมื่อปี 2513 ทรงรับปากคณะสงฆ์เนปาลไว้ว่า จะช่วยฝึกพระเณรประเทศเนปาล เพื่อได้รับการศึกษาที่ถูกต้องและกลับไปเผยแผ่ ก่อนหน้านั้นบวชเณรที่ศรีลังกา 9 เดือน จากนั้นอาตมาได้เข้าเฝ้าถวายตัวสมเด็จพระสังฆราชครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 เม.ย. 2518 อาตมาไม่ทราบว่าหน้าตาสมเด็จพระสังฆราชเป็นอย่างไร มาจากสนามบินพระอาจารย์จากเนปาลก็นำเข้าเฝ้าถวายตัวสมเด็จพระสังฆราช"
    พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ เล่าว่าจำได้ว่าเมื่อได้เข้าเฝ้าครั้งแรกพอกราบเสร็จ พระองค์ก็ให้ไปหาพระเลขาที่กุฏิข้างๆ ความทรงจำตอนนั้นเห็นพระพักตร์ครั้งแรก จำได้แค่ว่า ทรงยิ้ม พระพักตร์เปี่ยมด้วยพระเมตตา ทรงรับสั่งเป็นภาษาอังกฤษหรือภาษาไทยก็จำไม่ได้ แต่ทรงทราบดีว่าอาตมาเป็นสามเณรเนปาลเชื้อสายศากยวงศ์
    "อาตมานับว่าเป็นโชคดีอย่างยิ่ง ที่ได้มาอยู่ในพระเมตตาอุปถัมภ์ดูแลเหมือนกับลูกคนหนึ่งของพระองค์ การมีเชื้อศากยวงศ์ของอาตมา พระองค์มีความโปรดปรานเป็นพิเศษตรงที่ว่า เป็นเชื้อสายศากยวงศ์ของพระพุทธเจ้า เวลาเสด็จเนปาลพระองค์มักจะถามเรื่องนี้ หรือเวลาอยู่ในไทยทรงจะชี้ให้ทุกคนเห็นว่า นี่เขาเป็นเชื้อสายศากยวงศ์นะ แสดงให้เห็นว่าทรงมีความภาคภูมิใจในความเป็นศากยะระดับหนึ่ง แต่อาตมาเองไม่มีอะไรเป็นลูกศิษย์คนหนึ่งที่ได้มีโอกาสสนองงานถวาย รู้สึกโชคดีที่ทรงไว้วางพระทัย มีโอกาสสนองงานถวายเทียบกับสามเณรและพระวัดบวรมีกว่า 20 รูปขณะนั้น"
    เรียนจบปริญญาเอกด้านมานุษยวิทยามา เป็นการผลักดันของสมเด็จพระสังฆราชเอง ไม่ใช่เป็นความใฝ่ฝันของอาตมาเลย ทรงให้ไปศึกษา เมื่ออาตมากลับมาก็ทรงภูมิพระทัยบอกว่านี่เขาเป็น"ดอกเตอร์"แล้วนะ ทรงชี้ว่าหน้าที่ของคุณตอนนี้ก็คือ สอนสิ่งที่คุณเรียนมา ทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปจากที่อยู่ในการบริหารและงานเอกสาร ต้องเจอผู้คน เมื่อสมเด็จพระสังฆราชขีดเส้นให้อย่างนั้น ในฐานะลูกศิษย์ก็น้อมรับ พยายามทำตัวให้ดีที่สุด เริ่มทำหน้าที่เป็นครูบาอาจารย์สอนในสิ่งที่เรียนมา
    การอบรมสั่งสอนของสมเด็จพระสังฆราช เป็นไปอย่างมีแบบแผน พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ บอกว่า สมัยเป็นสามเณรชอบนึกเสมอว่าทำไมต้องเป็นเรา อยากจะเล่น อยากจะหนี แต่ถูกบังคับให้มาอยู่กับสมเด็จพระสังฆราช แต่ตอนนี้หากมองย้อนกลับไปอาตมารู้สึกโชคดีที่ทรงไว้วางพระทัย
    "สิ่งที่สมเด็จพระสังฆราชทรงสอนนั้น คงยากจะย่อความออกมา ในสิ่งที่ทรงทุ่มเทให้อาตมา แต่สิ่งที่เห็นคือ การวิจัย การวิจารณ์ การพัฒนาโยนิโสมนสิการเรื่องข้อธรรมะต่างๆ สมเด็จพระสังฆราช จะมีจุดเด่นที่ว่าพระองค์ทรงโปรดที่จะวิเคราะห์ข้อธรรม ไม่ใช่ว่ารับเข้ามาเฉยๆ พระองค์จะทรงนั่งสอนว่าดูสิพระไตรปิฎกนี้อ่านเมื่อไหร่ก็ได้ความรู้ใหม่ๆแม้ว่าอ่านมา 30-40 ปีก็ตาม ซึ่งแต่ละประเด็นที่ทรงยกตัวอย่างแสดงให้เห็นว่ามีวิธีคิดใหม่ๆ หรือว่าวิธีที่ทรงสอนเอง บางครั้งทรงสอนแบบไม่มีข้อกังขา ทำให้จุดหนึ่งเรากล้าที่จะศึกษา กล้าที่จะค้นคว้า"
    "ความอ่อนน้อมถ่อมตน เรียบง่าย"คือสิ่งที่พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ มีสมเด็จพระสังฆราชเป็นต้นแบบ "จากพระจริยวัตรของพระองค์ ทรงอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่เคยถือพระองค์ว่าเป็นสมเด็จพระสังฆราช หากมีพระผู้ใหญ่เข้ามาแม้มีพรรษามากกว่าแค่ 1 วัน พระองค์จะลดพระองค์ลงมาจากอาสนะมากราบ เป็นผู้อ่อนน้อมถ่อมตนที่เห็นมาตลอด"
    ทรงเรียบง่าย มีความเป็นสมณะไม่อยู่อย่างหรูหรา เวลาเสด็จไปไหนไม่ได้รับจตุปัจจัยใดๆที่ญาติโยมถวายเลย ทรงถวายคืนเพื่อให้เขาไปทำบุญต่อ ทรงรับสั่งว่า เขานิมนต์พระสังฆราชและนิมนต์ด้วยความยากลำบาก ท่านบอกว่าไปไม่ใช่เพื่อรับของ แต่ไปเพื่อช่วยงานเขา เพื่อให้งานเขาสำเร็จและทรงทำเช่นนี้มาตลอด ก็เป็นภาพที่ประทับใจมาโดยตลอดว่านี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่า"สมณะ"
    Tags : สมเด็จพระสังฆราช




    news_img_538866_1.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

581817_609436062415951_120798484_n.jpg

สบายใจ วันหยุด

สวัสดี deb news bas เพื่อนๆ พี่น้อง คุณๆทุกท่าน

 

ชาวอเมริกันเดินขบวนประท้วงเรียกร้องสภาความมั่นคงแห่งชาติยุติการสอดแนม

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2556 08:59:33 น.

ชาวอเมริกันหลายร้อยคนได้เดินขบวนประท้วงการสอดแนมในโลกไซเบอร์ของสภาความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กลุ่มผู้ประท้วงเดินขบวนจากยูเนียน สเตชั่นมายังแคปิตอลในช่วงบ่ายวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ เพื่อประท้วงโครงการสอดแนมลับที่ใช่ชื่อว่า PRISM พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐยุติโครงการดังกล่าว ผู้ชุมนุมยังได้ชูแผ่นป้ายที่มีข้อความว่า ยุติการสอดแนม, ยุติการเฝ้าดูพวกเรา และ ขอบคุณเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดน

กลุ่มผู้ประท้วงยังได้รวบรวมลายเซ็นกว่า 5 แสนลายเซ็น เพื่อขอให้สภาคองเกรสยุติโครงการดังกล่าว

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.

 

สนง.สถิติจีนเผยกำไรภาคอุตสาหกรรม 3 ไตรมาสแรกปีนี้ เพิ่มขึ้น 13.5%

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2556 09:15:12 น.

สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น 13.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี แตะ 4.05 ล้านล้านหยวน หรือ 6.60 แสนล้านดอลลาร์ ในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2556

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเดือนม.ค.-ก.ย. บริษัทในภาคอุตสาหกรรมที่มีรายได้ต่อปีมากกว่า 20 ล้านหยวน หรือ 3.26 ล้านดอลลาร์ มีกำไร 4.05 ล้านล้านหยวน

ในเดือนก.ย.เพียงเดือนเดียว กำไรของบริษัทอุตสาหกรรมที่ผ่านการสำรวจ เพิ่มขึ้น 18.4% จากระดับปีที่แล้ว แตะ 5.58 แสนล้านหยวน ลดลงจากระดับการขยายตัวช่วงเดือนส.ค.ที่ 24.2% แต่เพิ่มขึ้นจากระดับเดือนก.ค.ที่ 11.6%

เหอ ผิง นักวิเคราะห์ของสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน กล่าวถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้น ราคาผู้ผลิตที่สูงขึ้น และต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลงยังคงเป็นสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังของการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของกำไรในภาคอุตสาหกรรม

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

ม็อบยางปักหลักปิดถนนเพชรเกษมที่บางสะพานน้อย จี้รัฐทำตามแถลงการณ์6ข้อ

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม 2556 10:29:23 น.

ชาวบ้านจากภาคีเครือข่ายชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ยังคงปักหลักชุมนุมที่บริเวณริมถนนเพชรเกษม โดยตั้งเวทีปราศรัยด้านข้างสถานีอนามัยบ้านศรีนคร หมู่ 7 ต.ช้างแรก อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมตัดต้นไม้ขนาดใหญ่ขวางถนนเพชรเกษม เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาผลผลิตตกต่ำตามแถลงการณ์ฉบับที่ 8 มีจำนวน 6 ข้อ คือ 1.ให้รัฐบาลชดเชยราคาพืชผลการเกษตรยางพารากิโลกรัมละ 100 บาท ปาล์มน้ำมันกิโลกรัมละ 6 บาท 2.ให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ดินทำกินให้กับเกษตรกรทั้ง 16 จังหวัด 3.ให้ผู้มีอำนาจลงมาพบกับเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ เพื่อตกลงกันภายในเวลา 12.00 น. วันที่ 27 ตุลาคม 4.ให้รัฐบาลย้าย พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรรสุข ผู้บังคับการตำรวจภูธรประจวบคีรีขันธ์ออกนอกพื้นที่ 5.หากรัฐบาลไม่ดำเนินการจะยกระดับการชุมนุม และ 6.ไม่ให้รัฐบาลเอาผิดกับผู้ชุมนุมและแกนนำเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราและปาล์มน้ำมัน 16 จังหวัดภาคใต้ ทั้งนี้ แกนนำมีเป้าหมายจะเจรจากับ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีและนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง

โดยส่งหนังสือผ่านนายสมพร ปัจฉิมเพชร นายอำเภอบางสะพานน้อย ตั้งแต่เมื่อกลางดึกของคืนที่ผ่านมา ส่วนบรรยากาศการชุมนุมเป็นไปด้วยความคึกคัก หลังจากมีชาวบ้านจากหลายจังหวัดในภาคใต้เดินทางมาสมทบ ทำให้การเดินทางขึ้นล่อง 14 จังหวัดภาคใต้โดยผ่านถนนเพชรเกษม รถทุกชนิดต้องใช้เส้นทางเบี่ยงสายบางสะพาน - หนองหัดไท

ด้านนายธีรพงศ์ แก้วนวล แกนนำภาคีเครือข่ายชาวสวนยาง จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการประเมินคาดว่า ภายในเที่ยงนี้อาจจะยังไม่มีตัวแทนรัฐบาลเดินทางมาเจรจาเพื่อยุติการชุมนุม ส่วนการยกระดับการชุมนุมยังมีอีกหลายขั้นตอน และการปิดถนนเลียบชายทะเลสายบางสะพาน—หนองหัดไท ถือเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่จะทำให้การจราจรใน 14 จังหวัดภาคใต้เป็นอัมพาตทันที ทั้งนี้ ยังยืนยันที่จะขอให้รัฐบาลตามแถลงการณ์ ฉบับที่ 8

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี โทร.02-2535000 ต่อ 322 อีเมล์: nisarat@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำท่วม'โคราช'ยังอ่วม!!มวลน้ำเริ่มถึง'อ.พิมาย'น้ำสูงสุด29-30ต.ค.นี้

http://www.naewna.com/local/74499

 

 

577231_633278400056289_532521100_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี และ ขอบคุณครับ คุณginger

 

 

 

 

 

 

 

คำแนะนำจากผู้จัดการกองทุน : “หากเชื่อมั่นในคณิตศาสตร์ ให้ซื้อทองคำ”

รายงานพิเศษ วันจันทร์ที่ 28 ตุลาคม 2556

ผู้เข้าชม : 5 คน

 

เบรนต์ จอห์นสัน ซีอีโอ บริษัท ซินติเอโก แคปิตอล เชื่อว่า ปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐจะทำให้ทองคำดีดตัว 200 ดอลลาร์ในช่วง 2 เดือนข้างหน้า และเขาไม่แปลกใจเลยที่ราคาทองจะกลับไปอยู่ที่ 1,500 หรือ 1,550 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ภายในปลายปีนี้

ทองคำไม่ได้แตะระดับ 1,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์มาตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน ซึ่งในตอนนั้นมันได้ปรับตัวลงมากกว่า 200 ดอลลาร์ในเวลาแค่สองวัน แต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ได้มีการตกลงซื้อขายทองคำกันที่ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ราคาทองได้ปรับตัวขึ้นมากกว่า 1% โดยทะลุเหนือระดับ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นครั้งแรกในรอบกว่าหนึ่งเดือนเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เนื่องจากมีแนวคิดว่าธนาคารกลางสหรัฐจะยังคงกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายเงิน หลังจากที่ข้อมูลการอ้างสิทธิ์ของคนตกงานใหม่ในสหรัฐได้สร้างความผิดหวัง จึงทำให้เกิดความสนใจซื้อทองขึ้นมาใหม่

ราคาทองคำแท่งดีดตัวขึ้นหลังจากที่จำนวนชาวอเมริกันที่ไปขอรับสิทธิประโยชน์ ของคนตกงานใหม่ ลดลงน้อยกว่าที่คาดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ แรงซื้อทางเทคนิคก็ทำให้ทองปรับตัวขึ้นหลังจากที่มันทะลุระดับแนวต้านสำคัญ ซึ่งเป็นอัตราเฉลี่ยของการเคลื่อนไหวในรอบ 50 วัน ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์หลายคนอ้างว่า มีความสนใจซื้อตราสารล่วงหน้าทองคำสหรัฐสูงสุดในรอบสองเดือนเพราะคาดว่า ทองคำแท่งจะดีดตัวขึ้น

ราคาทองในตลาดสปอตก็ปรับตัวขึ้นเป็น 1,351.61 ดอลลาร์ ซึ่งถือว่าสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน ส่วนตราสารทองคำสหรัฐที่จะส่งมอบในเดือนธันวาคม มีการตกลงซื้อขายในราคาที่สูงขึ้น 1.2% อยู่ที่ 1,350.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ทองยังมีความแข็งแกร่งเพราะการอ่อนตัวของเงินดอลลาร์ และเพราะผลตอบแทนพันธบัตรของกระทรวงการคลังสหรัฐวนเวียนใกล้ระดับต่ำสุดใน รอบสามเดือนหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลการขอรับสิทธิประโยชน์ของคนตกงาน ใหม่ประจำสัปดาห์

อย่างไรก็ดี จอห์นสันบอกว่า เขาสังเกตเห็นว่า อารมณ์ที่เกิดขึ้นรอบๆ ทองคำอยู่ในระดับ “ต่ำมาก” ตัวอย่างล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม เมื่อเจฟฟรีย์ เคอร์รี่ หัวหน้าฝ่ายวิจัยโภคภัณฑ์ของโกลด์แมน แซคส์ กล่าวว่า จะเริ่มมีแรงเทขายทองคำแบบ "slam dunk sell" หลังจากที่การปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐยุติลง และมีการอภิปรายเกี่ยวกับเพดานหนี้

“บริษัทต่างๆ จากทั่วโลกกำลังบอกว่า “ให้เทขายทองคำ” ซึ่งนั่นคือ slam dunk sell ดังนั้น ยังมีอารมณ์ที่เป็นลบจำนวนมากอยู่ และมีการเทขายล่วงหน้ามากด้วย” จอห์นสัน กล่าว

สำหรับจอห์นสันแล้ว นี่คือข่าวดีอย่างแท้จริง เพราะทองจะดีดตัวเล็กน้อย และทันทีทันใด จากนั้นการขายล่วงหน้าเหล่านั้นจะเริ่มฟื้นตัว นักลงทุนจะเริ่มตระหนักว่า นโยบายคิวอียังคงอยู่ และไม่ได้ไปไหน และสิ่งต่างๆ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว

“ผมหมายถึงว่า ทองสามารถดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนที่มันอ่อนตัวลง” จอห์นสัน กล่าว

ตามความเห็นของจอห์นสัน ประเด็นสำคัญอยู่ที่ว่า หนี้สินทิ้งให้สหรัฐตกอยู่ในอันตราย และสถานการณ์นี้จะจบลงโดยที่เป็นผลดีต่อทองคำ

"สโลแกนอย่างไม่เป็นทางการของผมคือ คุณเชื่อมั่นในคณิตศาสตร์ หรือคุณเชื่อมั่นในมหัศจรรย์ แต่บังเอิญว่า ผมเชื่อมั่นในคณิตศาสตร์ และการคาดการณ์ที่ว่า ระดับหนี้ของสหรัฐกำลังเริ่มที่จะเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และแนวทางที่มีการออกแบบระบบนี้ขึ้นมา มันกำลังจะทำให้หนี้เพิ่มขึ้นอีก”

ทำไมเรื่องนี้จึงมีความหมายต่อทองคำ?

จอห์นสัน กล่าวว่า มีความสัมพันธ์สูงมากระหว่างฐานเงิน หนี้ของประเทศและทองคำ และสำหรับภาพในระยะยาว นั่นคือตัวขับเคลื่อนหลักของทองคำ

ตามความเห็นของจอห์นสัน สหรัฐจะต้องสร้างเงินเฟ้อขึ้นอีกเพื่อชำระหนี้ และหากดอลลาร์สูญเสียมูลค่าเพราะเงินเฟ้อ จะต้องใช้เงินดอลลาร์เหล่านั้นมากขึ้นเพื่อที่จะซื้อทองคำหนึ่งออนซ์ ซึ่งผลที่ตามมาคือจะทำให้ราคาทองคำสูงขึ้นมาก

จอห์นสันคิดว่า ทองคำได้ปรับฐานเสร็จแล้ว เป็นส่วนใหญ่ และคาดว่า ราคาทองจะสูงขึ้นอีกมากแม้ว่าจะเข้าสู่ปลายปีและเข้าสู่ปีหน้าแล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับคุณ..Ginger TraderJunior Alan Gejen Wann ตู้เย็น Pasaya OKorNO เด็กสยาม MegaGold meng166 deb99 เต้าหู้ ปุยเมฆ tuktaaaa Lekk Espresso’(S) และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้เป็นเขียวแท่งสิบเอ็ดครับ :17

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1336 ราคาสูงสุด1355

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1348.x ครับ

 

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทางsideway อัฟครับ

RSI Price Line เส้นเขียว 58.55 วิ่งมา61.94 ครับ

Trade Signal Line เส้นแดง 54.63 วิ่งมา59.52 ครับ

market base Line เส้นเหลือง 45.00 วิ่งมา 46.52 ครับ

เส้นแดงเพิ่มครับ

 

 

สัญญานรองQQE ทิศทางsideway up

เส้นฟ้า 54.87 วิ่งมา 59.32 อยู่สูงกว่าเส้นประเหลืองครับ

เส้นประเหลือง 48.50 วิ่งมา48.50 ครับอยู่ต่ำกว่าเส้นฟ้าครับ

(เส้นเหลืองถ้าคงที่นานๆ จะแสดง side way หรือกลับตัวและ

ถ้าทิศทางลงจะเด้งไปอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าทันทีถ้าขึ้นจะลงมาต่ำกว่าเส้นฟ้าทันที)

แนวต้าน 1355 1360 1371 1377

แนวรับ 1336 1323 1315 1305

ภาพรวมๆจากสัญญานราคาsideway up ครับ

 

 

 

 

ขอให้โชคดีครับ

:bye

post-1891-0-73639500-1382919126_thumb.png

บาย

ถูกแก้ไข โดย news

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...