ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.60/62 แนวโน้มแกว่งแคบ ไร้ปัจจัยสำคัญ มองกรอบวันนี้ 35.50-35.65

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 6 ธันวาคม 2559 09:09:03 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.60/62 บาท/ดอลลาร์

 

ใกล้เคียงจากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.60/62 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยที่จะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินมากนัก ทั้ง

 

ปัจจัยภายในประเทศและต่างประเทศ เป็นเพียงติดตามการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจประจำสัปดาห์ของสหรัฐ

 

 

 

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.50-35.65 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.70 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 113.73 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรเช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.0750 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0641 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.6540 บาท/

 

ดอลลาร์

- ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (6-9 ธ.ค.) ที่ 35.50-35.80 บาทต่อ

 

ดอลลาร์ฯ โดยตลาดการเงินทั่วโลกน่าจะรอจับตาผลการลงประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญของอิตาลี (4 ธ.ค.) ผลการประชุมนโยบาย

 

การเงินของ ECB (8 ธ.ค.) ที่อาจมีวาระการพิจารณาขยายเวลาสำหรับโครงการซื้อพันธบัตร ตัวเลขทบทวนจีดีพีไตรมาส 3/59

 

ของญี่ปุ่น และข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนในเดือนพ.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนอาจรอติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ ดัชนีความ

 

เชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค. (เบื้องต้น) ดัชนี PMI ภาคบริการเดือนพ.ย. สต็อกสินค้าภาคค้าส่ง ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนต.ค.

 

- ฟิทช์ เรทติ้งส์ระบุปีหน้ายังเป็นปีที่ยากลำบากของแบงก์พาณิชย์ จากแรงกดดันคุณภาพสินทรัพย์ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่

 

บริหารจัดการได้ และจะค่อยลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะต่อไป ขณะที่ผลประกอบการยังได้รับแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ

 

และสินเชื่อที่ขยายตัวได้ไม่ดีนัก

- กระทรวงการคลัง เตรียมยื่น ครม. ขออนุมัติตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์มูลค่า 40,000 ล้านบาท เบื้องต้น

 

กำหนด 3 โครงการมูลค่าการลงทุนรวม 7 หมื่นล้านบาทที่ต้องเจียดรายได้ 50% มาแปลงเป็นหน่วยลงทุน

 

- สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ระบุ ตลาดทุนโลกและตลาดทุนไทยในปี 2560 ยังคงมีความ

 

ผันผวน เนื่องจากมีความไม่แน่นอนจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ว่าจะปฏิบัติได้จริงตามการหา

 

เสียงหรือไม่ และความคืบหน้าการเจรจาระหว่างสหราชอาณาจักร กับสหภาพยุโรป (อียู) จากผลการลงประชามติที่สหราชอาณาจักร

 

ถอนตัวออกจากอียู (Brexit) รวมทั้งการเลือกตั้งในประเทศสหภาพยุโรปอีกหลายประเทศ ซึ่งกระแสข่าวที่ออกมาสร้างความผันผวน

 

และทำให้นักลงทุนต้องตื่นตัวตลอดเวลา

- สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) โดย

 

ดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากความผันผวนของดัชนีภาคบริการของสหรัฐ โดยเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ

 

1.0775 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0659 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 113.75 เยน

 

จากระดับ 113.74 เยน

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) เนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

 

อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร

 

เดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) โดยสัญญาน้ำมัน WTI ปิดที่ระดับสูง

 

สุดในรอบกว่า 1 ปี เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับมติการปรับลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) อย่างไรก็

 

ตาม สัญญาน้ำมันขยับขึ้นในกรอบที่จำกัด เนื่องจากนักลงทุนบางกลุ่มชะลอการซื้อขาย ก่อนที่การประชุมระหว่างกลุ่มโอเปกและประเทศ

 

ผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก จะประชุมร่วมกันในช่วงสุดสัปดาห์นี้

- นายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ส่งสัญญาณสนับสนุนการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

อย่างค่อยเป็นค่อยไป หากเศรษฐกิจสหรัฐยังคงปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง

- ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM ขยายตัวที่ระดับ 57.2

 

ในเดือนพ.ย. พุ่งขึ้นจากระดับ 54.8 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว หรือใน

 

รอบ 13 เดือน รวมทั้งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 55.4

ขณะที่บริษัทไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 54.6 ใน

 

เดือนพ.ย. ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 54.7 ต่ำกว่าระดับ 54.8 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ

 

54.8 เช่นกัน

- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนต.ค. และผลิตภาพ-ต้น

 

ทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 3/2559 ขณะที่ฝั่งสหภาพยุโรป จะมีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ เช่น ผลิตภัฑณ์มวล

 

รวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2016 และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน และแถลงมติ

 

อัตราดอกเบี้ย

- เงินยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี ประกาศลาออกจากตำแหน่งตามที่เคยประกาศไว้ว่าเขาจะ

 

ลาออก หากประชาชนส่วนใหญ่ลงประชามติคัดค้านการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ หรือโหวต NO โดยรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลด

 

ทอนอำนาจของวุฒิสภา ซึ่งจะทำให้การผ่านกฎหมายเป็นไปได้ง่ายขึ้น อันจะส่งผลให้ประเทศสามารถแข่งขันได้มากขึ้น

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจสร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจอิตาลี และอาจเป็นชนวนเหตุให้เกิดความวุ่นวายทาง

 

การเมืองในประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ในยูโรโซน และเป็นอันดับ 4 ในยุโรป

 

- ศาลฎีกาแห่งสหราชอาณาจักรได้เริ่มการไต่สวนคดีประวัติศาสตร์ เพื่อตัดสินชี้ขาดว่ารัฐบาลอังกฤษจะสามารถเริ่มต้น

 

กระบวนการ Brexit โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณาเห็นชอบของรัฐสภาได้หรือไม่ ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอังกฤษต้องการที่จะบังคับใช้

 

มาตรา 50 แห่งสนธิสัญญาลิสบอน เพื่อเริ่มกระบวนการเจรจากับสหภาพยุโรปภายในเดือนมี.ค.ปี 60 แต่ศาลสูงได้มีคำตัดสินในเดือน

 

ที่แล้วว่าการดำเนินการดังกล่าวต้องผ่านมติของสภา ทำให้รัฐบาลอังกฤษได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลฎีกาแห่งสหราชอาณาจักร โดยให้เหตุผล

 

ว่ารัฐบาลต้องเคารพผลการทำประชามติ

ทั้งนี้ หากคณะผู้พิพากษา ซึ่งจะประกาศคำตัดสินในเดือนม.ค.ปีหน้า เห็นชอบกับรัฐบาล ก็จะเป็นการปูทางให้นายก

 

รัฐมนตรีอังกฤษสามารถเริ่มต้นกระบวนการ Brexit โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภา

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2563396

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ ตามหุ้นทั่วโลกเมินผลลงประชามติอิตาลี,ลุ้นครม.เคาะมาตรการช้อปช่วยชาติสัปดาห์นี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 6 ธันวาคม 2559 08:51:49 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะรีบาวด์ ตามต่างประเทศ หลังตลาดหุ้นทั่วโลกตอบรับผลลงประชามติของอิตาลีค่อนข้างเร็วและน้อยมาก แม้ประชาชนส่วนใหญ่โหวตโนแสดงการไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับขึ้น

 

ส่วนปัจจัยในประเทศ ให้จับตาการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ที่คาดว่ากระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการช้อปช่วยชาติให้ครม.พิจารณา และโครงการลงทุนรถเมล์ไฟฟ้า

 

"คำแนะนำช่วงนี้แนะเพียงเทรดดิ้ง หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการช้อปช่วยชาติ และโครงการรถเมล์ไฟฟ้า"นายอภิชาติ กล่าว

 

พร้อมให้แนวต้าน 1,510-1,515 จุด แนวรับ 1,495 จุด

 

 

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2563385

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ ตามหุ้นทั่วโลกเมินผลลงประชามติอิตาลี,ลุ้นครม.เคาะมาตรการช้อปช่วยชาติสัปดาห์นี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 6 ธันวาคม 2559 09:33:32 น.

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะรีบาวด์ ตามต่างประเทศ หลังตลาดหุ้นทั่วโลกตอบรับผลลงประชามติของอิตาลีค่อนข้างเร็วและน้อยมาก แม้ประชาชนส่วนใหญ่โหวตโนแสดงการไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับขึ้น

 

 

 

ส่วนปัจจัยในประเทศ ให้จับตาการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 7 ธ.ค.นี้ ที่คาดว่ากระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการช้อปช่วยชาติให้ครม.พิจารณา และโครงการลงทุนรถเมล์ไฟฟ้า

 

"คำแนะนำช่วงนี้แนะเพียงเทรดดิ้ง หุ้นที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการช้อปช่วยชาติ และโครงการรถเมล์ไฟฟ้า"นายอภิชาติ กล่าว

 

พร้อมให้แนวต้าน 1,510-1,515 จุด แนวรับ 1,495 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (5 ธ.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,216.24 จุด เพิ่มขึ้น 45.82 จุด (+0.24%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,308.89 จุด เพิ่มขึ้น 53.24 จุด (+1.01%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,204.71 จุด เพิ่มขึ้น 12.76 จุด (+0.58%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 182.21 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 2.68 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 188.72 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 49.14 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 13.15 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.25 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.80 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 32.10 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (2 ธ.ค.59) 1,501.66 ลดลง 10.72 จุด (-0.71%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 469.39 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.59

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (5 ธ.ค.59) ปิดที่ 51.79 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 11 เซนต์ หรือ 0.2%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (5 ธ.ค.59) ที่ 5.68 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 35.60/62 แนวโน้มแกว่งแคบ ไร้ปัจจัยสำคัญ มองกรอบวันนี้ 35.50-35.65

- สคร.เสนอครม.เดือนธ.ค.นี้ อนุมัติตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์กองแรก วงเงิน 4 หมื่นล้านบาท คาดเสนอขายนักลงทุนทั่วไปต้นปีหน้า เผยขณะนี้นักลงทุน กลุ่มสถาบันให้ความสนใจลงทุนจำนวนมาก

 

- ตลาดเอ็มเอไอคึกคัก มูลค่าหลักทรัพย์ ตามราคาตลาดทะลุ 3.9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% พร้อมแนวโน้มเงินปันผล เพิ่มขึ้น นักวิเคราะห์ประเมินโตจากหุ้นพลังงานทดแทน แนะระวังการลงทุนเพราะพีอีสูงเกินพื้นฐาน

 

- ฟิทช์ เรทติ้งส์ระบุปีหน้ายังเป็นปีที่ยากลำบากของแบงก์พาณิชย์ จากแรงกดดันคุณภาพสินทรัพย์ แต่ก็ยังอยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ และจะค่อยลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะต่อไป ขณะที่ผลประกอบการยังได้รับแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำและสินเชื่อที่ขยายตัวได้ไม่ดีนัก

 

- ทีวีดิจิทัลสู่ยุค'เปลี่ยนมือ'ดึงทุนใหญ่ประคองธุรกิจ-แบงก์ชี้มีโอกาสขายหุ้น-ควบรวมเพิ่ม ชี้ผลกระทบเทคโนโลยีทดแทนพฤติกรรมผู้บริโภคเสพคอนเทนท์ ดิจิทัล แพลตฟอร์ม

 

- เอกชน-นักวิชาการ แนะธุรกิจแข่งขันสูง "อุปโภคบริโภค-แบงก์" เร่งลงทุน "บิ๊กดาต้า" ดึงข้อมูลเชิงลึกผู้บริโภคเพิ่มประสิทธิภาพบริหารจัดการต้นทุน-เข้าถึงลูกค้า ระบุเงินลงทุนบิ๊กดาต้ายังต่ำกว่า "พันล้าน" หวั่นเสียเปรียบเพื่อนบ้านโตก้าวกระโดดทุกด้าน

 

- ค่าเงินยูโรร่วงแตะระดับต่ำสุดรอบ 20 เดือน หลังผู้นำอิตาลีประกาศลาออก เหตุปราชัยในการลงประชามติปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ตลาดวิตกภาวะไร้เสถียรภาพในอิตาลี จุดชนวนวิกฤติการเงิน-กระทบภาคธนาคาร นักเศรษฐศาสตร์ ฟันธงระยะสั้น ผลกระทบไทยน้อย ชี้ปีหน้าปัจจัยลบยุโรปกดดันทั้งส่งออก-ท่องเที่ยวไทย

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- AP (กสิกรไทย)"ซื้อ"เป้าพื้นฐาน 8.50 บาท คาดกำไรไตรมาส 4/59 จะเป็นจุดสูงสุดใหม่ ก่อนที่จะสร้าง presales ระดับสูงไดในไตรมาส 1/60 จากแผนการเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่หลายโครงการ ทั้งนี้ประเด็นความเสียหายของบ้านในโครงการบ้านกลางเมืองพระราม 3–ราษฏร์บูรณะ (600 ลบ.จำนวน 114 หน่วย) จำนวน 8 หน่วย เห็นว่า AP จะไดรับผลกระทบไม่มาก แม้จะเขาไปช่วยซ่อมแซมให้ทั้งหมด โดยความเสียหายดังกล่าวยังถือว่าเล็กหากเทียบกับประเด็นดินทรุดในโครงการบ้านกลางกรุง เดอะรอยัล เวียนนา (1.85 พันลบ.จำนวน 330 หน่วย) ที่เกิดขึ้นในปีก่อน

 

- COM7 (เคจีไอฯ)"ซื้อสะสม"เป้าสูงสุดใน Consensus 15 บาท คาดครม.เตรียมพิจารณามาตรการช้อปช่วยชาติสัปดาห์นี้ หรืออย่างช้าสัปดาห์หน้า (ข้อมูลจากปี 2558 มาตรการช้อปช่วยชาติหนุนรายได้โต 10% จากปกติ ขณะที่ปีนี้คาดกรอบวงเงินที่มากกว่า และระยะเวลาที่นานกว่า จะเป็นบวกต่อยอดขายมากกว่าปีที่แล้ว) ประเมินกำไร 4Q59 ทำนิวไฮ (คาดจะมากกว่าประมาณการฯ Consensus) จาก High season,iPhone7 การเป็นพันธมิตร TRUE (ขายซิม True รับค่าคอมฯ และเข้าบริหาร True shop แล้ว 30 สาขา มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ,ได้แรงหนุนจากมาตรการช้อปช่วยชาติ,การเข้าซื้อกิจการร้านโทรศัทพ์มือถือ “บางกอก เทเลคอม 999" ทำให้สาขาของ COM7 เพิ่มทันทีกว่า 40 แห่ง เป็นทำเลที่ตั้งที่ COM7 อยากได้ก่อนหน้านี้ แต่ไม่สามารถหาพื้นที่ได้ คาดกำไรเพิ่มจากดีลนี้ทันทีราว 10–20 ล้านบาทต่อปี (3-5% ของฐานกำไร) และคาดได้อานิสงส์จากโครงการอินเตอร์เน็ตหมู่บ้านที่จะเข้า ครม ในเดือน ธ.ค.นี้ (ความต้องการใช้ สมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้น)

 

- PTT (ธนชาต)"ซื้อ" แนวต้าน 378 บาท มีประเด็นนำ PTTOR เข้าตลาดในช่วง 12-15 เดือนข้างหน้า และ PTTGC (ได้รับผลดีจากน้ำมันขึ้น และกำลังการผลิตเพิ่ม หนุนกำไรโต 35-18% ในปี 60-61)

 

--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2563489

 

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.8575 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 6 ธันวาคม 2559 08:41:23 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้น 2.95% แตะที่ 6.8575 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย มลฑา ชัยธำรงค์กูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2563380

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลล์อ่อนเทียบยูโร หลังข้อมูลศก.สหรัฐผันผวน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 6 ธันวาคม 2559 07:53:57 น.

สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลเงินยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) โดยดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจากความผันผวนของดัชนีภาคบริการของสหรัฐ

 

เงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0775 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0659 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นแตะระดับ 1.2724 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2712 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพิ่มขึ้นแตะระดับ 0.7481 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7447 ดอลลาร์สหรัฐ

 

 

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 113.75 เยน จากระดับ 113.74 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0061 ฟรังก์ จากระดับ 1.0108 ฟรังก์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากความผันผวนของดัชนีภาคบริการของสหรัฐ โดยผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) พบว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM ขยายตัวที่ระดับ 57.2 ในเดือนพ.ย. พุ่งขึ้นจากระดับ 54.8 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปีที่แล้ว หรือในรอบ 13 เดือน รวมทั้งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 55.4

 

ขณะที่บริษัทไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 54.6 ในเดือนพ.ย. ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ 54.7 ต่ำกว่าระดับ 54.8 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 54.8 เช่นกัน

 

ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นหลังจากนายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี ประกาศลาออกจากตำแหน่งตามที่เคยประกาศไว้ว่าเขาจะลาออก หากประชาชนส่วนใหญ่ลงประชามติคัดค้านการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ หรือโหวต NO โดยรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดทอนอำนาจของวุฒิสภา ซึ่งจะทำให้การผ่านกฎหมายเป็นไปได้ง่ายขึ้น อันจะส่งผลให้ประเทศสามารถแข่งขันได้มากขึ้น

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวอาจสร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจอิตาลี และอาจเป็นชนวนเหตุให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสามในยูโรโซน และเป็นอันดับสี่ในยุโรป

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนต.ค. และผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 3/2559

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2563300

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 45.82 จุด ขานรับภาคบริการสหรัฐสดใส

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 6 ธันวาคม 2559 06:41:02 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (5 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่า ภาคบริการของสหรัฐมีการขยายตัวที่แข็งแกร่งในเดือนพ.ย. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของยุโรป หลังจากผลการลงประชามติของอิตาลีบ่งชี้ว่าประชาชนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,216.24 จุด เพิ่มขึ้น 45.82 จุด หรือ +0.24% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,308.89 จุด เพิ่มขึ้น 53.24 จุด หรือ +1.01% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,204.71 จุด เพิ่มขึ้น 12.76 จุด หรือ +0.58%

 

ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดดีดตัวขึ้น โดยในระหว่างวัน ดาวโจนส์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 19,274.85 จุด ขานรับผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ซึ่งระบุว่า ดัชนีภาคบริการของ ISM ขยายตัวที่ระดับ 57.2 ในเดือนพ.ย. พุ่งขึ้นจากระดับ 54.8 ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่รวดเร็วที่สุดในรอบ 13 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 55.4

 

ขณะที่ไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐ อยู่ที่ระดับ 54.6 ในเดือนพ.ย. ซึ่งแม้ว่าต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 54.7 แต่ดัชนียังคงอยู่สูงกว่า ระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ

 

ทั้งนี้ ข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของภาคบริการสหรัฐนั้น ได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของยุโรป หลังจากผลการลงประชามติของอิตาลีบ่งชี้ว่าประชาชนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศ

 

นายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี ประกาศลาออกจากตำแหน่งตามที่เคยประกาศไว้ว่าเขาจะลาออก หากประชาชนส่วนใหญ่ลงประชามติคัดค้านการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ หรือโหวต NO โดยรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดทอนอำนาจของวุฒิสภา ซึ่งจะทำให้การผ่านกฎหมายเป็นไปได้ง่ายขึ้น อันจะส่งผลให้ประเทศสามารถแข่งขันได้มากขึ้น

 

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความไม่แน่นอนให้กับเศรษฐกิจอิตาลี และอาจเป็นชนวนเหตุให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับสามในยูโรโซน และเป็นอันดับสี่ในยุโรป

 

หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มเทคโนโลยีได้รับแรงหนุนจากข้อมูลภาคบริการที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยหุ้นในกลุ่มธนาคารนั้น หุ้นโกลด์แมน แซคส์ พุ่งขึ้น 1.8% หุ้นซิตี้กรุ๊ป พุ่งขึ้น 2% ส่วนหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีนั้น หุ้นไมโครซอฟท์ ปรับตัวขึ้น 1.4% หุ้น Nvidia พุ่งขึ้น 3.8% และหุ้น Salesforce.com ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาซอฟท์แวร์ ปรับตัวขึ้น 3.4%

 

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน จากความวิตกกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนนี้ หลังจากมีรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่งในเดือนพ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 173,000 ตำแหน่ง ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 9 ปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทรงตัวที่ระดับ 4.9%

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนต.ค. และผลิตภาพ-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยไตรมาส 3/2559

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2563143

 

ปธน.อิตาลีเผยมัตเตโอ เรนซีจะลาออกจากตำแหน่งนายกฯ หลังรัฐสภาผ่านร่างงบประมาณปี 60

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 6 ธันวาคม 2559 09:11:00 น.

นายแซร์โจ มัตตาเรลลา ประธานาธิบดีอิตาลี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี จะลาออกจากตำแหน่งภายหลังจากร่างงบประมาณปี 2560 ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาแล้ว

 

นายเรนซี ได้ยื่นใบลาออกให้ประธานาธิบดีมัตเตเรลลาพิจารณาอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ หลังจากความพยายามของรัฐบาลในการผลักดันให้มีแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นประสบความล้มเหลว เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่ลงประชามติคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีได้ร้องขอให้นายเรนซีเลื่อนเวลาในการก้าวลงจากตำแหน่งออกไปก่อน โดยรอจนกว่าจะสะสางปัญหาใหญ่ในประเทศให้แล้วเสร็จเสียก่อน โดยเฉพาะร่างงบประมาณปี 2560 ที่รัฐสภาจะต้องลงมติเห็นชอบภายในสิ้นปี 2559 ทว่าจนถึงตอนนี้วุฒิสภาก็ยังไม่มีการลงมติรับรอง

 

 

 

นายมัตเตเรลลา ระบุในคำแถลงว่า "ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐ (อิตาลี) มีความจำเป็นต้องให้กระบวนการผ่านกฎหมายว่าด้วยงบประมาณในรัฐสภาดำเนินไปอย่างราบรื่นและสำเร็จลุล่วง ดังนั้นจึงได้ขอให้นายกรัฐมนตรีเลื่อนเวลาในการลาออกจากตำแหน่งออกไปก่อน จนกว่าจะมีการผ่านกฎหมายดังกล่าวแล้ว"

 

ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยอิตาลีเปิดเผยว่า มีผู้ไปใช้สิทธิลงประชามติในครั้งนี้ 65.47% โดยประชาชนจำนวน 19,419,507 คน หรือคิดเป็น 59.11% โหวต "คัดค้าน" การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ขณะที่ผู้โหวต "เห็นด้วย" มีจำนวน 13,432,208 เสียง คิดเป็น 40.89%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2563470

 

(เพิ่มเติม) นายกฯนิวซีแลนด์ประกาศลาออกจากตำแหน่ง เผยเป็นห่วงครอบครัว

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2559 12:48:42 น.

นายจอห์น คีย์ นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังได้ดำรงตำแหน่งนี้มายาวนานถึง 8 ปี ซึ่งสร้างความประหลาดใจไปทั้งประเทศ

 

นายคีย์ได้แถลงโดยมีเสียงสั่นว่า เขาได้แจ้งให้คณะรัฐมนตรีรับทราบแล้ว

สำหรับเหตุผลของการลาออกนั้น นายคีย์เปิดเผยว่าเป็นเหตุผลเรื่องครอบครัว เนื่องจากการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ทำให้บุคคลผู้ที่เขารักยิ่งต้องเสียสละเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นภรรยาที่ต้องนอนหลับคนเดียวอยู่หลายคืน หรือลูกๆของเขาที่ถูกลุกล้ำความเป็นส่วนตัวอย่างต่อเนื่อง

 

 

 

นอกจากนี้ นายคีย์ ยังได้แสดงเสียงสนับสนุนให้นายบิล อิงลิช รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง รับหน้าที่แทน โดยทางพรรคเนชั่นแนลจะเปิดการประชุมรอบพิเศษวันที่ 12 ธ.ค. นี้ เพื่อหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งแทนนายคีย์ ซึ่งนายคีย์เปิดเผยว่า ตนจะลงคะแนนให้นายอิงลิช หากนายอิงลิชตกลงที่จะเข้าชิงตำแหน่ง

 

ด้านนายอิงลิช เปิดเผยว่า ตนมีความสนใจที่จะรับช่วงต่อ แต่อาจไม่เข้าชิงตำแหน่งหากเขาไม่ได้รับเสียงสนับสนุนมากพอ โดยเขาเตรียมนำเรื่องนี้หารือกับพรรคและครอบครัวต่อไป

 

ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์มองว่า หากนายอิงลิชได้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว ก็น่าจะมีจุดยืนสานต่อนโยบายหลักๆของนายคีย์ต่อไป

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์ โทร.02-2535000 อีเมล์: kanitnut@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2563092

 

อาเบะเยือนเพิร์ลฮาร์เบอร์ปลายเดือนนี้ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกฯญี่ปุ่นคนแรก

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2559 21:11:21 น.

นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า ตนจะเดินทางเยือนเพิร์ลฮาร์เบอร์ พร้อมกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา ในช่วงปลายเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้นายอาเบะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนแรกที่ไปเยือนสถานที่ดังกล่าวซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สหรัฐอเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อ 75 ปีก่อน

 

 

 

นายอาเบะกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่สำนักนายกรัฐมนตรีว่า การเดินทางเยือนเพิร์ลฮาร์เบอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจเยือนฮาวายเป็นเวลาสองวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.นี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อปลอบขวัญผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โจมตีเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2484

 

นายกฯ ญี่ปุ่นระบุว่า ตนต้องการแสดงให้เห็นว่า โลกไม่ควรปล่อยให้ความเลวร้ายของสงครามเกิดขึ้นซ้ำรอยอีก และต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อส่งสารถึงความปรองดองระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา

 

เมื่อช่วงปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นายโอบามาได้กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่เดินทางเยือนฮิโรชิม่า โดยนายโอบามา พร้อมด้วยนายอาเบะได้เข้าร่วมพิธีที่สวนสันติภาพ ซึ่งรำลึกถึงความโหดร้ายของสงครามเมื่อครั้งที่สหรัฐใช้ระเบิดปรมาณูถล่มเมืองฮิโรชิม่า ทางตะวันตกของญี่ปุ่น เมื่อเดือนส.ค. 2488

 

ด้านทำเนียบขาวได้ระบุในแถลงการณ์ที่สอดคล้องกับการประกาศของนายอาเบะว่า ประธานาธิบดีโอบามาจะพบกับนายกรัฐมนตรีอาเบะ ในวันจันทร์ที่ 27 ธ.ค. ที่โฮโนลูลู และผู้นำทั้งสองจะไปเยือนอรุสรณ์สถานเรือรบ ยูเอสเอส แอริโซน่า เมโมเรียล ในเพิร์ลฮาร์เบอร์ ซึ่งถูกกองทัพญี่ปุ่นบุกโจมตีแบบไม่ตั้งตัว ส่งผลให้มีทหารเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และเรือถูกจมลง

 

แถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุว่า การเดินทางเยือนสถานที่ดังกล่าวของผู้นำทั้งสองจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความปรองดองที่สามารถเปลี่ยนอดีตอมิตรให้กลายเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด ด้วยผลประโยชน์และคุณค่าที่ทั้งสองฝ่ายมีร่วมกัน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2563126

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำอังคารที่ 6 ธันวาคม 2559 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 6 ธันวาคม 2559 09:56:51 น.

กรุงเทพฯ--6 ธ.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำแกว่งตัวหลังทราบผลการลงประชามติของอิตาลี โดยปรับตัวสูงขึ้นไปก่อนในช่วงต้นตลาดเมื่อวานนี้บริเวณ 1,182 เหรียญโดยประมาณ ก่อนจะมีแรงเทขายกลับเข้ามาแล้วหลุด 1,170 เหรียญลงมา ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อวาน ได้แก่ ISM Non-Manufacturing Index ทำให้ราคาเกิดแรงเทขายและทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 10 เดือนที่ระดับ 1,158 เหรียญโดยประมาณ ก่อนจะรีบาวน์กลับมาในช่วงปลายตลาด และเช้าวันนี้ในตลาดฮ่องกงเปิดที่ 1,173 เหรียญ ด้านค่าเงินบาทก็มีการแกว่งเช่นเดียวกัน โดยปรับตัวสูงขึ้น และกลับลงมาที่เดิมบริเวณ 35.43 บาท/ดอลลาร์ในเช้าการซื้อขายวันนี้ ทั้งนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาดีขึ้นเมื่อวานนี้ยังถือเป็นปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในคืนนี้ ได้แก่ Trade Balance คาดว่าจะออกมาแย่ลง ขณะที่ Factory Orders คาดว่าจะออกมาดีขึ้น

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในภาพรวมราคาทองคำยังคงแกว่งตัวอยู่ในกรอบเช่นเดิมระหว่าง 1,158 – 1,180 เหรียญ โดยที่ภาพรายวันยังคงมีความผันผวนในลักษณะ Sideways กรอบใหญ่ยังเป็นทิศทางแนวโน้มขาลง ตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ยังเป็นกลยุทธ์ตามทิศทางแนวโน้มขาลง

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

หาจังหวะปิดสถานะ ปรับพอร์ตตามแนวโน้ม

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

หาจังหวะเปิดสถานะขายก่อนเมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้น และปิดทำกำไรบริเวณแนวรับ

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ภาพรวมยังเป็นขาลง จึงแนะนำให้บริหารพอร์ตตามแนวโน้ม ไม่ใช้ Leverage มากจนเกินไป

Gold Futures Z16 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,820 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,020 บาท

Gold Futures G17 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,870 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,070 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2563493

 

Xinhua world news summary: นายกรัฐมนตรีอิตาลียื่นจดหมายลาออกต่อปธน.แล้ว

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 6 ธันวาคม 2559 09:37:48 น.

นายแซร์โจ มัตตาเรลลา ประธานาธิบดีอิตาลีเปิดเผยว่า นายมัตเตโอ เรนซี นายกรัฐมนตรีอิตาลีจะลาออกจากตำแหน่งในปีหน้าหลังจากที่ร่างงบประมาณปี 2560 ผ่านความเห็นชอบ

 

ทั้งนี้ นายเรนซียื่นจดหมายลาออกอย่างเป็นทางการต่อนายมัตตาเรลลาแล้ว หลังจากการปฏิรูปรัฐธรรมนูญในนามคณะรัฐมนตรีของเขาถูกปฏิเสธโดยผู้ที่มีสิทธิออกเสียงถึง 59%

 

 

 

-- กองทัพที่กำลังปฏิบัติภารกิจรักษาสันติภาพแห่งสหภาพแอฟริกา (AMISOM) และกองทัพแห่งชาติโซมาเลียสังหารสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายอัล-ชาบับ 7 รายจากเหตุปะทะกันบริเวณตอนใต้ของประเทศโซมาเลีย โดยแถลงการณ์ของ AMISOM ระบุว่า เกิดการปะทะกันในกรุง Bariire ซึ่งตั้งอยู่ในเขต Shabelle ตอนล่าง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยทหาร 9 นายได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

-- นางจอ์นนา วัตสัน โฆษกสถานีตำรวจเมืองโอ๊คแลนด์ รัฐแคลิฟอร์เนีย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้เริ่มกลับมาดำเนินการค้นหาร่างของผู้ประสบเหตุไฟไหม้โกดังสินค้าเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตเมื่อช่วงเช้าของวันจันทร์แตะที่ 36 รายแล้ว

 

ทั้งนี้ การค้นหาร่างของผู้ประสบเหตุไฟไหม้โกดังสินค้าในคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้นถูกระงับไป เนื่องจากสภาพของตัวอาคารไม่แข็งแรง และเริ่มกลับมาดำเนินการค้นหาอีกครั้งในเวลา 09.00 น. ของวันจันทร์

 

-- โรงพยาบาลเอกชน Apollo ในเมืองเจนไน เปิดเผยวานนี้ว่า นางนาดู เจ. จายาลาลิธา มุขมนตรีหญิงแห่งรัฐทมิฬนาดู นักแสดงภาพยนตร์ เสียชีวิตแล้วด้วยวัย 68 ปี

 

ทั้งนี้ อาการของนางจายาลาลิธาอยู่ในภาวะวิกฤตหลังมีอาการหัวใจหยุดเต้นเมื่อช่วงเย็นวันอาทิตย์ และจากไปเมื่อเวลา 23.30 น. ของคืนวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากเข้ารับการรักษามานานกว่า 4 เดือน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย มลฑา ชัยธำรงค์กูล/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2563495

 

อาเบะเยือนเพิร์ลฮาร์เบอร์ปลายเดือนนี้ สร้างประวัติศาสตร์เป็นนายกฯญี่ปุ่นคนแรก

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2559 21:11:21 น.

นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น เปิดเผยในวันนี้ว่า ตนจะเดินทางเยือนเพิร์ลฮาร์เบอร์ พร้อมกับประธานาธิบดี บารัค โอบามา ในช่วงปลายเดือนธ.ค.นี้ ซึ่งจะทำให้นายอาเบะกลายเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนแรกที่ไปเยือนสถานที่ดังกล่าวซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้สหรัฐอเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อ 75 ปีก่อน

 

 

 

นายอาเบะกล่าวกับผู้สื่อข่าวที่สำนักนายกรัฐมนตรีว่า การเดินทางเยือนเพิร์ลฮาร์เบอร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจเยือนฮาวายเป็นเวลาสองวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 ธ.ค.นี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อปลอบขวัญผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โจมตีเมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 2484

 

นายกฯ ญี่ปุ่นระบุว่า ตนต้องการแสดงให้เห็นว่า โลกไม่ควรปล่อยให้ความเลวร้ายของสงครามเกิดขึ้นซ้ำรอยอีก และต้องการใช้โอกาสนี้เพื่อส่งสารถึงความปรองดองระหว่างญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกา

 

เมื่อช่วงปลายเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา นายโอบามาได้กลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนแรกที่เดินทางเยือนฮิโรชิม่า โดยนายโอบามา พร้อมด้วยนายอาเบะได้เข้าร่วมพิธีที่สวนสันติภาพ ซึ่งรำลึกถึงความโหดร้ายของสงครามเมื่อครั้งที่สหรัฐใช้ระเบิดปรมาณูถล่มเมืองฮิโรชิม่า ทางตะวันตกของญี่ปุ่น เมื่อเดือนส.ค. 2488

 

ด้านทำเนียบขาวได้ระบุในแถลงการณ์ที่สอดคล้องกับการประกาศของนายอาเบะว่า ประธานาธิบดีโอบามาจะพบกับนายกรัฐมนตรีอาเบะ ในวันจันทร์ที่ 27 ธ.ค. ที่โฮโนลูลู และผู้นำทั้งสองจะไปเยือนอรุสรณ์สถานเรือรบ ยูเอสเอส แอริโซน่า เมโมเรียล ในเพิร์ลฮาร์เบอร์ ซึ่งถูกกองทัพญี่ปุ่นบุกโจมตีแบบไม่ตั้งตัว ส่งผลให้มีทหารเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก และเรือถูกจมลง

 

แถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุว่า การเดินทางเยือนสถานที่ดังกล่าวของผู้นำทั้งสองจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความปรองดองที่สามารถเปลี่ยนอดีตอมิตรให้กลายเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดที่สุด ด้วยผลประโยชน์และคุณค่าที่ทั้งสองฝ่ายมีร่วมกัน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2563126

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:01 :01 :01

 

โชคดี ลงทุนปลอดภัย ถูกทางถูกเวลาจ้าาา

 

เป็นสัปดาห์ที่ทองน่าจะเล่นตามเทคนิคเป็นหลัก แรงสะท้อนของค่าเงินดอลล่ารที่อ่อนตัวลงทำให้มองว่า ถ้าทองลงมาที่แนวรับน่าซื้ออย่างน้อยก็มีระยะให้รีบาวด์กัน

กรอบหลักมองว่าในเดือนนี้น่าจะยังไม่ถึงกับฟื้นตัวได้เกินบริเวณ 1200 - 1220 ในขณะที่ระยะสั้นมีแนวต้านสำคัญที่ 1175 1178 ผ่านบริเวณนี้ได้ถือว่าสถานการณ์เปลี่ยน เนื่องจากเป็นจุดคอนเฟิร์มสัญญาณไดเวอร์เจ้นท์ของกราฟ H4 จะมีแนวต้านถัดไป 1188 1195

เมื่อพิจารณาจากกราฟย้อนหลังถือว่า 1165 เป็นแนวรับสำคัญ ถ้ามาแตะระดับบริเวณนี้ถือเป็นจังหวะได้เปรียบ อย่างน้อยก็คาดหวังแนวต้าน 1175 1178 เป็นเป้าทำกำไร

6 Dec, 2016

www.facebook.com/Wealthstation

15337593_1239719369399869_8230659717916824825_n.png?oh=51b3acf9039bcab2e6c691c2c2295441&oe=58C57595

15355783_1239716639400142_7633032065911142919_n.png?oh=2c78d3e4ded33715c080367aecc7b43c&oe=58C28364

15268068_1239723346066138_3855053896308435719_n.png?oh=e4680c36232edcee3633243ab2977f83&oe=58F4EE5F

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

สํานักข่าวไทย TNAMCO

 

 

News กระบี่เตรียมรับเสด็จ ร.10 เปิดศาลากลางหลังใหม่

 

NOW26

 

 

 

กรมประชาสัมพันธ์

 

 

 

กรมประชาสัมพันธ์

 

 

 

กรมประชาสัมพันธ์

 

 

 

NationTV22

 

 

 

NationTV22

 

 

 

MTS GOLD GROUP

 

 

 

 

YLGResearch

 

 

 

CLASSIC GOLD GROUP

 

 

 

ปฏิทินเศรษฐกิจ

บริษัทออสสิริส ค้าทองคำแท่ง เทรดทองคำแท่งออนไลน์ ราคาทองวันนี้

 

AUSIRIS.CO.TH

 

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจทีส่งผลต่อราคาทองคำและหุ้น 7/ธ.ค./2559

ข่าวเศรษฐกิจทีส่งผลต่อราคาทองคำและหุ้น 7/ธ.ค./2559

 

AUSIRIS.CO.TH

 

 

 

 

 

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า 07-DEC-2016

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า 07-DEC-2016

 

AUSIRIS.CO.TH

 

 

 

 

NationTV22

 

 

 

HSHsocial

 

 

 

NationTV22

 

 

 

 

NationTV22

 

 

 

NationTV22

 

 

 

NationTV22


 

 

 

NOW26

 

 

บทวิเคราะห์ Smart Stock ประจำเช้าวันพุธ ที่ 7 ธันวาคม 2559

 

 

 

Volume เบาบาง

S50Z16 เมื่อวานนี้เปิดตลาดเกิดช่องว่างราคาบวกประมาณสองจุดที่ 942.00 จุดหลังจากนั้นซึมลงในภาคเช้าเรื่อยๆปิดตลาดในภาคเช้าที่ 940.20 จุด ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดช่วงบ่ายในกลุ่มพลังงานซึ่งได้รับอานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวสูงขึ้นโดย S50Z16 ขึ้นไปทำจุดสูงสุดในวันที่ 949.90 จุด มีกรอบการแกว่งประมาณ 9.90 จุดถือว่ามีความเคลื่อนไหวพอสมควร ส่วนในด้านของดัชนี SET index ปิดตลาดที่ 1,516.48 จุด หลังลงมาทดสอบระดับราคา 1,503 จุดในภาคเช้ามีปริมาณการซื้อขายเบาบางเพียง 39,692.24 ล้านบาทเท่านั้น ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับเข้ามาซื้อสุทธิในตลาดหุ้นไทย 1,247.10 ล้านบาท เป็นสัญญาณบวกสำหรับเดือนนี้ที่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิสะสม 1,615.69 ล้านบาทตั้งแต่ต้นเดือน อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยยังคงมองว่าตลาดหุ้นไทยยังอ่อนไหวต่อปัจจัยที่เข้ามากระทบตลาดอีกทั้งยังขาดปัจจัยบวกและมี Downside Risk พอสมควร สำหรับการเปิดสถานะลงทุนในระยะนี้ให้พิจารณาประเด็นเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯและประเด็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯด้วย ซึ่งอาจทำให้ดัชนียังไม่สามารถขยับได้มากนักส่งผลให้อัตราผลตอบแทนเมื่อเปรียบเทียบกับระดับความเสี่ยงอาจยังไม่คุ้มค่ากับการเปิดสถานะลงทุน

 

แนะนำ : ฝั่ง Long ได้เปรียบในวันแต่ให้เปิดสถานะเมื่อราคาย่อตัวเท่านั้น, ยังผันผวนไม่มีทิศทางที่ชัดเจนอาจมีแรงขายกดดันดัชนี

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy0712201692744365…

___________________________

 

 

 

 

15355573_1492598660768479_3533704859576159346_n.jpg?oh=c51e00260a43f41a78cb47697bc45306&oe=58F647B6

 

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Hi

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก:ดอลล์แข็งเทียบเงินสกุลหลัก รับข้อมูลศก.สหรัฐสดใส

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 7 ธันวาคม 2559 07:31:51 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 114.00 เยน จากระดับ 113.75 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0107 ฟรังก์ จากระดับ 1.0061 ฟรังก์ ในขณะที่ขยับขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3285 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3254 ดอลลาร์แคนาดา

 

 

 

เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0715 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0775 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่เงินปอนด์ลดลงแตะระดับ 1.2680 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2724 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียลดลงแตะระดับ 0.7457 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7481 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.7% ในเดือนต.ค. ซึ่งปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2015 หรือในรอบเกือบ 1 ปีครึ่ง และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6%

 

ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ประสิทธิภาพการผลิตของแรงงานนอกภาคเกษตร เพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 ปีในไตรมาส 3 โดยพุ่งขึ้นในอัตรา 3.1% ส่วนผลผลิตต่อแรงงานพุ่งขึ้น 3.6% ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 2 ปี

 

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า โดยผลสำรวจของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.

 

นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ พร้อมกับติดตามดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้เช่นกัน ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค.

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2563934

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง $6.4 เหตุดอลล์แข็ง,กระแสคาดเฟดขึ้นดบ.

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 7 ธันวาคม 2559 07:40:00 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำ นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 6.4 ดอลลาร์ หรือ 0.54% ปิดที่ระดับ 1,170.10 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 8.9 เซนต์ หรือ 0.53% ปิดที่ 16.81 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 2.9 ดอลลาร์ หรือ 0.31% ปิดที่ 935.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ดิ่งลง 11.65 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 734.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดยังคงสร้างแรงกดดันต่อบรรยากาศการซื้อขายในตลาด โดยผลสำรวจของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.

 

นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองเงินสกุลอื่นๆ โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นหลังจากมีรายงานว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.7% ในเดือนต.ค. ซึ่งปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2015 หรือในรอบเกือบ 1 ปีครึ่ง และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2563964

 

เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 6.4 แมกนิจูดที่จ.อาเจะห์ของอินโดนีเซีย ไม่มีเตือนสึนามิ

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 7 ธันวาคม 2559 06:55:32 น.

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาและธรณีวิทยาของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า เกิดแผ่นดินไหวที่วัดความรุนแรงได้ 6.4 แมกนิจูด ในจังหวัดอาเจะห์ ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย ส่งผลให้บ้านเรือนและอาคารหลายแห่งได้รับความเสียหาย

 

แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 05.03 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองปีดี จายา ออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 18 กิโลเมตร และเกิดขึ้นที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร

 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเตือนภัยคลื่นยักษ์สึนามิจนถึงขณะนี้

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2563929

 

ยอดผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในจ.อาเจะห์ของอินโดนีเซียเพิ่มขึ้นเป็น 20 ราย

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 7 ธันวาคม 2559 09:31:03 น.

นายเฮนี เนอร์ไมนี เจ้าหน้าที่ฝ่ายข่าวประจำจังหวัดอาเจะห์ของอินโดนีเซียเปิดเผยว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 6.4 แมกนิจูดในจังหวัดอาเจะห์ เพิ่มขึ้นเป็น 20 คน และมีผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นเป็น 10 คน

 

แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 05.03 น.ตามเวลาไทยในวันนี้ โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองปีดี จายา ออกไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 18 กิโลเมตร และเกิดขึ้นที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2564263

 

กลุ่มกบฏซีเรียถอนกำลังออกจากย่านเมืองเก่าของอเลปโปแล้ว

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 7 ธันวาคม 2559 10:13:00 น.

สถานีโทรทัศน์อัล-มายาดีน รายงานว่า กลุ่มกบฏซีเรียได้ถอนกำลังออกจากพื้นที่ตอนเหนือในย่านเมืองเก่าของเมืองอเลปโปแล้ว ขณะที่ปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่ซีกตะวันออกของย่านดังกล่าวของกองทัพรัฐบาลซีเรียยังคงดำเนินต่อไป

 

กลุ่มกบฎต่อต้านรัฐบาลซีเรียได้ถอนกำลังออกจากย่านเมืองเก่าของอเลปโปไปยังพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้แทน อันเป็นพื้นที่ที่กลุ่มกบฏกุมอำนาจอยู่

 

 

 

ทั้งนี้ สื่อรายงานว่า กองทัพรัฐบาลซีเรียได้เข้าโจมตีเมือง al-Sha'ar เมื่อวานนี้ โดยเมืองดังกล่าวเป็นฐานที่มั่นทางซีกตะวันออกของกลุ่มแนวร่วมอัลนุสเราะห์ ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์ ส่งผลให้กลุ่มบกฏต้องยอมถอนกำลังออกไป

 

การที่กองทัพรัฐบาลสามารถยึดเมือง al-Sha'ar คืนมาได้นั้น ทำให้กองทัพเข้าใกล้ย่านเมืองเก่าของอเลปโปอันเป็นฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏได้มากขึ้น เนื่องจากขณะนี้เมืองดังกล่าวได้ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง คือส่วนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกลุ่มกบฏ และส่วนที่รัฐบาลซีเรียสามารถยึดคืนมาได้

 

ทั้งนี้ ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในย่านดังกล่าวได้อพยพออกจากเมืองแล้ววานนี้ โดยมีผู้รายงานว่าเห็นรถบัส 6 คันวิ่งออกจากไปจากเมืองแล้วเมื่อคืนนี้

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปัทมาสน์ ชนะรัชชรักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq38/2564310

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

14732130_10154621018124547_6400130997681423460_n.jpg?oh=2734a5b7440304b0397ccd48b0935ef5&oe=58B55D5D

 

15317788_10154730312904547_67100023088327701_n.jpg?oh=3a4e9cf2c466a11aab3043f6e19cb260&oe=58B6183E

 

15253612_10154740387624547_8598525122117668253_n.jpg?oh=451992e5ba04f6f4354d08085f222a0f&oe=58BDD06F

 

15337390_10154737072629547_4123413518248235752_n.jpg?oh=dbc803ab4471cc74668f3b962393b62b&oe=58C59749

เนื่องในวันคล้ายวันประสูติของ

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา

ทรงเจริญพระชันษา ๓๘ ปี ๗ ธันวาคม ๒๕๕๙

 

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด

 

 

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.63/65 ตลาดโฟกัสผลประชุม ECB พรุ่งนี้- FOMC ในสัปดาห์หน้า

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 7 ธันวาคม 2559 09:15:38 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้ที่ระดับ 35.63/65 บาท/ดอลลาร์ จาก

 

 

 

เย็นวานนี้ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 35.58/63 บาท/ดอลลาร์

"เมื่อวานไม่ผ่าน 35.60 ก็เด้งขึ้นมาเช้านี้...ตลาดน่าจะโฟกัสไปที่ผลการประชุม ECB วันพรุ่งนี้และ FOMC วีคหน้า

 

ซึ่ง ECB น่าจะมีลุ้นกว่า เพราะ FOMC น่าจะขึ้น Rate แน่ แต่ก็ต้องจับตาดูทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐฯสำหรับปีหน้ามากกว่า"

 

นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.60 - 35.70 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 114.06 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 114.10 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0725 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0760 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.6190 บาท/

 

ดอลลาร์

- ลุ้นอีกรอบ คลังเข็นมาตรการช็อปช่วยชาติเข้า ครม.วันนี้ คาดเริ่มระหว่าง 15-31 ธ.ค.59 ไม่ห่วงรัฐสูญรายได้

 

เชื่อได้กลับคืนมากกว่า 6-7 พันล้านบาท

- นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันรัฐบาลจ่ายเงิน

 

สมทบให้สมาชิกมีเพดานสูงสุด 1,200 บาท/ปี โดย กอช.จะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบแก้ไขกฎกระทรวงให้จ่ายเงิน

 

สมทบเพิ่มเป็น 1,500 บาท/ปี ในไตรมาสแรกปี 2560 เพื่อเป็นแรงจูงใจให้แรงงานนอกระบบเข้ามาเป็นสมาชิกกองทุนมากขึ้น

 

- สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า สศช.กำลังเร่งขับเคลื่อน

 

ยุทธศาสตร์การลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรมในสังคมภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (2560-

 

64) โดยตั้งเป้าหมายสร้างรายได้และขยายโอกาสให้กับประชากรในกลุ่ม 40% ที่มีรายได้ต่ำสุด 27 ล้านคน ให้มีรายได้เฉลี่ยเพิ่มขึ้น

 

เป็นคนละ 7,755 บาทต่อเดือน จากปัจจุบันมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่คนละ 5,344 บาทต่อเดือน ภายหลังจากสิ้นสุดแผนพัฒนาฯ 12 ซึ่งถ้า

 

เป็นไปตามเป้าหมาย เชื่อว่าลดความเหลื่อมล้ำ และแก้ปัญหาความยากจนให้กับคนไทยได้

- สถาบันการเงินภาครัฐ 3 แห่ง ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การ

 

เกษตร(ธ.ก.ส.) เปิดให้บริการโอนเงินค่าสวัสดิการภาครัฐให้แก่ผู้ลงทะเบียนโครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดคน

 

ละ 600 บาทต่อเดือน ผ่านระบบพร้อมเพย์เป็นครั้งแรกของประเทศไทย แต่ในส่วนการให้บริการโอนเงินระหว่างบุคคลได้เลื่อนให้

 

บริการพร้อมเพย์เป็นต้นปีหน้า

- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียรายงานในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3/2559

 

หดตัวลง 0.5% จากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะหดตัวลงเพียง 0.1% และยังเป็นการหดตัวที่รุนแรงที่สุดนับ

 

ตั้งแต่ปี 2551

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.7% ในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้น

 

มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2015 หรือในรอบเกือบ 1 ปีครึ่ง โดยทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% ใน

 

เดือนก.ย.

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) หลัง

 

จากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานที่พุ่งขึ้นสูงสุดในรอบกว่า 1 ปี โดยดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า

 

ขึ้นเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 114.00 เยน จากระดับ 113.75 เยน และเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ

 

1.0715 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0775 ดอลลาร์สหรัฐ

- นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน

 

สัปดาห์หน้า โดยผลสำรวจของ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

 

ในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้นักลงทุน

 

ลดการถือครองทองคำ นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้น

 

อัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 ธ.ค.) ทำสถิติปรับตัวลงเป็นวันแรกในรอบ 5

 

วันทำการ หลังจากผลสำรวจบ่งชี้ว่า ปริมาณการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือน

 

พ.ย. แม้ว่ากลุ่มโอเปกได้บรรลุข้อตกลงการปรับลดการผลิตแล้วก็ตาม

- นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพรุ่งนี้ พร้อมกับติดตามดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของ

 

สหรัฐในสัปดาห์นี้เช่นกัน ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์, ความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนธ.ค.จาก

 

มหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค.

--อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2564246

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

NOW26

 

 

NOW26

 

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

15319062_10154857580547922_6915172278481850936_n.jpg?oh=d73eda272198fe68ee8cb3f3497cec43&oe=58FB638A

วันพุธที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๕๙ เวลา ๐๗.๐๐ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุสงฆ์ ในการพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง

ขอบคุณภาพ.สำนักพระราชวัง

 

15380536_10154857580947922_2446268549341419282_n.jpg?oh=15bc394ee1e83e00925ef8289516371a&oe=58B1C3A5

เมื่อวันอังคารที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๕.๑๐ น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๘ ณ อาคารกีฬา ๑ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก

ในโอกาสนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราโชวาทความว่า "ท่านทั้งหลายที่สำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตนับว่าเป็นผู้เตรียมตัวพร้อมแล้วสำหรับการทำงานด้วยได้ศึกษาวิชาการมาครบถ้วนแล้วตามหลักสูตร วิชาการทั้งปวงที่ท่านได้เล่าเรียนมานั้นประกอบด้วยหลักความจริงที่เชื่อถือได้ว่าเป็นสิ่งดีทั้งสิ้นแต่จะมีประโยชน์มากน้อยเพียงใดย่อมขึ้นอยู่กับการนำไปใช้เป็นสำคัญ หากนำไปใช้ในทางที่ถูกก็จะอำนวยผลเป็นประโยชน์เป็นความเจริญหากนำไปใช้ในทางที่ผิดก็จะก่อให้เกิดโทษเป็นความเสื่อม เหตุนี้ ผู้ใช้จึงต้องมีความสำรวมระวังที่จะนำความรู้ไปใช้ด้วยเจตนาที่ดีที่บริสุทธิ์ และด้วยวิธีการที่เที่ยงตรงเป็นธรรมทั้งต้องศึกษาผลที่จะเกิดตามมาอย่างรอบคอบและรอบด้าน โดยใช้ความคิดพิจารณาที่ถูกต้องตามหลักเหตุผลความเป็นจริง จึงขอให้บัณฑิตทุกคนศึกษาเรื่องราวของการนำความรู้ไปใช้ให้เข้าใจกระจ่าง จะได้สามารถใช้วิชาการอันทรงคุณค่าที่อุตส่าห์เล่าเรียนมาด้วยยากให้สำเร็จผลแต่ในทางที่ดี ที่สร้างสรรค์ ทั้งแก่ตนเอง แก่งานที่ทำ และแก่ชาติบ้านเมืองพร้อมทุกส่วน"

 

ขอบคุณภาพ.FB_ตำรวจภูธรจังหวัดนครนายก นครนายก

 

 

CLASSIC GOLD GROUP

 

 

 

HSHsocial

 

ราคาทองคำวันนี้ 8 ธ.ค. 59

http://bit.ly/2gXlX33

ข่าวเศรษฐกิจทีส่งผลต่อราคาทองคำและหุ้น 8/ธ.ค./2559

ข่าวเศรษฐกิจทีส่งผลต่อราคาทองคำและหุ้น 8/ธ.ค./2559

AUSIRIS.CO.TH

 

 

 

NOW26

 

 

 

NOW26

 

 

 

NOW26

 

 

 

NationTV22

 

 

NOW26

 

 

 

 

NOW26

 

 

 

 

NationTV22

NOW26

 

 

NOW26

 

NationTV22

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีจัาเพื่อน พี่น้องทุกท่าน

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2559 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2559 09:48:09 น.

กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเริ่มทรงตัวอยู่ได้บริเวณ 1,170 เหรียญ ท่ามกลางแรงขายของ SPDR อย่างต่อเนื่องอีก 6.23 ตัน ปัจจุบันเหลือการถือครองทองคำที่ระดับ 863.67 ตัน ด้านข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อวานนี้ ได้แก่JOLTS Job Openings ที่ออกมาแย่ลงจากเดิมเล็กน้อย ขณะที่ในวันนี้ให้จับตาดูผลการประชุมของอีซีบีที่คาดว่าจะยังคง QE และตลาดคาดหวังว่าจะขยายมาตรการ QE ออกไปอีก 6 เดือน จนถึงเดือนกันยายนปีหน้า

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำเริ่มทรงตัวในกรอบ Sideways ในกรอบ 1,165 – 1,180 เหรียญ ขณะที่ค่าเงินบาทเริ่มทรงตัวบริเวณ 35.58 – 35.65 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ราคาทองคำไทยเองจะมีกรอบการเคลื่อนไหวในกรอบแนวรับ 19,650 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 19,950 บาท/บาททองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะนำให้เก็งกำไรในกรอบ บริหารพอร์ตทิศทางขาลงในกรอบ 1,165 – 1,180 เหรียญ

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

หาจังหวะปิดสถานะเมื่อราคาปรับตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

เก็งกำไรในกรอบระยะสั้น

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

บริหารพอร์ตการลงทุนให้สมดุลตามการแกว่งของตลาด โดยภาพหลักเป็นขาลง

Gold Futures Z16 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,850 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,050 บาท

Gold Futures G17 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,910 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,110 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.8731 หยวนต่อดอลลาร์เช้านี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2559 08:51:48 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่าเงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.77% แตะที่ 6.8731 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐ

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จิตวัฒน์ วิจิตรถาวร/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2565013

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าขยับขึ้น ตามทิศทางหุ้นตปท.,มาตรการรัฐกระตุ้นศก.-เม็ดเงิน LTF/RMF หนุน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2559 09:28:00 น.

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นต่อได้ ตามทิศทางตลาดต่างประเทศ อย่างดัชนีดาวโจนส์และยุโรปก็ยังดี เพราะตอนนี้ทุกคนมองเศรษฐกิจสหรัฐฯยังขยายตัวในระดับที่ดี แม้คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตาม ขณะที่การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันนี้ คาดว่าจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับเดิม ส่วนราคาน้ำมันดิบแม้จะปรับลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่า 50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล แต่ภาพรวมแล้วยังค่อนข้างดี

 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยหนุนจากในประเทศ โดยในช่วง 2 วันนี้นักลงทุนกลับเข้ามาซื้อหลังเรื่องอิตาลีไม่ได้รบกวนตลาดแต่อย่างใด ขณะที่รัฐบาลยังจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาต่อเนื่อง โดยคำแนะนำช่วงนี้ให้สะสมหุ้น Domestic Play ที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการภาครัฐ และตลาดยังมีแรงเก็งกำไรหุ้นใหญ่ที่เป็นเป้าหมายการลงทุนของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ที่จะเข้ามาซื้อช่วงปลายปี โดยให้กรอบการเคลื่อนไหววันนี้ที่ระดับ 1,500-1,550 จุด

 

--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2565099

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เงินบาทเปิด 35.62 แนวโน้มแข็งค่าจากแรงขายดอลล์ ตลาดจับตาผลประชุม ECB-FED

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 8 ธันวาคม 2559 09:16:32 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.62 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากปิด

 

 

 

ตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.64 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากมีแรงเทขายดอลลาร์

"บาทแข็งค่าจากเย็นวานนี้เล็กน้อย หลังดอลลาร์อ่อนค่าตามแรงเทขายทำกำไรหลังจากปรับตัวแข็งค่าขึ้นมามากในช่วง

 

ก่อนหน้านี้" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบวันนี้ไว้ระหว่าง 35.55-35.65 บาท/ดอลลาร์

สำหรับปัจจัยที่ตลาดจับตามองในระยะนี้ คือ ผลประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และกลางสัปดาห์หน้าจะมีการประชุม

 

ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED)

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ 113.67 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 113.90/93 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ 1.0759 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0715/1.0717 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.6600 บาท/

 

ดอลลาร์

- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบจัดทำงบประมาณกลางปี 2560 พุ่งแตะ 190,000 ล้านบาท มาจากการกู้

 

เงินชดเชยขาดดุล 162,921 ล้านบาท ภาษีและรายได้อีก 27,078 ล้านบาท เพื่อให้กลุ่มจังหวัดใชัพัฒนาเศรษฐกิจภายใน

 

100,000 ล้านบาท และกองทุนหมู่บ้านกว่า 60,000 ล้านบาท ส่วนช็อปช่วยชาติรอเข้า ครม.สัปดาห์หน้า

 

- ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ไฟเขียวร่าง พ.ร.บ.ธุรกิจสถาบันการเงิน เปิดทาง ธปท.คุมความมั่นคงแบงก์รัฐเต็ม

 

พิกัด พร้อมให้กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาสถาบันมีอำนาจเรียกเก็บเงินจากสถาบันการเงินดูแลธนาคารวิกฤติ

 

- ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า โครงการกระจายจุดรับบัตร หรืออีดีซี ตามนโยบายพัฒนาระบบชาระเงิน

 

แห่งชาติ (เนชั่นแนล อี-เพย์เมนต์) มีแนวโน้มจะเลื่อนกำหนดวางเครื่องอีดีซีจากภายในปี 2559 เป็นปี 2560 เนื่องจากยังคงรอ

 

หลักเกณฑ์เงื่อนไข (ทีโออาร์) จากกระทรวงการคลังว่าจะออกมาเมื่อใด ซึ่งในข้อกำหนดระบุว่า หลังจากมีการออกทีโออาร์แล้ว จะ

 

ต้องใช้เวลา 1 เดือน ในการเปิดให้เอกชนเสนอเงื่อนไข

- การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดว่ายอดจองห้องพักช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) เดือนธันวาคมนี้

 

เฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 80-90% เพราะได้ปัจจัยสนับสนุนจากวันหยุดยาวติดต่อกันหลายช่วง ได้แก่ วันที่ 3-5 ธันวาคมที่ผ่านมา และวัน

 

ที่ 10-12 ธันวาคมนี้ ขณะที่รัฐบาลประกาศวันหยุดเพิ่มเติมช่วงปีใหม่ ทำให้นักท่องเที่ยวไทยทยอยวางแผนและจองห้องพักล่วงหน้าเพิ่ม

 

ขึ้น ขณะเดียวกันสภาพอากาศที่เริ่มหนาวเย็น ช่วยเอื้อให้เกิดความต้องการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น

 

ททท.คาดว่ารายได้ท่องเที่ยวในประเทศในช่วงไตรมาส 4 (ตุลาคม-ธันวาคม) อยู่ที่ 2.19 แสนล้านบาท และทำให้

 

รายได้ตลอดปีอยู่ที่ 8.59 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.95% จากปี 2558

- นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ตลท.และ

 

นักลงทุนอยู่ระหว่างการติดตามปัจจัยที่มีผลกระทบตลาดหุ้นไทยในปี 60 อย่างใกล้ชิด คือ แนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ

 

ธนาคารกลางสหรัฐหรือเฟดที่อาจมีความผันผวนมากกว่าปีนี้ และนโยบายของนายโดนัลด์ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐ ว่าจะเป็น

 

อย่างไร เพราะนโยบายของ ทรัมป์ ที่เน้นกระตุ้นในประเทศจะเป็นตัวกดดันให้เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่าตลาดคาดการณ์

 

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) เนื่อง

 

จากนักลงทุนชะลอการซื้อขาย ก่อนที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะประชุมนโยบายการเงินในวันนี้ โดยดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อ

 

เทียบกับเยนที่ระดับ 113.95 เยน จากระดับ 114.00 เยน ส่วนเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0752

 

ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0715 ดอลลาร์สหรัฐ

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (7 ธ.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบ

 

กับยูโร นอกจากนี้ นักลงทุนยังปรับโพสิชั่นการลงทุนก่อนที่การประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะมีขึ้นใน

 

สัปดาห์หน้า โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 7.4 ดอลลาร์ หรือ 0.63% ปิด

 

ที่ 1,177.50 ดอลลาร์/ออนซ์

- ผลการสำรวจระบุว่า หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน (CFO) ของภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นมากขึ้น หลังจากที่นายโด

 

นัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

- รัฐบาลญี่ปุ่นได้ปรับลดประมาณการตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 3/2559 ลงสู่ระดับ

 

1.3% จากการประมาณการเบื้องต้นเมื่อวันที่ 14 พ.ย.ที่ระดับ 2.2%

- นักลงทุนจับตาข้อมูลยอดนำเข้า ส่งออก และดุลการค้าเดือนพ.ย. ที่จะมีการเปิดเผยในช่วงเช้าของวันนี้ นอกจากนี้

 

นักลงทุนยังจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์, ความเชื่อมั่นผู้

 

บริโภคเบื้องต้นเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน และสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค.

 

- นักลงทุนจับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 13-14 ธ.ค.นี้ ขณะที่ผลสำรวจของ CME Group

 

FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในปีนี้

 

และครั้งที่ 2 ในรอบเกือบ 10 ปี

--อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2565094

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำวันนี้ วิเคราะห์ โดย Ausiris 08Dec2016

http://bit.ly/2h6eZq0

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...