มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

แบงก์ชาติจับตาทุนเคลื่อนย้ายใกล้ชิด หลังอีซีบีประกาศมาตรการ"คิวอี" ขณะบาทอ่อนค่าตามค่าเงินภูมิภาค

นายจิรเทพ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา โฆษกธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวว่าการประกาศคงอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) และมีมาตรการอัดฉีดเงินเข้าระบบยังขาดความชัดเจนในเรื่องวงเงินในการเข้าซื้อสินทรัพย์ ซึ่งความไม่ชัดเจนตรงนี้ทำให้ตลาดเริ่มไม่แน่ใจเกี่ยวกับนโยบายดังกล่าวว่าจะมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน

ทั้งนี้ อีซีบี ประกาศว่า จะเริ่มซื้อตราสารหนี้ที่ค้ำประกันด้วยสินเชื่อคุณภาพ(Covered bonds) จากธนาคารพาณิชย์ในช่วงกลางเดือนต.ค.นี้ และจะซื้อตราสารหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน(Asset Backed Securities) ในช่วงไตรมาส 4 ปีนี้ โดยมีเป้าหมายกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน

“ถ้าดูภาพใหญ่ของตลาดเงินทั่วโลกยังไม่ได้เปลี่ยน แต่รายละเอียดของมาตรการที่อีซีบีออกมายังคงต้องติดตาม ซึ่งแบงก์ชาติเองก็ติดตามดูผลกระทบในเรื่องของเงินทุนเคลื่อนย้ายอย่างใกล้ชิดว่าเป็นอย่างไร” นายจิรเทพ กล่าว

ส่วนการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทนั้น ช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา อ่อนค่าลงเล็กน้อยประมาณ 0.6% โดยเป็นการอ่อนค่าตามภูมิภาค และมีค่าเฉลี่ยอยู่ตรงกลางของภูมิภาค ซึ่งปัจจัยหลักที่เข้ามากระทบ ส่วนใหญ่เป็นปัจจัยจากต่างประเทศ ขณะที่ปัจจัยในประเทศอาจมีบ้างแต่ไม่ได้มากนัก

“จะเห็นว่าเงินบาทอยู่ในทิศทางทยอยอ่อนค่า จากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะผลจากการที่ค่าเงินดอลลาร์แข็ง หลังเศรษฐกิจเขาออกมาเติบโตได้ดี ขณะที่เงินยูโรเองก็ยังอ่อนค่าลง” นายจิรเทพ กล่าว

คงเครดิตประเทศสะท้อนพื้นฐานแกร่ง

นายจิรเทพ กล่าวว่า กรณี ฟิทช์ เรทติ้งส์ คงอันดับความน่าเชื่อถือของไทยไว้ที่ BBB+ ถือเป็นการสะท้อนให้เห็นว่า ฟิทช์ ยังคงมองพื้นฐานเศรษฐกิจไทยระยะยาวอยู่ในระดับแข็งแกร่ง และมองว่าปัจจัยระยะสั้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อพื้นฐานของเศรษฐกิจไทยมากนัก

นอกจาก ฟิทช์ เรทติ้งส์ แล้ว จะเห็นว่าช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา บริษัทจัดอันดับเรทติ้งต่างๆ ยังมีมุมมองที่ดีต่อพื้นฐานเศรษฐกิจไทย ซึ่งส่วนใหญ่มีความเห็นที่สอดคล้องกันว่า พื้นฐานเศรษฐกิจและเสถียรภาพการเงินของไทยไม่ได้ถูกกระทบจากปัญหาการเมือง และหลังจากที่การเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น ประกอบกับสถานะด้านอื่นๆ เช่น เสถียรภาพด้านต่างประเทศ ความยืดหยุ่นต่อการรองรับภาวะช็อก รวมทั้งหนี้รัฐบาลที่ยังอยู่ในเกณฑ์ดี ทำให้ทั้ง ฟิทช์ และบริษัทจัดเรทติ้งรายอื่นๆ คงอันดับความน่าเชื่อถือของเศรษฐกิจไทยไว้

“สถาบันจัดอันดับเรทติ้ง 3 ค่ายยักษ์ ยังคงแนวโน้มเรทติ้งไทยมีเสถียรภาพ สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และการเงินของประเทศที่มั่นคง และมีเสถียรภาพ ซึ่งทำให้สถาบันเรทติ้งประเมินได้ว่า ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนอันดับความน่าเชื่อถือของไทยในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า จึงเป็นปัจจัยที่ช่วยเสริมให้ตลาดการเงินไทยมีความน่าสนใจในสายตานักลงทุน โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ” นายจิรเทพ กล่าว

โฆษกธปท. กล่าวด้วยว่า ความสนใจของนักลงทุนต่างประเทศ ส่วนหนึ่งสะท้อนได้จากการประมูลพันธบัตรรัฐบาลและธปท.ในช่วงที่ผ่านมา พบว่านักลงทุนให้ความสนใจเป็นอย่างดี โดยมียอดจองซื้อเข้ามามากกว่าวงเงินที่เสนอขายประมาณ 1.5-2 เท่า สะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่มีต่อเศรษฐกิจไทย

ธปท.ร่วมโรดโชว์กับเอกชนที่สหรัฐ

นอกจากนี้ นายจิรเทพ ยังกล่าวด้วยว่าในวันที่ 8 ต.ค.นี้ ธปท. มีแผนเดินทางไปนำเสนอข้อมูลการลงทุน(โรดโชว์) ร่วมกับทางรัฐบาลและตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ซึ่งการโรดโชว์ครั้งนี้ ธปท. จะนำเอาข้อมูลเหล่านี้ไปบอกเล่าให้กับนักลงทุนต่างประเทศได้รับทราบด้วย

สำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ที่ ธปท. ประเมินไว้ว่าจะเติบโตประมาณ 1.5% นั้น แม้เป็นระดับที่ยังต่ำกว่าศักยภาพของเศรษฐกิจ แต่ก็เป็นทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่ถูกผลกระทบจากปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อยาวนาน และในปีหน้า ธปท.ก็ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ 4.8% ถือเป็นระดับที่น่าพอใจ และเริ่มใกล้เคียงกับศักยภาพทางเศรษฐกิจ โดยภาพรวมจึงไม่น่ากังวล

'เครดิต สวิส'หั่นเป้าจีดีพีเหลือ0.9%

บทวิเคราะห์ เครดิต สวิส วาณิชธนกิจชั้นนำของยุโรป ระบุว่าบริษัทได้ปรับลดจีดีพีไทยปีนี้ลงเหลือ 0.9% จากเดิมให้ไว้ 1.1% เป็นผลการท่องเที่ยวที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญช่วงครึ่งปีหลังยังซบเซา การฟื้นตัวของการส่งออกไทยช่วง 6 เดือนข้างหน้าจะอยู่ระดับปานกลาง และความเสี่ยงขาลงสำหรับเศรษฐกิจไทยมีอยู่

"การปรับลดจีดีพีไทยปีนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากคาดการณ์ที่ว่าการการส่งออกช่วง 6 เดือนข้างหน้าฟื้นตัวปานกลาง หากไม่มีสิ่งใดทำให้แปลกใจหรือช่วยเศรษฐกิจเป็นขาขึ้นได้ และมีความเสี่ยงขาลงที่มีผลต่อคาดการณ์ของเรา การปรับลดจีดีพีไทยอาจมากกว่านี้"

ปรับเพิ่มจีดีพีปีหน้าโต4.5%

ส่วนปีหน้าเครดิต สวิส ปรับเพิ่มจีดีพีไทยเป็น 4.5% จากเดิมให้ไว้ 3.9% เนื่องจากประเมินการท่องเที่ยวฟื้นตัวเป็นสำคัญ ในภาวะการส่งออกขยายได้น้อยลง บวกกับฐานการเติบโตในปีนี้ต่ำเศรษฐกิจขยายตัวอ่อนแอ การเมืองมีเสถียรภาพดีขึ้นควรช่วยให้การส่งออกปีหน้าขยายตัวได้ 15%-20% แม้ว่ายังมีการใช้กฎอัยการศึกอยู่ก็ตาม ส่วนนี้จะช่วยให้จีดีพีโตได้อีก 1.5%-2% ในทางตรงกันข้ามการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังเป็นที่จับตาว่าจะขยายตัวได้น้อย การบริโภคภาคเอกชนจะโตต่ำกว่า3% ผลจากนโยบายการคลังล่าช้า ราคาโภคภัณฑ์ไม่ดี และภาระหนี้ภาคครัวเรือนสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผู้มีรายได้น้อย

"บริษัทมองรอบคอบมากขึ้น เกี่ยวกับความต้องการภายในประเทศ การใช้จ่ายภายในประเทศช่วง 6-12 เดือนข้างหน้าอาจดีขึ้นบ้าง การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มจะทำให้ผิดหวังกับการเป็นแหล่งสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ และผลจากคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์ภายในต่ำกว่าส่วนใหญ่คาดไว้ เครดิต สวิสจึงประเมินให้ดุลบัญชีเกินดุลมากขึ้นปีหน้า ประมาณ -9 พันล้านดอลลาร์ หรือ 2%ของจีดีพี และคาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลในปีนี้ จะมากขึ้นและมากกว่าที่ตลาดคาดไว้ เพราะการนำเข้าขยายตัวอ่อนแอ"

คาดธปท.ขึ้นดอกเบี้ยครึ่งหลังปีหน้า

เครดิต สวิส คาดด้วยว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2% ในช่วง 12 เดือนข้างหน้า ก่อนปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับปกติที่ 2.5% ช่วงครึ่งหลังของปีหน้า ทั้งนี้เครดิต สวิสมองว่าธปท.ยังมีช่องให้ปรับลดดอกเบี้ยลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากแรงกดดันจากเงินเฟ้อมีปานกลาง จึงคาดว่าอุปสรรคในการปรับลดดอกเบี้ยมีมากขึ้นจากนี้ไปธปท.เองมีแนวโน้มที่จะต้องยอมรับกับการเติบโตของเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังในระยะใกล้ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องตามมาจากการพิจารณาใช้นโยบายเศรษฐกิจมหภาคในระยะยาว

ทั้งนี้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลออกมานั้น ถือเป็นข้อเท็จจริงไม่ใช่ใหม่แต่อย่างใด การประกาศมาตรการการคลังถือว่าช่วยได้ แต่ไม่น่าจะสนับสนุนเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้มากอย่างที่หลายคนคาดหวังไว้ แต่การออกมาตรการต่างๆนับเป็นย่างก้าวในทิศทางที่ถูกต้อง ซึ่งก่อนหน้านี้เครดิต สวิส คาดหวังให้เกิดขึ้นโดยเร็ว

ทีมงานเครดิต สวิส คำนวณว่าจากข้อมูลที่นายกรัฐมนตรีประกาศใช้จ่ายงบรัฐบาลช่วง 3 เดือนสุดท้ายปีนี้ที่ 1.1 ล้านล้านบาท หมายถึงรัฐบาลกำลังใช้จ่ายในไตรมาสสุดท้ายปีนี้คิดเป็น 43%ของงบประจำปีทั้งหมด เทียบกับ 33%ในปีที่แล้ว และค่าเฉลี่ยในระยะยาวที่ 24% ซึ่งเป็นงานที่ไม่ง่าย เพราะรัฐบาลจำเป็นต้องสร้างสมดุลเร่งเบิกจ่าย บนเป้าหมายทำการคลังให้โปร่งใส ต้องควบคุมป้องกันไม่ให้เกิดการรั่วไหล

 

Tags : จิรเทพ เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา • ธปท. • อีซีบี • ทุนเคลื่อนย้าย

• คาเมรอนเยือนอัฟกาฯพร้อมหนุนผู้นำใหม่
  
• ยูเอ็นชี้หยุดยั้งอีโบลาคือภารกิจสำคัญที่สุด
  
• ราคาทองคำลดลง22.20ดอลลาร์
  
• สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบลด1.27ดอลลาร์
  
• หุ้นดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น208.64จุด
  
• ชาวยุโรปรวยขึ้นแต่ไม่เท่าเทียมกัน
  
• นักเศรษฐศาสตร์มะกันคาดศก.โลกชะลอ
  

[ginger 11,058]

สุขกาย สบายใจ

 

 

 

 

[ginger 11,058]

 

'ฮู' ขอ "แอนติบอดี" ศิริราชทดลอง หากได้ผลดีใช้ในแอฟริกาทันที ‪#‎NationTV‬

รายละเอียด

www.nationtv.tv/main/content/social/378426788/

See Translation

 

 

 

 

[ginger 11,058]

[deb99 290]

ขอบคุณครับ คุณ ginger

[ginger 11,058]

 

การเมือง

วันที่ 5 ตุลาคม 2557 09:39

 

ปชช.ถวายพระพรในหลวงแน่นศิริราช

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ประชาชนเดินทางมาลงนามถวายพระพรในหลวงขอทรงหายประชวรแน่นศิริราช

สำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนลงนามถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พสกนิกรสวมเสื้อเหลือง ชมพู ฟ้า มา รพ.ศิริราช โดยขอให้พระองค์หายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว ขณะ แม่ทัพภาค 1 ส่งตัวแทนวางแจกันดอกไม้

บรรยากาศที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช พสกนิกรต่างทยอยเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเช้า ภายหลังจากที่มีแถลงการณ์สำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ 1

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี ร่วมกันแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง สีชมพู และสีฟ้า ซึ่งเป็นสีประจำวันพระราชสมภพ และขอให้พระองค์หายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว

โดยวันนี้ ทางสำนักพระราชวัง เปิดให้ประชาชนลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. แต่มีประชาชนเดินทางมาก่อน จึงเปิดให้ลงนามก่อนเวลา ขณะเดียวกัน กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 ส่งนายทหารเป็นตัวแทนวางแจกันดอกไม้ พร้อมลงนามถวายพระพร

Tags : สำนักพระราชวัง • ในหลวง • ถวายพระพร • ศิริราช กสิกรฯชี้บาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหว32.35/.65 กสิกรไทยคาดเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหว 32.35-32.65 บาท/ดอลลาร์ คาดดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้น กสิกรฯคาดดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้ามีโอกาสปรับขึ้น หลังตลาดหุ้นปรับฐาน บัวหลวงรุกรายใหญ่ในพม่าตั้งเป้าเปิดสาขาปี58 แบงก์กรุงเทพเตรียมรุกธุรกิจรายใหญ่ในพม่า รับความต้องการลงทุนลูกค้าที่ต้องการเข้าไปลงทุนในพม่า สถาบันชี้หุ้นไทยไร้ฟองสบู่ ธปท.จับตาทุนเคลื่อนย้ายรับมือ'อีซีบี'อัดฉีดคิวอี ทองลง150บ.ทองแท่งขายออก18,500บ. สรุปภาพรวมตลาดหุ้น 3-10-57

ดูข่าว ทั้งหมด

 

 

ข่าวยอดนิยม

• ยึดยาบ้าร่วมล้านเม็ด-ไอซ์ในไร่อ้อย
  
• คดีการหายตัวของกะเหรี่ยงบิลลี่คืบ
  
• ดวงรายสัปดาห์ 5-11 ตุลาคม พ.ศ.2557
  
• 'คิม จอง-อึน'ให้น้องสาวรักษาการแทน
  
• ท่องเที่ยวระยองหดหลังแมงกะพรุนซัดเกยชายหาด
  

 

[ginger 11,058]

พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมใหญ่ สมัยสามัญ สมัยที่ 58 ของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ

 

 

ข่าวต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ -- ศุกร์ที่ 3 ตุลาคม 2557 14:40:18 น.

เมื่อวันที่ 22-26 กันยายน 2557 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา ทรงเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมใหญ่ สมัยสามัญ สมัยที่ 58 ของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ที่สำนักงานสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา สาธารณรัฐออสเตรีย โดยคณะผู้แทนไทยประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงพลังงาน และกระทรวงสาธารณสุข

คณะผู้แทนไทยได้เข้าร่วมการประชุมและมีบทบาทอย่างแข็งขัน เพื่อยืนยันถึงความมุ่งมั่นและความพร้อมของไทยที่จะร่วมมือกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศและประชาคมระหว่างประเทศในเรื่องการส่งเสริมความปลอดภัยและความมั่นคงทางนิวเคลียร์ รวมทั้งการส่งเสริมการใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยนิวเคลียร์ในทางสันติ ทั้งนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาฯ ได้ทรงกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมฯ เน้นท่าทีและบทบาทที่สร้างสรรค์ของไทยในเรื่องดังกล่าวทั้งในระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ ซึ่งรวมถึงบทบาทและข้อเสนอของไทยต่อที่ประชุมระดับผู้นำว่าด้วยความมั่นคงทางนิวเคลียร์ครั้งที่ 3 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ที่ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ ยังทรงกล่าวถึง บทบาทของไทยเรื่องการส่งเสริมเครือข่ายหน่วยงานกำกับดูแลทางนิวเคลียร์ในอาเซียน (ASEAN Network of Regulatory Bodies on Atomic Energy - ASEANTOM) และความร่วมมือกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศในการดำเนินโครงการความร่วมมือทางเทคนิคต่างๆ

เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2557 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภาฯ ยังทรงเป็นประธานงานเลี้ยงรับรองคณะทูต และผู้เข้าร่วมการประชุม ในโอกาสเปิดการแสดงนิทรรศการของไทยในหัวข้อการ”บริหารจัดการของเสียจากกัมมันตภาพรังสี: การควบคุมและการดูแล” ที่สำนักงานสหประชาชาติ ณ กรุงเวียนนา นิทรรศการดังกล่าวได้จัดแสดงผลงานและการแลกเปลี่ยนแนวปฏิบัติที่ดีของไทยกับประเทศต่างๆ นาย Yukiya Amano ผู้อำนวยการใหญ่ของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ ได้เข้าร่วมงานเลี้ยงรับรองพร้อมกล่าวแสดงความชื่นชมในบทบาทของไทยในงานของทบวงฯ ทั้งในระดับภูมิภาค และระหว่างประเทศด้วย

ไทยมีบทบาทที่สร้างสรรค์อย่างต่อเนื่องในเรื่องการลดและไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ รวมทั้งการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในทางสันติ และมีความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้นในการเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางที่ไทยให้ความสำคัญและจะผลักดันต่อไปในการรณรงค์การสมัครรับเลือกตั้งเพื่อดำรงตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ วาระปี พ.ศ. 2560-2561

--กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ--

รัฐบาลฟิลิปปินส์เตือนพลเมืองอย่าเข้าร่วมการชุมนุมในฮ่องกง

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2557 08:52:27 น.

เมื่อวานนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ประกาศเตือนพลเมืองของตนเองที่อยู่ในฮ่องกง ว่าอาจต้องเผชิญกับปัญหาหากเข้าร่วมการชุมนุมประท้วง

นางอบิเกล วัลเต รองโฆษกประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุของทางการว่า “เราเดินหน้าเตือนพลเมืองของเราในฮ่องกงให้ปฏิบัติตามกฎหมายของที่นั่น และหลีกเลี่ยงการกระทำใดก็ตามที่จะก่อให้เกิดปัญหาทางกฎหมายหรือเกิดปัญหากับทางการที่นั่น"

นางวัลเตกล่าวย้ำว่า สถานกงสุลฟิลิปปินส์ในฮ่องกงพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือแก่ชาวฟิลิปปินส์ที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมครั้งนี้

สำหรับนักท่องเที่ยวชาวฟิลิปปินส์ที่ต้องการเดินทางไปยังฮ่องกงนั้น ทางรัฐบาลฟิลิปปินส์ไม่ได้ออกประกาศเตือนเรื่องการเดินทาง แต่นางวัลเตได้แนะนำให้นักท่องเที่ยวสังเกตสถานการณ์รอบตัวตลอดเวลาเมื่อไปยังฮ่องกง สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

 

สองเกาหลีตกลงเจรจาระดับสูงรอบ 2 อย่างเร็วที่สุดปลายเดือนนี้

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2557 09:36:37 น.

กระทรวงการรวมชาติของเกาหลีใต้เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เกาหลีเหนือตกลงใจที่จะจัดการเจรจาระดับสูงรอบ 2 ร่วมกับเกาหลีใต้ อย่างเร็วที่สุดในช่วงปลายเดือนต.ค.นี้

ทางกระทรวงฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีเหนือ 3 คนได้เดินทางมายังเมืองอินชอนของเกาหลีใต้ เพื่อเข้าร่วมพิธีปิดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 17 โดยคณะเจ้าหน้าที่ดังกล่าวประกอบด้วย ฮวาง พยอง โซ รองประธานคณะกรรมาธิการกลาโหมแห่งชาติและผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายการเมืองแห่งกองทัพประชาชนเกาหลี รวมถึงโช รยอง แฮ และคิม ยาง กอน เลขาธิการพรรคคนงานเกาหลี

เจ้าหน้าที่ทั้งสามได้หารือกับคณะเจ้าหน้าที่ของเกาหลีใต้ ซึ่งรวมถึง คิม ควาน จิน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดี และ รยู คิล แจ รัฐมนตรีกระทรวงการรวมชาติ

โดยในระหว่างการหารือร่วมกันนั้น ทางเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือได้ตกลงใจที่จะจัดการเจรจาระดับสูงรอบ 2 ในช่วงปลายเดือนต.ค.หรือต้นเดือนพ.ย.นี้ แล้วแต่ว่าทางเกาหลีใต้จะพร้อมเมื่อใด ส่วนรายละเอียดของการเจรจานั้น จะมีการพูดคุยกันระหว่างคณะทำงานของทั้งสองเกาหลีต่อไป

คณะเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือกล่าวว่า “การเจรจารอบ 2" แสดงให้เห็นว่าทางเกาหลีเหนือปรารถนาที่จะเดินหน้าการเจรจาระหว่างสองเกาหลีต่อไป

ก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้ได้เรียกร้องให้เกาหลีเหนือจัดการเจรจาระดับสูงรอบ 2 หลังจากที่ได้มีการเจรจาระดับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงไปเมื่อกลางเดือนก.พ.ปีนี้ ซึ่งถือเป็นการเจรจาระดับสูงครั้งแรกนับตั้งแต่ประธานาธิบดีพัก กึน ฮเย เข้ารับตำแหน่งในเดือนก.พ.2556 สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th--

• 'บิ๊กต๊อก'ขอโอกาส'สปช.'ทำงาน ก่อนวิพากษ์วิจารณ์ว่าดีหรือไม่ดี
  
• พท.ลั่น'อดีตสส.-สว.'บู๊ถอดถอน ขู่ลุยข้างถนนไม่สนกฎอัยการศึก
  
• รัฐบาลฟิลิปปินส์เตือนพลเมืองอย่าเข้าร่วมการชุมนุมในฮ่องกง
  
• จัดทัพผู้บังคับการกรม ผบ.ทบ.คนใหม่ลงนาม ตอบแทนหน่วยกำลังรบ
  
• ราชการหน้าแนวหน้า : 5 ตุลาคม 2557
  
• สมุนแม้วเล็งเจาะยางสนช. เบรคถอดปู จ่อยื่นศาลรธน.ตีความ
  
• คอลัมน์: บ้านใคร...ใครก็รัก: High Flier เป็นเรื่องที่ดี แต่ขอให้นึกถึงหัวอกคนเก่าๆ บ้าง
  
• คอลัมน์: หมายเหตุบ้านเมือง: ถ้อยวลีแห่งความทรงจำ
  
• ใต้เงา 'อำนาจ' สถานการณ์อ่อนไหว 'ตัวแปร'
  

 

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

 

สวัสดีค่ะเพื่อนๆพี่น้อง นักลงทุนทุกท่าน newsTraderjunior wann Goldleng deb ตังเม.. .. ..โชคดีนะคะ

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2557 06:27:36 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 ต.ค.

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (3 ต.ค.) ทั้งดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 ต่างก็ทำสถิติปรับตัวขึ้นสูงสุดในการซื้อขายระหว่างวันในรอบ 7 เดือน หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 208.64 จุด หรือ 1.24% ปิดที่ 17,009.69 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 21.73 จุด หรือ 1.12% ปิดที่ 1,967.90 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 45.43 จุด หรือ 1.03% ปิดที่ 4,475.62 จุด

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (3 ต.ค.) หลังจากมีแรงเทขายสูงสุดในรอบ 15 เดือนก่อนหน้านี้ หลังจากรายงานของสหรัฐบ่งชี้ถึงการจ้างงานที่สูงกว่าคาดการณ์ ส่งผลให้อัตราว่างงานของประเทศ ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลก ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 1% ปิดที่ 335.19 จุด หลังจากที่ร่วงลง 2.4% เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ท่ามกลางความวิตกที่ว่า โครงการซื้อทรัพย์สินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ยังไม่เพียงพอที่จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจยุโรปให้กลับมาขยายตัว

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.เมื่อวันศุกร์ (3 ต.ค.) ทำสถิติปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน นำโดยหุ้นกลุ่มการท่องเที่ยวและสายการบิน

ดัชนี FTSE 100 ปิดเพิ่มขึ้น 81.52 จุด หรือ 1.26% ที่ 6,527.91 จุด

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ (3 ต.ค.) เนื่องจากตลาดคาดว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับที่สูงกว่าอุปสงค์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 89.74 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันศุกร์ (3 ต.ค.) แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2553 เพราะอุปสงค์ได้ปรับแรงกดดันจากข้อมูลการจ้างงานที่สดใสของสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 22.2 ดอลลาร์ หรือ 1.83% ปิดที่ 1,192.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวลดลงทั้งหมด 1.9% ในสัปดาห์นี้และลดลงมาแล้ว 1.1% ในปีนี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 16.826 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 22.1 เซนต์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปิดที่ 1,226.9 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 43.5 ดอลลาร์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (3 ต.ค.) หลังสหรัฐรายงานอัตราว่างงานที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี ในขณะที่ตลาดแรงงานเพิ่มตำแหน่งงานสูงเกินคาดการณ์ ซึ่งกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้

ค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2511 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2674 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะ 1.5967 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6145 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.84 เยน จากระดับ 108.41 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9674 ฟรังค์ จากระดับ 0.9537 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8672 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8804 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์แคนาดาลดลงแตะระดับ 1.1256 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1155 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,009.69 จุด เพิ่มขึ้น 208.64 จุด, +1.24%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,475.62 จุด เพิ่มขึ้น 45.43 จุด, +1.03%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,967.90 จุด เพิ่มขึ้น 21.73 จุด, +1.12%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,281.74 จุด เพิ่มขึ้น 39.07 จุด, +0.92%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,527.91 จุด เพิ่มขึ้น 81.52 จุด, +1.26%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,253.24 จุด เพิ่มขึ้น 24.53 จุด, +0.76%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,840.82 จุด เพิ่มขึ้น 3.14 จุด, +0.17%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,949.35 จุด ลดลง 51.46 จุด, -1.03%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,064.56 จุด เพิ่มขึ้น 131.58 จุด, +0.57%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,247.03 จุด เพิ่มขึ้น 50.77 จุด, +0.71%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,318.20 จุด เพิ่มขึ้น 20.50 จุด, +0.39%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 15,708.65 จุด เพิ่มขึ้น 46.66 จุด, +0.30%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,106.28 จุด เพิ่มขึ้น 131.09 จุด, +1.46%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

• รายงานการซื้อขายหุ้นผ่าน NVDR ประจำวันที่ 3 ต.ค. 2557
  
• ญี่ปุ่นเผยพายุไต้ฝุ่น "ฟานฟน" อาจเคลื่อนตัวเข้าสู่กรุงโตเกียว
  
• รายงานหุ้นถูกชอร์ตเซล ประจำวันที่ 3 ต.ค. 2557
  
• World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ
  
• (REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 208.64 จุด รับตัวเลขจ้างงานสดใส
  
• ประธานบอร์ด กปภ. พร้อมขับเคลื่อนนโยบายเพื่อประชาชน
  
• ภาพข่าว: “โกลเบล็กกรุ๊ป”ทำบุญครบรอบ 12 ปี
  
• 'อนุสรณ์'ซัด'วัชระ'เปิดตัวหนังสือ ขู่เล่าความเท็จรอรับหมายศาล
  
• บี้-เคพีเอ็น ปลื้ม ร้องเพลงประกอบละคร ร้ายรักพยัคฆ์กังฟู
  
• แอร์บัส เอ350-900 ได้รับใบรับรองความปลอดภัยในการเดินอากาศจาก EASA แล้ว โดยเหตุการณ์สำคัญครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างตรงเวลา คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพ
  
• สุทธิรักษ์ พุทธวงค์ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการฝ่ายการให้คำปรึกษาและสำรวจค่าจ้างและสวัสดิการ (Global Data Services Leader) ของทาวเวอร์ส วัทสัน ประเทศไทย
  
• ภาพข่าว: คิง เพาเวอร์ แจกหรูงาน “Delights & Surprises” ตลอดเดือนตุลาคม
  
• ภาพข่าว: เคที ซีมิโก้ จับมือ BANQUE CRAMER & CIE SA
  

ถูกแก้ไข ตุลาคม 6, 2014 โดย ginger

[ginger 11,058]

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์ 29 ก.ย.-3 ต.ค.57 เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือน ขณะที่ ดัชนีหุ้นไทยปรับลงจากแรงขายเพื่อลดความเสี่ยง โบรกฯชี้หุ้นพักฐาน-ไม่หลุด1,530จุด นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยยังพักฐาน- มั่นใจไม่หลุด1,530จุด กสิกรฯชี้บาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหว32.35/.65 กสิกรไทยคาดเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหว 32.35-32.65 บาท/ดอลลาร์ คาดดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้น บัวหลวงรุกรายใหญ่ในพม่าตั้งเป้าเปิดสาขาปี58 สถาบันชี้หุ้นไทยไร้ฟองสบู่ ธปท.จับตาทุนเคลื่อนย้ายรับมือ'อีซีบี'อัดฉีดคิวอี

ดูข่าว ทั้งหมด

 

 

ข่าวยอดนิยม

• กูเกิลลบรูปหลุดดาราหลังถูกขู่ฟ้อง
  
• 'เทเลอร์ สวิฟต์'เป็นโค้ชใหม่เดอะวอยซ์
  
• ฮ่องกงยังตึงเครียดหวั่นเหตุรุนแรง
  
• โตโยต้าหยุดการผลิตรถในญี่ปุ่น
  
• ดวงพยากรณ์วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ.2557
  

• ฮอนไห่เล็งจ้างวิศวกร5พันคนใน2ปี
  
• เผยสมาชิกไอเอสมีแพทย์หญิงมาเลย์
  
• สหรัฐรับกำจัดขยะอีโบลาเป็นปัญหาหนักอก
  
• โตโยต้าหยุดการผลิตรถในญี่ปุ่น
  
• 'สตีฟ มาร์ติน'รับรางวัลเชิดชูเกียรติ
  
• 'เทเลอร์ สวิฟต์'เป็นโค้ชใหม่เดอะวอยซ์
  
• กูเกิลลบรูปหลุดดาราหลังถูกขู่ฟ้อง
  
• ฮ่องกงยังตึงเครียดหวั่นเหตุรุนแรง
  
• เริ่มการค้นหา MH370 รอบใหม่
  

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง ฉบับที่ 2

คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รายงานว่า อัตราการเต้นของพระหทัยเร็วในบางช่วงเวลา

ความดันพระโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปรกติ อุณหภูมิพระวรกายในรอบ 24 ชม.

(จากช่วงเย็นวันที่ 4 ต.ค.-5 ต.ค.) ส่วนใหญ่ต่ำกว่า 37 องศาฯ แต่มีพระปรอทสูงถึง 38.5 องศาฯ ครั้งหนึ่ง

 

คณะแพทย์ฯ รายงานว่า เย็นวานนี้ได้ขอพระราชทานงดพระกระยาหาร ถวายน้ำเกลือทางหลอดพระโลหิต

และถวายตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ร่วมกับการฉีดสารกัมมันตภาพรังสี (FDG-PET CT)

เข้าทางหลอดพระโลหิต พบว่า ถุงพระปิตตะ (ถุงน้ำดี) อักเสบ บวมมาก

 

คณะแพทย์ฯ รายงานว่า เมื่อคืนนี้เวลา 21.45 น. คณะแพทย์ฯ

ได้รับพระบรมราชานุญาตให้ถวายพระโอสถระงับความรู้สึกทั่วพระวรกาย

และส่องกล้องเข้าในช่องพระนาภี (ช่องท้อง) ตัดเอาถุงพระปิตตะ (ถุงน้ำดี) ออก การผ่าตัดใช้เวลา 1.15 ชม.

การผ่าตัดเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พระอาการหลังผ่าตัดเป็นที่น่าพอใจ

ได้เสด็จพระราชดำเนินกลับห้องที่ประทับเวลา 00.20 น.วันที่ 6 ต.ค.

 

คณะแพทย์ฯ รายงานว่า เช้าวันนี้พระอาการทั่วไปดีขึ้้น อัตราการเต้นของพระหทัยลดลง

ความดันพระโลหิตอยู่ในเกณฑ์ปรกติ พระปรอทต่ำลง คณะแพทย์ฯ ได้ถวายพระโอสถปฏิชีวะ

และยังคงถวายน้ำเกลือทางหลอดพระโลหิตต่อไป

 

Cr:http://www.mcot.net/site/content?id=5431ff21be047001878b4585#.VDIKElfYyUk

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

สรุปภาวะ SET50 Index Future By GT Wealth Management 6 ต.ค. 57 (ภาคเช้า)

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2557 10:59:05 น.

กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--GT Wealth Management

ดัชนี SET50 ในระหว่างวันมีการปรับตัวลงต่อแต่มีการฟื้นตัวขึ้นมาในช่วงบ่าย โดยเป็นการฟื้นตัวทางเทคนิค ด้วยปริมาณการซื้อขายที่ระดับ 46,919.44 ล้านบาท ซึ่งวันนี้ ดัชนียังมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบแนวโน้มเชิงลบ หลังจากที่ในระยะนี้มีปัจจัยลบในประเทศเข้ามากระทบดัชนีค่อนข้างมาก หลังจากที่ไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญไปได้ และปัจจัยพื้นฐานในประเทศอย่างแรงขายของนักลงทุนจากต่างชาติที่ออกมาอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา บวกกับธนาคารโลกมีการปรับลดประมารการณ์เศรษฐกิจไทยในปีนี้ลงอีกครั้งจาก 3% เหลือเพียง 1.5% ต่ำสุดในอาเซียนจากปัญหาการเมืองในช่วงต้นปีและการส่งออกที่หดตัวลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัจจัยในต่างประเทศที่ตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ออกมาดีกว่าที่คาด เพิ่มความเป็นไปได้ที่ FED จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด ค่าเงินบาทอยู่ที่32.58 บาทต่อดอลลาร์ แนวโน้มอ่อนค่าจากเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง

แนวโน้มดัชนี SET50 นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มดัชนียังเป็นเชิงลบ หลังจากที่ปัจจัยพื้นฐานที่มีผลต่อดัชนีในช่วงนี้มีเพียงปัจจัยลบ ทั้งจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา การลดการคาดการณ์เศรษฐกิจไทยของ World Bank ลงต่ำสุดในอาเซียน นอกจากนี้ในช่วงกลางสัปดาห์ ติดตามรายงานการประชุม FOMC ที่อาจพบสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด ทางเทคนิค แนวรับสำคัญ 1,038 จุด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2557 10:58:08 น.

กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำปรับตัวลงหนักหลังการรายงานการจ้างงานสหรัฐฯ ฟื้นตัวเร็วกว่าคาด โดยราคาทองคำปรับตัวลดลง US$22.60 ต่อออนมาปิดที่ระดับ US$1,190.70 ต่อออนซ์(Gold Spot) ราคาทองคำอ่อนตัวลงหนักหลังการรายงานตัวเลขการจ้างงานสำคัญสหรัฐฯ โดยเฉพาะอัตราการว่างงานที่ลดลง 0.2% สู่ระดับ 5.9% หรือต่ำสุดตั้งแต่ปี 2008 ด้านการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 248,000 ตำแหน่ง ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นกว่าหนึ่งจุดสู่ระดับ 86.694 จุด เทียบสกุลเงินหลักการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กดดันราคาทองคำ ค่าเงินบาทอ่อนค่าใกล้ระดับ 32.60 บาทต่อดอลลลาร์ ตามการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านกองทุน SPDR ถือครองทองคำคงที่ 767.47 ตัน

ราคาทองคำโลกเช้านี้ (Gold Spot) เคลื่อนไหวบริเวณ US$1,185 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนตุลาคม 2557 (GFV14) ราคาเปิดใกล้ระดับ 18,520 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 18,350 บาท ราคาเสนอขาย 18,450 บาท

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำได้รับแรงกดดันหลังการรายงานตัวเลขการจ้างงานสำคัญสหรัฐฯ ที่ปรับตัวดีกว่าที่คาด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ราคาจะอ่อนตัวลงค่อนข้างมากในช่วงคืนวันศุกร์ และต้องไม่ลืมว่าในช่วงปลายเดือนนี้จะมีการประชุม FOMC ซึ่งจะต้องพิจารณาบนโยบาย QE ก็จะมีความเป็นไปได้ที่นักลงทุนส่วนใหญ่จะกังวลว่าอาจจะมีการส่งสัญญาณเรื่องการขึ้นดอกเบี้ย ในทางเทคนิคแนวรับ US$1,180 แนวต้าน US$1,200

• Apple เตรียมปล่อยอัฟเดทเวอชั่นใหม่ iOS8.1
  
• (เพิ่มเติม) เวิลด์แบงก์ คาดเศรษฐกิจไทยปี 57 โต 1.5%, ปี 58 โตราว 3.5%
  
• รายงานภาวะเศรษฐกิจรายวันประจำวันที่ 6 ตุลาคม 2557
  
• พีทีจี รุกขยายฐานลูกค้าเพิ่ม ดีเดย์เปิดคลังน้ำมันแห่งที่ 9 จ.นครสวรรค์
  
• ญี่ปุ่นเผยยอดขายรถยนต์นำเข้าเดือนก.ย.ปรับตัวลง 1.4% เทียบรายปี
  
• ก.เกษตรฯ เตรียมเสนอแผนโซนนิ่งพื้นที่ปลูกข้าวต่อครม.หวังลดอุปทาน
  
• ธปท.ประกาศผลตอบแทนตั๋วเงินคลัง มูลค่า 1.5 หมื่นลบ.ที่ 2.02081%
  
• ECONOMIC FOCUS: ปฏิทินประจำเดือน ต.ค.
  
• (เพิ่มเติม)ราคาทองคำแท่งวันนี้บาทละ 18,450.00 บาท
  
• ทิศทางตลาดหุ้นวันนี้ มีช่วงฟื้นตัวต่อ แต่ยังแกว่งแรง
  
• เงินบาทเปิด 32.64/66 อ่อนค่าตามภูมิภาคหลังดอลล์แข็งจากตัวเลขศก.สหรัฐหนุน
  
• ทองคำเปิดตลาดลง100บาท รูปพรรณขายบาทละ18,800บาท
  

ข่าวเศรษฐกิจล่าสุด »

[ginger 11,058]

เงินบาทเปิด 32.64/66 อ่อนค่าตามภูมิภาคหลังดอลล์แข็งจากตัวเลขศก.สหรัฐหนุน

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2557 09:44:41 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ทึ่ระดับ 32.64/66 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากช่วงปิดตลาดเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 32.51/53 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาคเนื่องจากดอลลาร์แข็งค่า หลังตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่สหรัฐประกาศเมื่อคืนวันศุกร์ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

"ปรับตัวอ่อนค่ามาตั้งแต่คืนวันศุกร์หลังตัวเลขจ้างงานฯ ของสหรัฐออกมาดี ดอลลาร์ against ทุกสกุล...เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 4 เดือนนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 32.55-32.65 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้อาจปรับตัวแข็งค่าลงมาได้บ้าง เนื่องจากปรับตัวอ่อนค่าขึ้นไปค่อนข้างเร็ว" นักบริหารเงิน กล่าว

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109.64 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 108.95 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2515 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.2614 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.4690 บาท/ดอลลาร์

- เอไอจี-ซีเกท-ไฟเซอร์ เตรียมขอพบ รมว.คลัง - ผู้ว่าธปท.ระหว่างโรดโชว์สหรัฐ หวังขอใช้เงินดอลลาร์ซื้อขายสินค้าในกลุ่มพร้อมขอความชัดเจนด้านภาษี ตลท.ชี้โรดโชว์สหรัฐเป็นการสร้างความเชื่อมั่น

- ศูนย์วิจัยกสิกรฯคาดผลประกอบการแบงก์ไตรมาส 3 ยังประคองตัวเพิ่มขึ้นได้ จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ขึ้น ส่งผลให้สินเชื่อเอสเอ็มอี-รายย่อยเริ่มกระเตื้อง แต่รายใหญ่ยังทรง ไตรมาส 4 ยังจับตาเบิกจ่ายรัฐ-สภาพคล่อง-หนี้ครัวเรือน

- นายจักรพร อุ่นจิตต์ ผู้อำนวยการ สถาบันการก่อสร้างแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลได้ออกแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 เดือนสุดท้ายของปี 2557 นี้ ซึ่งเน้นไปที่การซ่อมสร้างในหน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ มูลค่ารวมกว่า 3 แสนล้านบาท สถาบันเชื่อว่าจะส่งผลบวกต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างโดยตรง และจะช่วยให้ภาคก่อสร้างทั้งปี 2557 ไม่อยู่ในภาวะติดลบ หลังจากที่เผชิญกับความซบเซามาตั้งแต่ปลายปี 2556 ต่อเนื่องจนถึงครึ่งปีแรก 2557 จากปัญหาทางการเมือง

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงร่วงลง 200 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,010 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,190.98 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 21.63 ดอลลาร์สหรัฐ

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อวันศุกร์ (3 ต.ค.) เนื่องจากตลาดคาดว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกอาจจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในระดับที่สูงกว่าอุปสงค์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 89.74 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 92.31 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดระดับ 1,200 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันศุกร์ (3 ต.ค.) แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2553 เพราะอุปสงค์ได้ปรับแรงกดดันจากข้อมูลการจ้างงานที่สดใสของสหรัฐ

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (3 ต.ค.) หลังสหรัฐรายงานอัตราว่างงานที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี ในขณะที่ตลาดแรงงานเพิ่มตำแหน่งงานสูงเกินคาดการณ์ ซึ่งกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดไว้

ค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2511 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2674 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะ 1.5967 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6145 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 109.84 เยน จากระดับ 108.41 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9674 ฟรังค์ จากระดับ 0.9537 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8672 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8804 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์แคนาดาลดลงแตะระดับ 1.1256 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1155 ดอลลาร์สหรัฐ

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

ดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีเทียบยูโรหลังศก.สหรัฐแข็งแกร่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 1 ตุลาคม 2557 20:34:52 น.

สกุลเงินดอลลาร์พุ่งขึ้นเกือบแตะที่ระดับระดับสูงสุดในรอบ 2 ปีเมื่อเทียบกับยูโร ท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ปรับตัวดีขึ้นทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีเหตุผลมากขึ้นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.1% เทียบยูโร ที่ระดับ 1.2615 ดอลลาร์/ยูโรเมื่อเวลา 19.42 น. ตามเวลาประเทศไทย หลังจากปรับตัวขึ้น 0.4% แตะที่ 1.2571 ดอลลาร์/ยูโรเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2555

ดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.4% เทียบเยน ที่ระดับ 110.09 เยน/ดอลลาร์ในช่วงก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 25 ส.ค. 2551 ก่อนที่จะลดลงมาซื้อขายที่ระดับ 109.67 เยน/ดอลลาร์

ดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากบริษัทออโตเมติค ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนสหรัฐจ้างงานเพิ่ม 213,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. เนื่องจากการจ้างงานที่แข็งแกร่งในภาคการผลิต

ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าการประเมินของนักวิเคราะห์ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 205,000 ในเดือนก.ย. และทำสถิติปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 200,000 ตำแหน่งเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

 

กลุ่มผู้ชุมนุมฮ่องกงยืดหยัดปิดสถานที่ราชการต่อไป

ข่าวต่างประเทศ RYT9.COM -- จันทร์ที่ 6 ตุลาคม 2557 10:09:12 น.

ดูรูปทั้งหมด

กลุ่มผู้ประท้วงชาวฮ่องกงซึ่งใช้สีเหลืองเป็นสัญญลักษณ์ ยังปักหลักเรียกร้องสิทธิ์ในการเลือกตั้งผู้ปกครองเขตปกครองพิเศษในปี 2560 ด้วยการปิดถนนและสถานที่ราชการหลายแห่ง โดยไม่ให้ความสำคัญกับคำประกาศของทางการที่ขอให้สลายการชุมนุม เพื่อให้สถานที่ราชการและโรงเรียนเปิดทำการตามปกติ หลังการเจรจาระหว่างตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมกับทางการ ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากฝ่ายทางการปฏิเสธข้อเรียกร้องทั้งสามข้อ และสมาพันธ์นักศึกษาฮ่องกงประกาศจะปิดสถานที่ราชการต่อไป

อย่างไรก็ตาม คาดว่า ตำรวจปราบจลาจลจะเข้าปฏิบัติหน้าที่ในไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า

ขณะที่กลุ่มผู้ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุม ได้รวมตัวกันโดยใช้สีน้ำเงินเป็นสัญญลักษณ์ด้วย

อินโฟเควสท์ โดย ณัฐชญา อัครยรรยง/ฐณฐ ธาระศัพท์ โทร.02-2535000 อีเมล์: thanat@infoquest.co.th--