ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ธ.ก.ส.คาดเงินช่วยชาวนา4หมื่นลบ.เริ่มจ่าย20ต.ค.-รอ นบข.อนุมัติจ่ายชาวนาพิจิตร

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2557 13:54:43 น.

นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงเงิน 4 หมื่นล้านบาท ซึ่งที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)วานนี้(1 ต.ค.) อนุมัติให้ช่วยเหลือชาวนา 3.4 ล้านครอบครัว แบ่งเป็น ชาวนาที่มีที่ดิน 15 ไร่ขึ้นไป จะได้รับเงินช่วยค่าต้นทุนการผลิตครอบครัวละ 15,000 บาท ซึ่งมีจำนวน 1.6 ล้านครอบครัว และชาวนาที่มีที่ดินไม่เกิน 15 ไร่ จะได้รับเงินช่วยค่าต้นทุนการผลิต 1,000 บาทต่อไร่ ซึ่งมีจำนวน 1.8 ล้านครอบครัวนั้น จะโอนเข้าบัญชีของชาวนาโดยตรง และจะเริ่มจ่ายตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.นี้

ด้านนายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ขณะนี้กรมส่งเสริมการเกษตรจะดำเนินการเรื่องการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ซึ่งจะใช้ฐานข้อมูลเดิมที่เกษตรกรมาขึ้นทะเบียนขอรับสิทธิ์ลดดอกเบี้ย 3% ซึ่งขณะนี้มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียนแล้ว 2.8 ล้านราย คิดเป็น 88% จากชาวนาทั้งหมด 3.4 ล้านราย เมื่อเกษตรกรได้รับรองแล้วก็ให้มาแสดงตนที่สาขาของธ.ก.ส.พร้อมกับนำสมุดบัญชีเงินฝากมาแสดง หลังจากนั้น ธ.ก.ส.จะตรวจสอบข้อมูลว่าตรงกับฐานข้อมูลที่มีอยู่หรือไม่ หากข้อมูลตรงกันก็จะคำนวณเงินช่วยเหลือสำหรับเกษตรกรปลูกข้าวที่มีที่ดินเกิน 15 ไร่ และไม่เกิน 15 ไร่ แล้วจะโอนเงินเข้าบัญชีภายใน 3 วัน

ส่วนกรณีที่ชาวนาจาก จ.พิจิตร ออกมาเดินขบวนเรียกร้องว่ายังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวนั้น นายลักษณ์ คาดว่าน่าจะมาจากปัญหาการจำนำข้ามเขต คือ อยู่พิจิตรแต่เอาข้าวไปจำนำที่นครสวรรค์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กำลังให้ทางจังหวัดตรวจสอบว่าชาวนากลุ่มนี้มีการปลูกข้าวในช่วงระยะเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่มีโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดหรือไม่ หากพิสูจน์ได้ว่ามีการปลูกข้าวจริงก็จะเสนอให้กับคณะกรรมการนโยบายบริหารและจัดการข้าว(นบข.) รับทราบ เพื่อขออนุมัติงบประมาณมาจ่ายให้กับชาวนากลุ่มนี้ ซึ่งใช้งบประมาณไม่เกิน 100 ล้านบาท

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/กษมาพร โทร.02-2535000 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--

 

Roundup: พม่าไฟเขียวธนาคารต่างชาติ 9 รายเปิดสาขาท่ามกลางนโยบายการปฏิรูป

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2557 14:01:00 น.

พม่าเดินหน้าปฏิรูปด้านการเงิน ด้วยการอนุมัติให้ธนาคารต่างชาติ 9 แห่งเปิดสาขาเพื่อให้บริการด้านการเงินในประเทศได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 50 ปี

ธนาคารกลางพม่า ประกาศว่า ธนาคารต่างชาติ 9 แห่ง ได้รับการอนุมัติใบอนุญาตเปิดให้บริการในพม่า แบ่งเป็นธนาคารของญี่ปุ่น 2 แห่ง สิงคโปร์ 2 แห่ง และธนาคารจากประเทศจีน มาเลเซีย ไทย ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์ อีกประเทศละ 1 แห่ง

ในบรรดาธนาคารที่ได้รับอนุญาตเหล่านี้ ธนาคารอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ (ICBC) เป็นธนาคารรายใหญ่ที่สุดในโลกในแง่ของสินทรัพย์และทุนจดทะเบียนตลาด และยังเป็นหนึ่งในธนาคารพาณิชย์ของรัฐชั้นนำทั้ง 4 แห่งของจีน

สำหรับธนาคารต่างชาติอีก 8 แห่งที่ได้รับใบอนุญาต ได้แก่ ธนาคารออสเตรเลีย แอนด์ นิวซีแลนด์ แบงกิ้ง กรุ๊ป, ธนาคารกรุงเทพ, แบงก์ ออฟ โตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ, มาลายัน แบงกิ้ง เบอร์ฮัด, มิซูโฮ แบงก์, โอเวอร์ซี-ไชนีส แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น, ซูมิโตโม มิตซุย แบงกิ้ง คอร์ปอเรชั่น และยูไนเต็ด โอเวอร์ซีส์ แบงก์

ธนาคารเหล่านี้จะได้รับการอนุมัติให้บริการโฮลเซล แบงกิ้ง และการปล่อยสินเชื่อให้แก่บริษัทต่างชาติและธนาคารท้องถิ่นของต่างชาติ โดยแบงก์ต่างชาติจะได้รับการอนุมัติให้ปล่อยสินเชื่อแก่บริษัทในท้องถิ่นผ่านทางธนาคารท้องถิ่นหรือปล่อยสินเชื่อให้กับบริษัทท้องถิ่นที่ร่วมมือกับธนาคารในท้องถิ่น

ธนาคารที่ได้รับการอนุมัตดังกล่าวได้รับการคัดเลือกเพื่อบรรจุในรายชื่อขั้นสุดท้าย 25 รายที่สนใจเข้าร่วมขอใบอนุญาตที่เปิดให้ยื่นเรื่องมาตั้งแต่เดือนก.ค.ที่ผ่านมา

การอนุมัติในเบื้องต้นดังกล่าวจะทำให้แบงก์สามารถเปิดให้บริการได้ 1 ปีในช่วงที่ธนาคารเหล่านี้จำเป็นต้องใช้มาตรการทั้งหมด เพื่อสร้างความมั่นใจว่า การดำเนินการด้านแบงกิ้งในวันแรกของธุรกิจ จะได้รับการตอบสนุองตามข้อกำหนดที่ทางธนาคารกลางพม่ากำหนดไว้

ภายใต้ข้อกำหนดดังกล่าว ธนาคารกลางพม่าจะอนุมัติใบอนุญาตขั้นสุดท้ายเพื่อการประกอบกิจการในพม่า

ในขณะเดียวกัน แบงก์เหล่านี้ไม่ได้รับอนุญาติให้เปิดให้บริการรีเทล แบงกิ้ง ซึ่งแบงก์แต่ละแห่งคาดว่า จะดึงเม็ดเงินลงทุนมาได้อย่างน้อย 75 ล้านดอลลาร์

จนถึงเดือนมิ.ย. 2554 จำนวนสำนักงานตัวแทนของธนาคารต่างชาติในพม่ามีอยู่ด้วยกัน 43 แห่ง

ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา พม่าจะอนุญาตให้ธนาคารต่างชาติเปืดให้บริการสำนักงานตัวแทนในพม่าเพื่อการสังเกตการณ์ แต่ไม่มีสิทธิให้บริการด้านการธนาคารได้

ทั้งนี้ มีธนาคารเอกชนและรัฐบาลในพม่าอยู่ 25 แห่ง

การดำเนินการปฏิรูปทางการเงินอื่นๆนั้น พม่าเริ่มบัตรเพื่อการชำระในระดับสากลในประเทศเมื่อเดือนพ.ย. 2555 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการส่งเสริมนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องชำระเงินภายในประเทศ

ปัจจุบัน มีตู้เอทีเอ็ม 800 จุด และ POS อีก 3,000 จุดทั่วประทเศพม่า สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

จีนประกาศโควต้าการกู้ยืมของหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นหวั่นความเสี่ยงบานปลาย

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2557 14:22:00 น.

จีนประกาศแผนกำหนดโควต้าการกู้ยืมเงินของหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่น รวมทั้งเตรียมสั่งห้ามหน่วยงานรัฐบาลท้องถิ่นกู้ยืมเงินเพิ่มเติมจากกลไกทางการเงินทั้งหลาย เพื่อป้องกันและควบคุมความเสี่ยงที่จะส่งผลกระทบต่อระบบการเงิน

แถลงการณ์ของรัฐบาลจีนที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ระบุว่า การกู้ยืมเงินทั้งหมดของมณฑลและเมืองต่างๆจะต้องอยู่ภายในโควต้าที่ทางคณะรัฐมนตรีได้กำหนดไว้ อย่างไรก็ดี ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขโควต้าที่ทางการจีนกำหนด

แถลงการณ์ยังระบุด้วยว่า รัฐบาลจีนจะไม่ให้เงินช่วยเหลือหน่วยงานท้องถิ่น และหน่วยงานเหล่านี้จะต้องรับผิดชอบเรื่องการชำระหนี้ของตนเอง

ทั้งนี้ จีนจะอนุญาตให้หน่วยงานท้องถิ่นของรัฐบาลกู้ยืมเงินเฉพาะการใช้จ่ายในโครงการทที่ไม่ทำกำไรเท่านั้น รวมทั้งการชำระหนี้ที่มีอยู่เดิม และจะไม่สามารถระดมทุนเพื่อการใช้จ่ายทั่วไปได้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นเกาหลีใต้: วิตกเงินไหลออกฉุดหุ้นโซลปิดร่วง 0.77%

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2557 13:55:43 น.

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดปรับตัวลง 0.77% โดยเป็นการร่วงลงตัวต่อกันเป็นวันที่ 6 จากความกังวลว่าเงินวอนที่อ่อนค่าลงอย่างหนักจะจุดชนวนให้กระแสเงินลงทุนไหลออกไปนอกประเทศ ขณะที่ในวันนี้เงินวอนแข็งค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปรับตัวลง 15.38 จุด ปิดที่ 1,976.16 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดในรอบเกือบ 4 เดือน โดยมีปริมาณการซื้อขายปานกลาง 319 ล้านหุ้น มูลค่า 4.63 ล้านล้านวอน (4.37 พันล้านดอลลาร์) โดยมีหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในสัดส่วน 446 ต่อ 384

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

เตือน 20 จ.ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก-ดินโคลนถล่มช่วง 4–7 ต.ค.

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2557 14:33:49 น.

นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ร่องมรสุมเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตามลำดับ ขณะที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงเป็นช่วงๆ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนกลาง ซึ่งมีโอกาสเพิ่มกำลังแรงขึ้น ทำให้ในช่วงวันที่ 4-7 ต.ค.57 ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกชุกเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยคลื่นลมบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูง

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมรับมือภาวะฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสาน 20 จังหวัด แยกเป็น ภาคกลาง 2 จังหวัด ได้แก่ เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์, ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด, ภาคใต้ 14 จังหวัด ได้แก่ ระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสตูล

ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงจัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยเฉพาะที่ลุ่มริมฝั่งแม่น้ำที่ลาดเชิงเขา จุดอ่อนน้ำท่วมขัง พร้อมตรวจสอบเขื่อน ฝาย อ่างเก็บน้ำ คันกั้นน้ำให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวที่มีประชาชนใช้บริการเป็นจำนวนมาก หากไม่มั่นคงแข็งแรงและเป็นอันตรายให้อพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัยทันที

สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด รวมถึงหมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติจะได้อพยพหนีภัยทันท่วงที ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ตบสาวไทยสร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญทองแดง ศึกเอเชี่ยนเกมส์

ทีมวอลเลย์บอลสาวไทย คว้าเหรียญทองแดงไปครอง หลังจากเอาชนะญี่ปุ่นไป 3 เซ็ตรวด สกอร์ 25-22, 25-17 และ 25-23 ในศึกอินชอน เกมส์ 2014 สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการวอลเลย์บอลไทย ด้วยการคว้าเหรียญรางวัลรายการเอเชี่ยน เกมส์ มาครองได้เป็นครั้งแรก

‪#‎เชียร์ไทย‬ ‪#‎อินชอนเกมส์‬

ภาพโดย ชาลินี ถิระศุภะ ‪#‎NationPhoto‬ ‪#‎NationTV‬

 

 

 

 

10710793_10152770382997450_7222951543093616289_n.jpg?oh=6bad7d7caf6ed6f3c1c52031f71e5374&oe=5483046E&__gda__=1422953008_56bfa2acee46b8619eb005751583fde4

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ 40 เซนต์ หลังอีซีบีมีมติคงดอกเบี้ย

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2557 07:35:07 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และประกาศแผนการซื้อสินทรัพย์ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,215.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 21.2 เซนต์ ปิดที่ 17.047 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 19.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,270.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 15.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 768.65 ดอลลาร์/ออนซ์

อีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.05% ในการประชุมเมื่อวานนี้ และจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากธนาคารพาณิชย์ในช่วงกลางเดือนต.ค. และจะซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ( ABS- Aasset-backed Aecurities) ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้

ในช่วงแรกนั้น สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ยอดขายเหรียญทองคำในสหรัฐและออสเตรเลียปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับข่าวที่ว่ากองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองคำรายใหญ่สุดของโลกได้ปรับลดการถือครองทองคำลงอย่างมากในเดือนก.ย.

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะปรับตัวขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.

ส่วนเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 27 ก.ย. ลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 287,000 ราย สวนทางกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 297,000 ราย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบยูโร หลังอีซีบีเผยโครงการซื้อสินทรัพย์

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2557 07:40:53 น.

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยโครงการซื้อสินทรัพย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนในการประชุมเมื่อวานนี้

ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ที่ระดับ 1.2674 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2609 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6145 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6177 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 108.41 เยน เทียบกับระดับ 109.19 เยน และลดลงขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9537 ฟรังค์ จาก 0.9571 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8804 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8726 ดอลลาร์

อีซีบีมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.05% ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด พร้อมกับประกาศว่าจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากธนาคารพาณิชย์ในช่วงกลางเดือนต.ค. และจะซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน (ABS- Aasset-backed Aecurities) ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีผลต่อการเคลื่อนไหวในตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนั้น กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 27 ก.ย. ลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 287,000 ราย สวนทางกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ซึ่งคาดการณ์ว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นแตะ 297,000 ราย

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค.หดตัวลง 10.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2535 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 9.3%

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ในวันศุกร์ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะปรับตัวขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

230021_571099579691473_8418822239374827763_n.jpg?oh=a3b453f619ede9144172658b0e232206&oe=54C6E5D3&__gda__=1417978214_1e07dcbdc55c887f7f3c4591cf133c09

สวัสดีวันศุกร์ เบิกบานเข้าไว้ ช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 3.66 จุด ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2557 06:32:41 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,801.05 จุด ลดลง 3.66 จุด หรือ -0.02% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,430.19 จุด เพิ่มขึ้น 8.10 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,946.17 จุด เพิ่มขึ้น 0.01 จุด หรือ +0.00%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนก.ย.ในวันศุกร์ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานจะปรับตัวขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. หลังจากเพิ่มขึ้นเพียง 142,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค.

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นยุโรป เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า โครงการซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจและหนุนอัตราเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้นสู่ระดับเป้าหมายของอีซีบีได้

ทั้งนี้ นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีได้ออกแถลงการณ์ภายหลังการประชุมเมื่อวานนี้ว่า อีซีบีจะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ (covered bonds) จากธนาคารพาณิชย์ในช่วงกลางเดือนต.ค. และจะซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ( ABS- Aasset-backed Aecurities) ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของภาคการผลิตสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนส.ค.หดตัวลง 10.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2535 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง 9.3%

อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์ขยับลงเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ดัชนี NASDAQ และ S&P 500 ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า นายวอร์เรน บัฟเฟตต์ มหาเศรษฐีนักลงทุนชื่อดังได้เข้ามาช้อนซื้อหุ้นบางกลุ่มในช่วงที่ตลาดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธที่ผ่านมา พร้อมกับส่งสัญญาณว่าจะซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นอีก

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนในระหว่างวันหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 27 ก.ย. ลดลง 8,000 ราย สู่ระดับ 287,000 ราย สวนทางกับนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ซึ่งคาดการณ์ว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้นแตะ 297,000 ราย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ข่าวหุ้น-การเงินล่าสุด

ข่าวหุ้น-การเงินล่าสุด »

 

 

1467219_571125029688928_2669736990331919993_n.jpg?oh=df62b55a7b6d4a84c3aabe54bdd5e87c&oe=54C9138D

สวัสดีจา news TraderJunoir wannn deb Goldleng Google Facebook yot papon น้อย อยากเล่นด้วยคน meng Alan เด็กสยาม Espresso

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2557 07:51:35 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 ต.ค.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรในวันศุกร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,801.05 จุด ลดลง 3.66 จุด หรือ -0.02% ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,430.19 จุด เพิ่มขึ้น 8.10 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,946.17 จุด เพิ่มขึ้น 0.01 จุด หรือ +0.00%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าโครงการซื้อสินทรัพย์ที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยในการประชุมเมื่อวานนี้ อาจจะไม่เพียงพอที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจและหนุนอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนให้เพิ่มขึ้นสู่ระดับเป้าหมายของอีซีบีได้

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.4% ปิดที่ 332.05 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,195.68 จุด ร่วงลง 186.35 จุด หรือ -1.99% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,242.67 จุด ดิ่งลง 122.60 จุด หรือ -2.81% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,446.39 จุด ร่วงลง 111.13 จุด หรือ -1.69%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าโครงการซื้อพันธบัตรของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะไม่เพียงพอในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจยุโรปให้กลับมาขยายตัว

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 111.13 จุด หรือ 1.69% ปิดที่ 6,446.39 จุด

--สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงไปแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2556 ในระหว่างวัน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 28 เซนต์ ปิดที่ 91.01 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ลดลง 74 เซนต์ ปิดที่ 93.42 ดอลลาร์/บาร์เรล

--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และประกาศแผนการซื้อสินทรัพย์ในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.03% ปิดที่ 1,215.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 21.2 เซนต์ ปิดที่ 17.047 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 19.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,270.4 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 15.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 768.65 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินส่วนใหญ่ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (2 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยโครงการซื้อสินทรัพย์เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนในการประชุมเมื่อวานนี้

ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ที่ระดับ 1.2674 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2609 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6145 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6177 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 108.41 เยน เทียบกับระดับ 109.19 เยน และลดลงขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9537 ฟรังค์ จาก 0.9571 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8804 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8726 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,801.05 จุด ลดลง 3.66 จุด -0.02%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,430.19 จุด เพิ่มขึ้น 8.10 จุด +0.18%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,946.17 จุด เพิ่มขึ้น 0.01 จุด +0.00%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,446.39 จุด ลดลง 111.13 จุด -1.69%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,195.68 จุด ลดลง 186.35 จุด -1.99%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,242.67 จุด ลดลง 122.60 จุด -2.81%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,975.19 จุด ลดลง 15.07 จุด -0.17%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,661.99 จุด ลดลง 420.26 จุด -2.61%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,976.16 จุด ลดลง 15.38 จุด -0.77%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,298.50 จุด ลดลง 36.00 จุด -0.67%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,297.70 จุด ลดลง 36.40 จุด -0.68%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,196.26 จุด ลดลง 71.80 จุด -0.99%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,000.81 จุด ลดลง 140.10 จุด -2.73%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,837.68 จุด ลดลง 7.64 จุด -0.41%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,228.71 จุด ลดลง 35.38 จุด -1.08%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

จีนหนุนผบ.ฮ่องกง ปราบปรามกลุ่มประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตย

ข่าวต่างประเทศ RYT9.COM -- พฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม 2557 17:28:13 น.

รัฐบาลจีน ยืนกรานสนับสนุนแนวคิดหัวหน้าคณะผู้บริหารฮ่องกง พร้อมเสริมกำลังปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย

หนังสือพิม์พีเพิล เดลี กระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ลงข้อความระบุว่า รัฐบาลกลางจีนยืนยันสนับสนุนมาตรการทางกฎหมายและนโยบายของ นายเหลียง เจิ้นอิง หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกง และตำรวจในการจัดการกับการชุมนุมประท้วงอย่างผิดกฎหมาย พร้อมเตือนว่า การชุมนุมของผู้สนับสนุนประชาธิปไตยในฮ่องกงในขณะนี้ อาจผลักดันให้ฮ่องกงจมลงไปสู่ความโกลาหล

อินโฟเควสท์ โดย เมาท์ซี่/ณัฐชญา อัครยรรยง โทร.02-253-5000 ต่อ 114 อีเมล์: natchaya@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เกาะติดหุ้นโลก 3-10-57 vdo.gif Morning News : เกาะติดหุ้นรอบโลก "NOW26" 3-10-57 ก.ล.ต.สั่งพักผู้แนะนำลงทุนบล.โกลเบล็ก ก.ล.ต.สั่งพักผู้แนะนำการลงทุนสังกัด บล.โกลเบล็ก 2 เดือน สรุปภาพรวมตลาดหุ้น 2-10-57 vdo.gif สรุปภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้น ช่วงตรงประเด็นข่าวค่ำ "NOW26" 2-10-57 แนวโน้มราคาทอง vdo.gif 'ก้องเกียรติ'คาดจีดีพีปีหน้าโต3.5% พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติขาย610ลบ. หุ้นไทยปิดร่วง17.62จุด

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

 

อันเนื่องมาจากเรื่องการปิด/เปิดโรงงานในเวเนซุเอลา

โดย : ดร.ไสว บุญมา

ในช่วงนี้มีเรื่องน่าสนใจในภาคอุตสาหกรรมของเวเนซุเอลาสองเรื่องด้วยกัน นั่นคือ การปิดโรงงานของบริษัทโคลรอกซ์

และการเปิดดำเนินการของโรงงานเหล็กกล้าสิดอร์

โคลรอกซ์เวเนซุเอลาเป็นสาขาของบริษัทโคลรอกซ์สหรัฐซึ่งผลิตสารเคมีที่ใช้ในการทำความสะอาดเป็นหลัก บริษัทปิดกิจการและประกาศขายโรงงานพร้อมสินทรัพย์ในเวเนซุเอลาหลังจากดำเนินงานมา 24 ปีเนื่องจากทนการขาดทุนไม่ไหว บริษัทอ้างว่า ต้นตอของปัญหามาจากรัฐบาลห้ามขึ้นราคาสินค้าทั้งที่ต้นทุนเพิ่มขึ้นมากจากภาวะเงินเฟ้อที่ยืดเยื้อมานาน ในช่วงนี้อัตราเงินเฟ้อของทางการอยู่ที่ราว 63% แต่อัตราที่ไม่เป็นทางการอาจสูงกว่านั้นมากเนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนทางการต่างกับอัตราในตลาดเสรีอย่างมีนัยสำคัญ รัฐบาลเพิ่งเข้ายึดโรงงานและจะให้เปิดดำเงินการในไม่ช้า ส่วนจะจ่ายเงินให้โคลรอกซ์เป็นค่าโรงงานและสินทรัพย์หรือไม่ยังไม่เป็นที่ประจักษ์ หากไม่จ่าย หรือจ่ายในจำนวนที่โคลรอกซ์ไม่พอใจ โคลรอกซ์คงฟ้องศาล หรือเสนอให้ธนาคารโลกพิจารณาถ้าได้ทำประกันไว้ที่นั่น ธนาคารโลกมีหน่วยงานทางด้านการให้ประกันความเสี่ยงทางการเมืองของการลงทุนในประเทศกำลังพัฒนาชื่อ Multilateral Investment Guarantee Agency ข้อพิพาทนี้มีโอกาสยืดเยื้อซึ่งจะมีผลกระทบทางลบต่อการลงทุนในเวเนซุเอลา

สิดอร์เป็นบริษัทขนาดยักษ์ของเวเนซุเอลาซึ่งผลิตเหล็กกล้ามากว่า 50 ปี ทั้งนี้เพราะเวเนซุเอลามีทั้งแร่เหล็กมหาศาลและมีพลังงานจากเขื่อนขนาดใหญ่ที่ผลิตไฟฟ้าได้ในราคาต่ำ กระนั้นก็ดี บริษัทมีประวัติลุ่ม ๆ ดอน ๆ มานาน รัฐบาลลงทุนตั้งกิจการขึ้นมาในรูปของรัฐวิสาหกิจ ต่อมารัฐบาลประสบปัญหาสาหัส จึงขายหุ้นส่วนใหญ่ให้บริษัทจากอาร์เจนตินา เมื่อ 6 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลยึดสิดอร์คืนด้วยข้ออ้างต่าง ๆ นานาซึ่งเมื่อมองให้ลึกลงไป ได้แก่รัฐบาลต้องการเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจให้เป็นสังคมนิยมแบบเข้มข้นขึ้น

เฉกเช่นที่เห็นกันอยู่ทั่วไป รัฐบาลขาดศักยภาพในการบริหารจัดการ ซ้ำร้ายยังส่งทหารผู้ไม่ค่อยรู้เรื่องเข้าไปก้าวก่ายอีกด้วย เพียงไม่นาน โรงงานก็ประสบปัญหา ส่งผลให้ผลผลิตและรายได้ของบริษัทลดลงมาเรื่อย ๆ รายได้ที่ตกต่ำทำให้บริษัทไม่สามารถลงทุนใหม่และจ่ายค่าแรงงานตามการเรียกร้องของคนงานได้ ต่อมาคนงานส่วนหนึ่งจึงพากันหยุดงาน ส่งผลให้รัฐบาลส่งทหารเข้าไปปราบ เมื่อไม่นานมานี้ ทั้งสองฝ่ายคงมองเห็นว่า การหยุดงานและการปราบปรามด้วยการใช้อาวุธต่อไปคงทำให้เกิดความเสียหายเพียงอย่างเดียว ฉะนั้น จึงบรรลุข้อตกลงกันให้เปิดโรงงานได้ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจดำเนินงานไปได้ไม่นานนักเพราะปัจจัยหลัก ๆ สองประการ

ในเบื้องแรก คนงานได้ค่าแรงและสวัสดิการเพิ่มขึ้น แม้จะไม่ได้ทุกอย่างตามการเรียกร้อง แต่ก็นับว่ามากเนื่องจากรัฐบาลมีฐานความคิดโน้มเอียงไปในทางเข้าข้างฝ่ายแรงงานมาก่อนแล้ว ยิ่งกว่านั้น รัฐบาลยินยอมทั้งที่รู้ว่าสหภาพแรงงานเต็มไปด้วยกาฝาก นั่นคือ สหภาพแรงงานมีสมาชิกอยู่ราว 13,000 คน ในจำนวนนี้เป็นผู้ที่อยู่ในสำนักงานของสหภาพเสียกว่า 2,000 คน ส่วนหนึ่งของ 2,000 คนนี้แทบไม่มีอะไรทำ ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเหล็กกล้าเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็นและในขณะนี้สูงกว่าราคาในตลาดโลกมาก

ประการที่สอง บริษัทขาดเงินสำหรับใช้ในการลงทุนใหม่เพื่อทำให้โรงงานทันสมัยขึ้น ส่วนรัฐบาลเองก็ขาดเงินสำหรับลงทุนมานาน ทั้งที่มีน้ำมันปิโตรเลียมมหาศาลและเคยผลิตน้ำมันได้มากที่สุดในโลก ที่ผ่านมา การมีรายได้จากการขายน้ำมันมิได้นำไปสู่การลงทุนพัฒนาประเทศในแนวที่เหมาะสม ตรงข้ามมันทำให้เกิดการใช้จ่ายแบบสุรุ่ยสุร่ายและนโยบายในแนวประชานิยมสารพัด ขอยกตัวอย่างเพียงสองเรื่อง

เรื่องแรก รัฐบาลตั้งราคาน้ำมันที่ขายให้ชาวเวเนซุเอลาไว้ต่ำมาก ตอนนี้ราคาอยู่ที่ลิตรละ 35 สตางค์ซึ่งต่ำที่สุดในโลก รัฐบาลต้องการเอาใจประชาชน จึงตั้งงบประมาณสนับสนุนการขายน้ำมันราคาถูกไว้ปีละมาก ๆ ตั้งแต่เริ่มผลิตน้ำมันมา รัฐบาลเวเนซุเอลาไม่เคยเก็บรายได้จากการขายนั้นไว้ให้คนรุ่นหลังดังที่หลายประเทศทำกัน อาทิเช่น นอร์เวย์ซึ่งมีน้ำมันเหลือใช้และส่งขายให้ต่างประเทศ ในขณะนี้นอร์เวย์ขายน้ำมันให้ประชาชนในราคาประมาณลิตรละ 82 บาทซึ่งสูงที่สุดในโลก รัฐบาลเก็บรายได้ส่วนหนึ่งไว้ให้คนรุ่นหลังเมื่อน้ำมันที่มีอยู่หมดลง ตอนนี้ นอร์เวย์จึงมีกองทุนมั่งคั่งถึงเกือบล้านล้านดอลลาร์ นับว่าใหญ่ที่สุดในโลก

เรื่องที่สอง ทหารได้งบประมาณสูงเป็นพิเศษ ไม่ว่าการเงินของประเทศจะตกอยู่ในสภาพอย่างไร ทหารจะต้องได้งบของตน ส่งผลให้ขณะนี้เวเนซุเอลามีนายพล 1 คนต่อทหาร 34 คนซึ่งต่างกับของสหรัฐมากเนื่องจากกองทัพสหรัฐมีนายพล 1 คนต่อทหาร 1,490 คน ในช่วงนี้ ประเทศขาดเงินตราต่างประเทศอย่างสาหัส ส่งผลให้ต้องจำกัดการนำเข้าทั้งหลายรวมทั้งอาหาร ประชาชนพากันอดอยากและต้องเข้าแถวครั้งละนับชั่วโมงกว่าจะซื้ออาหารอันเป็นส่วนปันของตนได้ แต่ในค่ายทหารมีทุกอย่างพร้อมสรรพ

เวเนซุเอลามีปัญหาเชิงโครงสร้างมานาน การมีน้ำมันเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้รัฐบาลคิดผิดและติดกระดุมเม็ดแรกพลาดตั้งแต่วันที่ขายน้ำมันได้ ตั้งแต่นั้นมา เวเนซุเอลามิเคยแก้ปัญหาตรงจุด แต่กลับโทษผู้อื่นว่านำปัญหามาให้รวมทั้งบริษัทต่างชาติเช่นโคลรอกซ์และบริษัทผลิตเหล็กกล้าจากอาร์เจนตินา ชาวเวเนซุเอลาที่พอมีเงินเข้าใจในปัญหาของประเทศดี พวกเขาจึงพยายามขนเงินหนีออกนอกประเทศอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน บริษัทต่างชาติก็มักต้องคิดหนักก่อนเข้าไปลงทุน ด้วยเหตุนี้ เวเนซุเอลาจึงจะมีสภาพล้มลุกคลุกคลานต่อไป หรือในอีกนัยหนึ่งคือ ยิ่งพัฒนายิ่งจน

Tags : ดร.ไสว บุญมา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก:ดาวโจนส์ปิดบวก 208.64 จุด ขานรับยอดจ้างงานสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2557 07:29:29 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) ทั้งดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 ต่างก็ทำสถิติปรับตัวขึ้นสูงสุดในการซื้อขายระหว่างวันในรอบ 7 เดือน หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 208.64 จุด หรือ 1.24% ปิดที่ 17,009.69 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 21.73 จุด หรือ 1.12% ปิดที่ 1,967.90 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 45.43 จุด หรือ 1.03% ปิดที่ 4,475.62 จุด

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 248,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี

ตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่ง หลังจากปรับตัวขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ถูกปรับทบทวนขึ้นจากรายงานเบื้องต้นที่ 142,000 ตำแหน่ง

แกด เลอวานอน ผู้อำนวยการฝ่ายการวิจัยเศรษฐกิจมหภาคและตลาดแรงงานของคอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด กล่าวว่า “การปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วของอัตราว่างงานได้เพิ่มความเป็นไปได้ที่อัตราการจ้างงานจะกลับเข้าสู่ระดับปกติ และธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในช่วงครึ่งแรกของปี 2558"

หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยหุ้นยูไนเต็ด คอนติเนนทัล โฮลดิ้งส์ อิงค์ เพิ่มขึ้น 4.7% และหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ กรุ๊ป อิงค์ เพิ่มขึ้น 6.8%

หุ้นคลิฟฟ์ส เนเจอรัล รีซอร์ซเซส ลดลง 17% หลังจากบริษัทโนมูระ โฮลดิ้งส์ อิงค์ ปรับลดน้ำหนักการลงทุนในหุ้นของบริษัท

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลล์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ขานรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2557 08:48:22 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) หลังสหรัฐรายงานอัตราว่างงานที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี ในขณะที่ตลาดแรงงานเพิ่มตำแหน่งงานสูงเกินคาดการณ์ ซึ่งกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้

ค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2511 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2674 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะ 1.5967 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6145 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.84 เยน จากระดับ 108.41 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9674 ฟรังค์ จากระดับ 0.9537 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8672 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8804 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์แคนาดาลดลงแตะระดับ 1.1256 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1155 ดอลลาร์สหรัฐ

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นมาตรวัดค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆในตระกร้าเงิน ปรับตัวขึ้นแตะ 86.746 ในการซื้อขายระหว่างวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2543 และปิดที่ 86.668 เพิ่มขึ้น 1.07%

ดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 248,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี

ตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่ง หลังจากปรับตัวขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ถูกปรับทบทวนขึ้นจากรายงานเบื้องต้นที่ 142,000 ตำแหน่ง

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนหลังจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐที่ระบุว่า ยอดขาดดุลการค้าสินค้าและบริการของสหรัฐในเดือนส.ค. ปรับตัวลดลง 0.5% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 4.01 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2557 หรือในรอบ 7 เดือน เนื่องจากการส่งออกขยายตัวมากกว่าการนำเข้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก:ราคาทองคำปิดร่วง 22.2 ดอลลาร์ หลังศก.สหรัฐแข็งแกร่ง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2557 08:31:11 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2553 เพราะอุปสงค์ได้ปรับแรงกดดันจากข้อมูลการจ้างงานที่สดใสของสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 22.2 ดอลลาร์ หรือ 1.83% ปิดที่ 1,192.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวลดลงทั้งหมด 1.9% ในสัปดาห์นี้และลดลงมาแล้ว 1.1% ในปีนี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 16.826 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 22.1 เซนต์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,226.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 43.5 ดอลลาร์

สัญญาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 248,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี

ตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย.เพิ่มขึ้นในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่ง หลังจากปรับตัวขึ้นเพียง 180,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นตัวเลขที่ถูกปรับทบทวนขึ้นจากรายงานเบื้องต้นที่ 142,000 ตำแหน่ง สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ลบ 1.27 ดอลลาร์ จากคาดการณ์อุปทานสูงเกินไป

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2557 08:15:39 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (3 ต.ค.) เนื่องจากตลาดคาดว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับที่สูงกว่าอุปสงค์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 89.74 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

เทรดเดอร์วิตกว่าปัจจุบันอุปทานน้ำมันได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าอุปสงค์ไปแล้ว ในขณะที่ราคาได้ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 90 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2556

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ระบุว่า เทคโนโลยีใหม่ๆและราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงกดดันให้ภูมิภาคอเมริกาเหนือต้องค้นหาแหล่งทรัพยากรน้ำมันใหม่ๆ ส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันภายในประเทศเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2529

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นขององค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน หรือ โอเปก โดยผลการสำรวจบ่งชี้ว่า ผลผลิตน้ำมันในเดือนก.ย.ของกลุ่มโอเปกได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2556

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

 

นายกฯแจงช่วยชาวนาเพราะเดือดร้อนที่สุด,วอนงดปลูกข้าวนาปรังเล็งหารายได้ทดแทนให้

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 4 ตุลาคม 2557 10:47:38 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ “คืนความสุขให้คนในชาติ" ว่า มาตรการให้ความช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาผู้มีรายได้น้อย คือมีเกษตรกรหลายอย่าง หลายประเภท วันนี้ที่เดือดร้อนมากที่สุดวันนี้ก็คือชาวนา คนละประเภทกับอีกของประเภทอื่น ๆ เราก็ดูแลทุกประเภทอยู่แล้ว แต่วันนี้เราดูว่าในระยะเวลาอันใกล้มีอะไรอยู่บ้างก็เป็นประเภท ประเภทไป

วันนี้ในส่วนของชาวนา เราถือว่าเป็นกระดูกสันหลังของชาติ ของประเทศมีเป็นจำนวนมาก และก็เข้าไม่ถึง ไม่มีรายได้ที่เพียงพอ ผมตรวจสอบจากบัญชีธนาคารของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บางคนยังไม่มีเงินเข้าเลย ไม่เคยมีการโอนเงินเข้าเลย เพราะว่าเป็นเจ้าของพื้นที่จำนวนน้อย เพราะฉะนั้นผลผลิตออกมาก็ขาย เพราะฉะนั้นผลผลิตออกมาก็ขายไม่ได้มากนัก อาจจะใช้ทำกินได้อะไรได้แล้วเหลือขายนิดหน่อย ซึ่งที่ผ่านมาแทบจะไม่มีเงินเลย เราก็เป็นห่วงคนเหล่านี้ว่าจะอยู่ได้อย่างไร จะบริโภคอะไรกันได้อย่างไร ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคจะนำเงินมาจากที่ไหน เพราะฉะนั้นรัฐบาลก็กำลังดำเนินการปรับการดูแลคนเหล่านี้ด้วย พร้อม ๆ ไปกับเกษตรกรประเภทอื่น ๆ ด้วย

ทั้งนี้ สภาพอากาศเป็นช่วงจะเปลี่ยนฤดูอีกแล้ว จากฤดูฝนจะไปสู่ฤดูหนาว ก็อาจจะทำให้ประชาชนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือต้องประสบกับภัยหนาวและมีผู้เสียชีวิตอีกเหมือนทุกปีที่ผ่านมา

รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ ผมเองก็ห่วงใย คือเราห่วงใยล่วงหน้าอยู่แล้ว เรารู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต เราต้องเตรียมการเฝ้าระวัง แจ้งเตือน ติดตาม เตรียมตัวไว้ก่อน เพราะถ้าเราไม่เตรียมตัวขึ้นมา วันหน้าพอเกิดขึ้นมาก็ตื่นตระหนก แล้วก็มีการบาดเจ็บมีการสูญเสียมากมายในทุก ๆ เรื่อง ฉะนั้นปีนี้ต้องเตรียมการล่วงหน้า ส่วนราชการทุกส่วนราชการต้องเตรียมการในเรื่องของการติดตามสถานการณ์ แจ้งเตือน การเกิดภัย เตรียมการช่วยเหลือประชาชนในทุกภาคส่วน ในทุกพื้นที่ตามภัยพิบัติที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วในอดีต เช่น ฝนตกน้ำ น้ำท่วม ฝนแล้ง จะต้องเตรียมตัวให้พร้อม ในเรื่องของการเพาะปลูกพืชที่ต้องอาศัยน้ำมากจะเสียหาย

"เพราะฉะนั้นนาปรัง ผมไม่แนะนำให้ปลูกอีกเลยหน้านี้ เพราะว่าปริมาณน้ำในเขื่อนนี้ไม่เกิน 60 เปอร์เซ็นต์ทั้งสิ้น 60 ไม่เกิน 70 เปอร์เซ็นต์ แล้วเราต้องเก็บน้ำในเขื่อน ไม่ใช่จะปล่อยมาเกษตรกรรมได้มากไปเรื่อย ๆ เพื่อดูแลข้าว ดูแลพืชผล ผลิตผลต่าง ๆ ให้ได้ จนกระทั่งเก็บเกี่ยวได้ แต่ถ้าปล่อยน้ำทั้งหมดปริมาณน้ำในเขื่อนน้อย พอน้ำน้อย หน้าแล้งจะมีปัญหา เพราะน้ำทะเลจะขึ้น ถ้าเราไม่ปล่อยน้ำลงมาดันน้ำทะเลไว้ น้ำทะเลก็จะเข้ามาในแผ่นดิน ทำให้ดินเค็ม ทำให้การเลี้ยงปลาเสียหายไปทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ได้ให้กระทรวงเกษตรฯ ได้พิจารณาหาทางช่วยเหลือที่ว่า ในบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยากว่า 1 แสนคน ถ้าหากว่างดการปลูกข้าวนาปรังชั่วคราวจะทำอย่างไรกับเขา ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงสิ้นเดือนเมษายนปีหน้า เราจะสร้างรายได้ทดแทนให้กับพี่น้องชาวนานี้ได้อย่างไร อาจจะให้มาช่วยในเรื่องของการพัฒนาระบบชลประทาน ขุดลอกคูคลอง คันคลอง เจาะท่อระบายน้ำ ขุดลอกหนองน้ำธรรมชาติ โดยใช้แรงงานบ้าง โดยจ่ายค่าแรงรายวันไป อย่างน้อยก็มีเงินไปใช้จ่ายของครอบครัวเป็นระยะเวลาหนึ่งไปก่อน แต่ถ้าน้ำมีพอ ไม่มีปัญหา ก็ทำได้ แต่ขอให้รอสถานการณ์น้ำก่อน แต่วันนี้ จากการประเมินหรือการติดตามสถานการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยาบอกแล้งหน้า แล้งมากกว่าปีที่แล้วอีก เพราะฉะนั้นปลูกข้าวในพื้นที่ที่มีน้ำน้อยเสียหายแน่นอน ระมัดระวังด้วย

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี โทร.02-2535000 ต่อ 322 อีเมล์: nisarat@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สถาบันชี้หุ้นไทยไร้ฟองสบู่ บลจ.กรุงไทย มองหุ้นไทยไม่ถึงขึ้นฟองสบู่ เชื่อตลาดหลักทรัพย์มีมาตรการดูแลหุ้นเก็งกำไรได้ ชี้ดัชนีหุ้นผันผวนแร ธปท.จับตาทุนเคลื่อนย้ายรับมือ'อีซีบี'อัดฉีดคิวอี แบงก์ชาติจับตาทุนเคลื่อนย้ายใกล้ชิด หลังอีซีบีประกาศมาตรการ"คิวอี" ขณะบาทอ่อนค่าตามค่าเงินภูมิภาค ทองลง150บ.ทองแท่งขายออก18,500บ. ราคาทองคำวันนี้ทองแท่งขายออกบาทละ 18,500 บาท ทองรูปพรรณขายออกบาทละ 18,900 บาท ทองลง 150 บาท สรุปภาพรวมตลาดหุ้น 3-10-57 vdo.gif แนวโน้มราคาทอง vdo.gif พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติขาย1.3พันลบ. หุ้นไทยปิดบวก0.55จุด

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

บลจ.กรุงไทย มองหุ้นไทยไม่ถึงขึ้นฟองสบู่ เชื่อตลาดหลักทรัพย์มีมาตรการดูแลหุ้นเก็งกำไรได้ ชี้ดัชนีหุ้นผันผวนแร

บลจ.กรุงไทย” มองหุ้นไทยไม่ถึงขึ้นฟองสบู่ เชื่อตลาดหลักทรัพย์มีมาตรการดูแลหุ้นเก็งกำไรได้ ชี้ดัชนีหุ้นผันผวนแรง เพราะอยู่ระหว่างปรับฐานแต่ไม่แรง ส่วน "ชัย โสภณพนิช" ประเมินดัชนีหุ้นไทยปีหน้า 1700 จุด ด้านโบรกเกอร์เตือนต.ค.นี้ผันผวนหนัก เหตุปัจจัยต่างประเทศกดดันต่อเนื่อง

นายวีระ วุฒิคงศิริกูล รองกรรมการผู้จัดการผู้บริหารสายจัดการลงทุน บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หากมองปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยไปข้างหน้าถือว่ายังมีแนวโน้มที่ดีหลังการเมืองนิ่ง ภาครัฐมีแผนขับเคลื่อนประเทศที่ชัดเจนเศรษฐกิจในปีหน้าก็มีแนวโน้มเติบโตที่ดีโดยบริษัทคาดว่าจะโตประมาณ 5% และมองเป้าหมายดัชนีในปีหน้าที่ประมาณ 1,680 จุด ที่สัดส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E) ในปีหน้าประมาณ 14 - 15 เท่า

การที่ตลาดหุ้นไทยปรับฐานและผันผวนในช่วงนี้เป็นผลกระทบจากปัจจัยภายนอกประเทศเป็นหลักแต่ก็เชื่อว่าตลาดจะไม่ปรับฐานแรงที่ระดับ 1,550 จุด นี้ก็น่าจะรับเอาไว้อยู่ โดยนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเองก็อาจจะใช้เป็นจังหวะในการปรับพอร์ตหลังจากที่ตลาดหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมาก็ปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่องเช่นกันตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา จนราคาหุ้นบางตัวเริ่มเต็มมูลค่าก็อาจจะมีการปรับพอร์ตกันบ้าง แต่เงินลงทุนในกองทุนประหยัดภาษีคงจะมีทยอยเข้ามาลงทุนเรื่อยๆ เพราะในช่วงต้นปีที่สถานการณ์ในประเทศไม่ดีนั้นนักลงทุนส่วนใหญ่ก็กลัวและยังไม่ได้เข้าลงทุนรอจังหวะให้ตลาดปรับฐานอยู่ ดังนั้นเมื่อตลาดย่อตัวก็จะมีแรงซื้อเข้ามาจากนักลงทุนกลุ่มนี้ด้วยเช่นกันที่จะสนับสนุนตลาดเอาไว้อยู่

“ในส่วนของหุ้นเล็กหลายตัวราคาขึ้นมาเร็วและแรงเกินไป ก็คงต้องปรับตัวบ้าง แต่คงไม่ถึงกับเรียกว่าสบู่แตก เพราะเชื่อว่ายังมีกลุ่มนักลงทุนส่วนหนึ่งที่สนใจลงทุนจัดพอร์ตในหุ้นขนาดกลางและเล็กเช่นกันที่พร้อมจะเข้าลงทุนแต่คงต้องดูพื้นฐานประกอบด้วย และตลาดหลักทรัพย์ก็คอยกำกับดูอยู่ระดับหนึ่งแล้ว ถ้าร้อนแรงเกินก็จะต้องเข้าเกณฑ์แคช บาลานซ์ ช่วยในระดับหนึ่ง ช่วง 2 วันนี้ตลาดหุ้นค่อนข้างผันผวนแต่หุ้นมองระยะยาวก็ยังลงทุนได้และอยากให้นักลงทุนมองการลงทุนในภาพระยะยาวมากกว่า การที่ตลาดปรับลงแล้วไปขายโดยมองระยะสั้นอาจทำให้เสียโอกาสในการลงทุนไปได้เช่นกันเพราะหากมองพื้นฐานของไทยก็ยังดีอยู่”

นายชัย โสภณพนิช ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร บริษัทกรุงเทพประกันภัย กล่าวว่า ภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังจากที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปถึง 1,600 จุดในสัปดาห์ก่อน แต่ยังมองว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังดีอยู่ แต่อาจจะมีปัญหาจากต่างประเทศที่กระทบกับการส่งออกของไทย ในส่วนของบริษัทไม่มีแผนที่จะปรับพอร์ตการลงทุนแต่อย่างใด เนื่องจากมีนโยบายการลงทุนในระยะยาว หรือถือไว้อย่างน้อย 4-5 ปี นอกจากจะมีข้อมูลที่ทำให้ต้องขายออก

“การกำไรแค่ 10% เรามองว่ายังไม่คุ้ม อย่างน้อยต้อง 20-25% โดยเราจะลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดี แม้ราคาในช่วงสั้นอาจจะตกลงไปบ้าง 10-15% เราก็ไม่กังวล ขณะที่การลงทุนเราจะกระจายไปหลายๆ อุตสาหกรรม โดยอุตสาหกรรมที่ยังไปได้เช่นวัสดุก่อสร้าง การคมนาคมขนส่ง ที่ได้ผลดีจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ หรือกลุ่มโรงแรมยังมีแนวโน้มที่ดี”

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นไทยในระดับ 1,500-1,600 จุดยังเป็นระดับที่เหมาะสม แต่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ออกมาคาดว่าจะส่งผลต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในช่วงปลายปีนี้ไปถึงปี 2558 แม้ว่าในช่วง 1-2 วันนี้ต่างชาติยังเทขายหุ้นไทยอยู่ แต่ยังซื้อสุทธิ สะท้อนว่าต่างชาติยังให้ความสนใจหุ้นไทยอยู่ โดยมองว่าในช่วงสั้นอาจเห็นนักลงทุนสถาบันขายออก แต่เชื่อว่ารายย่อยจะเข้าซื้อ ในส่วนของบริษัทยังคงเข้าซื้อหุ้นในปีนี้และเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นเป็น 60% ของพอร์ต

“ผลประกอบการไตรมาส 3 จะประกาศในเดือนพ.ย. ตัวเลขอาจจะยังไม่ค่อยดี แต่ก็ดีกว่าไตรมาส 2 แน่นอนและจะไปชัดเจนปีหน้า นักลงทุนสถาบันอาจจะเทขาย แต่รายย่อยยังคงเข้าซื้อเพราะซื้อตามความรู้สึกว่ามันน่าจะดี และอาจจะมีแรงซื้อกลับมาหลังประกาศงบ หรือปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า และอาจเห็นดัชนีปรับเพิ่มไปถึง 1,700 จุดได้ในปีหน้า”

นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด กล่าวว่าภาพการลงทุนในเดือนตุลาคมนี้ คาดว่าดัชนี หุ้นไทยจะเคลื่อนไหวผันผวนมากขึ้นจากเดือนก่อน เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ดีจากสัญญาณเม็ดเงินต่างชาติยังอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้มองว่าดัชนีหุ้นอยู่เพียงแค่ช่วงพักฐาน ไม่ได้เป็นขาลงของตลาดหุ้นแต่อย่างใด ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC)

สำหรับภาพรวมดัชนีหุ้นไทยในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา ปรับตัวเพิ่มขึ้น 20.87% ขณะที่การลงทุนของนักลงทุนสถาบันมียอดซื้อสุทธิ 2.8 หมื่นล้านบาท ขณะที่พอร์ตบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 9.57 พันล้านบาท ส่วนนักลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ 2.72 พันล้านบาท

Tags : วีระ วุฒิคงศิริกูลหุ้นไทย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...