ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

 

จับ "พระธรรมกาย" ขนต่างด้าว คาด่านแม่สอด ‪#‎พระธรรมกาย‬ ‪#‎อาชญกรรม‬‪#‎nationtv‬

 

 

 

 

 

 

จับ "พระธรรมกาย" ขนต่างด้าว คาด่านแม่สอด

Nation TV เว็บไซต์สถานีข่าวอันดับ 1 ของเมืองไทย ทุกสนามข่าวเราคือ ตัวจริง

NATION CHANNEL

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทิศทางตลาดหุ้นภาคบ่าย 22-4-57 vdo.gif Money Wise ช่วงพลิกเกม กลยุทธ์ทิศทางการลงทุนตลาดหุ้นภาคบ่ายสดตรงจากนักวิเคราะห์ฟิลลิป ประเทศไทย "NOW26" 22-4-57 ทิศทางตลาดอนุพันธ์ภาคบ่าย 22-4-57 vdo.gif COMMODITIES ช่วงพลิกเกม กลยุทธ์ทิศทางตลาดอนุพันธ์ภาคบ่ายสดตรงจากนักวิเคราะห์ฮั่วเซ่งเฮงโกลด์ฟิวเจอร์ส "NOW26" 22-4-57 ตลาดหุ้นเตรียมจัดโรดโชว์6-7พ.ค.นี้ ตลาดหลักทรัพย์ เตรียมจัดโรดโชว์ บจ.ขนาดกลาง-เล็ก ในงาน "SET-Thai Corporate" วันที่ 6-7 พ.ค. นี้ สรุปภาวะซื้อขายหุ้นไทยภาคเช้า 22-4-57 vdo.gif หุ้นเช้าปิดร่วง1.33จุด Take Off ความเคลื่อนไหวค่าเงิน 22-4-57 vdo.gif Take Off ตลาดหุ้นไทย 22-4-57 vdo.gif

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

'ปลัดสธ.'ปลุกสำนึกเพื่อบ้านเมือง จี้ทุกปลัดกระทรวงลุยนำปฏิรูป

ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อังคารที่ 22 เมษายน 2557 14:59:00 น.

22 เม.ย.57 นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวเปิดใจประชาคมสาธารณสุขที่มาให้กำลังใจที่กระทรวงสาธารณสุขว่า ไม่คาดคิดว่าเหตุการณ์ความรุนแรง ข่มขู่คุกคามจะเกิดขึ้นในประเทศไทย ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องทำกับครอบครัวแบบนี้ ทั้งที่ออกมาทำหน้าที่ในฐานะข้าราชการ ซึ่งเรื่องนี้ต้องเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และฝ่ายความมั่นคงที่ต้องดูแลความปลอดภัยให้กับข้าราชการและประชาชนอย่างเต็มที่ หลังเกิดเหตุการณ์ข่มขู่แล้วจะเกรงกลัวหรือไม่นั้น บอกเลยว่าไม่กลัว และจะทำหน้าที่ในฐานะข้าราชการของแผ่นดินต่อไป ถ้าเป็นปลัดแล้วต้องพินอบพิเทานักการเมือง จะเป็นไปทำไม

นพ.ณรงค์ กล่าวว่า ทั้งนี้ในวันที่ 17 เม.ย. ที่ ศอ.รส.ได้เรียกประชุมร่วมระหว่างหัวหน้าส่วนราชการและปลัดทุกกระทรวง ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมประชุม และให้เหตุผลไปว่ามีการคุกคามข้าราชการ โดยเฉพาะการตำหนิปลัดกระทรวงยุติธรรมในหนังสือเชิญของ ศอ.รส.เป็นเรื่องไม่สมควร และหลังจากนั้นได้มีกระแสข่าวว่า ถูกเรียกสอบวินัยเนื่องจากไม่เข้าร่วมประชุมดังกล่าวนั้น ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เป็นการกุข่าวเพื่อให้ข้าราชการกลัวอำนาจรัฐเท่านั้น

นพ.ณรงค์ กล่าวต่อไปว่า หลังวันที่ 17 เม.ย. เป็นต้นมา ก็ได้มีการยกระดับข่มขู่คุกคามมาตลอด ซึ่งถือเป็นการข่มขู่ข้าราชการทั้งประเทศด้วย เป็นการสะกดให้ข้าราชการ และปลัดทุกกระทรวงเกิดความเกรงกลัว จนไม่กล้าออกมาแสดงความคิดเห็น จึงขอเรียกร้องวิงวอนให้ปลัดทุกกระทรวง และข้าราชการทุกระดับออกมาแสดงความเห็นไม่ยอมรับอำนาจที่ไม่ชอบ

“สิ่งที่ทุกคนควรตัดสินใจในตอนนี้ คือ บ้านเมือง ไม่ใช่ตำแหน่ง ผมเชื่อว่าข้าราชการทุกคนพร้อมแล้ว แต่รอหัวหน้าส่วนราชการตัดสินใจเท่านั้น จึงขอให้หัวหน้าส่วนราชการ และผู้บริหารออกมานำข้าราชการและส่งสัญญาณว่าประเทศควรไปทางใดได้แล้ว เพื่อปกป้องแผ่นดิน ปกป้องระบบราชการ และทำงานให้สมศักดิ์ศรีของข้าราชการประจำ”

นพ.ณรงค์ กล่าวด้วยว่า วันนี้ยังมีการประชุมร่วมของพรรคการเมืองและนักการเมืองที่แสวงหาอำนาจ เรื่องการจัดการเลือกตั้งนั้น ซึ่งประชาคมสาธารณสุขไม่เห็นด้วย เพราะเชื่อว่าทุกคนอยากเห็นการปฏิรูปก่อน สิ่งที่อยากได้จากที่ประชุม คือ จะปฏิรูปประเทศอย่างไร ไม่ใช่ถกกันว่าจะเข้าสู่อำนาจ หรือจะเลือกตั้งอย่างไร

 

 

นิด้าคาดกนง.พรุ่งนี้คงดอกเบี้ยที่ 2% เพื่อช่วยพยุงเสถียรภาพเศรษฐกิจ

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 22 เมษายน 2557 14:51:45 น.

นายมนตรี โสคติยานุรักษ์ ผู้อำนวยการหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต(MPA) สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยว่า การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ในวันที่ 23 เมษายนนี้ คาดว่าที่ประชุมจะตัดสินใจคงระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.0 เพื่อรักษาเครื่องมือทางการเงินในการดำเนินงานทางเศรษฐกิจในครั้งต่อไป หลังจากเครื่องมือทางการเงินเป็นเครื่องมือเดียวในการประคองภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน

ขณะเดียวกัน ภาวะเศรษฐกิจไทยได้รับปัจจัยบวกจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกที่ประเทศคู่ค้ามีการสั่งสินค้าเพิ่มขึ้น ทำให้การส่งออกของไทยที่มีสัดส่วนต่อ GDP มากถึงร้อยละ 72 และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวที่ดี ประกอบกับอัตราค่าเงินบาทของไทยที่อ่อนค่าลงมาโดยเฉลี่ยมาอยู่ที่ 32.80 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ และค่อนข้างมีเสถียรภาพ จึงเป็นอีกปัจจัยหนุนที่ช่วยสนับสนุนการส่งออกของไทยในปีนี้ให้เติบโตได้ถึง 9%

นอกจากนี้ มองว่า การจัดตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือ BOI ยังเป็นปัจจัยบวกที่ช่วยสนับสนุนภาคเอกชนที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนได้ดีขึ้นจึงถือเป็นมุมมองที่ดีต่อภาวะเศรษฐกิจไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้

"เราเชื่อว่า แบงก์ชาติจะตัดสินใจในการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับร้อยละ 2.0 เนื่องจากเครื่องมือในการดำเนินนโยบายทางการคลังยังมีจำกัดเพราะรัฐบาลปัจจุบันเป็นเพียงรัฐบาลรักษาการ และแบงก์ชาติเองก็ต้องคำนึงถึงความต่างของระดับอัตราดอกเบี้ยภายในประเทศและภายนอกประเทศที่มีผลต่อการไหลออกของเงินทุน เมื่อปัจจัยข้างต้นมารวมกับข้อมูลด้านตัวเลขการส่งออกที่คาดว่าจะฟื้นตัวดีในปีนี้นั้น ทำให้แบงก์ชาติจะเลือกคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เพื่อพยุงเศรษฐกิจไทยให้มีเสถียรภาพมากที่สุด" นายมนตรี กล่าว

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

891948_10152131726403440_4775593006696555709_o.jpg

 

อรุณเบิกฟ้า วันใหม่ จิตใจงาม กระฉับกระเฉง

 

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดร่วง $2.24 จากคาดการณ์สต็อกน้ำมันดิบพุ่ง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 เมษายน 2557 06:53:03 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) เพราะได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งทำให้เกิดความกังวลว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐอาจชะลอตัวลง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 2.24 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 102.13 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 68 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 109.27 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 เม.ย. ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนวันนี้ตามเวลาไทยนั้น จะเพิ่มขึ้น 3 ล้านบาร์เรลสู่ระดับ 397.1 ล้านบาร์เรล หลังจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 เม.ย.พุ่งขึ้น 10 ล้านบาร์เรล แตะ 394.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2544 หรือในรอบกว่า 13 ปี

นักวิเคราะห์กล่าวว่า สต็อกน้ำมันดิบโดยรวมของสหรัฐใกล้แตะระดับ 400 ล้านบาร์เรล ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวได้สร้างแรงกดดันให้กับสัญญาน้ำมันดิบ WTI อย่างมาก

นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน อันเนื่องมาจากความวิตกกังวลที่ว่าหากสหรัฐและยุโรปประกาศคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มขึ้น อาจจะทำให้การส่งออกน้ำมันของรัสเซียได้รับผลกระทบไปด้วย

อย่างไรก็ตาม นายอะนาโตลี อันโตนอฟ รมช.กลาโหมรัสเซีย กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์รอสซิสกายา กาเซตาของรัฐบาลว่า ไม่มีแนวโน้มที่จะเกิดสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน พร้อมกับเปิดเผยว่า ผู้บัญชาการกองทัพของรัสเซียและยูเครนยังคงติดต่อกัน แม้ว่าการติดต่อกันในลักษณะนี้ได้ลดลงอย่างมาก

ทั้งนี้ ไครเมียได้ถูกผนวกเข้าเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อวันที่ 18 มี.ค. หลังการลงประชามติ ซึ่งไม่ได้รับการยอมรับจากยูเครนและชาติตะวันตก

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง $7.4 หลังสหรัฐเผยข้อมูลศก.แข็งแกร่ง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 เมษายน 2557 06:32:42 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) โดยทองคำปิดที่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ปีนี้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีกิจกรรมการผลิตนั้น ได้กดดันให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 7.4 ดอลลาร์ หรือ 0.57% ปิดที่ 1,281.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ ปิดที่ 19.361 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 40 เซนต์ ปิดที่ 1,400.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 5.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 783.65 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ปีนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีเกินคาด โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมภาคการผลิตเดือนเม.ย.ดีดตัวขึ้นมาสู่ระดับ 7 หลังจากที่อยู่ในภาวะหดตัวที่ -7 ในเดือนมี.ค.

สำนักงานเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัยของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) รายงานว่า ราคาบ้านของสหรัฐในเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับขึ้น 0.5%

ส่วนราคาบ้านในเดือนม.ค.มีการปรับลดลงเป็นเพิ่มขึ้น 0.4% จากเดิมที่รายงานไว้ว่าเพิ่มขึ้น 0.5%

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำที่ใหญ่สุดของโลก ได้ลดการถือครองทองคำลงสู่ระดับ 792.14 เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา จากระดับของวันพฤหัสบดีที่แล้วที่ระดับ 795.14 ตัน

นักวิเคราะห์คาดว่า การที่สัญญาทองคำเคลื่อนไหวต่ำกว่าแนวรับในปัจจุบัน อาจเป็นปัจจัยกระตุ้นให้สัญญาทองคำดิ่งลงอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าแนวรับเส้นถัดไปของสัญญาทองคำอาจจะอยู่ที่ 1,240 ดอลลาร์/ออนซ์

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 65.12 จุด ขานรับผลประกอบการเอกชน

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 เมษายน 2557 06:09:48 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 เม.ย.) ขณะที่ดัชนี S&P 500 ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 6 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมทั้งข่าวควบรวมกิจการและซื้อกิจการของบริษัทหลายแห่ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,514.37 จุด เพิ่มขึ้น 65.12 จุด หรือ +0.40% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,161.46 จุด เพิ่มขึ้น 39.91 จุด หรือ +0.97% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,879.55 จุด เพิ่มขึ้น 7.66 จุด หรือ +0.41%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดตลาดปรับตัวขึ้นขานรับผลประกอบการของบริษัทเอกชน โดยบริษัทเน็ตฟลิกซ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านออนไลน์รายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยว่าผลประกอบการไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นเกินคาด ซึ่งช่วยหนุนหุ้นเน็ตฟลิกซ์พุ่งขึ้น 7%

หุ้นฮาร์เลย์-เดวิดสัน พุ่งขึ้น 6.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 1.21 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.08 ดอลลาร์ต่อหุ้น

ส่วนบริษัททราเวลเลอร์ส คอมพานี และบริษัทยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ คอร์ปอเรชัน รายงานผลประกอบการที่ดีเกินคาดเช่นกัน ซึ่งช่วยหนุนหุ้นทราเวลเลอร์ส ขยับขึ้น 0.57% และหุ้นยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ ดีดขึ้น 0.75%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวควบรวมกิจการและซื้อกิจการของบริษัทเอกชน รวมถึงบริษัทบิล อ็อคแมน และบริษัทเวเลียนท์ ฟาร์มาซูติคอลส์ ที่กำลังจับมือกันเพื่อเทคโอเวอร์กิจการบริษัทอัลเลอร์เจน ซึ่งเป็นผู้ผลิตโบท็อกซ์ โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นบิล อ็อคแมน พุ่งขึ้น 7.45% และหุ้นเวเลียนท์ ฟาร์มาซูติคอลส์ ทะยานขึ้น 15.25%

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีผลต่อบรรยากาศการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมภาคการผลิตเดือนเม.ย.ดีดตัวขึ้นมาสู่ระดับ 7 หลังจากที่อยู่ในภาวะหดตัวที่ -7 ในเดือนมี.ค. โดยผลสำรวจของเฟดริชมอนด์ครอบคลุมถึงธุรกิจในวอชิงตัน ดี.ซี., นอร์ธแคโรไลนา, เซาธ์แคร์โรไลนา, แมรีแลนด์, เวอร์จิเนีย และพื้นที่ส่วนใหญ่ของเวสต์ เวอร์จิเนีย

โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนมี.ค.ลดลง 0.2% สู่ระดับ 4.59 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2555 หรือในรอบ 20 เดือน

อย่างไรก็ตาม ยอดขายบ้านที่ปรับตัวลงดังกล่าวยังดีกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ราว 4.5 ล้านยูนิต

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

เฟดริชมอนด์เผยดัชนีกิจกรรมภาคการผลิตเดือนเม.ย.ฟื้นตัวขึ้น

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 22 เมษายน 2557 22:22:12 น.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ เปิดเผยว่า ดัชนีกิจกรรมภาคการผลิตเดือนเม.ย.ดีดตัวขึ้นมาสู่ระดับ 7 หลังจากที่อยู่ในภาวะหดตัวที่ -7 ในเดือนมี.ค.

ดัชนีที่เป็นบวกแสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคการผลิตยังมีการขยายตัว และดัชนีที่ติดลบบ่งชี้ถึงภาวะหดตัว

สำหรับดัชนีย่อยต่างๆได้ปรับตัวดีขึ้นในเดือนเม.ย. หลังจากที่อยู่ในภาวะอ่อนแรงอย่างมากในช่วงต้นปีนี้ โดยดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ในเดือนเม.ย.พุ่งแตะ 10 จาก -9 ในเดือนมี.ค. ขณะที่ดัชนีการส่งออกเพิ่มขึ้นที่ 6 ในเดือนนี้ จาก -9 ในเดือนที่แล้ว

ส่วนดัชนีการจ้างงานปรับขึ้นมาอยู่ที่ 4 ในเดือนเม.ย. จาก 0 ในเดือนมี.ค.

สำหรับแนวโน้มในช่วง 6 เดือนข้างหน้านั้น แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้ผลิตมีมุมมองบวกลดลงจากในเดือนมี.ค. โดยดัชนีคาดการณ์การส่งออกในเดือนเม.ย.ลดลงแตะ 22 จาก 31 ในเดือนมี.ค. ขณะที่ดัชนีคาดการณ์คำสั่งซื้อชะลอลงที่ 21 ในเดือนเม.ย. จาก 30 ในเดือนมี.ค. และดัชนีคาดการณ์การจ้างงานลดลงที่ 14 จาก 22 ในเดือนที่แล้ว

ผลสำรวจของเฟดริชมอนด์ครอบคลุมถึงธุรกิจในวอชิงตัน ดี.ซี., นอร์ธแคโรไลนา, เซาธ์แคร์โรไลนา, แมรีแลนด์, เวอร์จิเนีย และพื้นที่ส่วนใหญ่ของเวสต์ เวอร์จิเนีย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

สหรัฐเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค.ลดลง 0.2% หลังราคาสูง,อุปทานตึงตัว

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 22 เมษายน 2557 21:59:38 น.

สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนมี.ค.ลดลง 0.2% สู่ระดับ 4.59 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2555 หรือในรอบ 20 เดือน

อย่างไรก็ตาม ยอดขายบ้านที่ปรับตัวลงดังกล่าวยังดีกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ที่ราว 4.5 ล้านยูนิต

ส่วนราคากลางของบ้านในเดือนมี.ค.ปรับตัวขึ้น 7.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แตะระดับ 198,500 ดอลลาร์

NAR ระบุว่า ยอดขายบ้านมือสองที่ลดลงได้รับผลกระทบจากราคาบ้านที่พุ่งสูงขึ้นและสภาพอากาศที่หนาวเย็น ขณะที่อุปทานที่อยู่อาศัยก็อยู่ในภาวะตึงตัว

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูน

 

 

'กำนัน'หักเหลี่ยมฉีกหน้า'เหลิม'ยับ แฉข้อสนทนาวงประชุมศอ.รส.เละ

ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อังคารที่ 22 เมษายน 2557 21:59:00 น.

22 เม.ย.57 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 21.10 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณเลขาธิการ กปปส. กล่าวปราศรัยบนเวทีมวลมหาประชาชน สวนลุมพินีว่า การเดินทางไปที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิต(กฟผ.)ในวันนี้ พบว่า พี่น้องทุกคนให้การต้อนรับเป็นอย่างดี เพราะทุกคนมีหัวใจที่เป็นหนึ่งเดียวกับพี่น้องประชาชน ซึ่งรู้เรื่องนี้ดีแต่ที่มาก็เพราะต้องการเรียนเชิญพี่น้อง กฝผ.ให้มาร่วมชุมนุมใหญ่ด้วยกัน วันนี้ผู้หลักผู้ใหญ่ของ กฟผ.ให้การต้อนรับและพูดจาหารือกับ กปปส.เป็นอย่างดี และยินดีให้เปิดเผยชื่อเพราะไม่กลัวคำขู่ของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ผอ.ศอ.รส.แล้ว

นายสุเทพ กล่าวว่า ขอฝากไปถึงคนเสื้อแดงว่า การต่อสู้ของมวลมหาประชาชนครั้งนี้ เป็นการต่อสู้เพื่อคนไทยทุกคน รวมถึงพี่น้องคนเสื้อแดงด้วย เพราะเมื่อเราชนะ ประเทศชาติได้คนดีๆ มาบริหารประเทศ ทุกคนก็จะมีความสุข ไม่มีการแบ่งแยกเป็นสีไหน เราไม่ได้รังเกียจคนเสื้อแดง และยินดีให้เข้ามาร่วมต่อสู้กับมวลมหาประชาชนเพื่อประเทศของเรา แต่อย่างไรก็ตาม ขอยกเว้นคนเสื้อแดงประเภทขี้ข้าทักษิณ

นายสุเทพ กล่าวต่อไปว่า ร.ต.อ.เฉลิม โกรธมากเรื่องที่คนไปยิง เอ็ม79 ใส่บ้าน นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข แล้วยิงผิดบ้าน โดยพูดในที่ประชุม ศอ.รส.ว่า จะยิงบ้านปลัดสธ.ก็ยังไม่รู้ว่าหลังไหนดันไปยิงโดยบ้านน้องสาวของปลัด

นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ยังประกาศในที่ประชุมว่า ให้ปล่อยข่าวโฆษณาชวนเชื่อว่าประเทศชาติเสียหายจากการชุมนุมเป็นเงินสูงถึง 5 แสนล้านบาท ซึ่งลูกน้องในที่ประชุมก็เป็นประเภทนายว่าขี้ข้าพลอยออกมารับลูกว่า เป็นโอกาสดี เพราะขณะนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น จะได้ถือโอกาสโยนบาปให้ กปปส.ไปเสียเลย รวมทั้ง ร.ต.อ.เฉลิม ยังได้ประกาศในที่ประชุมที่จะใช้ทุกวิถีทางเล่นงานนายสุเทพ และแกนนำ โดย ร.ต.อ.เฉลิม พร้อมที่จะเซ็นต์ทุกคำสั่ง และต้องการให้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่หน่วยไหนก็ได้บุกเข้าไปจับนายสุเทพเลย ซึ่งตนขอบอกว่าไม่กลัว ถ้าจะบุกมาจับก็จะรออยู่ที่เวทีลุมพินี ไม่หนีไปไหน

นายสุเทพ กล่าวปราศรัยในตอนท้ายว่า ร.ต.อ.เฉลิมพยายามที่จะโยงกองทัพเชื่อมต่อกับมวลมหาประชาชน จำเป็นต้องกีดกันไว้ก่อน เพราะเชื่อว่าหากทหารไม่ปฏิวัติรัฐประหาร มวลมหาประชาชนต้องแพ้แน่นอน ซึ่งถือว่าเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะไม่ต้องหใทหารปฏิวัติรัฐประหาร แต่ประชาชนจะปฏิวัติรัฐบาลนี้ ขอใช้โอกาสนี้กราบเรียนพี่น้องประชาชนว่า เรื่องเหล่านี้คือเรื่องที่พูดกันในที่ประชุม ศอ.รส. จึงขอให้พี่น้องออกมาแสดงพลังขจัดคนชั่วไม่ให้ปกครองบ้านเมืองอีกต่อไป

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนวโน้มราคาทองคำพรุ่งนี้ (23 เม.ย.) vdo.gif ตรงประเด็นข่าวค่ำ : แนวโน้มราคาทองคำพรุ่งนี้ (23 เม.ย.) สดตรงจากนักวิเคราะห์วายแอลจี บลูเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ "NOW26" 22-4-57 'โตชิบา'ทุ่ม500ล.ปั๊มยอดโต20% "โตชิบา"อัดฉีด500 ล.ปลุกตลาดเดินหน้าลุยสปอร์ตมาร์เก็ตติ้งงัดแคมเปญ"เชียร์ทูโก"พร้อมปูพรมสินค้าใหม่กลุ่มทีวีจิทัล หนุนยอดขายปีนี้โต 20% เงินบาทปิด32.33/34อ่อนค่า ค่าเงินบาทปิดที่ 32.33 - 32.34 บาท/ดอลลาร์ จับตาผลประชุมกนง.-ศาลรธน.วันพรุ่งนี้ กรอบ 32.25-32.40 บาท/ดอลลาร์ พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติซื้อ1.8พันลบ. หุ้นไทยปิดบวก1.98จุด ครม.เตรียมอนุมัติบอร์ดบีโอไอชุดใหม่ คาดศก.โตเกิน2%หากเลือกตั้งก่อนก.ค.

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

  • ตำรวจแจ้งความม็อบกปปส.คุมตัวปล้นทรัพย์
  • พยานให้การเห็น'บิลลี่'ได้รับการปล่อยตัว
  • สพฐ.ตั้งกก.สอบครูผู้ช่วยแล้ว
  • ดวงพยากรณ์วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557
  • ฟิลิปปินส์ให้ตำรวจแบกกางเขนไถ่บาป
  • แนะเกาหลีใต้กู้เรือก่อนศพย่อยสลาย
  • ตลาดที่ดินสุสานบูมในเวียดนาม
  • ครอบครัวเหยื่อเฟอร์รีเครียดหนัก
  • อินโดฯเปิดโรงเรียนข้ามเพศรอบใหม่
  • รัสเซียวิจารณ์คาซัคสถานเทียบ'ปูติน-ฮิตเลอร์'
  • ฟิลิปปินส์ให้ตำรวจแบกกางเขนไถ่บาป
  • จีนปล่อยมิวสิควิดีโอฉลอง65ปีทัพเรือ
  • พยานให้การเห็น'บิลลี่'ได้รับการปล่อยตัว
  • ตำรวจแจ้งความม็อบกปปส.คุมตัวปล้นทรัพย์
  • สพฐ.ตั้งกก.สอบครูผู้ช่วยแล้ว

  • "โอบามา" จะมาบอกอะไร ในการเยือนเอเชียสัปดาห์นี้?

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

  • ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ของสหรัฐ จะมาเยือนสี่ประเทศในเอเชียอาทิตย์นี้ และช่วงก่อนสิ้นปี


    ก็มีกำหนดการจะไปเยือนจีน พม่า และ ออสเตรเลีย
    ที่ต้องเขียนถึงการเดินทางมาเอเชียของโอบามา ก็เพราะว่าในตารางของผู้นำอเมริกันคนนี้ ไม่มีประเทศไทยอยู่ในข่ายที่จะต้องมาเยี่ยมเยือน
    อาจจะอ้างว่าเขาเคยมาไทยแล้วเมื่อสองปีก่อน แต่น่าสังเกตว่า โอบามา ไม่ส่งรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน หรือรัฐมนตรีต่างประเทศ จอห์น แคร์รี มาพบปะผู้นำไทย
    ส่งแต่ แดเนียล รัสเซล ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศฝ่ายเอเชียแปซิฟิก ที่เพิ่งรับตำแหน่งใหม่มาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยยื่นหนังสือถึง นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และผู้นำฝ่ายค้าน อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แสดงความห่วงใยต่อความขัดแย้งทางการเมืองภายในประเทศ และเรียกร้องให้มีการเจรจาอย่างสันติ ไม่ใช้วิถีทางนอกรัฐธรรมนูญ หรือวิธีการที่ไม่สอดคล้องกับประชาธิปไตยในการแก้ไขปัญหา
    ปกติ หากว่าผู้นำสหรัฐไม่ไปเยือนประเทศไหนเอง และหากมีความสำคัญพอ ก็จะต้องส่งรองประธานาธิบดี หรือไม่ก็รัฐมนตรีต่างประเทศเพื่อตอกย้ำความเป็นมิตร แต่กรณีของไทย ดูเหมือนว่าจะลดความสำคัญลงไปในระดับรัฐมนตรีช่วยเท่านั้น
    ถามว่า โอบามา มาเอเชียครั้งนี้ทำไม?
    ตอบได้ง่ายๆ ว่า เพื่อจะยืนยันว่ายังให้ความสำคัญกับเอเชียอยู่ และเพื่อตอกย้ำว่าวิกฤติที่ยูเครน ไม่ได้ทำให้สหรัฐลืมเอเชีย
    และไม่ทิ้งนโยบาย “Pivot to Asia” หรือ การวางเอเชียเป็นอันดับต้นๆ ของนโยบายต่างประเทศ เพราะว่าเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่และมีความสำคัญในเชิงนโยบายความมั่นคงและด้านการค้าเสรี
    สามปีก่อน โอบามา ส่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งในขณะนั้นคือ ฮิลลารี คลินตัน มาไทยและเอเชีย เพื่อประกาศว่า “America is back” และ กระทรวงกลาโหมสหรัฐก็ประกาศว่าภายในปี ค.ศ. 2020 หรือ อีก 6 ปีข้างหน้า สหรัฐจะโอนย้ายสมรรถภาพทางทหารอากาศและทะเลอย่างน้อย 60% มาอยู่ในเอเชียและแปซิฟิก
    เพราะอเมริการู้ว่าเสียเวลาและทรัพยากรมหาศาลไปกับอิรักและอัฟกานิสถาน จนทำให้เห็นความสำคัญของเอเชียน้อยไป ทั้ง ๆ ที่ภูมิภาคนี้ คือที่ที่อเมริกาต้องพึ่งพาเพื่อค้าขายและสร้างพันธมิตรให้กับตนเองได้อย่างมั่นคง
    และเป็นอาณาบริเวณที่จีนกำลังสร้างสมอิทธิพลทางการเมือง และความมั่นคง รวมถึงเศรษฐกิจอย่างคึกคัก
    ทั้งสี่ประเทศที่ โอบามา จะมาเยือน ล้วนมีปัญหาความขัดแย้ง เรื่องสิทธิเหนือหมู่เกาะในทะเลจีนตะวันออกหรือทะเลจีนใต้ทั้งสิ้น
    ประเทศที่มีความตึงเครียดกับจีน เฝ้าดูพฤติกรรมของรัสเซียที่ “ผนวก” ไครเมียจากยูเครนหน้าตาเฉย โดยที่สหรัฐและยุโรปตะวันตก ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการออกข่าวต่อต้าน และคว่ำบาตรด้วยมาตรการเศรษฐกิจ พอเป็นพิธี
    เพียงแต่ยืนยันว่า รัสเซียจะข้ามเส้นเข้าไปยึดดินแดนของยูเครนเพิ่มไปกว่านี้ไม่ได้อีก
    ทั้งสี่ประเทศที่ โอบามา จะเยือนนี้ ต่างก็เหลือบไปดูว่าจีนจะเอาอย่างรัสเซียในกรณีขัดแย้งเรื่องดินแดนกับเพื่อนบ้านหรือไม่
    และหากว่าจีนคิดอะไรไปในทิศทางนั้น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และ มาเลเซีย ก็หวังว่าสหรัฐจะเป็นอำนาจที่จะคานไม่ให้ปักกิ่งคิดไกลไปถึงขนาดนั้น
    ความบาดหมางของจีนกับญี่ปุ่นเสื่อมทรุดลงอย่างมาก ในช่วงหลังกรณีความขัดแย้งเหนือหมู่เกาะ ที่จีนเรียกเตียวหยู และญี่ปุ่น ประกาศว่า คือ เซนกากุ
    ญี่ปุ่นกับเกาหลีใต้ ก็มีความตึงเครียดเรื่องการอ้างสิทธิเหนือเกาะที่ติดกัน เช่นกัน
    ฟิลิปปินส์ มีเรื่องมีราวกับจีนในทะเลจีนใต้ ถึงขั้นที่ต้องไปฟ้องสหประชาชาติ และจีนประกาศว่าใครก็มาเป็นคนกลางไม่ได้
    จีน บอก อเมริกา อย่ามาก้าวก่ายเรื่องภายในของเอเชีย จีนจะทะเลาะกับใครข้างๆ บ้าน ไม่ใช่เรื่องของวอชิงตัน แต่รัฐมนตรีต่างประเทศมะกันได้ยืนยันหลายครั้งว่า สหรัฐมีข้อผูกพันกับญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่จะต้องปกป้องประเทศเหล่านั้น หากว่าถูกคุกคาม
    อเมริกา พยายามจะบอกว่า จีนกับประเทศที่มีปัญหากัน ควรจะเจรจาหาทางออกอย่างสันติ ไม่ควรจะต้องมีการใช้กำลังหรือขู่ว่าจะใช้กำลังต่อเพื่อนบ้าน
    การมาเยือนเอเชียของ โอบามา จึงเป็นการส่งสัญญาณจากวอชิงตันว่าจะไม่ทิ้งย่านนี้ ไม่ใช่เพราะสหรัฐเป็นคนดีคนรักเพื่อนแถบนี้ แต่เป็นผลประโยชน์ของอเมริกาโดยตรง ที่จะต้องรักษาอิทธิพลของตนในแถบนี้ เพื่อการค้าการลงทุนและความมั่นคงของตัวเอง
    จีน เรียกร้องให้มี “ความสัมพันธ์แบบใหม่ระหว่างมหาอำนาจ” ซึ่งมีความหมายในทางปฏิบัติอย่างไร ยังไม่แน่ชัด
    ที่ชัดๆ ก็คือว่า หากไทยเรายังไม่สามารถจะแก้ปัญหาความขัดแย้งภายในของเราได้ ทั้ง อเมริกาและจีน ก็จะมองเราเป็นคนป่วย ที่รอให้ออกจากห้องไอซียู เสียก่อน เขาจึงจะกลับมาคบหาอย่างเป็นกิจจะลักษณะ
    ตอนนี้...เขาก็บินข้ามหัวเราไปมาไปพลางๆ ก่อน
    Tags : โอบามาเยือนเอเชียสัปดาห์นี้ความสัมพันธ์ระหว่างมหาอำนาจ

  • อวสานจำนำข้าว อวสาน"ยิ่งลักษณ์"

    โดย : รักษ์ มนตรี @sutthirak_ntv

  • "คดียิ่งลักษณ์ (ชินวัตร) จะเสร็จก่อนในเดือนหน้า เฉพาะเรื่องถอดถอนเท่านั้น ส่วนคดีอาญา ต้องนานกว่านั้น"


    คำยืนยันจากกรรมการป.ป.ช.บอกกับผม หลังจากมีมติเมื่อ 18 เม.ย. ให้งดสืบพยานในส่วนของรักษาการนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
    คดี "ยิ่งลักษณ์" ในส่วนที่ป.ป.ช.สอบสวนแบ่งเป็น 2 คดี คือ คดีถอดถอนออกจากตำแหน่ง และคดีอาญา แม้การสอบสวนจะสอบสวนไปในคราวเดียวกัน แต่คดีอาญาจะใช้เวลานานกว่า เป็นธรรมดา
    คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติเอกฉันท์เมื่อ 16 ม.ค.ให้คณะอนุกรรมการไต่สวนไปดำเนินการไต่สวน ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เนื่องจากมีเหตุอันควรสงสัย ตามมาตรา 66 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2542 ว่าการดำเนินการโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาล ได้ละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้งความเสียหายจากการดำเนินการโครงการ โดยป.ป.ช.สอบสวนคำร้องให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง และความผิดอาญา
    “นายกรัฐมนตรีได้ทราบถึงการท้วงติงและความเสียหายจากการดำเนินการโครงการแล้ว แต่กลับละเลยไม่ดำเนินการระงับยับยั้ง อันอาจเป็นมูลความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น คณะกรรมการ ป.ป.ช.จึงมีมติให้คณะอนุกรรมการไต่สวนดำเนินการไต่สวน นางสาวยิ่งลักษณ์ โดยจะเร่งแจ้งคำสั่งของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ทราบและใช้สิทธิ์คัดค้านบุคคลที่จะเข้ามาทำหน้าที่คณะอนุกรรมการไต่สวน และจะเร่งแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป” วิชา มหาคุณ ; ไทยรัฐ,17 ม.ค.2557
    กว่า 1 ปี 10 เดือน ที่ป.ป.ช.พิจารณาตามระบบของกฎหมายและข้อเท็จจริง ตามที่มีการร้องเรียนพฤติกรรมของ "ยิ่งลักษณ์" ไม่ใช่ 21 วันอย่างที่รักษาการนายกฯ และทีมกฎหมาย พยายามกล่าวหา ป.ป.ช.รวบรัดคดี
    "คดี "ยิ่งลักษณ์" กับคดี "บุญทรง เตริยาภิรมย์-ภูมิ สาระผล" เป็นคนละคดี การชี้มูลไม่พร้อมกัน คนละเรื่องกันเลย"แหล่งข่าว ป.ป.ช. บอกกับผม เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่จะชี้มูลทั้ง 3 คนในคราวเดียวกัน
    คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติเอกฉันท์ เรื่องการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าว โดยให้แจ้งข้อกล่าวหากับนายบุญทรง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล เมื่อดำรงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ และผู้ดำเนินการเจรจาซื้อขายข้าวของทั้งฝ่ายไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน
    รวมไปถึงผู้รับมอบอำนาจจากหน่วยงานรัฐวิสาหกิจที่เข้ามาเจรจาด้วยจำนวน 15 ราย อาทิ นายสมคิด เอื้อนสุภา นายลิตร พอใจ นายรัฐนิธ โสจิระกุล ซึ่งเป็นผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท Guangdong stationery & sporting goods imp.& exp. Corp และ Hainan grain & oil industrial trading company รวมทั้งบริษัท สยามอินดิก้า ตามความผิดในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ 2542 (พ.ร.บ.ฮั้ว)
    "จากพยานหลักฐานรับฟังได้ว่าการเข้าทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กับสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น ยังไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ สนับสนุนว่าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจทั้งสองแห่ง ที่เข้ามาทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐได้รับมอบหมายจากจีน และไม่มีการส่งออกข้าวออกนอกราชอาณาจักรจริง" วิชา มหาคุณ ; ไทยรัฐ, 17 มกราคม 2557
    ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนเกี่ยวกับการซื้อขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ป.ป.ช.พบว่า รัฐได้นำออกขายให้กับผู้ประกอบการค้าข้าวในประเทศ 17 ราย โดยผู้ประกอบการได้นำไปบันทึกเป็นต้นทุน รวมถึงการชำระภาษี ป.ป.ช.ได้รับทราบจากสภาวิชาชีพการบัญชีและกรมสรรพากรว่า เอกสารหลักฐานดังกล่าวไม่สามารถนำไปบันทึกบัญชีและนำไปคำนวณภาษีได้
    ป.ป.ช.จึงมอบให้กรมสรรพากร ไปดำเนินการจัดเก็บภาษีจากบริษัทเหล่านี้อีกทางหนึ่งด้วย เป็นการเจอข้อหา 2 เด้ง
    แนวโน้มการชี้มูลของป.ป.ช.ในคดีทุจริตรับจำนำข้าว ที่จะทำได้เร็วคือคดี "ยิ่งลักษณ์" ในส่วนความผิดให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง สามารถวินิจฉัยได้ต้นเดือนพ.ค.นี้ สำหรับคดีอาญา นั้นจะใช้เวลานาน เพราะเกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน เพราะเวลานี้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ให้ยึดถือสำนวนการสอบสวนของป.ป.ช.เป็นหลัก แทนยึดตามสำนวนของอัยการ จึงจำเป็นต้องทำสำนวนให้รัดกุม
    ส่วนคดีถอดถอนจะไปจบที่การลงมติของวุฒิสภา ต้องใช้เสียง 90 เสียงจากส.ว.150 คน ซึ่งเป็นไปได้ยาก แต่ก็ทำให้เห็นว่า "อวสานยิ่งลักษณ์" ใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว
    Tags : อวสานจำนำข้าวอวสานยิ่งลักษณ์การชี้มูลของป.ป.ช.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

shared ศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา's photo.

19 hours ago

คนหาย!!! ชื่อพัทธ์ วิวิธอำพน อายุ 19 ปี สูงประมาณ 175 ซม. รูปร่างผอมสูง ผิวคล้ำ ผมทรงนักเรียนสีดำ

หายไปจากบริเวณเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2557 เวลา 14.00 น. คนหายสวมเสื้อยืดคอกลมสีเหลือง กางเกงขาสั้นสามส่วน รองเท้าแตะ ลักษณะคนหายจะมีไฝเล็กๆอยู่ใต้ดวงตาข้างขวา "คนหายเป็นเด็กออทิสติก"

 

ผู้ใดพบเห็นโปรดแจ้งมูลนิธิกระจกเงา โทร.095-631-1914 // ประกาศเมื่อ 22 เมษายน 2557

See Translation

 

คนหาย!!! ชื่อพัทธ์ วิวิธอำพน อายุ 19 ปี สูงประมาณ 175 ซม. รูปร่างผอมสูง ผิวคล้ำ ผมทรงนักเรียนสีดำ

หายไปจากบริเวณเขาตะเกียบ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2557 เวลา 14.00 น. คนหายสวมเสื้อยืดคอกลมสีเหลือง กางเกงขาสั้นสามส่วน รองเท้าแตะ ลักษณะคนหายจะมีไฝเล็กๆอยู่ใต้ดวงตาข้างขวา "คนหายเป็นเด็กออทิสติก"

 

ผู้ใดพบเห็นโปรดแจ้งมูลนิธิกระจกเงา โทร.095-631-1914 // ประกาศเมื่อ 22 เมษายน 2557

 

734543_805646949448554_4886035403441680967_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...