ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

โอบามา เตรียมถอนคิวบาจากรายชื่อประเทศสนับสนุนก่อการร้าย

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 เมษายน 2558 13:58:52 น.

ประธานาธิบดี บารัค โอบามา ของสหรัฐ แจ้งต่อสภาคองเกรสถึงความตั้งใจที่จะถอดถอนคิวบาออกจากรายชื่อประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้าย ซึ่งเป็นอุปสรรคขัดขวางการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตลอดระยะเวลาหลายทศวรรษที่ผ่านมา

 

 

 

ทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ผู้นำสหรัฐได้กล่าวกับนายราอูล คาสโตร ประธานาธิบดีของคิวบา เกี่ยวกับแผนการที่คณะบริหารของปธน.โอบามาจะนำคิวบาออกจากรายชื่อประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้าย ในระหว่างที่ผู้นำทั้งสองพบปะหารือกันนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำทวีปอเมริกาในประเทศปานามาเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการพบกันครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างผู้นำคิวบาและสหรัฐ โดยเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี

 

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของสหรัฐมีขึ้นหลังจากที่ปธน.โอบามาประกาศเมื่อเดือนธ.ค.เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายครั้งใหญ่ต่อคิวบา ด้วยการเปิดการเจรจาเพื่อปูทางสู่การฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต ซึ่งย่ำแย่ลงหลังจากการปฏิวัติในคิวบาเมื่อปี 2502

 

คิวบาขึ้นบัญชีดำในปี 2525 โดยรัฐบาลสหรัฐระบุว่า รัฐบาลคิวบาสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธแบ่งแยกดินแดนแคว้นบาสก์ในสเปน และกองกำลังฝ่ายซ้ายในโคลัมเบีย

 

ทำเนียบขาวเผยว่า ปธน.โอบามารับรองว่าคิวบาไม่ได้ให้การสนับสนุนการก่อการร้ายในต่างประเทศในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา และคิวบาได้สร้างความมั่นใจว่าจะไม่สนับสนุนการก่อการร้ายในอนาคต

 

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีสหรัฐจะต้องยื่นรายงานต่อสภาคองเกรส ซึ่งจะมีเวลา 45 วันในการพิจารณาตัดสินใจ โดยเป็นที่คาดกันว่า สมาชิกสถานิติบัญญัติของสหรัฐไม่น่าจะขัดขวางการถอนคิวบาออกจากรายชื่อดังกล่าว

 

สำหรับประเทศที่ยังคงอยู่ในรายชื่อประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ได้แก่ อิหร่าน ซูดาน และซีเรีย

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2137647

 

จีนประกาศแล้ว AIIB มีสมาชิกร่วมก่อตั้งรวม 57 ประเทศ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 15 เมษายน 2558 15:07:00 น.

กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า ธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) ซึ่งมีจีนเป็นผู้นำนั้น จะมีสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้งรวมทั้งสิ้น 57 ประเทศ

 

 

 

สำหรับประเทศที่เพิ่งได้รับการอนุมัติให้เข้าร่วมเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งเป็นชุดสุดท้ายประกอบไปด้วย 7 ประเทศ ได้แก่ สวีเดน อิสราเอล แอฟริกาใต้ อาเซอร์ไบจาน ไอซ์แลนด์ โปรตุเกส และโปแลนด์ นอกจากนี้ รายชื่อประเทศสมาชิกของ AIIB ยังรวมถึงฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ซึ่งต่างมีข้อพิพาทกับจีนในเรื่องพรมแดน

 

ส่วนสหรัฐ และญี่ปุ่น ไม่มีชื่อเป็นสมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง เนื่องจากทั้งสองประเทศปฏิเสธที่จะสมัครเข้าเป็นสมาชิก ขณะที่เกาหลีเหนือ และไต้หวัน ถูกปฏิเสธการสมัคร เนื่องจากความไม่เห็นพ้องกันเกี่ยวกับชื่อประเทศที่ควรจะใช้ในการสมัคร

 

ทั้งนี้ ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว จีนและอีก 20 ประเทศ ซึ่งรวมถึงกัมพูชา อินเดีย ลาว และไทย ได้ตัดสินใจอย่างเป็นทางการเรื่องการเปิดตัวธนาคารแห่งใหม่ โดย AIIB จะให้เงินทุนสนับสนุนสำหรับโครงการก่อสร้างถนน ทางรถไฟ สายการบิน และโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆในเอเชีย และคาดว่าจะมีการจัดตั้งอย่างเป็นทางการภายในสิ้นปีนี้

 

ตามกรอบแผนการดำเนินงานเบื้องต้นนั้น AIIB จะมีเงินทุนพื้นฐานตั้งต้นอยู่ที่ 5 หมื่นล้านดอลลาร์ และจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 1 แสนล้านดอลลาร์ในระยะถัดไป โดยทางการจีนจะเป็นผู้ออกเงินก้อนแรกให้ถึง 50% ของเงินทุนตั้งต้น จากนั้นจะรวบรวมเงินส่วนที่เหลือจากชาติสมาชิกตามสัดส่วนของขนาดเศรษฐกิจ (GDP) ของแต่ละประเทศ สมาชิกผู้ร่วมก่อตั้ง AIIB มีสิทธิในการช่วยกำหนดกฎระเบียบของธนาคาร ขณะที่ประเทศที่สมัครเป็นสมาชิกหลังวันที่ 31 มี.ค.จะได้รับการพิจารณาให้เป็นสมาชิกทั่วไป ซึ่งจะมีสิทธิออกเสียง แต่ไม่มีสิทธิในกระบวนการวางกฎระเบียบ

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2137669

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Hi

สวัสดีครับคุณ.. Ginger deb99 เต้าหู้ ปุยเมฆ ฯ และทุกท่านครับ

หายไปนานเลยครับเพราะภาระงานที่ทำมากขึ้นกว่าเดิมเยอะ วันนี้วันหยุดพอมีเวลามาส่องเดากราฟกันครับ

 

กราฟรายวันตอนนี้เป็นแดงแท่งสองครับ

:_10

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1183 ราคาสูงสุด1201

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1191

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทาง sideway down ครับ :_cd

RSI Price Line เส้นเขียว 48.12 ครับ

Trade Signal Line เส้นแดง 52.30 ครับ

market base Line เส้นเหลือง 43.38 ครับ

เส้นแดงทิศทางลงครับ :_cd

 

สัญญานรองQQE ทิศทาง sideway

เส้นฟ้า 50.35 ครับ

เส้นประเหลือง 48.62 ครับอยู่ต่ำว่าเส้นฟ้าครับ

(เส้นเหลืองถ้าคงที่นานๆ จะแสดง side way หรือกลับตัวและ

ถ้าทิศทางลงจะเด้งไปอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าทันทีถ้าขึ้นจะลงมาต่ำกว่าเส้นฟ้าทันที)

แนวต้าน 1202 1212 1224

แนวรับ 1181 1171 1166

 

 

 

 

 

 

 

ขอให้โชคดีครับ

 

 

บาย :bye

post-1891-0-91547000-1429098384_thumb.png

ถูกแก้ไข โดย news

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีปีใหม่ไทย

สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ

:031 :031 :031

 

5f97277addbe03bcb2581ba9f25cfa16_1206678104.gif

 

มีสุข อยู่ดี เย็นใจ เจริญรุ่งเรือง โชคดี มีกำไร .... นะคะ

wann news เพื่อนๆ พี่น้อง.. ... ... ...

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์อ่อนค่า หนุนทองคำปิดบวก 8.7 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2558 07:26:17 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อันเป็นผลมาจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 8.7 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ 1,201.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 11.8 เซนต์ ปิดที่ 16.279 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 2.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,156.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 4.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 767.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานเมื่อคืนนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค.ลดลง 0.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ. ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ปรับลง 1.0% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการลดลงรายไตรมาสครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ปี 2552

 

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้เผชิญปัจจัยลบ เนื่องจากกิจกรรมภาคการผลิตในเขตนิวยอร์กอ่อนแรงลงในเดือนเม.ย. โดยเฟดสาขานิวยอร์กเปิดผยว่าดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนเม.ย.ลดลงแตะ -1.19 จากระดับ 6.90 ในเดือนมี.ค.

 

ทั้งนี้ การอ่อนค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาถูกลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2137818

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ปรับลง หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐอ่อนแรง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2558 07:18:54 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) หลังข้อมูลเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ออกมาในเชิงลบ

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0682 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0658 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.4845 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4781 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.91 เยน เทียบกับระดับ 119.39 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9642 ฟรังก์ จาก 0.9728 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7681 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7630 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดัน หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานเมื่อคืนนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค.ลดลง 0.6% หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนก.พ. ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ ปรับลง 1.0% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการลดลงรายไตรมาสครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ปี 2552

 

ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ยังได้เผชิญปัจจัยลบ เนื่องจากกิจกรรมภาคการผลิตในเขตนิวยอร์กอ่อนแรงลงในเดือนเม.ย. โดยเฟดสาขานิวยอร์กเปิดผยว่าดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนเม.ย.ลดลงแตะ -1.19 จากระดับ 6.90 ในเดือนมี.ค.

 

ดัชนีที่เป็นบวกแสดงถึงภาวะการขยายตัว และดัชนีที่ต่ำกว่า 0 บ่งชี้ว่าภาคธุรกิจอยู่ในภาวะหดตัว

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2137811

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

+_______+

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 75.91 จุด รับผลประกอบการเอกชนสดใส

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2558 06:24:08 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบและผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน ซึ่งปัจจัยบวกดังกล่าวช่วยหนุนดัชนี NASDAQ ทะยานขึ้นเหนือระดับ 5,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.ปีนี้

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,112.61 จุด เพิ่มขึ้น 75.91 จุด หรือ +0.42% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,011.02 จุด เพิ่มขึ้น 33.73 จุด หรือ +0.68% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,106.63 จุด เพิ่มขึ้น 10.79 จุด หรือ +0.51%

 

 

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทเอกชน รวมถึงบริษัทอินเทล คอร์ป ที่เปิดเผยรายได้ไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 1.28 หมื่นล้านดอลลาร์ และรายได้สุทธิ 2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ และช่วยหนุนราคาหุ้นอินเทลปิดพุ่งขึ้น 4.26%

 

หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ส ทะยานขึ้น 2.60% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ก่อนหักภาษีในไตรมาสแรกปีนี้ อยู่ที่ 594 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวของปีที่แล้วที่ระดับ 150 ล้านดอลลาร์

 

อย่างไรก็ตาม หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ดิ่งลง 1.14% หลังจากธนาคารเปิดเผยรายได้สุทธิไตรมาสแรกอยู่ที่ 3.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

 

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 20,000 บาร์เรล แตะที่ 9.384 ล้านบาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ หุ้นทรานส์โอเชียน และหุ้นโนเบิล คอร์ป ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 7.2% ส่วนหุ้นเซาท์เวสเทิร์น เอนเนอร์จี และหุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 4.4%

 

หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปรับขึ้น 1.9% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรสุทธิไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นแตะ 5.914 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.45 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าการคาดการณ์ของตลาดที่ 1.40 ดอลลาร์ต่อหุ้น

 

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้าน-การอนุญาตก่อสร้างเดือนมี.ค. และผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจเดือนเม.ย.เฟดฟิลาเดลเฟีย

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2137807

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $3.1 หลังการผลิตน้ำมันดิบสหรัฐลดลง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2558 07:02:40 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานที่สูงเกินไป

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 3.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1.89 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.32 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น หลังจาก EIA รายงานว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 20,000 บาร์เรล แตะที่ 9.384 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่แล้ว

 

ส่วนสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 เม.ย. เพิ่มขึ้นเพียง 1.3 ล้านบาร์เรล แตะที่ 483.7 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

 

ขณะเดียวกันมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐปรับตัวลดลง 40 แท่น มาอยู่ที่ 988 แท่นในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 เม.ย. ด้านนักวิเคราะห์คาดว่า ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำได้กดดันให้บริษัทผู้ผลิตน้ำมันของสหรัฐต้องปรับลดกำลังการผลิตลง

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2558 จะขยายตัวมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากอุณหภูมิที่ลดลง และการปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจโลก

 

ทั้งนี้ IEA ได้ปรับทบทวนคาดการณ์การขยายตัวของความต้องการน้ำมันในปี 2558 เพิ่มขึ้น 90,000 บาร์เรล/วัน เป็น 93.6 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งสูงกว่าปี 2557 อยู่ 1.1 ล้านบาร์เรล/วัน เนื่องจากประเทศส่วนใหญ่ในองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) จะมีความต้องการพลังงานมากขึ้น เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงให้ความอบอุ่นท่ามกลางสภาพอากาศที่คาดว่าจะหนาวเย็นขึ้น

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2137810

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

11064284_10153289200622450_2652421088629126290_n.jpg?oh=af4493823b70d07e1dd889091efa5454&oe=5598D9B4&__gda__=1437276048_fc6ce716f7fe0117fd5e2d26ed554cab

 

21694_10153289200547450_2469046984712267558_n.jpg?oh=d91f428f039440520279b45a0b21de89&oe=55A50485

 

10339674_10153289200627450_7316305168177472366_n.jpg?oh=8c8bdfa6a4af61222d4875c15c03305e&oe=55A89DDE

 

13777_10153289200557450_876049395152383979_n.jpg?oh=a9949b0aca278f34717c034b5b826cac&oe=55996B70&__gda__=1436476045_43a06b5933f8348202f4e26294173aae

หอบข้าว ของจากบ้าน กำลังใจ กลับมาทำงานกัน

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2558 07:41:39 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 เม.ย.2558

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบและผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน ซึ่งปัจจัยบวกดังกล่าวช่วยหนุนดัชนี NASDAQ ทะยานขึ้นเหนือระดับ 5,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.ปีนี้

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,112.61 จุด เพิ่มขึ้น 75.91 จุด หรือ +0.42% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,011.02 จุด เพิ่มขึ้น 33.73 จุด หรือ +0.68% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,106.63 จุด เพิ่มขึ้น 10.79 จุด หรือ +0.51%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) หลังจากนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยืนยันว่า ECB จะเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ต่อไป จนกว่าเงินเฟ้อของยูโรโซนจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืน

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.6% ปิดที่ 414.06 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,254.35 จุด เพิ่มขึ้น 36.29 จุด หรือ +0.70% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,231.34 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด หรือ +0.03% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,096.78 จุด เพิ่มขึ้น 21.52 จุด หรือ +0.30%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงนโยบายกระตุ้นทางการเงินในการประชุมเมื่อวานนี้ ขณะเดียวกัน ตลาดได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น เนื่องจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2558 จะขยายตัวมากกว่าที่คาด

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 21.52 จุด หรือ 0.30% ปิดที่ 7,096.78 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานที่สูงเกินไป

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.พุ่งขึ้น 3.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1.89 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.32 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อันเป็นผลมาจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 8.7 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ 1,201.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 11.8 เซนต์ ปิดที่ 16.279 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 2.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,156.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 4.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 767.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (15 เม.ย.) หลังข้อมูลเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ออกมาในเชิงลบ

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0682 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0658 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.4845 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4781 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.91 เยน เทียบกับระดับ 119.39 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9642 ฟรังก์ จาก 0.9728 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7681 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7630 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,112.61 จุด เพิ่มขึ้น 75.91 จุด +0.42%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,011.02 จุด เพิ่มขึ้น 33.73 จุด +0.68%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,106.63 จุด เพิ่มขึ้น 10.79 จุด +0.51%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,096.78 จุด เพิ่มขึ้น 21.52 จุด +0.30%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,231.34 จุด เพิ่มขึ้น 3.74 จุด +0.03%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,254.35 จุด เพิ่มขึ้น 36.29 จุด +0.70%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9540.06 จุด ลดลง 102.16 จุด -1.06%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,869.76 จุด ลดลง 38.92 จุด -0.20%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,119.96 จุด เพิ่มขึ้น 8.24 จุด +0.39%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,877.30 จุด ลดลง 38.90 จุด -0.66%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,908.40 จุด ลดลง 38.20 จุด -0.64%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 4,084.16 จุด ลดลง 51.40 จุด -1.24%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,906.46 จุด ลดลง 150.03 จุด -1.86%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,618.82 จุด เพิ่มขึ้น 57.33 จุด +0.21%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,414.55 จุด ลดลง 4.56 จุด -0.08%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,539.95 จุด เพิ่มขึ้น 18.87 จุด +0.54%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,840.13 จุด เพิ่มขึ้น 0.52 จุด +0.03%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,799.69 จุด ลดลง 244.75 จุด -0.84%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2137823

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 32.40/42 แนวโน้มแข็งค่าตามภูมิภาค มีลุ้นแตะ 32.00

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2558 09:10:13 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.40/42 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 32.54/56 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามภูมิภาคเนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์ออกมาทั่วโลก

 

"ปรับตัวแข็งค่าลงมาแรงมาก หลังมีแรงเทขายดอลลาร์" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินเงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.38-32.48 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

"เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่า หากหลุดแนวรับ 32.30(บาท/ดอลลาร์)มาได้ภายใน 1-2 วันอาจได้เห็นลงไปแตะ 32.00(บาท/ดอลลาร์)" นักบริหารเงิน กล่าว

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 118.85 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 120.26 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0725 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0616 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารอยู่ที่ 32.5510 บาท/ดอลลาร์

 

- ภาคธุรกิจประเมินผลงานรัฐบาลรอบ 6 เดือน "สอบผ่าน" ระบุโดดเด่นด้านความมั่นคง-ท่องเที่ยว ขณะด้านเศรษฐกิจภาพรวมยังมีปัญหา เหตุปัญหาหลักจากเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้น แนะใช้มาตรการ 44 มาใช้แก้เศรษฐกิจ ขณะโฆษกรัฐบาลพอใจผลงานดูแลความสงบเรียบร้อย รับเศรษฐกิจมีปัญหา คาดไตรมาส 3 ฟื้นตัว

 

- ธนาคารเอชเอสบีซี เปิดเผยว่า มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณ (คิวอี) ของญี่ปุ่น ที่ขยายวงเงินขึ้นเป็น 80 ล้านล้านเยน/ปี ส่งผลให้มีเงินกู้จากธนาคารญี่ปุ่นไหลเข้าสู่ 5 ประเทศกลุ่มอาเซียน สูงสุดทุบสถิติเป็นประวัติการณ์ในปี 2556-2557 ที่ผ่านมา โดยอยู่ที่ประมาณ 2 แสนล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิมที่ราว 4 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 10 ปีก่อน

 

- รัฐบาลดึงแบงก์รัฐ ร่วมแก้ปัญหาอัดฉีดสินเชื่อ เพิ่มเข้าสู่ระบบกว่า 3.7 แสนล้าน พร้อม "ยืดหนี้-ลดดอกเบี้ยกู้" มุ่งสู่การช่วยเหลือระดับรากหญ้า ระบุกำลังซื้อสำคัญในระบบเศรษฐกิจ การชะลอตัวของเศรษฐกิจ เป็นปัญหาใหญ่ของรัฐบาลที่ต้องเร่งแก้ไข

 

- "สคร." เผยความคืบหน้าแผนฟื้นฟูกิจการ 7 รัฐวิสาหกิจ "การบินไทย" คืบหน้ามากสุด เตรียมทำ 7 เคพีไอวัดผลงาน ชี้ปัญหา "ไอซีเอโอ" ไม่กระทบ ยอมรับเป็นห่วง "รฟท.- ขสมก." แผนงานล่าช้า เตรียมพร้อมใส่เงินเพิ่มทุน 2 แบงก์รัฐ ขณะที่ไอแบงก์ได้แค่ 2.5 พันล้าน จากที่ยื่นขอไป 1.6 หมื่นล้านบาท

 

- 'ประจิน จั่นตอง' เปิดใจ 6 เดือนหลังรับตำแหน่ง ยอมรับหลายโครงการยังไม่คืบหน้าเท่าที่ควร พร้อมปรับโครงสร้างการทำงานใหม่ ลั่นดันสุดตัวให้เสร็จภายในรัฐบาลนี้ เผยหากปล่อยไปถึงรัฐบาลหน้าอาจต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่

 

- คลังสั่งสรรพากรร่างแบบฟอร์มขึ้นทะเบียนผู้มีรายได้ทุกอาชีพภายในสิ้นปีงบประมาณ'58 เพื่อช่วยให้รัฐบาลวางแผนแก้ปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านได้ตรงจุด “วิสุทธ์”ย้ำไม่ใช่การขยายฐานภาษี พร้อมชงรัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยกองทุนหมู่บ้าน 2% ลดภาระสมาชิกกู้ต่อ

 

- ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลง 0.6% ในเดือน มี.ค.หลังจากเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือน ก.พ. ส่งผลให้ไตรมาสแรกของปี 2558 การผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง 1% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการลดลงรายไตรมาสครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2 ปี 2552 เป็นผลมาจากการขุดเจาะน้ำมันและก๊าซ รวมถึงการผลิตภาคบริการที่ร่วงลงมากกว่า 60% เมื่อเทียบรายปี และจากการผลิตภาคการผลิตที่ลดลง 1.2% ส่วนผลผลิตภาคการผลิตซึ่งเป็นสัดส่วนมากที่สุดของการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น ขณะที่การผลิตด้านเหมืองแร่และด้านสาธารณูปโภคอ่อนแรงลง

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานพลังงานที่สูงเกินไป โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.พุ่งขึ้น 3.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 56.39 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 1.89 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.32 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ อันเป็นผลมาจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน มิ.ย.เพิ่มขึ้น 8.7 ดอลลาร์ หรือ 0.73% ปิดที่ 1,201.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 11.8 เซนต์ ปิดที่ 16.279 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือน ก.ค.พุ่งขึ้น 2.9 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,156.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย.พุ่งขึ้น 4.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 767.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ หลังข้อมูลเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ออกมาในเชิงลบ โดยค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0682 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0658 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.4845 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4781 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.91 เยน เทียบกับระดับ 119.39 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9642 ฟรังก์ จาก 0.9728 ฟรังก์ นอกจากนี้ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7681 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7630 ดอลลาร์

 

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2138011

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปัจจัยระยะกลางเริ่มส่งผลบวกต่อทอง ทั้งในเชิงเทคนิคของทองเอง ,เชิงเทคนิคของค่าเงินดอลล์และปัจจัยตัวเลขที่ทำให้ความกังวลเกี่ยบกับช่วงเวลาการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐอาจช้ากว่าช่วงต้นไตรมาสสาม และอาจขึ้นได้ไม่เกิน สองครั้งในปีนี้

ตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอต่อเนื่องในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเป็นปัจจัยสำคัญที่การคาดการณ์เกี่ยวกับการขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐจะช้าลงความเป็นไปได้ที่จะปรับขึ้นในการประชุมเฟดเดือนมิถุนายนมีน้อยลงไป หลังตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญดีขึ้นเป็นส่วนน้อย แย่เป็นส่วนใหญ่ ส่งผลต่อทิศทางค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐที่เริ่มมีสัญญาณขายที่ชัดเจนขึ้นโดยเฉพาะถ้าย่อตัวลงต่ำกว่าบริเวณ 97.20 - 97.70 และ 96.30

ตลาดหุ้นโดยรวมกลับมาเป็นบวกทั้งราคาน้ำมันที่หนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน,ดอกเบี้ยสหรัฐน่าจะขึ้นช้ากว่าที่เคยกังวลและคิวอียุโรปที่เริ่มหนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นอยู่ใกล้ระดับนิวไฮ รวมถึงปัจจัยลบต่างๆ เริ่มเงียบไป

--------------------------------------------------------------------------

แนวโน้มราคาทองอยู่ในช่วงไซด์เวย์อย่างมีนัยยะสำคัญ อาจฟอร์มตัวเพื่อรอเลือกทาง การเบรกกรอบจะวิ่งในระดับ 30 - 70 เหรียญ

เมื่อพิจารณาจากเมฆที่มีฐานสำคัญที่ 1180 - 1185 และเริ่มเข้าไปในเมฆได้ เป็นสัญญาณบวกที่บวกเพิ่มขึ้นโดยจะมีจุดแนวต้านที่บริเวณ 1220 1225 เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ

เมื่อพิจารณาจากปัจจัยแวดล้อมราคาทองจะยกตัวขึ้นในช่วง 1 เดือนนี้แค่รอจังหวะ

สำหรับภาพรวมของสัปดาห์นี้และอาจถึงสัปดาห์หน้า

1. การปรับตัวผ่านแนวต้าน 1220 - 1225 จะทำให้ภาพรวมเป็นบวกมากขึ้น

2. การย่อตัวลงจากบริเวณแนวต้าน 1212 1218 จะยังเกิดขึ้นได้แต่ถ้าย่อไม่ลึก(ไม่ต่ำกว่า 1195 - 1200) จะมีโอกาสปรับตัวทดสอบแนวต้าน 1220 - 1225 และอาจจะผ่านไปได้

3. ในกรณีที่หมดปัจจัยการปรับตัวลงต่ำกว่า 1180 1185 จะทำให้ทองร่วงมาตั้งหลักที่ 1140 1150 อีกครั้ง ในขณะที่ถ้าเลือกทางขึ้นจะมีเป้าหลักที่ 1250 1270 เมื่อมาถึงแถวนี้น่าขายมากกว่าน่าถือเพราะประเด็นเรื่องดอกเบี้ยจะตามมากดดันอีกครั้ง

การแอ็กชั่นในช่วงนี้คงต้องยังเทรดในกรอบไซด์เวย์ และระวังการเปลี่ยนสถานการณ์เมื่อเบรกกรอบมีเทรนด์เข้ามา ถ้ากรอบไซด์เวย์เริ่มแคบจะลดการเข้าตลาดและติดตามมากขึ้น

by Facebook.com/Wealthstation

16/4/58

11140245_870047143033762_8959938059564181082_n.png?oh=f4549f116f0ea46d915c9fa3072b1e6e&oe=559BFF33&__gda__=1437344567_f42b48f1350350b23f021f18a886287a

10647192_870047139700429_2951349103418286465_n.png?oh=dfe4aa17a289fe6004e73b4432a78e8e&oe=55ABEC91&__gda__=1436954392_93f02650c266598fa5f1e821397dc7e0

10419006_870047146367095_7686765269343354791_n.png?oh=28fb4681b62d4bebcf6324982c639af5&oe=5597E02D&__gda__=1440193351_37cc53ba1f3bd026a23fa291d9d64bc4

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รมว.คลัง แนะใช้ทฤษฎีฉีดยาแรงกดเงินบาทอ่อนค่าส่งสัญญาณดอกเบี้ยขาลง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2558 15:42:24 น.

นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง กล่าวถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นมาในขณะนี้ว่า ตามทฤษฎีควรจะลดดอกเบี้ยซ้ำอีกเพื่อส่งสัญญาณดอกเบี้ยขาลงอย่างชัดเจน เพื่อกดให้เงินบาทอ่อนค่าลงมา

 

"ผมเคยพูดไปแล้วว่าตามทฤษฎีจะให้เงินบาทอ่อน ก็ควรต้องฉีดยาแรงซ้ำลด 0.25% แล้วอีก 45 วันก็ลดอีกเพื่อส่งสัญญาณดอกเบี้ยขาลง แต่ก็ต้องแล้วแต่แบงก์ชาติจะไปพิจารณา" รมว.คลัง ระบุ

 

รมว.คลัง กล่าวว่า ในวันที่ 22 เม.ย.นี้ กระทรวงการคลังจะแถลงผลงาน 6 เดือน และแถลงข่าวร่วมกับบริษัทที่ยื่นขอจดทะเบียนประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ที่ได้รับใบอนุญาตแล้ว 3 ราย

 

 

 

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2138624

 

เปิดยาวตลอดปี!! ตลาดน้ำวิถีไทย ริมคลองผดุงกรุงเกษม

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ RYT9.COM -- พฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2558 15:18:08 น.

ประยุทธ์ สั่งจัดกิจกรรมบริเวณข้างทำเนียบรัฐบาลริมคลองผดุงกรุงเกษมตลอดทั้งปี หลังประสบความสำเร็จจากโครงการนำร่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมวิถีไทย

 

จากที่ประชาชนให้ความสนใจอย่างมากกับโครงการ “ตลาดกล้วยไม้คุณภาพ” “ตลาดน้ำวิถีไทย” คลองผดุงกรุงเกษม รวมถึงการจัดงาน "วิถีข้าว วิถีไทย" ที่รัฐบาลจัดทำขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มพูนรายได้ของผู้ประกอบการรายย่อย และเปิดโอกาสการทำ Business Matching สร้างเครือข่ายทางธุรกิจให้ผู้ประกอบการ นอกจากนั้น ยังส่งเสริมสินค้าและวัฒนธรรมประเพณีไทย ฟื้นวิถีชีวิตคนไทยที่ผูกพันกับแม่น้ำลำคลองมายาวนาน และส่งเสริมการดูแลความสะอาดปลอดภัยให้แม่น้ำลำคลองสดใส พร้อมเป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำสำหรับประชาชนต่อไป ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี จึงได้มอบหมายให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี พิจารณาจัดกิจกรรมบริเวณข้างทำเนียบรัฐบาลริมคลองผดุงกรุงเกษมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้เสนอแผนการจัดกิรกกรรม อาทิ 1.การจัดตลาดผักผลไม้ไทยคุณภาพจากภูมิภาคต่างๆ ผักปลอดสารพิษจากโครงการหลวง ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผักผลไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพหลัก 2.การจัดถนนสายวัฒนธรรมลักษณะถนนคนเดิน ตลาดกลางคืน นำสินค้าของดีของเด่นของสี่ภูมิภาคมานำเสนอ รวมทั้งมีการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นบ้านจากสี่ภาค กระทรวงวัฒนธรรมเป็นเจ้าภาพหลัก 3.การจัดเทศกาลไม้ดอกไม้ประดับและปลาสวยงามในรูปแบบการ์เด้นเซ็นเตอร์ จัดแสดงประกวดและจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับ การประกวดการจัดสวน โดยกระทรวงเกษตรฯเป็นเจ้าภาพหลัก 4.การจัดกิจกรรมส่งเสริมบริการนวดไทย สปาไทย ผลิตภัณฑ์สมุนไพร อาหารเพื่อสุขภาพ การให้บริการด้านการแพทย์แผนไทยครบวงจร กระทรวงสาธารณสุขเป็นเจ้าภาพหลัก

 

 

 

5.การจัดกิจกรรมของขวัญแด่แม่ เพื่อนำเสนอสินค้าโอท็อป อาหารสุขภาพ อาหาร 4 ภาค กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเจ้าภาพหลัก 6.การจัดย่านธุรกิจสร้างสรรค์และสินค้าจีไอ หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ไทย ได้แก่ สินค้าเกษตร สินค้าหัตถกรรม และสินค้าอุตสาหกรรม สินค้าเกษตรแปรรูป กระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพหลัก 7.การนำเสนอสินค้าดีของเอสเอ็มอีจาก 4 ภาค ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพหลัก 8.การจัดตลาดนัดสินค้าโอท็อป หัตถกรรมประเภทของใช้และของตกแต่งบ้าน กรมพัฒนาชุมชนเป็นเจ้าภาพหลัก 9.การจัดกิจกรรมของที่ระลึกแด่พ่อ และของขวัญปีใหม่ กระทรวงพาณิชย์เป็นเจ้าภาพหลัก

 

อินโฟเควสท์ โดย ณัฐชญา แตงตาด(อัครยรรยง)/สุดทีวัล สุขใส โทร.02-2535000 ต่อ 360 อีเมล์: sudteewan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iqry/2138599

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรสหรัฐสูงสุดในเดือนก.พ. แซงหน้าจีนครั้งแรกในรอบ 6 ปีครึ่ง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2558 14:26:00 น.

รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นก้าวขึ้นเป็นประเทศที่ถือครองพันธบัตรสหรัฐรายใหญ่สุด ณ สิ้นเดือนก.พ. ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนส.ค. 2551 ที่ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ถือครองพันธบัตรสหรัฐรายใหญ่สุดแซงหน้าจีน

ทั้งนี้ ญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรสหรัฐในเดือนก.พ.มูลค่าทั้งสิ้น 1.2244 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าจีนที่ถือครองอยู่ 1.2237 ล้านล้านดอลลาร์

นักวิเคราะห์กล่าวว่า จีนได้ลดการถือครองพันธบัตรสหรัฐหลังจากที่เกิดวิกฤตการเงินในปี 2551 ภายหลังจากวาณิชธนกิจเลห์แมน บราเธอร์ส ล้มละลาย และหลังจากรัฐบาลสหรัฐได้ปิดหน่วยงานของรัฐในปี 2556 เนื่องจากปัญหาด้านการคลัง

ส่วนญี่ปุ่นได้ปรับเพิ่มการลงทุนในพันธบัตรสหรัฐ ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ค่อนข้างปลอดภัยและให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าพันธบัตรญี่ปุ่นและยุโรป สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

จีนเผยรายได้งบประมาณสาธารณะเดือนมี.ค.เพิ่ม 5.8% แต่มีแนวโน้มฟื้นตัวช้าๆ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2558 15:15:00 น.

กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า รายได้งบประมาณสาธารณะทั่วไปของจีนในเดือนมี.ค.ขยายตัว 5.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว แตะระดับ 1.069 ล้านล้านหยวน แต่ยังคงมีแนวโน้มการเพิ่มขึ้นในระดับต่ำ

 

ขณะเดียวกัน รายจ่ายด้านงบประมาณสาธารณะของจีน เพิ่มขึ้น 4.4% เมื่อเทียบรายปี แตะ 1.395 ล้านล้านหยวนในเดือนที่แล้ว

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq28/2138600

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...