มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

Ausiris Group

 

 

YLGResearch

 

 

 

Ylg Bullion

 

 

 

NOW26

 

 

 

NOW26

[ginger 11,058]

 

เมืองไทยเป็นบ้านของเราทุกคนจ้า

 

โฆษกฯเผยผู้นำเอเชีย เตรียมร่วมประชุมเอซีดีที่ไทยเป็นเจ้าภาพ สะท้อนความเชื่อมั่น-ยอมรับของต่างชาติ

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 8 ตุลาคม 2559 14:34:08 น.

พลโท สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในระหว่างวันที่ 9–10 ต.ค.59 รัฐบาลไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่ 2 (ACD Summit) ณ กรุงเทพมหานคร ในหัวข้อ “เอเชียหนึ่งเดียว หลากหลายในพลัง" โดยมีประมุขแห่งรัฐ ผู้นำ และผู้แทนระดับสูงของประเทศสมาชิกเอซีดี 34 ประเทศ รวมทั้งไทย ตอบรับการเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้ ผู้นำเอเชียมีความเชื่อมั่นและยอมรับรัฐบาลไทย และพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อผลักดันให้เอเชียช่วยสร้างความสมดุลต่อเศรษฐกิจโลก และลดความเหลื่อมล้ำระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกัน

 

 

 

ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญต่อการประชุมครั้งนี้อย่างมาก เพราะไทยจะมีโอกาสได้แสดงบทบาทนำที่สร้างสรรค์ในเวทีระหว่างประเทศ ทั้งในฐานะผู้ก่อตั้งและสมาชิกเอซีดี และในฐานะประธานกลุ่ม 77 พร้อมทั้งย้ำว่ารัฐบาลส่งเสริมให้ทุกประเทศหันหน้าสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน และแบ่งปันให้เกิดการพัฒนาไปพร้อมๆ กัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

 

ท่านนายกฯ จะเป็นประธานเปิดการประชุมภาคธุรกิจ ACD Connect Business Forum ในวันที่ 9 ต.ค.ซึ่งเป็นกิจกรรมคู่ขนานที่ไทยได้ริเริ่มให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมกับเอซีดีมากขึ้น และมีกำหนดพบหารือทวิภาคีกับผู้นำเอเชีย เช่น ปธน.ศรีลังกา ปธน.อิหร่าน นรม.กัมพูชา นรม.ภูฏาน รอง ปธน.จีน รวมทั้งเป็นประธานการประชุมระดับผู้นำเอซีดี ในวันที่ 10 ต.ค.ที่กระทรวงการต่างประเทศ โดยได้ฝากกำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมความพร้อมทั้งด้านการต้อนรับ การจัดประชุม การรักษาความปลอดภัย และการจราจร พร้อมทั้งเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อให้ผู้มาเยือนเกิดความประทับใจ

 

ทั้งนี้ รัฐบาลจะผลักดันความร่วมมือที่สำคัญ 6 ด้าน คือ ความเชื่อมโยงระหว่างประเทศ,วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี และนวัตกรรม,การศึกษาและการพัฒนาทรัพยากร,ความมั่นคงทางอาหาร พลังงาน และน้ำ,วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวและการส่งเสริมการพัฒนาที่ทั่วถึง โดยนำเสนอแนวปฏิบัติตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ตามเป้าหมายของสหประชาชาติ ซึ่งผลสำเร็จจากการประชุมครั้งนี้ จะทำให้ไทยได้รับประโยชน์ในแง่ความเชื่อมั่นที่ประชาคมเอเชียและโลกมีต่อไทย และต่อยอดการพัฒนาร่วมกันในด้านต่างๆ เช่น การค้าการลงทุน การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมขนส่งในภูมิภาค การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและการศึกษา การเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างกัน และการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว ซึ่งจะส่งผลให้คนไทยในฐานะสมาชิกของเอเชียมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

 

--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: jumnain@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2526557

 

 

 

ประชุม'เอซีดี' 9-10 ต.ค.นี้ แนะประชาชนเลี่ยงเส้นทาง | เดลินิวส์

www.dailynews.co.th/bangkok/528963

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ $1.1 จากคาดการณ์เฟดขึ้นดอกเบี้ย

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 8 ตุลาคม 2559 09:00:51 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) ทำสถิติปรับตัวลงติดต่อกัน 6 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเข้าเทขายทองคำด้วยมุมมองที่ว่าตัวเลขจ้างงานสหรัฐเดือนก.ย. ไม่ได้ต่ำมากเกินไปจนทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,251.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.5 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 17.38 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 3.7 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 962.6 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.25 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ $667.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สำหรับในสัปดาห์ที่ผ่านมาสัญญาทองคำปรับตัวลงราว 5% ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดในรอบ 3 ปี

 

สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นในช่วงแรก หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.0%

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9%

 

อย่างไรก็ตาม ราคาทองคำปรับตัวลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ตัวเลขจ้างงานสหรัฐเดือนก.ย.จะไม่ทำให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

นางโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐถึงแม้ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ก็ยังคงถือว่ามีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

"จำไว้ว่าตัวเลขการเพิ่มขึ้น 75,000-120,000 ตำแหน่งเป็นตัวเลขที่เราต้องการเพื่อทำให้อัตราว่างงานมีเสถียรภาพ" เขากล่าว โดยระบุว่าตัวเลขการจ้างงานเฉลี่ยรอบ 3 เดือนในปีนี้ยังคงสูงถึง 192,000 ตำแหน่ง

 

นอกจากนี้ นางเมสเตอร์ยังกล่าวว่า การประชุมของเฟดในครั้งต่อไปในวันที่ 1-2 พ.ย. จะไม่ได้รับผลกระทบจากการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.

 

ส่วนนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานประจำเดือนก.ย.ถือว่าใกล้เคียงกับตัวเลขที่เฟดต้องการ

 

นายฟิสเชอร์กล่าวว่า ถึงแม้ตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ แต่ก็สอดคล้องกับแนวโน้มการลดลงของการว่างงาน โดยสหรัฐกำลังเข้าใกล้ภาวะการจ้างงานเต็มศักยภาพ

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร โทร.02-2535000 อีเมล์: jongdee@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2526332

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์ผันผวนเทียบเงินสกุลหลัก หลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 8 ตุลาคม 2559 08:21:27 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวแตกต่างกันเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักต่างๆในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ต.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.

 

 

 

เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1173 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1153 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ลดลงแตะระดับ 1.2441 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.2638 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะระดับ 0.7577 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7584 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 103.21 เยน จากระดับ 104.08 เยน อ่อนค่าลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9792 ฟรังก์ จากระดับ 0.9806 ฟรังก์ ในขณะที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3273 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3212 ดอลลาร์แคนาดา

 

ดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวผันผวนเมื่อเทียบสกุลเงินหลักต่างๆ หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่นักลงทุนมองว่าตัวเลขจ้างงานเดือนก.ยไม่ได้ต่ำมากเกินไปจนทำให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.0%

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9%

 

นางโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐถึงแม้ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่ก็ยังคงถือว่ามีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

"จำไว้ว่าตัวเลขการเพิ่มขึ้น 75,000-120,000 ตำแหน่งเป็นตัวเลขที่เราต้องการเพื่อทำให้อัตราว่างงานมีเสถียรภาพ" เขากล่าว โดยระบุว่าตัวเลขการจ้างงานเฉลี่ยรอบ 3 เดือนในปีนี้ยังคงสูงถึง 192,000 ตำแหน่ง

 

นอกจากนี้ นางเมสเตอร์ยังกล่าวว่า การประชุมของเฟดในครั้งต่อไปในวันที่ 1-2 พ.ย. จะไม่ได้รับผลกระทบจากการจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.

 

ส่วนนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานประจำเดือนก.ย.ถือว่าใกล้เคียงกับตัวเลขที่เฟดต้องการ

 

นายฟิสเชอร์กล่าวว่า ถึงแม้ตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ แต่ก็สอดคล้องกับแนวโน้มการลดลงของการว่างงาน โดยสหรัฐกำลังเข้าใกล้ภาวะการจ้างงานเต็มศักยภาพ

 

ขณะที่เงินปอนด์ยังคงอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ โดยปอนด์อ่อนค่าทรุดตัวลง 6% ในการซื้อขายช่วงแรก แตะระดับ 1.1819 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 1985 โดยการดิ่งลงดังกล่าวนับว่ามีความรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่มีการประกาศผลการลงประชามติของอังกฤษแยกตัวจากสหภาพยุโรปในวันที่ 24 มิ.ย.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร โทร.02-2535000 อีเมล์: jongdee@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2526287

 

สื่อตีข่าวนักลงทุนกาตาร์กำลังเพิ่มการถือหุ้นดอยซ์แบงก์สู่ 25% ขณะไม่มีแผนขายหุ้น

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 8 ตุลาคม 2559 00:17:13 น.

สื่อรายงานในวันนี้ว่า นักลงทุนจากกาตาร์ไม่มีแผนที่จะขายหุ้นดอยซ์แบงก์ออกมา และเตรียมเข้าซื้อมากขึ้น หากดอยซ์แบงก์ตัดสินใจเพิ่มทุน

 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า นักลงทุนจากกาตาร์กำลังเพิ่มการถือครองหุ้นในธนาคารดอยซ์แบงก์ สู่ระดับ 25%

 

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวระบุว่า นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวไม่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มการถือครองหุ้นดอยซ์แบงก์สู่ระดับดังกล่าว

 

ทั้งนี้ กองทุนภายใต้การบริหารของชีคห์ ฮาหมัด บิน จัสซิม อัล-ทานี อดีตนายกรัฐมนตรีกาตาร์ ได้เข้าซื้อหุ้นดอยซ์แบงก์ในกลางปี 2014 และเพิ่มการถือครองหุ้นใกล้ระดับ 10% ในเดือนก.ค.ปีนี้

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2526187

 

ธ.กสิกรฯคาดสัปดาห์หน้าค่าเงินบาทเคลื่อน 34.70-35.00 รอถ้อยแถลงประธานเฟด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 8 ตุลาคม 2559 15:57:52 น.

ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้า (10-14 ต.ค.) อยู่ที่ 34.70-35.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดในช่วงต้นสัปดาห์น่าจะยังคงอยู่ที่ความเป็นไปได้ของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังการรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และผลการดีเบตรอบสองระหว่างคู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มเติมในระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือน ต.ค. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้ผลิต ขณะที่ปัจจัยสำคัญอื่นๆ ประกอบด้วย สถานการณ์ปัญหาในภาคธนาคารของเยอรมนี รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจเดือน ก.ย.ของจีน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: jumnain@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2526565

 

กสิกรฯคาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้ากรอบ 1,460-1,550 จุด เก็งผลกำไรบจ.Q3 ถ้อยแถลงเฟด

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 8 ตุลาคม 2559 16:03:42 น.

บล.กสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (10-14 ต.ค.) มีแนวรับที่ 1,480 และ 1,460 จุด แนวต้านอยู่ที่ 1,525 และ 1,550 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3/59 รวมทั้งถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ การเปิดเผยบันทึกการประชุมเฟด และยอดค้าปลีก สำหรับข้อมูลต่างประเทศที่น่าสนใจ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซน และข้อมูลการค้าของจีน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: jumnain@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2526566

 

สื่อตีข่าวนักลงทุนกาตาร์กำลังเพิ่มการถือหุ้นดอยซ์แบงก์สู่ 25% ขณะไม่มีแผนขายหุ้น

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 8 ตุลาคม 2559 00:17:13 น.

สื่อรายงานในวันนี้ว่า นักลงทุนจากกาตาร์ไม่มีแผนที่จะขายหุ้นดอยซ์แบงก์ออกมา และเตรียมเข้าซื้อมากขึ้น หากดอยซ์แบงก์ตัดสินใจเพิ่มทุน

 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า นักลงทุนจากกาตาร์กำลังเพิ่มการถือครองหุ้นในธนาคารดอยซ์แบงก์ สู่ระดับ 25%

 

อย่างไรก็ดี แหล่งข่าวระบุว่า นักลงทุนกลุ่มดังกล่าวไม่มีแนวโน้มที่จะเพิ่มการถือครองหุ้นดอยซ์แบงก์สู่ระดับดังกล่าว

 

ทั้งนี้ กองทุนภายใต้การบริหารของชีคห์ ฮาหมัด บิน จัสซิม อัล-ทานี อดีตนายกรัฐมนตรีกาตาร์ ได้เข้าซื้อหุ้นดอยซ์แบงก์ในกลางปี 2014 และเพิ่มการถือครองหุ้นใกล้ระดับ 10% ในเดือนก.ค.ปีนี้

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2526187

 

โอบามา ออกคำสั่งประธานาธิบดียกเลิกคว่ำบาตรเศรษฐกิจเมียนมา

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 8 ตุลาคม 2559 15:30:00 น.

ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐได้ออกคำสั่งพิเศษของประธานาธิบดี (Executive Order) เพื่อยกเลิกคว่ำบาตรเศรษฐกิจเมียนมา

 

 

 

ก่อนหน้านี้ ปธน.โอบามาประกาศความพร้อมในการยกเลิกคว่ำบาตรเมียนมา ในระหว่างนางออง ซาน ซูจี รัฐมนตรีต่างประเทศและที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมาเยือนกรุงวอชิงตันของสหรัฐอย่างเป็นทางการเดือนที่แล้ว

 

ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐออกแถลงการณ์สืบเนื่องการประกาศของปธน.โอบามาว่า การคว่ำบาตรเศรษฐกิจเมียนมาซึ่งดำเนินการโดยสำนักงานควบคุมสินทรัพย์ในต่างประเทศ กระทรวงการคลังสหรัฐ จะไม่มีผลบังคับใช้อีกต่อไป

 

ทั้งนี้ในเดือนพ.ค. สหรัฐประกาศยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรการทางค้ากับเมียนมาบางส่วน เพื่อสนับสนุนการปฏิรูปทางการเมือง และสนับสนุนเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศ

 

กระทรวงคลังสหรัฐ ได้ประกาศแก้ไขกฎระเบียบเพื่อผ่อนปรนมาตรการคว่ำบาตรสถาบันการเงินเมียนมา โดยเปิดให้เมียนมาสามารถทำธุรกรรมบางรายการกับภาคเอกชนของสหรัฐได้ และเพิกถอนรายชื่อรัฐวิสาหกิจ 7 แห่งและธนาคารของรัฐ 3 แห่งของเมียนมาออกจากบัญชีดำ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร โทร.02-2535000 อีเมล์: jongdee@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2526562

[ginger 11,058]

 

 

 

 

 

 

 

พักผ่อนวันหยุดให้สบายนะเพื่อน วันจันทร์ วันโคลัมบัสเดย์

 

วันโคลัมบัส** วันจันทร์ 10 ตุลาคม, 2016 เมกาหยุด

 

สหรัฐอเมริกา (นิวยอร์ก) : วันหยุดนักขัตฤกษ์, ธนาคารปิดทำการ, วันโรงเรียนปิด

ถูกแก้ไข ตุลาคม 8, 2016 โดย ginger

[ginger 11,058]

 

 

 

 

ขอถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ

พระองค์คือพ่อ แม่ ของแผ่นดิน พระองค์คือดวงใจของคนทั้งชาติเราจะหลอมรวมจิตใจของพวกเรา

ให้เป็นหนึ่งเดียว พระองค์คือหนึ่งเดียวที่ผูกพันพวกเราไว้ พวกเราจะร้อยหัวใจ

ถวายความรักอันยิ่งใหญ่ชั่วนิรันดร์แด่องค์ราชันย์

แด่องค์ราชินี ทรงพระเกษมสำราญยิ่งยืนนาน

 

Cr #คณะศิษย์วัดป่าสันติสุขญาณสัมปันโน

[ginger 11,058]

 

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง

เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช ฉบับที่ ๓๗

วันนี้ คณะแพทยผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รายงานว่า ในวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๙ คณะแพทย์ ฯ ได้ขอพระราชทานถวายใส่สายสวนเข้าหลอดพระโลหิตดำเพื่อเตรียมการสำหรับการฟอกพระโลหิต (Hemodialysis) ระยะยาว และเปลี่ยนสายระบบน้ำไขสันหลังในโพรงพระสมองบริเวณบั้นพระองค์ (เอว) ตั้งแต่เวลา ๑๔ นาฬิกาถึง ๑๖ นาฬิกา ๔๐ นาที ปรากฎภายหลังว่า มีความดันพระโลหิตลดต่ำลงเป็นครั้งคราว คณะแพทย์ ฯ จึงได้ถวายพระโอสถและได้ใช้เครื่องช่วยหายพระทัย (Ventilator) เพื่อทำให้ความดันพระโลหิตกลับสู่ระดับปรกติ จนกระทั่งเวลา ๓ นาฬิกาวันนี้ มีพระชีพจรเร็วขึ้น ความดันพระโลหิตลดลง ผลการตรวจพระโลหิตพบว่า พระโลหิตมีความเป็นกรดเพิ่มขึ้น ผลการตรวจพระหทัยด้วยคลื่นเสียงสะท้อน (Echocardiography) พบว่า ปริมาณพระโลหิตที่เข้าสู่พระหทัยด้านซ้ายช่องล่างลดลงมาก อันเป็นผลจากการที่มีความดันพระโลหิตในพระปัปผาสะ (ปอด) สูง คณะแพทย์ ฯ ได้ถวายพระโอสถขยายหลอดพระโลหิตในพระปัปผาสะ (ปอด) เมื่อเวลา ๑๕ นาฬิกา ทำให้พระชีพจรเริ่มลดลงและความดันพระโลหิตดีขึ้น คณะแพทย์ฯ ได้เฝ้าติดตามพระอาการและถวายการรักษาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากพระอาการประชวรโดยรวมยังไม่คงที่ และได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้งดพระราชกิจ

 

จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง

๙ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙

ถูกแก้ไข ตุลาคม 10, 2016 โดย ginger

[ginger 11,058]

 

ลุงตู่เนื้อหอมสุดๆ ในวันเดียวต้อนรับผู้นำต่างประเทศถึง 4 ประเทศด้.

13 hrs ·

 

 

 

ลุงตู่เนื้อหอมสุดๆ ในวันเดียวต้อนรับผู้นำต่างประเทศถึง 4 ประเทศด้วยกัน

-----------

วันที่ 9 ตุลาคม 2559 ประธานกลุ่ม G77 และนายกรัฐมนตรีของไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้การต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองจาก 4 ประเทศดังนี้

 

1.) ประธานาธิบดีโรฮานีของอิหร่าน

2.) นายกรัฐมนตรีฮุน เซ็น จากกัมพูชา

3.) นายนายหลี่ หยวนเฉา รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน

4.) นายเชอริ่ง ต็อบเกย์ (Mr. Tshering Tobgay) นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน

ทั้งหมดนี้เป็นการหารือระดับทวิภาคีระหว่างไทยกับกับต่างประเทศและจีนเข้าร่วมประชุม ACD Summit ครั้งที่ 2 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ

The Eyes

เพจ: ปอกเปลือก ทรราช

https://www.facebook.com/fisont

https://vk.com/theeyesproject

09/10/2559

===

ข่าวดีไหลเข้ามา ประเทศไทยจัดประชุมสุดยอดผู้นำเอเซีย Asian Cooperation Dialogue ที่กรุงเทพ 8-10 ตุลาคม 2559 มีความลับ

==========================================

ACD นี่เป็นเรื่องสำคัญมากๆนะครับ ต่ออนาคตของประเทศไทย มีโอกาสมหาศาลมาก

องค์กรนี้ตั้งสำนักงานอยูที่คูเวต ไทยเป็นประธานปีนี้ ตั้งแต่กันยายน2558 ถืงสิ้นปี2559

สนับสนุนเต็มที่โดยอาหรับ เอมิเรตส์ มีความลับอยู่นะครับ เพราะเอมิเรทส์จะเป็นประธานปีหน้า

องค์กรนี้มีสมาชิกรวมแล้ว 34 ประเทศ

ประเทศสำคัญ คือ บาห์เรน บังกลาเทศ จีน อินเดีย อิหร่าน ญี่ปุ่น เกาหลี โอมาน รัสเซีย ซาอุดิอารเบีย กาต้า เอมิเรทส์ คูเวต ปากีสถาน ตุรกี ศรีลังกา

ประเทศเหล่านี้สำคัญต่อประเทศไทยมาก

--------------------------------

ACD สำคัญต่อไทยอย่างไร

===========================

หนื่ง สมาชิกจำนวนมากใน ACD เป็นประเทศมุสลิมถืง 14 ประเทศ ประเทศเหล่านี้เป็นประเทศเอเซีย จำนวนหนื่งอยู่ในเอเซียตะวันตก เรียกว่า West Asia จืงช่วยไทยได้มากใน OIC -Organisation for Islamic Conference องค์กรหลังนี้สนับสนุนไทยในปัญหาสามจังหวัดชายแดนภาคใต้

สอง นี่คือเวทีที่ทำให้ไทยมีโอกาสพบปะ เจรจากับประเทศในโลกมุสลิม ที่ต่อไปจะมีสัดส่วนประชากรร่วมหนื่งในสามของโลก ขายของได้เยอะ คุยเรื่องสันติภาพ รวมกลุ่มต่อรองกับตะวันตก

สาม เป็นเวทีที่ไทยคุยกับซาอุดิอารเบีย

สี่ ตลาดประเทศกลุ่มนี้ใหญ่โตมาก ทั้งตลาดการท่องเที่ยว ตลาดขายอาหาร การบิน การเงิน คนไทยไปทำงานด้านการบินกันมาก ประชากรคูเวต 40% เป็นคนเอเซีย

ห้า นี่คือองค์กรที่เชื่อมต่อการรวมกลุ่มต่างๆของประเทศในเอเซียเข้าไว้ด้วยกัน คือ ASEAN 10 ประเทศ SAARC Bimstec GCC SCO

---------------------------------------------------------------------

SAARC - South Asian Association for Regional Cooperation มี 8 ประเทศ เช่น อินเดีย ปากี บังกลาเทศ

Bimstec Bay of Bengal Initiative for Multisectoral ....Cooperation องค์กรเชื่อมระหว่างเอเซียใต้กับอาเซียน

GCC -Gulf Cooperation Council มีหกประเทศ คือ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาต้าร์ ซาอุ อาหรับเอมิเรตส์ หกประเทศนี้ปกครองโดยกษัตริ์ยหลายระบบ ไทยซื้อน้ำมันจากกาต้าร์ โอมานนะครับ

SCO- Shanghai Cooperation Organisation มีจีน รัสเซีย หลัก คาซักสถาน เคอร์จิสสถาน ทาจิก อุซเบ

ปีหน้า อินเดีย และปากีสถานจะเข้าเป็นสมาชิกนะครับ ขีดเส้นใต้

-------------------------------------

แล้วไงครับ

มันเป็นยังงี้ครับ

--------------------

ในหมู่ประเทศในโลก 200 ประเทศนี่นะครับ โอกาสจะเข้ากลุ่มกันมันยาก

หลายประเทศเดินโด่เด่ เดี่ยวๆ เหงามาก มีงานอะไรคนก็ไม่ชวน มีภัยก็ไม่มีเพื่อนคอยช่วย มีลาภคนก้ไม่ชวน มีโอกาสก็ทำไม่ได้ คนไม่ชวน

ก็เหมือนนักเรียนในโรงเรียน เดินเดี่ยวมันเหงา โลกระหว่างประเทศก็เหมือนกัน ไทยก็มีแค่อาเซียนนี่แหละ ยิ่งขยายกลุ่มมีเพื่อนยิ่งดี

อีกเรื่องหนื่ง คือ โลกเรากำลังแบ่งเป็นหลายขั่วครับ มีโลกของอเมริกาเหนือ โลกของ ยุโรป โลกของเอเซียจะเกิดจากองค์กรนี้ ปี 2030 ตั้งใจว่าจะเกิดประชาคมประเทศเอเซียขื้นจากองค์กรนี้

ยิ่งใหญ่

นี่คือการรวมกันของชาวเอเซียที่มีเทคโนโลยี่ มีพลังงานน้ำมัน แก้ส มีตลาด มีกำลังซื้อ มีการทหาร มีสมอง และมีความภาคภูมิใจ

ต้องมานั่งคุยกัน ร่วมมือกัน มีปัญหาก็ช่วยกัน

ชาติตะวันตกเขาก็อยากได้ของพวกนี้จากเอเซีย จะเอาเป็นฐานทัพยิงนิวเคลียร์ด้วย

================================

โลกของการต่างประเทศก็เพื่อยกฐานะความเป็นอยู่ของประชาชนครับ

ผมมองเห็นโอกาสที่คนไทยจะไปทำงานในเอเซียตะวันตก รายไดเดือนละหลายแสนบาท

มองเห็นตลาดที่เราส่งสินค้าไปขายได้

มองเห็นนักท่องเที่ยวที่จะหลั่งไหลเข้ามา

มองเห็นตลาดฮาลาล ตลาดอินเดีย

มองเห็นที่พื่งพาด้านพลังงาน

มองเห็นความฮาเมื่อคนเอเซียคุยกัน

มองเห็นอนาคตเด็กไทยที่จะบินไปประเทศเหล่านี้ ในฐานะนักบินและผู้เชี่ยวชาญ

ถ้าผมเป็น รมต แรงงาน จะรีบขอแจม คุยส่งคนไทยไปกินเงินเดือนหลายแสนสักห้าแสนคน จริงนะ

อยากให้เด็กไทยได้ทุนไปดูโลก เชี่ยวชาญประเทศแปลกๆสักหนื่งประเทศก็รุ่งแล้ว

======

==================

หวังว่าจะได้ข้อตกลงขยายสำนักงาน มีแผนงานชัดเจน

ทำแบบอียู อาเซียนเลย

แต่ท่านเอมีร์เงินเยอะมาก ค่าตั้งสำนักงานในความสนับสนุนของท่านเอมีร์ ท่านเฉก ท่านสุลต่านต่างๆเล็กน้อยมาก ทีซื้อทีมฟุตบอลอังกฤษแข่งกันเป็นสิบทีมยังได้เลย

จะติดตามชมดูนายก และอาจารย์น้อง ท่านดอน ชาวกต แสดงในงานระดับโลกนะครับ

------------------------------

ป์๊งชอบพูดเรื่องผู้นำประเทศไทยไม่มีทวิภาคีอยู่เรื่อย

นี่ก็มากันเยอะเลย

ทวิภาคี ไตรภาคี จตุภาคี เบญจภาคี ฉภาคี สัตตภาคี อฐภาคี นพภาคี ทศภาคี มีหมด เอากันเต๊มที่

-33 ประเทศ่ เรียก จตุตทศภาคี 55

นี่นายกบาห์เรนก็บอกไทยพัฒนาดีมาก เสถียรภาพและความมั่นคง จำเป็น ปีหน้าจะเชิญไทยไปคุยกันสองต่อสอง

ถ้ายังไง กต น่าจะเชิญท่านปื๋งมาทำภาคีนะครับ ดูจะเหงา ให้คุยกับซาอุก็ได้

----------------------------------

นี่เป็นงานใหญ่

ข่าวกรองทุกประเทศจับตามาก

ในความเงียบมีความลับซ่อนอยู่

ปล่อยให้หลายคนตกยุคอยู่กับ 6 ตุลา 19 เฮื ทำไมไม่วิวัฒนาการ

เราจะเดินไปสู่ความยิ่งใหญ่ของเอเซีย ชาวเอเซีย

และสันติภาพของโลก

-----------------------

น้องๆที่อยากทำงานอินเตอร์ งานกต บริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก เก็บไว้เลยนะครับ

นี่คือความลับ แนวเจสัน บอน ผสม เจมส์ บอนด์55

==========================

คิดถืงคนตั้ง ACD นะครับ จุ๊ฟ จุ๊ฟ แบบอินเตอร์ อย่าเขิลล์

ธรรมเนียมสเปน ละติน ผู้ชายต้องจูบกันในที่สาธารณะ

อ้อ ผู้นำส่วนใหญ่ที่มา เหมาเครื่องมากันทั้งนั้น กลัวไอสิส หรือเมกาจับ55

เอาเครื่องตัวเองมาก็เยอะนะครับ

เมืองไทยเนี่ยไปไหนค่อนข้างกระจอกทีเดียว

มีเพื่อนรวยก็งี้

---------------------------------

ประเทศไทยจงเจริญ

===========================

ข่าวกรองทั่วโลกมากระจุกตัวที่กรุงเทพ วันนี้

อ้ออีกอ้อ ทุกงานเลี้ยงต้องไม่มีอัลกอฮอล์นะครับ

สุภาพสตรีควรแต่งกายแนวสุภาพ มิดชิดนิดนืง

เคยมีเพื่อนอิสลามเยอะ เลยรู้ครับ

เพื่อชาติ เพื่อเอเซีย เพื่อสันติภาพ และความรุ่งโรจน์ชัชวาลย์ของประเทศ

------------------------------------

ประเทศไทยจงเจริญ

======================

ช่วยเผยแพร่กันหน่อยครับ คนจะได้รู้กันทั่วๆ จะมั่นใจ ภูมิใจในประเทศไทย และแลเห็นโอกาสให้ลูกหลาน ได้บุญนะ

รู้ภาษาอาหรับไว้ดีมาก

[ginger 11,058]

สวัสดีวันจันทร์ต้อนรับ ACD สวัสดีประเทศไทย

 

เช็คด่วน! เเนะประชาชน เลี่ยงเส้นทางประชุม ACD

 

วันโคลัมบัส** วันจันทร์ 10 ตุลาคม, 2016 เมกาหยุด

 

สหรัฐอเมริกา (นิวยอร์ก) : วันหยุดนักขัตฤกษ์, ธนาคารปิดทำการ, วันโรงเรียนปิด

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2559 06:14:02 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 ต.ค. 2559

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย. ไม่ได้ต่ำมากเกินไปจนทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,240.49 จุด ลดลง 28.01 จุด หรือ -0.15% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,292.40 จุด ลดลง 14.45 จุด หรือ -0.27% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,153.74 จุด ลดลง 7.03 จุด หรือ -0.33%

 

 

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย.

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.93% ปิดที่ 339.64 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,449.91 จุด ลดลง 30.19 จุด หรือ -0.67% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,490.86 จุด ลดลง 77.94 จุด หรือ -0.74% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,044.39 จุด เพิ่มขึ้น 44.43 จุด หรือ +0.63%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มโลหะ เหมืองแร่ และพลังงาน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าลงอย่างหนักของสกุลเงินปอนด์ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทส่งออกของอังกฤษทำกำไรได้มากขึ้น

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,044.39 จุด เพิ่มขึ้น 44.43 จุด หรือ +0.63%

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) ทำสถิติปรับตัวลงติดต่อกัน 6 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเข้าเทขายทองคำด้วยมุมมองที่ว่าตัวเลขจ้างงานสหรัฐเดือนก.ย. ไม่ได้ต่ำมากเกินไปจนทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.1 ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,251.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 3.5 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 17.38 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 3.7 ดอลลาร์ หรือ 0.38% ปิดที่ 962.6 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 1.25 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 667.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าเทขายทำกำไร หลังจากพุ่งกว่า 1% ในการซื้อขายก่อนหน้า

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 63 เซนต์ หรือ 1.25% ปิดที่ 49.81 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 58 เซนต์ หรือ 1.10% ปิดที่ 51.93 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวแตกต่างกันเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักต่างๆในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.

 

เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1173 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1153 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ค่าเงินปอนด์ลดลงแตะระดับ 1.2441 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.2638 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะระดับ 0.7577 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7584 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 103.21 เยน จากระดับ 104.08 เยน อ่อนค่าลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9792 ฟรังก์ จากระดับ 0.9806 ฟรังก์ ในขณะที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3273 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3212 ดอลลาร์แคนาดา

 

ดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวผันผวนเมื่อเทียบสกุลเงินหลักต่างๆ หลังจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แต่นักลงทุนมองว่าตัวเลขจ้างงานเดือนก.ยไม่ได้ต่ำมากเกินไปจนทำให้เฟดชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,240.49 จุด ลดลง 28.01 จุด, -0.15%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,292.40 จุด ลดลง 14.45 จุด, -0.27%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,153.74 จุด ลดลง 7.03 จุด, -0.33%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,449.91 จุด ลดลง 30.19 จุด, -0.67%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,490.86 จุด ลดลง 77.94 จุด, -0.74%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,044.39 จุด เพิ่มขึ้น 44.43 จุด, +0.63%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,061.14 จุด ลดลง 45.07 จุด, -0.16%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,665.38 จุด ลดลง 1.35 จุด, -0.08%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,875.24 จุด ลดลง 9.98 จุด, -0.35%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,377.15 จุด ลดลง 32.19 จุด, -0.60%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,851.82 จุด ลดลง 100.68 จุด, -0.42%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,578.29 จุด ลดลง 41.87 จุด, -0.55%

 

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,053.80 จุด ลดลง 11.50 จุด, -0.56%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,860.09 จุด ลดลง 39.01 จุด, -0.23%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,265.81 จุด ลดลง 18.50 จุด, -0.20%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2526806

[ginger 11,058]

ราคาทองเริ่มลงแบบชะลอตัวเมื่อเข้าโซน 1240 - 1260 และถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดก็กดทองลงแตะ 1240 ในคืนวันศุกร์แต่มองว่าฟื้นตัวได้ดีและสัปดาห์นี้จะมีประเด็นสำคัญในช่วงปลายสัปดาห์ ในระหว่างสัปดาห์จึงมีโอกาสยังไม่ลงต่ำกว่า 1240 ลงไปแต่กรอบการฟื้นตัวน่าจะจำกัด จนกว่าจะมีอะไรมาทำให้เฟดเลิกพูดเรื่องขึ้นดอกเบี้ย มีแนวต้านที่เส้น 200 วันอยู่ที่ 1265 1270 และมีระยะ Retracement อยู่ที่ 1280 1292 1304 ซึ่งมองว่ามีโอกาสฟื้นตัวทดสอบแนว 1280 ได้แต่กับ 1292 1304 ยากหน่อย

ค่าเงินบาทอ่อนตัวจากค่าเงินดอลล์ที่แข็งค่าขึ้น ในขณะที่ SPDR Gold กลับมาซื้อ 11 ตัน ต้องดูอาการ SPDR อีกระยะนึงก่อนจะประเมินว่าจะบวกต่อทองได้ไหมสำหรับช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี

กรอบหลักของทอง แนวโน้มยังลง ยังไม่มีสัญญาณบวกดีๆ เท่าที่ควร แท่งสปินบาร์ล่าสุดถือว่าพอใช้ได้เท่านั้น ยังต้องคอยเตรียมแนวรับไว้ใช้อยู่ โดยประเมินแนวรับสำคัญไว้ที่ 1200 1225 และ 1235 ในขณะที่กรอบแนวต้านหลักอยู่ที่ 1265 1290 1300

สำหรับกรอบระยะสั้นถ้าผ่าน 1260 ไปได้มองว่าน่าะขึ้นจริงๆ โดยมีแนวต้านย่อยๆ ถัดไป 1268 1272 และ 1280 เป็นเป้าทำกำไร แนะนำขายไม่แนะนำซื้อตาม ถ้าฟื้นตัวขึ้นรอบนี้ยังน่าจะขายลดพอร์ตลงอยู่ ไม่ว่าจะซื้อจาก 1240 1260 หรือว่าติดมาจากด้านบน ในขณะที่ขาเอสยังถือได้แต่มองว่าน่าปิดมากกว่าแล้ว ถ้าผ่าน 1260 อีกทีก็ปิดแล้วรอดักเอสที่ 1280 1292 ดีกว่า

10 Oct, 2016

www.facebook.com/Wealthstation

ถูกแก้ไข ตุลาคม 10, 2016 โดย ginger

[ginger 11,058]

NOW26

 

HSHsocial

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า 10-Oct-2016

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า 10-Oct-2016

AUSIRIS.CO.TH

 

 

 

 

NationTV22

 

 

 

 

NOW26

 

 

NOW26

 

NationTV22

 

NOW26

คู่แฝดธรรมกาย กล่องดำมหาอาณาจักร

ลึกเข้าไปในมหาอาณาจักรธรรมกาย...หลังม่านจีวรสีเหลือง คือธุรกรรมทางการเงิน และผลประโยชน์มหาศาล วิธีการบริหารจัดการเงินสลับซับซ้อน เซียนเหยียบเมฆ ลึกลับอย่างที่สุด

NAEWNA.COM

 

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดเงินบาท: เงินบาทเช้านี้อ่อนค่ามาที่ 35.04 จากเปิด 34.91/93 แนวโน้มอ่อนค่าต่อ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2559 09:12:00 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 34.91/93 บาท/ดอลลาร์ จาก

 

 

 

ช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 34.90 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุดเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าไปสู่ระดับ 35.04 บาท/ดอลลาร์แล้ว ซึ่งอาจจะเป็นผลมาจากปัจจัยในประเทศ โดยคาดว่า

 

วันนี้เงินบาทยังมีโอกาสจะอ่อนค่าได้ต่อ

นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 34.90-35.10 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 102.95/96 เยน/ดอลลาร์ จากปิดวันศุกร์ที่ระดับ 103.76 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1190/1193 ดอลลาร์/ยูโร จากปิดวันศุกร์ที่ระดับ 1.1120 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.8910 บาท/

 

ดอลลาร์

- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (10-14 ต.ค.) อยู่ที่ 34.70-35.00 บาท

 

ต่อดอลลาร์ฯ โดยจุดสนใจของตลาดในช่วงต้นสัปดาห์น่าจะยังคงอยู่ที่ความเป็นไปได้ของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ หลังการ

 

รายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และผลการดีเบตรอบสองระหว่างคู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ

 

นอกจากนี้ ตลาดอาจรอติดตามถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มเติมในระหว่างสัปดาห์

 

ได้แก่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือน ต.ค. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้ผลิต ขณะที่ปัจจัยสำคัญอื่นๆ ประกอบด้วย

 

สถานการณ์ปัญหาในภาคธนาคารของเยอรมนี รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจเดือน ก.ย.ของจีน

- HSBC ระบุแม้มุมมองภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐที่

 

อาจล่าช้า และเศรษฐกิจโลกยังเปราะบาง คงเป้าหมายจีดีพีเติบโตปีนี้และปีหน้าที่ระดับ 2.8% คาด กนง.ลดดอกเบี้ย 1 ครั้งในไตร

 

มาส 4 ดันเศรษฐกิจ

- กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย.

 

ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.0%

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. และอัตราการว่างงานจะ

 

ทรงตัวที่ระดับ 4.9%

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวแตกต่างกันเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักต่างๆในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์

 

(7 ต.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย. โดยเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบ

 

ดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1173 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1153 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่

 

ระดับ 103.21 เยน จากระดับ 104.08 เยน

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) ทำสถิติปรับตัวลงติดต่อกัน 6 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุน

 

เข้าเทขายทองคำด้วยมุมมองที่ว่าตัวเลขจ้างงานสหรัฐเดือนก.ย. ไม่ได้ต่ำมากเกินไปจนทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการ

 

ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.1 ดอลลาร์ หรือ

 

0.09% ปิดที่ 1,251.9 ดอลลาร์/ออนซ์

- ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ระบุว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นพร้อมที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม

 

หากมีความจำเป็น แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระดับปานกลางทำให้ BOJ ยังไม่ต้องดำเนินการในเรื่องดังกล่าวในขณะนี้ พร้อมคาด

 

การณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะขยายตัว และในขณะนี้คิดว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงลงสู่ระดับต่ำกว่า -0.1%

 

โดย BOJ คาดว่าในปี 2559 เศรษฐกิจญี่ปุ่นจะขยายตัว 1% และในปี 2560 จะขยายตัว 1.5%

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2527090

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-อิงขาลง หวั่นบาทอ่อนค่าจะกระตุ้นให้เกิดแรงขายของต่างชาติ-ราคาน้ำมันลง

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2559 09:33:48 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคระห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่ง Sideway ถึง Sideway down เนื่อจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าลง เป็นการกระตุ้นให้เกิดแรงขายของนักลงทุนต่างชาติ หลังจากที่ได้เริ่มเห็นต่างชาติขายสุทธิเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และราคาน้ำมันก็ได้ปรับตัวลงด้วย

 

 

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังมีความกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) น่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสักหนึ่งครั้งในปีนี้ แม้ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯจะออกมาแย่กว่าที่คาดไว้

 

อย่างไรก็ดี วันนี้ให้ติดตามการโต้วาทีของสหรัฐฯในรอบที่ 2 และติดตามการกลับมาเทรดของตลาดหุ้นไทยจีนหลังจากที่ได้ปิดทำการระยะยาว ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบเล็กน้อย โดยตลาดหุ้นจีนได้เปิดในแดนบวก

 

พร้อมให้แนวรับ 1,500-1,490 จุด ส่วนแนวต้าน 1,515-1,520 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (7 ต.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,240.49 จุด ลดลง 28.01 จุด (-0.15%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,292.40 จุด ลดลง 14.45 จุด (-0.27%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,153.74 จุด ลดลง 7.03 จุด (-0.33%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 15.76 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 6.61 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 5.39 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.10 จุด

 

ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันเพื่อสุขภาพและการกีฬา, ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลชงโหย่ง และตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันชาติ

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ต.ค.59) 1,504.34 จุด ลดลง 9.52 จุด (-0.63%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 587.58 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ต.ค.59

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (7 ต.ค.59) ปิดที่ 49.81 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 63 เซนต์ หรือ 1.25%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (7 ต.ค.59) ที่ 5.05 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 35.04 จากเปิด 34.91/93 แนวโน้มอ่อนค่าต่อ

- "สมคิด จาตุศรีพิทักษ์" รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากการนำคณะเดินทางไปเชิญชวนนักลงทุนใน 2 ประเทศจากยุโรปคือ ฝรั่งเศสและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีระหว่างวันที่ 5-8 ต.ค.ที่ผ่านมา มั่นใจว่าจะสามารถดึงการลงทุนจากยุโรปได้มากขึ้น โดยเฉพาะกรณีบริษัทยักษ์ใหญ่ที่ได้มีการเจรจาเป็นรายบริษัทนั้น แม้บางแห่งยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจเลือกประเทศที่จะไปลงทุน แต่มั่นใจว่าทุกแห่งจะเลือกประเทศไทย โดยเฉพาะหลังจากที่ได้นำเสนอพื้นที่การลงทุนที่ไทยกำลังพัฒนา เพื่อรองรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสูงคือ โครงการพัฒนาเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี)

 

- นายกฯเปิดประชุมเวทีธุรกิจ 'เอซีดี' แนะสมาชิกเอเชียปรับใช้ 'ฟินเทค' ลดใช้เงินสด 'บิ๊กตู่-ฮุน เซน'พร้อมนั่งรถไฟสายประวัติศาสตร์เชื่อม 2 ปท.

 

- เอชเอสบีซีระบุแม้มุมมองภาพรวมเศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐที่อาจล่าช้า และเศรษฐกิจโลกยังเปราะบาง คงเป้าหมายจีดีพีเติบโตปีนี้และปีหน้าที่ระดับ 2.8% คาด กนง.ลดดอกเบี้ย 1 ครั้งในไตรมาส 4 ดันเศรษฐกิจ

 

- "สุทธิพล ทวีชัยการ" เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ คปภ.จะลงนามบันทึกความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับสมาคมธนาคารไทย โดยขอให้ธนาคารสมาชิกทำประกันภัยความเสี่ยงจากภัยธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ไซเบอร์ริสค์) สำหรับให้ความคุ้มครองแก่ลูกค้าที่ได้รับความเดือดร้อนจากการโจรกรรมข้อมูลและภัยรูปแบบต่างๆ ที่เกิดขึ้นทางการเงินอิเล็กทรอนิกส์ ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ตแบงก์ โมบายแบงก์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต ตู้เอทีเอ็ม รวมถึงช่วยบริหารความเสี่ยงให้กับธนาคารพาณิชย์สำหรับป้องกัน กลุ่มมิจฉาชีพต่างๆ ด้วย

 

- กฟผ.เผยโรงไฟฟ้ากระบี่ ผ่านไตรภาคีเดือน ต.ค. นี้ พร้อมชงนายกฯ กำหนดแผนดำเนินการต่อ โต้กลุ่มคัดค้านจะทำการจ่ายไฟล่าช้า โดยไร้เงามารับผิดชอบ

 

- รายงานข่าวจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กองสารสนเทศและดัชนีเศรษฐกิจการค้า ซึ่งเป็นหน่วยงานสำรวจดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ (เงินเฟ้อ) ได้สำรวจราคาสินค้าอาหารบริโภค ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.ก.ย.) พบว่า ประชาชนต้องบริโภคอาหารในราคาที่แพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการซื้ออาหารไปทำกินเองที่บ้าน เนื่องจากวัตถุดิบในการปรุงอาหารมีราคาปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่การออกไปบริโภคอาหารนอกบ้าน ตามร้านอาหาร ภัตตาคาร หรือตามร้านค้าทั่วไป ทั้งในตลาดและริมถนน ก็มีราคาแพงขึ้นเช่นกัน เพราะพ่อค้าแม่ค้าต่างปรับราคาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเช่นเดียวกัน

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- BANPU (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 23 บาท ราคาถ่านหินปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง เข้าใกล้ high season หนุนความต้องการ พร้อมมองแนวโน้มกำไรเริ่มฟื้นตัวขึ้นเร็วกว่าที่คาดจากราคาถ่านหินที่พุ่งแรงระหว่างไตรมาส คาดกำไร Q3/59 เติบโต ส่วน Q4/59 ดีต่อเนื่อง และได้ประโยชน์ราคาถ่านหินเต็มปีในปีหน้า ดันกำไรทั้งปีเติบโตก้าวกระโดด แนะจับตาการกำหนดราคาล่วงหน้าของโรงไฟฟ้าญี่ปุ่นช่วงต้น Q4/59

 

- EGCO (ไอร่า) เป้า 216 บาท แนวโน้มกำไรโตต่อเนื่องจากปี 59-63 จากการเปิดดำเนินงานโรงไฟฟ้าใหม่ โดย EGCO มีโครงการโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 7 โครงการ นอกจากนี้ยังมีโครงการสำคัญอีก 2 โครงการคือ โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพทีอินโดนีเซีย ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจาค่าไฟฟ้าใหม่ และโครงการเก็บพลังงานไฟฟ้า (Battery Storage) ที่ฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง

 

- KCE (โกลเบล็ก) เป้า Consensus สูงสุด 125 บาท โดย Consensus คาดกำไรปี 59 ก้าวกระโดดเป็น 2.8 พันล้านบาท (+24%YoY) จากการเปิดใช้โรงงานใหม่เฟส 2 ซึ่งช่วยประหยัดต้นทุนและสามารถผลิตสินค้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ส่วน PCB ในอุตฯยานยนต์มีการเติบโตและ Demand สูง เนื่องจากเปลี่ยนมาใช้ระบบ Electronic ซึง KCE มีลูกค้าในกลุ่มยานยนต์ราว 70% นอกจากนี้ ลงทุน 35 ล้านเหรียญสหรัฐ ลงเครื่องโรงงานเฟส 3 และเดินเครื่องในช่วง 1Q60 ช่วยกระตุ้นการเติบโตของยอดขาย อัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิของบริษัท

 

- TRC (เคจีไอ)เป้า Consensus 1.49 บาท ประเด็นเรื่องการลงทุนและการได้รับงานก่อสร้างเหมืองแร่โปแตซ รอปลดล๊อกจากการเพิ่มทุนใน บมจ.อาเซียนโปแตชชัยภูมิ (APOT) โดยกระทรวงการคลังฯ (หรือรัฐวิสาหกิจ) เพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้นไม่ให้ต่ำกว่า 20% ซึ่งจะเป็นเงื่อนไข ที่ทำให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ สำหรับการลงทุนก่อสร้างเหมืองแร่ฯ คาดจะปลดล๊อกได้ในไตรมาส 4/59 (มูลค่าโครงการก่อสร้างเหมืองแร่ฯราว ?3 หมื่นล้านบาท) ส่วนราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวเป็น Sentiment บวกต่อหุ้นในกลุ่มรับงานโครงสร้าง Oil&Gas

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2527221

 

เลือกตั้งสหรัฐ 2016: ฮิลลารีแจงนโยบายซีเรีย ยันไม่ส่งกองทัพภาคพื้นดิน

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2559 09:32:07 น.

ในการโต้วาทีครั้งที่ 2 ระหว่างนางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และนายโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งจากพรรครีพับลิกัน ซึ่งมีขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาไทย ผู้ดำเนินรายการได้ตั้งคำถามว่า ถ้าคุณได้เป็นประธานาธิบดี คุณจะทำอย่างไรกับสถานการณ์ที่เมืองอเลปโปในซีเรีย

 

 

 

นางฮิลลารี คลินตัน กล่าวว่า เราได้เห็นผลกระทบจากการดำเนินการของทางรัฐบาลซีเรียและอิหร่านแล้ว การทิ้งระเบิดในเมืองอเลปโป กองทัพรัสเซียตั้งใจที่จะทำลายเมืองอเลปโป เราต้องทำงานอย่างใกล้ชิดกับประเทศพันธมิตรในพื้นที่ นอกจากนี้เราสนับสนุนเรื่องการสอบสวนเกี่ยวกับอาชญากรสงคราม

 

ทั้งนี้ นางฮิลลารี ยังยืนยันด้วยว่า หากตนเองได้เป็นประธานาธิบดี จะไม่ส่งกองทัพภาคพื้นดินเข้าไปในซีเรีย เพราะจะถือเป็นเรื่องที่ผิดพลาด ถ้าได้เป็นประธานาธิบดีจะผลักดันกลุ่มรัฐอิสลามออกจากอิรัก และจะพิจารณาเรื่องการสนับสนุนด้านอาวุธให้กับกลุ่มชาวเคิร์ด

 

ด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน เปิดเผยว่า ตัวเขานั้นก็ไม่ได้ชื่นชมประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรียมากนัก แต่ก็ได้กล่าวยอมรับว่า นายอัสซาดนั้นมีบทบาทช่วยในการจัดการกับกลุ่มกองกำลังรัฐอิสลาม (IS) ด้วยความร่วมมือกับรัสเซียและอิหร่าน โดยทั้งสามประเทศที่กล่าวนี้จำเป็นต้องหันมาเป็นพันธมิตรกัน เพราะสหรัฐอเมริกาขาดนโยบายต่างประเทศที่แข็งแกร่งเพื่อจัดการกับเรื่องนี้

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2527218

 

เลือกตั้งสหรัฐ 2016: ฮิลลารีรับเสียใจกับเรื่องอีเมลส่วนตัว แจงดูแลข้อมูลลับเป็นอย่างดี

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2559 08:57:56 น.

นางฮิลลารี คลินตัน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า ที่ผ่านมา ทรัมป์ไม่เคยขอโทษ ในขณะที่บุตรชายของเธอเสียชีวิตในอิรัก และไม่เคยขอโทษผู้พิพากษา ไม่เคยขอโทษเรื่องคำโกหกเกี่ยวกับการเหยียดผิว

 

 

 

ฮิลลารี คลินตัน กล่าวถึงเรื่องเรื่องอีเมลว่า "เรื่องอีเมลเป็นเรื่องข้อผิดพลาด และขอรับผิดชอบเกี่ยวกับการใช้บัญชีอีเมลส่วนตัว ซึ่งตนเองเสียใจกับเรื่องนี้ โดยในเรื่องนี้ มี 2 เรื่องทั้งเรื่องการกล่าวหาที่จะทำให้เกิดความเข้าใจผิด แม้ว่าจะมีการสอบสวน แต่ก็ไม่มีหลักฐานว่า มีใครสามารถแฮคเซิร์ฟเวอร์ที่ดิฉันใช้งาน และไม่มีใครสามารถชี้ให้เห็นว่า ข้อมูลลับนั้นตกไปอยู่ในมือบุคคลที่ไม่เหมาะสม ฉันจริงจังกับการดูแลข้อมูลลับเหล่านี้มาก"

 

หลังถูกนางฮิลลารีกดดันให้ออกมาขอโทษต่อผู้หญิงอย่างต่อเนื่อง ด้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน โต้กลับทันทีว่า สิ่งเดียวที่ต้องมีการออกมาขอโทษ ได้แก่การกล่าวขอโทษในกรณีที่ได้ลบอีเมลลับออกไปกว่า 33,000 ฉบับ ซึ่งเป็นการกล่าวโจมตีนางฮิลลารี

 

นายทรัมป์ เปิดเผยว่า การลบอีเมลทิ้งกว่า 33,000 ฉบับนั้นถือเป็นความยิ่งใหญ่ที่มากเกินกว่าคำว่าความผิดพลาดดังที่นางฮิลลารีได้อ้างไว้ นายทรัมป์วิจารณ์ว่า นางฮิลลารีกำลังโกหกเพื่อปกปิดเนื้อหาในอีเมล นอกจากนี้ นางฮิลลารีได้ลบอีเมลดังกล่าวหลังจากที่ถูกทางการสหรัฐจับได้แล้ว ดังนั้นถือว่านางฮิลลารีไม่มีความจริงใจเป็นอย่างยิ่ง และหากเขาได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดี เขาจะทำทุกทางให้นางฮิลลารีชดใช้ในเรื่องนี้ ซึ่งรวมถึงโอกาสในการติดคุก

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2526985

 

 

 

Xinhua Middle East news summary: อดีตปธน.เยเมนเรียกร้องผู้สนับสนุนตอบโต้ซาอุฯหลังถูกถล่มกลางงานศพในกรุงซานา

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2559 09:38:46 น.

นายอาลี อับดุลเลาะห์ ซาเลห์ อดีตประธานาธิบดีเยเมนเรียกร้องให้กองกำลังติดอาวุธและบรรดาผู้ที่ภักดีต่อเขาออกมาโจมตีเพื่อตอบโต้ซาอุดิอาระเบีย

 

อดีตประธานาธิบดีซาเลห์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยกลุ่มกบฎฮูติ ปรากฎตัวทางโทรทัศน์เพียง 1 วัน หลังจากที่มีการกล่าวหาว่ากองกำลังทางอากาศของซาอุดิอาระเบียได้โจมตีสถานที่จัดงานศพในกรุงซานา

 

 

 

--นายบินาลี ยิลดิริม นายกรัฐมนตรีตุรกี เปิดเผยว่า มีพลเรือน 8 รายและทหาร 10 นายเสียชีวิต หลังจากที่กองกำลังพรรคแรงงานเคอร์ดิสถาน (PKK) ก่อเหตุคาร์บอมที่ฐานที่มั่นทางทหารแห่งหนึ่งในจังหวัดฮัคคารี ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ

 

--สำนักข่าวอัล อาราบิยา รายงานว่า กองกำลังพันธมิตรซึ่งนำโดยซาอุดิอาระเบียได้ออกแถลงการณ์เปิดการสอบสวนร่วมกับผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกันอย่างเร่งด่วน ในกรณีที่มีการโจมตีทางอากาศเข้าใส่สถานที่จัดงานศพในกรุซานา เมืองหลวงของเยเมน

 

กองกำลังพันธมิตรปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับปฏิบัติการโจมตีทางอากาศที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่าร้อยราย และเรียกร้องให้มีการสอบสวนเพื่อหาเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังการโจมตีครั้งนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาจรีย์ ธนศุภานุเวช/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2527227

[ginger 11,058]

ข้อมูลตลาดต่างประเทศ 10/10/2016

______________________________________________

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมองว่าตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย. ไม่ได้ต่ำมากเกินไปจนทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนก.ย.

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) นำโดยหุ้นกลุ่มโลหะ เหมืองแร่ และพลังงาน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าลงอย่างหนักของสกุลเงินปอนด์ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทส่งออกของอังกฤษทำกำไรได้มากขึ้น

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) ทำสถิติปรับตัวลงติดต่อกัน 6 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเข้าเทขายทองคำด้วยมุมมองที่ว่าตัวเลขจ้างงานสหรัฐเดือนก.ย. ไม่ได้ต่ำมากเกินไปจนทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าเทขายทำกำไร หลังจากพุ่งกว่า 1% ในการซื้อขายก่อนหน้า

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวแตกต่างกันเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักต่างๆในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (7 ต.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ย.

 

-- ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันนี้ (10 ต.ค.) เนื่องในวัน The day following the Chung Yeung Festival

 

-- ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ (10 ต.ค.) เนื่องในวัน Health and Sports Day

[ginger 11,058]

YLG on เจาะลึกเศรษฐกิจ 10-10-2559

 

 

MTS GOLD GROUP

 

 

 

 

MTS GOLD GROUP

 

 

 

NOW26

 

ถูกแก้ไข ตุลาคม 10, 2016 โดย ginger

[ginger 11,058]

Ylg Bullion

 

 

NOW26

 

 

ทีนิวส์ออนไลน์

 

 

 

NOW26

 

 

ทีนิวส์ออนไลน์

 

 

[ginger 11,058]

NOW26

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 10 ตุลาคม 2559 โดย YLG

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 10 ตุลาคม 2559 16:49:00 น.

กรุงเทพฯ--10 ต.ค.--พีอาร์ดีดี

สภาวะตลาดวันที่ 10 ตุลาคม 2559 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,256.20-1,264.96 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 21,000 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 200 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,800 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV16 อยู่ที่ 21,080 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 210 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,870 บาท

 

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.16 น.ของวันที่ 10/10/16)

แนวโน้มวันที่ 11 ตุลาคม 2559

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขตลาดแรงงานที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ทั้งนี้ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนกันยายน โดยอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.0% ข้อมูลดังกล่าวสร้างความยากลำบากต่อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 13-14 ธันวาคม ซึ่งการจ้างงานของสหรัฐชะลอตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนกันยายน แต่ข้อมูลดังกล่าวดันราคาทองคำขึ้นไปได้ไม่ไกลนัก เพราะนักลงทุนไม่ได้เปลี่ยนมุมมองต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับ นายสแตนลีย์ ฟิชเชอร์ รองประธานเฟด กล่าวในวันอาทิตย์ว่า การจ้างงานในสหรัฐยังคงเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจน่าจะปรับขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยถ้อยแถลงนี้บ่งชี้ว่า เฟดยังคงมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธันวาคม ประกอบกับ นักลงทุนยังคงระมัดระวังต่อความไม่แน่ใจที่เกิดขึ้นจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พฤศจิกายน นี้ ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่จัดทำโดยสำนักข่าว CNN ชี้ว่า นางฮิลลารี คลินตัน ผู้ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต สามารถคว้าชัยชนะเหนือ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ไปด้วยคะแนน 57% ต่อ 34% ในการโต้วาทีรอบที่ 2 ซึ่งจัดขึ้นในวันจันทร์นี้ที่มหาวิทยาลัยวอชิงตัน แต่สัญญาล่วงหน้าดัชนีตลาดหุ้นวอลล์สตรีทแทบไม่เปลี่ยนแปลงตลอดการโต้วาทีครั้งนี้ ซึ่งไม่เหมือนการโต้วาทีรอบแรกในวันที่ 26 กันยายน ที่กดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงโดยดันตลาดหุ้นและสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้ หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ในระยะสั้นราคาทองคำยังมีโอกาสลงทดสอบแนวรับ 1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยนักลงทุนที่รอซื้อทองคำอาจรอการย่อตัวและตัดขาดทุนหากหลุดโซนแนวรับ 1,240 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงปรับฐานของราคา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,252 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ราคาทองคำมีโอกาสที่จะดีดตัวขึ้นไปได้ แต่จะขึ้นไปได้มากเพียงใด ขึ้นอยู่กับกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในขณะนั้นเป็นสำคัญ โดยหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,270 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ราคาทองคำอาจย่อตัวลงมา โดยประเมินแนวรับที่ 1,252-1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งบริเวณดังกล่าวนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สามารถทยอยซื้อหรือเข้าลงทุนบางส่วนโดยเน้นการลงทุนระยะสั้น โดยการรอจังหวะเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณแนวรับ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,252 (20,770บาท) 1,245 (20,650บาท) 1,234 (20,470บาท)

แนวต้าน 1,270 (21,070บาท) 1,283 (21,290บาท) 1,290 (21,400บาท)

GOLD FUTURES (GFV16)

แนวรับ 1,252 (20,910บาท) 1,245 (20,790บาท) 1,234 (20,610บาท)

แนวต้าน 1,270 (21,210บาท) 1,283 (21,420บาท) 1,290 (21,540บาท)

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2527708

[ginger 11,058]

เลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นไปอย่างโกลาหล-ไม่ควรไปสอน“ประชาธิปไตย”ประเทศอื่น

การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐคนที่ 45 กำหนดวันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน 2016 หรือเหลืออีกไม่ถึงเดือนก็จะได้รับทราบว่าระหว่างนายดอนัลด์ ทรัมพ์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกันกับนางฮิลลารี…

THAITRIBUNE.ORG|BY THAI TRIBUNE