ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ทองขึ้น50บ.ทองแท่งขายออก19,750 ราคาทองคำวันนี้ทองแท่งขายออกบาทละ 19,750 บาท ทองรูปพรรณขายออกบาทละ 20,150 บาท ปรับขึ้น 50 บาท เงินบาทเปิด31.76/77แข็งค่า เงินบาทเปิด 31.76-31.77 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า หลังดอลาร์อ่อน คาดวันนี้เคลื่อนไหว 31.70-31.90 บาท/ดอลลาร์ คาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นหลังได้รธน. โบรกฯคาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้น ต่างชาติเชื่อมั่น หลังได้รธน.ชั่วคราว ประเมินกรอบที่ 1,515-1-1,535 จุด เกาะติดหุ้นโลก 23-7-57 vdo.gif สรุปภาพรวมตลาดหุ้น 22-7-57 vdo.gif แนวโน้มราคาทอง vdo.gif GRAMMYส่งบ.ย่อยซื้อหุ้นCTH

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

 

 

ข่าวยอดนิยม

 

ข้าราชการระดับปลัดกระทรวง 2 คน ที่มีพฤติกรรม “ร่ำรวยผิดปกติ” ส่อแสดงให้เห็นความล้มเหลว

 

ของผู้บริหารระดับสูง ที่ไม่ตระหนักต่อตำแหน่งหน้าที่

31 ม.ค.2557 ศาลแพ่งพิพากษาให้ทรัพย์สินกว่า 46ล้านบาท ของอดีตปลัดกระทรวงคมนาคม "สุพจน์ ทรัพย์ล้อม" ตกเป็นของแผ่นดิน เนื่องจากมีพฤติกรรม"ร่ำรวยผิดปกติ" จำเลย และโจทย์ ต่างอุทธรณ์คำพิพากษาทั้งคู่

ต่อมาต้นเดือน มี.ค.2557สำนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ ได้รับสำนวนคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ยื่นขออัยการ ส่งฟ้องต่อศาลแพ่ง สั่งให้ทรัพย์สิน กว่า 69 ล้านบาท ของอดีตปลัดกระทรวงกลาโหมพล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ ตกเป็นของแผ่นดิน และไม่บ่อยครั้งนักที่ “บิ๊กทหาร” จะถูกดำเนินคดีคอร์รัปชัน และอัยการ ได้ยื่นฟ้องให้ศาลแพ่ง สั่งให้ทรัพย์สินกว่า 69 ล้านบาทตกเป็นของแผ่นดิน

บนเส้นทางเก้าอี้ปลัดกระทรวงกลาโหม ของ พล.อ.เสถียร เจอกับปัญหา “ทุลักทุเล”

ชีวิตราชการช่วง พล.อ.เสถียร เป็นกรรมการ อคส. จนถึงผู้บัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการทหารสูงสุดนั้น เป็นช่วงที่ป.ป.ช.ตรวจพบว่า พล.อ.เสถียร ร่ำรวยผิดปกติ เพราะมีเงินเข้าบัญชีกว่า 10 ล้านบาท

ขณะที่พบว่ามีเงินเข้าบัญชี ภรรยาและบุตรสาว กว่า 100 ล้านบาท และมีการถ่ายโอนเงินของบุตรสาวไปให้ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ "สมบัติ จันทรวงศ์" ซึ่งเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ของบุตรสาว พล.อ.เสถียร โดย สมบัติ ยอมรับกับ ป.ป.ช.ว่ารับฝากเงินจำนวนนี้ไว้จริงและได้นำเงินดังกล่าวไปลงทุนในสหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

พฤติกรรมดังกล่าว ป.ป.ช. แปลเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากการจงใจ "ซุกบัญชีทรัพย์สิน"

ขณะที่ สังคมก็หันมาจับตามองที่ “ณัฐณิชาช์ เพิ่มทองอินทร์” หรือ "มาดามอู๊ด"

"มาดามอู๊ด" ทั้งผลักทั้งดันสามีจนมาถึงปลัดกระทรวงกลาโหม และหากไม่เกิดอุบัติเหตุที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดสามี เธอวาดหวังให้สามี ไปได้ไกลในตำแหน่งที่สูงขึ้นทางการเมือง กว่าที่คนในวงการสีเขียวจะเป็นได้

ทรัพย์สินที่เพิ่มพูนขึ้น พบว่า ยุคที่ พล.อ.เสถียร เป็นปลัดกระทรวงกลาโหม ช่วงวันที่ 1 ต.ค.2554- 27 ส.ค.2555 หน่วยซึ่งขึ้นตรง สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นคู่สัญญาจัดซื้อจากเอกชน 81 รายการ รวมวงเงิน 300 ล้านบาท ซึ่งวงเงินว่าจ้างสูงสุด 3อันดับ ได้แก่

16 ธ.ค.2554 สำนักโยธาธิการกลาโหม จ้างบริษัท แม็ทชิ่ง แม็กซิไมซ์ โซลูชัน จัดงานแสดงพลุจากต่างประเทศ 26 ล้านบาท

19 มิ.ย.2555 โรงงานเภสัชกรรมทหาร จ้างบริษัท โกลบอลเทค จำกัด ก่อสร้างโครงการจัดหาเครื่องจักรเพื่อทดแทนและขยายกำลังผลิต 21 ล้านบาท

10 พ.ย.2554 โรงงานวัตถุระเบิดทหาร ซื้อขายวัสดุประกอบรวมกระสุน จาก บริษัท วี.พี.ดีเฟส์น โปรดักส์ 15,889,500 บาท

21 พ.ค.2555 ป.ป.ช.แต่งตั้งคณะอนุฯ ไต่สวน พล.อ.เสถียร พร้อม นางณัฐณิชาช์ และ ร.อ.ณิชาพัฒน์ เพิ่มทองอินทร์ (บุตรบุญธรรม) มี วิชา มหาคุณ เป็นประธานอนุฯ ระหว่างไต่สวน ป.ป.ช.มีคำสั่งให้อายัดทรัพย์สินของ พล.อ.เสถียร นางณัฐณิชาช์ และร.อ. ณิชาพัฒน์ และบุคคลอื่น ที่มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะเป็นผู้ถือทรัพย์สินแทนรวม 86 ล้านบาท โดยถอนอายัดทรัพย์สินในชื่อบุคคลอื่น 17 ล้านบาท คงเหลือ 69 ล้านบาท

14 มิ.ย.2556 คณะอนุกรรมการฯ แจ้งข้อกล่าวหาแก่ พล.อ.เสถียร ว่าร่ำรวยผิดปกติ มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นทั้งที่อยู่ในชื่อของ พล.อ.เสถียร นางณัฐณิชาช์ และในชื่อของบุคคลอื่น รวมกว่า 683 ล้านบาท

ป.ป.ช.พิจารณารายงานผลการไต่สวนข้อเท็จจริง เห็นว่า พล.อ.เสถียร ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาว่า มาจากเงินได้ของครอบครัวเพิ่มทองอินทร์ (กงสี) จากการให้เช่าพระ ตั้งแต่ปี 2550-2555 รวมทั้งลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มีกำไร 49 ล้านบาท รวมรายได้ที่เป็นกงสี 238 ล้านบาทนั้น รับฟังไม่ได้ ป.ป.ช.มีมติให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน 182 ล้านบาท

นอกจากนั้นที่ พล.อ.เสถียร อ้างว่า ได้มาจากการขายที่ดินให้กับบริษัทสยามโกลบอลเฮ้าท์ ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบพบว่า ก่อนที่จะดำเนินการขายที่ดินให้บริษัทดังกล่าว ภรรยาได้ไปซื้อที่ดินจากธนาคารกรุงเทพ ในราคา 15 ล้าน แต่ไม่สามารถชี้แจงที่มาของเงินที่นำไปซื้อได้ จึงให้ยึดทรัพย์สิน 106 ล้าน แต่ทรัพย์สินที่ป.ป.ช.มีคำสั่งอายัดไว้ 69 ล้านบาท น้อยกว่าทรัพย์สินที่ได้มาโดยร่ำรวยผิดปกติ

หลัง ป.ป.ช.อายัดทรัพย์ ถือเป็นวิบากกรรมที่ทำให้ พล.อ.เสถียร เข้าใจสัจธรรมว่าเมื่อสิ้นอำนาจวาสนาไร้บารมี ในยามที่ตกอับในชีวิตเช่นนี้ ดูจะไม่มีใครในพรรคเพื่อไทย ที่มีน้ำใจ ยื่นมือเข้าปลอบโยน

Tags : ยึดทรัพย์เสถียร เพิ่มทองอินทร์ร่ำรวยผิดปกติสุพจน์ ทรัพย์ล้อมป.ป.ช.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วัยรุ่นย่านฝั่งธน ขนอาวุธสงครามยิงถล่มกัน เจ็บ 1 ‪#‎ขนอาวุธสงคราม‬ ‪#‎ยิงถล่ม‬‪#‎อาชญากรรม‬ ‪#‎nationtv‬

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นเช้าปิดบวก12จุด

 

ตลาดหุ้นภาคเช้าปิดบวก 12 จุด แรงซื้อต่างชาติหนุน คาดบ่ายบวกต่อ กรอบ 1,525-1,540 จุด

 

ทีเอ็มบีเผยดัชนีเชื่อมั่นเอสเอ็มอีฟื้น36%

 

ทหารไทยเผยดัชนีความเชื่อมั่นเอสเอ็มอีฟื้นชัด ไตรมาส 2 อยู่ที่ 36.6% ชี้เอสเอ็มอีคลายกังวลการเมือง

 

ทุนไหลเข้าตลาดเอเชียดันบาทแข็งค่ารอบ8เดือน

 

บาทแข็งค่ารอบ8เดือนตามเงินภูมิภาค จากเงินทุนไหลเข้าตลาดเอเชีย "พิสิฐ" มองแนวโน้มแข็งค่าต่อเนื่อง

 

คสช.อนุมัติร่วมทุนเอไอไอบี

 

 

 

ทิศทางตลาดอนุพันธ์ภาคเช้า 23-7-57 vdo.gif

 

 

 

ทิศทางตลาดหุ้นภาคเช้า 23-7-57 vdo.gif

 

 

 

5 ปัจจัยก่อนลงทุน 23-7-57 vdo.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณพรรณงาม อารยวุฒิ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับกลยุทธ์การลงทุน SET50 Index Futures รายการ News@12:00 P.M. ทางช่อง Money Channel วันพุธที่ 23 กรกฎาคม 2557

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Ausiris Trading Ideas Gold Futures วันที่ 23 ก.ค 57

Gold Spot:

- ปุติน-โอบาม่า ยังสวนกันไม่เลิก /

- ยูโรอ่อน / USD แข็ง ทองย่อ

- เสี่ยงซื้อสั้นๆ จบในวัน / หลุด 1300 สลับหน้าเป็นขาย

Gold Spot ($/Oz)

กรอบ 1280 - 1345

แนวต้าน 1315 1325 1330 1345

แนวรับ 1305 1300 1295 1280

Gold Futures

กรอบ 19500 - 20100

แนวต้าน 19900 20000 20100

แนวรับ 19700 19600 19500

Strategy

- ถือ Long GF10Q14 ต่อ / มือเปล่าเสี่ยง Long ลุ้นรีบาวด์สั้นๆ ราคาหลุด 1305/1300 ตัดขาดทุนและสลับหน้าเปิด Short

--------------------

:bye

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Asia Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียประจำวันที่ 23 กรกฎาคม 2557

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 กรกฎาคม 2557 15:55:34 น.

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น ภายหลังจากที่บริษัท บีเอชพี บิลลิตัน ได้รายงานยอดการผลิตสินแร่เหล็ก และถ่านหินที่สูงขึ้น รวมทั้งข้อมูลดัชนี CPI ของออสเตรเลียที่ปรับตัวสูงขึ้น

ดัชนี S&P/ASX 200 บวก 33.40 จุด หรือ 0.60% ปิดที่ 5,576.70 จุด ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดวันนี้ที่ 5,567.00 จุด เพิ่มขึ้น 33.00 จุด หรือ 0.60%

-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดปรับตัวลงในวันนี้ เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆเข้ามากระตุ้น ก่อนที่บริษัทเอกชนจะเริ่มเปิดเผยผลประกอบการ

ดัชนีนิกเกอิปิดลบ 14.72 จุด หรือ 0.10% แตะที่ 15,328.56 จุด

-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ปรับตัวขึ้นเล็กนิ้อย ท่ามกลางการคาดการณ์ว่า รัฐบาลจีนจะเร่งใช้มาตรการเพื่อสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์โดยนักลงทุนรอดูการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจีนในวันพรุ่งนี้

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 3.01 จุด หรือ 0.15% ปิดที่ 2,078.49 จุด

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.03% อ่อนแรงหลังจากปิดที่ระดับสูงสุดเมื่อวานนี้ โดยได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายกลุ่มสถาบัน ขณะที่เงินวอนแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินวอนแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปรับตัวลง 0.61 จุด ปิดที่ 2,028.32 จุด

-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากช่วงเช้า หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลที่แข็งแกร่งในด้านตลาดที่อยู่อาศัย

ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 189.76 จุด หรือ 0.80% ปิดวันนี้ที่ 23,971.87 จุด

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นสิงคโปร์: ดัชนี FTSE STI ปิดบวก 23.79 จุด สอดคล้องภูมิภาค

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 กรกฎาคม 2557 17:00:13 น.

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น เช่นเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่คลายความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน ภายหลังจากที่เกิดเหตุเครื่องบินตก

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี FTSE STI บวก 23.79 จุด หรือ 0.72% ปิดที่ 3,340.70 จุด

ปริมาณการซื้อขาย 1.67 พันล้านหุ้น มูลค่า 985.1 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (793.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

สรุปภาวะตลาด Futures By GT Wealth Management 23 ก.ค. 57 (ภาคบ่าย)

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 23 กรกฎาคม 2557 17:20:20 น.

กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--GT Wealth Management

ดัชนี SET50 ปิดตลาดปรับขึ้น 14.14 จุด ปิดที่ระดับ 1,033.86 จุด ดัชนีปรับตัวขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ยังมีแรงซื้อต่างชาติเข้ามาหนุนบวกกับการผ่านร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราว ทำให้สถานการณ์การเมืองดีขึ้น ขณะที่ราคาทองคำยังคงทรงตัว หลังจากที่ความขัดแย้งทั้งในยูเครนและฉนวนกาซายังคงไม่มีความรุนแรงเพิ่มเติม แต่การแข็งค่าของค่าเงินบาทยังคงกดดันราคาทองคำในประเทศ หลังจากที่ยังมีแรงซื้อของนักลงทุนทั้งในตลาดหุ้นและพันธบัตร

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ(Gold Futures) ทั้ง 2 ขนาดสัญญา มีปริมาณการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 7,452 สัญญา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนี SET50 (SET50 Index Futures) มีปริมาณการซื้อขายรวมทั้งสิ้น 58,238 สัญญา

ภาวะการซื้อขายระหว่างวัน คุณภัทริกา สมคะเน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่าดัชนี SET50 มีการ Rebound ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ปรับตัวลงอย่างหนักในเมื่อวานนี้ จากแรงซื้อของนักลงทุนต่างชาติที่ยังหนุน เช่นเดียวกับ Single Stock Futures ที่ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ขณะที่ Gold Futures ยังคงเคลื่อนไหวไม่มากนัก โดยเงินบาทที่แข็งค่ายังคงกดดันราคาทองคำในประเทศ

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

TEL : 02-673-9911

 

ราคาทองคำฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ ขยับขึ้นแตะ 12,100 HKD/tael

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 กรกฎาคม 2557 16:36:24 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 20 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,100 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,308.89 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.16 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

In Focus: จาก MH370 ถึง MH17 และอนาคตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายของมาเลเซีย แอร์ไลน์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 23 กรกฎาคม 2557 15:46:43 น.

แวบแรกที่ได้รับทราบข่าวเที่ยวบิน M17 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ ถูกยิงตกในยูเครน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคมที่ผ่านมา เชื่อว่าคำถามแรกที่ผุดขึ้นในใจของใครหลายคนคือ “มาเลเซีย แอร์ไลน์ อีกแล้วหรือ?"

นี่เป็นเหตุการณ์หายนะที่เกิดขึ้นกับสายการบินแห่งชาติของมาเลเซียเป็นครั้งที่สองในปีนี้ โดยยังไม่ทันที่มาเลเซีย แอร์ไลน์ จะหายมึนงงจากเหตุการณ์ปริศนาที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน MH370 เมื่อเดือนมีนาคม ทางสายการบินก็มาโดนหมัดน็อกเข้าไปอีกหนึ่งหมัด ท่ามกลางคำถามมากมายที่เกิดขึ้นในขณะนี้ หนึ่งในนั้นก็คือ มาเลเซีย แอร์ไลน์ จะสามารถเอาตัวรอดจากวิกฤตสองครั้งซ้อนในช่วงเวลาเพียงสี่เดือนไปได้อย่างไร

หุ้นของมาเลเซีย แอร์ไลน์ ร่วงลงอย่างหนัก 11% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นกัวลาลัมเปอร์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้หุ้นของสายการบินดิ่งลงไปถึง 35% แล้วในปีนี้

“ถึงแม้นี่จะเป็นเหตุบังเอิญอย่างจริงแท้แน่นอนที่สุด แต่ไม่เคยมีครั้งใดในประวัติศาสตร์ที่สายการบินแห่งชาติจะสูญเสียเครื่องบินไปถึงสองลำในเวลาเพียงไม่กี่เดือน" Bertrand Grabowski กรรมการผู้จัดการของดีวีบี แบงก์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นนายธนาคารให้กับมาเลเซีย แอร์ไลน์ กล่าว

เช่นเดียวกับ Mohsin Aziz นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมการบินจากเมย์แบงก์ ที่กล่าวแสดงความเห็นราวกับนัดกันมาว่า “มันเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่อาจหาใดเปรียบ ในประวัติศาสตร์การบินที่ผ่านมานั้น ไม่เคยมีสายการบินใดเจอโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่สองครั้งติดๆกันในระยะเวลาเพียงสี่เดือน"

เคราะห์ซ้ำกรรมซัด

ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับเที่ยวบิน MH370 และ MH17 นั้น มาเลเซีย แอร์ไลน์ ประสบปัญหาทางการเงินอยู่แล้ว โดยสายการบินขาดทุนติดต่อกันมาหลายปี และมูลค่าตลาดก็ร่วงลงกว่า 40% ในช่วงเก้าเดือนที่ผ่านมา

เหตุการณ์ที่เที่ยวบิน MH370 สูญหายไปอย่างเป็นปริศนายิ่งผลักดันให้มาเลเซีย แอร์ไลน์ ต้องงัดมาตรการต่างๆมาใช้เพื่อพยุงสถานะทางการเงิน อาทิ ลดต้นทุนการดำเนินงาน และขายตั๋วเครื่องบินให้มากขึ้น โดยหลังเกิดเหตุการณ์ MH370 มาเลเซีย แอร์ไลน์ ได้เสนอค่าคอมมิชชั่นสูงกว่าปกติที่ 3% ให้กับบรรดาบริษัทนำเที่ยวหรือแทรเวลเอเจนซี่ เพื่อดึงลูกค้าให้กลับมาใช้บริการของสายการบิน และดูเหมือนว่าวิธีดังกล่าวจะได้ผล

โดยถึงแม้การอันตรธานหายไปอย่างมีเงื่อนงำของเที่ยวบิน MH370 ได้สร้างความขวัญหนีดีฝ่อให้กับผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีผู้โดยสารอีกเป็นจำนวนมากเช่นกันที่ยังคงเลือกบินกับมาเลเซีย แอร์ไลน์

Simon Thomsen นักข่าวของแฟร์แฟกซ์ มีเดีย ของออสเตรเลีย เผยเมื่อสองสัปดาห์ก่อนว่า ครอบครัวของเขาไม่สามารถหาซื้อตั๋วของมาเลเซีย แอร์ไลน์ เพื่อเดินทางจากกัวลาลัมเปอร์กลับมายังซิดนีย์ได้ เนื่องจากเที่ยวบินถูกจองเต็มทุกที่นั่ง นอกจากนี้ พนักงานของแฟร์แฟกซ์คนหนึ่งเผยว่า เขาเพิ่งเดินทางกลับจากลอนดอนด้วยเที่ยวบินของมาเลเซีย แอร์ไลน์ และรู้สึกประหลาดใจที่มีผู้โดยสารเต็มลำ

อย่างไรก็ตาม ในขณะที่มาเลเซีย แอร์ไลน์ กำลังเริ่มที่จะกลับมาฟื้นตัวในบางตลาด และดูเหมือนว่าอะไรๆกำลังจะดีขึ้น แต่ผลการดำเนินงานของสายการบินในตลาดจีนนั้นยังคงย่ำแย่อย่างมาก เนื่องจากนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ MH370 นักท่องเที่ยวชาวจีนต่างพากันพร้อมใจโบกมือลามาเลเซีย นอกจากนี้ สิงคโปร์ แอร์ไลน์ และสายการบินอื่นๆที่มีเที่ยวบินไปมาเลเซียก็ยังถูกหางเลขไปด้วย

แล้วยิ่งเมื่อมาเกิดเหตุการณ์เที่ยวบินมรณะ MH17 ซึ่งผู้โดยสารและลูกเรือรวม 298 รายเสียชีวิตยกลำนั้น ก็ยิ่งเป็นการกระหน่ำซ้ำเติมให้มาเลเซีย แอร์ไลน์ ที่กำลังมีความหวังเล็กๆว่าจะพลิกฟื้นสถานะทางการเงินให้กลับคืนมาได้นั้น ต้องทรุดลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง

โดยมาเลเซีย แอร์ไลน์ จะต้องแบกรับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก อันเนื่องมาจากการจ่ายเงินชดเชยแก่ครอบครัวของผู้สูญหายหรือเสียชีวิต นอกจากนี้ ทางสายการบินยังต้องอัดงบการตลาด หากยังหวังว่าจะมีพื้นที่ยืนอยู่ในอุตสาหกรรมนี้ต่อไป หลังจากที่ทางสายการบินได้พลาดโอกาสในการขึ้นราคาตั๋วเครื่องบินไปแล้วอย่างน่าเสียดาย ในช่วงที่ยอดขายพุ่งสูงก่อนหน้านี้

สำหรับในตอนนี้ "ผู้โดยสารจะยอมบินกับมาเลเซีย แอร์ไลน์ ก็ต่อเมื่อตั๋วเครื่องบินมีราคาถูกมากจริงๆ เท่านั้น" Mohsin จากเมย์แบงก์กล่าว

นักวิเคราะห์บางรายตั้งคำถามว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่รัฐบาลมาเลเซีย ซึ่งถือครองหุ้นส่วนใหญ่ในมาเลเซีย แอร์ไลน์ จะยื่นมือเข้ามาอุ้มสายการบิน

นักวิเคราะห์การลงทุนจากเมย์แบงก์ ในกัวลาลัมเปอร์ กล่าวว่า ความท้าทายที่มาเลเซีย แอร์ไลน์ กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้นั้น หนักหนาสาหัสเกินกว่าจะรับมือได้ หากไม่มีการเพิ่มทุนอย่างมีนัยสำคัญ สายการบินอาจจะอยู่ไม่พ้นปีนี้

"ก่อนเกิดเหตุการณ์ล่าสุดนี้ ผมก็หวั่นๆอยู่แล้วว่าสายการบินจะอยู่รอดไปถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2015 หรือไม่ สายการบินขาดทุนหนักมาก และเหตุการณ์นี้อาจเป็นตัวเร่งให้สายการบินล้มเร็วขึ้น

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1996 หลังจากเที่ยวบิน 800 ของสายการบินทรานส์ เวิลด์ แอร์ไลน์ ตกลงในมหาสมุทรใกล้กับนิวยอร์ก จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 230 คนนั้น ห้าปีต่อมาสายการบินก็ได้ยื่นล้มละลาย และถูกอเมริกัน แอร์ไลน์ ซื้อกิจการไปในที่สุด

Sidney Dekker ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยการบินจากมหาวิทยาลัยกริฟฟิธ กล่าวว่า สำหรับบริษัทที่มีปัญหาอยู่แล้วนั้น เหตุการณ์หายนะที่เกิดขึ้นเปรียบเสมือนฟางเส้นสุดท้ายบนหลังอูฐ

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์จากเมย์แบงก์กล่าวว่า รัฐบาลมาเลเซียคงไม่ยอมปล่อยให้มาเลเซีย แอร์ไลน์ สูญสิ้นชื่อไปจากวงการ เพราะนั่นเท่ากับเป็นการทำลายความภาคภูมิใจของมาเลเซีย โดยเขาเชื่อว่ารัฐบาลอาจหาทางเข้าแทรกแซงกิจการโดยตรง หรือผ่านทางบรรษัทเพื่อการลงทุนแห่งชาติอย่าง Khazanah Nasional Berhad ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในมาเลเซีย แอร์ไลน์

เมื่อต้นเดือนนี้มีรายงานว่า บริษัทการลงทุนของรัฐบาลมาเลเซีย Khazanah Nasional Bhd มีแผนที่จะแปรรูป MAS ให้เป็นเอกชน โดยเป็นก้าวแรกอันจะนำไปสู่การปรับโครงสร้างบริษัท

Khazanah Nasional ได้ลงทุนกับสายการบินไปมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ และแย้มว่าอาจมีการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ดี ในขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่า การลงทุนเพิ่มเติมต่อจากนี้เป็นเรื่องจำเป็น เพื่อให้สายการบินอยู่รอดต่อไปได้ในระยะสั้น แต่ในระยะยาวนั้น ยังไม่มีใครบอกได้

“การสนับสนุนจากรัฐบาลจะต้องมีความชัดเจนมากขึ้น และอาจจะต้องเป็นเงินก้อนใหญ่มากด้วย" Bertrand Grabowski หัวหน้าฝ่ายอุตสาหกรรมการบินที่ดีวีบี แบงก์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นนายธนาคารของมาเลเซีย แอร์ไลน์ กล่าว

Liao Tiong Lai รัฐมนตรีคมนาคมของมาเลเซีย ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับอนาคตของสายการบินในการแถลงข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์ MH17 ถูกยิงตกเมื่อวันศุกร์ โดยให้เหตุผลว่าเป็นคนละประเด็นกัน

ใครผิด

นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ MH370 มาเลเซีย แอร์ไลน์ และรัฐบาลมาเลเซีย ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับการไร้ประสิทธิภาพในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะจีนที่แสดงความไม่พอใจอย่างมาก เนื่องจากชาวจีนกว่า 150 คนได้สูญหายไปพร้อมกับเที่ยวบินล่องหนดังกล่าว ทั้งนี้ ถึงแม้ว่าอาจจะใช่ความผิดหรือไม่ใช่ความผิดของสายการบินและรัฐบาลมาเลเซีย เพราะไม่ว่าสายการบินหรือประเทศใดก็คงรับมือไม่ถูก หากต้องเจอกับเหตุการณ์ที่เต็มไปด้วยเงื่อนงำเช่นนี้ แต่ถึงกระนั้นญาติของผู้สูญหายยังคงกล่าวโทษมาเลเซีย แอร์ไลน์ และรัฐบาลมาเลเซีย เกี่ยวกับการให้ข้อมูลที่สับสนและขัดแย้งกัน

ความรู้สึกแง่ลบที่มีต่อมาเลเซีย แอร์ไลน์ ยิ่งถูกตอกย้ำอีกครั้ง จากเหตุการณ์เที่ยวบิน MH17 ถูกกลุ่มกบฏในยูเครนยิงตก โดยที่ท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์เมื่อคืนวันพฤหัสบดีนั้น บรรดาญาติๆได้เรียกร้องขอดูรายชื่อผู้โดยสาร แต่กลับไม่พบเจ้าหน้าที่ของสายการบินคอยให้ความช่วยเหลือ

"เรารอมาสี่ชั่วโมงแล้ว เรารู้ข่าวจากสื่อต่างประเทศ เฟซบุ๊กยังมีประสิทธิภาพกว่า MAS เสียอีก" ชายหนุ่มผู้หนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวด้วยความโกรธเกรี้ยว

นอกจากความสามารถในการรับมือกับวิกฤตแล้ว สิ่งที่ทำให้หลายฝ่ายคลางแคลงใจเกี่ยวกับ มาเลเซีย แอร์ไลน์ ก็คือ การเลือกเส้นทางบินของสายการบิน หลังจากมีข่าวว่าสายการบินอื่นบางแห่งได้หลีกเลี่ยงการบินผ่านบริเวณนี้มาหลายเดือนแล้ว

คาเธ่ย์ แปซิฟิก, แควนตัส และสองสายการบินใหญ่ของเกาหลี ได้ระงับการบินผ่านน่านฟ้าของยูเครนเมื่อหลายเดือนก่อน ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย

"แม้การบินอ้อมจะทำให้ต้องเสียเวลาและมีต้นทุนค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แต่เราก็ทำเพื่อความปลอดภัย และเราจะใช้เส้นทางบินอ้อมสำหรับสำหรับเที่ยวบินขนส่งสินค้าของเราไปจนกว่าสถานการณ์ในยูเครนจะสิ้นสุดลง" โฆษกหญิงของเอเชียนา แอร์ไลน์ กล่าวกับรอยเตอร์

อย่างไรก็ดี มาเลเซีย แอร์ไลน์ ได้ออกมาปกป้องตนเองในเรื่องนี้ โดยในการแถลงเมื่อวันศุกร์ที่แล้วนั้น ทางสายการบินได้ระบุว่า องค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ได้ประกาศว่าเส้นทางบินดังกล่าวมีความปลอดภัย ขณะที่สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ก็ระบุว่า น่านฟ้าที่เครื่องบินบินผ่านนั้นไม่ได้อยู่ภายใต้ข้อจำกัดในการใช้น่านฟ้า

นอกจากนี้ แม้สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐ (FAA) ได้เตือนสายการบินอเมริกันเกี่ยวกับการบินเหนือคาบสมุทรไครเมีย แต่ก็ไม่ได้มีการออกคำเตือนดังกล่าวในบริเวณที่ MH17 ถูกยิงตก โดยทางการยูเครนได้สั่งปิดน่านฟ้าที่ระดับ 32,000 ฟุต (9,750 เมตร) แต่ MH17 บินสูงกว่านั้น 1,000 ฟุต

แม้เหตุการณ์หายนะที่เกิดขึ้นกับเที่ยวบิน MH370 และ MH17 จะมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน แต่ก็มีสิ่งเชื่อมโยงหลายสิ่งที่ทำให้สองเหตุการณ์นี้เป็นเหตุบังเอิญที่น่าขนลุก และยากจะหาเหตุผลมาอธิบาย

"ทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลาที่ใกล้เคียงกันมาก แถมยังเกิดกับสายการบินเดียวกัน เครื่องบินประเภทเดียวกัน นอกจากนี้ การตกของเครื่องบินทั้งสองลำยังต่างไปจากปกติ เพราะโดยทั่วไปอุบัติเหตุส่วนใหญ่จะเกิดในขณะที่เครื่องบินใกล้ลงจอด หรือหลังจากที่เพิ่งเทคออฟได้ไม่นาน ทั้งสองเหตุการณ์นี้จึงต่างก็มีองค์ประกอบที่เป็นปริศนา" Sidney Decker ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยการบินจากมหาวิทยาลัยกริฟฟิธกล่าว พร้อมกับเสริมว่า หากเราแยกสองเหตุการณ์นี้ออกจากกัน ก็จะเห็นว่าทั้งสองเหตุการณ์นั้นแทบไม่เกี่ยวข้องกัน นอกจากความเชื่อมโยงอย่างบังเอิญดังที่กล่าวมาข้างต้น

"คำถามที่ว่า 'มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับมาเลเซีย แอร์ไลน์ อย่างนั้นหรือ?' ถือเป็นคำถามที่ป่วยการจะถาม และเปล่าประโยชน์ที่จะคิด" Dekker กล่าว "มันเป็นเรื่องของความบังเอิญอย่างแท้จริง ผมเพิ่งบินผ่านน่านฟ้าของยูเครนกับลูกสาวเมื่อไม่นานมานี้ มันอาจเป็นเราก็ได้"

Mohsin Aziz นักวิเคราะห์อุตสาหกรรมการบินจากเมย์แบงก์กล่าวว่า "ไม่สำคัญว่าใครผิด แต่สิ่งที่ลูกค้ารับรู้คือ 'ฉันไม่ต้องการบินกับมาเลเซีย แอร์ไลน์อีกต่อไปแล้ว' และการเอาชนะความคิดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย"

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะซื้อขายตลาดหุ้นไทยภาคบ่าย 23-7-57 vdo.gif Money Wise สรุปภาวะซื้อขายตลาดหุ้นไทยภาคบ่าย สดตรงจากนักวิเคราะห์ ติดตามได้ใน Money Wise "NOW26" 23-7-57 'ธนชาต'ออกตราสารหนี้6เดือนทางเลือกหุ้นผันผวน บลจ.ธนชาต ออกกองตราสารหนี้ระยะสั้น 6 เดือนเป็นทางเลือกช่วงหุ้นผันผวนให้ผลตอบแทนประมาณ 2.60% เจาะหุ้นเด่นภาคบ่าย 23-7-57 vdo.gif Money Wise ช่วงพลิกเกม เจาะกลยุทธ์การลงทุนหุ้นเด่นภาคบ่าย สดตรงจากนักวิเคราะห์ "NOW26" 23-7-57 ทิศทางตลาดอนุพันธ์ภาคบ่าย 23-7-57 vdo.gif สรุปภาวะซื้อขายหุ้นไทยภาคเช้า 23-7-57 vdo.gif หุ้นเช้าปิดบวก12จุด ทีเอ็มบีเผยดัชนีเชื่อมั่นเอสเอ็มอีฟื้น36%

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

 

 

ข่าวยอดนิยม

 

"สีหศักดิ์" ปลัดกต. ร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ตามคำเชิญ ปธ.กมธ.อียูที่เบลเยียม ชี้กระชับสัมพันธ์ชื่นมื่น

 

มีรายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ว่า ในค่ำวานนี้ (22 ก.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ปฏิบัติหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีอาเซียน-สหภาพยุโรป (อียู) ระหว่างวันที่ 22-23 กรกฎาคม ได้เริ่มต้นภารกิจโดยหารือกับนายเดวิด โอซิลลิแวนปลัดกระทรวงต่างประเทศอียู รับประทานอาหารกลางวันและหารือกับสมาชิกรัฐสภายุโรป จากนั้นได้เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่นาย Jose Manuel Barroso ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปจัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่รัฐมนตรีอาเซียนที่เดินทางมาเข้าร่วมประชุม

นายสีหศักดิ์ กล่าวให้สัมภาษณ์ภายหลังเสร็จภาระกิจว่า การเดินทางมาร่วมประชุมครั้งนี้มีความสำคัญ เพราะเป็นครั้งแรกที่ตนเดินทางเยือนยุโรป ซึ่งเป็นหนึ่งในกลุ่มที่มีท่าทีค่อนข้างแรงต่อไทยหลังเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม และมีโอกาสได้พบกับทั้งฝ่ายอียูที่เป็นผู้นำเสนอนโยบาย รวมถึงพบปะกับสมาชิกอียูแต่ละประเทศไปพร้อมๆ กัน ในส่วนของไทยก็เป็นเช่นที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ.และหัวหน้าคสช.เคยพูดไว้คือเราเข้าใจได้ว่าเขาต้องยึดหลักการและมีบรรทัดฐานในการดำเนินความสัมพันธ์ แต่ก็อยากให้เขาเข้าใจ ให้เวลาและให้พื้นที่กับไทยในการแก้ไขปัญหาภายในของเราเองด้วย เพราะไม่มีใครจะแก้ไขปัญหาภายในของไทยได้นอกจากคนไทยด้วยกันเอง

นายสีหศักดิ์ กล่าวอีกว่า ในการพูดคุยกับปลัดกระทรวงต่างประเทศอียูมีการแลกเปลี่ยนความเห็นกันอย่างตรงไปตรงมาว่าเขาคิดและมองไทยอย่างไร ซึ่งตนได้ชี้แจงไปว่าจะมองโดยเอาหลักการเพียงอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องมีความเข้าใจที่แท้จริงด้วยว่า สถานการณ์ในแต่ละประเทศเป็นอย่างไร เรายึดมั่นในแนวทางประชาธิปไตยแต่เส้นทางประชาธิปไตยของแต่ละประเทศไม่ใช่เส้นตรงเสมอไป ดังนั้นจะใช้บรรทัดฐานหรือมองด้วยอุดมคติที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงของแต่ละประเทศไม่ได้ สิ่งที่เกิดขึ้นในไทยไม่ใช่การล้มประชาธิปไตย แต่เป็นการประคับประคองประชาธิปไตยในไทยให้ก้าวหน้าต่อไปได้ ขณะนี้ไทยกำลังมุ่งมั่นเดินตามโรดแมปที่ได้ประกาศไว้ มีการประกาศใช้ธรรมนูญชั่วคราวและจะเดินหน้าตามขั้นตอนอื่นๆ ต่อไป จึงไม่อยากให้ด่วนสรุปแต่ให้ดูตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เพื่อให้ไทยกลับสู่การมีประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและยั่งยืน ซึ่งโรดแมปของไทยที่ใช้เวลา 15 เดือนไม่ใช่เวลานานไปหากเราทำให้ประชาธิปไตยไทยยั่งยืนได้

" เป็นเรื่องดีที่อย่างน้อยเขาเปิดกว้างที่จะรับฟังความเห็น ที่สำคัญเขาบอกว่าเห็นความสำคัญของไทยที่เป็นหุ้นส่วนสำคัญของอียูในภูมิภาค อียูยืนยันว่ามองไทยเป็นมิตรประเทศโดยท่าทีที่ผ่านมาของเขาถือว่า ถือว่าเบาบางที่สุดและไม่ได้มีอะไรที่ถือเป็นการคว่ำบาตร ทั้งยังตระหนักดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างกันต้องเดินหน้าต่อไป แต่ภายใต้กฎหมายเขามีข้อจำกัดว่าจะต้องดำเนินความสัมพันธ์ในระดับใด เขาจะพยามมองไปข้างหน้า และคาดหวังว่าไทยจะกลับสู่ประชาธิปไตยและมีการเลือกตั้งโดยเร็ว และอยากเห็นกระบวนการที่ทุกฝ่ายมีส่วนร่วม โดยจะติดตามมาตรการต่างๆ ของไทยหากมีท่าทีดีขึ้นก็จะทบทวนมาตรการต่างๆ ของเขา"นายสีหศักดิ์กล่าว

นายสีหศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับการหารือกับสมาชิกรัฐสภายุโรป ทุกท่านเป็นผู้ที่ดูแลและติดตามความสัมพันธ์กับอาเซียนอยู่แล้วจึงเข้าใจถึงความซับซ้อนของสถานการณ์ในไทยเป็นอย่างดี มีการสอบถามถึงบทบาทขององค์กรอิสระ บางท่านบอกว่าทราบดีว่าก่อนเกิดเหตุการณ์วันที่ 22 พฤษภาคม ทางเลือกมีไม่มาก และเขามองไทยเป็นหุ้นส่วนสำคัญสำหรับอียูจึงได้ขอให้เขาช่วยอธิบายให้สมาชิกรัฐสภายุโรปได้เข้าใจสถานการณ์ที่แท้จริงในไทยด้วย

นายสีหศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ในระหว่างงานเลี้ยงอาหารค่ำที่ประธานกรรมาธิการยุโรปจัดขึ้นตนก็ถือโอกาสชี้แจงสถานการณ์ในไทยโดยย้ำว่า สถานการณ์ในประเทศบีบบังคับให้เกิดเหตุการณ์วันที่ 22 กรกฎาคมขึ้น ไม่เช่นนั้นอาจจะพัฒนาไปสู่ความรุนแรงมากขึ้นซึ่งจะส่งผลกระทบต่อภูมิภาคโดยรวม และเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแล้วจึงควรมองไปข้างหน้า โดยย้ำว่าไทยมุ่งมั่นเดินหน้ากลับสู่ประชาธิปไตยเห็นได้จากที่มีการประกาศธรรมนูญการปกครองแล้ว แม้หลายประเทศตั้งข้อสังเกตว่าเหตุใดไทยไม่จัดการเลือกตั้งให้เร็วขึ้นแต่ปัญหาของไทยไม่ได้แก้ไขด้วยการเลือกตั้งเท่านั้นแต่อยู่ที่ทำอย่างไรให้ประชาธิปไตยของไทยเข้มแข็งขึ้น ปัจจุบันเศรษฐกิจที่ชะงักงันมาหลายเดือนก็ค่อยๆ คลี่คลาย ที่สุดแล้วผลประโยชน์ระยะยาวของอียูจึงอยู่ที่การที่ไทยกลับสู่ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน เพราะจะอย่างไรไทยก็ไม่หยุดนิ่งในการขับเคลื่อนและแสดงบทบาทในเวทีระหว่างประเทศ และเราก็ยังเป็นประเทศที่มีบทบาทสำคัญในภูมิภาค

Tags : สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้วปลัดกระทรวงเบลเยียมอาเซียนสหภาพยุโรปเลี้ยงอาหารค่ำอียูต่างประเทศสัมพันธ์รัฐมนตรี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

-มาร์ก ฟาเบอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนชื่อก้องโลกออกโรงเตือน การลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะหุ้นของบรรดาบริษัทผู้ให้บริการ “โซเชียล มีเดีย” มีความเสี่ยงสูง อาจทำให้นักลงทุนเจ็บตัวจากภาวะ “ฟองสบู่” ที่ใกล้แตก

 

 

“มาร์ก ฟาเบอร์” กูรูการลงทุนชื่อดัง เตือนนักลงทุน ซื้อหุ้น “โซเชียลมีเดีย” ไม่ยั่งยื

 

มาร์ก ฟาเบอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนชื่อก้องโลกออกโรงเตือน...

 

MANAGER.CO.TH

 

 

 

 

แจ้งประกาศยกเลิกการซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้า Silver Futures โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ช่วง Night Session ของวันที่ 31 ก.ค. นี้ค่ะ

ติดตามข่าวสารข้อมูลเกี่ยวกับทองคำและสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้ที่ www.classicgoldfutures.co.th ค่ะ

 

 

10448777_880120402016311_3013431177194169517_n.jpg

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10547530_722920007804952_7936002495125925226_n.jpg

สวัสดี news wann TraderJunoir deb Goldleng Facebook ตังเม อยากเล่นด้วยคน น้อย Espresso ... ... ..

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2557 07:37:12 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 ก.ค.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐ นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครนและฉนวนกาซา อย่างไรก็ตาม ดัชนี S&P ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดในแดนบวก ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทแอปเปิล อิงค์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,086.63 จุด ลดลง 26.91 จุด หรือ -0.16% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,987.01 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพิ่มขึ้น 3.48 จุด หรือ +0.18% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,473.70 จุด เพิ่มขึ้น 17.68 จุด หรือ +0.40%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัทบางแห่ง อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวนหลังจากมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของยูโรโซนปรับตัวลดลงในเดือนก.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ในยูเครนอย่างใกล้ชิด หลังจากมีรายงานว่าเครื่องบินรบยูเครน 2 ลำ ถูกยิงตกในพื้นที่ทางภาคตะวันออกของประเทศ

ดัชนี Stoxx 600 เพิ่มขึ้น 0.1% ปิดที่ 342.86 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,376.32 จุด เพิ่มขึ้น 6.80 จุด หรือ +0.16% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,753.56 จุด เพิ่มขึ้น 19.23 จุด หรือ +0.20% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,798.15 จุด เพิ่มขึ้น 2.81 จุด หรือ +0.04%

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากดัชนี S&P 500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 1.6 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 1,304.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 1.3 เซนต์ ปิดที่ 20.995 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,486.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 55 เซนต์ ปิดที่ 874.30 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบร่วงลงมากกว่าการคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ ปิดที่ 103.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 108.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงทั้งในยูเครนและฉนวนกาซา

ค่าเงินยูโรร่วงลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3448 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3466 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.7030 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.7061 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.54 เยน จากระดับ 101.45 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9026 ฟรังค์ จากระดับ 0.9024 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9451 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9394 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาการรายงานผลประกอบการของภาคเอกชน

ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 2.81 จุด หรือ 0.04% ที่ 6,798.15 จุด

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,086.63 จุด ลดลง 26.91 จุด -0.16%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,473.70 จุด เพิ่มขึ้น 17.68 จุด +0.40%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,987.01 จุด เพิ่มขึ้น 3.48 จุด +0.18%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,798.15 จุด เพิ่มขึ้น 2.81 จุด +0.04%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,753.56 จุด เพิ่มขึ้น 19.23 จุด +0.20%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,376.32 จุด เพิ่มขึ้น 6.80 จุด +0.16%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,328.56 จุด ลดลง 14.72 จุด -0.10%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,028.32 จุด ลดลง 0.61 จุด -0.03%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,567.00 จุด เพิ่มขึ้น 33.00 จุด +0.60%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,576.70 จุด เพิ่มขึ้น 33.40 จุด +0.60%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,078.49 จุด เพิ่มขึ้น 3.01 จุด +0.15%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,892.92 จุด เพิ่มขึ้น 22.98 จุด +0.33%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,971.87 จุด เพิ่มขึ้น 189.76 จุด +0.80%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,093.23 จุด เพิ่มขึ้น 9.71 จุด +0.19%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,871.83 จุด เพิ่มขึ้น 0.47 จุด +0.03%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,340.70 จุด เพิ่มขึ้น 23.79 จุด +0.72%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,147.33 จุด เพิ่มขึ้น 121.53 จุด +0.47%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่า ขณะสถานการณ์ยูเครน,กาซาตึงเครียด

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2557 07:20:19 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) ขณะที่นักลงทุนวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงทั้งในยูเครนและฉนวนกาซา

ค่าเงินยูโรร่วงลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3448 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3466 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.7030 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.7061 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.54 เยน จากระดับ 101.45 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9026 ฟรังค์ จากระดับ 0.9024 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9451 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9394 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐแตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อเทียบยูโร ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองทั่วโลกที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นและความวิตกเกี่ยวกับการคว่ำบาตรต่อรัสเซียมากขึ้น ได้ถ่วงค่าสกุลเงินยูโร เนื่องจากรัสเซียเป็นคู่ค้ารายสำคัญกับกลุ่มประเทศในยุโรปบางประเทศ

สำหรับสถานการณ์ในยูเครนนั้น กระทรวงกลาโหมยูเครนเปิดเผยว่า เครื่องบินรบยูเครน 2 ลำ ถูกยิงตกในพื้นที่ทางภาคตะวันออกของยูเครน ซึ่งใกล้เคียงกับบริเวณที่เครื่องบิน MH17 ของสายการบินมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ได้ตกลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ขณะเดียวกัน อิสราเอลยังคงบุกโจมตีฉนวนกาซาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้ว 660 รายและบาดเจ็บอีกกว่า 4,300 ราย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 73 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐร่วง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2557 07:24:39 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบร่วงลงมากกว่าการคาดการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 73 เซนต์ ปิดที่ 103.12 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ ปิดที่ 108.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นหลังจาก EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 18 ก.ค. ร่วงลงลงเกือบ 4 ล้านบาร์เรล แตะ 371.1 ล้านบาร์เรล ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 4 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงประมาณ 2.5 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึง heating oil และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 125.9 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่วิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินพุ่งขึ้น 3.4 ล้านบาร์เรล แตะ 217.9 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล

นอกจากนี้ อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันทรงตัวที่ระดับ 93.8% ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยับลง 0.2%

นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์ยูเครนและกาซาอย่างใกล้ชิด ภายหลังจากที่มีรายงานว่าเครื่องบินรบยูเครน 2 ลำ ถูกยิงตกในพื้นที่ทางภาคตะวันออกของประเทศ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่กลุ่มกบฏควบคุมอยู่ ขณะที่สถานการณ์ในฉนวนกาซาก็ยังน่าวิตก โดยปฏิบัติการทางทหารของอิสราเอลในฉนวนกาซานั้น ได้ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 660 คน และบาดเจ็บอีกประมาณ 4,300 คน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $1.6 หลังดัชนี S&P 500 พุ่งแรง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม 2557 07:10:49 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากดัชนี S&P 500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 1.6 ดอลลาร์ หรือ 0.12% ปิดที่ 1,304.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 1.3 เซนต์ ปิดที่ 20.995 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,486.7 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ลดลง 55 เซนต์ ปิดที่ 874.30 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และเข้าซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ภายหลังจากบริษัทแอปเปิล อิงค์ เปิดเผยรายได้รายไตรมาสอยู่ที่ระดับ 3.74 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 7.7 พันล้านดอลลาร์ พร้อมระบุว่า บริษัทมียอดขายไอโฟน 35.2 ล้านเครื่องในไตรมาสสิ้นสุด ณ วันที่ 28 มิ.ย. เพิ่มขึ้น 12.7% จาก 31.2 ล้านเครื่องในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

นักลงทุนคาดการณ์ว่า การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสหรัฐ จะสร้างแรงกดดันให้กับสัญญาทองคำ และคาดว่าสัญญาทองคำอาจจะไม่ได้รับแรงหนุนมากนักจากข่าวที่ว่าอินเดียประกาศคุมเข้มการนำเข้าทองคำ

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...