ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ คาดเคลื่อนไหวในกรอบ 29.75-30.10 บาท/ดอลลาร์

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 สิงหาคม 2554 23:22 น.

 

Share

 

 

 

บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า เงินบาทขยับแข็งค่าขึ้น โดยเงินบาทได้รับแรงหนุนในช่วงต้นสัปดาห์ จากความหวังก่อนการประชุม ระหว่างผู้นำฝรั่งเศสและเยอรมนีซึ่งอาจมีการหารือเกี่ยวกับมาตรการแก้ไขวิกฤตหนี้ยุโรป ขณะที่ แรงซื้อสุทธิหุ้นไทยของนักลงทุนต่างชาติก็ เป็นปัจจัยบวกต่อเงินบาทเพิ่มเติมในช่วงกลางสัปดาห์ อย่างไรก็ดี เงินบาทต้องลดช่วงบวกดังกล่าวลงในช่วงต่อมา ท่ามกลางความกังวลต่อแนว โน้มที่เปราะบางของเศรษฐกิจโลกที่กระตุ้นแรงขายสินทรัพย์เสี่ยง อย่างไรก็ดี เงินบาทฟื้นตัวกลับมาอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ จากแรงขายเงินดอลลาร์ฯ ของผู้ส่งออก

ในวันศุกร์ (19 ส.ค.) เงินบาทปรับตัวอยู่ที่ 29.78 จากระดับ 29.89 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันพฤหัสบดีก่อนหน้า (11 ส.ค.)

สำหรับแนวโน้มสัปดาห์นี้ (22-26 ส.ค. 2554) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 29.75-30.10 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องจับตาข้อมูล GDP ประจำไตรมาส 2/2554 และผลการประชุมนโยบายการเงินของไทย ตลอดจนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนส.ค.โดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. และตัวเลข GDP ประจำไตรมาส 2/2554 ( รายงานครั้งที่ 2) และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟดในระหว่างการ ประชุมที่รัฐไวโอมิงด้วยเช่นกัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

post-2581-039009400 1313971401.jpg 8 สาเหตุทำให้ลูก (วัย 2-3 ขวบ) ไม่ยอมกินอาหารที่พ่อแม่เลือก

 

 

 

โดยปกติเวลาที่เรากินอาหารที่ชอบ มีรสอร่อย เราจะรู้สึกมีความสุข แต่หากเราต้องถูกบังคับให้กินอาหารที่เราไม่ชอบ รสชาติไม่อร่อย เราก็มักจะกินได้น้อยตามไปด้วย แต่ปัญหาที่พบบ่อยในเด็กวัยปฐมวัย (ช่วงอายุ 2-3 ขวบ) ก็คือ ทำไมลูกของเราถึงเลือกที่จะกินอาหารบางอย่าง และไม่ยอม (บังคับเท่าไรก็ไม่ยอม) กินอาหารบางอย่าง วันนี้เรามีคำตอบและทางแก้ไขค่ะ

 

สาเหตุใหญ่ๆ ที่เด็กเลือกกินอาหารนั้น เกิดจาก 8 สาเหตุใหญ่ๆ ดังนี้

 

พ่อแม่หรือผู้เลี้ยงดูเคยบังคับให้ลูกกิน

ผู้ใหญ่ไม่ชอบถูกบังคับ เด็กก็ไม่ชอบถูกบังคับเช่นกัน แต่การบังคับให้กินนั้นอาจจะไม่ได้มาในรูปแบบของการจับยัดเข้าปาก แต่เป็นในรูปแบบของการใช้คำพูด น้ำเสียงต่างๆ ก็ได้เช่นกัน เช่น

- กินอันนี้สิลูก อร่อยนะ (ใช้คำพูดไปบังคับให้ลูกกิน)

- ทำไมไม่อยากกินละ กินอันนี้แล้วจะผิวสวยน่ารักนะ (ไปหลอกล่อให้ลูกกิน)

- กินๆ เข้าไปเถอะลูก อย่าเรื่องมากเลย (ถากถางลูก)

- ไม่กินก็อย่ากิน หิวจนปวดท้องอย่ามาร้องนะ (ลงโทษกับเรื่องกิน)

ฯลฯ

ประโยคเหล่านี้มันฝังลงไปในใจเด็ก ซึ่งในช่วงปฐมวัยนี้ เด็กจะเก็บข้อมูลทุกๆ อย่างเอาไว้แล้วเปลี่ยนเป็นประสบการณ์ต่างๆ (ทั้งด้านที่ดีและไม่ดี) เมื่อพ่อแม่เคยบังคับลูกให้กิน ลูกก็จะพยายามต่อต้านนั้นเอง

 

พ่อแม่ให้ลูกกินมากเกินไป (กลัวไม่อิ่ม)

กระเพาะของเด็กและผู้ใหญ่นั้นแตกต่างกันมาก กระเพาะอาหารของเด็กในช่วงปฐมวัยนี้จะมีขนาดเล็ก เด็กจะวิ่งเล่นและเผาผลาญพลังงานไปมาก จึงอาจจะมีการหิวระหว่างมื้อบ่อย พ่อแม่หลายคนจึงกลัวลูกจะหิวหรือกินไม่อิ่ม เลยให้ลูกกินทั้งข้าว ทั้งนม เมื่อถึงมื้ออาหารถัดไปก็ยังบังคับให้ลูกกินอีก (ทั้งๆ ที่ยังอิ่มอยู่) ถ้าเด็กไม่กินก็บังคับสารพัดทั้งคำพูด จับป้อน ฯลฯ ทำให้ลูกรู้สึกทรมาน (อึดอัด) เวลาต้องกินอาหาร

 

หน้าตาอาหารดูไม่น่ากินและทำอาหารเดิมๆ ซ้ำๆ

กินอาหารเดิมๆ ซ้ำๆ ผู้ใหญ่ยังเบื่อ แถมหน้าตาอาหารดูเละๆ ยิ่งไม่กินเข้าไปใหญ่ แล้วคิดเหรอว่าเด็กจะไม่รู้สึกเหมือนกับผู้ใหญ่บ้าง พ่อแม่บางคนกลัวลูกจะกินลำบาก ก็ทำอาหารให้ลูกย่อยง่ายๆ (จนมันดูเละๆ ไม่น่ากิน) หรือทำแต่เมนูเดิมๆ (ข้าวไข่เจียว, แกงจืดเต้าหู้ ฯลฯ) เด็กกินไป 2-3 ครั้งก็เริ่มเบื่อ พ่อแม่ควรที่จะเปลี่ยนเมนูอาหารให้ลูกเรื่อยๆ อย่าซ้ำเดิมมากเกินไป ควรเพิ่มความหลากหลายของอาหาร อาจจะมีทั้งเมนูอาหารแบบไทย จีน ฝรั่ง บ้างสลับกันไป รวมถึงการหั่นส่วนผสมให้พอดีคำ ไม่เล็กไปหรือใหญ่เกินไปสำหรับเด็ก เพราะหากเด็กต้องเคี้ยวมากเกินไปเด็กก็จะเบื่อการเคี้ยวอาหาร

 

พ่อแม่ไม่เคยฝึกลูกให้หัดเคี้ยวอาหาร

ในช่วงที่ฟันของลูกกำลังจะขึ้นนั้น (เริ่มประมาณ 9 เดือน) โดยธรรมชาติแล้วเด็กจะมีอาการคันเหงือก (หมั่นเขี้ยว) อยากจะเคี้ยวอาหาร พ่อแม่สามารถฝีกให้ลูกหัดเคี้ยวอาหารได้ง่ายๆ ด้วยการให้ลูกลองเคี้ยวขนมปังกรอบชิ้นเล็กๆ เด็กจะมีความสุขในการเคี้ยว เมื่อโตขึ้นก็ค่อยๆ เพิ่มขนาดของอาหารที่จะให้ลูกเคี้ยว ซึ่งสามารถปรับเป็นผักที่มีความกรอบ เนื้อสัตว์ที่นุ่ม (แต่มีขนาดพอดีคำ)

 

ลูกกำลังมีปัญหาสุขภาพ

หากลูกไม่สบาย หรือปวดฟัน ความอยากอาหารจะลดน้อยลง ซึ่งพ่อแม่ต้องเข้าใจด้วยว่าเป็นธรรมชาติของเด็กที่ไม่สบายก็มักจะไม่อยากอาหารใดๆ

 

ลูกกินขนมหรือนมจนอิ่ม

บ่อยครั้งที่ระหว่างมื้ออาหาร เด็กในช่วงปฐมวัยจะมักหิว (เพราะไปเล่นมาจนเหนื่อย) พ่อแม่บางคนก็ให้ลูกกินขนม รวมถึงกินนม (บางครอบครัวให้ลูกกินนมเยอะแทบจะแทนน้ำ) ทำให้เวลาถึงมื้ออาหารจริงๆ ลูกไม่ได้อยากทานอาหาร เพราะยังไม่หิวมากนั้นเอง

 

เล่นสนุกจนลืมหิว หรือเหนื่อยเกินไป

เวลาที่ผู้ใหญ่ทำอะไรที่มีความสุข สนุกสนาน เพลินๆ ส่วนมากจะไม่รู้สึกหิว เด็กในช่วงปฐมวัยก็เช่นกัน หลายครั้งที่เด็กเล่นจนเพลินจนไม่รู้สึกหิวเลยก็มี จนบางครั้งพ่อแม่ก็กังวลว่า เดี๋ยวลูกจะหิวก็รีบบังคับให้ลูกกิน ณ เวลานั้นทันที ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อลูกเลย รวมถึงบางครั้งพ่อแม่หลายคนมักจะปล่อยให้ลูกเล่นๆๆๆ ไปเรื่อยๆ พอถึงเวลา (มื้ออาหาร) ก็เรียกลูกมากินอาหาร ซึ่งการปล่อยให้ลูกเล่นมากเกินไปจนลูกเหนื่อย เมื่อเหนื่อยแล้วจะให้มากินอาหารทันทีเลยจะยากกว่ามาก

พ่อแม่ก็เลือกที่จะกินอาหารเหมือนกัน

ปัญหาพ่อแม่ไม่กินผักหรือกินอาหารประเภทใด ลูกๆ ก็มักจะไม่กินอาหารประเภทนั้นตามไปด้วย เพราะลูกจะจดจำสิ่งที่พ่อแม่ทำ ดังนั้นอย่าแปลกใจว่า ทำไมลูกของเราถึงไม่กินอาหารที่คุณเลือกไว้

 

พ่อแม่สามารถป้องกันและแก้ไขปัญหาอาการลูกเบื่อหรือเลือกกินอาหารได้ง่ายๆ

 

กินอาหารพร้อมหน้าพร้อมตา

เวลาที่พ่อแม่ลูกได้ล้อมวงกินอาหารในแต่ละมื้อ ได้พูดคุย ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เป็นการสร้างบรรยากาศที่ลูกจะซึมซับความสนุกสนาน รวมถึงควรจะกินอาหารเป็นเวลา (ตามมื้ออาหาร) อย่างสม่ำเสมอ ลูกจะซึมซับว่าเวลานี้คือเวลาที่ต้องกินข้าวแล้ว (เพราะพ่อแม่ก็จะมากินอาหารด้วย) นอกจากนั้นการให้โอกาสเด็กได้มีส่วนร่วมในแต่ละมื้ออาหารก็ทำให้เด็กรู้สึกสนุกไปกับการกินด้วย เช่น ให้ลูกหัดเป็นคนหยิบช้อนอาหารจากที่เก็บไปที่โต๊ะอาหาร หรือจัดโต๊ะอาหาร เตรียมน้ำดื่ม ฯลฯ ในระหว่างมื้ออาหารไม่ควรเปิดโทรทัศน์ไปด้วย เพราะโทรทัศน์จะเป็นตัวดึงความสนใจของเด็กและพ่อแม่ออกจากกัน

ชิ้นเล็กดีกว่าชิ้นใหญ่

การเตรียมอาหารให้มีขนาดชิ้นเล็กพอดีคำ เคี้ยวง่าย เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เด็กอยากกินอาหารหรือไม่ นอกจากนั้นควรจะทำอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่

 

พ่อแม่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดี

เพราะลูกจะเลียนแบบพ่อแม่ แม้กระทั่งเรื่องกินก็เช่นกัน ถ้าพ่อแม่กินอาหารทุกอย่างด้วยความอร่อย เด็กก็จะกินตาม พ่อแม่ไม่ควรจะบอกลูกว่าพ่อไม่กินอันนั้นแม่ไม่กินอันนี้ เพราะเด็กจะจดจำและปฏิบัติตาม เพราะเด็กจะเห็นตัวอย่างจากพ่อแม่นั้นเอง นอกจากนั้นการตักอาหาร พ่อแม่ก็ไม่ควรเลือกอาหารให้ลูกเห็น เช่น เวลาตักอาหารที่มีต้นหอมก็อย่าเขี่ยต้นหอมออกให้ลูกเห็น เป็นต้น

 

ปริมาณอาหารในแต่ละมื้อก็สำคัญ

เวลาที่จะตักอาหารให้ลูก ควรตักแต่น้อย เพื่อให้ลูกกินหมดได้ เมื่อลูกกินหมดได้ ลูกจะมีความภูมิใจ หากยังไม่อิ่มค่อยตักเพิ่มทีละน้อย ให้ลูกรู้สึกว่า เขาสามารถกินอาหารได้หมด

 

เมนูที่หลากหลาย

การจะหัดให้ลูกกินอาหารใหม่ ผักหรือผลไม้แบบใหม่ ควรจะค่อยๆ เริ่มทีละน้อย โดยเวลาที่เราให้ลูกกิน พ่อแม่ควรบอกลูกว่า สิ่งนี้ชื่ออะไร อาจจะใช้ตัวละครในนิทานมาเล่าเรื่องเกี่ยวกับอาหารหรือผลไม้ที่กำลังจะกินนั้นๆ

 

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ป้าขิง.....เด็กสบาย.....Aiya....และคุณแม่ๆ...พ่อๆ..ครับ

ลูกสาววัย 2 ขวบผม...ไม่ค่อยยอมกินข้าว....ยังไม่ทันรู้ว่าป้อนอะไรก็บอกไม่เอาซะแล้ว....ทำไงดี

กู๊ดมอนิ่งค่ะ คุณginger. คุณnews. คุณchez. คุณAiya คุณแสงแดด คุณSSS และทุกท่านค่ะ

เห็นราคาทองขึ้นใจหนึ่งก็ดีใจที่มีของอยู่บ้าง อีกใจก็เสียดายที่ยังเก็บไม่เต็มปอดเลย

เฮ้อ....ความโลภไม่รู้จักพอนี่ทำใจเราไม่เคยนิ่งเลยนะคะ

 

คุณchez คะ. เรื่องลูกสาว2ขวบไม่ค่อยยอมทานข้าว. ไม่ต้องกังวลค่ะ

เด็กวัย 2 ขวบมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและพฤติกรรมที่คุณพ่อคุณแม่ต้องงงกันไปแทบทุกคนเลย

ฝรั่งเค้ายังเรียกว่าเป็นวัย Terrible two

ถ้านำ้หนักกับส่วนสูงเค้ายังเป็นไปตามเกณฑ์อยู่. ก็สบายใจได้

คนจีนเชื่อว่าเด็กกำลังยืดตัวค่ะ

ลูกสาวอาจจะกินนมเยอะ จนอิ่ม เลยไม่สนข้าว

ถ้าอยากให้ทานข้าวมากขึ้นก็ต้องลดนมค่ะ คือ ถือมื้อข้าวเป็นหลัก ไม่อิ่มแล้วค่อยตามด้วยนมทำนองนั้นค่ะ

ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่อย่ากังวล. ถ้าเด็กหิวจริงต้องมาขอหมำ่าเองแน่นอน

ดูอย่างลูกชาย madam คนเล็ก ตอน 1 -8 ขวบผอมมาก ไม่ยอมกินอะไรเลย

อยู่ๆตอน9ขวบ ก็เจริญอาหาร จาก 20 โล ขึ้นพรวดๆ มาตอนนี้ 12 ขวบ 50 โลแล้วค่ะ

ตอนนี้แม่เลยต้องคอยจำกัดการกินแทน... ห้ามกินเกินมื้อละ2 ชามนะลูก 555

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เหตุที่ลูกกินยาก-ไม่อยากกิน :(

คำกล่าวที่ว่า "เรื่องกินเรื่องใหญ่" นี่เห็นทีจะไม่มีทางปฎิเสธได้เลย เพราะไม่ว่าอะไร ถ้าลองไม่ยอมกินแล้วล่ะก็..รับรองได้ว่า เรื่องใหญ่ตามมาแน่

 

สำหรับเด็กเล็กๆ นับตั้งแต่เป็นทารกมาจนอายุประมาณ 2 ขวบ เรื่องของการกินนั้น ถือเป็นเรื่องใหญ่ที่สำคัญมาก เพราะมีผลต่อการเจริญเติบโตของสมอง ฉะนั้นในช่วง 2 ขวบปีแรกนั้นหากคุณพ่อคุณแม่เริ่มเห็นพฤติกรรมอันบ่งบอกว่า ลูกกำลังกลายเป็นเด็กกินยาก หรือไม่ยอมกินแล้วล่ะก็ ควรรีบจัดการแก้ไขโดยด่วน

สัญญาณเตือนภัย..ลูกไม่ยอมกิน

คุณพ่อคุณแม่จะต้องหมั่นสังเกตลูกน้อยว่า เริ่มมีพฤติกรรมการกินต่อไปนี้หรือเปล่า

หงุดหงิด ร้องไห้ เมื่อถึงเวลากิน

อมข้าว

ป้อนอาหารแล้วคายทิ้ง

ใช้เวลาในการทานอาหารนานผิดปกติ

เล่นอาหารจนหกเลอะเทอะ แล้วก็ไม่ยอมกิน

 

เหล่านี้คือสัญญาณอันตรายที่เตือนให้คุณพ่อคุณแม่รู้ว่าลูกกำลังมีปัญหาเรื่องการกิน เมื่อลูกไม่ยอมกิน ย่อมทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดความกังวลใจไปมากมาย เอ..ลูกเราป่วยเป็นอะไรหรือเปล่า อาหารไม่ถูกใจลูกหรือเปล่า พัฒนาการเขาผิดปกติหรือเปล่า ร้อยแปดพันประการสุดแต่จะนึกคิดหยิบมากังวล

 

ปัญหาการกินยาก หรือไม่อยาก ไม่ยอมกินของเด็กนั้นมีปัจจัยเกี่ยวข้องที่สำคัญอยู่ 2 สิ่งคือ พัฒนาการของเด็กกับอารมณ์โดยในเรื่องของพัฒนาการก็จะเกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมที่เขาสัมผัส ส่วนเรื่องอารมณ์ก็คือการที่เด็กนั้นแสดงออกถึงพฤติกรรมของเขาอันเกิดจากการเรียนรู้และพัฒนาการ

 

เมื่อลูกไม่ยอมกิน ควรจัดการอย่างไร

ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจถึงพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็กเสียก่อน เพื่อจะได้เข้าใจในพัฒนาการของเด็ก รู้ว่าช่วงวัยนี้เขามีพัฒนาการอย่างไร เพื่อนำมาใช้ในการแก้ปัญหา เช่น เมื่อเด็กเข้าสู่ช่วงอายุ 8-9 เดือน เด็กจะเริ่มใช้มือหยิบโน่นจับนี่ และมักต้องการทานอาหารเอง คุณพ่อคุณแม่ก็จะกระตุ้นและส่งเสริมให้เขาทานอาหารเอง อาจให้เขาใช้มือจับช้อนสลับกับการช่วยป้อน ฝึกให้ลูกกินอาหารเป็นเวลา วันละ 3 มื้อ ของว่าง 2 มื้อ ซึ่งถือว่าเป็นการเพียงพอแล้วสำหรับวัยนี้ เพื่อสอนให้เด็กรู้จัก และมีประสบการณ์ต่อความหิว จำกัดเวลาในการทานอาหารนานที่สุดครึ่งชั่วโมง เมื่อเด็กเริ่มปฎิเสธ เบื่อหน่าย เล่นหรือแสดงความไม่พอใจ ให้เลิกทานอาหารทันที อย่างนี้เป็นต้น

หรือถ้าเป็นเด็กอายุระหว่าง 1-2 ปี ซึ่งพัฒนาการของเด็กในวัยนี้จะต้องการความเป็นอิสระ และเป็นตัวของตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรจะบังคับเขามาก เพราะหากถูกควบคุม บังคับในเรื่องการกิน เด็กอาจต่อต้านด้วยการปฎิเสธอาหาร

ฉะนั้น สิ่งสำคัญที่สุดที่จะแก้ปัญหาการไม่ยอมหรือไม่อยากกินของเด็กก็คือ ความเข้าใจในพัฒนาการของเขา ที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องเรียนรู้ และนำมาประยุกต์ใช้กับเด็กๆที่เริ่มมีปัญหา และอย่าลืมว่าสิ่งที่คุณพ่อคุรแม่ปฎิบัติต่อลูกนั้น จะสะท้อนออกมาเป็นอารมณ์และพฤติกรรมของเขา

[/size][/color]

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กู๊ดมอนิ่งค่ะ คุณginger. คุณnews. คุณchez. คุณAiya คุณแสงแดด คุณSSS และทุกท่านค่ะ

เห็นราคาทองขึ้นใจหนึ่งก็ดีใจที่มีของอยู่บ้าง อีกใจก็เสียดายที่ยังเก็บไม่เต็มปอดเลย

เฮ้อ....ความโลภไม่รู้จักพอนี่ทำใจเราไม่เคยนิ่งเลยนะคะ

 

คุณchez คะ. เรื่องลูกสาว2ขวบไม่ค่อยยอมทานข้าว. ไม่ต้องกังวลค่ะ

เด็กวัย 2 ขวบมีการเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและพฤติกรรมที่คุณพ่อคุณแม่ต้องงงกันไปแทบทุกคนเลย

ฝรั่งเค้ายังเรียกว่าเป็นวัย Terrible two

ถ้านำ้หนักกับส่วนสูงเค้ายังเป็นไปตามเกณฑ์อยู่. ก็สบายใจได้

คนจีนเชื่อว่าเด็กกำลังยืดตัวค่ะ

ลูกสาวอาจจะกินนมเยอะ จนอิ่ม เลยไม่สนข้าว

ถ้าอยากให้ทานข้าวมากขึ้นก็ต้องลดนมค่ะ คือ ถือมื้อข้าวเป็นหลัก ไม่อิ่มแล้วค่อยตามด้วยนมทำนองนั้นค่ะ

ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่อย่ากังวล. ถ้าเด็กหิวจริงต้องมาขอหมำ่าเองแน่นอน

ดูอย่างลูกชาย madam คนเล็ก ตอน 1 -8 ขวบผอมมาก ไม่ยอมกินอะไรเลย

อยู่ๆตอน9ขวบ ก็เจริญอาหาร จาก 20 โล ขึ้นพรวดๆ มาตอนนี้ 12 ขวบ 50 โลแล้วค่ะ

ตอนนี้แม่เลยต้องคอยจำกัดการกินแทน... ห้ามกินเกินมื้อละ2 ชามนะลูก 555

 

คุณ madam ขอบคุณจ้ะ คุณแม่ตัวจริง

 

เป็นอย่างที่คุณว่าจริงๆ เด็กไม่กินข้าวมาจากหลายสาเหตุ

 

ไม่ต้องตื้อ บังคับ หาสาเหุต ทำให้เห็นว่าการกินเป็นเรื่องดี สบายใจ อร่อย...ไม่กินก็หิว ปล่อยให้หิว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จพีมอร์แกนปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 4 เหลือ 1%

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2554 07:31:24 น.

เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ประกาศปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 4 ลงมาอยู่ที่ระดับ 1% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 2.5% และคาดว่าเศรษฐกิจในไตรมาสแรกปีหน้าจะขยายตัวเพียง 0.5% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.5%

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ปัจจัยที่ทำให้เจพีมอร์แกนตัดสินใจปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมาจากผลกระทบของเศรษฐกิจทั่วโลกที่ชะลอตัวลง รวมถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ที่ลุกลามในยุโรป

 

 

ในการประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ครั้งแรกของสหรัฐซึ่งมีขึ้นเมื่อวันที่ 29 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า จีดีพีไตรมาส 2 ขยายตัวเพียง 1.3% ต่อปี ซึ่งน้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวที่ประมาณ 1.8% เนื่องจากการบริโภคส่วนบุคคลชะลอตัวลงอย่างรุนแรง ท่ามกลางราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น

 

การบริโภคส่วนบุคคล ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐเนื่องจากมีสัดส่วนถึงสองในสามของเศรษฐกิจ ปรับตัวขึ้นเพียง 0.1% ซึ่งลดลงอย่างมากจากที่เพิ่มขึ้น 2.1% ในไตรมาสแรก การใช้จ่ายเกี่ยวกับสินค้าคงทน อาทิ ยานยนต์ และ เครื่องมือเครื่องใช้ ลดลง 4.4% สวนทางกับที่เพิ่มขึ้นถึง 11.7% ในไตรมาสก่อนหน้า

 

นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าในการประมาณการตัวเลขจีดีพีไตรมาส 2 ครั้งที่ 2 ของสหรัฐซึ่งจะมีขึ้นในคืนวันศุกร์ที่ 26 ส.ค.นั้น จีดีพีจะขยายตัวเพียง 1.2% ลดลงจากการประมาณการครั้งแรกที่มีการขยายตัว 1.3% อันเนื่องมาจากผลกระทบของอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับที่สูงมาก และผู้บริโภคสหรัฐเริ่มลดการใช้จ่าย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลิเบียเผยมีผู้เสียชีวิต 1,300 คนจากเหตุกลุ่มกบฏบุกยึดเมืองทริโปลี-จับตัวบุตรชายกัดดาฟี

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2554 07:24:14 น.

นายอับดุลเลาะห์ อัลมาฮับ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสภาการถ่ายโอนอำนาจแห่งชาติของลิเบียเปิดเผยว่า กองกำลังทหารของฝ่ายกบฏในลิเบียสามารถยึดครองเมืองทริโปลีเอาไว้ได้แล้ว ยกเว้นพื้นที่ในเมืองบาบ อัล-อาซีซียาห์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี นอกจากนี้ กลุ่มกบฏกำลังกวาดต้อนกองกำลังส่วนที่เหลือของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี

 

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กลุ่มกบฎได้จับกุมตัวนายเซอิฟ อัล-อิสลาม และนายเซอิฟ อัล-ซาดดี บุตรชายทั้งสองของกัดดาฟี เอาไว้ได้ ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกัดดาฟีในเมืองทรีโปลีได้ยอมมอบตัวต่อกองกำลังของกลุ่มกบฏแล้ว

 

ด้านพันเอกกัดดาฟีได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนทุกชนเผ่าในลิเบีย รวมถึงผู้นำศาสนาอิสลามในมัสยิดทุกแห่ง เดินหน้าปกป้องเมืองทริโปลี โดยกล่าวว่า "ชาติตะวันตกไม่สามารถปกป้องพวกท่านได้ และเมืองทริโปลีอาจจะถูกทำลายล้าง"

 

นายมูซา อิบรอฮิม โฆษกรัฐบาลลิเบียเปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1,300 คน และบาดเจ็บอีก 5,000 คนในช่วง 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา หลังจากเกิดการสู้รับกันอย่างดุเดือดในเมืองทริโปลี

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักวิเคราะห์คาด GDP ไตรมาส 2 สหรัฐโตเพียง 1.2% หลังผู้บริโภคลดใช้จ่าย

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2554 07:03:27 น.

นักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ว่า ในการประมาณการครั้งที่ 2 ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ปี 2554 ของสหรัฐซึ่งจะมีขึ้นในคืนวันศุกร์ที่ 26 ส.ค.นั้น จีดีพีจะขยายตัวเพียง 1.2% ลดลงจากการประมาณการครั้งแรกที่มีการขยายตัว 1.3% อันเนื่องมาจากผลกระทบของอัตราว่างงานที่ยังอยู่ในระดับที่สูงมาก และผู้บริโภคสหรัฐเริ่มลดการใช้จ่าย

 

โกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐลงมาอยู่ที่ระดับ 1.7% ในปี 2554 และ 2.0% ในปี 2555 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.8% ในปี 2554 และ 3.0% ในปี 2555

 

ขณะที่เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 4 ลงมาอยู่ที่ระดับ 1% จากเดิมที่คาดว่าจะขยยตัว 2.5% และคาดว่าเศรษฐกิจในไตรมาสแรกปีหน้าจะขยายตัวเพียง 0.5% จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัว 1.5%

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2554 06:05:00 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงกระหน่ำขายหุ้น อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรปและการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ โดยดัชนีสำคัญๆในตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเป็นสัปดาห์ที่ 4 ติดต่อกัน

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 172.93 จุด หรือ 1.57% ปิดที่ 10,817.65 จุด ดัชนี S&P 500 ปรับลง 17.12 จุด หรือ 1.50% ปิดที่ 1,123.53 จุด ดัชนี Nasdaq อ่อนลง 38.59 จุด หรือ 1.62% ปิดที่ 2,341.84 จุด

 

 

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ส.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ยุโรและเศรษฐกิจสหรัฐ โดยสัญญาน้ำมันดิบดิ่งลง 3.65% สำหรับสัปดาห์นี้

 

สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาด NYMEX ปรับตัวลง 12 เซนต์ หรือ 0.15% มาปิดที่ 82.26 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากที่ปรับตัวในช่วง 79.17-83.55 ดอลลาร์

 

-- สัญญาทองล่วงหน้าที่ตลาด COMEX ปิดพุ่งขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ส.ค.) โดยปิดตลาดทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่เป็นครั้งที่ 4 ในสัปดาห์นี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีความระมัดระวังเกี่ยวกับภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้น และถือครองโลหะมีค่าต่างๆมากขึ้นเพื่อความปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 30.2 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 1,852.2 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยสัญญาพุ่งขึ้นสูงถึง 1,881.40 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดระหว่างวันสำหรับทองคำเดือนธ.ค.

 

-- ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ในการซื้อที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ส.ค.) ในขณะที่ตลาดต่างๆมีความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ

 

ค่าเงินยูโรปรับตัวขึ้น 0.38% มาที่ระดับ 1.4385 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4330 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.16% สู่ 1.6490 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6516 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐติดลบ 0.08% มาที่ระดับ 76.51 เยน จากระดับ 76.57 เยนเมื่อเย็นวันพฤหัสบดี ดอลลาร์ร่วงลง 0.77% จาก 0.7935 ฟรังค์สวิส สู่ระดับ 0.7874 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียบวก 0.25% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0411 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0385 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.16% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8202 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8215 ดอลลาร์สหรัฐ

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ส.ค.) จากความวิตกเกี่ยวกับวิกฤติหนี้ยูโรโซนและแนวโน้มเศรษฐกิจโลก

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดลบ 51.47 จุด หรือ 1.0% แตะที่ 5,040.76 โดยดัชนีปรับตัวในช่วง 5,107.91-4,929.55 จุด

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT: วิตกสภาพอากาศหนุนธัญพืชปิดบวก

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2554 07:33:58 น.

ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ส.ค.) สัญญาข้าวสาลีปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งในเขตที่ราบทางภาคใต้ของสหรัฐอาจทำให้การเพาะปลูกพืชต้องเลื่อนออกไปอีก 2 สัปดาห์ ในขณะที่ราคาข้าวโพดและถั่วเหลืองฟื้นตัว

 

สัญญาข้าวโพดส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่ง 12.25 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 7.2525 ดอลลาร์/บุชเชล ขณะที่สัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่ง 22 เซนต์ หรือ 3% ปิดที่ 7.6125 ดอลลาร์/บุชเชล และสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 7.5 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 13.685 ดอลลาร์/บุชเชล

 

 

เทรดเดอร์กล่าวว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดข้าวสาลีมีสาเหตุมาจากการพยากรณ์สภาพอากาศที่คาดว่าฝนอาจตกไม่มากพอที่จะบรรเทาความแห้งแล้งทั้งในภาคกลางและภาคใต้ของพื้นที่ราบในสหรัฐ

 

การพยากรณ์สภาพอากาศบ่งชี้ว่า ภาคใต้ของรัฐแคนซัส โอคลาโฮมา และ เท็กซัส จะยังคงแห้งแล้งในช่วงอีก 6-10 วันข้างหน้า และมีฝนตกเพียงเบาบางในขณะที่อุณหภูมิจะอยู่ในระดับสูงกว่าปกติอย่างมากทั้งในภาคตะวันตกและภาคใต้

 

ทิม แฮนนาแกน นักวิเคราะห์จาก PFGbest ในชิคาโก กล่าวว่า "แนวโน้มหลังจากที่กองทุนได้เทขายกว่า 52,000 สัญญาในสัปดาห์นี้ อยู่ที่ว่าสภาพอากาศที่แห้งแล้งในเขตเพาะปลูกข้าวสาลีในช่วงฤดูหนาวของรัฐเท็กซัส โอคลาโฮมา และ แคนซัส จะยืดเยื้อต่อไปจนถึงฤดูกาลเพาะปลูกในเดือนกันยายนนี้หรือไม่ และเราอาจเห็นกองกองทุนเหล่านั้นซื้อสัญญาดังกล่าวกลับคืนและผลักดันสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 8.50 ดอลลาร์ต่อบุชเชล"

 

ทั้งนี้ ข้าวโพดได้รับแรงหนุนในระดับหนึ่งจากข่าวที่ว่าผลผลิตข้าวโพดในรัฐไอโอวาและอิลลินอยส์อาจจะต่ำกว่าการคาดการณ์

 

ส่วนตลาดถั่วเหลืองปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีความวิตกว่าฝนซึ่งคาดว่าจะตกในเขตมิดเวสต์ของสหรัฐในสัปดาห์นี้นั้น อาจจะตกช้าและมีปริมาณน้อยเกินไปสำหรับพืชที่อยู่ในช่วงกำลังให้ผลผลิต สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้จะได้เห็น1820-1810ไหมนี่?กัดดาฟี่ก็จะแพ้แล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คนฉลาด

โดย สาระ

๒๑ มิ.ย. ๔๖

 

 

 

ฉลาดอย่างไรก็หนีไม่พ้นกฎแห่งกรรม

ความฉลาดมีหลายแบบ เช่น ฉลาดทางโลกทันคน ฉลาดทางวิชาการเฉพาะสาขา ฉลาดทางศิลปะ ฉลาดมีทักษะกีฬา ฉลาดทางการค้า ฉลาดทางกฎหมาย ฉลาดในการพูด ฉลาดในการใช้สามัญสำนึก ฯลฯ ใครสนใจด้านไหน เรียนรู้ฝึกฝนก็จะมีความฉลาดเพิ่มขึ้นได้

 

คนฉลาดสามารถเอาตัวรอดได้ ในบางครั้งถ้าใช้ความฉลาดผิดทาง ก็จะเกิดทุกข์โทษกับผู้ที่เราเบียดเบียน และกับตัวเอง คนฉลาดที่รู้กฎแห่งกรรมจะไม่เถียงเรื่องนี้ แต่ถ้าคนฉลาดที่ไม่รู้กฎแห่งกรรม เขาจะไม่มีทางเห็นว่าความฉลาดที่เกินขอบเขตเป็นโทษกับเขาอย่างไร แม้กระทั่งขณะเขากำลังเผชิญอยู่กับกรรมที่เขาได้ทำไว้

สิ่งที่คนฉลาดควรทำ ได้แก่

 

ถ้าไม่มีเจตนาจะรักใครยั่งยืน ก็ไม่ควรให้ความหวังเขา

ให้เกียรติ ไม่เสียดสีดูถูกผู้อื่น ไม่ว่าจะด้วยการพูด การเขียน หรือด้วยกิริยาท่าทาง

เสียภาษีถูกต้อง

 

โดยสรุปคือ คนฉลาดควรมีความซื่อสัตย์ จริงใจ ให้เกียรติ และไม่เอาเปรียบ

 

 

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

0untitled.gif

รูปแบบราคามีโอกาสปิดแกบแถว 1850 ได้ แต่ราคาน่าจะขึ้นไปก่อน sto กำลังตัดขึ้น rsi ยังอยุ่ที่ แถว 70 แนวต้าน ผมให้ แนวต้านที่น่าจะไปแล้วติดแถว 1870 1880 1890 แนวรับเป็น 1854 1833 ดูตามรูปโดยรวมเลยครับ ข้อสังเกตนะครับ rsi ไม่ทำยอดใหม่ตามราคานะครับ ควรเฝ้าระวังตรงนี้ให้ดีครับ (2000 ถ้ามาให้ปีนี้ผมว่าน่าจะมาแถว พ.ย. แหละครับ แต่ควรลงพักฐานก่อนหน้านั้น )

 

 

 

BEARISH EVENING STAR

 

eveningdoji2.gif

 

 

Pattern: Bearish

 

Reliability: High

 

Confirmation: Suggested

 

No.of sticks: 3

 

 

 

 

 

ลักษณะของ Bearish Evening Doji Star

รูปแบบนี้คล้ายกับ evening star เพียงแต่แท่งที่สองเป็น doji แทนที่จะเป็น small body ประกอบด้วยแท่งเทียน 3 แท่ง โดยแท่งที่หนึ่งเป็น long white candle ตามด้วยแท่งที่สองที่เป็น doji ส่วนแท่งที่สามเป็น long black candle ที่มีราคาปิดอยู่ในระดับ body ของ long white candle

 

 

เงื่อนไขการเกิดรูปแบบ Bearish Evening Doji Star

1. ตลาดก่อนเกิดรูปแบบนี้จะเป็นขาขึ้นมาก่อน (uptrend)

2. จะพบ long white candle ในวันแรก

3. หลังจากนั้นจะเห็นแท่งเทียน doji เปิดกระโดดขึ้นจากแท่งที่หนึ่งแบบมี gap

4. สุดท้ายจะเห็นแท่งเทียน black candle ในวันที่สาม โดยมีราคาปิดขยับลงไปในระดับที่อยู่ในส่วนของ body แท่งที่หนึ่ง

 

 

 

รายละเอียด

เราจะพบว่าในระหว่างที่หุ้นกำลังอยู่ในทิศทางขาขึ้นนั้น จะถูกตอกย้ำด้วยแท่งเทียน long white candle ซึ่งหมายถึงตลาดยังสะสมแรงซื้ออยู่ หลังจากนั้นในวันที่สองต่อมาราคาหุ้นจะเปิดด้วยราคาเปิดกระโดดขึ้นแบบมี gap แต่ในวันที่สองนี้เองราคาไม่ได้ขึ้นต่อเนื่องจากราคาเปิด ทำให้เกิดเป็น doji นั่นหมายถึงแรงขายเริ่มที่จะมีอิทธิพลกลับเข้ามา และสามารถกดราคาไม่ให้ขึ้นต่อไปได้ หลังจากตลาดปิดในวันที่สองนี้เองยังมีแรงขายสะสมที่ยังไม่ได้ขาย ทำให้เมื่อตลาดเปิดมาในวันที่สาม ราคาเปิดจะกระโดดลง และมีแรงขายต่อเนื่องเป็นแท่งเทียน black candle

 

มีข้อสังเกตสำหรับแท่งเทียนที่สามคือ ราคาเปิดถ้าไม่ได้เปิดแบบมี gap ก็ยังอนุโลมได้เพียงแต่ราคาปิดของวันที่สามต้องลงไปอยู่ในระดับ body ของแท่งขาววันแรก

 

 

 

ปัจจัยที่สำคัญ

 

ส่วนที่เป็น doji (แท่งที่สอง) จะมี 2 หรือ 3 แท่งก็ได้

รูปแบบ evening doji star นี้เองจะมีความน่าเชื่อถือค่อนข้างสูง แต่ทั้งนี้ควร confirm ด้วยแท่งที่สามคือ black candle ถ้าเปิดแบบมี gap ลงหรือมีราคาปิดที่ต่ำลงมากยิ่งทำให้ความน่าเชื่อถือมีมากขึ้นด้วย

 

0untitled.gif

 

ตามรูปเป็นกราฟรายวัน ในวันนี้ถ้าราคาปิดแถว 187X จะดูข้อนข้างน่าเชื่อถือเมื่อระดับ ราคาในวันพรุ่งนี้เป็นขาลง ไม่ได้ให้รีบขายนะครับให้ระวัง

ถูกแก้ไข โดย mtts

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...