ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำศุกร์ที่ 10 เมษายน 2558 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 10 เมษายน 2558 10:13:52 น.

กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำแกว่งตัวปานกลางเมื่อวานนี้ โดยมีการดีดตัวสูงขึ้นก่อนจะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หลังจากที่ประกาศคนว่างงานเพิ่มขึ้น 14,000 ราย สู่ระดับ 281,000 ราย และราคาก็ไม่ได้ขยับไปไหนก่อนจะถูกแรงเทขายทำกำไรให้ปรับตัวลดลงมา โดยเมื่อวานนี้ราคาทองคำขึ้นไปทดสอบ 1,202 เหรียญ และกลับมาปิดบริเวณ 1,194 เหรียญโดยประมาณ ขณะที่เมื่อวานนี้เมื่อวานนี้ SPDR ซื้อทองคำเพิ่ม 2.98 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 736.04 ตัน สำหรับค่ำคืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญได้แก่ Federal Budget Balance คาดการณ์ว่าจะดีขึ้นอย่างมากจากระดับ -1.92 แสนล้านเหรียญ สู่ระดับ -4.27 หมื่นล้านเหรียญ

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำปรับตัวหลุด 1,200 เหรียญเป็นวันที่ 2 โดยภาพรวมในระยะสั้นทำให้ดูทองคำเริ่มเข้าสู่แนวโน้มขาลงในระยะสั้นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะเห็นความผันผวนของราคาทองคำค่อนข้างมากในระยะนี้ โดยเป็นการขึ้นและลงสลับกัน ทำให้มีความยากในการบริหารพอร์ตการลงทุนค่อนข้างมากเนื่องจากมีความผันผวนในทิศทางกลับไปกลับมาโดยตลอด ในเชิงเทคนิคราคาทองคำจะมีแนวรับที่บริเวณ 1,190 เหรียญ และแนวรับ 1,180 เหรียญเป็นแนวรับสำคัญ ขณะที่แนวต้านจะอยู่ที่ระดับ 1,200 และ 1,210 เหรียญตามลำดับ ยังคาดว่าราคามีโอกาสจะผันผวนในทิศทางขาลง หากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาในคืนนี้ออกมาดีขึ้นตามคาดการณ์ ฉะนั้นในการบริหารพอร์ตของนักลงทุนที่เป็น Gold Futures ที่จะเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ แนะนำให้ลดพอร์ตลดความเสี่ยง หรือปิดสถานะ ลดการใช้Margin ลง เพื่อให้สามารถลดความเสี่ยงจากช่วงวันหยุดยาวได้ ขณะที่ระบบ Gold Online และ Gold Phone ของ MTS Gold แม่ทองสุก ยังคงเปิดให้บริการตามปกติในวันหยุดนักขัตฤกษ์

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ 1,190-1,200 เหรียญ พยายามบริหารพอร์ตการลงทุนให้สมดุลกับสภาพการแกว่งของตลาด

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position และนักลงทุนที่ถือ Short Position

เก็งกำไรเป็นช่วงๆตามการแกว่งของราคา เข้า-ออกเร็ว และบริหารพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาพตลาด

 

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

Wait&See บริหารพอร์ตให้สมดุลกับสภาพตลาด ไม่ใช้ Leverage มากจนเกินไปนัก และไม่ถือครองสถานะด้านใดด้านหนึ่งมากจนเกินไป

 

Gold Futures J15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,420 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,620 บาท

Gold Futures M15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,520 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,720 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2135147

 

 

สรุปภาวะ Gold Futures By GT Wealth Management 10 เม.ย. 58 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 10 เมษายน 2558 10:19:45 น.

กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--GT Wealth Management

ราคาทองคำลดลงมาปิดที่ระดับ US$1,194.46 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ (Gold Spot) ร่วงลง US$ 7.94 ถือเป็นการลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ทั้งนี้ราคาทองได้รับแรงกดดันจากรายงานการประชุม FOMC ที่แสดงให้เห็นว่าเฟดเตรียมพร้อมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย นอกจากนี้ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับที่คาดไว้ที่ 281,000 ตำแหน่ง เพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้ว 267,000 ตำแหน่งสอดคล้องกับตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอเมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่ทางกรีซได้ชำระหนี้ให้ IMF จำนวน450 ล้านยูโรคลายความกังวลได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตามกรีซยังต้องจ่ายเงินเดือนราชการและเงินบำนาญจำนวน 1.7 พันล้านยูโรอีกครั้งในวันที่ 14 เม.ย.นี้ ด้านจีนตัวเลขเงินเฟ้อออกมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.4% จากที่คาดไว้ที่ 1.3% ดัชนีราคาผู้ผลิตจีนดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ -4.6% จากที่คาดไว้ที่ -4.8% สัปดาห์หน้าติดตามตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐฯ ด้านค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 32.55 บาท/ดอลลาร์ SPDR รายงานการถือครองทองคำที่ระดับ 736.04 ตัน เพิ่มขึ้น 2.98 ตัน

 

 

 

ราคาทองคำโลกเช้านี้ (Gold Spot) เคลื่อนไหวบริเวณ US$1,195 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนเมษายน 2558 (GFJ15)ราคาเปิดใกล้ระดับ 18,530 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 18,350 บาท ราคาเสนอขาย 18,450 บาท

 

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสย่อตัวหลังขึ้นไม่ผ่านแนวต้านทางเทคนิค US$1,224 ขณะที่ทองคำยังขาดปัจจัยหนุนใหม่ สำหรับนักลงทุนในประเทศอาจจะแนะนำให้ชะลอการลงทุนออกไปหลังช่วงหยุดยาวเนื่องจากราคาทองคำในช่วง 2 ปีที่ผ่านมามีการอ่อนตัวในช่วงหยุดสงกรานต์บ้านเราจึงควรจำกัดความเสี่ยง แนวรับ US$1,180 แนวต้าน US$1,210

 

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

TEL : 02-673-9911

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2135156

 

สรุปภาวะ SET50 Index Future By GT Wealth Management 10 เม.ย.58 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 10 เมษายน 2558 10:20:47 น.

กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--GT Wealth Management

ดัชนี SET50 มีการย่อตัวลงอีกครั้งในเมื่อวานนี้ หลังจากที่มีแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงานเข้ามากดดันและยังไม่สามารถผ่านระดับแนวต้านสำคัญไปได้ โดยมีปริมาณการซื้อขายที่ระดับ 28,153.07 ล้านบาท ขณะที่วันนี้ดัชนีมีโอกาสเคลื่อนไหวในกรอบแคบอีกครั้งเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่อาจมีการชะลอการลงทุนเมื่อใกล้วันหยุดยาว แม้จะมีแรงหนุนเล็กน้อยจากการที่กรีซสามารถจ่ายชำระหนี้ IMF ได้สำเร็จรวมถึงราคาพลังงานที่ฟื้นตัวขึ้นมาจากความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกในประเด็นข้อตกลงนิวเคลียร์รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจจีนอย่างตัวเลขดัชนี CPI และ PPI ที่ออกมาดีกว่าที่คาด โดยในระยะถัดไปติดตามรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ซึ่งหากออกมาดีกว่าที่คาด อาจหนุนให้ดัชนีฟื้นตัวขึ้นมาอีกครั้งในระยะถัดไป ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.53 บาทต่อดอลลาร์ เคลื่อนไหวในกรอบแคบ

 

 

 

แนวโน้มดัชนี SET50นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดกล่าวว่า แนวโน้มดัชนีในวันนี้อาจมีการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เหตุจากสัปดาห์หน้าเป็นวันหยุดยาว ซึ่งไม่แนะนำให้มีการถือสถานะข้ามสัปดาห์ เนื่องจากอาจมีปัจจัยสำคัญเข้ามากระทบในช่วงตลาดปิด ทางเทคนิค แนวรับสำคัญ 1,008 จุด แนวต้านสำคัญ 1,035 จุด

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2135159

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สงกรานต์จะทำให้ตลาดบ้านเราหยุดยาวเทรดจีเอฟแนะนำลดพอร์ต อย่าถือเยอะ แม้จะมองว่าไม่เกิดสงกรานต์เอฟเฟกต์ 2013 อีกแล้วก็ตาม

สำหรับทองแท่ง ตรวจสอบวันปิดเปิดให้ดีว่าทำธุรกรรมใดได้บ้างระหว่างเล่นน้ำกันอยู่นี้

แนวโน้มทองเป็นลบ ถ้ายังไม่ผ่านแนว 1200 1205 ยังมองลงสู่บริเวณ 1180 1190 โดยคืนนี้ไม่มีประเด็นสำคัญจึงมองว่าอาจทรงตัวและเป็นลบมากกว่าเป็นบวก

by Facebook.com/Wealthstation

10/4/58

10502258_866691196702690_3720016148765442167_n.png?oh=b1d9248429f14184e2c61fbfbf583243&oe=55A201F0

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับแนวโน้ม ราคาทองคำและปัจจัย ที่ทำให้ราคาทองคำผันผวน The Profit ช่อง Amarin TV ในวันศุกร์ที่ 10 เมษายน 2558

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ปธ.เฟดริชมอนด์ชี้มีความเป็นไปได้สูงเฟดขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 เมษายน 2558 20:29:36 น.

นายเจฟฟรี แลคเกอร์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาริชมอนด์ กล่าวว่า เฟดยังคงมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. เนื่องจากผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของราคาน้ำมันจะดำเนินไปเพียงชั่วคราว

 

นายแลคเกอร์กล่าวย้ำมุมมองของเขาที่ว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งสภาวะของตลาดแรงงาน และภาวะเศรษฐกิจ ได้ฟื้นตัวขึ้นอย่างมากเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

 

 

 

"นอกเสียจากว่ารายงานภาวะเศรษฐกิจที่เข้ามาใหม่มีความแตกต่างอย่างมากจากที่คาดการณ์ไว้ แนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.จะยังคงเป็นไปได้มาก"

 

เขากล่าว

การแสดงความเห็นของนายแลคเกอร์สอดคล้องกับเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายก่อนหน้านี้

นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ค กล่าวว่า เฟดยังคงสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ถ้าหากข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงการขยายตัวในช่วง 2 เดือนข้างหน้า ถึงแม้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะอ่อนแอในช่วงต้นปี

 

ด้านนายเจโรม โพเวลล์ ซึ่งเป็นผู้ว่าการคนหนึ่งของเฟด กล่าวว่า เขาเต็มใจที่จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ แม้ขณะนี้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ แต่เขาก็เตือนว่าเฟดควรดำเนินการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากนั้นอย่างช้าๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องจากวิกฤตการณ์

 

นายโพเวลล์ระบุว่า เฟดอาจเปิดช่องให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมิ.ย.นี้ และจะดำเนินการหากตัวเลขเศรษฐกิจในช่วง 2 เดือนข้างหน้าบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2135862

 

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้นวันนี้จากแรงซื้อเก็งกำไร

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 เมษายน 2558 19:55:09 น.

ราคาทองฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้นวันนี้ จากแรงซื้อเก็งกำไรของนักลงทุน หลังจากตลาดปรับตัวลงวานนี้

ณ เวลา 19.39 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ดีดตัวขึ้น 10.70 ดอลลาร์ หรือ 0.90% แตะ 1,205.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) หลังจากมีรายงานว่ากรีซสามารถชำระคืนเงินกู้ให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ และลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

จีนเผยตุรกีได้รับอนุมัติเป็นสมาชิกก่อตั้ง AIIB แล้ว

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 เมษายน 2558 19:05:51 น.

กระทรวงการคลังของจีนแถลงในวันนี้ว่า ตุรกีได้รับการอนุมัติให้เป็นสมาชิกก่อตั้งของธนาคารเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) แล้ว ส่งผลให้ขณะนี้ AIIB มีสมาชิกก่อตั้งทั้งหมดรวม 38 ประเทศ

 

ทั้งนี้ จะมีการยืนยันรายชื่อประเทศสมาชิกผู้ก่อตั้ง AIIB ในวันที่ 15 เม.ย. โดยประเทศผู้ก่อตั้งจะมีสิทธิ์ในการกำหนดกฎข้อบังคับเกี่ยวกับการกำกับดูแล และการดำเนินงานของ AIIB ส่วนประเทศที่ยื่นสมัครหลังจากวันที่ 31 มี.ค.จะมีสิทธื์ในการลงคะแนนเพียงอย่างเดียว

 

เป็นที่คาดว่า AIIB จะเริ่มเปิดดำเนินงานในปลายปีนี้

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2135852

 

ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับฐาน หลังดีดตัวขึ้นเมื่อวานนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 เมษายน 2558 19:44:37 น.

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI อ่อนตัวลงในวันนี้ โดยเป็นการปรับฐานหลังจากดีดตัวขึ้นเมื่อวานนี้

 

ณ เวลา 19.29 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลบ 14 เซนต์ หรือ 0.30% แตะ 50.65 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันดิบร่วงลงไปกว่า 3.5 ดอลลาร์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ปรับตัวสูงขึ้น

 

 

 

นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลง 3.56 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.42 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 10.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 482.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.4 ล้านบาร์เรล

 

นักลงทุนจับตาสถานการณ์ด้านการผลิตน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบีย หลังจากรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันซาอุดิอาระเบียยืนยันว่า ซาอุดิอาระเบียจะผลิตน้ำมันที่ระดับประมาณ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันต่อไป โดยไม่ได้ให้ความสนใจต่อราคาน้ำมันที่ชะลอตัวลง และเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ซาอุดิอาระเบียได้เพิ่มการผลิตน้ำมันดิบเป็น 10.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งถือเป็นสถิติที่สูงเป็นประวัติการณ์

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2135858

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยูโรร่วงวันนี้ ขณะคาดดอลลาร์ปรับตัวขึ้นสัปดาห์นี้ครั้งแรกรอบ 1 เดือน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 เมษายน 2558 19:34:17 น.

ยูโรร่วงลงต่ำกว่า 1.06 ดอลลาร์ในวันนี้ ส่งผลให้ดอลลาร์มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้เป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน

 

การที่เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งเร็วกว่าธนาคารกลางยุโรปและญี่ปุ่น ก็ได้เป็นแรงหนุนต่อดอลลาร์

 

ดัชนีดอลลาร์เพิ่มขึ้น 0.4% สู่ระดับ 99.481 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. โดยได้ปัจจัยบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐที่สูงกว่ายูโรโซน และช่วยดึงดูดเงินทุนเข้าสู่สหรัฐ

 

 

 

ดีลเลอร์ระบุว่า แรงซื้อดอลลาร์ของนักลงทุนระยะยาวช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์ ส่งผลให้ยูโรร่วงลง 0.7% สู่ระดับ 1.0583 ดอลลาร์ในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. ขณะที่ยูโรดิ่งลงมากกว่า 3% ในสัปดาห์นี้

 

นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ค กล่าวว่า เฟดยังคงสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย. ถ้าหากข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงการขยายตัวในช่วง 2 เดือนข้างหน้า ถึงแม้เศรษฐกิจอยู่ในภาวะอ่อนแอในช่วงต้นปี

 

ด้านนายเจโรม โพเวลล์ ซึ่งเป็นผู้ว่าการคนหนึ่งของเฟด กล่าวว่า เขาเต็มใจที่จะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ แม้ขณะนี้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ แต่เขาก็เตือนว่าเฟดควรดำเนินการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลังจากนั้นอย่างช้าๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่องจากวิกฤตการณ์

 

นายโพเวลล์ระบุว่า เฟดอาจเปิดช่องให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนมิ.ย.นี้ และจะดำเนินการหากตัวเลขเศรษฐกิจในช่วง 2 เดือนข้างหน้าบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2135857

 

สหรัฐเผยราคานำเข้าลดลง 0.3% ในมี.ค. ขณะราคาส่งออกขยับขึ้น 0.1%

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 10 เมษายน 2558 20:12:59 น.

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ราคานำเข้าสินค้าลดลง 0.3% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนก.พ.

 

 

 

นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า ราคานำเข้าเดือนมี.ค.ลดลง 0.3%

เมื่อเทียบรายปี ราคานำเข้าดิ่งลง 10.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.2009

 

การลดลงของราคานำเข้า บ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อที่เบาบางลง และสนับสนุนมุมมองที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.

 

ราคาน้ำมันดิบที่ลดลง และการแข็งค่าของดอลลาร์ ได้ช่วยสกัดแรงกดดันจากราคา ทำให้เงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด

 

หากไม่รวมหมวดเชื้อเพลิง ราคานำเข้าเดือนมี.ค.ลดลง 0.4%

ขณะเดียวกัน กระทรวงแรงงานยังได้เปิดเผยว่า ราคาส่งออกเดือนมี.ค.ขยับขึ้น 0.1% เมื่อเทียบรายเดือน และดิ่งลง 6.7% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2009

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq28/2135860

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดบวก 11 ดอลลาร์ จากแรงซื้อทางเทคนิค

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 11 เมษายน 2558 08:57:49 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) จากแรงซื้อทางเทคนิคอันเนื่องมาจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ในทองคำ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 11 ดอลลาร์ หรือ 0.92% ปิดที่ 1,204.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 20.6 ดอลลาร์ หรือ 1.27% ปิดที่ 16.382 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 13.6 เซนต์ หรือ 1.18% ปิดที่ 1,170.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นจากแรงซื้อขายทางเทคนิค โดยนักวิเคราะห์ได้ใช้ความระมัดระวังเนื่องจากเชื่อว่าจะมีแรงเทขายหลังจากนี้ ซึ่งมีแนวโน้มจะสกัดการปรับตัวขึ้นของราคา

 

ทั้งนี้ ตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากข้อมูลการจ้างงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่เปิดเผยเมื่อคืนนี้

 

นอกจากนี้ ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของดอลลาร์ หลังดัชนีดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.48% ที่ระดับ 99.45 เมื่อคืนนี้ ซึ่งโดยปกติราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่สวนทางกันกับดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่า หากดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น ราคาทองคำจะปรับตัวลดลง เนื่องจากจะส่งผลให้ทองคำมีราคาที่สูงขึ้นสำหรับนักลงทุนต่างประเทศ

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ภาวะซบเซาของตลาดทองคำเกิดจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ในที่สุดแล้วธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ก็จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งจะส่งผลให้นักลงทุนหันไปลงทุนในตลาดที่ให้ผลตอบแทนจากดอกเบี้ย เช่น ตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นแทน เนื่องจากทองคำไม่ได้ให้ผลตอบแทนในรูปของอัตราดอกเบี้ย สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2136050

 

นายกฯ ชี้ศก.ไทยมีสัญญาณดีขึ้น แนะเร่งสร้างความเข้มแข็งภายในประเทศ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 11 เมษายน 2558 09:29:48 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวในรายการ "คืนความสุขให้คนในชาติ" โดยระบุว่า วันนี้เศรษฐกิจของประเทศไทยเริ่มเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุมมองของต่างประเทศ ซึ่งล่าสุดบริษัท เจแปน เครดิต เรตติ้ง เอเยนซี (JCR) จากญี่ปุ่น ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้รัฐบาลไทย โดยปรับมุมมองจากลบเป็น "มีเสถียรภาพ"

 

 

 

ขณะเดียวกันในภาคอุตสาหกรรมเองนั้น ล่าสุดได้รับรายงานว่าดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนกุมภาพันธ์ อยู่ที่ระดับสูงที่สุดในรอบ 23 เดือน เนื่องจากการผลิตในอุตสาหกรรมอาหาร การกลั่นน้ำมัน รถยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวดี

 

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์ก็ส่งสัญญาณที่ดี โดยดูจากยอดการผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกในเดือนกุมภาพันธ์ ขยายตัวร้อยละ 11.3 ขณะที่ยอดการจองรถยนต์ในงาน Motor Show ที่พึ่งจะผ่านไป มีจำนวนประมาณ 37,000 คัน ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่ถึงแม้ตัวเลขจะน้อยลงแต่ก็เป็นรถยนต์ที่มีราคาสูงกว่า 1 ล้านบาทขึ้นไปมากขึ้น

 

"แสดงว่าคนไทยก็ยังมีสตางค์ แล้วก็ไปซื้อรถยนต์ที่มีราคาสูงขึ้น ถึงแม้ว่าราคารถยนต์ขนาดเล็กราคาถูก จะน้อยลง ก็อันนี้มันต้องดูว่ามันเป็น Demand แท้ หรือ Demand เทียม ในช่วงที่ผ่านมา เพราะงั้น ราคาที่ค้าขายรถยนต์ในปีนี้ คนดูมากขึ้น ขายรถน้อยลง แต่เม็ดเงิน 46,000 ล้านบาท ซึ่งก็ไม่ได้ต่ำไปกว่าปีที่ผ่านมา" นายกรัฐมนตรี กล่าว

 

อย่างไรก็ดี สถานการณ์เศรษฐกิจโลกขณะนี้ยังคงทรงตัว ซึ่งตลาดในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ โดยเฉพาะสหภาพยุโรปนั้นเศรษฐกิจยังหดตัว มีอัตราการว่างงานสูง ขณะที่เศรษฐกิจของสหรัฐฯ ค่อยๆ ฟื้นตัว ส่วนเศรษฐกิจจีนชะลอการขยายตัวลงบ้างเล็กน้อย และเศรษฐกิจญี่ปุ่นก็ชะลอตัวเช่นเดียวกัน ซึ่งทุกประเทศกำลังพยายามแก้ไขปัญหากันอยู่

 

นายกรัฐมนตรี เห็นว่า ประเทศไทยอาจจะเผชิญปัญหาเศรษฐกิจมากกว่าหลายประเทศ เนื่องจากที่ผ่านมาไทยต้องพึ่งพาต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นในวันนี้ประเทศไทยควรจะต้องสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นเองก่อน ด้วยการส่งเสริมการบริโภคสินค้าที่ผลิตได้เองภายในประเทศ ส่วนสินค้าที่ผลิตเพื่อการส่งออกก็ควรต้องเป็นสินค้าที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อให้สามารถขายได้ในราคาที่สูงขึ้น และมีรายได้กลับเข้ามามากขึ้น

 

"วันนี้เราต้องผลิตเอง ใช้เอง แล้วก็เพิ่มมูลค่าของสินค้าต่างๆ เหล่านั้นให้มีราคาสูงขึ้น เพื่อเป็นรายได้ของประเทศ หากเราไม่แข็งแรงพอ เราก็ต้องนำเข้าสินค้าอื่นๆ เข้ามา ก็ทำให้มูลค่าการนำเข้าสูงขึ้น ขณะเดียวกันสินค้าส่งออกเราก็ส่งได้น้อยลง ราคามันตกต่ำ โดยเฉพาะสินค้าเกษตรกรรม ซึ่งมันไม่สามารถจะถ่วงดุลกันได้ การแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศเรานั้นซับซ้อน เราต้องสร้างความเข้มแข็งก่อน" นายกรัฐมนตรี กล่าว

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์ โทร.02-2535000 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2136158

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดน้ำมัน:น้ำมัน WTI บวก 85 เซนต์ หลังแท่นขุดเจาะในสหรัฐปรับตัวลดลง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 11 เมษายน 2558 08:28:54 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำอาจส่งผลให้อุปทานที่สูงเกินไปปรับตัวลดลง เนื่องจากจำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 85 เซนต์ ปิดที่ 51.64 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 1.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.87 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะในสหรัฐปรับตัวลดลง 40 แท่น มาอยู่ที่ 988 แท่นในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 เม.ย. นักวิเคราะห์เชื่อว่า ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำได้บีบบังคับให้บริษัทผู้ผลิตน้ำมันของสหรัฐต้องปรับลดกำลังการผลิตลง

 

ด้านสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 18,000 บาร์เรล แตะที่ 9.04 ล้านบาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

สต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้น 10.9 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 482.4 ล้านบาร์เรล และเพิ่มขึ้น 98.3 ล้านบาร์เรลจากปีก่อน ส่วนสต็อกน้ำมันที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันของสัญญา WTI เพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล แตะที่ 60.2 ล้านบาร์เรล สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2136045

 

 

โลกธุรกิจ - เงินทุนเคลื่อนยายระลอกใหมจากธนาคารกลางยุโรป

เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2558 ที่ผานมา ธนาคารกลางประเทศในกลุมยูโรไดเริ่มเขาซื้อพันธบัตรรัฐบาลภายใตมาตรการผอนคลายเชิงปริมาณ (หรือที่รูจักกันทั่วไปวา Quantitative Easing :QE)ครั้งสําคัญของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ตามที่ไดประกาศไปในชวงตนปโดยมีวงเงินเขาซื้อรวมประมาณ 6 หมื่นลานยูโรตอเดือน จนถึงเดือนกันยายน 2559 เปนอยางนอย ซึ่งคิดเปนเม็ดเงินรวมกวา 1.1 ลานลานยูโร เพื่อกระตุนเศรษฐกิจที่ยังออนแอและลดความเสี่ยงตอการเขาสูภาวะเงินฝด

การเขาซื้อพันธบัตรครั้งแรกในชวงตนเดือนมีนาคมที่ผานมานั้น ไดรับการตอบรับคอนขางดี สะทอนจากดัชนีตลาดหลักทรัพยในหลายประเทศในกลุมยูโรที่ปรับดีขึ้น และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ปรับลดลงมาก จึงเปนที่นาสนใจวามาตรการดังกลาวจะสงผลใหมีเงินทุนเคลื่อนยายไหลเขามายังตลาดประเทศเกิดใหม (Emerging Markets : EM)

โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียดังเชนที่เคยเกิดขึ้นในชวงที่มีมาตรการผอนคลายเชิงปริมาณของธนาคารกลางสหรัฐมากนอยเพียงใด

หากวิเคราะหปจจัยที่ผลักใหมีเงินทุนไหลออกจากยุโรป (Push factor) พบวา มาตรการของ ECB ในครั้งนี้นาจะสงผลใหสภาพคลองในกลุมยูโรสูงขึ้นมากกวาการดําเนินนโยบายครั้งอื่นๆ ที่ผานมาเนื่องจากมีมูลคาการเขาซื้อรวมที่สูงเปนประวัติการณ โดยคาดวาจะทําใหขนาดงบดุลของ ECB เพิ่มขึ้นไปสูงถึง 3 ลานลานยูโร หรือคิดเปนสัดสวน 30% ของ GDP ซึ่งสูงกวาสัดสวนของธนาคารกลางสหรัฐ และธนาคารกลางอังกฤษ

นอกจากนั้น อัตราดอกเบี้ยเงินฝาก 1 (Deposit facility rate) ที่อยูในระดับติดลบ และการกําหนดเงื่อนไขของ ECB ที่จะเขาซื้อพันธบัตรในอัตราผลตอบแทนที่ติดลบไดแตตองสูงกวาอัตรา Deposit Facility Rate ทําใหคาดวาธนาคารพาณิชยจะไมนําเงินที่ไดจากการขายสินทรัพยกลับไปฝากที่ ECB มากนัก และจะมีสภาพคลองไหลเขาสูเศรษฐกิจจริงมากขึ้นกวาในชวงที่มีมาตรการ LTROs กอนหนา

นอกจากนี้ ยังมีปจจัยสนับสนุนอื่นๆ ที่ทําใหเงินทุนไหลออกเพิ่มเติม ไดแก

1) การปลอยสินเชื่อภายในกลุมประเทศยูโรอาจทําไดไมมากแมสภาพคลองในระบบการเงินจะสูงขึ้นกอปรกับฐานะการเงินของธนาคารพาณิชย์(ธพ.) ปรับดีขึ้นกวาชวงวิกฤติหนี้สาธารณะแตภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจยังอยูในชวงทยอยปรับลดหนี้ (Deleveraging) และยังมีภาระหนี้ที่สูง อีกทั้งความเชื่อมั่นในภาคธุรกิจยังไดรับผลกระทบจากความไมแนนอนทางการเมืองและการเงินในกรีซ ความตองการสินเชื่อจึงอาจยังมีจํากัดทําให ธพ. อาจปรับพอรตการลงทุนไปยังสินทรัพยอื่นๆ ทั้งในและนอกกลุมยูโร

2) การลงทุนในตลาดทุนของกลุมยูโรมีขอจํากัด จากตลาดทุนที่ยังเล็กเมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ อีกทั้งราคาหลักทรัพย

ในปจจุบันคอนขางแพงแลว โดยอัตราสวนของราคาตอกําไรสุทธิ(P/E ratio) อยูในระดับคอนขางสูงและอัตราผลตอบแทนในตลาดพันธบัตรที่ปรับลดลงตอเนื่อง ซึ่งจะผลักดันใหมีเงินทุนไหลออกเพื่อแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกวา

3) ผูถือครองพันธบัตรรัฐบาลของประเทศในกลุมยูโรเปนนักลงทุนตางชาติมากกวาครึ่งการเขาซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามมาตรการของ ECB นาจะทําใหนักลงทุนตางชาติขายพันธบัตรยูโรและนําเงินไปลงทุนในตลาดอื่น ซึ่งจะสงผลใหเกิดเงินทุนไหลออกดวย

ทั้งนี้ เงินทุนไหลออกจากยุโรปที่มากขึ้นจะไปที่ใดนั้นจะขึ้นอยูกับ (1) ชองทางของการเคลื่อนยายของเงินทุน และ (2) ปจจัยดึงดูด (Pull factor) ของภูมิภาคอื่นๆ รวมทั้งประเทศตลาดเกิดใหมในเอเชีย (EM Asia) โดยชองทางการเคลื่อนยายเงินทุนในยุโรปไปลงทุนตลาดทุนนั้น ที่ผานมาพบวาเงินลงทุนจากยุโรปที่ไหลเขามาลงทุนใน EM Asia มีสัดสวนนอยเมื่อเทียบกับเงินทุนที่ไหลไปยังตลาดประเทศพัฒนา (AE) นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐที่ฟนตัวตอเนื่อง

ECB ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากกับ ECB เปน -0.1% ในเดือนมิถุนายน 2557 และเปน -0.2% ในเดือนกันยายน 2557 รวมทั้งผลตอบแทนในหลักทรัพยในตลาด AE ที่โนมสูงขึ้นและสูงกวา EM (ทั้งในรูปสกุลเงินทองถิ่นหรือในรูปดอลลารสรอ.) ทําใหคาดไดวาในระยะตอไปเงินทุนสวนใหญยังจะไหลไปยังตลาดทุน AE และมายัง EM Asia ไมมากเทากับในชวงการทํา QE ของสหรัฐ

สวนชองทางการเคลื่อนยายเงินทุนในภาคธนาคารของยุโรป คาดวาจะมีแนวโนมไหลออกไปยัง AE และประเทศตลาดเกิดใหมในยุโรปเปนหลัก เนื่องจากที่ผานมาสัดสวนเงินทุนเคลื่อนยายภาคธนาคารที่ไปยัง 2 กลุมประเทศนี้มีมากกวา 80% ขณะที่เงินทุนไหลเขามาใน EM Asia มีเพียง 3.6% อยางไรก็ดี ปจจัยดึงดูดของตลาด EM Asia ยังคงมีอยูไดแกพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ยังแข็งแกรงแมอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะชะลอลงบางแตถือวายังอยูในเกณฑดี รวมทั้งความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและความเสี่ยงในการผิดนัดชําระหนี้ที่อยูในระดับต่ำทําใหคาดวาจะมีเงินทุนในสวนของภาคธนาคารไหลเขามายัง EM Asia มากขึ้นบาง

ดังนั้น ประเทศในภูมิภาคเอเชียคงตองเตรียมตัวรับมือความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนยายที่จะเกิดขึ้นในระลอกใหมนี้ ซึ่งปจจุบันหลายประเทศใน EM Asia ไดมีมาตรการในดานตางๆ ที่จะชวยบรรเทาผลกระทบและเปนเกราะปองกันความไมสมดุลที่อาจเกิดขึ้นจากการขยายตัวของสินเชื่อในภูมิภาคไดในระดับหนึ่ง

ที่มา..ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)

โดย...นางสาววรันธร ภูทอง

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้น จากคาดการณ์เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 11 เมษายน 2558 09:14:57 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักโดยส่วนใหญ่ หลังจากแถลงการณ์ภายหลังการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หนุนกระแสคาดการณ์ของตลาดที่ว่า เฟดมีความเคลื่อนไหวที่ใกล้จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้น

 

ค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0606 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0640 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะ 1.4649 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4695 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 120.19 เยน จากระดับ 120.68 เยน และทรงตัวเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9787 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7685 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7688 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์แคนาดาลดลงแตะระดับ 1.2587 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2599 ดอลลาร์สหรัฐ

 

แถลงการณ์ของเฟดซึ่งเปิดเผยเมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาบ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของเฟดมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในประเด็นที่ว่าเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.หรือไม่

 

เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายเชื่อว่าข้อมูลและทิศทางเศรษฐกิจมีแนวโน้มจะเอื้อต่อการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในเดือนมิ.ย. ขณะที่เจ้าหน้าที่รายอื่นๆระบุว่าจะมีความเหมาะสมในการเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ เมื่อพิจารณาถึงภาวะเงินเฟ้อที่ระดับต่ำ และเจ้าหน้าที่บางรายชี้ว่าภาวะเศรษฐกิจจะยังไม่พร้อมสำหรับนโยบายการเงินที่คุมเข้มมากขึ้นจนกว่าจะถึงปี 2559

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความเห็นที่แตกต่างกันของเจ้าหน้าที่เฟดช่วยหนุนกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ ซึ่งส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2136051

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 98.92 จุด ขานรับ GE ปรับโครงสร้าง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 11 เมษายน 2558 08:01:07 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (10 เม.ย.) โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์พุ่งทะลุระดับ 18,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค. เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากแผนการปรับโครงสร้างองค์กรของบริษัทเจเนอรัล อิเล็กทริค (จีอี) และการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลก

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 98.92 จุด หรือ 0.55% ปิดที่ 18,057.65 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 10.88 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 2,102.06 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 21.42 หรือ 0.43% ปิดที่ 4,995.98 จุด

 

 

 

จีอีประกาศในช่วงก่อนตลาดหุ้นสหรัฐเปิดทำการว่า บริษัทมีแผนจะปรับลดขนาดโครงสร้างของธุรกิจด้านการเงินของบริษัทด้วยการขายทรัพย์สินเกือบทั้งหมดของบริษัทจีอี แคปิตอล และหันไปให้ความสำคัญกับการลงทุนและการขยายตัวของธุรกิจระดับเวิลด์คลาสในภาคอุตสาหกรรมของบริษัท

 

นอกจากนี้ บอร์ดคณะกรรมการของจีอียังมีแผนซื้อคืนหุ้นในวงเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีแผนจะปรับลดจำนวนหุ้นสามัญลง 8-5.8 พันล้านหุ้นภายในปี 2561

 

เจฟฟ์ อิมเมลท์ ประธานของจีอีกล่าวว่า “แผนดังกล่าวนับเป็นขั้นตอนที่สำคัญในการมุ่งไปในเรื่องที่ GE มีความได้เปรียบด้านการแข่งขัน ปัจจุบันจีอีถือเป็นบริษัทอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีระดับพรีเมี่ยมที่ดำเนินธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีความสำคัญต่อโครงสร้างพื้นฐาน ธุรกิจดังกล่าวยังเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี อินเตอร์เน็ตเพื่ออุตสาหกรรม และการผลิตที่ทันสมัยอีกด้วย"

 

หุ้นจีอีทะยานขึ้น 10.8% ขานรับการประกาศนโยบายของบริษัท

หุ้นแอปเปิ้ลปรับตัวขึ้น 0.43% หลังจากบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่เปิดให้จองนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ผ่านทางออนไลน์ก่อนที่บริษัทจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างเป็นทางการในวันที่ 24 เม.ย.นี้ แต่อย่างไรก็ดี ผู้ซื้อจะยังไม่ได้รับนาฬิกาไปจนกระทั่งถึงเดือนมิ.ย.หรือเดือนก.ค. สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2136021

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อุตุฯเตือน 11-12 เม.ย.ภาคเหนือ-อีสาน-กลาง-ตะวันออกจะเกิดพายุฤดูร้อน

 

 

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 11 เมษายน 2558 08:41:07 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง"พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย" ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 11 เมษายน 2558 ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีน แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนแล้ว และจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกในระยะต่อไป ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อน

 

 

 

ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น ซึ่งจะมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกได้บางพื้นที่ โดยจะมีผลกระทบต่อภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 11-12 เมษายน 2558 ส่วนภาคใต้จะมีผลกระทบในวันที่ 12-14 เมษายน 2558 ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่เกิดขึ้น รวมถึงอยู่ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์ โทร.02-2535000 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq01/2136048

 

ผบ.ตร.เตรียมลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุคาร์บอมเซ็นทรัลเฟสติวัลสมุย

 

 

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 11 เมษายน 2558 09:59:37 น.

เมื่อคืนที่ผ่านมา(10 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ่อผุด จ.สุราษฎ์ธานี รับแจ้งเกิดเหตุระเบิดบริเวณลานจอดรถชั้นล่างของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย โดยแรงระเบิดทำให้รถยนต์เสียหายจำนวนมาก และรถยนต์คันต้นเหตุพังเสียหายทั้งคัน ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดจากการคาร์บอมหรือไม่ เพราะเจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่จากหน่วย EOD จะลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้งในวันนี้

 

 

 

ด้าน พล.ต.อ.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ที่ปรึกษา (สบ.10) พร้อมด้วย พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐาน และหน่วย EOD ได้เข้าตรวจสอบเหตุระเบิดบริเวณลานจอดรถชั้นล่างของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล สมุย และเข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาหลักฐานต่างๆ หลังเกิดเหตุคาร์บอม โดยจากเหตุการณ์ดังกล่าวมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 คน

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) จะเดินทางลงไปดูพื้นที่เกิดเหตุด้วยตนเอง

 

ทั้งนี้ เซ็นทรัลฯ ได้ออกหนังสือชี้แจงเหตุการณ์เหตุรถยนต์ระเบิดบริเวณลานจอดรถศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล สมุยว่า เกิดเหตุเมื่อเวลาประมาณ 22.50 น. ของวันที่ 10 เม.ย.ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์ระเบิดบริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดิน โซนด้านหลัง ทางเข้าประตู 3 ถนนเลียบหาดเฉวง ทำให้ผนังอาคารบริเวณใกล้เคียงได้รับความเสียหาย มีกระจกอาคารแตกบางส่วน เสียหายเล็กน้อย และมีลูกค้าได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 คน และตกใจเป็นลม จำนวน 2 คน ซึ่งทั้งหมดได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำส่งโรงพยาบาลและกลับบ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ห้างได้กั้นบริเวณที่เกิดเหตุและอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่ถูกต้องต่อไป

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลาไล่เลี่ยกันได้เกิดเหตุไฟไหม้ที่สหกรณ์สุราษฎร์ธานี อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี โดยอาคารศูนย์อาหารและศูนย์การค้าเสียหายทั้งหมด เนื่องจากมีสินค้าอุปโภคบริโภคจำนวนมากอยู่ในศูนย์การค้า ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี แต่เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงบริเวณศูนย์อาหารไว้ได้ ไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนของภัตตาคารและจุดขายสินค้าโอทอป เบื้องต้นไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เนื่องจากเป็นเวลาที่ปิดบริการแล้ว

 

มีรายงานว่าเมื่อเวลา 00.40 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้แล้ว แต่ยังต้องฉีดน้ำเลี้ยงไว้ ขณะที่หลังคาของอาคารได้ทรุดตัวลงมาบางส่วน เจ้าหน้าที่กั้นพื้นที่แล้ว ส่วนสาเหตุของเพลิงไหม้ครั้งนี้จะต้องรอเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้งในวันนี้

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์ โทร.02-2535000 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq01/2136163

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

e0cf79ea55bbecef62cdc5c73f4b1c8b.jpg

 

สาธุ ผู้ใหญ่ พี่น้อง เพื่อนพ้องนักลงทุนทุกท่านนะคะ

กำไร ปลอดภัย สุขกายใจ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ec2ead4a16c333f447fd4fe885398004.jpg

 

สวัสดีปีใหม่ มงคล ดีงาม

เดินทางไปเที่ยว เยี่ยมญาติพ่อแม่พี่น้อง สนุก ปลอดภัย นะคะ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...