มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

NOW26

 

 

NationTV22

สมคิด สั่งก.ล.ต.ควานหามือปล่อยข่าวลือทุบหุ้น

รองนายก สมคิดสั่ง ก.ล.ต.ควานหาตัวผู้ที่ปล่อยข่าวลือทุบหุ้น วอน ประชาชนอย่าหลงเชื่อ พร้อมขอให้มั่นใจในศักยภาพของประเทศไทยนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. หาผู้ปล่อยข่าวลือต่าง ๆ จนมีผลกระทบต่อการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อย่...

MONEYCHANNEL.CO.TH

 

[ginger 11,058]

 

 

 

 

ประกาศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช

บรมนาถบพิตร สวรรคต

 

 

 

 

ในหลวงเสด็จไปอยู่บนฟ้าแล้ว

 

พระองค์ยังคงสถิตอยู่ในใจตลอดไป

กราบทูลลาแทบพระบาท

ขอเป็นข้ารองบาททุกชาติไป

ขิง

ถูกแก้ไข ตุลาคม 13, 2016 โดย ginger

[ginger 11,058]

นายกฯ เผยจะดำเนินการให้เป็นไปตามขั้นตอนการสืบราชสันตติวงศ์ ขอปชช.อย่าเชื่อข่าวลือ-งดจัดงานรื่นเริง 30 วัน

 

 

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 19:48:24 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงว่า หลังการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแล้ว ภารกิจสำคัญที่ต้องดำเนินการมี 2 ประการ คือ การดำเนินการให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยและตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พุทธศักราช 2467 ตลอดจนตามพระราชประเพณี

 

ในส่วนของการสืบราชสันตติวงศ์ ซึ่งสอดคล้องกับเพื่อให้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุขดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลจะแจ้งไปยังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาพระรัชทายาทตามกฎมณเฑียรบาลไว้แล้ว เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2515 จากนั้น สนช.จะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

 

 

 

อีกประการหนึ่ง คือการเตรียมงานพระบรมศพในส่วนของรัฐบาล และประชาชนให้สมพระเกียรติยศ และสมกับความจงรักภักดีของประชาชนชาวไทยที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ

 

ทั้งนี้ การดำเนินการ ทั้ง 2 ประการนี้ รัฐบาลจะแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบเป็นระยะต่อไป

 

ในช่วงเวลาต่อจากนี้ไป เป็นช่วงเวลาที่รัฐบาล และผู้เกี่ยวข้องจะต้องดำเนินการเรื่องต่างๆ ให้เป็นไปตามกฎหมาย และราชประเพณี รัฐบาลจึงขอให้พี่น้องประชาชนทั้งหลายรับฟังข่าวสารอย่างเป็นทางการ จากหน่วยงานราชการ อย่าเชื่อข่าวที่ลือที่ไม่ปรากฏแหล่งอ้างอิง

 

พร้อมกันนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนคนไทย แต่งกายถวายความอาลัย เป็นเวลาหนึ่งปี สถานที่ราชการลดธงครึ่งเสา เป็นเวลา 30 วัน และทุกภาคส่วน ควรพิจารณางดการจัดงานรื่นเริงต่างๆ เป็นเวลา 30 วัน

 

ทั้งนี้ ท่านทั้งหลายอาจเข้าร่วมพิธีหรือจัดกิจกรรมทางศาสนาของตน ถวายเป็นพระราชกุศล หรือ จัดเป็นพระบรมราชานุสรณ์ อีกทั้งควรใช้โอกาสนี้ให้กำลังใจแก่กันและกัน เพราะเราทุกคนต่างก็มีหัวอกเดียวกัน เพราะมีพ่อของแผ่นดินร่วมกัน และโปรดช่วยกันรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง มิให้ผู้ใด ฉวยโอกาส แทรกเข้ามาก่อความขัดแย้งจนกลายเป็นความวุ่นวาย

 

ขอพี่น้องประชาชนทุกคน ร่วมส่งเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ ด้วยการรักษาแผ่นดินของพ่อ ด้วยความรัก และความสามัคคี ตลอดไป

 

--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/นิศารัตน์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq01/2530429

[ginger 11,058]

รัฐบาลสั่งสถานที่ราชการ-รัฐวิสาหกิจ-สถานศึกษาลดธงครึ่งเสา 30 วันและไว้ทุกข์ 1 ปี

 

 

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 19:20:10 น.

ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสวรรคต

ตามที่ได้มีประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร สวรรคต ลงวันที่ 13 ตุลาคม 2559 นั้น รัฐบาลได้รับทราบด้วยความโทมนัสอย่างยิ่ง จึงเห็นสมควรประกาศดังต่อไปนี้

 

1.ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ สถานศึกษาทุกแห่ง ลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป

 

2.ให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ทุกข์ มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป

 

สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้พิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสม

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq01/2530426

[ginger 11,058]

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ในหลวงของแผ่นดิน EXECUTIVE PRODUCTION SUPERVISOR : ถกลเกียรติ วีรวรรณ เนื้อร้อง : วิเชียร ตันติพิมลพันธ์ ทำนอง : สราวุธ เลิศปัญญานุช เรียบเรียง : สราวุธ เลิศ...

ถูกแก้ไข ตุลาคม 13, 2016 โดย ginger

[ginger 11,058]

คนไทย ลูกของพ่อ จะทำตามรอยพระบาทตลอดไป

 

Ausiris Group

 

 

 

Ylg Bullion

 

 

 

YLGResearch

[ginger 11,058]

ภาวะตลาดเงินบาท: ปิด 35.65 ยังแข็งค่าต่อ แต่ระหว่างวันผันผวน คาดกรอบพรุ่งนี้ 35.50-35.75

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 17:27:24 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.65 บาท/ดอลลาร์ กลับมา

 

 

 

แข็งค่าจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.69/73 บาท/ดอลลาร์

ในระหว่างวันเงินบาทค่อนข้างผันผวน โดยแกว่งอยู่ในกรอบ 35.61-35.88 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนค่าสุดนับ

 

ตั้งแต่ต้นปี 59 เป็นผลจากปัจจัยภายในประเทศ และจากนั้นในช่วงเย็นบาทก็ค่อยกลับมาแข็งค่าขึ้น

 

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.50 - 35.75 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.90 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 104.50 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 1.1025 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.1000 ดอลลาร์/ยูโร

 

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,412.82 จุด เพิ่มขึ้น 6.64 จุด (+0.47%) มูลค่าการซื้อขาย 103,973 ล้านบาท

 

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 585.48 ลบ.(SET+MAI)

- นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผุ้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยขณะ

 

นี้ยังมีความผันผวนค่อนข้างมาก โดยเฉพาะวานนี้ปริมาณการซื้อขายปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงถึงกว่า 1 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นปริมาณการซื้อ

 

ขายที่สูงที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งตลาดหลักทรัพย์ฯมา และราคาหุ้นเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก

 

ทั้งนี้ ตลท.มีการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐทั้ง กระทรวงการคลัง และสำนักงานคณะกรรมกำกับหลักทรัพย์และ

 

ตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โดยมีการหารือกันอย่างต่อเนื่อง และ ตลท.พร้อมให้ความร่วมมือกับกระทรวงการคลังและก.ล.ต.

 

ทุกอย่างในการตรวจสอบความผิดปกติ แต่ขณะนี้ยังไม่พบว่ามีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น

- ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

 

(GDP) ของไทยในปีนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 3% จากเดิม 2.8% หลังจากเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา มีการขยายตัวได้ถึง 3.4%

 

จากการที่ภาครัฐเร่งเดินหน้าลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ต่างๆ รวมทั้งภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีขึ้น

 

ขณะที่ในปี 60 SCB EIC คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3.3% เป็นผลจากการที่ภาครัฐได้ทยอยออกมาตรการ

 

กระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ในปี 59

พร้อมกันนี้ คาดว่าเงินบาทยังมีแนวโน้มปรับตัวอ่อนค่า โดยในช่วงปลายปีนี้เงินบาทจะอยู่ที่ระดับ 35.50 บาท/ดอลลาร์

 

ส่วนปี 60 เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าไปแตะระดับ 37 บาท/ดอลลาร์ได้

- นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

 

(ก.ล.ต.) หาผู้ปล่อยข่าวลือต่าง ๆ จนมีผลกระทบต่อการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อย่างมากเมื่อวานนี้ โดยขอให้นักลงทุนอย่าหลง

 

เชื่อข่าวลือ และขอให้มั่นใจในศักยภาพของประเทศ

- เลขาธิการก.ล.ต. ระบุว่า จากการติดตามสถานการณ์ข่าวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน และมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่าเป็นกระบวนการ

 

สร้างสถานการณ์เพื่อก่อให้เกิดความวุ่นวายในการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์หรือไม่นั้น ก.ล.ต.มีหน้าที่ที่จะต้องเข้าไปตรวจ

 

สอบหาข้อเท็จจริง และหากพบว่ามีการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวก็จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

 

- เซอร์ จอน คันลิฟฟ์ รองผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยต่อรัฐสภาอังกฤษว่า ทางธนาคารกลางมีแผน

 

การรับมือไว้แล้ว หากเงินปอนด์ร่วงลงอย่างฉับพลัน หรือเกิดภาวะ flash crash ขึ้นอีกในตลาดปริวรรตเงินตรา

 

- คณะกรรมการพัฒนาและปฏิรูปแห่งชาติจีน (NDRC) เปิดเผยนโยบายชุดใหญ่เพื่อส่งเสริมให้การลงทุนภาคเอกชนขยาย

 

ตัวอย่างแข็งแกร่ง

NDRC เผยแพร่เอกสารด้านนโยบาย ประกอบด้วยมาตรการ 26 ข้อ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อส่งเสริมการเติบโตของการลง

 

ทุน ปรับปรุงบริการการเงินให้ดีขึ้น ลดต้นทุนองค์กร และปรับปรุงบริการการบริหารงานให้ทันสมัย

 

- ยอดส่งออกเหล็กกล้าของจีนปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน จนแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. เนื่องจาก

 

รัฐบาลทั่วโลกกำลังสกัดกั้นการนำเข้าเหล็กจากจีน หลังมีการทุ่มตลาดอย่างหนัก

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2530391

 

https://www.facebook.com/ShowPix/videos/415567118577974/

 

 

ราคาน้ำมัน WTI ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย ตลาดถูกกดดันจากปริมาณน้ำมันโอเปก,สต็อกสหรัฐพุ่ง

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 20:25:21 น.

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันนี้ โดยถูกกดดันจากการผลิตน้ำมันจำนวนมากจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และสต็อกน้ำมันที่เพิ่มขึ้นของสหรัฐ

 

ณ เวลา 20.13 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนพ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX เพิ่มขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.12% สู่ระดับ 50.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

 

 

โอเปกออกรายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนต.ค. โดยระบุว่า โอเปกมีการผลิตน้ำมัน 33.39 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 8 ปี โดยเพิ่มขึ้น 220,000 บาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.

 

ทั้งนี้ โอเปกเพิ่มการผลิตน้ำมันในเดือนก.ย. แม้ในการประชุมวันที่ 28 ก.ย.ที่แอลจีเรีย โอเปกมีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงสู่ระดับ 32.5-33.0 ล้านบาร์เรล/วัน จากปัจจุบันที่ระดับ 33.24 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

ปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในเดือนก.ย.ส่วนใหญ่มาจากลิเบีย ไนจีเรีย และอิรัก

นอกจากนี้ โอเปกยังได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ปริมาณน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกในปีหน้า โดยระบุว่าอยู่ที่ระดับ 240,000 บาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 40,000 บาร์เรล/วันจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ โดยได้แรงหนุนจากการผลิตน้ำมันในรัสเซีย

 

สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์แรก หลังร่วงลงติดต่อกัน 5 สัปดาห์

 

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยสต็อกน้ำมันของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ เพื่อยืนยันข้อมูลของ API

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2530434

 

สหรัฐเผยผู้ขอสวัสดิการว่างงานสัปดาห์ที่แล้วทรงตัวต่ำสุดในรอบ 43 ปี

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 19:49:33 น.

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวในสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับต่ำสุดในรอบ 43 ปี โดยอยู่ที่ระดับ 246,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.1973

 

 

 

การเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ระดับต่ำดังกล่าว บ่งชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 254,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

 

จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้อยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 84 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970

 

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 3,500 ราย สู่ระดับ 249,250 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.1973

 

สำหรับจำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่อง มีจำนวนลดลง 16,000 ราย สู่ระดับ 2.05 ล้านราย ในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2000 ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 25,750 ราย สู่ระดับ 2.07 ล้านราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2000

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq28/2530430

 

แบงก์ชาติจีนอัดฉีดเม็ดเงินกว่า 3 แสนล้านหยวนเข้าสู่ตลาดวันนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 2559 20:09:19 น.

ธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า ทางธนาคารกลางได้อัดฉีดเม็ดเงิน 3.01 แสนล้านหยวน (4.47 หมื่นล้านดอลลาร์) เข้าสู่ตลาดในการดำเนินงานทางตลาดเงิน (Open Market Operations) หรือ OMO ผ่านทางโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ในวันนี้

 

ทั้งนี้ MLF เป็นเครื่องมือของ PBOC เพื่อเสริมสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์ โดยการให้ธนาคารเหล่านี้สามารถกู้ยืมเงินจาก PBOC ได้โดยใช้หลักทรัพย์ต่างๆเป็นหลักประกัน

 

PBOC ได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ธนาคารต่างๆจำนวน 18 แห่งในวันนี้

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq27/2530431

[ginger 11,058]

 

ประกาศให้วันที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เป็นวันหยุดราชการ - YouTube

 

 

นายกฯแถลงการณ์เรื่อง ในหลวง เสด็จสวรรคต 13ตุลาคม 2559 - You

 

 

แถลงการณ์นายกรัฐมนตรี ขอประชาชนร่วมส่งเสด็จในหลวง - YouTube

 

เส้นทางเคลื่อนพระบรมศพ - thairath.co.th

สำหรับการอัญเชิญพระบรมศพ จะเป็นแบบเรียบง่ายที่ปฏิบัติกันมาในอดีต โดยรถโรงพยาบาล ติดตามเส้นทางที่ใช้เคลื่อนพระบรมศพจากโรงพยาบาลศิริราช สู่พระบรมมหาราชวัง จากรายงาน

THAIRATH.CO.TH

 

 

[ginger 11,058]

 

คลิป http://www.nationtv.tv/main/content/social/378520390/

[ginger 11,058]

 

NationTV22

 

 

 

 

NationTV22

 

 

 

NationTV22

 

 

 

 

SKY CHANEL|น้ำตาท่วมแผ่นดินก้องศิริราช ในหลวงสวรรคต บรรยากาศ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

HSHsocial

ถูกแก้ไข ตุลาคม 14, 2016 โดย ginger

[ginger 11,058]

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2559 07:45:05 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 13 ต.ค. 2559

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังจากทางการจีนเปิดเผยตัวเลขการค้าที่อ่อนแอ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,098.94 จุด ลดลง 45.26 จุด หรือ -0.25% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,213.33 จุด ลดลง 25.69 จุด หรือ -0.49% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,132.55 จุด ลดลง 6.63 จุด หรือ -0.31%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังจากทางการจีนเปิดเผยข้อมูลการค้าที่ซบเซา ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลว่า เศรษฐกิจจีนซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก จะเข้าสู่ภาวะชะลอตัว

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.9% ปิดที่ 335.62 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,405.17 จุด ลดลง 47.07 จุด หรือ -1.06% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,414.07 จุด ร่วงลง 109.00 จุด -1.04% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,977.74 จุด ลดลง 46.27 จุด หรือ -0.66%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีน หลังจากจีนเปิดเผยยอดส่งออกที่ร่วงลงอย่างเหนือการคาดหมาย

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวลง 46.27 จุด หรือ 0.66% แตะที่ 6,977.74 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ ซึ่งแม้ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น แต่สต็อกน้ำมันเบนซินปรับตัวลง และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 50.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 52.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย. ซึ่งระบุว่า กรรมการส่วนใหญ่มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ระดับ 1,257.6 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 4.7 เซนต์ หรือ 0.27% ปิดที่ 17.458 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 9 ดอลลาร์ หรือ 0.96% ปิดที่ 932.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อมูลการค้าที่ซบเซาของจีน

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 103.58 เยน จากระดับ 104.26 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9866 ฟรังก์ จากระดับ 0.9905 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3194 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3252 ดอลลาร์แคนาดา

 

เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1049 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1013 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.2249 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2191 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7574 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7565 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,098.94 จุด ลดลง 45.26 จุด, -0.25%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,213.33 จุด ลดลง 25.69 จุด, -0.49%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,132.55 จุด ลดลง 6.63 จุด, -0.31%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,405.17 จุด ลดลง 47.07 จุด, -1.06%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,414.07 จุด ลดลง 109.00 จุด, -1.04%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,977.74 จุด ลดลง 46.27 จุด, -0.66%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,643.11 จุด ลดลง 439.23 จุด, -1.56%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,665.02 จุด ลดลง 2.01 จุด, -0.12%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,805.48 จุด ลดลง 8.23 จุด, -0.29%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,340.40 จุด ลดลง 24.21 จุด, -0.45%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,031.30 จุด ลดลง 375.75 จุด, -1.61%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 685.23 จุด เพิ่มขึ้น 2.78 จุด, +0.41%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,312.18 จุด ลดลง 117.64 จุด, -1.58%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,061.35 จุด เพิ่มขึ้น 2.85 จุด, +0.09%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,015.44 จุด ลดลง 18.29 จุด, -0.90%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,774.24 จุด ลดลง 65.76 จุด, -0.39%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,219.17 จุด ลดลง 33.43 จุด, -0.36%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,435.50 จุด ลดลง 39.10 จุด, -0.71%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,518.30 จุด ลดลง 36.90 จุด, -0.66%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปัทมาสน์ ชนะรัชชรักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ :

http://www.ryt9.com/s/iq20/2530476

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลล์อ่อนเทียบเงินสกุลหลักๆ หลังจีนเปิดเผยข้อมูลศก.อ่อนแอ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2559 07:30:40 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อมูลการค้าที่ซบเซาของจีน

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 103.58 เยน จากระดับ 104.26 เยน และลดลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9866 ฟรังก์ จากระดับ 0.9905 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับลงเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3194 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3252 ดอลลาร์แคนาดา

 

 

 

เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1049 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1013 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.2249 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2191 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7574 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7565 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงหลังจากสำนักงานศุลกากรจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนก.ย.ร่วงลง 5.6% เทียบรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.2%

 

ส่วนมูลค่าการค้าต่างประเทศในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลง 1.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดส่งออกในช่วงเวลาดังกล่าว ปรับตัวลง 1.6% และยอดนำเข้าลดลง 2.3%

 

อย่างไรก็ดี ดอลลาร์ได้รับปัจจัยหนุนในระดับหนึ่งจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่เปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวในสัปดาห์ที่แล้วที่ระดับต่ำสุดในรอบ 43 ปี โดยอยู่ที่ระดับ 246,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.1973

 

การเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ระดับต่ำดังกล่าว บ่งชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และหนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

 

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 254,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว

 

จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกได้อยู่ต่ำกว่า 300,000 ราย เป็นสัปดาห์ที่ 84 ติดต่อกัน ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1970

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ :

http://www.ryt9.com/s/iq21/2530467

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 3.8 ดอลล์ หลังเฟดเผยรายงานประชุม

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2559 07:13:09 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย. ซึ่งระบุว่า กรรมการส่วนใหญ่มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ระดับ 1,257.6 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 4.7 เซนต์ หรือ 0.27% ปิดที่ 17.458 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 9 ดอลลาร์ หรือ 0.96% ปิดที่ 932.9 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 12.25 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 636.85 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ตลาดทองคำนิวยอร์กฟื้นตัวขึ้น หลังจากรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของเฟดระบุว่า เจ้าหน้าที่เฟดที่ต้องการให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้น มีความวิตกว่าการชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปเป็นเวลานานเกินไป จะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย

 

อย่างไรก็ดี การประชุมในเดือนก.ย.นั้น กรรมการส่วนใหญ่มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป โดยมองว่าในขณะที่เหตุผลที่สนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา แต่ก็เป็นการเหมาะสมที่จะรอดูหลักฐานมากขึ้นที่จะแสดงถึงความคืบหน้าไปสู่เป้าหมายด้านนโยบายของทางคณะกรรมการ

 

นอกจากนี้ ข้อมูลการค้าที่อ่อนแอของจีนยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยสำนักงานศุลกากรจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนก.ย.ร่วงลง 5.6% เทียบรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่มขึ้น 2.2%

 

ส่วนมูลค่าการค้าต่างประเทศในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลง 1.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดส่งออกในช่วงเวลาดังกล่าว ปรับตัวลง 1.6% และยอดนำเข้าลดลง 2.3%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ :

http://www.ryt9.com/s/iq31/2530464

 

(เพิ่มเติม)ราคาทองคำแท่งวันนี้บาทละ 21,000.00 บาท

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2559 09:58:11 น.

รายงานราคาทอง (ทองคำ 96.5%) ประจำวันที่ 14 ตุลาคม 2559 ตามประกาศ

ของสมาคมค้าทองคำ เมื่อเวลา 09:54 น.

ซื้อ (บาท) ขาย (บาท)

ทองคำแท่ง 20,900.00 21,000.00

ทองรูปพรรณ 20,526.64 21,500.00

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย วิภาดา ภัคพลชวัล โทร.02-2535000 อีเมล์: wipada.p@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ :

http://www.ryt9.com/s/iq03/2530772

[ginger 11,058]

ราคาทองในประเทศเช้านี้ร่วงบาทละ 200 สวนทางตลาดตปท.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2559 10:03:22 น.

ราคาทองคำในประเทศเช้านี้ร่วงลงบาทละ 200 บาท โดยสมาคมค้าทองคำ รายงานว่าเมื่อเวลา 09.35 น. ราคาทองคำแท่ง รับซื้อเข้าบาทละ 20,950.00 ขายออกบาทละ 21,050.00 ขณะที่ราคาทองรูปพรรณ รับซื้อเข้าบาทละ 20,572.12 ขายออกบาทละ 21,550.00

 

บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.76 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น 0.22% โดยปิดที่ 1,257.49 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ และราคาเมื่อวานเคลื่อนไหวในกรอบ 1,252.90-1,261.78 ดอลลาร์ โดยในเช้านี้เคลื่อนไหวอยู่บริเวณ 1,258 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์

 

 

 

โดยราคาทองได้รับแรงหนุนเล็กน้อยจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ปรับตัวอ่อนแอกว่าคาดการณ์ รวมทั้งความกังวลของตลาดสินทรัพย์เสี่ยง ทำให้มีแรงหนุนในสินทรัพย์ปลอดภัยเช่น เงินเยน และเงินสวิสฟรังก์ แต่ตัวเลขขอรับสวัสดิการการว่างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าคาดการณ์ต่อเนื่อง ส่งผลให้โอกาสในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ยิ่งมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ได้รับแรงหนุนไม่มากนัก แต่กองทุน SPDR กลับมาซื้อทองคำเพิ่ม 2.67 ตัน และในคืนนี้ติดตามตัวเลขค้าปลีก และถ้อยคำปราศัยของประธานเฟด ที่มีโอกาสสร้างความผันผวนให้ราคาทองอีกครั้ง

 

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2530775

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.40 แข็งค่าต่อเนื่อง คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 35.00-35.50

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2559 09:04:20 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาด 35.40 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเย็นวานนี้ที่

 

 

 

ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 35.65 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทกลับมาแข็งค่าหลังจาก 2-3 วันที่ผ่านมาขึ้นไปมาก เหมือนกับ Buy on Rumer, Sell on Fact ลงไปต่ำ

 

สุดที่ 35.09 บาท/ดอลลาร์ แต่ตอนนี้เด้งขึ้นมาอยู่แถวๆ 35.20 บาท/ดอลลาร์แล้ว คาดว่าวันนี้น่าจะเหวี่ยงเยอะ" นักบริหารเงิน

 

กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.00 - 35.50 บาท/ดอลลาร์

 

"บ้านเราคงวิ่งไม่สนใจใครจนกว่าทุกอย่างจะ Stable ตอนนี้คงเหวี่ยงด้วยปัจจัยภายในของตัวเองเป็นหลักไปก่อน"

 

นักบริหารเงิน กล่าว

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 103.95 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 103.90 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1050 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.1025 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.7310 บาท/

 

ดอลลาร์

- OANDA ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายปริวรรตเงินตรา ระบุว่า ถึงแม้ค่าเงินบาท และตลาดหุ้นไทยจะยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน

 

ต่อไป แต่ความไม่แน่นอนส่วนใหญ่ได้ถูกซึมซับในราคาแล้ว จึงทำให้มีผลกระทบที่จำกัด

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.)

 

เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับข้อมูลการค้าที่ซบเซาของจีน โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 103.58 เยน

 

จากระดับ 104.26 เยน ขณะที่เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1049 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1013

 

ดอลลาร์สหรัฐ

- สำนักงานศุลกากรจีนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนก.ย.ร่วงลง 5.6% เทียบรายปี ขณะที่ยอดนำเข้าเพิ่ม

 

ขึ้น 2.2% ส่วนมูลค่าการค้าต่างประเทศในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปีนี้ ลดลง 1.9% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยยอดส่ง

 

ออกในช่วงเวลาดังกล่าว ปรับตัวลง 1.6% และยอดนำเข้าลดลง 2.3%

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการ

 

ประชุมประจำเดือนก.ย. ซึ่งระบุว่า กรรมการส่วนใหญ่มีมติให้ชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX

 

(Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ระดับ 1,257.6 ดอลลาร์/ออนซ์

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ต.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้าน

 

การพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ ซึ่งแม้ว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น แต่

 

สต็อกน้ำมันเบนซินปรับตัวลง และปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 1 ปี สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่ง

 

มอบเดือนพ.ย.เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 50.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น

 

22 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 52.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

- กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวในสัปดาห์ที่แล้วที่

 

ระดับต่ำสุดในรอบ 43 ปี โดยอยู่ที่ระดับ 246,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.1973

 

การเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานที่ระดับต่ำดังกล่าว บ่งชี้ถึงภาวะตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และ

 

หนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.

- นักลงทุนจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ในการประชุมเศรษฐกิจครั้งที่ 60 ของเฟด

 

สาขาบอสตัน ในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ เพื่อจับความเคลื่อนไหวว่าประธานเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้หรือไม่

 

โดยการประชุมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "The Elusive Recovery"

- นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย., สต็อก

 

สินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนส.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนต.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2530638

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ความผันผวนยังมีอยู่ จับตาแรงขายต่างชาติ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2559 09:52:22 น.

นางภรณี ทองเย็น รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่ายังผันผวนอยู่ แต่การที่ดัชนีปรับขึ้นมาราว 200 จุด และลงไปเกือบ 100 จุดรอบนี้ ประเมินว่าสะท้อนความกังวลไประดับหนึ่งแล้ว แต่ก็มองว่ายังมีโอกาสย่อตัว

 

ส่วนปัจจัยต่างประเทศไม่มีอะไร ต่างชาติน่าจะขายทั้งภูมิภาค เพราะต่างชาติซื้อมามากพอควรแล้วในช่วงที่ผ่านมา คงทยอยออกเพราะปกติช่วงไตรมาส 4 ต่างชาติจะเป็นฝั่งขายส่วนใหญ่ ส่วนค่าเงินบาทคงไม่อ่อนมาก กลยุทธ์ถ้าราคาหุ้นปรับลงมามากๆ เป็นจังหวะที่เก็บได้

 

 

 

โดยมองแนวรับ 1,400 จุด และ 1,385 จุด แนวต้าน 1,440 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (13 ต.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,098.94 จุด ร่วงลง 45.26 จุด (-0.25%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,213.33 จุด ลดลง 25.69 จุด (-0.49%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,132.55 จุด ลดลง 6.63 จุด (-0.31%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 23.20 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 4.36 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพ่มขึ้น 88.66 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 20.91 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพ่มขึ้น 6.22 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.43 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.11 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (13 ต.ค.59) 1,412.82 จุด เพิ่มขึ้น 6.64 จุด (+0.47%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 585.48 ล้านบาท เมื่อวันที่ 13 ต.ค.59

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (13 ต.ค.59) ปิดที่ 50.44 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.5%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (13 ต.ค.59) ที่ 5.34 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- ค่าเงินบาทเปิด 35.40 แข็งค่าต่อเนื่อง คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 35.00-35.50

- กระทรวงคลังสั่ง แบงก์กรุงไทย ตั้งวอรูมพิเศษดูแลความปลอดภัยหากเกิดเหตุการณ์ทำให้ประชาชนตื่นตระหนก เชื่อทุกแบงก์เตรียมพร้อมรับมือแล้ว ขณะแบงก์ เริ่มห่วงปัญหาสภาพคล่อง ลุยซื้อดอลลาร์ตุนกดเงินบาทอ่อนค่า

 

- มอนิ่งสตาร์" เผยรายย่อยลุยซื้อกองทุนรวมหุ้น 3 วัน ยอดไหลเข้าสุทธิ 2,630 ล้าน สวนทางหุ้นร่วงลงแรง

 

- กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน รายงานว่า เริ่มตั้งแต่ดำเนินการจนถึงวันที่ 30 ก.ย.59 ว่า กองทุนฟื้นฟูฯได้ชาระคืนหนี้ทั้งเงินทุนและดอกเบี้ยแล้วทั้งสิ้น 4,355 ล้านบาท แบ่งเป็น ชำระคืนเงินต้น 1,022 ล้านบาท โดยชำระเงินต้นในส่วนของกองทุนฟื้นฟูฯ กองที่ 1 (เอฟไอดีเอฟ 1) หรือการออกพันธบัตรออมทรัพย์ของรัฐบาล 1,000 ล้านบาท และเป็นการชำระเงินต้นในส่วนของเอฟไอดีเอฟ 3 พันธบัตร ออมทรัพย์รัฐบาลที่ออกขายให้กับสถาบันการเงินอีก 22 ล้านบาท และชำระดอกเบี้ยไปแล้ว 3,333 ล้านบาท

 

- SCB EIC ปรับประมาณการอัตราเติบโตของเศรษฐกิจไทยปี 59 เป็น 3% จากเดิม 2.8% เนื่องจากช่วงครึ่งปีแรกออกมาดีกว่าคาด ขยายตัวได้ถึง 3.4% ได้รับปัจจัยหนุนจากปัจจัยบวกชั่วคราว เช่น มาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ที่ช่วยเร่งให้เกิดการก่อสร้าง การเร่งใช้จ่ายของภาครัฐและการลงทุนขนาดเล็กของรัฐบาล และการกระตุ้นยอดขายรถยนต์ของค่ายรถต่างๆ และการท่องเที่ยวที่เติบโตได้ดีมาตลอดเป็นแรงสนับสนุนหลัก

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- SCC(ไอร่า)"ซื้อ"เป้า 565 บาท เป็นโอกาสในการเข้าลงทุนช่วงราคาลดลงตามภาวะตลาด โดยยังมีประเด็นน่าสนใจเฉพาะตัวเชิงพื้นฐาน แลมองเชิงบวกหลังลงทุนต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทั้ง Green Field และ M&A เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในภูมิภาค หลังจากนี้เริ่มเก็บเกี่ยว คาด Q2/59 โดดเด่นดีกว่าตลาดคาด กำไรสุทธิ 16,027 ล้านบาท สูงสุดในรอบหลายปี หลักๆ จากสเปรดปิโตรเคมีสูงช่วยชดเชยธุรกิจซิเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และPackaging ที่รับผลกระทบฤดูกาล คาดสเปรดยังดีต่อเนื่องในไตรมาส 3 ล่าสุด Spread PE และ PP เทียบ Naphta อยู่ที่ 749USD และ 705USD เพิ่มขึ้นจาก 743USD และ 680USD ในไตรมาส 2 ขณะที่ปี 59 คาดกำไรสุทธิ 46,290 ล้านบาททำนิวไฮ และอยู่ระหว่างปรับเพิ่มประมาณการ

 

- ESSO(ธนชาต)"ซื้อ"เป้า 7.70 บาท การใช้กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นหลังปิดซ่อมโรงกลั่นจะเริ่มเห็นผลใน 4Q16 และมีมูลค่าซ่อนจากธุรกิจ สถานีเติมน้ำมัน 340 สาขาที่ถือหุ้นโดย ESSO เอง (จากทั้งหมด 540 สาขา) ด้วย PE ที่ 4.7x ปีนี้ และ 6.0x ปีหน้ายังต่ำกว่าโรงกลั่นอื่นๆ

 

--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2530770

 

(เพิ่มเติม) ดัชนี SET เปิดภาคเช้าพุ่งกว่า 48 จุด รับแรงซื้อกลับหุ้นขนาดใหญ่

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 2559 10:12:39 น.

ตลาดหุ้นไทยเปิดทำการภาคเช้าวันนี้พุ่งไปกว่า 48 จุด รับแรงซื้อกลับต่อเนื่องจากวานนี้ โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ หลังจากที่ร่วงลงไปแรงไปหลายวันก่อนหน้านั้น อย่างไรก็ตาม ยังต้องระวังความผันผวนที่อาจเกิดขึ้นได้จากปัจจัยทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

 

เมื่อเวลา 9.56 น.ดัชนี SET มาอยู่ที่ 1,461.42 จุด (+3.44%)

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้พุ่งกว่า 50 จุด แล้ว ปัจจัยในประเทศเป็นแรงผลักดัน ตลาดกลับเข้าสู่ภาวะการพิจารณาเรื่องผลประกอบการไตรมาส 3/59 ของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะออกมาดี การพิจารณาของกองทุนที่เข้าซื้อสุทธิ ส่วนหนึ่งจากแรงหนุน Earning Season

 

อย่างไรก็ตาม ต้องติดตาม Fund flow ต่อไปว่า ถึงแม้เมื่อวานขายในตลาดหุ้นบ้าง แต่ long ในฟิวเจอร์ส

 

พร้อมให้แนวต้านวันนี้ 1,470-1,480 จุด

ทั้งนี้ เมื่อเวลา 10.07 น.ดัชนี อยู่ที่ 1,455.16 จุด เพิ่มขึ้น 42.34 จุด (+3.00%)

 

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/ศศิธร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2530784

[ginger 11,058]

 

 

YLGResearch

 

บทวิเคราะห์ Smart Stock ประจำเช้าวันศุกร์ ที่ 14 ตุลาคม 2559

ตั้งสติในภาวะผันผวน

S50Z16 เมื่อวานนี้มีเเรงขายออกมาตลอดวัน (ก่อนกลับมาบวกรุนแรง) นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงานที่มีเเรงขายกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับลดลง S50Z16 เปิดตลาดเช้าที่ 883.00 จุด มีความพยายามที่จะขึ้นไปปิดช่องว่างราคาที่หลุดลงมาเเต่ต้านทานเเรงขายไม่ได้ ร่วงลงอย่างรุนแรงจนถึง ช่วงบ่ายเหมือนพยายามจะขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดในวันเดิมเเต่ไม่สามารถทานเเรงขายได้อีกครั้ง มีจุดต่ำสุดที่ 857.00 จุด มีกรอบการเคลื่อนไหวที่กว้างเเละรุนเเรงมากพอสมควร (68.20 จุด) สะท้อนมุมมองของนักลงทุนที่มีต่อตลาด อย่างไรก็ตามในช่วง 16.00 น. มีแรงซื้อเข้าตลาดรุนแรงดันดัชนีบวกขึ้นไปกว่า 50-60 จุด จากจุดต่ำสุดซึ่งฝ่ายวิจัยมองว่าอาจเป็นเเรงซื้อของนักลงทุนสถาบันซึ่งซื้อสุทธิกว่า 9,712.9 ล้านบาท ในดัชนี SET หลักที่กลับเข้ามาผยุงตลาด อย่างไรก็ตามเรายังมองว่าตลาดยังมีปัจจัยต่างๆ ที่ยังไม่ชัดเจนทั้งภายในประเทศและ ปัจจัยระดับโลก รุมเร้ามากมายเช่นค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงโดยอ่อนค่าที่สุดในรอบเเปดเดือน พร้อมเผชิญ Fund Flow ที่ไหลออกทั้งหุ้นเเละตราสารหนี้ที่ไหลออกต่อเนื่อง รวมทั้งคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ เรายังมองว่าอารมณ์ตลาดค่อนข้างผันผวนอ่อนไหวต่อปัจจัยรอบด้าน แนะนำให้ถือเงินสดก่อนรอความชัดเจน

 

แนะนำ : ถือเงินสด รอให้อารมณ์ตลาดเข้าสู่ภาวะปกติ

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy1410201695720353…

___________________________

สนใจลงทุนทองคำกับ Classic Gold

ทองคำแท่ง : 02-6180888

Gold Futures : 02-6180808

เว็บไซต์ : www.classicgold.co.th

 

 

 

[ginger 11,058]

[ginger 11,058]

'สมเด็จพระบรมฯ'ทรงห่วงประชาชน อย่ากังวลเรื่องสืบสันตติวงศ์

 

สำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงการใช้ถ้อยคำถวายความอาลัยที่ถูกต้อง

 

http://news.mthai.com/hot-news/general-news/525928.html

 

 

เปิดถวายสักการะหน้าพระบรมโกศหลังบำเพ็ญกุศลครบ15วัน

ถูกแก้ไข ตุลาคม 16, 2016 โดย ginger