ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ทองหักลงจากแรงขายเมื่อหลุดแนวรับหลายแนวกดให้ทองร่วงลงสู่บริเวณกรอบล่างของช่วง 1 เดือน

เวลานี้ยังมองว่าทองจะยังไซด์เวย์ต่อไป การเทรดแบบ Follow Trend จะไม่ให้ผลที่ดีนัก

ด้วยปัจจัยที่ไม่แน่ชัดทางใดทางหนึ่งทำให้ทองจะยังไม่มีทิศทางต่อไป

ในเชิงเทคนิคแท่งเทียนรายวันดูไม่สวยนักถ้าหลุดกรอบ 1180 จะมีแรงขายตามลงมาได้ โดยเป้าจะอยู่ที่บริเวณ 1165 1177 ในกรณีที่กลับมาแต่ยังไม่เกิน 1192 - 1195 แนวโน้มยังเป็นลบ จะได้ทดสอบแนวรับ 1180 1185 ดูว่าแข็งแค่ไหนในกรณีที่หลุดโลว์น่าจะย่อมาแนวหนุนถัดไป 1165 1177

----------------------------------------------------------------------------

ดักเอสเล่นสั้นที่แนวต้าน 1192 1195 ผ่านซื้อตามเล่นสั้นเช่นกัน

by Facebook.com/Wealthstation

 

10995473_874255695946240_8003409796396397931_n.png?oh=4bf89a0988aeb75cb7c2bb5b4980b40c&oe=55E188B3&__gda__=1436882905_4c507e5b7be6a00fab3b21a3558f2143

11009171_874255699279573_3367436215992015672_n.png?oh=33458dafd0cfed1fadfef43d8ccf7c5d&oe=559E9126&__gda__=1436506031_f3d222c09c5e9c135a63dae80f74a6cf

 

11173339_874261455945664_1302640873590787408_n.png?oh=d6cff1edd8f56579f0f8cacbad73b653&oe=55A1BA92&__gda__=1436876280_d7e6aced10c8f4f5fa53b7b0b03f6bca

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

GBX มองทองลงแค่ช่วงสั้นแนะรับ 1,175 เหรียญฯจับตาเฟดส่งสัญญาณดบ.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 2558 14:47:54 น.

นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์(GBX) ประเมินแนวโน้มราคาทองคำวันนี้ว่า ราคาทองคำปรับลงมาหลุดแนวรับ 1,190 เหรียญต่อทอยออนซ์ที่ฝ่ายวิจัยเคยให้ไว้ และยังเป็นสัญญาณการปรับลงระยะสั้นต่อ แต่เป็นการปรับลงเพื่อปรับขึ้นในระยะต่อไป โดยมีแนวต้าน 1,210 เหรียญต่อทอยออนซ์ และ1,220 เหรียญต่อทอยออนซ์ และหากมองภาพรวมแล้วเชื่อว่าราคาทองยังอยู่ในกรอบขาขึ้นในระยะสั้น มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1,220 เหรียญต่อทอยออนซ์ภายในสองวันนี้ได้

 

 

 

อย่างไรก็ตาม บริเวณ 1,220 เหรียญต่อทอยออนซ์ เป็นแนวต้านสำคัญที่เคยทดสอบแล้วยังไม่ผ่าน ดังนั้นหากมีปัจจัยหนุนใหม่ อาทิ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะประกาศในช่วงปลายสัปดาห์นี้ จ เหลือเพียงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และตัวเลขยอดซื้อขายสินค้าคงทนในค่ำวันศุกร์ และในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุม FOMC ซึ่งตลาดรอลุ้นผลการประชุมว่าธนาคารกลางสหรัฐจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วก่อนสิ้นไตรมาส 3 หรือไม่ ซึ่งถ้าออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดก็จะส่งผลบวกต่อราคาทอง

 

ส่วนการปรับตัวลดลงของราคาทองคำโลกอยู่ที่ 1,186.86 เหรียญต่อทอยออนซ์ ปรับลง 13.18 เหรียญต่อทอยออนซ์ หลังการประกาศตัวเลขยอดซื้อขายบ้านมือสองของสหรัฐโตขึ้น 6.1% ส่งผลให้มีความต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นเพิ่มขึ้นและเกิดแรงขายในสินทรัพย์ปลอดภัย

 

อีกทั้งการปรับลดลงหลุดแนวรับระยะสั้นบริเวณ 1,190 เหรียญต่อทอยออนซ์ ทำให้เกิดแรงขายของนักเก็งกำไรระยะสั้น โดนมีแนวรับสำคัญถัดไปบริเวณ 1,175 เหรียญต่อทอยออนซ์ และตลาดรอการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ(FOMC)ช่วงกลางสัปดาห์หน้า คาดว่าจะมีการหารือถึงระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ

 

ดังนั้น จึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนทอง สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้นชะลอการเข้าซื้อเพื่อรอดูสัญญาณกลับตัวก่อน โดยแนวรับสำคัญอยู่บริเวณ 1,175 เหรียญต่อทอยออนซ์ หรือใกล้เคียง ส่วนนักลงทุนระยะกลาง ยังแนะนำให้ถือหรือเป็นจังหวะให้เข้าสะสมทองคำแท่งเมื่อราคาต่ำกว่า 18,300 บาท เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ 19,000 บาทขึ้นไป

 

อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2143666

 

โกลเบล็ก มองราคาทองลงแค่ช่วงสั้น แนะรับ1,175 เหรียญต่อทอยออนซ์-จับตาประชุมเฟดสัปดาหน้า

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 2558 14:35:17 น.

 

ดูรูปทั้งหมด

กรุงเทพฯ--23 เม.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์

บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ มองราคาทองคำปรับตัวลดลงแต่ช่วงสั้น หลังหลุดแนวรับสำคัญ 1,190 เหรียญต่อทอยออนซ์ พร้อมแนะจับตากการประกาศตัวเศรษฐกิจของสหรัฐ และการประชุมเฟดในสัปดาห์หน้า ที่จะกำหนดทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยที่ชัดเจนขึ้น จะกระทบจิตวิทยาการลงทุน และหันมาลงทุนทองเพิ่มขึ้น จึงแนะนำกลยุทธ์ว่าระยะสั้นชะลอการลงทุน โดยให้แนวรับสำคัญ 1,175 เหรียญต่อทอยออนซ์ ส่วนระยะกลางแนะนำสะสมทองคำแท่งเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาต่ำกว่า 18,300 บาท

 

 

 

นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ประเมินแนวโน้มราคาทองคำวันนี้ว่า ราคาทองคำปรับลงมาหลุดแนวรับ 1,190 เหรียญต่อทอยออนซ์ ที่ฝ่ายวิจัยเคยให้ไว้ และยังเป็นสัญญาณการปรับลงระยะสั้นต่อ แต่เป็นการปรับลง เพื่อปรับขึ้นในระยะต่อไป โดยมีแนวต้าน 1,210 เหรียญต่อทอยออนซ์ และ1,220 เหรียญต่อทอยออนซ์ และหากมองภาพรวมแล้วเชื่อว่าราคาทองยังอยู่ในกรอบขาขึ้นในระยะสั้น ซึ่งมีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1,220 เหรียญต่อทอยออนซ์ ภายในสองวันนี้ได้

 

อย่างไรก็ตาม บริเวณ 1,220 เหรียญต่อทอยออนซ์ เป็นแนวต้านสำคัญที่เคยทดสอบแล้วยังไม่ผ่าน ดังนั้นหากมีปัจจัยหนุนใหม่ อาทิ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่จะประกาศในช่วงปลายสัปดาห์นี้ จ ะเหลือเพียงตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน และตัวเลขยอดซื้อขายสินค้าคงทนในค่ำวันศุกร์ และในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุม FOMC ซึ่งตลาดรอลุ้นผลการประชุมว่าธนาคารกลางสหรัฐจะส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วก่อนสิ้นไตรมาส 3 หรือไม่ ซึ่งถ้าออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดก็จะส่งผลบวกต่อราคาทอง

 

ส่วนการปรับตัวลดลงของราคาทองคำโลกอยู่ที่ 1,186.86 เหรียญต่อทอยออนซ์ ปรับลง 13.18 เหรียญต่อทอยออนซ์ หลังการประกาศตัวเลขยอดซื้อขายบ้านมือสองของสหรัฐโตขึ้น 6.1% ส่งผลให้มีความต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นเพิ่มขึ้นและเกิดแรงขายในสินทรัพย์ปลอดภัย

 

อีกทั้งการปรับลดลงหลุดแนวรับระยะสั้นบริเวณ 1,190 เหรียญต่อทอยออนซ์ ทำให้เกิดแรงขายของนักเก็งกำไรระยะสั้น โดนมีแนวรับสำคัญถัดไปบริเวณ 1,175 เหรียญต่อทอยออนซ์ และตลาดรอการประชุมคณะกรรมการ นโยบายการเงินสหรัฐ FOMC ในช่วงกลางสัปดาห์หน้า คาดว่าจะมีการหารือถึงระยะเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจ

 

ดังนั้นจึงแนะนำกลยุทธ์การลงทุนทอง สำหรับนักเก็งกำไรระยะสั้นชะลอการเข้าซื้อเพื่อรอดูสัญญาณกลับตัวก่อน โดยแนวรับสำคัญอยู่บริเวณ 1,175 เหรียญต่อทอยออนซ์ หรือใกล้เคียง ส่วนนักลงทุนระยะกลาง ยังแนะนำให้ถือหรือเป็นจังหวะให้เข้าสะสมทองคำแท่งเมื่อราคาต่ำกว่า 18,300 บาท เพื่อรอขายทำกำไรบริเวณ19,000 บาทขึ้นไป

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2143642

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จีนเตรียมแก้ไขกฎหมายเพื่อคุ้มครองนักลงทุนรายย่อยให้ดียิ่งขึ้น

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 2558 14:59:00 น.

คณะกรรมการของสภาประชาชนแห่งชาติจีน (NPC) เรียกร้องให้มีการคุ้มครองนักลงทุนรายย่อยในตลาดหลักทรัพย์ให้ดียิ่งขึ้น ขณะที่ NPC ได้หารือเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายหลักทรัพย์เมื่อวานนี้

 

NPC กำลังพิจารณาเรื่องการปรับทบทวนร่างกฎหมาย ที่กำหนดให้ใช้ระบบการเปิดเผยข้อมูลที่มีความโปร่งใสมากขึ้น

 

ร่างกฎหมายดังกล่าวซึ่งได้รับการเสนอเข้าวาระการพิจารณาเป็นครั้งแรกระบุว่า ผู้ออกหลักทรัพย์ต้องเปิดเผยข้อมูลให้กับนักลงทุนทั้งหมดในเวลาเดียวกัน และห้ามเปิดเผยข้อมูลให้แก่องค์กรหรือบุคคลใดก็ตามล่วงหน้าอย่างเด็ดขาด

 

นายเหอ ยี่เชง หนึ่งในสมาชิก NPC กล่าวว่า นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดหุ้นจีนเป็นนักลงทุนรายย่อย และหลายรายเลือกที่จะเสี่ยงในช่วงที่ราคาหุ้นผันผวนมากกว่าที่จะลงทุนในระยะยาว นอกจากนี้ นายเหอกล่าวว่า การห้ามผู้ค้าหลักทรัพย์ปั่นตลาดหุ้นนั้นมีความสำคัญมาก และข้อกำหนดใหม่ในการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายจะคุ้มครองผลประโยชน์ของนักลงทุนกลุ่มดังกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2143690

 

(เพิ่มเติม) มูดีส์ชี้การรวมตัวทางเศรษฐกิจ-เปิดเสรีภาษีของอาเซียนส่งผลดีต่อความน่าเชื่อถือ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 2558 15:19:49 น.

มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ชี้ข้อสรุปเรื่องการเปิดเสรีการจัดเก็บภาษีของกลุ่มประเทศอาเซียนภายในช่วงสิ้นปีนี้ ถือเป็นเรื่องที่เป็นปัจจัยบวกต่อความน่าเชื่อถือในภูมิภาค และจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจและการค้าภายในภูมิภาคด้วยกันเอง

 

บทวิเคราะห์ดังกล่าวของมูดีส์ระบุไว้ในรายงานชื่อ "Southeast Asia: ASEAN Economic Integration Credit Positive; Progress Is Incomplete," โดยราฮุล กอช รองประธานและนักวิเคราะห์อาวุโสของมูดีส์ และคริสเตียน เดอ กัซแมน รองประธานและนักวิเคราะห์อาวุโส

 

 

 

กอช กล่าวว่า การค้าระหว่างประเทศภายในภูมิภาคที่ดีขึ้นนี้ถือเป็นปัจจัยบวกต่อความน่าเชื่อถือสำหรับภูมิภาค เมื่อพิจารณาจากการขยายตัวในตลาดส่งออกที่สำคัญๆ เช่น จีน ซึ่งกำลังชะลอตัวลง

 

ประชาคมเศรษฐกิจของอาเซียนตั้งเป้าที่จะผลักดันการรวมตัวในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ผ่าน 4 นโยบายหลัก ได้แก่ ตลาดเดี่ยวและฐานการผลิต, ภูมิภาคที่มีความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ, การพัฒนาเศรษฐกิจอย่างเท่าเทียมกัน และการผนวกรวมกับเศรษฐกิจโลก

 

ทั้งนี้ ปริมาณการค้าภายในภูมิภาคอยู่ในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่ที่ได้มีการยกเลิกการจัดเก็บภาษีของประเทศสมาชิกอาเซียน 6 ประเทศเมื่อปี 2550 ได้แก่ บรูไน, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และไทย

 

มูดีส์ระบุว่า ความแข็งแกร่งของการค้าภายในภูมิภาค ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 24.2% ของทั้งภูมิภาคนั้น จะช่วยให้ประเทศสมาชิกมีความสามารถมากขึ้นในการรับมือกับภาวะผันผวนที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq23/2143711

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนี PMI เบื้องต้นของยูโรโซนเดือนเม.ย.ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 2 เดือน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 2558 15:16:07 น.

ผลสำรวจมาร์กิต อิโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนเม.ย.ปรับลงแตะ 53.5 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จาก 54.0 ในเดือนมี.ค.

 

สำหรับดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนเม.ย.ลดลงแตะ 51.9 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 52.2 ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนเม.ย.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 53.7 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เมื่อเทียบกับระดับ 54.2 ในเดือนมี.ค.

 

ดัชนีที่สูงกว่า 50 แสดงให้เห็นว่า กิจกรรมทางธุรกิจมีการขยายตัว และตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว

 

การเติบโตของกิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนอ่อนแรงลงจากระดับสูงสุดในรอ[ 11 เดือนที่ทำไว้เมื่อเดือนมี.ค. ภาวะชะลอตัวดังกล่าวสะท้อนถึงอัตราการขยายตัวที่ลดต่ำลงในเยอรมนีและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในยูโรโซน แม้ว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาคมีการเติบโตในอัตราสูงสุดนับแต่เดือนส.ค.2550

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq28/2143707

 

เนชั่นร้องสปช.-สนช.สอบมติกสท.ผิดกฎหมาย หวั่นเปิดช่องนายทุน

 

 

ข่าวทั่วไป RYT9.COM -- พฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 2558 15:24:00 น.

ทีมผู้บริหารเนชั่น ยื่นหนังสือประธานสปช.-สนช. เรียกร้องตรวจสอบการทำงานของกสท. กรณีรับรองมติ 3:2 ที่ระบุ SLC ซื้อหุ้นเนชั่น 12.21% ไม่ผิด ชี้เป็นมติที่ผิดกฎหมาย และเปิดช่องปัญหาครอบงำสื่อในอนาคต จี้ใช้กฎหมายสื่อชี้ขาด หวั่นเปิดช่องปัญหาใหม่ ครอบงำสื่อได้อย่างเสรี ขณะที่สนช.ด้านสิทธิ์ผู้บริโภคและสังคม ร่วมต้านการครอบงำสื่อ

 

 

 

วันนี้ (23 เม.ย.) ที่รัฐสภา ผู้บริหารเนชั่น นำโดย นายเทพชัย หย่อง บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น, นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), และนางสาวดวงกมล โชตะนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป พร้อมด้วยประธานสหภาพฯพนักงานเนชั่น และประธานสหกรณ์ออมทรัพย์เนชั่น มัลติมีเดีย ได้เดินทางมายื่นหนังสือ ต่อประธานประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) และประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อ ขอให้ทั้งประธานทั้ง 2 องค์เร่งพิจารณาตรวจสอบมติกสท.เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งผิดกฎหมายและขัดต่อหลักการปฏิรูปสื่อ อาจนำไปสู่เปิดช่องเป็นบรรทัดฐานใหม่ ให้มีการครอบงำสื่อได้อย่างเสรี

 

จากผลการรับรองมติคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง และกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เมื่อวันที่ 30 มี.ค.58 ที่ได้รับรองมติการประชุมคณะกรรมการกสท.เมื่อวันที่ 23 มี.ค.58 กรณี บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) หรือ SLC ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัท สปริงนิวส์ เทเลวิชั่น จำกัด เจ้าของทีวีดิจทัลช่องข่าวสปริงนิวส์ ได้เข้าซื้อหุ้น NMG หรือบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่เจ้าของทีวีดิจิทัลช่องข่าวเนชั่นทีวี ไปแล้ว 12.21% ซึ่งขัดต่อประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการคัดเลือกให้ใช้คลื่นความถี่ ในกิจการกระจายเสียงหรือกิจการโทรทัศน์เพื่อประกอบกิจการทางธุรกิจ พ.ศ. 2556 หรือ ประกาศหลักเกณฑ์การประมูลทีวีดิจิทัล

 

โดยในการประชุมเมื่อวันที่ 23 มีการออกเสียง 3 แบบจากกรรมการ 5 คน โดย 2 คนใช้สิทธิ์ "งดออกเสียง" คือ พ.อ.นที ศุกลรัตน์ ประธานกสท. และพ.ต.ท.ทวีศักดิ์ งามสง่า กรรมการ ขณะที่กรรมการ 2 เสียง"ระบุว่าผิด" คือ ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ส่วนกรรมการอีก 1 คนออกเสียงว่า"ไม่ผิด" คือ ดร.พีระพงษ์ มานะกิจ คะเนนโหวตครั้งนี้จึงเท่ากับ งดออกเสียง 2, ระบุผิด 2, ระบุไม่ผิด 1 แต่ในการรับรองมติดังกล่าว กลับมีผลออกมาเป็นคะแนนโหวต 3:2 กลายเป็นไม่ผิด 3 และผิด 2 เป็นฝ่ายแพ้ เพราะอ้างว่านับคะแนนจากองค์ประชุม ทั้งที่ในทางปฏิบัติสากล ไม่มีการประชุมที่ไหนใช้เสียงไม่ลงคะแนน ไปนับรวมกับเสียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง จึงเห็นว่ามติกสท.เป็นมติที่ผิดกฎหมาย

 

จากมติกสท.ที่ผิดกฎหมายนี้ จะส่งผลเสียต่อวงการสื่อสารมวลชน และขัดต่อนโยบายการปฎิรูปสื่อ ที่ต้องการกระจายการถือครองสื่อ ให้มีเจ้าของที่หลากหลาย ไม่ให้หลายสื่อเข้าไปเป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้กลุ่มทุนใดกลุ่มทุนหนึ่ง ซึ่งมีหลักเกณฑ์ระบุไว้ชัดเจนในประกาศหลักเกณฑ์การประมูลทีวีดิจิทัล ที่ไม่ให้กลุ่มทุนที่เกี่ยวข้องกัน หรือมีผลประโยชน์ร่วมกัน ถือครองช่องทีวีดิจิทัลประเภทเดียวกัน ถือหุ้นเกิน 10% เพื่อป้องกันปัญหาการครอบงำสื่อ ซึ่งเมื่อมติกสท.ออกมาเช่นนี้ จึงเท่ากับเป็นการเปิดช่อง ให้ต่อไปการครอบงำสื่อจะสามารถทำได้โดยง่าย ซึ่งจะส่งผลเสียตามมามากมาย จากกรณีตัวอย่าง SLC กับเนชั่นฯ อาจนำไปสู่การครอบงำสื่ออื่นตามมา

 

นอกจากนี้ ยังขัดต่อหลักจรรยาบรรณสื่อ ที่ต้องมีความเป็นกลาง นำเสนอข้อมูลข่าวสารด้วยข้อเท็จจริง ปราศจากการครอบงำ หรือชี้นำเพื่อผลประโยชน์ของนายทุน หรือเป็นเหตุให้สังคมเข้าใจผิด สร้างความแตกแยกขึ้นได้ หากสื่อหลายสื่อ โดยเฉพาะสื่อประเภททีวีดิจิทัลช่องข่าว หากบิดเบือนข่าวสารเพื่อผลประโยชน์ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ทั้งในทางการเมืองและทางสังคม ก็นำมาซึ่งความเสียหายแน่นอน

 

สำหรับ กรณีกรรมการกสทช.2 ท่าน คือ ดร.ธวัชชัย จิตรภาษ์นันท์ และนางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ ที่ลงมติว่ากรณี SLC ซื้อหุ้นเนชั่น 12.21% เป็นการกระทำที่ผิด นั้นถือว่าเป็นการตัดสินใจ โดยยึดมั่นในหลักการของข้อกฎหมาย ทั้งตามประกาศการเกณฑ์การประมูลทีวีดิจิทัล และพ.ร.บ..ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ ที่มีข้อห้ามระบุไว้ชัดเจน ในการถือหุ้นไขว้กันในกิจการสื่อประเภทเดียวกัน เกินสัดส่วนที่เหมาะสม เพื่อป้องกันปัญหาครอบงำสื่อ และการปฏิรูปสื่อในภาพรวม ดังนั้น มติของ 2 กรรมการกสทช.ที่ระบุว่าผิด จึงเป็นการยึดหลักการตามข้อกฎหมาย

 

อินโฟเควสท์ โดย ณัฐชญา แตงตาด(อัครยรรยง)/สุดทีวัล สุขใส โทร.02-2535000 ต่อ 360 อีเมล์: sudteewan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iqry/2143709

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 32.47/49 อ่อนค่าหลัง PMI จีนร่วง คาดพรุ่งนี้ 32.45-32.55

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 2558 17:39:56 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้ อยู่ที่ระดับ 32.47/49 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 32.39/40 บาท/ดอลลาร์

 

เงินบาทกลับมาอ่อนค่าในช่วงท้ายตลาด เนื่องจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)ของจีนออกมาไม่ดี โดยลดลงต่ำสุดในรอบ 1 ปี

 

"บาทอ่อนค่าลงในช่วงปิดตลาด หลักๆ เพราะตัวเลข PMI ของจีนออกมาไม่ดี น้อยกว่าที่ตลาดคาดไว้ ทำให้ currency ในเอเชียอ่อนค่า" นักบริหารเงิน ระบุ

 

 

 

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.45-32.55 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.90 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 120.00 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0750 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0700 ดอลลาร์/ยูโร

 

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,544.84 ลดลง 7.17 จุด (-0.46%) โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 49,118 ล้านบาท

 

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 1,878.12 ลบ.(SET+MAI)

- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.3% แตะ 410.23 เมื่อเวลา 8.13 น.ตามเวลาลอนดอน เนื่องจากบริษัทหลายแห่งได้รายงานกำไรรายไตรมาสที่สูงกว่าคาดการณ์

 

- นายกวน เทา ผู้อำนวยการกรมการชำระเงินระหว่างประเทศ สำนักงานปริวรรตเงินตราจีน (SAFE) เปิดเผยว่า ปริมาณเม็ดเงินสกุลต่างประเทศที่ไหลออกนอกประเทศจีนในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ไม่ได้เกินความคาดหมาย และไม่ควรมองว่าเป็นผลลัพธ์จากกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย โดยทิศทางการหมุนเวียนของเงินที่เปลี่ยนแปลงไปนั้น สะท้อนให้เห็นว่า บริษัทในจีนเพิ่มการถือครองสกุลเงินต่างประเทศ และเดินหน้าลดปริมาณหนี้สินของประเทศ

 

ทั้งนี้ SAFE เปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารจีนได้ขายสกุลเงินต่างประเทศในนามของลูกค้าเป็นเงินสุทธิ 3.562 แสนล้านหยวนในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มบันทึกข้อมูลในปี 2553

 

- เอชเอสบีซี โฮลดิงส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือน เม.ย.ลดลงแตะ 49.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 12 เดือน จาก 49.6 ในเดือน มี.ค. ขณะที่บริษัทในภาคการผลิตมีการจ้างงานลดลงเป็นเดือนที่ 18 ติดต่อกัน

 

- คณะกรรมาธิการการเงินของวุฒิสภาสหรัฐ ได้อนุมัติร่างกฎหมายการค้าแบบ fast-track ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่จะผลักดันนโยบายด้านการค้าของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ด้วยคะแนนเสียง 20 ต่อ 6 ก่อนที่จะเสนอให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป

 

ทั้งนี้ ร่างกฎหมายแบบ fast-track ซึ่งรู้จักกันอย่างเป็นทางการว่า "อำนาจในการส่งเสริมด้านการค้า"(TPA) นั้น จะให้อำนาจแก่ประธานาธิบดีในการเจรจาข้อตกลงทางการค้า และหลังจากนั้นประธานาธิบดีก็จะเสนอข้อตกลงดังกล่าวต่อสภาคองเกรสเพื่อลงมติ โดยไม่อนุญาตให้มีการแก้ไขใดๆ

 

- ผลสำรวจมาร์กิต อิโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนเม.ย.ปรับลงแตะ 53.5 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จาก 54.0 ในเดือนมี.ค.

 

การเติบโตของกิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนอ่อนแรงลงจากระดับสูงสุดในรอบ 11 เดือนที่ทำไว้เมื่อเดือนมี.ค. ภาวะชะลอตัวดังกล่าวสะท้อนถึงอัตราการขยายตัวที่ลดต่ำลงในเยอรมนีและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในยูโรโซน แม้ว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาคมีการเติบโตในอัตราสูงสุดนับแต่เดือนส.ค.50

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงร่วงลง 101 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 10,999 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,191.33 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 10.94 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

 

- สำนักงานสถิติอังกฤษ (ONS) รายงานว่ายอดค้าปลีกของอังกฤษ ซึ่งนับรวมยอดขายเชื้อเพลิงปรับตัวลดลง 0.5% ในเดือนมี.ค.จากระดับเดือนก่อนหน้า ขณะที่เศรษฐกิจปรับตัวอย่างไร้ทิศทาง ก่อนที่การเลือกตั้งของอังกฤษจะเปิดฉากในวันที่ 7 พ.ค.

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2143862

 

นายกฯญี่ปุ่นเตรียมเยือนสหรัฐพบโอบามา พร้อมแถลงคองเกรสครั้งแรกรอบ 50 ปี

 

 

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 2558 18:43:06 น.

นายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้เดินทางกลับถึงประเทศแล้ว หลังเข้าร่วมการประชุมสุดยอดเอเชีย-แอฟริกาที่กรุงจาการ์ตา ขณะเตรียมเดินทางเยือนสหรัฐในวันอาทิตย์นี้

 

ในระหว่างการประชุมที่กรุงจาการ์ตา นายอาเบะได้ร่วมการเจรจาทวิภาคีกับผู้นำหลายชาติ ซึ่งรวมถึงประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน

 

นายอาเบะยังระบุว่า ญี่ปุ่นจะให้ความช่วยเหลือในการฝึกอบรมประชาชนในเอเชียและแอฟริกาจำนวน 350,000 คนในช่วง 5 ปีข้างหน้า ในความพยายามที่จะสร้างการขยายตัวที่มีคุณภาพ และขจัดความยากจนในทั้ง 2 ทวีป

 

 

 

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นจะฝึกอบรมชาวเอเชียและแอฟริกาให้มีความเชี่ยวชาญในด้านเทคโนโลยี และมีความรู้ด้านอุตสาหกรรม

 

นอกจากนี้ ญี่ปุ่นจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดร่วมกับ 5 ประเทศตามลุ่มน้ำโขง ซึ่งได้แก่ ไทย กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม ในเดือนก.ค. โดยประเทศทั้ง 5 จะเสนอแผนต่อญี่ปุ่นในการสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนในภูมิภาคหลังปี 2558

 

นายอาเบะมีกำหนดเดินทางเยือนสหรัฐในวันที่ 26 เม.ย.ถึง 3 พ.ค. และจะพบปะกับประธานาธิบดีบารัค โอบามาในวันที่ 28 เม.ย. ซึ่งคาดว่าผู้นำทั้ง 2 จะหารือกันเกี่ยวกับข้อตกลงหุ้นส่วนการค้าภูมิภาคแปซิฟิก (TPP) โดยอาจมีการบรรลุข้อตกลงในการประชุมดังกล่าว

 

ขณะเดียวกัน นายอาเบะมีกำหนดกล่าวสุนทรพจน์ต่อสภาคองเกรสสหรัฐ ซึ่งจะถือเป็นครั้งแรกสำหรับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในรอบกว่า 50 ปี

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2143890

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี เพื่อน พี่น้อง น้อย ตังเม อยากเล่นด้วยคน Google Goldleng wannn deb .... ... ...

วันศุกร๋แว้วว โชคดี มีกำไรนะคะ

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 24 เมษายน 2558 07:39:37 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 23 เม.ย.2558

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรในช่วงท้าย อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อย เพราะได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากผลประกอบการที่ผันผวนของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,058.69 จุด เพิ่มขึ้น 20.42 จุด หรือ +0.11% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,056.06 จุด เพิ่มขึ้น 20.89 จุด หรือ +0.41% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,112.93 จุด เพิ่มขึ้น 4.97 จุด หรือ +0.24%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของยูโรโซน

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 407.18 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,178.91 จุด ลดลง 32.18 จุด หรือ -0.62% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,723.58 จุด ร่วงลง 143.79 จุด หรือ -1.21% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,053.67 จุด เพิ่มขึ้น 25.43 จุด หรือ +0.36%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) จากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางการจีน หลังมีการเปิดเผยข้อมูลการผลิตที่หดตัว

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 25.43 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 7,053.67 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเริ่มกลับมาปะทุอีกครั้ง หลังจากมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียและกองกำลังพันธมิตรได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศรอบใหม่ต่อกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.74 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 2.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.85 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงภาคการผลิตและตลาดแรงงานนั้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 7.4 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ระดับ 1,194.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 3.3 เซนต์ ปิดที่ 15.829 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,136.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 14 ดอลลาร์ ปิดที่ 769.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐในเดือนมี.ค.ที่ร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0825 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0742 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5057 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5045 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.49 เยน เทียบกับระดับ 119.87 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9547 ฟรังก์ จาก 0.9696 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7777 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7772 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,058.69 จุด เพิ่มขึ้น 20.42 จุด +0.11%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,056.06 จุด เพิ่มขึ้น 20.89 จุด +0.41%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,112.93 จุด เพิ่มขึ้น 4.97 จุด +0.24%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,053.67 จุด เพิ่มขึ้น 25.43 จุด +0.36%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,723.58 จุด ลดลง 143.79 จุด -1.21%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,178.91 จุด ลดลง 32.18 จุด -0.62%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,797.49 จุด เพิ่มขึ้น 184.49 จุด +1.92%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 20,187.65 จุด เพิ่มขึ้น 53.75 จุด +0.27%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,173.41 จุด เพิ่มขึ้น 29.52 จุด +1.38%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,820.30 จุด เพิ่มขึ้น 7.50 จุด +0.13%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,844.80 จุด เพิ่มขึ้น 7.30 จุด +0.13%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 4,414.51 จุด เพิ่มขึ้น 16.01 จุด +0.36%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,892.05 จุด เพิ่มขึ้น 59.02 จุด +0.75%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,827.70 จุด ลดลง 106.15 จุด -0.38%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,436.21 จุด ลดลง 0.91 จุด -0.02%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,846.08 จุด ลดลง 8.69 จุด -0.47%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,502.75 จุด เพิ่มขึ้น 6.51 จุด +0.19%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,735.02 จุด ลดลง 155.11 จุด -0.56%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2143948

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $7.4 เหตุดอลล์อ่อน,ข้อมูลศก.สหรัฐซบเซา

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 24 เมษายน 2558 07:23:55 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) เนื่องจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงภาคการผลิตและตลาดแรงงานนั้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 7.4 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ระดับ 1,194.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 3.3 เซนต์ ปิดที่ 15.829 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,136.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 14 ดอลลาร์ ปิดที่ 769.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 18 เม.ย. เพิ่มขึ้น 1,000 ราย สู่ระดับ 295,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 290,000 ราย

 

ขณะที่มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 54.2 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 55.7 ในเดือนมี.ค. ด้านนักวิเคราะห์คาดว่าอยู่ที่ระดับ 55.5

 

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่งในเดือนมี.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2143945

 

เงินบาทเปิด 32.41/43 คาดกรอบวันนี้ 32.35-32.50

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 24 เมษายน 2558 09:24:43 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 32.41/43 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.47/49 บาท/ดอลลาร์

 

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด เงินบาทอ่อนค่ามาอยู่ที่ 32.44/46 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากยังมีแรงซื้อดอลลาร์เข้ามา แต่ทิศทางภาพรวมค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลงหลังจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดหลายตัวออกมาไม่ค่อยดี ทั้งยอดขายบ้านใหม่เดือน มี.ค., ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) รวมทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานประจำสัปดาห์ที่พุ่งขึ้น

 

 

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.35-32.50 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 119.49/51 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ 119.90 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 1.0813/0815 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ 1.0750 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.4140 บาท/ดอลลาร์

 

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวอ่อนลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆ เมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) จากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐในเดือนมี.ค.ที่ร่วงลงหนักสุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่ง

 

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ รายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ในเดือนมี.ค.ดิ่งลง 11.4% สู่ระดับ 481,000 ยูนิต ซึ่งเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.56 จากระดับ 543,000 ยูนิตในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.51 ซึ่งการที่ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่งนี้ บ่งชี้ถึงการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ

 

- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 54.2 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 55.7 ในเดือนมี.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าอยู่ที่ระดับ 55.5 ภาคการผลิตของสหรัฐมีการขยายตัวต่ำกว่าคาดในเดือนเม.ย. โดยกิจกรรมภาคโรงงานชะลอตัวมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.

 

- กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 18 เม.ย. เพิ่มขึ้น 1,000 ราย สู่ระดับ 295,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 290,000 ราย

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวขึ้น 51 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,050 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,196.85 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 5.52 ดอลลาร์ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

 

- สำนักงานสถิติแห่งชาติยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า รัฐบาลยูโรโซนมีอัตราส่วนการขาดดุลงบประมาณต่อตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 4 อยู่ที่ 2.4% เพิ่มขึ้นจากระดับ 2.2% ในไตรมาส 3 ขณะที่รัฐบาลของ 28 ชาติสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) มีอัตราส่วนการขาดดุลงบประมาณต่อตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 4 อยู่ที่ 2.6% ลดลงจากระดับ 2.8% ในไตรมาส 3

 

ทั้งนี้ ตามกฎหมายของยุโรปนั้น รัฐบาลยูโรโซนจะต้องมียอดขาดดุลงบประมาณต่ำกว่า 3% ของจีดีพี และตัวเลขหนี้สาธารณะจะต้องต่ำกว่า 60% ของจีดีพี

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2144145

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $1.58 หลังซาอุฯโจมตีเยเมนรอบใหม่

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 24 เมษายน 2558 07:08:01 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเริ่มกลับมาปะทุอีกครั้ง หลังจากมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียและกองกำลังพันธมิตรได้เปิดฉากโจมตีทางอากาศรอบใหม่ต่อกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.74 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 2.12 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.85 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากมีรายงานว่าเครื่องบินรบของซาอุดิอาระเบีย และชาติพันธมิตรยังคงเดินหน้าทิ้งระเบิดโจมตีกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน แม้ทางการซาอุดิอาระเบียประกาศก่อนหน้านี้ว่าจะยุติการโจมตีทางอากาศในเยเมน

 

นอกจากนี้ ยังเกิดการสู้รบในภาคพื้นดินระหว่างกลุ่มกบฏและกองกำลังที่ยังคงจงรักภักดีต่ออดีตประธานาธิบดีของเยเมนที่ขณะนี้ได้ลี้ภัยไปยังซาอุดิอาระเบีย

 

เหตุการณ์ดังกล่าวบ่งชี้ถึงความยากลำบากในการหาทางออกทางการเมืองในการแก้ไขวิกฤตการณ์ในเยเมน ซึ่งสร้างความขัดแย้งระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน

 

ทั้งนี้ เยเมนเป็นประเทศที่มีพรมแดนติดกับซาอุดิอาระเบีย ซึ่งความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งในเยเมนถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น

 

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 18 เม.ย. เพิ่มขึ้น 1,000 ราย สู่ระดับ 295,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 290,000 ราย

 

ส่วนยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่งในเดือนมี.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2143943

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์ตามตลาด ตปท.แนะเกาะติดเก็งงบฯ บจ.Q1/58

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 24 เมษายน 2558 09:29:14 น.

นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนายการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้า

 

นี้คาดว่าจะรีบาวน์ได้ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นมา โดยได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่วานนี้อยู่ในแดนบวก แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าการปรับตัวขึ้นมาวันนี้คงไม่มากนัก เนื่องจากขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยหนุน

 

ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามหลังจากนี้ คือการเข้ามาเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 1/58 ที่จะทยอยออกมา พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,540-1,555 จุด

 

 

 

อินโฟเควสท์ โดย สมบูรณ์เกียรติ พานิชเจริญ/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2144289

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.1241 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 24 เมษายน 2558 08:39:20 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.40% แตะที่ 6.1241 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2144121

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...