ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ศูนย์วิจัยกสิกรฯเผยดัชนีภาวะเศรษฐกิจครัวเรือนร่วงต่อ-ต่ำสุดรอบ 4 เดือน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 เมษายน 2558 15:20:11 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยเดือน มี.ค.58 ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน(KR-ECI) อยู่ที่ 46.0 ลดลงจาก 46.3 ในเดือน ก.พ.58 และดัชนีคาดการณ์ที่สะท้อนมุมมองในช่วง 3 เดือนข้างหน้า(3-month Expected KR-ECI) อยู่ที่ 46.6 ลดลงจาก 46.9 จากเดือน ก.พ.58 โดยปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองมาสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน

 

 

 

"ความกังวลต่อภาระการชำระหนี้ สถานการณ์รายได้ และเงินออม ยังคงเพิ่มแรงกดดันต่อภาวะการครองชีพของครัวเรือนในหลายภาคส่วน ซึ่งทำให้ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน และดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ล่าสุดในเดือน มี.ค.58 ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สองมาสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน" เอกสารเผยแพร่ ระบุ

 

ขณะที่สถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงที่ผ่านมาค่อนข้างทรงตัว ยังไม่เพียงพอที่จะช่วยคลายความกังวลต่อภาวะการครองชีพของภาคครัวเรือน ซึ่งกำลังซื้อส่วนหนึ่งถูกลดทอนลงไปตามภาระหนี้ ขณะที่การฟื้นตัวของรายได้ในหลายๆ ส่วนยังต้องรออานิสงส์จากการขยายตัวของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาพรวม ซึ่งคาดหวังว่าจะเริ่มทยอยมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วงหลังจากนี้ หลังภาครัฐได้ผลักดันประกาศมาตรการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจออกมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอย และกระแสรายได้ของภาคครัวเรือนที่น่าจะยังไม่ฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจนภายในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ทำให้ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินว่า อัตราการขยายตัวของการบริโภคภาคเอกชนในปี 2558 อาจอยู่ในกรอบที่จำกัดมากขึ้นที่ร้อยละ 1.6-2.4 สะท้อนว่าอาจต้องใช้เวลาอีกระยะในการทยอยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

 

ดัชนีฯ ที่ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นสัญญาณที่สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ว่างงานในเดือน มี.ค.58 มาอยู่ที่ 1.0 และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ชะลอลงมาที่ร้อยละ 1.31 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 1 ปี ตอกย้ำว่า ภาวะการบริโภคภาคเอกชนโดยรวมยังไม่ได้รับแรงหนุนเข้ามากนักในเดือน มี.ค.58 แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะติดลบต่อเนื่อง และต้นทุนทางการเงินบางส่วนอาจปรับตัวลงตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท.ก็ตาม

 

หากเศรษฐกิจไทยทยอยมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจนมากขึ้นในช่วงหลายเดือนข้างหน้าก็น่าจะช่วยบรรเทาความกังวลต่อภาวะการครองชีพของภาคครัวเรือนลงไปบ้างบางส่วน โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงคาดการณ์ว่า แนวโน้มการฟื้นตัวของการบริโภคภาคเอกชนในปี 58 จะอยู่ในกรอบที่จำกัดที่ร้อยละ 1.6-2.4

 

โดยภาคครัวเรือนมีความกังวลมากขึ้นต่อภาวะการครองชีพในเดือน มี.ค.58 ซึ่งเพิ่มแรงกดดันให้ดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน(KR-ECI) และดัชนีคาดการณ์ที่สะท้อนมุมมองในช่วง 3 เดือนข้างหน้า(3-month Expected KR-ECI) ปรับตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง มาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ 46.0 และ 46.6 ในเดือนมี.ค. 2558 จากระดับ 46.3 และ 46.9 ในเดือนก.พ. 2558 ตามลำดับ โดยค่าดัชนี KR-ECI เดือน มี.ค.ที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 อย่างต่อเนื่อง ก็สะท้อนว่า ครัวเรือนในหลายภาคส่วนยังคงมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อบรรยากาศการใช้จ่ายท่ามกลางหลายปัจจัยที่กดดันสถานการณ์การครองชีพ

 

ส่วนความกังวลต่อภาระหนี้ สถานการณ์รายได้ และเงินออม ฉุดกำลังซื้อของภาคครัวเรือน แม้สถานการณ์อัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ติดลบร้อยละ 0.57 (YoY) และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานที่ชะลอลงมาแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีที่ร้อยละ 1.31 (YoY) อาจบ่งชี้ว่า ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคส่วนใหญ่ที่ยังไม่ได้ขยับขึ้นมากนัก น่าจะสามารถช่วยบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของครัวเรือนบางส่วนลง อย่างไรก็ดี สถานการณ์รายได้ที่ยังไม่ฟื้นตัวขึ้น(โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้ไม่สูงและค่อนข้างผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงครัวเรือนในภาคการเกษตร) ท่ามกลางความกังวลต่อภาวะการมีงานทำ ก็ส่งผลทำให้ภาคครัวเรือนมีมุมมองในเชิงลบมากขึ้นต่อภาระการชำระหนี้และสถานการณ์การออมทั้งในปัจจุบัน และต่อเนื่องในช่วง 3 เดือนข้างหน้า

 

ทั้งนี้ ดัชนีที่สะท้อนมุมมองต่อสถานการณ์รายได้ของครัวเรือนในเดือน มี.ค.58 (ซึ่งประกอบขึ้นจากมุมมองของครัวเรือนที่มีต่อภาวะการมีงานทำ และค่าตอบแทนจากการทำงาน) ปรับตัวลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีที่ 46.6 ขณะที่ดัชนีมุมมองต่อรายได้คาดการณ์ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ก็ลดลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่ 48.5 ซึ่งความกังวลที่เพิ่มมากขึ้นต่อสถานการณ์รายได้ของครัวเรือนนี้ ก็เป็นภาพที่สอดคล้องกับผลสำรวจภาวะการทำงานของประชากรของสำนักงานสถิติแห่งชาติที่พบว่า จำนวนผู้ว่างงานเพิ่มสูงขึ้นมาที่ 3.78 แสนคนในเดือน มี.ค.58 จากจำนวนผู้ว่างงาน 3.16 แสนคนในเดือน ก.พ.58 (ขณะที่ อัตราการว่างงานขยับขึ้นมาที่ร้อยละ 1.0 ในเดือน มี.ค. จากร้อยละ 0.8 ในเดือน ก.พ.)

 

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2132399

 

ดัชนี PMI ภาคบริการเยอรมนีเดือนมี.ค.ขยายตัวสูงสุดในรอบ 6 เดือน

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 เมษายน 2558 15:13:29 น.

ผลสำรวจระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของเยอรมนีในเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้นที่ 55.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน จาก 54.7 ในเดือนก.พ.

 

ดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะการขยายตัวของภาคบริการ ส่วนระดับที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคบริการหดตัวลง

 

กิจกรรมในภาคบริการของเยอรมนีมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องในช่วงสิ้นไตรมาสแรกปีนี้ โดยคำสั่งซื้อใหม่พุ่งขึ้นอย่างชัดเจน

 

นอกจากนี้ บริษัทต่างๆมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับกับความต้องการที่สูงขึ้น ขณะที่บริษัทในภาคบริการมีความเชื่อมั่นต่อแนวโน้มกิจกรรมทางธุรกิจในระดับสูงสุดนับแต่เดือนมี.ค.2554 หรือในรอบ 4 ปี

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2132391

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนี PMI ภาคบริการฝรั่งเศสเดือนมี.ค.ขยายตัวชะลอลง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 เมษายน 2558 15:00:46 น.

ผลสำรวจระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของฝรั่งเศสในเดือนมี.ค.ลดลงแตะ 52.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จาก 53.4 ในเดือนก.พ.

 

ดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะการขยายตัวของภาคบริการ ส่วนระดับที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคบริการหดตัวลง

 

กิจกรรมในภาคบริการของฝรั่งเศสขยายตัวเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกันในเดือนมี.ค. แต่อัตราการเติบโตต่ำกว่าในเดือนก.พ. ซึ่งสะท้อนถึงการขยายตัวที่ชะลอลงของธุรกิจใหม่

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq28/2132375

 

ดัชนี PMI ภาคบริการอิตาลีขยายตัวเพิ่มขึ้นในเดือนมี.ค.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 7 เมษายน 2558 15:10:51 น.

ผลสำรวจระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของอิตาลีในเดือนมี.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 51.6 จาก 50.0 ในเดือนก.พ. ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการเป็นครั้งที่ 2 ในช่วง 3 เดือน

 

ดัชนีที่สูงกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะการขยายตัวของภาคบริการ ส่วนระดับที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นว่ากิจกรรมภาคบริการหดตัวลง

 

บริษัทในภาคบริการของอิตาลีมีการปรับตัวดีขึ้นในช่วงสิ้นไตรมาสแรก ซึ่งเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับไตรมาส 2 โดยกิจกรรมทางธุรกิจขยายตัวในเดือนมี.ค. ขณะที่ตำแหน่งงานเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับแต่ปลายปี 2553

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq28/2132386

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 เมษายน 2558 07:50:35 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 เม.ย.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์อาจจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัทส่งออก ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,875.42 จุด ลดลง 5.43 จุด หรือ -0.03% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,910.23 จุด ลดลง 7.09 จุด หรือ -0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,076.33 จุด ลดลง 4.29 จุด, -0.21%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบ 10 สัปดาห์ ขานรับรายงานที่ระบุว่า ภาคบริการของยูโรโซนขยายตัวในเดือนมี.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1.6% ปิดที่ 404.34 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,151.19 จุด เพิ่มขึ้น 77.05 จุด หรือ +1.52% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,123.52 จุด พุ่งขึ้น 156.13 จุด หรือ +1.30% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,961.77 จุด เพิ่มขึ้น 128.31 จุด หรือ +1.88%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทะยานขึ้นเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดอีกครั้งหลังวันหยุดยาวในเทศกาลอีสเตอร์ โดยตลาดขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสจากอังกฤษและยูโรโซน

 

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 128.31 จุด หรือ 1.88% ปิดที่ 6,961.77 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยยอดการผลิตน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันพุธนี้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับขึ้น 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ ปิดที่ 59.1 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยมีการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะส่งสัญญาณเรื่องระยะเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 1,210.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 27 เซนต์ ปิดที่ 16.84 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 6.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,173.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 769 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) หลังจากช่วงวันหยุดยาว ขณะที่นักลงทุนยังคงเชื่อว่าดอลลาร์อยู่ในช่วงขาขึ้น ท่ามกลางกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนในสหรัฐ และตลาดรอดูรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0831 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0979 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4833 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4924 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.37 เยน เทียบกับระดับ 119.34 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9653 ฟรังก์ จาก 0.9556 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7639 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7626 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,875.42 จุด ลดลง 5.43 จุด -0.03%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,910.23 จุด ลดลง 7.09 จุด -0.14%

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,076.33 จุด ลดลง 4.29 จุด -0.21%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,961.77 จุด เพิ่มขึ้น 128.31 จุด +1.88%

 

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 12,123.52 จุด เพิ่มขึ้น 156.13 จุด +1.30%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,151.19 จุด เพิ่มขึ้น 77.05 จุด +1.52%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,641.90 จุด เพิ่มขึ้น 41.58 จุด +0.43%

 

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,640.54 จุด เพิ่มขึ้น 242.56 จุด +1.25%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,047.03 จุด เพิ่มขึ้น 0.60 จุด +0.03%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,893.20 จุด เพิ่มขึ้น 23.50 จุด +0.40%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,926.00 จุด เพิ่มขึ้น 27.40 จุด +0.46%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,961.38 จุด เพิ่มขึ้น 97.45 จุด +2.52%

 

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,523.29 จุด เพิ่มขึ้น 43.26 จุด +0.79%

 

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,856.51 จุด เพิ่มขึ้น 13.57 จุด +0.74%

 

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,465.62 จุด เพิ่มขึ้น 12.71 จุด +0.37%

 

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,516.59 จุด เพิ่มขึ้น 12.13 จุด +0.04%

 

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 8,098.68 จุด เพิ่มขึ้น 44.94 จุด +0.56%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2132705

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่า ขณะจับตารายงานประชุมเฟด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 เมษายน 2558 07:34:04 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) หลังจากช่วงวันหยุดยาว ขณะที่นักลงทุนยังคงเชื่อว่าดอลลาร์อยู่ในช่วงขาขึ้น ท่ามกลางกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนในสหรัฐ และตลาดรอดูรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

 

 

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0831 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0979 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4833 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4924 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.37 เยน เทียบกับระดับ 119.34 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9653 ฟรังก์ จาก 0.9556 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7639 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7626 ดอลลาร์

 

นักลงทุนคาดกันว่ารายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 17-18 มี.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ จะส่งสัญญาณมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ก่อนหน้านี้ ดอลลาร์สหรัฐเผชิญแรงกดดันจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

 

อย่างไรก็ตาม บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดยังคงมีมุมมองบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า สัญญาณชี้วัดในช่วงที่ผ่านมาเกี่ยวกับความอ่อนแอทางเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว โดยปัจจัยดังกล่าวนั้นรวมถึงสภาพอากาศที่เลวร้ายและข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่

 

ทางด้านนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา ระบุว่าภาวะอ่อนแอทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาอาจจะไม่ยืดเยื้อ

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า การเปิดรับสมัครงานพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานได้ชะลอตัวในเดือนที่แล้ว

 

กระทรวงรายงานว่า การเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 168,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 5.1 ล้านตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2554

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2132698

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดึ เพื่อน พี่น้อง

 

(เพิ่มเติม) เกิดเหตุไฟฟ้าดับทั่ววอชิงตันดีซี รวมถึงทำเนียบขาว

 

 

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 เมษายน 2558 07:57:59 น.

เกิดเหตุไฟฟ้าดับทั่วกรุงวอชิงตัน ดีซี ส่งผลให้ทำเนียบขาว กระทรวงต่างประเทศ อาคารรัฐสภา (Capitol) รวมถึงอาคารหน่วยงานรัฐบาลอื่นๆ อยู่ในความมืด

 

บริษัทเปปโค ผู้ให้บริการกระแสไฟฟ้าในเขตวอชิงตัน ดีซีเปิดเผยว่า "ก่อนเวลาประมาณ 13.00 น. เล็กน้อย (ตามเวลาท้องถิ่น) แรงดันไฟฟ้าตกชั่วขณะในเขตวอชิงตัน ดีซี เนื่องมาจากเกิดปัญหาที่สายส่งกระแสไฟ (transmission line)"

 

 

 

เปปโคยังระบุว่า ตามแผนที่บ่งชี้พื้นที่ไฟฟ้าดับ เมื่อเวลา 14.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ประชาชนประมาณ 2,500 คน ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว รวมถึงอาคารต่างๆ และพื้นที่สำนักงาน

 

นอกจากนี้ ทำเนียบขาว อาคารกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ อาคารรัฐสภา กระทรวงยุติธรรมและอาคารหน่วยงานรัฐบาลกลางอื่นๆ ได้รับผลกระทบจากเหตุไฟฟ้าดับด้วยเช่นกัน

 

ทั้งนี้ สื่อสหรัฐรายงานว่า เจ้าหน้าที่หลายรายของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิเชื่อว่า เหตุไฟดับดังกล่าวมีสาเหตุจากเหตุระเบิดที่หน่วยผลิตไฟฟ้ารัฐแมรี่แลนด์ แม้จะไม่มีความเป็นไปได้ว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อการร้ายหรือกลุ่มอาชญากรก็ตาม สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2132819

 

นายกฯลั่นไม่ปลดผบ.ตร.!ไฟเขียวตั้ง'รองสว.-ผบ.หมู่'

 

 

ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- พุธที่ 8 เมษายน 2558 00:00:54 น.

ไทยโพสต์ * เมื่อวันที่ 7 เม.ย. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวปลด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.ว่า ใครบอกจะปลด ข่าวมาจากไหน ตนไม่ได้เป็นคนปลด ใครเป็นคนปลด นายกฯ หรือเปล่า ใช่ไหม อำนาจนายกฯ หรือเปล่า นายกฯ ไม่ได้ปลด จบหรือยัง และไม่คิดจะปลดด้วย

 

 

 

"ยังไม่มีความผิดอะไรนี่นา ผบ.ตร.ก็มีการจับกุมดำเนินคดีตามนโยบายได้ตลอด อย่าไปเอาเรื่องนู้นเรื่องนี้มาพันกันไปมั่ว ไม่เอา เอางานของเขาว่าทำได้หรือเปล่า วันนี้เขาทำได้ มีคดีความอะไรก็จับได้ ค้ามนุษย์ก็จับได้ ข้าราชการมีตำรวจที่เกี่ยวข้องเขาก็จับมา ผมจะปลดเขาทำไม ถ้าไม่ทำหรือทำไม่ได้ก็จะปลด" นายกฯ กล่าว

 

วันเดียวกัน พล.ต.อ.สมยศมีบันทึกคำสั่งให้ทำบัญชีแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจระดับ รอง สว.-ผบ.หมู่ ประจำปี 2557 โดยกำหนดหลักเกณฑ์ให้เป็น การแต่งตั้ง กรณีร้องขอกลับ ภูมิลำเนาเพื่ออุปการะครอบ ครัว และกรณีหาประสบการณ์ ซึ่งมีเจตนารมณ์ที่จะให้มีการแต่งตั้งตามที่ร้องขอมาให้มากที่สุด หากไม่เกิดผลเสียหายแก่ทางราชการ

 

โดยหนังสือคำสั่งระบุว่า เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ข้าราชการตำรวจ เพื่อหาประ สบการณ์ในการปฏิบัติงาน อันจะส่งผลให้เกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานในภาพรวมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงให้หน่วยดำเนินการแต่งตั้งระดับ รอง สว.และ ผบ.หมู่ให้เสร็จสิ้น และมีคำสั่งแต่งตั้งพร้อมกันทุกหน่วยในวันที่ 18 พ.ค.58 โดยให้คำสั่งแต่งตั้งมีผลบังคับใช้พร้อมกันในวันที่ 22 พ.ค.58

 

คำสั่งระบุว่า ในกรณีที่หน่วยมีความประสงค์จะแต่งตั้งข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำ แหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งครั้งสุดท้ายไม่ครบ 2 ปี ทั้งกรณีเพื่อประโยชน์ของทางราชการหรือเพื่อมิให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ไม่อาจรอให้ครบกำหนดได้ หรือกรณีอื่นที่ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจาก ผบ.ตร.ก่อน ให้หน่วยชี้แจงเหตุผลความจำเป็นโดยละเอียด พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้องจัดทำบัญชีรายชื่อตามแบบที่กำหนด โดยให้ระบุตำแหน่งใหม่และเหตุผลความจำเป็นให้ชัดเจน

 

"ข้าราชการตำรวจที่ได้ รับการแต่งตั้งเลื่อนชั้นจาก ด.ต. ที่มีอายุ 53 ปีขึ้นไป เป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร เมื่อ 31 มี.ค. ปี 2557 สามารถแต่งตั้งสับเปลี่ยนหมุนเวียนได้โดยไม่ต้องเสนอ ตร.พิจารณาอนุมัติ กรณีดำรงตำแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งครั้งสุดท้ายไม่ครบ 2 ปี" คำสั่งระบุ.

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/tpd/2132784

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดทองปิดร่วง 8 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 เมษายน 2558 07:39:14 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยมีการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะส่งสัญญาณเรื่องระยะเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 1,210.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 27 เซนต์ ปิดที่ 16.84 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 6.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,173.90 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ ปิดที่ 769 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ 6 สกุลในตะกร้าเงินนั้น ปรับตัวขึ้น 0.62% แตะที่ 97.67 เมื่อวานนี้ ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์จะทำให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

 

นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่เฟดจะเผยแพร่รายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ในวันพุธนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะส่งสัญญาณเรื่องระยะเวลาของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

สำหรับความคิดเห็นล่าสุดของเจ้าหน้าที่เฟดนั้น นายนารายานา โคเชอร์ลาโคตา ประธานเฟดสาขามินเนอาโพลิสได้สนับสนุนให้เฟดรอจนกว่าจะถึงครึ่งปีหลังของปีหน้าเพื่อขึ้นอัตราดอกเบี้ย และค่อยๆปรับขึ้นทีละน้อยจนแตะระดับ 2% ในปลายปี 2560 หลังจากที่เฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% นับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2551

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2132699

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก $1.84 รับคาดการณ์สหรัฐผลิตน้ำมันน้อยลง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 เมษายน 2558 07:17:34 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลง โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยยอดการผลิตน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันพุธนี้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับขึ้น 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.98 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ ปิดที่ 59.1 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นเนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า ราคาน้ำมันดิบที่ยังคงเคลื่อนไหวในระดับต่ำนั้น อาจจะทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สอง

 

ส่วนในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ที่ผ่านมานั้น EIA ระบุว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 36,000 บาร์เรล แตะที่ 9.386 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานของเบเกอร์ ฮิวจ์ที่ระบุว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในสหรัฐ ณ วันที่ 2 เม.ย. ปรับตัวลง 20 แห่ง สู่ระดับ 1,028 แห่ง ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่า การที่ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมานั้น ทำให้กลุ่มผู้ผลิต shale oil ของสหรัฐลดปริมาณการผลิตลง

 

ตลาดยังคงได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ซาอุดิ อารามโก ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลซาอุดิอาระเบีย ได้ปรับขึ้นราคาน้ำมันประจำเดือนพ.ค.สำหรับลูกค้าในเอเชียอีก 30 เซนต์สหรัฐต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง

 

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวทำให้เทรเดอร์เชื่อมั่นวาจะช่วยหนุนอุปสงค์ให้ภูมิภาคให้สูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ ข่าวการปรับขึ้นราคาน้ำมันดิบของซาอุดิอาระเบียยังทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า อิหร่านอาจจะส่งออกน้ำมันได้เพิ่มขึ้น หลังจากที่ชาติตะวันตกได้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน ภายหลังจากอิหร่านยอมทำข้อตกลงด้านนิวเคลียร์

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2132689

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่า ขณะจับตารายงานประชุมเฟด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 เมษายน 2558 07:34:04 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) หลังจากช่วงวันหยุดยาว ขณะที่นักลงทุนยังคงเชื่อว่าดอลลาร์อยู่ในช่วงขาขึ้น ท่ามกลางกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนในสหรัฐ และตลาดรอดูรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

 

 

 

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0831 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0979 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4833 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4924 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.37 เยน เทียบกับระดับ 119.34 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9653 ฟรังก์ จาก 0.9556 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7639 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7626 ดอลลาร์

 

นักลงทุนคาดกันว่ารายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 17-18 มี.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ จะส่งสัญญาณมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ก่อนหน้านี้ ดอลลาร์สหรัฐเผชิญแรงกดดันจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้

 

อย่างไรก็ตาม บรรดาเจ้าหน้าที่เฟดยังคงมีมุมมองบวกเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟด สาขานิวยอร์ก กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า สัญญาณชี้วัดในช่วงที่ผ่านมาเกี่ยวกับความอ่อนแอทางเศรษฐกิจของสหรัฐเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราว โดยปัจจัยดังกล่าวนั้นรวมถึงสภาพอากาศที่เลวร้ายและข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่

 

ทางด้านนายเดนนิส ล็อคฮาร์ท ประธานเฟด สาขาแอตแลนตา ระบุว่าภาวะอ่อนแอทางเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาอาจจะไม่ยืดเยื้อ

 

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า การเปิดรับสมัครงานพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานได้ชะลอตัวในเดือนที่แล้ว

 

กระทรวงรายงานว่า การเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงาน เพิ่มขึ้น 168,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 5.1 ล้านตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.2554

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2132698

 

(REPEAT) เฟดมินเนอาโพลิสหนุนขึ้นดอกเบี้ยหลังปีหน้า ขณะรอศก.เข้าสู่ภาวะปกติ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 เมษายน 2558 06:41:19 น.

นายนารายานา โคเชอร์ลาโคตา ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินเนอาโพลิส กล่าวว่า จากการที่เศรษฐกิจสหรัฐยังคงต้องใช้เวลาอีกหลายปี กว่าที่อัตราเงินเฟ้อและการจ้างงานจะกลับสู่ระดับปกติ ดังนั้น เฟดจึงน่าจะสามารถรอต่อไปจนถึงปีหน้าสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

นายโคเชอร์ลาโคตาสนับสนุนให้เฟดรอจนกว่าจะถึงครึ่งปีหลังของปีหน้าเพื่อขึ้นอัตราดอกเบี้ย และค่อยๆปรับขึ้นทีละน้อยจนแตะระดับ 2% ในปลายปี 2017 หลังจากที่เฟดได้คงอัตราดอกเบี้ยใกล้ 0% นับตั้งแต่เดือนธ.ค.2008

 

อย่างไรก็ได้ ความเห็นของนายโคเชอร์ลาโคตาถือว่าตรงข้ามกับเจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึงนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ซึ่งมองว่าเฟดควรจะเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ เนื่องจากตลาดแรงงานกำลังปรับตัวดีขึ้น และกำลังส่งแรงหนุนต่ออัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2132687

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพุธที่ 8 เมษายน 2558 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 8 เมษายน 2558 09:57:44 น.

กรุงเทพฯ--8 เม.ย.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบระหว่าง 1,208-1,215 เหรียญ ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เองกลับมาแข็งค่าขึ้นบ้างเล็กน้อยเมื่อเทียบกับค่าเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0832 ยูโร/ดอลลาร์ ด้านเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อยอยู่ที่บริเวณ 32.55 บาท/ดอลลาร์ ราคาทองคำไทยก็เคลื่อนไหวกรอบแคบบริเวณ 18,550-18,650 บาท/บาททองคำ ขณะที่ SPDR ยังเป็นผู้เทขายทองคำออก โดยเมื่อวานนี้เทขายออกอีก 2.39ตัน ปัจจุบันเหลือการถือครองทองคำที่ระดับ 733.06 ตัน สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญในคืนนี้ น่าจะไม่สำคัญและส่งผลต่อราคาทองคำมากนัก

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิคระยะสั้นทองคำดูจะเป็น Sideways Up อย่างช้าๆ ตราบใดที่ราคายังยืนเหนือ 1,205 เหรียญได้ โดยที่มีแนวต้านสำคัญบริเวณ 1,215 แบะ 1,225 เหรียญตามลำดับ แนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,200 เหรียญซึ่งเป็นแนวรับทางจิตวิทยา ในวันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆระหว่าง 1,205-1,215 เหรียญเท่านั้น

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

กลยุทธ์ Sideways ในกรอบแคบๆตามการแกว่งของราคา ปรับพอร์ตสมดุล เนื่องจากตลาดทองคำไทยจะเข้าสู่ช่วงเทศกาลหยุดยาว “สงกรานต์” ในสัปดาห์หน้า

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position และ นักลงทุนที่ถือ Short Position

ทำกำไรระยะสั้นเป็นช่วงๆ ปรับพอร์ตให้เหมาะสมกับการแกว่งของตลาด

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ทำการบริหารพอร์ตให้สมดุล ไม่ถือสถานะข้างใดข้างหนึ่งมากจนเกินไป และไม่ใช้ Leverage มากนัก เนื่องจากใกล้เข้าสู่วันหยุดยาวของไทยในช่วงเทศกาล “สงกรานต์”

 

Gold Futures J15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,700 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,900 บาท

Gold Futures M15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,770 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,970 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2133057

 

เงินบาทเปิด 32.55/58 คาดทรงตัว รอผลประชุม BOJ-รายงานประชุม FED

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 เมษายน 2558 09:33:51 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.55/58 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.56/58 บาท/ดอลลาร์

 

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะยังทรงตัวเมื่อเทียบกับเมื่อวานที่เงินบาทค่อนข้างมีความผันผวน เพราะเงินบาทแข็งค่าในช่วงเช้าและกลับมาอ่อนค่าในช่วงบ่าย โดยวันนี้ยังไม่มีปัจจัยอะไรที่จะมีผลต่อค่าเงินมากนัก รอติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่น(BOJ) และรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน(FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ

 

 

 

"วันนี้บาทน่าจะทรงๆ เมื่อเทียบกับเมื่อวาน วันนี้ไม่มีปัจจัยอะไรเท่าไรนัก และคงจะเงียบๆ ไปอีก 2-3 วัน เพราะใกล้จะหยุดยาวแล้ว" นักบริหารเงิน ระบุ

 

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 32.45-32.65 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.00 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 119.55 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.0800 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0947 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารอยู่ที่ 32.5100 บาท/ดอลลาร์

 

- รัฐบาลแจงทูตนานาชาติใช้ ม.44 ยึดหลักสิทธิมนุษยชนสากลเคร่งครัด "วิษณุ" ย้ำจำเป็นต้องใช้ ก.ม.พิเศษควบคุม 5 กลุ่มเคลื่อนไหวป่วนไม่เลิก "ประยุทธ์" เบรกโหร คมช.หยุดจ้อนั่งยาว 3 ปี ลั่นไม่ได้อยากอยู่ ทุกอย่างเดินตามโรดแม็ป เรียกถกเครียดแม่น้ำ 5 สาย หวั่น รธน.ใหม่ล่มถูกแรงต้านใน-นอกประเทศรุมกระหน่ำ สั่งการบ้านช่วยหาทางออกถ้า รธน.คว่ำ แบไต๋หาก รธน.ไม่ผ่านต้องเริ่มทำใหม่ทั้งหมด บ่นอุบแก้ปัญหาประเทศได้ไม่ถึง 30 เปอร์เซ็นต์

 

- จีน-รัสเซียรุมจีบ ครม.เห็นชอบอนุมัติให้ "ประจิน" ลงนามในบันทึกความร่วมมือไทย-จีน ภายใต้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางรถไฟไทย "บิ๊กตู่" รับ "เมดเวเดฟ" เตรียมลงนามทวิภาคี 5 ฉบับ ลงทุนพลังงาน ยาเสพติด "ไพศาล" ชี้เป็นการปรับดุลความสัมพันธ์ไม่ให้อเมริกามาชี้หน้าบงการ ปูดอีกไม่กี่วันจะมีข่าวใหญ่ ขณะที่สื่อนอกจับตาการลงนามร่วมกันของสองประเทศ

 

- "ประยุทธ์" แจง กำลังเจรจาทั้งญี่ปุ่น-เกาหลี ปม ICAO หวังช่วยชี้แจงแทนไทย หลังจากส่ง จนท.ร่วมตรวจสอบ เผยตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติช่วงสงกรานต์กว่า 2 ล้านคน ส่วน "ประจิน" เผยยื่น 3 ข้อเสนอขอผ่อนผัน เล็งเสนอใช้มาตรา 44 แก้กฎหมายเดิม 25 ฉบับ สั่งเดินสายเร่งแจงจีน-ICAO สำนักงานใหญ่

 

- ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นจนมาอยู่ที่ระดับ 32 บาท/เหรียญสหรัฐ จาก 32.50 บาท/เหรียญสหรัฐ ส่งผลให้การส่งออกข้าวของไทยได้รับผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากราคาข้าวไทยจะเพิ่มขึ้นจากปกติตันละ 5-10 เหรียญสหรัฐ ทำให้เสียเปรียบประเทศคู่แข่ง จึงอยากให้รัฐบาลเข้ามาดูแลค่าเงินบาทอย่างเร่งด่วน

 

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (7 เม.ย.) หลังจากช่วงวันหยุดยาว ขณะที่นักลงทุนยังคงเชื่อว่าดอลลาร์อยู่ในช่วงขาขึ้น ท่ามกลางกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนในสหรัฐ และตลาดรอดูรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

 

- นักลงทุนคาดกันว่ารายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 17-18 มี.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ จะส่งสัญญาณมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

- กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า การเปิดรับสมัครงานพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานได้ชะลอตัวในเดือนที่แล้ว โดยการเปิดรับสมัครงาน ซึ่งเป็นมาตรวัดอุปสงค์ในตลาดแรงงานเพิ่มขึ้น 168,000 ตำแหน่ง สู่ระดับ 5.1 ล้านตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.54

 

- กระทรวงการคลังของญี่ปุ่น เปิดเผยรายงานเบื้องต้นว่า ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัดเดือนก.พ.อยู่ที่ 1.4401 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการเกินดุลติดต่อกันเป็นเดือนที่ 8 โดยในบรรดาองค์ประกอบหลักของดุลบัญชีเดินสะพัด การค้าระหว่างประเทศขาดดุลที่ 1.431 แสนล้านเยน

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับขึ้น 1.84 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 98 เซนต์ ปิดที่ 59.1 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2133021

 

พิษบาทแข็งดันราคาข้าวแพงลิ่ว

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์บ้านเมือง -- พุธที่ 8 เมษายน 2558 00:00:48 น.

ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยขณะนี้กำลังได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่าจากช่วงก่อนหน้านี้ที่ค่าเงินบาทอยู่ที่ 32.50 บาท/เหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 32 บาท/เหรียญสหรัฐ ทำให้ราคาส่งออกข้าวไทยแพงขึ้น 5-10 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่งผลต่อศักยภาพการแข่งขันด้านราคากับข้าวของประเทศคู่แข่ง ซึ่งต้องการให้รัฐบาลเข้ามาช่วยดูแลค่าเงินบาทอย่างเร่งด่วน

 

 

 

"สินค้าข้าวมีกำไรต่ำอยู่แล้ว ยิ่งต้องมาแข่งขันด้านราคาทำให้ไทยเสียเปรียบมาก เพราะปัญหาของค่าเงินบาทที่อยู่ดีก็แข็งค่าขึ้นมามาก แม้ว่าการแข็งค่าของค่าเงินบาททำให้ข้าวไทยแพงขึ้น 5-10 เหรียญสหรัฐ/ตัน แต่ก็ทำให้ประเทศผู้ซื้อตัดสินใจซื้อข้าวจากประเทศคู่แข่งด้วยส่วนต่างนี้ได้" ร.ต.ท.เจริญ กล่าว

 

ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวว่า มีแนวโน้มว่าการส่งออกข้าวไทยปีนี้อาจไม่ถึง 10 ล้านตัน ตามเป้าหมายที่สมาคมฯคาดการณ์ไว้ เนื่องจากการส่งออกข้าวไทยเผชิญปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน โดยเฉพาะปัญหาค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้ราคาข้าวไทยแพงขึ้นมา 10 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในขณะที่ค่าเงินของประเทศคู่แข่งส่งออกข้าวคือเวียดนามไม่เปลี่ยนแปลง รัฐบาลเวียดนามยังคงรักษาระดับค่าเงินไว้ได้อยู่

 

ทำให้ราคาข้าวแพงจึงแพงขึ้นมาอีกเมื่อเทียบกับราคาข้าวของเวียดนาม โดยราคาส่งออกข้าวไทยปัจจุบันอยู่ที่ 395-400 เหรียญสหรัฐ/ตัน ราคาส่งออกข้าวเวียดนามอยู่ที่ 360-365 เหรียญสหรัฐ/ตัน ราคาข้าวปากีสถานอยู่ที่ 345-350 เหรียญสหรัฐ/ตัน ส่งผลให้ราคาข้าวไทยห่างจากคู่แข่ง 40 เหรียญสหรัฐ/ตัน

 

นอกจากนี้ ยังพบว่าตลาดผู้ซื้อข้าวซบเซา เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจไม่ดี โดยเฉพาะตลาดแอฟริกาที่เป็นตลาดส่งออกข้าวนึ่งหลักของไทย เนื่องจากค่าเงินของกลุ่มประเทศในภูมิภาคแอฟริกาที่ผูกติดกับค่าเงินยูโร ซึ่งมีแนวโน้มค่าเงินลดลง ทำให้ประเทศในตลาดแอฟริกาหันไปซื้อข้าวจากประเทศที่มีราคาถูกกว่าข้าวไทย เช่น ปากีสถาน อีกทั้งตลาดหลักคือประเทศไนจีเรีย มีการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งใช้นโยบายที่จะลดการนำเข้าข้าวและหันมาปลูกข้าวเพื่อพึ่งพาตัวเองมากขึ้น ก็จะส่งผลให้มีการนำเข้าข้าวจากไทยลดลง

 

"หากจะส่งออกได้ 10 ล้านตัน แต่ละไตรมาสควรจะต้องส่งออกให้ได้ 2.5 ล้านตันขึ้นไป แต่ไตรมาสแรกไทยเพิ่งส่งออกข้าวได้แค่ 1.8-1.9 ล้านตัน และคาดว่าแนวโน้มส่งออกข้าวในไตรมาส 2 ก็ยังไม่ดีขึ้นเฉลี่ยน่าจะอยู่ใกล้เคียงกับไตรมาสแรก เนื่องจากการแข่งขันทางด้านราคาที่รุนแรงและสภาพตลาดซบเซา ซึ่งต้องมาลุ้นครึ่งปีหลังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นหรือไม่" นายชูเกียรติ กล่าว

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/bmnd/2132889

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลล์ปรับตัวที่กรอบล่างของ 120 เยน หลังบีโอเจคงนโยบายผ่อนคลายการเงิน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 เมษายน 2558 11:32:19 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวในช่วงแคบๆที่กรอบล่างของ 120 เยนที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวในช่วงเช้าวันนี้ หลังธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติคงนโยบายผ่อนคลายการเงินและการประเมินเศรษฐกิจในการประชุมวันนี้ ขณะที่นักลงทุนรอดูรายงานการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการเปิดเผยในวันนี้ เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของเฟด

 

 

 

ณ เที่ยงวันนี้ ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์ซื้อขายที่ระดับ 120.11-120.13 เยน เมื่อเทียบกับ 120.23-120.33 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 119.82-119.84 เยนที่ตลาดโตเกียว ณ เวลา 17.00 น. เมื่อวานนี้

 

ยูโรซื้อขายที่ระดับ 1.0833-1.0834 ดอลลาร์ และ 130.12-130.13 เยนเมื่อเทียบกับ 1.0810-1.0820 ดอลลาร์ และ 130.03-130.13 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 1.0920-1.0922 ดอลลาร์ และ 130.85-130.89 เยนที่ตลาดโตเกียวในช่วงบ่ายวานนี้

 

บีโอเจมีมติคงนโยบายผ่อนคลายการเงินและการประเมินเศรษฐกิจในการประชุมวันนี้ รวมทั้งมีมติเดินหน้านโยบายหลักในการเพิ่มฐานเงินที่อัตราราว 80 ล้านล้านเยนต่อปี ผ่านทางโครงการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่

 

ทั้งนี้ บีโอเจได้คงการประเมินเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งระบุว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวขึ้นในระดับปานกลาง

 

นักลงทุนคาดกันว่ารายงานการประชุมของเฟดประจำวันที่ 17-18 มี.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในวันนี้ จะส่งสัญญาณมากขึ้นเกี่ยวกับช่วงเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ศศิประภา อัครภูติ/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2133165

 

Xinhua Middle East news summary: กลุ่มกบฎทางเหนือของซีเรียถูกสังหาร

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 เมษายน 2558 11:04:42 น.

สำนักข่าวฟาร์สรายงานว่า กบฏ Jeish al-Adl นิกายสุหนี่ของอิหร่าน ได้สังหารตำรวจตระเวนชายแดนอิหร่าน 8 คนในจังหวัดซิสถานและบาลูชิสถาน ใกล้กับชายแดนปากีสถาน โดยกลุ่มกบฎดังกล่าวได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา

 

-- ทหารเลบานอนโจมตีนักรบจิฮัดเสียชีวิตสามคน และบาดเจ็บ 4 คน

-- กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนในซีเรีย ระบุว่า เหตุคาร์บอมบ์ที่กองบังคับการของกลุ่มกบฏซีเรียในแถบ Hawar al-Kalas จังหวัดอะเลปโป ภาคเหนือของซีเรียส่งผลให้กลุ่มกบฏจำนวน 40 คนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ภควรรณ วรสุชีพ/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2133136

 

ธนาคารโลกพร้อมแชร์ประสบการณ์ร่วมกับ AIIB หวังสร้างกลไกขับเคลื่อนศก.โลก

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 8 เมษายน 2558 11:16:00 น.

นายจิม ยอง คิม ประธานธนาคารโลก หรือ เวิลด์แบงก์ เปิดเผยว่า ทางธนาคารโลกเปิดรับธนาคารเพื่อการพัฒนารายใหม่ๆ เช่น ธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) ซึ่งมีจีนเป็นแกนนำ และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งใหม่ของกลุ่มประเทศ BRICS โดยพร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกับธนาคารเหล่านี้

 

 

 

ประธานธนาคารโลกมองว่า ธนาคารระดับพหุภาคีรายใหม่ดังกล่าวจะสามารถทำหน้าที่เป็นเป็นสะพานเชื่อมต่อช่องว่างด้านการระมทุนในหลายๆด้าน เช่น สาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน พลังงานและน้ำ

 

เขากล่าวว่า "เราคาดว่าโลกจำเป็นต้องใช้เงินเพิ่มราว 1-1.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในแต่ละปีเพื่อนำไปลงทุนในภาคโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนน สะพาน ทางรถไฟ ท่าอากาศยาน และโรงไฟฟ้า โดยภายในปี 2573 เรามีแนวโน้มว่าจะจำเป็นต้องใช้พลังงานเพิ่มอีก 40% ขณะที่มีทรัพยากรน้ำลดลงถึง 40% ซึ่งอาจย่ำแย่ลงกว่าเดิมเนื่องด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ"

 

ท่ามกลางบรรยากาศที่เหมาะสม ตลอดจนมีมาตรฐานด้านแรงงานและการจัดหาที่ดี ธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งใหม่ดังกล่าวนับว่ามีศักยภาพเพียงพอที่จะเป็นกลไกขับเคลื่อนใหม่ๆที่สำคัญ สู่การพัฒนาเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศยากจนในตลาดเกิดใหม่

 

ทั้งนี้ นายคิมกล่าวเสริมว่า ทางธนาคารโลกจะหารือกับเจ้าหน้าที่จีนและชาติอื่นๆ ในเรื่องของความร่วมมือระหว่างธนาคารโลกและ AIIB ในการประชุมประจำฤดูใบไม้ผลิในสัปดาห์หน้า สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2133148

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีคับ deb meng น้อย ตังเม Goldleng Google donga อยากเล่นด้วยคน เม่าน้อยกลอยใจ..

..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

วันนี้ทิศทางอยู่ในกรอบรอเทรดตามกรอบที่ 1206 - 1207 และ กรอบบนที่ 1214 - 1215 ประเด็น FOMC Minutes จะกดดันทองอยู่บ้าง ดักเอสเล่นสั้นระหว่างวัน

ทิศทางราคาทองยังคงอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยมีจุดเปลี่ยนอยู่บริเวณ 1200 แม้ว่าจะมีการประชุมนโยบายการเงินในคืนนี้ แต่ด้วยสถานการณ์จะยังบวกต่อทองอยู่ไม่มากก็น้อยจึงไม่คิดว่าหลังประชุมทองจะลงหนัก แต่ระหว่างรอฟังผลระหว่างวันจะทรงตัวในกรอบ แนะนำเทรดดิ้งในกรอบ 1206 - 1207 และ 1214 - 1215

เอสที่กรอบบน ปิดกลับซื้อที่กรอบล่าง โดยต้องระวังฟอร์มตัวจบแล้วเบรกกรอบ 1215 ไปเทสต์ 1225 หรือมากกว่านั้น

by Facebook.com/Wealthstation

8/4/58

 

 

 

 

11130428_865347200170423_6587226533103051208_o.png

11010583_865347193503757_5988732251158281169_o.png

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...