ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

สรุปภาวะตลาด Futures By GT Wealth Management 15 พ.ค.58 (ภาคบ่าย)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2558 17:03:42 น.

กรุงเทพฯ--15 พ.ค.--GT Wealth Management

ดัชนี SET50 ปิดบวก 9.80 จุด ปิดที่ระดับ 1,002.83 จุด ดัชนีปรับขึ้นเหนือ 1000 จุดอีกครั้ง โดยดัชนีปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯส่วนใหญ่ในสัปดาห์นี้ออกมาต่ำกว่าที่คาด ลดความกังวลต่อการที่ FED อาจขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด ขณะที่ราคาทองคำย่อตัวลง หลังเมื่อวานราคาทองพุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดรอบ 3 เดือน สวนทางกับราคาทองคำในประเทศซึ่งค่าเงินบาทเริ่มกลับมาอ่อนค่าอีกครั้ง คืนนี้ติดตามตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ และติดตาม GDP ไตรมาสแรกของไทย

 

 

 

ภาวะการซื้อขายระหว่างวัน คุณวราวุธ เบญจาพุทธารักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด กล่าวดัชนี SET50อาจมีทิศทางที่ชัดเจนมากขึ้นหลังจากที่มีการประกาศ GDP ไตรมาส 1 ของไทย ขณะที่ราคาทองคำยังคงต้องรอดูรายงายผลการประชุม FOMC ในกลางสัปดาห์หน้า

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2160486

 

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 15 พฤษภาคม 2558

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2558 17:00:00 น.

ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.75% ในการประชุมวันนี้

 

การตัดสินในคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ สอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด โดยตลาดคาดไว้ก่อนหน้านี้ว่า ธนาคารกลางจะประเมินผลกระทบของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งก่อน ท่ามกลางสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ

 

 

 

-- มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้หลายประเภทของธนาคารรายใหญ่ของสหรัฐ 3 แห่ง ซึ่งได้แก่ เวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค, แบงก์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน คอร์ป และสเตท สตรีท คอร์ป

 

-- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมาย ซึ่งจะเปิดโอกาสให้สภาคองเกรสสามารถทบทวนและปฏิเสธข้อตกลงนิวเคลียร์ร่วมกับอิหร่าน

 

สมาชิกรัฐสภาได้ลงคะแนน 400-25 เสียงเพื่อผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กำลังนำส่งเพื่อให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามาลงนามต่อไป โดยทางวุฒิสภาได้ผ่านร่างกฎหมายเดียวกันนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาด้วยคะแนน 98-1 เสียง

 

-- กลุ่มกบฎฮูตีในเยเมนเผยพร้อมที่จะหวนคืนสู่การเจรจา ตราบใดที่กองกำลังพันธมิตรภายใต้การนำของซาอุดิอาระเบียยุติการโจมตีทางอากาศ

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตัวแทนของกลุ่มฮูตีและอดีตประธานาธิบดีอาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ เปิดเผยว่า ทางกลุ่มพร้อมที่จะหวนคืนสู่การเจรจา ภายหลังจากที่ได้มีการระงับการโจมตีทางอากาศ และมองว่า ซาอุดิอาระเบียจะเป็นเจ้าภาพจัดการเจรจา

 

-- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า ตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 10.5% เมื่อเทียบรายปี แตะระดับ 9.61 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าระดับ 1.24 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนมี.ค.

 

-- สถานทูตสหรัฐในกรุงแคนเบอร์ร่า ประเทศออสเตรเลีย ออกประกาศเตือนภัยในระดับสูงเกี่ยวกับเหตุก่อการร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นในประเทศออสเตรเลีย

 

-- ทางการมาเลเซียเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาสแรกขยายตัว 5.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะขยายตัว 5.4% เนื่องจากการฟื้นตัวของการอุปโภคบริโภคและการลงทุนในภาคเอกชนยังคงเป็นปัจจัยหนุนอุปสงค์ภายในประเทศ

 

-- รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคญี่ปุ่นเดือนเม.ย.ปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน เนื่องจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายรายการ รวมถึงอาหาร ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเดือนดังกล่าว

 

-- นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่นเปิดเผยในงานแถลงข่าวว่า ตนหวังว่าจะได้เห็นญี่ปุ่นและสหรัฐเข้าร่วมกับธนาคารเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย (AIIB) ในท้ายที่สุด

 

-- นายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แสดงความเชื่อมั่นว่า ธนาคารจะบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ 2 % ถึงแม้ว่ามีเกิดเหตุการณ์ที่เหนือความคาดหมายบางประการ ซึ่งรวมถึง การร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ และการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่อ่อนแรงเกินคาด

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2160488

 

เจพี มอร์แกน คาดจีนมีโอกาสลดสัดส่วน RRR มากกว่าปรับลดดอกเบี้ย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2558 16:56:00 น.

วาณิชธนกิจเจพี มอร์แกน เชส คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางจีนจะลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 โดย มีความเป็นไปได้มากกว่าที่ธนาคารกลางจีนอาจจะปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR)

 

 

 

"โอกาสที่ธนาคารกลางจีนจะปรับลดสัดส่วน RRR มีมากกว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ย" นายจิง อุลริช กรรมการผู้จัดการสาขาเอเชียแปซิฟิกของเจพี มอร์แกนกล่าว

 

ปัจจุบัน สัดส่วน RRR หรือปริมาณเงินสดที่ธนาคารพาณิชย์จะต้องสำรองเอาไว้นั้น ถูกปรับลดลง 1% เมื่อเดือนที่แล้ว สู่ระดับ 18.5% ทั้งนี้ นายอุลริชกล่าวว่า สัดส่วน RRR ยังถูกปรับลงไม่มากพอ โดยคาดว่า RRR ควรจะถูกปรับลงครึ่งหนึ่ง หรือลดลงมาอยู่ที่ระดับ 10%"

 

"การปรับลด RRR จะช่วยอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่เศรษฐกิจ ทั้งในระบบเศรษฐกิจที่แท้จริงและระบบการเงิน ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้น นอกจากนี้ การที่อัตราดอกเบี้ยถูกปรับลดลงไปแล้ว 3 ครั้งนับตั้งแต่เดือนพ.ย. จึงคาดว่าความถี่ที่จะมีการปรับดอกเบี้ยลงอีกในช่วง 2-3 ไตรมาสข้างหน้านี้ มีน้อยลง" นายจิงกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2160481

 

มูดีส์ คาดการณ์ GDP ไทย Q1/58 โต 3.9% แนวโน้มยังไม่สดใส

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2558 16:50:03 น.

มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส คาดการณ์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสแรกของไทย ซึ่งมีกำหนดการเปิดเผยในวันจันทร์นี้ น่าจะขยายตัว 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่หดตัวลง

 

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังคงมีแนวโน้มที่ไม่สดใสเท่าไรนัก เนื่องจากการบริโภค ศักยภาพในการส่งออก และตัวเลขการใช้จ่ายนั้นอ่อนแรงลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆในกลุ่มอาเซียนแล้ว มูดีส์มองว่า เศรษฐกิจไทยน่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง

 

นอกจากนี้ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ของไทยยังปรับตัวลดลงเช่นกัน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคการเกษตร

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2160471

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ราคาทองฟิวเจอร์อ่อนตัววันนี้ หลังดอลล์แข็งทุบราคาร่วง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2558 20:09:45 น.

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลงในวันนี้ โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์

ณ เวลา 19.51 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 8.50 ดอลลาร์ หรือ 0.71% แตะ 1,216.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์ดีดตัวเกือบแตะระดับ 120 เยนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันขายเยน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังตลาดหุ้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้นวันนี้

 

 

 

ณ เวลา 19.15 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ดีดตัว 0.62% สู่ระดับ 119.88 เยน และพุ่งขึ้น 0.74% สู่ระดับ 1.1330 เทียบยูโร ขณะที่ยูโรร่วงลง 0.12% สู่ระดับ 135.81 เยน

 

การดีดตัวของตลาดหุ้นญี่ปุ่นช่วยหนุนดอลลาร์ จากการที่นักลงทุนเพิ่มความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง

 

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยบวกจากคำสั่งซื้อของกลุ่มผู้นำเข้าของญี่ปุ่น

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวก 0.57% เมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยบวกจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับต่ำ

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2160584

 

ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ร่วงวันนี้ เหตุดอลลาร์แข็งค่า,กังวลน้ำมันล้นตลาด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2558 20:00:42 น.

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวลงในวันนี้ จากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด

 

ณ เวลา 19.42 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 45 เซนต์ หรือ 0.75% แตะ 59.43 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

ดอลลาร์ดีดตัวเกือบแตะระดับ 120 เยนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนพากันขายเยน ซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย หลังตลาดหุ้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้นวันนี้

 

ณ เวลา 19.15 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์ดีดตัว 0.62% สู่ระดับ 119.88 เยน และพุ่งขึ้น 0.74% สู่ระดับ 1.1330 เทียบยูโร ขณะที่ยูโรร่วงลง 0.12% สู่ระดับ 135.81 เยน

 

การดีดตัวของตลาดหุ้นญี่ปุ่นช่วยหนุนดอลลาร์ จากการที่นักลงทุนเพิ่มความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง

 

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้ปัจจัยบวกจากคำสั่งซื้อของกลุ่มผู้นำเข้าของญี่ปุ่น

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 พ.ค.) หลังจากมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนเม.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันในตลาดที่สูงเกินไป

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2160583

 

เฟดเผยการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐร่วงลงเป็นเดือนที่ 5 ในเม.ย.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2558 20:45:52 น.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการร่วงลงเป็นเดือนที่ 5 หลังจากปรับตัวลง 0.3% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของภาคเหมืองแร่และสาธารณูปโภค

 

ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนเม.ย.ปรับตัวลงสู่ระดับ 78.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ในปีที่แล้ว จาก 78.6% ในเดือนม.ค.

 

เฟดระบุว่า ผลผลิตภาคการผลิต ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดของการผลิตในภาคอุตสาหกรรม ทรงตัวในเดือนเม.ย. แต่ผลผลิตในภาคเหมืองแร่ร่วงลง 0.8% และผลผลิตในภาคสาธารณูปโภคทรุดตัวลง 1.3%

 

ทั้งนี้ การผลิตภาคอุตสาหกรรมเป็นการประเมินผลผลิตในภาคการผลิต ภาคสาธารณูปโภคและภาคเหมืองแร่ของสหรัฐ

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq28/2160590

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 10 เซนต์ หลังดอลล์อ่อน,คาดเฟดไม่รีบขึ้นดบ.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 2558 07:21:12 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) เนื่องจากดอลลาร์ร่วงลง ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ ซึ่งทำนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเลื่อนการตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไป

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดบวก 10 เซนต์ หรือ 0.01% ที่ 1,225.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 9.8 เซนต์ ที่ 17.563 ดอลลาร์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดปรับขึ้น 6.7 ดอลลาร์ ที่ 1,169.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดดีดขึ้น 15.45 ดอลลาร์ ที่ 794.95 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลง ขณะที่นักวิเคราะห์ประเมินว่าข้อมูลเศรษฐที่ซบเซาจะส่งผลให้เฟดชะอลการปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไปอีก หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีกระแสคาดการณ์ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.นี้

 

เฟดเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการร่วงลงเป็นเดือนที่ 5 หลังจากปรับตัวลง 0.3% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของภาคเหมืองแร่และสาธารณูปโภค

 

ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนเม.ย.ปรับตัวลงสู่ระดับ 78.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ในปีที่แล้ว จาก 78.6% ในเดือนม.ค.

 

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเบื้องต้นของเดือนพ.ค.ลดลงมากกว่าคาด สู่ระดับ 88.6 จากตัวเลขขั้นสุดท้ายที่ 95.9 ในเดือนเม.ย. โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 96.0 ในเดือนพ.ค.

 

ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอได้หนุนความน่าดึงดูดใจของทอง และทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2160611

MTS Gold Evening News 2015.05.15

นักวิเคราะห์จาก HSBC กล่าวว่า การที่ราคาทองคำสามารถ Break เส้นค่าเฉลี่ย 200 วันไปได้ที่ระดับ 1,218 เหรียญ เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดการเข้าซื้อของนักลงทุนมากขึ้น

แต่อย่างไรก็ดี มีความเป็นไปได้ว่า โดยทางเทคนิคแล้วราคาทองคำยังเป็นแนวโน้มขาขึ้นอยู่ในขณะนี้ และถ้าราคาทองคำสามารถปิดเหนือ 1,228 เหรียญได้ จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้เกิดการเข้าซื้อได้ แต่อย่างไรก็ดีนักลงทุนควรจะจับตาไปที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถกำหนทิศทางของราคาทองคำได้

 

นักวิเคราะห์จาก MKS Group ระบุว่า การที่ราคาการที่ราคาทองคำปิดเหนือ 1,225 เหรียญได้ตามคาดการณ์ อาจจะเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดการเข้าซื้อทองคำได้ โดยในสัปดาห์นี้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 5 เดือน โดยคิดเป็น 2% เนื่องจาการอ่อนค่าลงของค่าเงินดอลลาร์ จากการที่ตัวเลขยอดค้าปลีกของสหรัฐอเมริกาที่ออกมาแย่กว่าที่คาดการไว้...

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บิ๊กตู่ใช้มาตรา 44 สั่งถอนสภาพที่ป่า 5 แปลงพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 2558 08:50:43 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ลงนาม ณ วันที่ 15 พ.ค. 2558 ในคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 17/2558 เรื่อง การจัดหาที่ดินเพื่อใช้ประโยชน์ในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ โดยมีผลให้มีการถอนสภาพที่ดิน 5 แปลง ให้มาเป็นที่ราชพัสดุ เพื่อใช้ในการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ ตามรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

 

 

ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้แถลงยุทธศาสตร์สำคัญ ๙ ด้าน เพื่อใช้เป็นหลักหรือแนวทางในการปฏิรูปและพัฒนาประเทศให้เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม และเกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยในยุทธศาสตร์ที่ ๕ การสร้างความเชื่อมโยงกับประเทศในภูมิภาคเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม จะผลักดันให้เกิดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษขึ้นโดยเร็ว เพื่อให้มีการกระจายความเจริญสู่ท้องถิ่นในพื้นที่ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ในการนี้จำเป็นต้องเร่งรัดกระบวนการเพื่อให้ได้มาซึ่งพื้นที่ที่จำเป็นต้องใช้ในการดำเนินการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ อันจะทำให้การดำเนินการตามยุทธศาสตร์ดังกล่าวสัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติเห็นเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติโดยความเห็นชอบของคณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงมีคำสั่ง ดังต่อไปนี้

 

ข้อ ๑ ในคำสั่งนี้

“คณะกรรมการ" หมายความว่า คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตามคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๗๒/๒๕๕๗ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ลงวันที่ ๑๙ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๕๕๗ ในกรณีที่ไม่มีคณะกรรมการดังกล่าวให้หมายถึงคณะรัฐมนตรีหรือคณะกรรมการที่คณะรัฐมนตรีกำหนด

 

“พื้นที่พัฒนา" หมายความว่า พื้นที่ภายในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษที่คณะกรรมการกำหนดขึ้นเพื่อใช้พัฒนาอุตสาหกรรม การพาณิชย์ การท่องเที่ยว หรือการอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อการจัดให้มีหรือส่งเสริมให้เกิดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ และหมายความรวมถึงพื้นที่ของนิคมอุตสาหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยที่อยู่ภายในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษด้วย

 

“เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ" หมายความว่า เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตาก เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษมุกดาหาร เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษสงขลาและเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตราด ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษฉบับที่ ๑/๒๕๕๘ เรื่อง กำหนดพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ลงวันที่ ๑๙ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ และเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษหนองคาย ตามประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษฉบับที่ ๒/๒๕๕๘ เรื่อง กำหนดพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ระยะที่ ๒ ลงวันที่ ๒๔ เมษายนพุทธศักราช ๒๕๕๘

 

ข้อ ๒ ให้ที่ดินดังต่อไปนี้ตกเป็นที่ราชพัสดุ โดยให้มีผลเป็นการเพิกถอนสภาพที่ดินต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

 

(๑) ที่ดินในท้องที่ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เฉพาะภายในแนวเขตตามแผนที่หมายเลข ๑/๘ ท้ายคำสั่งนี้ โดยให้มีผลเป็นการเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๙๔๕ (พ.ศ. ๒๕๒๔) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗และเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี และถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน

 

(๒) ที่ดินในท้องที่ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เฉพาะภายในแนวเขตตามแผนที่หมายเลข ๒/๘ ท้ายคำสั่งนี้ โดยให้มีผลเป็นการเพิกถอนเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี และเขตปฏิรูปที่ดินตามพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลคำป่าหลายตำบลบ้านโคก ตำบลดงมอน ตำบลกุดแข้ ตำบลโพนทราย ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหารตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี และตำบลหนองแวง อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดมุกดาหาร ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. ๒๕๓๖ และถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน

 

(๓) ที่ดินในท้องที่ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เฉพาะภายในแนวเขตตามแผนที่หมายเลข ๓/๘ ท้ายคำสั่งนี้ โดยให้มีผลเป็นการเพิกถอนป่าสงวนแห่งชาติตามกฎกระทรวงฉบับที่ ๒๔ (พ.ศ. ๒๕๐๗) ออกตามความในพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๗ และเขตป่าไม้ถาวรตามมติคณะรัฐมนตรี และถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน

 

(๔) ที่ดินในท้องที่ตำบลไม้รูด อำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด เฉพาะภายในแนวเขตตามแผนที่หมายเลข ๔/๘ ท้ายคำสั่งนี้ โดยให้มีผลเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน

 

(๕) ที่ดินในท้องที่ตำบลสระใคร อำเภอสระใคร จังหวัดหนองคาย เฉพาะภายในแนวเขตตามแผนที่หมายเลข ๕/๘ ท้ายคำสั่งนี้ โดยให้มีผลเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน

 

ข้อ ๓ ให้บรรดาที่ดินที่ตกเป็นที่ราชพัสดุตามคำสั่งนี้ และที่ดินอื่นที่คณะกรรมการกำหนดให้ใช้ประโยชน์ในการใช้เป็นพื้นที่พัฒนาในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษตามแผนที่หมายเลข ๖/๘แผนที่หมายเลข ๗/๘ และแผนที่หมายเลข ๘/๘ ท้ายคำสั่งนี้ ไม่อยู่ภายใต้บังคับข้อกำหนดเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์ที่ดินตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ทั้งนี้ จนกว่าจะมีการจัดทำผังเมืองรวมขึ้นใช้บังคับสำหรับที่ดินอันเป็นพื้นที่พัฒนาหลงจากมีการจัดตั้งพื้นที่พัฒนาแล้ว

 

การจัดตั้งพื้นที่พัฒนาตามวรรคหนึ่งให้หมายความถึงการจัดให้เช่าที่ดินตามข้อ ๖

ข้อ ๔ ในกรณีที่มีปัญหาเกี่ยวกับแนวเขตตามแผนที่ตามข้อ ๒ หรือข้อ ๓ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเสนอคณะกรรมการเพื่อวินิจฉัย คำวินิจฉัยของคณะกรรมการให้เป็นที่สุด

 

ข้อ ๕ ในกรณีที่เอกชนมีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองในที่ดินแปลงใดที่อยู่ภายในแนวเขตที่ดินตามแผนที่ตามข้อ ๒ อันเป็นเหตุให้ที่ดินที่ตกเป็นที่ราชพัสดุตามข้อ ๒ มีพื้นที่ไม่ต่อเนื่องเป็นผืนเดียวกันหรือมีลักษณะไม่สามารถใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ คณะกรรมการมีอำนาจสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการนำที่ดินอันเป็นที่ราชพัสดุดังกล่าวแลกเปลี่ยนกับที่ดินของเอกชนรายนั้นได้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนด และในกรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการจะสั่งให้ชดใช้เงินให้แทนการแลกเปลี่ยนที่ดินทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้

 

เอกชนตามวรรคหนึ่งให้หมายความรวมถึงวัดและรัฐวิสาหกิจด้วย

ที่ดินที่ไดมาตามวรรคหนึ่งให้ตกเป็นที่ราชพัสดุตามข้อ ๒

ข้อ ๖ ในการใช้ประโยชน์ที่ดินตามข้อ ๒ หรือที่ราชพัสดุอื่นในพื้นที่พัฒนา ให้กรมธนารักษ์จัดให้หน่วยงานของรัฐใช้ประโยชน์ หรือจัดให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หน่วยงานอื่นของรัฐหรือเอกชนเช่าเพื่อใช้เป็นพื้นที่พัฒนา ตามระยะเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข รวมทั้งอัตราค่าเช่าที่คณะกรรมการกำหนด

 

ระยะเวลาการเช่าตามวรรคหนึ่งต้องไม่น้อยกว่าคราวละห้าสิบปี และอาจต่อสัญญาอีกได้ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการกำหนดตามวรรคหนึ่ง โดยมิให้นำมาตรา ๕๔๐ แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับการให้เช่าตามวรรคหนึ่งไม่ถือเป็นการร่วมลงทุนตามกฎหมายว่าด้วยการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ

 

ให้นำความในวรรคหนึ่ง วรรคสอง และวรรคสาม มาใช้บังคับกับที่ดินตามข้อ ๓ ที่มิใช่เป็นที่ราชพัสดุด้วยโดยอนุโลม

 

ข้อ ๗ ผู้เช่าที่ดินตามข้อ ๖ มีสิทธินำไปให้เช่าช่วงหรือนำไปหาประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ได้และบรรดาสิ่งปลูกสร้างใดๆ ที่ผู้เช่าหรือผู้เช่าช่วงได้ปลูกสร้างขึ้น ให้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เช่าหรือผู้เช่าช่วง

 

เว้นแต่เป็นสิ่งปลูกสร้างที่ทำขึ้นเพื่อประโยชน์สาธารณะ

ข้อ ๘ ให้นำมาตรา ๖ และมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรม พ.ศ. ๒๕๔๒ มาใช้บังคับกับการเช่าหรือให้เช่าที่ดินในเขตพื้นที่พัฒนาด้วยโดยอนุโลม แต่ในการให้เช่าแม้จะเกินหนึ่งร้อยไร่ ก็ให้กระทำได้โดยไม่ต้องได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมที่ดินตามกฎหมายดังกล่าว

 

ข้อ ๙ บรรดาอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับมาจากการแลกเปลี่ยนตามข้อ ๕ ให้ได้รับยกเว้นค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมทั้งปวง และในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดให้ต้องเสียภาษีจากการได้มาหรือจากการแลกเปลี่ยนซึ่งอสังหาริมทรัพย์นั้น ให้ได้รับยกเว้นภาษีดังกล่าวด้วย

 

ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.02-2535000 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2160770

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 19 เซนต์ เหตุกังวลอุปทานสูงเกินไป

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 2558 07:00:06 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนแรงลงเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) ท่ามกลางความวิตกที่ว่าการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมาอาจจะส่งผลให้มีการผลิตเพิ่มมากขึ้น

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดปรับตัวลง 19 เซนต์ แตะที่ 59.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดเพิ่มขึ้น 11 เซนต์ ที่ 66.81 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

นักวิเคราะห์เชื่อว่าการดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ยังคงกระตุ้นให้มีการผลิตเพิ่มมากขึ้น

 

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า สหรัฐผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 5,000 บาร์เรล สู่ระดับ 9.374 ล้านบาร์เรล/วันในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งยังคงเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์

 

การผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ยของสหรัฐอยู่ที่ราว 9.3 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมี.ค. ขณะที่ EIA คาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันดิบเฉลี่ยของสหรัฐจะอยู่ที่ 9.2 ล้านบาร์เรล/วันทั้งในปีนี้และปีหน้า

 

อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงไม่มากนัก หลังจากบริษัท Baker Hughes เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จำนวนการขุดเจาะบ่อน้ำมันของสหรัฐในสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 15 พ.ค. ได้ลดลง 8 บ่อ เหลือ 660 บ่อ ซึ่งเป็นจำนวนน้อยที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

 

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ต่างรอดูการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นที่กรุงเวียนนาในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับปริมาณการผลิตน้ำมัน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2160610

 

ชี้‘ค่าเงินบาท’อ่อนต่อ ธปท.เชื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- เสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 2558 06:00:00 น.

“แบงก์ชาติ” ออกพันธบัตร 3.5 หมื่นล้านบาท ดูดซับสภาพคล่อง ให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ชี้แนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินบาทส่ออ่อนตัวต่อเนื่อง

 

นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ได้ออกพันธบัตร(บอนด์) ธปท.อายุไม่เกิน 15 วัน หรือออกพันธบัตร ธปท.รุ่น พ.14/14/58 ในวงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท อายุ 14 วัน และได้เปิดประมูลในวันที่ 15 พ.ค.2558 กำหนดชำระเงินในวันที่ 19 พ.ค.2558 และครบกำหนดในวันที่ 2 มิ.ย. 2558 ทั้งนี้การออกพันธบัตร ธปท.เป็นการดำเนินการบริหารสภาพคล่อง เพื่อดูดซับสภาพคล่องในระบบตามปกติให้มีปริมาณเพียงพอและเหมาะสมกับระดับ อัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันที่ 1.50%

 

 

 

มีรายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2558 ธปท. รายงานฐานะเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ล่าสุด ณ วันที่ 8 พ.ค. 2558 ที่ผ่านมา พบว่า อยู่ที่ระดับ 1.608 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 5.395 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเล็กน้อย หรือ 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 6,700 ล้านบาท หากคิดอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยในปัจจุบันที่ 33.50 บาท/เหรียญสหรัฐ จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1.606 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5.278 ล้านล้านบาท

 

ด้านฐานะซื้อเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าสุทธิ (Forward) คงที่อยู่ที่ระดับ 1.85 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ เท่ากับสัปดาห์ก่อนหน้า ส่งผลให้ทุนสำรองระหว่างประเทศสุทธิซึ่งรวมทุนสำรองฯและ Forward แล้ว อยู่ที่ระดับ 1.793 แสนล้านเหรียญสหรัฐ

 

ขณะที่ นักวิเคราะห์คาดว่าทุนสำรองประเทศที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย น่าจะสะท้อนการปล่อยให้อัตราแลกเปลี่ยน เคลื่อนไหวได้อย่างเสรีมากขึ้น โดยที่ธปท.ไม่เข้าไปดูแลแทรกแซงมากนัก ต่างจากอดีตที่ส่วนใหญ่ทุนสำรองเพิ่มสูงขึ้นมาต่อเนื่องกลายเป็นแรงกดดันให้เงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าในมุมมองนักลงทุนต่างชาติ เพราะมีทุนสำรองประเทศสูง

 

อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้เงินบาทปรับอ่อนค่าลงมาค่อนข้างมาก จากเดิมที่แข็งค่ามากสุดในภูมิภาคกลับมาอ่อนค่าลงเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาค ซึ่งมีส่วนช่วยหนุนเศรษฐกิจภาคส่งออกที่กำลังชะลอได้ โดยล่าสุดเคลื่อนไหวที่ระดับ 33.54 บาท/เหรียญสหรัฐ และมีโอกาสอ่อนค่าลงต่อเนื่อง

 

สำหรับฐานเงินหรือเงินสดหมุนเวียนในมือภาคเอกชนบวกเงินฝากของสถาบันการเงิน ที่ธปท. ในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1.509 ล้านล้านบาท ลดลง 8.2 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 1.591 ล้านล้านบาท แต่สภาพคล่องเงินสดในระบบยังมีเพียงพอต่อความต้องการใช้จ่ายของประชาชนที่ชะลอลง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2160713

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ร่วงเทียบยูโร หลังข้อมูลศก.สหรัฐแย่กว่าคาด

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 2558 07:37:55 น.

ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐได้หนุนคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนมิ.ย.ตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1461 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1399 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5725 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5770 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.29 เยน เทียบกับระดับ 119.22 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9144 ฟรังก์ จาก 0.9129 ฟรังก์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8047 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8069 ดอลลาร์

ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐในช่วงที่ผ่านมายังคงเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์ และจะส่งผลต่อการตัดสินใจของเฟดในการที่จะปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ

เฟดเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการร่วงลงเป็นเดือนที่ 5 หลังจากปรับตัวลง 0.3% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของภาคเหมืองแร่และสาธารณูปโภค

ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนเม.ย.ปรับตัวลงสู่ระดับ 78.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ในปีที่แล้ว จาก 78.6% ในเดือนม.ค.

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเบื้องต้นของเดือนพ.ค.ลดลงมากกว่าคาด สู่ระดับ 88.6 จากตัวเลขขั้นสุดท้ายที่ 95.9 ในเดือนเม.ย. โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 96.0 ในเดือนพ.ค.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 20.32 จุด หลังข้อมูลศก.แย่สกัดคาดการณ์เฟดขึ้นดบ.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 2558 06:31:20 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาย่ำแย่กว่าที่คาดได้สกัดกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 20.32 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 18,272.56 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 1.63 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 2,122.73 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 2.50 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 5,048.29 จุด

 

 

 

ธนาคารกลางสหรัฐเปิดเผยเมื่อคืนนี้ว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลง 0.3% ในเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นการร่วงลงเป็นเดือนที่ 5 หลังจากปรับตัวลง 0.3% ในเดือนมี.ค. ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% โดยได้รับแรงกดดันจากการปรับตัวลงของภาคเหมืองแร่และสาธารณูปโภค

 

ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตในเดือนเม.ย.ปรับตัวลงสู่ระดับ 78.2% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ในปีที่แล้ว จาก 78.6% ในเดือนม.ค.

 

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเบื้องต้นของเดือนพ.ค.ลดลงมากกว่าคาด สู่ระดับ 88.6 จากตัวเลขขั้นสุดท้ายที่ 95.9 ในเดือนเม.ย. โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีอยู่ที่ระดับ 96.0 ในเดือนพ.ค.

 

ทางด้านเฟดสาขานิวยอร์กรายงานวันนี้ว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ประจำเดือนพ.ค.ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.09 แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 5.0 ในเดือนพ.ค. หลังจากพุ่งแตะ 6.9 ในเดือนมี.ค.

 

ทั้งนี้ ดัชนีดาวโจนส์ยังคงปิดในแดนบวก เนื่องจากนักลงทุนประเมินว่าข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่ไม่มีความชัดเจนได้สร้างความกังขาเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ประเมินกันว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วงกลางปีนี้

 

หุ้น Netflix พุ่ง 4.50% จากข่าวที่ว่าบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทด้านสื่อของจีนรายหนึ่งเพื่อจะเข้าสู่ตลาดวิดีโอออนไลน์ของจีน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2160609

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อุตุฯ เตือน 17-21 พ.ค.เหนือ-กลาง-ตอ.-ใต้ฝั่งตต.มีฝนเพิ่ม กทม.มีฝน 30-40%

 

 

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 16 พฤษภาคม 2558 09:42:55 น.

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานลักษณะอากาศทั่วไปวันนี้ว่า ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย และอ่าวไทย มีกำลังอ่อนลง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง ในขณะที่ลมตะวันตกเฉียงใต้เริ่มพัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศ ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวจะยังคงมีฝนเป็นแห่งๆ ถึงกระจาย

 

 

 

ส่วนในช่วงวันที่ 17-21 พฤษภาคม 2558 ลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และด้านตะวันตกของประเทศไทย จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ด้านตะวันตกของภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมา ทะเลจะมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

 

สำหรับกรุงเทพฯ ในช่วงวันที่ 17-22 พ.ค. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-40 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.02-2535000 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq01/2160877

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พลิกแฟ้มคดี ป.ป.ช. เชือด ยิ่งลักษณ์ - สุเทพ - จุติ

 

โปรยห้องข่าวฉุกเฉินเย็นวันศุกร์ (15 พ.ค.)พลิกแฟ้มคดี ป.ป.ช. เชือด ยิ่งลักษณ์ - สุเทพ - จุติหลังจากที่มักจะถูกมองว่า ป.ป.ช. จงใจเล่นงานเฉพาะฝ่ายอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่ ล่าสุด ป.ป.ช. และอนุ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลใน 3 คดีสำคัญ ที่ผู้ถูกกล่าวหามีทั้ง...

WWW.NATIONTV.TV

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2558 06:16:03 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 พ.ค. 2558

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ (15 พ.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาย่ำแย่กว่าที่คาดได้สกัดกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 20.32 จุด หรือ 0.11% ปิดที่ 18,272.56 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับขึ้น 1.63 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 2,122.73 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 2.50 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 5,048.29 จุด

 

 

 

-- -ตลาดหุ้นยุโรปปิดอ่อนแรงลงเมื่อวันศุกร์ (15 พ.ค.) ในการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่น่าผิดหวังส่งผลให้สกุลเงินยูโรพุ่งขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์ และเป็นปัจจัยที่ฉุดหุ้นกลุ่มส่งออก

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.39% ปิดที่ 396.45 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปรับตัวลง 35.49 จุด หรือ 0.71% ปิดที่ 4,993.82 จุด ขณะที่ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ร่วงลง 112.79 จุด หรือ 0.98% ปิดที่ 11,447.03 จุด และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ติดลบ 12.55 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 6,960.49 จุด

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (15 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอมาอย่างต่อเนื่อง

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 12.55 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 6,960.49 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดอ่อนแรงลงเมื่อวันศุกร์ (15 พ.ค.) ท่ามกลางความวิตกที่ว่าการทะยานขึ้นของราคาน้ำมันในช่วงที่ผ่านมาอาจจะส่งผลให้มีการผลิตเพิ่มมากขึ้น

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดปรับตัวลง 19 เซนต์ แตะที่ 59.69 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดเพิ่มขึ้น 11 เซนต์ ที่ 66.81 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อวันศุกร์ (15 พ.ค.) เนื่องจากดอลลาร์ร่วงลง ท่ามกลางข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอ ซึ่งทำนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเลื่อนการตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยออกไป

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดบวก 10 เซนต์ หรือ 0.01% ที่ 1,225.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดเพิ่มขึ้น 9.8 เซนต์ ที่ 17.563 ดอลลาร์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดปรับขึ้น 6.7 ดอลลาร์ ที่ 1,169.10 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ปิดดีดขึ้น 15.45 ดอลลาร์ ที่ 794.95 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อวันศุกร์ (15 พ.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐได้หนุนคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนมิ.ย.ตามที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินไว้ก่อนหน้านี้

 

ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1461 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1399 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5725 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5770 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.29 เยน เทียบกับระดับ 119.22 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9144 ฟรังก์ จาก 0.9129 ฟรังก์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8047 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8069 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,272.56 จุด เพิ่มขึ้น 20.32 จุด, +0.11%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,048.29 จุด ลดลง 2.51 จุด, -0.05%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,122.73 จุด เพิ่มขึ้น 1.63 จุด, +0.08%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,993.82 จุด ลดลง 35.49 จุด, -0.71%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,447.03 จุด ลดลง 112.79 จุด, -0.98%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,960.49 จุด ลดลง 12.55 จุด, -0.18%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,324.00 จุด เพิ่มขึ้น 117.94 จุด, +0.43%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,463.10 จุด เพิ่มขึ้น 7.32 จุด, +0.21%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,811.92 จุด เพิ่มขึ้น 4.37 จุด, +0.24%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,227.10 จุด ลดลง 19.03 จุด, -0.36%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,822.28 จุด เพิ่มขึ้น 535.73 จุด, +1.96%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,881.95 จุด เพิ่มขึ้น 50.51 จุด, +0.64%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 4,308.69 จุด ลดลง 69.62 จุด, -1.59%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,735.50 จุด เพิ่มขึ้น 38.90 จุด, +0.68%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,106.50 จุด ลดลง 13.83 จุด, -0.65%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,732.92 จุด เพิ่มขึ้น 162.68 จุด, +0.83%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,579.48 จุด ลดลง 31.35 จุด, -0.33%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2161188

 

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดบวก 33.24 จุด รับยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพุ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2558 07:22:35 น.

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดบวก 33.24 จุด หรือ +0.17% แตะที่ 19,766.16 จุดในวันนี้ เพราะได้แรงหนุนจากรายงานของรัฐบาลญี่ปุ่นที่เปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนในเดือนมี.ค. ปรับตัวขึ้น 2.9% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 8.694 แสนล้านเยน

ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักร ซึ่งไม่นับรวมเครื่องจักรสำหรับเรือและด้านสาธารณูปโภคที่มีความผันผวนนั้น ถือเป็นปัจจัยบ่งชี้การใช้จ่ายด้านทุนในอนาคตของบริษัทเอกชน

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ซาอุฯผนึกกองกำลังพันธมิตรเปิดฉากโจมตีทางอากาศรอบใหม่ต่อกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2558 06:57:35 น.

กองกำลังพันธมิตรภายใต้การนำของซาอุดิอาระเบียได้เริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเมืองเอเดนของเยเมนอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายที่จะโจมตีกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงระยะเวลา 5 วันครบกำหนด

 

ทั้งนี้ เครื่องบินรบของกองกำลังพันธมิตรได้ทิ้งระเบิดที่ทำเนียบประธานาธิบดีซึ่งถูกยึดครองโดยกลุ่มกบฎฮูตี แม้ว่านายอิสมาอิล อูล ชีค อาห์เหม็ด ทูตยูเอ็นประจำเยเมนได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยืดระยะเวลาการหยุดยิงออกไปก็ตาม

 

นายอิสมาอิลกล่าวว่า ควรจะมีการทำข้อตกลงหยุดยิงอย่างถาวร เพื่อยุติการกระทำที่รุนแรง

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ข้อตกลงหยุดยิงระยะเวลา 5 วันซึ่งซาอุดิอาระเบียเป็นผู้ริเริ่มนั้น ได้เริ่มขึ้นเมื่อคืนวันอังคารและสิ้นสุดลงเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยข้อตกลงดังกล่าวได้ช่วยเปิดทางให้ยูเอ็นสามารถนำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังเยเมน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2161192

 

'เลขาฯยูเอ็น'ต่อสายตรงคุย'บิ๊กตู่' หารือแนวทางแก้ปัญหา'โรฮีนจา'

 

 

ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2558 14:32:00 น.

17 พ.ค.58 พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค ในฐานะทีมโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา นายบัน คี มูน เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้โทรศัพท์ถึง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอ นายกรัฐมนตรี เพื่อสอบถามและแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์การอพยพของชาวโรฮีนจา โดยแสดงความเห็นว่า คนเหล่านี้ควรจะต้องได้รับการปฏิบัติอย่างสมศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และมีสิทธิขั้นพื้นฐานในการใช้ดำรงชีวิต ซึ่ง นายกฯ ได้กล่าวแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์เช่นกัน และได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าตรวจและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงการจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจเพื่อดูแลบริเวณน่านน้ำไทย

 

 

 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเมื่อมีการตรวจพบเรือชาวโรฮีนจา ทางเจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบในเบื้องต้นถึงสภาพเรือ ความเป็นอยู่ พร้อมสอบถามความต้องการและเจตนารมณ์ของคนเหล่านี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม และตามความสมัครใจของคนเหล่านั้น เช่น กรณีล่าสุด เจ้าหน้าที่ไทยได้รับการร้องขอให้ช่วยเรื่องการซ่อมเรือ พร้อมทั้งขอสนับสนุนช่วยเหลือเรื่องอาหาร และน้ำเพื่อบริโภค อุปโภค ยารักษาโรค และน้ำมันเพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศที่สาม ตามความสมัครใจของคนเหล่านั้น ยืนยันด้วยว่า การทำงานของหน่วยเฉพาะกิจเป็นไปตามขั้นตอน โดยมุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเป็นลำดับแรก จากนั้นจะสอบถามความสมัครใจของชาวโรฮีนจา ซึ่งการปฏิบัติของไทยนอกจากจะอยู่บนพื้นฐานหลักมนุษยธรรมแล้ว ยังเป็นไปตามหลักกฏหมายสากล กฏหมายทางทะเลและกฏหมายระหว่างประเทศอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

 

อย่างไรก็ตาม นายกฯ ย้ำว่า ทุกประเทศต่างก็มีกฏหมายของตนในการปฏิบัติต่อสถานการณ์ดังกล่าว ดังนั้น การดำเนินการใดๆ จะต้องคำนึงถึงเรื่องเหล่านี้ด้วย

 

ขณะที่ เลขาฯ ยูเอ็น ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทย และสอบถามถึงการประชุมวาระพิเศษ เรื่องการโยกย้ายถิ่นฐานอย่างไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย พร้อมกันนี้ได้กล่าวชื่นชมว่าเป็นความริเริ่มที่สำคัญของไทย ในการแสวงความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหา ซึ่ง นายกฯ ได้อธิบายว่า รัฐบาลไทยตระหนักดีถึงความเร่งด่วนในเรื่องนี้ และเห็นว่าการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกประเทศและทุกองค์กรที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสหประชาติที่ต้องมีบทบาทสำคัญในการประสานความร่วมมือ โดยนายกฯ ได้ขอให้สหประชาชาติให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาความยากจน เน้นการพัฒนาขั้นพื้นฐาน เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยหวังให้คนเหล่านี้สามารถดำรงชีวิตได้ตามสิทธิขั้นพื้นฐาน

 

นอกจากนี้ เห็นว่าการประชุมร่วมของ 15 ประเทศ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 29 พ.ค.นี้ น่าจะเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง เพื่อแสวงหาแนวทางและข้อสรุปของการแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ ที่สำคัญกว่านั้น เวทีนี้จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของอาเซียน ในการแสดงความรับผิดชอบต่อมวลมนุษยชาติ

 

อย่างไรก็ตาม ตอนท้ายของการพูดคุยดังกล่าว นายกฯ ยังได้ขอให้ เลขาฯ ยูเอ็น ช่วยทำความเข้าใจกับองค์กรต่างๆ ให้ดำเนินการเรื่องนี้อย่างรอบคอบ เน้นความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาทางสังคม ตามหลักมนุษยธรรมบนพื้นฐานของกฏหมายที่กล่าวมาแล้วข้างต้น และหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่ก่อให้เกิดความข้ดแยังทางการเมือง ซึ่ง เลขาฯ ยูเอ็น กล่าวพร้อมสนับสนุนแนวความคิดนี้ และพร้อมร่วมมือเพื่อให้การประชุมของ 15 ประเทศ ประสบผลสำเร็จรวม ทั้งขอบคุณ นายกฯ รัฐบาลไทย และอาเซียน ด้วย

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2161149

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กลุ่ม IS เข้าควบคุมเมืองรามาดีของอิรักไว้ได้ทั้งหมดแล้ว

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2558 09:19:00 น.

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเปิดเผยว่า กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ควบคุมเมืองรามาดี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัดอันบาร์ในอิรักได้ทั้งหมดแล้ว หลังกองกำลังความมั่นคงอิรักถอนทหารออกจากฐานที่มั่น

 

แหล่งข่าวระบุว่า กองทหาร ซึ่งประจำการอยู่ที่กองบัญชาการ 8th Brigade ในทางเหนือของรามาดี ได้ถอนกำลังออกมาในพื้นที่ตะวันตกของรามาดีราว 160 กิโลเมตร และกลุ่มหัวรุนแรงได้เข้ายึดกองบัญชาการดังกล่าว

 

 

 

ทั้งนี้ กลุ่ม IS ปะทะกับกองกำลังความมั่นคงอย่างดุเดือด และร่วมมือกับกลุ่มหัวรุนแรงชนเผ่านิกายสุหนี่ในทางเหนือของรามาดีเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา จากนั้นได้เข้าควบคุมเมืองทั้งหมด หลังกองกำลังความมั่นคงถอนทหารออกจาก 8th Brigade ซึ่งเป็นกองบัญชาการใหญ่ของกองทัพ

 

แหล่งข่าวเสริมว่า กลุ่ม IS ได้กักตัวประชาชนหลายร้อยครัวเรือนที่ไม่สามารถหลบหนีทันไว้ด้วย

 

กลุ่ม IS สามารถเข้ายึดพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดอันบาร์ ซึ่งเป็นจังหวัดที่ใหญ่ที่สุดของอิรักได้แล้ว และพยายามรุกคืบสู่กรุงแบกแดด แต่การปะทะกับกองกำลังความมั่นคงและกลุ่มชีอะห์หลายครั้ง ส่งผลให้กลุ่ม IS ต้องล่าถอยไป

 

สถานการณ์ความรุนแรงในอิรักย่ำแย่ลงอย่างมากนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว เมื่อเกิดการต่อสู้กันอย่างดุเดือดระหว่างกองกำลังความมั่นคงอิรักและกลุ่ม IS สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2161430

 

ทูต UN เรียกร้องให้ต่อเวลาการหยุดยิงในเยเมนออกไปอีก 5 วัน

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2558 08:57:24 น.

นายอิสมาอิล อุลด์ ชีคห์ อาเหม็ด ทูตองค์การสหประชาชาติ (UN) ประจำเยเมนได้เรียกร้องให้กองกำลังภายใต้การนำของซาอุดิอาระเบียและพรรคการเมืองของเยเมนขยายระยะเวลาในการยุติการสู้รบออกไปอีก ขณะที่ข้อตกลงหยุดยิงเป็นเวลา 5 วันได้สิ้นสุดลงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทูต UN ประจำเยเมน กล่าวสุนทรพจน์ในระหว่างพิธีเปิดการประชุมที่กรุงริยาดห์ว่า "ผมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายขยายระยะวลาหยุดยิงออกไปอีก 5 วันเป็นอย่างน้อยที่สุด" โดยระบุว่าข้อตกลงหยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมควรจะเปลี่ยนไปสู่ข้อตกลงหยุดยิงอย่างถาวร เพื่อยุติความรุนแรงในทุกรูปแบบ

 

ทั้งนี้ ข้อตกลงหยุดยิงได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อคืนวันอังคารที่แล้ว เพื่อเปิดทางให้ยูเอ็นให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวเยเมน

 

ทางด้านประธานาธิบดีเยเมนได้เน้นย้ำว่า การประชุมที่กรุงริยาดห์จัดขึ้นเพื่อชาวเยเมนทั้งหมด และ "เราจะได้รับชัยชนะในไม่ช้านี้"

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2161416

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะ Gold Futures By GT Wealth Management 18 พ.ค. 58 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2558 10:29:27 น.

กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำปิดที่ระดับ US$ 1,223.10 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ (Gold Spot) เข้าใกล้จุดสูงสุดในรอบ 3 เดือนที่ US$1,227.04 โดยแรงหนุนมาจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาลดลงที่ 88.6 จุดในเดือนพ.ค. จาก 95.9 จุดในเดือน เม.ย. ถือเป็นจุดต่ำสุดตั้งแต่เดือนต.ค. และดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงที่ 0.3% จากที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ตัวเลขสหรัฐฯที่ต่ำส่งผลต่อการคาดการณ์ว่า เฟดจะยังไม่ปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงที่ 33.47 บาท/ดอลลาร์ วันนี้ติดตามดัชนีสำรวจการสร้างบ้าน NAHB สหรัฐฯ สัปดาห์นี้ติดตามรายงานผลการประชุม FOMC ในคืนวันพุธและอัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯในช่วงปลายสัปดาห์ SPDR รายงานการถือครองทองคำที่ระดับ 723.91 ไม่เปลี่ยนแปลง

 

 

 

ราคาทองคำโลกเช้านี้ (Gold Spot) เคลื่อนไหวบริเวณ US$1,225 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนมิถุนายน 2558 (GFM15)ราคาเปิดใกล้ระดับ 19,530 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 19,300 บาท ราคาเสนอขาย 19,400 บาท

 

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงอ่อนแอต่อเนื่องส่งผลให้ราคาทองคำมีโอกาสฟื้นตัว แต่ค่าเงินบาทอาจจะมีการปรับตัวแข็งค่าขึ้นระยะสั้นหลังการรายงานตัวเลข GDP ไตรมาสแรกของไทยอยู่ที่ระดับ 3% ซึ่งถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ค่อนข้างดี ราคาทองคำในตลาดโลกมีแนวรับ US$1,200 แนวต้าน US$1,230

 

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

TEL : 02-673-9911

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2161616

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2558 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2558 10:30:38 น.

กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในรอบ 8 สัปดาห์บริเวณ 1,226 เหรียญ ทำให้ทองคำไทยเองยังคงอยู่ในแดนบวกแม้เงินบาทจะปรับตัวแข็งค่าลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจในคืนวันศุกร์ออกมาไม่ดีนัก อันได้แก่ Empire State Manufacturing Index, Prelim UoM Consumer Sentiment และ TIC Long Term Purchases ขณะที่ SPDR ถือครองทองคำเท่าเดิมที่ระดับ 723.91 ตัน สำหรับคืนนี้ไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญใดๆ

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิคระยะสั้น ทองคำเริ่มยืนอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยราย 100 วัน และ 200 วันได้ ทำให้ภาพรวมในระยะสั้นเป็นแนวโน้มขาขึ้น ความชัดเจนคงจะต้องขึ้นกับว่าในช่วง 2-3 วันนี้ จะสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,225 เหรียญได้หรือไม่ ซึ่งหากยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,225 เหรียญได้ก็จะเข้าสู่แนวโน้มขาลงโดยสมบูรณ์ โดยบริเวณ 1,230 เหรียญจะเป็นแนวต้านที่สำคัญต่อไป วันนี้คาดว่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,205 – 1,230 เหรียญ ขณะที่ทองคำไทยเองยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น โดยมีแนวรับที่ระดับ 19,100 บาท/บาททองคำ และแนวต้านที่ระดับ 19,450 บาท/บาททองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

กลยุทธ์ในทิศทางขาขึ้น ในลักษณะลงซื้อขึ้นขาย เก็งกำไรเป็นระยะสั้นไปก่อน

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ 1,205-1,230 เหรียญ

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ซื้อปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ เข้า-ออกไว เก็งกำไรระยะสั้น

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ภาพหลักยังเป็นทิศทางขาลง ซึ่งหากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,225 เหรียญได้ในช่วง 2-3 วันทำการจากนี้ ก็จะเข้าสู่ขาลงโดยสมบูรณ์

 

Gold Futures M15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,410 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,610 บาท

Gold Futures Q15 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,480 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,680 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2161619

 

Xinhua world news summary: ซาอุฯเปิดศึกถล่มฮูตีรอบใหม่ หลังข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุด

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2558 09:45:00 น.

เครือข่ายรายงานข่าวเชิงสืบสวนแห่งบอลข่านรายงานว่า ประชาชนหลายพันคนได้รวมตัวกันหน้าอาคารรัฐบาลในกรุงสโกเปีย ประเทศมาเซโดเนียวานนี้ เพื่อประท้วงต่อต้านรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนิโกลา กรูเอฟสกี

 

-- แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเปิดเผยว่า กลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ควบคุมเมืองรามาดี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของจังหวัดอันบาร์ในอิรักได้ทั้งหมดแล้ว หลังกองกำลังความมั่นคงอิรักถอนทหารออกจากฐานที่มั่น

 

 

 

แหล่งข่าวระบุว่า กองทหาร ซึ่งประจำการอยู่ที่กองบัญชาการ 8th Brigade ในทางเหนือของรามาดี ได้ถอนกำลังออกมาในพื้นที่ตะวันตกของรามาดีราว 160 กิโลเมตร และกลุ่มหัวรุนแรงได้เข้ายึดกองบัญชาการดังกล่าว

 

--นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู และประธานาธิบดีริวเวน ริฟลินของอิสราเอลกล่าวให้คำมั่นจะขจัดการเหยียดผิวและการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มชาวยิวเอธิโอเปีย โดยทั้งคู่เปิดเผยในพิธีรำลึกโศกนาฎกรรมชาวยิวเอธิโอเปียเสียชีวิตราว 4,000 ราย หลังพยายามลี้ภัยเข้ามาในอิสราเอลในยุค 80

 

พิธีการดังกล่าวมีขึ้นในระหว่างที่ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาชาวยิวเอธิโอเปียรวมตัวกันประท้วงทั่วอิสราเอล เพื่อคัดค้านความรุนแรงและการเหยียดสีผิวของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

 

-- กองกำลังพันธมิตรภายใต้การนำของซาอุดิอาระเบียได้เริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในเมืองเอเดนของเยเมนอีกครั้ง โดยมีเป้าหมายที่จะโจมตีกลุ่มกบฎฮูตีในเยเมน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไม่นานหลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงระยะเวลา 5 วันครบกำหนด

 

ทั้งนี้ เครื่องบินรบของกองกำลังพันธมิตรได้ทิ้งระเบิดที่ทำเนียบประธานาธิบดีซึ่งถูกยึดครองโดยกลุ่มกบฎฮูตี แม้ว่านายอิสมาอิล อูล ชีค อาห์เหม็ด ทูตยูเอ็นประจำเยเมนได้เรียกร้องให้ทุกฝ่ายยืดระยะเวลาการหยุดยิงออกไปก็ตาม

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2161579

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าผันผวน หลังตัวเลขศก.สหรัฐฯไม่ดี แต่ราคาน้ำมันดีดขึ้น

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2558 09:26:23 น.

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะผันผวน เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาไม่ดีหลายตัว ไม่ว่าจะเป็นตัวเลขภาคอุตสาหกรรมม, อัตราการใช้กำลังการผลิต และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ต่างลดลง

 

แต่ตลาดฯคงจะไม่ปรับตัวลงมาก เนื่องจากล่าสุดมีข่าวทางซาอุดิอาระเบียได้โจมตีทางอากาศในกรุงเยเมน ทำให้ราคาน้ำมันดีดตัวขึ้นสูงขึ้นยืนเหนือ 60 เหรียญฯ/บาร์เรลอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นผลดีต่อหุ้นในกลุ่มพลังงาน

 

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้ติดตามวันนี้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์)จะประกาศตัวเลข GDP ซึ่งตลาดคาดฯจะออกมาไม่ดี เนื่องจากตัวเลขส่งออกไม่ดี และการบริโภคก็ชะลอ

 

พร้อมให้กรอบแกว่งไว้ที่ 1,500-1,520 จุด

 

 

อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2161565

 

(เพิ่มเติม) ญี่ปุ่นเผยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 2.9%

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2558 10:27:24 น.

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรพื้นฐานของภาคเอกชนในเดือนมี.ค. ปรับตัวขึ้น 2.9% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 8.694 แสนล้านเยน

 

ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อเครื่องจักร ซึ่งไม่นับรวมเครื่องจักรสำหรับเรือและด้านสาธารณูปโภคที่มีความผันผวนนั้น ถือเป็นปัจจัยบ่งชี้การใช้จ่ายด้านทุนในอนาคตของบริษัทเอกชน

 

 

 

ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรจากภาคการผลิต ขยับขึ้น 0.3% สู่ระดับ 3.638 แสนล้านเยน ขณะที่ยอดสั่งซื้อจากอุตสาหกรรมนอกภาคการผลิต ปรับขึ้น 4.7% แตะที่ 4.978 แสนล้านเยน

 

หากพิจารณาเป็นรายอุตสาหกรรมพบว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรจากอุตสาหกรรมกระดาษและเยื่อกระดาษ และอุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรจากอุตสาหกรรมผลิตอาหารและเครื่องจักรไฟฟ้า ปรับตัวลดลง

 

นอกจากนี้ รายงานยังระบุว่า ความต้องการเครื่องจักรญี่ปุ่นในตลาดต่างประเทศ ซึ่งเป็นดัชนีวัดการส่งออกในอนาคตนั้น ร่วงลง 13.5% ในเดือนมี.ค. แตะที่ 9.225 แสนล้านเยน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 6.6% ในเดือนก.พ. สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq28/2161625

 

คลัง เผยจัดเก็บรายได้ 7 เดือนแรกปีงบ 58 สูงกว่าประมาณการ 1.4%

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 18 พฤษภาคม 2558 10:13:04 น.

นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558(ต.ค.57-เม.ย.58) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,143,407 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 15,577 ล้านบาท หรือ 1.4% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 6.2%

 

 

 

"การนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ การจัดเก็บรายได้ของหน่วยงานอื่น และการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 สูงกว่าประมาณการ" นายกฤษฎา กล่าว

 

ทั้งนี้ เนื่องจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 25,055 ล้านบาท, การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตสูงกว่าประมาณการ 14,771 ล้านบาท และหน่วยงานอื่นสูงกว่าประมาณการ 14,562 ล้านบาท ขณะที่การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรต่ำกว่าเป้าหมาย 47,713 ล้านบาท และกรมศุลกากรต่ำกว่าเป้าหมาย 2,988 ล้านบาท สำหรับภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าประมาณการที่สำคัญ คือ ภาษีน้ำมัน ขณะเดียวกันภาษีที่จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็น

 

ผลจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าต่ำกว่าเป้าหมาย เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงเป็นสำคัญ ภาษีเงินได้นิติบุคคลได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมา และภาษีสรรพสามิตรถยนต์ เพราะกำลังซื้อยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

 

"หากพิจารณาการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มภายในประเทศจะพบว่ามีการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 7.5% สะท้อนว่ากำลังซื้อและการลงทุนในประเทศยังมีการขยายตัวอยู่" นายกฤษฎา กล่าว

 

สำหรับในเดือนเมษายน 2558 รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 168,020 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 15,089 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.9 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 23.2) ส่งผลให้ในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ตุลาคม 2557 – เมษายน 2558) รายได้รัฐบาลสุทธิมีจำนวน 1,143,407 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 15,577 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.4 (สูงกว่าช่วงเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 6.2)

 

โดยรัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 168,020 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการ 15,089 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.9 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 23.2) เนื่องจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 15,078 ล้านบาท หรือร้อยละ 82.0 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 84.6) โดยธนาคารออมสินเลื่อนการนำส่งรายได้จากเดือนมีนาคม 2558 มาเป็นเดือนเมษายน 2558 จำนวน 10,062 ล้านบาท และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยนำส่งรายได้ให้เร็วขึ้นจากเดือนพฤษภาคม 2558 มาเป็นเดือนเมษายน 2558 จำนวน 8,440 ล้านบาท ประกอบกับการจัดเก็บภาษีน้ำมันสูงกว่าประมาณการ 8,234 ล้านบาท หรือร้อยละ 147.6 (สูงกว่าเดือนเดียวกันปีที่แล้วร้อยละ 169.6) เนื่องจากการปรับขึ้นอัตราภาษีน้ำมันดีเซล

 

อย่างไรก็ดี ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษียาสูบ และภาษีสุราฯ จัดเก็บได้ต่ำกว่าประมาณการ 5,852 2,307 และ 1,607 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.8 41.8 และ 25.9 ตามลำดับ โดยภาษีมูลค่าเพิ่มได้รับผลกระทบจากมูลค่าการนำเข้าที่หดตัว เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง สำหรับภาษียาสูบและภาษีสุราฯ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเร่งชำระภาษียาสูบและภาษีสุราฯ ก่อนที่พระราชบัญญัติการกีฬาแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 จะมีผลบังคับใช้ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2558

 

อินโฟเควสท์ โดย คลฦ/ธนวัฏ/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2161605

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...