ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ตลาดหุ้นเอเชียหดตัวลงเช้านี้ เหตุวิตกสถานการณ์ตะวันออกกลาง

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มิถุนายน 2557 08:40:13 น.

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในเช้าวันนี้ โดยการนำของหุ้นกลุ่มวัตถุดิบและเทคโนโลยี ขณะที่สถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) ลดลง 0.3% สู่ระดับ 144.31 จุด เมื่อเวลา 9.47 น.ตามเวลาโตเกียว

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 15,297.24 จุด ลดลง 79.00 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,030.43 จุด ลดลง 3.50 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,935.06 จุด เพิ่มขึ้น 54.42 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,250.13 จุด เพิ่มขึ้น 3.93 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,992.69 จุด ลดลง 1.66 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,261.34 จุด ลดลง 0.69 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,889.53 จุด ลดลง 2.80 จุด

ทางด้านนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้เดินทางถึงเมืองเออร์บิล เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ทางทิศเหนือของประเทศอิรัก เพื่อกระตุ้นให้บรรดาผู้นำหันมาเผชิญหน้ากับกลุ่มหัวรุนแรงของรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนท์ (ISIL)

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

 

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มิถุนายน 2557 07:37:57 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 มิ.ย.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนี S&P 500 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในระหว่างวัน อันเป็นผลมาจากการที่นักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมถึงยอดขายบ้านใหม่ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,818.13 จุด ร่วงลง 119.13 จุด หรือ -0.70% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,350.36 จุด ลดลง 18.32 จุด หรือ -0.42% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,949.98 จุด ลดลง 12.63 จุด หรือ -0.64%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของยูโรโซน หลังจากสถาบัน Ifo รายงานว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 345.57 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,518.34 จุด เพิ่มขึ้น 2.77 จุด หรือ +0.06% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,938.08 จุด เพิ่มขึ้น 17.16 จุด หรือ +0.17% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,787.07 จุด ลดลง 13.49 จุด หรือ -0.20%

-- -สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากสถานการณ์รุนแรงในอิรักยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,321.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 12.7 เซนต์ ปิดที่ 21.043 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 15.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,471.9 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 7.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 830.40 ดอลลาร์/ออนซ์

-- -สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนในช่วงก่อนหน้านี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวลง 14 เซนต์ ปิดที่ 106.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ ปิดที่ 114.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ที่ขยายตัวเกินคาด

ค่าเงินยูโรร่วงลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3602 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3604 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6982 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.7024 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.97 เยน จากระดับ 101.90 เยน และปรับขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8942 ฟรังค์ จากระดับ 0.8941 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9378 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9417 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) หลังจากความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีร่วงลงเกินคาดในเดือนมิ.ย.

ดัชนี FTSE 100 ปิดลดลง 13.49 จุด หรือ 0.20% ที่ 6,787.07 จุด

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,818.13 จุด ลดลง 119.13 จุด -0.70%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,350.36 จุด ลดลง 18.32 จุด -0.42%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,949.98 จุด ลดลง 12.63 จุด -0.64%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,787.07 จุด ลดลง 13.49 จุด -0.20%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,938.08 จุด เพิ่มขึ้น 17.16 จุด +0.17%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,518.34 จุด เพิ่มขึ้น 2.77 จุด +0.06%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,246.20 จุด เพิ่มขึ้น 17.85 จุด +0.19%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,376.24 จุด เพิ่มขึ้น 6.96 จุด +0.05%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,994.35 จุด เพิ่มขึ้น 19.43 จุด +0.98%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,415.10 จุด ลดลง 17.60 จุด -0.32%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,432.80 จุด ลดลง 20.50 จุด -0.38%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,033.93 จุด เพิ่มขึ้น 9.56 จุด +0.47%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,793.07 จุด เพิ่มขึ้น 31.08 จุด +0.46%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,880.64 จุด เพิ่มขึ้น 75.83 จุด +0.33%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,892.33 จุด เพิ่มขึ้น 8.37 จุด +0.44%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,862.24 จุด เพิ่มขึ้น 20.11 จุด +0.42%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,262.03 จุด เพิ่มขึ้น 4.63 จุด +0.14%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 25,368.90 จุด เพิ่มขึ้น 337.58 จุด +1.35%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ปรับขึ้น รับยอดขายบ้านใหม่สหรัฐแข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มิถุนายน 2557 07:21:31 น.

ดอลลาร์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยยอดขายบ้านใหม่ที่ขยายตัวเกินคาด

ค่าเงินยูโรร่วงลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3602 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3604 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6982 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.7024 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.97 เยน จากระดับ 101.90 เยน และปรับขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8942 ฟรังค์ จากระดับ 0.8941 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9378 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9417 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ขานรับยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐในเดือนพ.ค.ที่พุ่งขึ้น 18.6% แตะที่ 504,000 ยูนิต โดยนับเป็นสัญญาณถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาวรุนแรงเมื่อช่วงต้นปีนี้ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่ายอดขายบ้านเดือนพ.ค.จะเพิ่มขึ้นเพียง 0.5% สู่ระดับ 435,000-440,000 ยูนิตโดยเฉลี่ยในเดือนพ.ค.

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยเอกชน เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นมากเกินคาดในเดือนมิ.ย. เนื่องจากผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 85.2 จากระดับ 82.2 ในเดือนพ.ค.

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลด้านตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐยังคงออกมาไม่สดใสนัก โดยสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์รายงานว่า ดัชนีราคาบ้าน 20 เมืองในเดือนเม.ย. ปรับตัวขึ้น 10.8% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ซึ่งชะลอตัวจาก 12.4% ในเดือนมี.ค.

ดัชนีราคาบ้านของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ ในเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบกว่าหนึ่งปี ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 11.4-11.6% โดยเฉลี่ย และต่ำกว่าระดับสูงสุดที่ 13.7% ในเดือนพ.ย.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

 

ราคาทองคำฮ่องกงเปิดตลาดวันนี้ ลดลงแตะ 12,220 HKD/tael

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มิถุนายน 2557 08:50:30 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 30 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,220 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,321.87 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 3.25 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: วิกฤตการณ์อิรัก หนุนทองคำปิดบวก $2.9

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มิถุนายน 2557 06:48:21 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากสถานการณ์รุนแรงในอิรักยังคงเป็นแรงผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.22% ปิดที่ 1,321.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 12.7 เซนต์ ปิดที่ 21.043 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 15.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,471.9 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 7.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 830.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าถือครองทองคำเพื่อความปลอดภัยในยามที่สถานการณ์อิรักยังอยู่ในขั้นวิกฤต โดยล่าสุดมีรายงานว่านายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้เดินทางไปยังเมืองเออร์บิล เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ทางทิศเหนือของประเทศอิรัก เพื่อกระตุ้นให้บรรดาผู้นำหันมาเผชิญหน้ากับกลุ่มหัวรุนแรงของรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนท์ (ISIL)

นายแคร์รี่มีแผนพบปะกับนายมาซูด บาร์ซานี ประธานาธิบดีเคอร์ดิสถาน และผู้นำคนอื่นๆของชาวเคิร์ด โดยสหรัฐจะสนับสนุนกองกำลังรักษาความสงบของอิรักอย่างเต็มที่และยั่งยืนในการต่อสู้กับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่บุกเข้ายึดหลายเมืองทางภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศ ขณะที่ปธน.บาร์ซานีเปิดเผยว่า ชาวเคิร์ดอาจผลักดันให้มีการแบ่งดินแดนเป็นอิสระจากอิรัก จากเดิมที่เป็นเขตปกครองตนเอง

นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของเยอรมนียังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสถาบัน Ifo ระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีในเดือนมิ.ย.ลดลงแตะ 109.7 จาก 110.4 ในเดือนพ.ค. และต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ที่ 110.2

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: แรงขายทำกำไร ฉุดน้ำมัน WTI ปิดลบ 14 เซนต์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มิถุนายน 2557 07:01:30 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (24 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนในช่วงก่อนหน้านี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.ปรับตัวลง 14 เซนต์ ปิดที่ 106.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนส.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ ปิดที่ 114.46 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 9 เดือนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบขยับลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากตลาดขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค.ปรับตัวสูงขึ้น 18.6% แตะที่ 504,000 ยูนิต ซึ่งเพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2535 หรือในรอบ 22 ปี และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2551 หรือในรอบ 6 ปี นับเป็นสัญญาณถึงการฟื้นตัวของตลาดที่อยู่อาศัยหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศหนาวรุนแรงเมื่อช่วงต้นปีนี้

ส่วนคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นกลุ่มวิจัยเอกชน เปิดเผยว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นแตะ 85.2 ในเดือนมิ.ย. จาก 82.2 ในเดือนพ.ค. โดยดัชนีเดือนมิ.ย.สูงกว่าที่นักเศรษฐศาตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 83.5

นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ในอิรักอย่างใกล้ชิด หลังจากที่นายจอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้เดินทางไปยังเมืองเออร์บิล เมืองหลวงของเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน ทางทิศเหนือของประเทศอิรัก เพื่อกระตุ้นให้บรรดาผู้นำหันมาเผชิญหน้ากับกลุ่มหัวรุนแรงของรัฐอิสลามแห่งอิรักและเลแวนท์ (ISIL)

ทั้งนี้ สหรัฐจะสนับสนุนกองกำลังรักษาความสงบของอิรักอย่างเต็มที่และยั่งยืนในการต่อสู้กับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่บุกเข้ายึดหลายเมืองทางภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศ ขณะที่นายมาซูด บาร์ซานี ประธานาธิบดีเคอร์ดิสถานกล่าวว่า ชาวเคิร์ดอาจผลักดันให้มีการแบ่งดินแดนเป็นอิสระจากอิรัก จากเดิมที่เป็นเขตปกครองตนเอง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

นักธุรกิจช็อก!บิลค่าโทร.14ล. ร้อง‘กสทช.’ช่วยเคลียร์บ.มือถือ

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 25 มิถุนายน 2557 06:00:00 น.

นักธุรกิจช็อก!บิลค่าโทร.14ล.

ร้อง‘กสทช.’ช่วยเคลียร์บ.มือถือ

‘ฐากร’เตือนพิษเกม‘คุกกี้ รัน’

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. ได้รับร้องเรียนจากนักธุรกิจรายหนึ่งที่ใช้บริการข้ามแดนอัตโนมัติ (ดาต้า โรมมิ่ง) ถูกเรียกเก็บค่าบริการสูงถึง 14 ล้านบาท หลังจากนำโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบสมาร์ทโฟนไปใช้ในต่างประเทศเป็นเวลา 1 เดือน เกรงว่าจะเป็นการเข้าใจผิด และกรอกตัวเลขค่าใช้จ่ายผิด จึงขอให้ทางผู้ใช้บริการมือถือรายดังกล่าว ไปเจรจากับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือก่อน เพื่อความชัดเจน หากผลเป็นประการใดก็แจ้งกสทช.ต่อไป

“ผมเกรงว่าจะเป็นการเข้าใจผิด และพิมพ์ใบเสร็จผิดพลาด จึงแนะนำให้ไปเจรจากับผู้ให้บริการมือถือก่อน เพื่อจะได้ตกลงกันได้ เพราะเป็นตัวเลขค่าใช้จ่ายที่ไม่ควรเกิดขึ้น ส่วนจะเป็นค่ายไหนผมยังเปิดเผยไม่ได้”

ในเบื้องต้นจากข้อมูลที่รับทราบมาว่า ไม่ใช่ค่ายมือถือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด(มหาชน) หรือเอไอเอส ส่วนจะเป็นบริษัท โทเทิล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค หรือบริษัท ทรูมูฟ จำกัด ต้องไปตรวจสอบกันเอง ทั้งนี้ กสทช.พร้อมรับข้อร้องเรียนของผู้ใช้บริการโทรคมนาคม วิทยุและกระจายเสียงทุกราย โดยสามารถร้องเรียนผ่านโทร. 1200 ได้

นายฐากรกล่าวเพิ่มเติมว่า ในวันที่ 26 มิ.ย.นี้ กสทช.ได้เชิญผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือ และ บริษัทกูเกิล ในไทย มาหารือร่วมกันอีกครั้งเกี่ยวกับมาตรการป้องกันมิให้เกิดปัญหา “บิลช็อก”จากแอพพลิเคชั่นต่างๆ โดยเฉพาะเกมบนโทรศัพท์มือถือ เพื่อมิให้เกิดปัญหาซ้ำรอยกรณีเด็กซื้อไอเท็ม ในเกม “คุกกี้รัน” แล้วมีบิลที่เรียกเก็บเงินมากถึง 200,000 บาท ในเบื้องต้นได้กำชับให้ผู้ให้บริการมือถือกำหนดวงเงินการใช้งานไม่เกิน 1,000 บาท รวมทั้งให้ส่งข้อความสั้น(เอสเอ็มเอส)ให้ผู้ใช้บริการได้รับทราบด้วย รวมถึงการรณรงค์ให้ข้อมูลความรู้ เพื่อสร้างความเข้าใจให้ผู้ใช้บริการมือถือ

โดยปัจจุบันมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง มีทั้งเรียกเก็บเงินและฟรี โดยเฉพาะการเล่นเกมบนมือถือ เป็นเรื่องที่ต้องทำความเข้าใจอย่างมาก มิเช่นนั้นจะเกิดปัญหาแบบคุกกี้รันอีก และหากผู้ปกครองรับทราบแล้ว และยังปล่อยให้เด็กเล่นเกมอีก ก็ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง หากกรณีใดที่พิสูจน์ทราบว่าไม่ทราบเงื่อนไขจริงๆ ก็ต้องเจรจากัน เพื่อความเป็นธรรมต่อทั้งสองฝ่าย

ก่อนหน้านี้เกิดกรณีที่มีเยาวชนซื้อไอเท็มในเกม “คุกกี้ รัน”พบว่า มีค่าบริการสูงกว่า 2 แสนบาท บางรายมีกระแสข่าวว่าสูงถึง 5.9 แสนบาท

http://www.naewna.com/index.php

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คสช.ไม่สน”อียู”กดดัน ซัดอย่าจุ้น “บิ๊กตู่”ลั่นรักษาศักดิ์ศรี

ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- พุธที่ 25 มิถุนายน 2557 06:00:00 น.

คสช.ไม่สน”อียู”กดดัน

ซัดอย่าจุ้น

“บิ๊กตู่”ลั่นรักษาศักดิ์ศรี

เดินหน้าแก้ไขปัญหาชาติ

บัวแก้วเรียกทูตเคลียร์ปม

ระบุผิดหวัง-ต้องทบทวน

เอกชนขู่แซงชั่น-เจอฟ้อง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติราชการแทน รมว.การต่างประเทศ เชิญ นายเฆซูส มิเกล ซานส์ เอกอัครราชทูตแห่งสหภาพยุโรป (อียู) ประจำประเทศไทย เข้าหารือที่กระทรวงการต่างประเทศ ถึงกรณีรัฐมนตรีต่างประเทศอียู ออกแถลงการณ์ประณามการรัฐประหารในประเทศไทย รวมทั้งระงับและทบทวนกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือ (PCA) กับประเทศไทย พร้อมเรียกร้องให้ประเทศไทยกลับสู่ระบอบประชาธิปไตยโดยเร็ว

ไทยผิดหวังมาตรการอียู

โดย นายสีหศักดิ์ แถลงภายหลังการหารือว่า ไทยแสดงความผิดหวังต่อคำประกาศของอียู เพราะไม่ได้สะท้อนหรือคำนึงถึงพัฒนาการทางการเมืองของไทย และการที่ไทยได้ประกาศแผนนำประเทศกลับเข้าสู่ความเป็นประชาธิปไตย รวมทั้งได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการที่อียูดำเนินการเพียงฝ่ายเดียว เพราะความจริงไทยเปิดกว้าง หากมีข้อสงสัยสามารถพูดคุยกันได้

เหน็บมิตรประเทศควรเข้าใจกัน

ทั้งนี้ระหว่างการหารือ เอกอัครราชทูตอียูได้แสดงความไม่มั่นใจในโรดแมป 3 ขั้นตอนตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ประกาศ จึงได้ชี้แจงว่าอียูไม่ควรด่วนสรุป เพราะไทยกำลังดำเนินการตามโรดแมปเพื่อนำประเทศกลับสู่ประชาธิปไตย อียูควรติดตามการปฏิบัติของไทย และในฐานะมิตรประเทศก็ควรแสดงความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่ไทยกำลังทำอยู่และเอาใจช่วย

ยันไม่กระทบเจรจาFTA

“สำหรับเรื่องอียูระงับการเยือนไทยของรัฐมนตรีในกลุ่มประเทศสมาชิก และระงับลงนามPCA นั้น เป็นเรื่องผลประโยชน์ของทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ประโยชน์ของไทยฝ่ายเดียว จึงขอให้เขาพิจารณาให้ดี และให้ทบทวนมาตรการต่างๆ รวมทั้งให้คำนึงถึงผลประโยชน์ในระยะยาวด้วย” นายสีหศักดิ์ กล่าวและว่า การระงับการลงนาม PCA ไม่ส่งผลกระทบถึงการเจรจาข้อตกลงเปิดเขตการค้าเสรี (FTA) ไทย-อียู ซึ่งยังคงมีการเจรจาด้านเทคนิคต่อไป โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น

สั่งทูตไทยเดินหน้าแจงรายปท.

ส่วนกรณีที่มีการคาดการณ์ว่า สินค้าอาหารทะเลที่ส่งออกไปยังอียูจะได้รับผลกระทบหรือถูกประเทศในกลุ่มอียูกีดกันทางการค้านั้น นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เราได้ดำเนินการชี้แจงทำความเข้าใจ ซึ่งหลายประเทศเข้าใจ อาทิ ฝรั่งเศส อังกฤษ เข้าใจว่าดีขึ้น นอกจากนี้ได้สั่งให้เอกอัครราชทูตไทยที่ประจำการในยุโรป ร่วมกับผู้ช่วยทูตพาณิชย์ เดินหน้าชี้แจงภาคเอกชนของแต่ละประเทศ เพื่อให้มีความเข้าใจถูกต้อง โดยเฉพาะเรื่องการใช้แรงงานบังคับ แรงงานเด็ก แรงงานในภาคประมง

ทูต“อียู”โบ้ยไม่คว่ำบาตร

ด้าน นายเฆซูส มิเกล ซานส์ แถลงว่า มาตรการที่ประกาศออกมาไม่ใช่การคว่ำบาตร ความสัมพันธ์การค้า การลงทุน การท่องเที่ยวยังคงเป็นไปตามปกติ ไม่เกี่ยวข้องกับการทำเอฟทีเอ หรือการทำความตกลงเขตการค้าเสรี โดยอียูยังคงเห็นความสำคัญของไทย และคาดหวังบทบาทของไทยในอาเซียน โดยเฉพาะการประชุมระดับรัฐมนตรีของอาเซียนและอียูในเดือนกรกฎาคม

“บิ๊กตู่”ถกคสช.ชุดใหญ่

วันเดียวกัน ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในฐานะหัวหน้า คสช. เป็นประธานการประชุม คสช. ชุดใหญ่ โดยมีรองหัวหน้า คสช. ประกอบด้วย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) และ พล.ต.อดุลย์ แสงสิงแก้ว พร้อมด้วย พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รองผบ.ทบ. ในฐานะเลขาธิการ คสช. รวมทั้งเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและปลัดกระทรวงต่างๆ เข้าร่วม

ลั่นป้องศักดิ์ศรีปท.เมินฝรั่งต้าน

โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้งานของคสช.มีหลายเรื่องที่ต้องเร่งเดินหน้าและลดขั้นตอนให้มากขึ้น เนื่องจากการดำเนินงานของ คสช. ยังมีปัญหาขับเคลื่อนการปฏิบัติ จึงขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันปฏิบัติให้งานต่างๆเดินหน้าต่อไปได้ แม้สหรัฐอเมริกาและยุโรปจะมีท่าทีคัดค้านการการเข้าบริหารงานของ คสช. อยู่บ้าง แต่ก็ต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีของประเทศไทยด้วย

ยันอียูลดสัมพันธ์ไม่กระทบ

ด้าน พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก ในฐานะทีมโฆษก คสช. แถลงหลังการประชุมว่า ขณะนี้ยังไม่เกิดผลกระทบใดๆ เกี่ยวกับการที่อียูลดความสัมพันธ์กับไทย โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจการค้าที่ไม่มีผลอะไร ทั้งนี้สิ่งที่อียูทำเป็นสิ่งที่เราเข้าใจได้ เราก็มีหน้าที่ชี้แจงสร้างความมั่นใจต่อไป ที่ผ่านมาคสช.รับฟังทุกเสียงทั้งในและนอกประเทศ แม้แต่เรื่องร้องเรียนต่างๆ

ลั่นต้องเคารพไทยตัดสินใจ

เมื่อถามว่า หัวหน้า คสช. เป็นห่วงกรณีของอียูมากหรือไม่ พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ ตอบว่า พล.อ.ประยุทธ์ มีความพอใจการชี้แจงความเข้าใจของหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเห็นว่า เราต้องมีความอดทน อดกลั้น บนพื้นฐานความเท่าเทียมของแต่ละประเทศ เพราะแต่ละประเทศก็มีศักดิ์ศรีของตัวเอง เราก็ต้องยอมรับในสิ่งที่เขาตัดสินใจ แต่เขาเองก็น่าจะยอมรับในสิ่งที่เราตัดสินใจเช่นกัน

ย้ำผิดหวัง-จี้ต้องทบทวน

ร.อ.นพ.ยงยุทธ มัยลาภ คณะทำงานโฆษก คสช. กล่าวว่า เราผิดหวังกับแถลงการณ์ของอียู เพราะ คสช.ชี้แจงกับหลายประเทศในเวทีต่างๆ ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ จึงอยากเรียกร้องให้อียูทบทวนมาตรการที่ได้ประกาศออกมา อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประยุทธ์ ได้ฝากให้ทุกหน่วยงานเร่งชี้แจงกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อสร้างความเข้าใจสถานการณ์ของไทยให้มากขึ้นแล้ว

มั่นใจสามารถชี้แจงได้

ขณะที่ พ.อ.วิทธัย สุวารี รองโฆษก ทบ. ในฐานะทีมโฆษก คสช. แถลงว่า ไทยจะใช้มาตรการสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับข้อกังวลต่างๆ เช่น เรื่องสิทธิมนุษยชน การควบคุมตัว โดยมีองค์กรเอ็นจีโอบางแห่งถึงกับพูดถึงการซ้อม การทรมาน ซึ่งเป็นเรื่องที่ห่างไกลจากความเป็นจริง จึงอาจเป็นสิ่งชี้ให้เห็นว่า ข้อมูลที่เผยแพร่ในปัจจุบัน อาจไม่ใช่ข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือเต็มที่ แต่เชื่อมั่นว่าจะสามารถทำความเข้าใจเรื่องต่างๆ ได้

เอกชนขู่ฟ้องWTOถ้าถูกแซงชั่น

วันเดียวกัน นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล รองประธานหอการค้าไทย ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีการประกาศของอียูว่า ไม่น่ากระทบการค้าการลงทุน เพราะเรื่องนี้เป็นประเด็นการเมืองล้วนๆ และอียูไม่มีสิทธิ์เข้ามาแซงก์ชั่นการค้าของไทยได้ เนื่องจากผิดกฎขององค์การการค้าโลก (WTO) หากเป็นเช่นนั้นจริง ไทยสามารถฟ้ององค์การการค้าโลกได้ทันที

มั่นใจการค้าไม่ได้รับผลกระทบ

“เรื่องไทย-อียู เชื่อว่าไม่กระทบการค้าระหว่างกันแน่นอน เพียงแต่ไทยหวังว่าจะขอให้อียูต่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี (จีเอสพี) ที่จะหมดปี 2558 นี้ออกไปให้ และอาจทำให้การเจรจาต่างๆ ล่าช้าออกไปเท่านั้นเอง ซึ่งที่ผ่านมาเราก็ยังไม่ได้ทำอะไรจริงจัง จึงเสมอตัวไม่มีผลกระทบอะไร” นายพรศิลป์ กล่าว และว่า ปัจจุบันไทยส่งออกไปตลาดอียูประมาณ 10% จากมูลค้าการส่งออกทั้งหมด หรือคิดเป็นมูลค่าการส่งออกประมาณปีละ 2-3 หมื่นล้านบาท

คาดกระทบส่งออกแค่10%

นายไพบูลย์ นรินทรางกูร ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า หากอียูคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจกับไทยก็กระทบการส่งออกไม่มากนัก เนื่องจากการส่งออกของไทยไปยุโรปมีสัดส่วนเพียง 10% ของการส่งออกรวม แต่อาจกระทบต่อสิทธิประโยชน์ด้านภาษี (จีเอสพี) ที่เคยทำร่วมกับอียู และจะมีการทบทวนช่วงต้นปีหน้า ซึ่งน่าจะทำให้โอกาสในการต่ออายุสิทธิประโยชน์ดังกล่าวหมดลงไป ต้องรอดูว่ารัฐบาลชุดใหม่จะแก้ไขอย่างไรบ้าง

สอท.เชื่อไม่คว่ำบาตรไทย

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุว่า การประกาศลดความสัมพันธ์กับไทย อาจส่งผลให้หยุดการเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับไทย ซึ่งจะส่งผลเสียต่อทั้ง 2 ฝ่าย และถึงไม่มีการลงนาม FTA ภาคเอกชนของทั้ง 2 ฝ่ายก็ยังค่าขยกันตามปกติ ไม่มีปัญหา เพียงแต่ต้องเร่งชี้แจงให้คู่ค้ามั่นใจในการส่งมอบสินค้าตรงต่อเวลา

ชงกกร.ประเมินผลกระทบ

อย่างไรก็ตามในการประชุมคณะกรรมการร่วม 3 สถาบัน (กกร.) ในเดือนกรกฎาคม จะมีการนำกรณีสหรัฐลดสถานะไทยจากการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ไปอยู่อันดับ 3 และอียูประกาศลดระดับความร่วมมือทางการค้ากับไทยเข้าหารือ เพื่อประเมินผลกระทบ รวมทั้งหาแนวทางแก้ไข แต่ยืนยันว่า ขณะนี้มีเพียงผลกระทบที่เกิดขึ้นระยะสั้นทางจิตวิทยาเท่านั้น

อดีตบิ๊กพาณิชย์เชื่ออียูแค่ขู่

นายเกริกไกร จีระแพทย์ อดีตรมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานกรรมการสถาบันกรรมการบริษัทไทยเห็นว่า สหภาพยุโรปจะไม่ถึงขั้นตัดความสัมพันธ์ทางด้านการค้าและการลงทุนกับไทย เพียงแต่แสดงความไม่พอใจต่อการที่ คสช. เข้ามาทำการควบคุมการบริหารประเทศ จึงไม่แปลกใจและไม่กังวล เพราะความสัมพันธ์ทางการค้ายังคงมีต่อไป เขาไม่ได้ตัดเรื่องการค้า การลงทุน

ห่วงตัดPCAทำไทยเสียโอกาส

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่ากังวลมากกว่าคือ การที่อียูระงับการลงนามในกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือกับประเทศไทย (PCA) จนกว่าจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และความตกลงอื่นๆ จะได้รับผลกระทบตามสมควร ซึ่งในจุดนี้อาจจะทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสทางการแข่งขันกับประเทศอื่นๆ

ชี้สหรัฐแค่เตือนอย่ากังวล

สำหรับประเด็นที่สหรัฐฯลดอันดับไทยด้านการค้ามนุษย์ให้ลงไปในระดับต่ำสุด คือเทียร์ 3 นั้น นายเกริกไกรกล่าวว่า ไม่ต้องการให้ทุกฝ่ายกังวลเรื่องนี้มากเกินไป ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ก็เคยประกาศตัดการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) แก่สินค้าจากประเทศไทยจากกรณีไม่เอาจริงเอาจังในการปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญามาหลายครั้ง แต่สหรัฐฯก็ไม่สามารถทำได้จริงจัง และสินค้าไทยก็ยังคงได้รับ GSP มาโดยตลอด

“การที่ไทยถูกสหรัฐฯจัดอยู่ในบัญชีอับดับ 3 ถือเป็นการเตือนให้ไทยต้องเร่งปรับปรุงและแก้ปัญหาอย่างจริงจังในเรื่องค้ามนุษย์ และการใช้แรงงานผิดกฎหมาย ถ้าสหรัฐฯจะนำประเด็นนี้มาตัดสัมพันธ์ทางการค้ากับไทยจริง สหรัฐฯเองจะเป็นฝ่ายได้รับผลกระทบมากกว่า เพราะปัจจุบันสหรัฐฯบริโภคและนำเข้าสินค้าจากไทยจำนวนมาก”นายเกริกไกรระบุ

กลุ่มประมงโวยบัญชีดำมะกัน

วันเดียวกัน 8 สมาคม ด้านการประมงของไทย อาทิ สมาคมอาหารแช่เยือกแข็งไทย สมาคมกุ้งไทย สมาคมปลาป่นไทย และสมาคมผู้ผลิตอาหารสัตว์ไทย ได้ร่วมกันแถลงกรณีทางการสหรัฐประกาศลดอันดับประเทศไทยด้านสถานการณ์เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ลงไปอยู่ระดับ 3 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุด โดย นายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานสมาพันธ์ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมประมงไทย กล่าวว่า การลดอันดับดังกล่าวถือว่าไม่ยุติธรรมกับไทย อย่างไรก็ตาม คงต้องติดตามคำตัดสินของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ภายใน 90 วันว่าจะออกมาอย่างไร

ยันไม่มีการทารุณแรงงานเด็ก

“อุตสาหกรรมประมง โดยเฉพาะกุ้งและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ขอปฏิเสธข้อกล่าวหาของสหรัฐ ยืนยันว่าตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา สมาคมต่างๆได้แก้ไขปรับปรุงป้องกัน ทุกขั้นตอน จึงไม่มีการใช้หรือปฎิบัติต่อแรงงานเด็ก หรือแรงงานผิดกฎหมายเยี่ยงทาส ตรงกันข้ามได้แจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองลงโทษกับผู้ทำผิดด้านแรงงาน ไม่ว่าแรงงานในประเทศ หรือแรงงานต่างด้าว ตามกฎหมายค่อนข้างรุนแรง อีกทั้ง หากสมาชิกใดกระทำผิดต่อกฎหมายแรงงานจะถูกขับออกจากการเป็นสมาชิก ไม่สามารถทำการค้าหรือส่งออกอุตสาหกรรมกุ้งไปตลาดต่างประเทศได้ ถือเป็นมาตรการค่อนข้างรุนแรง” นายพจน์กล่าว

โรงงานน้ำตาลปัดค้ามนุษย์

ด้าน นายสิริวุทธิ์ เสียมภักดี ประธานคณะทำงานด้านประชาสัมพันธ์ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย กล่าวว่า อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายไม่ได้ถูกจัดอยู่ในบัญชีดังกล่าว และที่ผ่านมา 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทรายร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ร่วมกับกระทรวงแรงงาน ออกตรวจและรับรองโรงงานน้ำตาลทรายทั่วประเทศ ที่ไม่ใช้แรงงานเด็ก เพื่อแสดงความโปร่งใส ยืนยันได้ว่า อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาล ไม่มีการใช้แรงงานเด็กอย่างแน่นอน

เตือนกระทบกุ้ง-เครื่องนุ่งห่ม

นายแล ดิลกวิทยรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาแรงงานและการจัดการ คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะประธานที่ปรึกษาเพื่อพัฒนาแรงงานแห่งชาติชุดที่ 16 กล่าวว่า การจัดอันดับให้ไทยตกไปอยู่ในระดับต่ำสุด เรื่องการค้ามนุษย์ เชื่อว่าไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองของไทย ซึ่งต้องรอดูท่าทีของสหรัฐฯว่าจะออกมาตรการใดมากดดัน แต่ไม่น่าถึงขั้นคว่ำบาตรไทย ซึ่งอุตสาหกรรมกุ้ง และเครื่องนุ่งห่ม ที่ใช้แรงงานจำนวนมากจะกระทบหนัก โดยเฉพาะลูกจ้างที่ส่วนใหญ่เป็นแรงงานรายวันและแรงงานนอกระบบประกันสังคม หากได้รับผลกระทบจนต้องถูกเลิกจ้างจะไม่ได้เงินช่วยเหลือกรณีว่างงาน ดังนั้นภาครัฐควรแก้ปัญหานี้ควบคู่กับสร้างความเข้าใจ และหามาตรการดูแลลูกจ้างสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบ

แรงงานชี้ไม่กระทบสินค้า4ชนิด

ขณะที่ม.ล.ปุณฑริก สมิติ รองปลัดกระทรวงแรงงานเห็นว่า การปรับลดสถานะของไทยดังกล่าวส่งผลกระทบและสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของประเทศไทยมาก โดยสหรัฐฯมองประเด็นการดำเนินคดีเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ของไทยเป็นหลักว่ายังไม่เพียงพอ และสื่อต่างประเทศนำเสนอข่าวว่าไทยบังคับใช้ ทำร้ายแรงงานโดยเฉพาะแรงงานด้านประมงออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งที่ผ่านมาไทยพยายามแก้ปัญหา ทั้งจัดระบบการใช้แรงงานในสถานประกอบการ การตรวจแรงงาน

อย่างไรก็ตาม การที่ไทยถูกลดอันดับการแก้ปัญหาค้ามนุษย์ไปอยู่ระดับต่ำสุดนั้น ไม่กระทบการสั่งซื้อสินค้าของภาคเอกชนสหรัฐฯ เนื่องจากที่ผ่านมาสมาคมผู้นำเข้าสินค้ามีความเชื่อมั่นในสินค้าของไทย เตรียมเดินทางมาไทยเดือนหน้า และไม่กระทบการยื่นขอปลดสินค้า 4 ชนิดคือ กุ้ง ปลา อ้อยและเครื่องนุ่งห่ม ที่จะตัดสินในเดือนกันยายน เพราะไม่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ แต่เป็นเรื่องการใช้แรงงานเด็ก ที่ขณะนี้ไทยดำเนินการไม่ให้มีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เข้าไปอยู่ในพื้นที่สถานประกอบการสินค้า 4 ประเภทดังกล่าว ซึ่งผู้ประกอบการต่างก็ให้ความร่วมมือ

คสช.ไฟเขียวช่วยอ้อย160บ.

วันเดียวกัน นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุม คสช. ได้อนุมัติช่วยเกษตรกรชาวไร่อ้อย โดยกำหนดราคาอ้อยขั้นสุดท้ายประจำปี 2555/2556 ในราคาเฉลี่ยทั่วประเทศ 999.20 บาทต่อตัน พร้อมทั้งเพิ่มค่าอ้อยอีก 160 บาทต่อตัน ซึ่งจะทำให้ชาวเกษตรกรไร่อ้อยนำเงินดังกล่าวไปหมุนเวียนลงทุนในการผลิตอ้อยครั้งต่อไป โดยงบประมาณที่ คสช. อนุมัติ กระทรวงอุตสาหกรรม จะกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)

ลดภาษีดีเซลต่ออีก1เดือน

นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า คสช. อนุมัติลดอัตราภาษีสรรพสามิตของน้ำมันดีเซลออกไปอีก 1 เดือน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาค่าใช้จ่ายในการขนส่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1- 31 กรกฎาคม ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวส่งผลให้สูญเสียภาษีสรรพสามิตเดือนละ 9 พันล้านบาท โดยขณะนี้ได้ดำเนินมาตรการดังกล่าวตั้งแต่เดือนเม.ย. 2554 จนถึงปัจจุบันเป็นมูลค่ากว่า 3.36 แสนล้านบาทแล้ว

อนุมัติลดต้นทุนชาวนา432บ./ไร่

ด้าน นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า คสช.เห็นชอบการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต2557/2558 ด้วยการลดต้นทุนปัจจัยการผลิตและบริการ รวมถึงค่าปุ๋ยเคมี เคมีกำจัดศัตรูพืช ค่าเมล็ดพันธุ์พืช ค่าบริการรถเกี่ยวข้าวและค่าเช่าที่นาเพื่อลดปัจจัยการผลิตลง 432 บาท/ไร่ โดยให้กรมการค้าภายใน จัดหาปุ๋ยราคาถูก ให้เพียงพอต่อความต้องการของเกษตรกร จากการหารือผู้ค้าปุ๋ยยินดีที่จะให้ความร่วมมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคุณnews และเพื่อนๆทุกท่านครับ

โชคดีนะจ๊ะ

 

สวัสดี deb news wann TraderJunior ตังเม อยากเล่นด้วยคน Espresso OKorNO เพื่อนๆทุกท่าน... .... .. ...

10382831_744943142213558_5798727986141714570_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับคุณ.. Ginger TraderJunior Alan Gejen Wann ตู้เย็น Pasaya OKorNO เด็กสยาม MegaGold meng166 deb99 เต้าหู้ ปุยเมฆ tuktaaaa Lekk Espresso’(S) และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้เป็นเขียวแท่งหกครับ :32

 

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1313 ราคาสูงสุด1325

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1314

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทาง sideway อัฟ ครับ

RSI Price Line เส้นเขียว 70.09 วิ่งมา 69.11 ครับ

Trade Signal Line เส้นแดง 62.61 วิ่งมา 65.08 ครับ

market base Line เส้นเหลือง 45.43 วิ่งมา 46.15 ครับ

เส้นแดงเพิ่มครับ

 

สัญญานรองQQE ทิศทาง sideway อัฟ

เส้นฟ้า 64.99 วิ่งมา 65.84 ครับ

เส้นประเหลือง 57.47 วิ่งมา 58.17 ครับอยู่ต่ำว่าเส้นฟ้าครับ

(เส้นเหลืองถ้าคงที่นานๆ จะแสดง side way หรือกลับตัวและ

ถ้าทิศทางลงจะเด้งไปอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าทันทีถ้าขึ้นจะลงมาต่ำกว่าเส้นฟ้าทันที)

แนวต้าน 1325 1333 1342 1352

แนวรับ 1311 1298 1284 1277

 

ภาพรวมๆจากสัญญานราคา sideway อัฟ ครับ

ด้านล่างไปถึง 1242 – 1220

ด้านบน มาถึง 1325 แล้ว เป้าต่อไป 1333 ครับ

 

 

 

 

 

ขอให้โชคดีครับ

:bye

post-1891-0-11925700-1403663180_thumb.png

บาย

ถูกแก้ไข โดย news

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Ausiris Trading Ideas Gold Futures วันที่ 25 มิ.ย 57

Gold Spot:

- ยิงฮ. ที่ยูเครน ตาย9 – ทองขึ้นตอนบ่าย / หัวค่ำตัวเลขยอดขายบ้าน US กลับมาดี ส่งทองลง

- วันนี้จับตาปูตินเยือนเวียนา สร้างสันติภาพ

- อยู่ฝั่งซื้อได้ / หากหลุด 1307 ให้ออกก่อน

Gold Spot

กรอบ 1284 - 1335

แนวต้าน 1321 1325 1330 1335

แนวรับ 1315 1305 1295 1284

Gold Futures

กรอบ 20150 - 20500

แนวต้าน 20350 20400 20500

แนวรับ 20300 20200 20150

Strategy

- ระยะยาวถือ Long / cut loss 1295

- ระยะสั้นถือถือ Long GF10M14 ต่อ / ราคาย่อลงหาจังหวะซื้อสวนที่แนวรับ 1284/1295 Cut loss หากราคาต่ำกว่า 1280

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สิงคโปร์เตรียมเปิดซื้อขายสัญญาทองคำ หวังเพิ่มส่วนแบ่งตลาด

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มิถุนายน 2557 17:30:00 น.

บริษัทสิงคโปร์ เอ็กซ์เชนจ์ จำกัด (SGX) ผู้ประกอบการตลาดหลักทรัพย์รายใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีแผนจะเปิดตัวสัญญาทองคำแบบกิโลบาร์เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดซึ่งมีมูลค่า 18 ล้านล้านดอลลาร์

แถลงการณ์ร่วมของตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์, สภาทองคำโลก, หน่วยงานส่งเสริมการค้าของรัฐบาลสิงคโปร์ และสมาคมตลาดทองคำแท่งของสิงคโปร์ระบุว่า การซื้อขายสัญญาทองคำแท่งขนาด 25 กิโลกรัมความบริสุทธิ์ 99.9% อาจจะเริ่มขึ้นในราวเดือนก.ย.นี้ โดยจะเปิดทำการซื้อขายในช่วงเช้าเป็นเวลาประมาณ 3 ชั่วโมง

ทั้งนี้ สิงคโปร์ต้องการแข่งขันกับจีนเพื่อเพิ่มส่วนแบ่งตลาดการซื้อขายทองคำแท่ง ในขณะที่อุตสาหกรรมกำลังหารือถึงการเปลี่ยนแปลงการอ้างอิงราคาในลอนดอนที่ใช้มาเป็นเวลานาน และการที่อุปสงค์ในตลาดโลกเปลี่ยนมาอยู่ทางตะวันออก

สภาทองคำโลกมีแผนจะประชุมในประเด็นการเปลี่ยนแปลงการกำหนดราคาทองคำในเดือนหน้า ขณะที่เอเชียมีสัดส่วน 63% ของปริมาณความต้องการทองรูปพรรณ, ทองแท่งและเหรียญทองทั้งหมดในปีที่แล้ว เพิ่มขึ้นจากระดับ 57% ในปี 2553

รัฐบาลสิงคโปร์กำลังส่งเสริมให้สิงคโปร์เป็นศูนย์กลางการซื้อขายโลหะมีค่าหลังจากยกเลิกการเรียกเก็บภาษีในอัตรา 7% จากสินค้าและบริการที่เกี่ยวกับทองคำ เงิน และพลาตินัมไปเมื่อเดือนต.ค.2555

แถลงการณ์ระบุว่า ภายหลังการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว การซื้อขายทองคำในสิงคโปร์ในปี 2556 มีปริมาณเพิ่มขึ้น 49% จากปีก่อนหน้า แตะที่ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือ 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

เงินบาทปิด 32.47/48 ทรงตัวจากช่วงเช้า รอดู GDP สหรัฐฯ คืนนี้-ตลาดรอปัจจัยใหม่

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มิถุนายน 2557 17:31:50 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 32.47/48 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากช่วงเช้า

"ระหว่างวันเคลื่อนไหวแคบมาก กรอบบนกับกรอบล่างห่างกันแค่ 2 สตางค์ Low ที่ 32.46 ครึ่ง และ High ที่ 32.498 หวังว่าตัวจีดีพี ไตรมาส 1 ของสหรัฐฯจะมีผลบ้างแต่คงไม่มาก คงรอปัจจัยใหม่ที่มีผลกระทบแรงๆ"นักบริหารเงิน กล่าว

ดังนั้น ประเมินว่าเงินบาทวันพรุ่งนี้คงจะยังเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 32.40-32.50 บาท/ดอลลาร์ต่อไป

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 101.88 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 101.90 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3602 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.3616 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,468.49 จุด เพิ่มขึ้น 7.57 จุด, +0.52% มูลค่าการซื้อขาย 37,138.11 ล้านบาท

- นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยวันนี้ฟื้นตัวขึ้นหลังรับรู้เรื่อง EU ลดสัมพันธ์กับไทยไปแล้ว และการถือหุ้นของต่างชาติลดเหลือ 34% เชื่อว่าคงหยุดขายหรืออาจซื้อกลับ รวมทั้งการปฏิรูปเศรษฐกิจของญี่ปุ่นทำให้เม็ดเงินจากองทุนบำนาญมีโอกาสไหลเข้ามาในตลาดเกิดใหม่ แนะเลือกซื้อหุ้นรายตัว มองที่ราคาถูก และ/หรือมี Story พรุ่งนี้ตลาดฯยังมีโอกาสขึ้นได้อีกแต่อาจแกว่งแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,460 แนวต้าน 1,470 จุด

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 922.24 ลบ.(SET+MAI)

- ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี(TMB Analytics) ประเมินว่า จากกรณีสหภาพยุโรป (อียู) ประกาศลดระดับความสัมพันธ์กับประเทศไทย ทำให้ข้อตกลงทางการค้า การลงทุนและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ อาจต้องชะลอออกไปก่อนจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง ซึ่งบั่นทอนความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดอียู ทั้งนี้ เนื่องจากยังไม่มีการ sanction หรือห้ามธุรกิจและธุรกรรมระหว่างประเทศ ผลกระทบต่อการทำธุรกิจและธุรกรรมระหว่างเอกชนด้วยกันเองจะยังไม่ได้รับผลกระทบมาก

- ตลาดหุ้นเกิดใหม่ปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากสถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันนักลงทุนคาดการณ์ว่า การเสนอขายหุ้นใหม่ในจีนจะดึงดูดเม็ดเงินออกจากตลาด

- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้อ่อนตัวลง ในขณะที่สถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

- หวาง ชือ ประธานบริษัท Vanke ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัยรายใหญ่ที่สุดของจีน เปิดเผยว่า การปรับตัวที่กำลังเกิดขึ้นในภาคอสังหาริมทรัพย์ของจีนอาจจะเกิดขึ้นต่อไปอีกเป็นเวลา 2-4 ปี

- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี ปิดลดลงในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในอิรัก และการร่วงลงของตลาดหุ้นโตเกียว

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 90 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,160 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,315.38 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 9.74 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

ราคาทองคำฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ ลดลงแตะ 12,160 HKD/tael

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มิถุนายน 2557 17:03:01 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 90 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,160 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,315.38 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 9.74 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...