มือใหม่หัดวิเคราะห์

ginger · ธันวาคม 27, 2016

:Hi

คิดถึงน้า โชคดี หน้าใส ใจสบาย

MTS GOLD GROUP

NOW26

NOW26

News เตรียมบุกจับ "ธัมมชโย" ตร.เจรจาขอคืนพื้นที่หน้าธรรมกาย

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

ginger · ธันวาคม 28, 2016

15284948_1130621777051291_8016889895782862222_n.jpg?oh=c52e89162759e129a7416c866d21e6ac&oe=58F2F817

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ขอพระราชทานกราบบังคมทูลทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท

ข้าพระพุทธเจ้าทั้งหลายขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส

กราบบังคมทูลถวายพระพรแด่ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท

เนื่องในวันคล้ายวันดิถีขึ้นปีใหม่ปีพุทธศักราช ๒๕๖๐

ขอใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระเกษมสำราญ

มีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง สถิตทรงเป็นพระมิ่งขวัญ

ของปวงชนชาวไทย ตราบนิจนิรันทร์

ควรมิควรแล้วแต่จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม

ginger · ธันวาคม 28, 2016

15781452_1396014587118054_979418337067960261_n.jpg?oh=9f5dfafe2235f634204d60eb5eaec169&oe=58E68EB2 สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี พระราชทาน ส.ค.ส. เนื่องในวาระดิถีขึ้นปีใหม่ 2560 แก่พสกนิกรไทย เป็นการ์ดพื้นสีขาว ด้านหน้าเป็นตราประจำพระองค์ "จภ" ส่วนด้านในฝั่งซ้าย เป็นคำอวยพรทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษข้อความว่า "สุขสันต์วันปีใหม่ 2560" และ "Season's Greeting 2017" ฝั่งขวาเป็นพระรูปที่ทรงฉายกับเครื่องประกอบพระอิสริยยศ

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

===

สามารถติดตามข่าวสารต่างๆของทาง บริษัท MTS GOLD

YLGResearch

HSHsocial

ปฏิทินเศรษฐกิจ

บริษัทออสสิริส ค้าทองคำแท่ง เทรดทองคำแท่งออนไลน์ ราคาทองวันนี้

AUSIRIS.CO.TH

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า 28-DEC-2016

AUSIRIS.CO.TH

NationTV22

ทีนิวส์ออนไลน์

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

NOW26

NOW2

NOW26

ถูกแก้ไข ธันวาคม 28, 2016 โดย ginger

ginger · ธันวาคม 28, 2016

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 28 ธันวาคม 2559 07:52:08 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 27 ธ.ค.2559

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนธ.ค.ที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี ขณะที่ดัชนี NASDAQ ทำสถิติปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้รับปัจจัยบวกจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,945.04 จุด เพิ่มขึ้น 11.23 จุด หรือ +0.06% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,487.44 จุด เพิ่มขึ้น 24.75 จุด หรือ +0.45% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,268.88 จุด เพิ่มขึ้น 5.09 จุด หรือ +0.22%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ตลาดปิดทำการไปเมื่อวันจันทร์ที่ 26 ธ.ค.เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของภาคธนาคารอิตาลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อธนาคารกลางยุโรป (ECB) ออกมาระบุว่า ธนาคาร Banca Monte dei Paschi di Siena (BMPS) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของอิตาลี จำเป็นต้องระดมทุนเพิ่ม

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.1% ปิดที่ 360.48 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,848.28 จุด เพิ่มขึ้น 8.60 จุด หรือ +0.18% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,472.24 จุด เพิ่มขึ้น 22.31 จุด หรือ +0.19%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปก) และผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก จะดำเนินการตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์นี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 53.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2558

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 56.09 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) ขณะที่ตลาดซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง หลังจากที่ชะลอการซื้อขายในช่วงวันหยุดเทศกาลคริสต์มาส

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 117.46 เยน จากระดับ 117.25 เยน และทรงตัวเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0279 ฟรังก์สวิส

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0455 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0448 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2280 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2274 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลีย แข็งค่าขึ้น 0.7185 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7169 ดอลลาร์

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ตลาดปิดทำการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 5.2 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ระดับ 1,138.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 1.46% ปิดที่ 15.989 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปรับขึ้น 10.9 ดอลลาร์ หรือ 1.22% ปิดที่ 904.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 21.55 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 676.40 ดอลลาร์/ออนซ์

* ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการวันอังคารที่ 27 ธ.ค. เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,268.88 จุด เพิ่มขึ้น 5.09 จุด, +0.22%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,487.44 จุด เพิ่มขึ้น 24.75 จุด, +0.45%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 19,945.04 จุด เพิ่มขึ้น 11.23 จุด, +0.06%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,848.28 จุด เพิ่มขึ้น 8.60 จุด, +0.18%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,472.24 จุด เพิ่มขึ้น 22.31 จุด, +0.19%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,213.44 จุด เพิ่มขึ้น 406.34 จุด, +1.57%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,619.68 จุด เพิ่มขึ้น 2.53 จุด, +0.16%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,885.76 จุด เพิ่มขึ้น 14.71 จุด, +0.51%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,102.95 จุด เพิ่มขึ้น 75.25 จุด, +1.50%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 663.86 จุด เพิ่มขึ้น 1.41 จุด, +0.21%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,658.20 จุด เพิ่มขึ้น 94.53 จุด, +1.44%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,114.66 จุด ลดลง 7.91 จุด, -0.25%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,042.17 จุด เพิ่มขึ้น 4.42 จุด, +0.22%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,403.06 จุด เพิ่มขึ้น 6.42 จุด, +0.03%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,109.27 จุด ลดลง 1.27 จุด, -0.01%

*ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดทำการวันอังคารที่ 27 ธ.ค. เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส

*ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดทำการวันอังคารที่ 27 ธ.ค. เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2576589

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงซื้อเก็งกำไร หนุนทองคำปิดบวก 5.2 ดอลล์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 28 ธันวาคม 2559 07:49:17 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ตลาดปิดทำการเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 5.2 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่ระดับ 1,138.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 1.46% ปิดที่ 15.989 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ปรับขึ้น 10.9 ดอลลาร์ หรือ 1.22% ปิดที่ 904.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 21.55 ดอลลาร์ หรือ 3.3% ปิดที่ 676.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำดีดตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ตลาดปิดทำการเมื่อวันจันทร์ที่ 26 ธ.ค. เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส

อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ประกอบกับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการในการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

ทั้งนี้ ผลสำรวจของคอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด (Conference Board) บ่งชี้ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 113.7 จากระดับ 109.4 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนีเดือนธ.ค.ทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อภาวะเศรษฐกิจและการจ้างงาน

ขณะที่ผลการสำรวจของเอสแอนด์พี/เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า ราคาบ้านในเมืองขนาดใหญ่ของสหรัฐปรับตัวขึ้น 5.1% ในเดือนต.ค. ซึ่งสูงกว่าเดือนก.ย.ที่มีการขยายตัว 5.0%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2576588

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 88 เซนต์ รับความหวังกลุ่มผู้ผลิตดำเนินการตามข้อตกลงลดการผลิต

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 28 ธันวาคม 2559 06:59:46 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปก) และผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก จะดำเนินการตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์นี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 53.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2558

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 56.09 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น ขานรับความคาดหวังที่ว่า กลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกจะรักษาคำมั่นสัญญาณในการปรับลดกำลังการผลิต โดยในการประชุมเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น โอเปกได้บรรลุข้อตกลงลดกำลังการผลิต 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน สู่ระดับ 32.5 ล้านบาร์เรล/วัน จากเดิมที่ระดับ 33.8 ล้านบาร์เรล/วัน โดยให้เป็นไปตามกรอบข้อตกลงในการประชุมที่กรุงอัลเจียร์ส ประเทศแอลจีเรีย ในเดือนก.ย.

ทั้งนี้ การปรับลดกำลังการผลิตดังกล่าว ถือเป็นการปรับลดกำลังการผลิตของโอเปกเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2551 และจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์นี้ (1 ม.ค. 2560)

ส่วนในการประชุมกลางเดือนธ.ค.นั้น ผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่มโอเปกได้ตกลงที่จะปรับลดกำลังการผลิตลง 558,000 บาร์เรล/วัน โดยรัสเซียจะปรับลดกำลังการผลิตลง 300,000 บาร์เรล/วัน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2576461

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 36.02/03 แนวโน้มทรงตัว มองกรอบ 35.92-36.05 คาดวอลุ่มบางใกล้หยุดสิ้นปี

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 28 ธันวาคม 2559 09:20:32 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 36.02/03 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัว

จากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 36.02 บาท/ดอลลาร์

วันนี้คาดว่าเงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ เพราะไม่มีปัจจัยที่จะมีผลต่อค่าเงินมากนัก ประกอบกับเป็นช่วงใกล้สิ้นปี

ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างจะเบาบางแล้ว

"วันนี้บาทคงทรงๆ ไม่ค่อยมีปัจจัยอะไร ประกอบกับใกล้หยุดสิ้นปีแล้ววอลุ่มจะบางๆ" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.92-36.05 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนเช้านี้อยู่ที่ระดับ 117.60/63 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 117.24 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0471/0476 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานที่ระดับ 1.0453 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารอยู่ที่ระดับ 36.0090 บาท/ดอลลาร์

- ม.หอการค้าไทย สำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคช่วงเทศกาลปีใหม่ตั้งแต่วันที่ 30 ธ.ค. 59-3 ม.ค. 60

พบว่าจะมีเงินสะพัดรวมทั้งสิ้น 150,067 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 7.21%

- รมว.คลัง ยันภาษีที่ดินไม่ล้มแม้ประกาศใช้ไม่ทันปี 2560 เพราะอยู่ระหว่างพิจารณาของกฤษฎีกา ก่อนส่งต่อให้สนช.

ลั่นเดินหน้าประกาศใช้ได้ภายในปี 2561

- ผลการสำรวจของ คอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด (Conference Board) ระบุว่า ผู้บริโภคสหรัฐมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นสูง

เกินคาดในเดือนธ.ค. โดยดัชนีความเชื่อมั่นพุ่งแตะที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2544 หรือสูงสุดในรอบ 15 ปี

- ผลการสำรวจของ S&P CoreLogic Case-Shiller พบราคาบ้านเดี่ยวในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในเดือนต.

ค.

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักอื่นๆ เกือบทั้งหมด ในการซื้อ

ขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) ขณะที่ตลาดซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง หลังจากที่ชะลอการซื้อขายในช่วงวันหยุด

เทศกาลคริสต์มาส โดยดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 117.46 เยน จากระดับ 117.25 เยน ส่วนยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อ

เทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0455 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0448 ดอลลาร์

- ดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง โดยคอนเฟอร์เรนซ์ บอร์ด

(Conference Board) เปิดเผยผลสำรวจว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.ของสหรัฐพุ่งขึ้นแตะระดับ 113.7 จากระดับ

109.4 ในเดือนพ.ย. โดยดัชนีเดือนธ.ค.ทำสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปี สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อภาวะ

เศรษฐกิจและการจ้างงาน

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (27 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากที่ตลาดปิดทำการ

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 5.2 ดอลลาร์ หรือ 0.46% ปิดที่

ระดับ 1,138.80 ดอลลาร์/ออนซ์

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยได้แรงหนุนจากความคาดหวังที่ว่ากลุ่มประเทศ

ผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปก) และผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก จะดำเนินการตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์

นี้

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 88 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 53.90 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็น

ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2558 ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 93 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 56.09

ดอลลาร์/บาร์เรล

- ตลาดจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending

home sales) เดือนพ.ย., ดัชนีภาคการผลิตเดือนธ.ค.จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาดัลลัส, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่าง

งานรายสัปดาห์, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย., ดุลการค้าเดือนพ.ย. และดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนธ.ค.จาก

เฟดชิคาโก

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2576762

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์-อิงขาขึ้น ขานรับราคาน้ำมันดีดตัว,เม็ดเงิน LTF-RMF หนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 28 ธันวาคม 2559 09:12:51 น.

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่ง Sideway up คาดว่าจะได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และยังได้อานิสงส์จากเม็ดเงินของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ( LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ด้วยหลังจากที่เมื่อวานนี้เริ่มเห็นแรงซื้อจากกองทุนในประเทศเข้ามา

อย่างไรก็ดี วอลุ่มเทรดคงจะบาง และนักลงทุนก็คงจะเล่นเทรดดิ้งกันได้ โดยยังแนะนำหุ้นพื้นฐานดี และมีปันผล ด้านตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ

พร้อมให้แนวรับ 1,515-1,505 จุด ส่วนแนวต้าน 1,520-1,527 จุด

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2576748

เงินหยวนอ่อนค่าแตะ 6.9495 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 28 ธันวาคม 2559 09:32:32 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.33% แตะที่ 6.9495 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จิตวัฒน์ วิจิตรถาวร/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2576777

ginger · ธันวาคม 28, 2016

15781616_1167628390011409_849971392825389069_n.jpg?oh=426f2bcee12a0171c6da2c3123d5c48e&oe=592493FA

MTS GOLD GROUP

NOW26

ginger · ธันวาคม 28, 2016

มีประเด็นมาพูดคุยกันก่อนที่จะส่งท้ายปีเก่ากันทั้งจากที่ครั้งก่อนผมยังพูดไม่หมดแต่เห็นว่ายาวมากเลยเก็บไว้มาต่อ กับเรื่องที่อยู่ในใจผมซึ่งพอดีมีแฟนเพจทักมาก็เลยพูดถึงซะเลย

ในสนามของการเทรด การใช้กราฟ(บันทึกราคา) มาช่วยในการจับจังหวะเป็นสิ่งที่นิยมทำกันมาก ลำพังการดูปัจจัยพื้นฐาน ตามติดเวลามีประเด็นสำคัญเปลี่ยน พอได้ใช้กราฟเข้าช่วยก็ดูมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับหลายๆ ท่านแล้วเลือกใช้การอ่านกราฟเพราะมันง่ายและรวดเร็วต่อการตัดสินใจ ผมมีความเห็นที่เป็นความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคมาแชร์กันเพลินๆ

----------------------------------------------------------------------

ผมรู้สึกว่า ณ วินาทีนี้บางอย่างก็เปลี่ยน บางอย่างก็ไม่เคยเปลี่ยนเลยนับตั้งแต่เจมส์ไวล์เดอร์ได้ให้โลกได้รู้จักแนวคิดการแทงหัวก้อยหรือทฤษฎีคลื่นซัดทะเลของนายดาวน์ สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมและจะไม่เหมือนเดิมไปเรื่อยๆ คือทิศทางระยะสั้น ประเภท 5 นาที 15 นาทีหรือสักชั่วโมง ตามตำราเค้าว่าทิศทางระยะสั้นนั้นเป็นเรื่องของสุ่ม (Random) ยิ่งมีเรื่องของ Big Data และ AI เข้ามาก็ยิ่งไปกันใหญ่ในขณะที่ถ้าเป็นภาพที่ใหญ่กว่านั้นจะเป็น Pattern หรือมีรูปแบบ เพราะฉะนั้นถ้าถามผมท่านที่เทรดถี่มาก สั้นมาก จะอาศัยการบริหารพอร์ตเป็นสำคัญ MM&Portfolio Management จะเป็นตัวขับเคลื่อน ในขณะที่ความแม่นยำจะน้อยซึ่งส่วนใหญ่น้อยกว่า 50% แต่ละสายก็มีวิถีของมัน แค่ว่าเรารู้จักและเข้าใจสายไหนมากกว่ากัน

--------------------------------------------------------------------

เครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้กันอยู่ส่วนใหญ่ในเวลานี้ หรือที่คนส่วนใหญ่เข้าถึงได้จะเป็นเครื่องมือที่เรียกว่า Classic Technical เก่าแล้วว่างั้น สำหรับการเรียนรู้การดูกราฟต้องอาศัยทำความเข้าใจกับแนวคิดเดิมเพื่อต่อยอดไปเป็นความรู้ใหม่ๆ คือก็ต้องรู้ แต่ต้องรู้จักปรับใช้ ตั้งข้อสังเกตถึงข้อดี ข้อเสีย สมมติฐานของเครื่องมือ เพื่อพัฒนาไปเป็นแนวคิดของตัวเองอีกที สำหรับผมจึงไม่ค่อยศรัทธากับคนที่ใสอินดี้ไว้ในจอเดียวกันเป็นร้อยเท่าไหร่ จะให้น้ำหนักกับท่านที่เชี่ยวชาญในแนวคิดใดแนวคิดหนึ่งมากกว่า อีกมิติหนึ่งก็คือเรื่องการเลือกใช้ สัญญาณทางเทคนิคแบ่งภาพชัดๆ ได้สองทาง 1. Leading 2. Lagging เราต้องเลือกปรับเอาว่าจะ entry&exit ด้วยสัญญาณที่เร็วหรือช้าแค่ไหนอย่างไร เร็วก็มีข้อดี ช้าก็มีข้อดี จะทำยังไงแต่ผมใช้ Adaptive เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดเท่าที่ผมนึกออกในเวลานี้

---------------------------------------------------------------------------

การเทรดจริงขึ้นกับทักษะหลายส่วน การตัดสินใจ การวางแผน วิธีการมองแนวโน้ม ขอพูดถึงเฉพาะทักษะการดูแนวโน้มหรือดูสัญญาณซื้อขาย หน้าที่ของคนดูกราฟ คืออ่านกราฟอย่างที่กราฟเป็น เป็นเหมือนกระจกใสที่สะท้อนภาพจริงออกมา การฝึกให้ตัวเองไม่อคติเวลาอ่านกราฟวิธีนึงคือการฝึกอ่านกราฟหลายๆ กราฟสักวันละ 100 กราฟ จะลด Bias ลงได้ การเข้าสู่สายเทรด จะให้เก่งต้องฝึก ฝึก ฝึก แล้วก็ฝึก

---------------------------------------------------------------------------

ประเด็นสุดท้ายคือเรื่องของกลยุทธ์ในปีหน้าของทองคำ จุดเปลี่ยนที่จะทำให้ทองไม่ลงลึกอย่างที่กังวลคือเศรษฐกิจสหรัฐไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างที่ทุกคนตั้งความหวังไว้ และระดับราคาน้ำมันที่ไม่สามารถยืนระยะเหนือ 50 เหรียญได้ ซึ่งถ้าไม่เกิดสองอย่างนี้แล้ว ทองจะมีลักษณะเหมือนปี 2015 คือขึ้นได้บ้าง แต่ขึ้น ๆ แล้วก็ลงจนบางครั้งก็ลงหลุดโลว์เดิมลงไปเรื่อยๆ ถ้าเรายึดกลยุทธ์แบบ Adaptive เราจะซื้อให้ช้า(ยึดตามเครื่องมือที่มีความแน่นอนสูงแต่ให้สัญญาณที่ช้า) แต่เวลาขายหรือเปิดเอสจะไวกว่า(เลือกเครื่องมือในกลุ่ม Leading Signal ) และให้น้ำหนักมากกว่าเช่นการดูตามสัญญาณ Heikin-Ashi จะเห็นว่าในช่วงแนวโน้มขาลงสัญญาณซื้อจะให้ความผิดพลาดได้บ่อยกว่าสัญญาณขายและระยะหลังจากเกิดสัญญาณ Sell Signal จะมีระยะการไปได้มาก เป็นต้นอย่าลืมคติที่ว่า Trend is your Friend, Mind is your enemy.

28 Dec, 2016

www.facebook.com/Wealthstation

15697735_1262508463787626_1098270733478414490_n.png?oh=41996e3cf3d0073b7633900a115d2fb0&oe=58DACD52

15726393_1262508470454292_3899756689138393758_n.png?oh=07d6b41a1775fe18ddfb6f665e9e22e6&oe=58DA8C9C

15697403_1262508467120959_6292511976841133115_n.png?oh=ffd88ebf86ca7bbb9c4a51233ce736e1&oe=58E8E51F

15672674_1262508500454289_3491541079616704119_n.png?oh=fba85538ff3a30574467a8546e4f1a33&oe=58EEC954

15741233_1262518813786591_3933419438640519220_n.png?oh=06b4bc614e46b4c81bc605f8e22d0284&oe=58E920E8 15741095_1262518810453258_599295727773306746_n.png?oh=0e701bebf17c979ae3aefa5ae335586c&oe=58ED76B3

ginger · ธันวาคม 28, 2016

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

Ylg Bullion

ทีนิวส์ เปิดประเด็นร้อน EP.30 (28-12-59)

ทีนิวส์ออนไลน์

ginger · ธันวาคม 29, 2016

15698063_10154885536097855_9124095063159574791_n.jpg?oh=6ac66dddd73f677c7267df836067d518&oe=58E6F905

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยพสกนิกรที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่กองงานหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ฯ นำขนมครกและน้ำดื่มพระราชทาน มาแจกให้กับประชาชน ที่เดินทางมาต่อคิวในท้องสนามหลวง ณ เต็นท์ด้านทิศเหนือของสนามหลวง กรุงเทพฯ

ภาพ อนันต์ จันทรสูตร์ (Anant Chantarasoot)

#NationPhoto #อนันต์จันทรสูตร์ #อาหารพระราชทาน #ขนมครก #สนามหลวง

15747640_10154886556507855_1299099711525812688_n.jpg?oh=04f14d2275692467a86a92192ceb65d1&oe=58F6AB2F

ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จออกมายังเต็นท์มูลนิธิโครงการทูบีนัมเบอร์วัน บริเวณสวนหย่อมตรงข้ามประตูเทวาพิทักษ์ เพื่อประทานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และร่มสีดำแก่ประชาชนที่มากราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ภาพ อนันต์ จันทรสูตร์ (Anant Chantarasoot)

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

YLGResearch

HSHsocial

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า 29-DEC-2016

AUSIRIS.CO.TH

ข่าวเศรษฐกิจทีส่งผลต่อราคาทองคำและหุ้น 29/ธ.ค./2559

AUSIRIS.CO.TH

NOW26

ginger · ธันวาคม 29, 2016

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559 07:23:47 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ธ.ค.2559

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ถึงภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐ ขณะที่ดัชนี S&P 500 ได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นอินวิเดีย (Nvidia) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์รายใหญ่ของสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,833.68 จุด ร่วงลง 111.36 จุด หรือ -0.56% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,438.56 จุด ลดลง 48.88 จุด หรือ -0.89% ดัชนี S&P 500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 2,249.92 จุด ลดลง 18.96 จุด หรือ -0.84%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มธนาคารอิตาลียังคงร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านการเงินของธนาคาร Banca Monte dei Paschi di Siena (BMPS) ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 3 ของอิตาลี

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 361.53 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,474.99 จุด เพิ่มขึ้น 2.75 จุด หรือ +0.02% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,106.08 จุด เพิ่มขึ้น 37.91 จุด หรือ +0.54% และดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,848.01 จุด ลดลง 0.27 จุด หรือ -0.01%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) เพราะได้ปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อย่างไรก็ตาม วอลุ่มการซื้อขายบางเบา หลังจากที่ตลาดปิดทำการในช่วง 2 วันก่อนหน้านี้ เนื่องในเทศกาลคริสต์มาส

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,106.08 จุด เพิ่มขึ้น 37.91 จุด หรือ +0.54%

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) โดยสัญญาน้ำมัน WTI ปิดบวกติดต่อกัน 4 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงคาดหวังว่า กลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน (โอเปก) และผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปก จะดำเนินการตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต โดยข้อตกลงดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์นี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 54.06 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. 2558

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 13 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 56.22 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 ก.ค. 2558

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ และรายงานที่ว่าดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีนั้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,140.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 4.9 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 16.038 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.50% ปิดที่ 899.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ดิ่งลง 7.55 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 666.25 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) แม้ว่าสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะซบเซาของตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐก็ตาม

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลารสหรัฐ ที่ระดับ 1.0405 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0455 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2215 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2280 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงที่ระดับ 0.7182 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7185 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 117.17 เยน จากระดับ 117.46 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0291 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0279 ฟรังก์สวิส

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,249.92 จุด ลดลง 18.96 จุด, -0.84%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,438.56 จุด ลดลง 48.88 จุด, -0.89%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 19,833.68 จุด ลดลง 111.36 จุด, -0.56%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,848.01 จุด ลดลง 0.27 จุด, -0.01%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,474.99 จุด เพิ่มขึ้น 2.75 จุด, +0.02%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,106.08 จุด เพิ่มขึ้น 37.91 จุด, +0.54%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,210.68 จุด ลดลง 2.76 จุด, -0.01%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,630.30 จุด เพิ่มขึ้น 10.62 จุด, +0.66%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,898.30 จุด เพิ่มขึ้น 12.54 จุด, +0.43%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,209.45 จุด เพิ่มขึ้น 106.50 จุด, +2.09%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,754.74 จุด เพิ่มขึ้น 179.98 จุด, +0.83%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 663.50 จุด ลดลง 0.36 จุด, -0.05%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,846.44 จุด เพิ่มขึ้น 188.24 จุด, +2.83%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,102.24 จุด ลดลง 12.43 จุด, -0.40%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,024.49 จุด ลดลง 17.68 จุด, -0.87%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,401.72 จุด ลดลง 1.34 จุด, -0.01%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,201.40 จุด เพิ่มขึ้น 92.13 จุด, +1.01%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,685.00 จุด เพิ่มขึ้น 57.10 จุด, +1.01%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,732.40 จุด เพิ่มขึ้น 57.30 จุด, +1.01%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2577178

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $2.1 เหตุตลาดหุ้นร่วงหนุนแรงซื้อทอง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559 07:21:08 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 ธ.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐ และรายงานที่ว่าดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ของสหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีนั้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,140.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 4.9 เซนต์ หรือ 0.31% ปิดที่ 16.038 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 4.5 ดอลลาร์ หรือ 0.50% ปิดที่ 899.60 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ดิ่งลง 7.55 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 666.25 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กดิ่งลงกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ รวมทั้งรายงานของสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) ซึ่งระบุว่า ดัชนีทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ประจำเดือนพ.ย. ร่วงลง 2.5% สู่ระดับ 107.3 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปี เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยจำนองปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย เป็นมาตรวัดจำนวนสัญญาซื้อบ้านมือสองที่มีการเซ็นสัญญาแล้วแต่ยังไม่ได้ปิดการขาย และโดยปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1-2 เดือนสำหรับการเซ็นสัญญาไปจนกระทั่งปิดการขาย

อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้สกัดแรงบวกของสัญญาทองคำ โดยดอลลาร์สหรัฐได้รับปัจจัยหนุนจากความคาดหวังที่ว่า รัฐบาลใหม่ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีของสหรัฐจะดำเนินนโยบายการคลังที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2577176

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559 (ภาคเช้า)

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559 09:36:54 น.

กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเริ่มมีการดีดตัวกลับบ้าง โดยมีการทดสอบบริเวณด้านล่าง 1,133 เหรียญอีกครั้งหนึ่ง โดยที่กองทุนทองคำ SPDR ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม โดยปัจจุบันถือครองที่ระดับ 823.36 ตัน สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ ได้แก่ Pending Home Sales ออกมาแย่ลงกว่าที่คาด ขณะที่ในวันนี้ต้องติดตามข้อมูล Jobless Claims ที่คาดว่าจะออกมาดีขึ้นเล็กน้อย

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำระยะสั้นเริ่มมีลักษณะ Technical Rebound อย่างทรงตัวและคงที่ โดยมีลักษณะ Bottom out ขึ้นมาบ้างในกราฟรายชั่วโมง จึงเป็นสัญญาณที่ดีว่าราคาทองคำระยะสั้นมีการกลับตัวได้แล้ว ขณะที่กราฟรายวันภาพโดยรวมยังเป็นแนวโน้มขาลง วันนี้คาดราคาจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,135 และแนวต้าน 1,150 เหรียญเป็นสำคัญ มีโอกาสที่ราคาจะทดสอบ 1,150 เหรียญก่อน

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ภาพรวมระยะสั้นของราคาทองคำเริ่มดีดตัวสูงขึ้นได้ ดังนั้นระยะสั้นจึงเป็นกลยุทธ์การเก็งกำไรในลักษณะ Technical Rebound ขณะที่ระยะยาวต้องระมัดระวังการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ทั้งนี้ทองไทยจะมีแนวรับสำคัญ 19,400 บาท/บาททองคำ ขณะที่แนวต้านด้านบนจะอยู่ที่ 19,700 บาท/บาททองคำ

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

เก็งกำไรระยะสั้นในกรอบ ปิดทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ทยอยลดสถานะ หรือปิดทำกำไรเมื่อราคาย่อตัวลงมา

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

แนะนำบริหารพอร์ตสมดุลก่อนเข้าสู่ช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ รอปัจจัยใหม่ๆปีหน้า

Gold Futures Z16 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,430 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,630 บาท

Gold Futures G17 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,540 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,740 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

* อย่างไรก็ดี Gold Futures Z16 จะหมดอายุลงในวันที่ 29 ธ.ค. 59 จึงแนะนำให้นักลงทุนเปลี่ยนมาถือครองสถานะของ Gold Futures G17 แทน

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2577445

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งลงแต่ไม่แรงจากแรงขายทำกำไรแต่มีเม็ดเงิน LTF/RMF ช่วยหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559 09:24:40 น.

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัวในกรอบแคบ และมีโอกาสที่จะถูก take profit ออกมา ทำให้ดัชนีฯอาจจะแกว่งตัวลงแต่ก็ไม่น่าแรง เนื่องจากปรับตัวขึ้นไปในช่วงหลายวันที่ผ่านมา ขณะเดียวกันช่วงนี้ปัจจัยแวดล้อมก็ไม่ได้มีเรื่องสำคัญ

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่ก็ติดลบตามดัชนีหุ้นดาวโจนส์ที่ปรับตัวลงเมื่อคืนที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังน่าจะได้แรงประคองจากเม็ดเงินลงทุนของกองทุน LTF/RMF มาช่วยหนุน ส่วนการทำ Window Dressing มองว่าได้ทำไปแล้วเมื่อสัปดาห์ก่อน

พร้อมให้แนวรับ 1,515 จุด ส่วนแนวต้าน 1,530 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (28 ธ.ค.59) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,833.68 จุด ร่วงลง 111.36 จุด (-0.56%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,438.56 จุด ลดลง 48.88 จุด (-0.89%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,249.92 จุด ลดลง 18.96 จุด (-0.84%)

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 100.68 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.40 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 163.70 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 29.01 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 4.07 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 13.14 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.45 จุด

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (28 ธ.ค.59) 1,524.60 จุด เพิ่มขึ้น 7.52 จุด (+0.50%)

- นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 275.24 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.59

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (28 ธ.ค.59) ปิดที่ 54.06 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 16 เซนต์ หรือ 0.3%

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (28 ธ.ค.59) ที่ 6.86 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

- เงินบาทเปิด 35.97/99 คาดแกว่งแคบธุรกรรมเบาบาง มองกรอบ 35.95-36.02

- ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เผยการขยายตัวเศรษฐกิจเดือน พ.ย. 2559 ปรับตัวดีขึ้น จากการส่งออกสินค้าที่ขยายตัวได้สูงถึง 10.2% ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนมีการใช้จ่ายขยายตัวดี สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัว 2.1% และปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่เดือน พ.ย.ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันที่ 10.6%

- นายพิชิต อัคราทิตย์ รมช.คมนาคม กล่าวภายหลังประชุมมอบนโยบายให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ว่า ต้องการเดินหน้าแผนฟื้นฟูกิจการ รฟท.อย่างจริงจัง โดยจะเร่งตั้งบริษัทลูกเพื่อบริหารทรัพย์สินองค์กรภายใน 3 เดือน โดย รฟท.ถือหุ้น 100% เข้ามาดูแลที่ดินที่จะนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์กว่า 4 หมื่นไร่

- บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัท ทรู อินคิวบ์ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่กลุ่มบริษัทถือหุ้นทั้งหมด จะเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท แค็ปสตรีม เวนเชอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศแคนาดา 20 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 0.50 เหรียญแคนาดา รวมเป็นเงิน 10 ล้านเหรียญแคนาดา หรือประมาณ 268.47 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้บริษัทย่อยของกลุ่มเข้าไปถือหุ้นในสัดส่วนประมาณ 8.84% ของหุ้นทั้งหมดของแค็ปสตรีมฯ ภายหลังการเพิ่มทุนเสร็จสิ้น

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินสถานการณ์และแนวโน้มนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาล ปีใหม่ 2560 ว่า ในเดือน ธ.ค.นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเดินทางมาเที่ยวในไทยมากที่สุด คาดว่าในช่วง 7 วันของเทศกาล ปีใหม่ชาวต่างชาติจะเข้ามาไทยเพิ่ม 1.3% จากช่วงเทศกาลปีใหม่ปีก่อนหน้า สำหรับเม็ดเงินที่จะสะพัดไปยังพื้นที่ต่างๆ อาจมีมูลค่าประมาณ 3.83 หมื่นล้านบาท เติบโต 3.7% จากปีก่อน แต่การเดินทางมาของนักท่องเที่ยวระยะใกล้ อย่างมาเลเซีย สิงคโปร์ อาจลดลงบ้างจากค่าเงินริงกิตที่อ่อนค่า ส่วนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงจากการปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญเริ่มฟื้นในตลาดระดับบน

*หุ้นเด่นวันนี้

- PLE-W3 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.เพาเวอร์ไลน์ เอ็นจิเนียริ่ง (PLE) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 51,368,814 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 2.20 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิไม่เกิน 2 ปี นับจากวันที่ออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิ ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 15 ธ.ค. 2560 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 15 ธ.ค. 2561

- UNIQ (เคจีไอ) "เก็งกำไร"เป้า 23.3 บาท แนวโน้มกำไร ปี 2560–2561 จะโตเฉลี่ย 19% ต่อปี CAGR จากแนวโน้มอุตสาหกรรมรับเหมาฯที่กำลังเข้าสู่ขาขึ้น, การเป็นผู้รับเหมาฯหลักครบวงจรทำให้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาผู้รับเหมาช่วง (เช่น งานเสาเข็ม) แบบ CK และ STEC ทำให้ประเมินแนวโน้มอัตรากำสุทธิของ UNIQ เฉลี่ย >7% สูงกว่าอัตรากำไรสุทธิของ CK และ STEC (ฝ่ายวิจัยฯคาดอัตรากำไรสุทธิของ CK และ STEC สำหรับปี 2560 ไว้ที่ 3.4% และ 6% ตามลำดับ) พร้อมประเมินแนวรับ 19.5 บาท แนวต้าน 20 บาท และถัดไปที่ 20.7 บาท (Stop loss 19 บาท)

- AP (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 9 บาท แนวโน้มกำไร 4Q59 จะสูงสุดของปีจากคอนโดที่ครบกำหนดโอนถึง 8 โครงการ คาด +162% Q-Q, +137% Y-Y เป็น 1.2 พันล้านบาท ทำให้กำไรปกติทั้งปี +0.6% Y-Y flat ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 แต่กำไรจะเติบโตในอัตราเร่งขึ้นเป็น +27% Y-Y ในปี 2560 ตามการรับรู้รายได้คอนโด 8 โครงการต่อเนื่องจาก 4Q59 และอีก 3 โครงการที่ครบกำหนดโอนปีหน้า ราคาหุ้น +0.7% 4QTD laggard กว่ากลุ่มมาก ทำให้มี 2017PE เพียง 7 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มที่ 8.4 เท่า และคาด Dividend yield 4% (จ่ายปีละครั้ง) ถือว่าถูกกว่าหุ้นหลายตัวในกลุ่ม

- TISCO (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 65 บาท คาดกำไร 4Q59 ที่ 1,310 ล้านบาท ดีขึ้น 5%QoQ และ 5%YoY โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิและรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอาจอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อนที่อยู่ในระดับสูง แต่แรงหนุนจากค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่ลดลงจะมีน้ำหนักมากกว่า นอกจากนี้ยังคาดว่าจะเห็นคุณภาพหนี้โดยรวมดีขึ้นอย่างมากภายหลังการจัดชั้น SSI จาก NPL กลับมาเป็นสินเชื่อ SM เรายังคงราคาเป้าหมายที่ 65 บาท อิง PBV 1.57 เท่า แม้ว่าราคาหุ้นจะปรับตัวขึ้นสะท้อนข่าวดีมาบ้างแล้ว ทำให้ Upside เริ่มจำกัด แต่มีโอกาสที่จะปรับประมาณการเพิ่มเติมเพื่อสะท้อนโอกาสทางธุรกิจในอนาคต

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2577451

KTBST คาดหุ้นไทย 2 วันสุดท้ายซื้อขายเบาบางคล้ายตลาดโลกอาจผันผวนจากแรงทำกำไร

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559 09:41:49 น.

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ (29 ธ.ค.) สองวันสุดท้ายของตลาดหุ้นทั่วโลก จะมีลักษณะที่คล้ายๆ กัน คือ มีการซื้อขายที่เบาบางลงเช่นวันที่ผ่านมา ดัชนีฯจะมีความผันผวนในกรอบแคบๆ และมีแรงขายทำกำไรเข้ามา หลังดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลง

ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวสูงขึ้นได้จาก 2 เหตุผลหลัก คือ แนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาดี และอีกเหตุผลหนึ่ง คือ ราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น จากการเล็งว่าการลดกำลังการผลิตน้ำมันของผู้ผลิตน้ำมันจะเกิดขึ้นจริงในปริมาณที่มีนัยต่อราคาน้ำมันดิบในตลาด โดยการร่วงลงของดัชนี Dow Jones ในคืนที่ผ่านมา จากตัวเลขยอดขายบ้านรอการปิดโอนเดือน พ.ย. ที่ลดลง 2.5% แต่หนุนค่าเงินดอลลาร์ให้ขยับขึ้น ดัชนี Dollar Index ปรับตัวขึ้นในระหว่างวันสูงสุดนับจากปี 2545 เป็นต้นมา ที่ระดับ 103.63 จุด อาจเป็นสัญญาณลบต่อ Fund Flow เพราะจะกระตุ้นให้นักลงทุนต่างประเทศขายหุ้นเร็วขึ้น แต่ผลในทางบวก คือ เป็นบวกต่อประเทศผู้ส่งออก และหุ้นกลุ่มส่งออก โดยเฉพาะอีเล็คทรอนิคส์ ที่ตัวเลขส่งออกเดือน พ.ย. ขยายตัว 7.2% และมีสัญญาณของการฟื้นตัว

ส่วนปัจจัยในประเทศ นักลงทุนยังคงใช้ปัจจัยเดิมๆ ในการตัดสินใจเข้าลงทุน คือ การเข้าซื้อหุ้นที่ได้รับผลบวกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ หุ้นส่งออก และหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันสูงขึ้น ซึ่งจะยังคงต่อเนื่องมาจนถึงวันนี้ โดยแรงซื้อหุ้นจากกองทุนฯ ที่เราคาดว่าจะเป็น RMF-LTF ที่มีการซื้อหุ้น และเป็นที่น่าสังเกตุว่า ตลาดหุ้นสัปดาห์สุดท้ายของปีนี้จะค่อนข้างดี นั่นหมายความว่าโอกาสที่ 2 วันที่เหลือก็น่าจะดีด้วย

การเข้าลงทุนในวันนี้ จึงควรเลือกเล่นสั้นๆ ในหุ้นที่ตลาดเล่นกันไว้ก่อน ความเห็นยังคงเหมือนวันที่ผ่านมา คือ ให้ความสนใจกับหุ้นกลุ่มส่งออกและกลุ่มน้ำมัน (ผู้ผลิต) ขณะที่หุ้นกลุ่มที่ราคาขึ้นน้อย (laggard) อาจถูกยกขึ้นมาเก็งกำไรในบางตัว การเข้าเก็งกำไรช่วงสั้นหุ้นที่คาดว่าอาจได้รับความสนใจจากนักลงทุน อาทิ PTTEP,KCE,LH,ABICO,VGI

--อินโฟเควสท์ โดย จำเนียร พรทวีทรัพย์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2577470

ginger · ธันวาคม 29, 2016

Ylg Bullion

MTS GOLD GROUP

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

ทีนิวส์ เปิดประเด็นร้อน EP.31 (29-12-59)

คลิปลุงตู่พูดถีงหลุมทีขุดล่อ

ginger · ธันวาคม 29, 2016

สนช.ผ่านร่างแก้ไข พ.ร.บ.คณะสงฆ์ 3 วาระรวด ผ่าทางตันแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราช

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559 11:57:15 น.

ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) วันนี้พิจารณาร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ พ.ศ.2505 ที่ พล.ต.อ.พิชิต ควรเดชะคุปต์ สนช.พร้อมกับคณะเป็นผู้เสนอ โดยสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 7 เกี่ยวกับการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช โดยกำหนดให้เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ที่จะทรงสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชองค์หนึ่ง โดยให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ

พล.ต.อ.พิชิต กล่าวต่อที่ประชุม สนช.ว่า การแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 7 ของ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ มีเพียงประเด็นเดียวคือ เรื่องการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ที่กำหนดให้เป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ และให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับสนองพระบรมราชโองการ ซึ่งให้เหตุผลว่าเพื่อสืบทอดและดำรงรักษาไว้ซึ่งโบราณราชประเพณี

ทั้งนี้ นายออมสิน ชีวะพฤกษ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้แทนรัฐบาล ยืนยันต่อที่ประชุม สนช.ว่า รัฐบาลไม่ขัดข้องที่จะดำเนินการ

หลังจากนั้น สนช. ได้เริ่มพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวในวาระที่ 1 ขั้นรับหลักการทันที โดยสมาชิก สนช.อภิปรายให้การสนับสนุน เพราะเป็นทางออกของปัญหา และขอบคุณรัฐบาลที่มอบภาระให้ สนช. ร่วมทำหน้าที่นี้เพื่อเป็นเป็นของขวัญปีใหม่ พร้อมเสนอให้พิจารณา 3 วาระรวด ซึ่งก่อนเข้าสู่การประชุม นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธาน สนช.ระบุว่า การพิจารณา พ.ร.บ.ดังกล่าวจะเป็นการพิจารณา 3 วาระรวดหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับความคิดเห็นของสมาชิก และการตัดสินใจของผู้แทนของคณะรัฐมนตรี

นายสมพร เทพสิทธา สมาชิก สนช. อภิปรายว่าการเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.สงฆ์ ก็เพื่อผ่าทางตันถึงปัญหาการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชขณะนี้ ส่วนนายสมชาย แสวงการ สมาชิก สนช.กล่าวว่า การแก้ไขครั้งนี้ก็เพื่อย้อนกลับไปตามกฎหมายสงฆ์เดิมที่ดีอยู่แล้ว และไม่ได้มุ่งหวังให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องอาวุโส

นายมณเฑียร บุญตัน สมาชิก สนช. กล่าวว่า การเสนอร่างพรบ.ครั้งนี้ ถือว่าการสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชเป็นพระราชอำนาจที่สืบเนื่องกันมา และถูกบรรจุใน พ.ร.บ.สงฆ์มาถึงสองฉบับ แล้วก็ไม่เกิดปัญหาอะไร แต่เมื่อการแก้ไขเมื่อปี 2535 และเกิดปัญหาขณะนี้นำไปสู่ทางตันวันนี้ ก็สมควรที่ สนช.จะแก้ไขเพื่อให้ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ 2540 และฉบับปัจจุบัน

"การที่มีพระราชทานสมณะศักดิ์ หรือ การสถาปนาสมเด็จพระสังฆราช ถือเป็นพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์ เราไม่ได้แก้ไขพระธรรมวินัย แต่เพื่อให้การสถาปนาสมเด็จพระสังฆราชดำเนินการไปด้วยความเรียบร้อยและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น" นายมณเฑียร กล่าว

หลังจากนั้น สนช. ได้ลงมติรับหลักการในวาระที่ 1 ด้วยคะแนน 184 เสียง งดออกเสียง 5 ขณะที่ สมาชิก สนช.เสนอพิจารณาวาระ 2 ทันทีโดยกรรมาธิการเต็มสภา และลงมติวาระ 3 เห็นชอบให้ประกาศใช้ ร่าง พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ฉบับที่พ.ศ. ใช้เป็นกฎหมายด้วยคะแนน 182 เสียง งดออกเสียง 6 โดยมีจำนวน สนช.เข้าประชุม 188 คน

--อินโฟเควสท์ โดย รฐฦ/กษมาพร/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2577556

ศิษย์จานบินจ๋อย!ศาลปค.ตีตกคดีฟ้องอธิบดีDSI-หลวงปู่-มโน-ไพบูลย์

THAIPOST.NET

สรุปภาวะตลาดทองคำตลาดโลก by GT Wealth Management 29 ธ.ค. 59 (ภาคเช้า)

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559 12:48:12 น.

กรุงเทพฯ--29 ธ.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำตลาดโลกยืนทรงตัวได้ดีเมื่อคืน พร้อมกับทะยานบวกได้ตั้งแต่เปิดตลาดเอเชียเช้านี้ เนื่องจากยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขายในสหรัฐฯปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำที่สุดในรอบเกือบ 1 ปี ตามการปรับสูงขึ้นของอัตราดอกเบี้ยจำนองที่ล้อไปตามแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ Fed ทำให้อุปสงค์ในตลาดบ้านอ่อนตัวลง และมีผลให้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลงด้วย เงินบางส่วนจึงไหลกลับเข้ามาเก็งกำไรในตลาดทองคำที่ราคามีการทรงตัวในระดับต่ำ แต่มีสัญญาณที่บ่งชี้ถึงความพร้อมจะเข้าสู่ช่วงรีบาวน์ ซึ่งสอดคล้องกับช่วงเวลาของเทศกาลตรุษจีนในอีก 1 เดือนข้างหน้าที่ความต้องการทองคำจะเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เช้านี้ราคาทองคำสามารถยืนเหนือระดับ US$1,145 จึงเป็นสัญญาณที่ดีต่อการปรับขึ้นไปทดสอบระดับ US$1,170 เพื่อยืนยันการกลับตัวเป็นขาขึ้นสู่เป้าหมายหลักที่ US$1,250 อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังคงต้องใช้ความระมัดระวังหากต้องการเก็งกำไรระยะสั้น หรือ ต้องการถือสถานะข้ามปี เนื่องจากราคาในช่วงรอยต่อระหว่างปีมักมี volume ที่เบาบาง จึงผันผวนและคาดการณ์ทิศทางได้ยาก

ทั้งนี้ ราคาทองคำตลาดโลกช่วงเช้าเคลื่อนไหวระหว่าง US$1,140 – 1,150 ส่วนกองทุนทองคำ SPDR ไม่มียอดซื้อหรือขายสุทธิ ทำให้ยอดการถือครองทองคำคงอยู่ที่ระดับ 823.36 ตัน

แนวต้าน Spot Gold : US$1,158 / US$1,172

แนวรับ Spot Gold : US$1,139 / US$1,125

แนะนำ : trading long

ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัด

GT Wealth Management

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2577569

ภาวะตลาดเงินบาท: เย็นนี้ 35.94/98 ระหว่างวันแข็งค่าเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในกรอบแคบ คาดพรุ่งนี้ 35.90 - 36.05

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559 16:09:59 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทช่วงเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 35.94/98 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าเล็ก

น้อยจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 35.97/99 บาท/ดอลลาร์

เงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากช่วงเช้า แต่โดยรวมแล้วระหว่างวันยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบแคบๆ ธุรกรรม

เบาบางเพราะเป็นช่วงใกล้หยุดทำการในช่วงสิ้นปี คาดว่าพรุ่งนี้เงินบาทคงทรงตัวอยู่ในระดับนี้เช่นกัน

"ระหว่างวันบาทแข็งขึ้นมาเล็กน้อย แต่ไม่ได้มาจากปัจจัยไหนเป็นหลัก เป็นแรงซื้อขายตามปกติ คาดว่าพรุ่งนี้คงทรงๆ

เพราะใกล้สิ้นปี ไม่ค่อยมีธุรกรรมอะไรมาก" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 35.90 - 36.05 บาท/ดอลลาร์

ล่าสุด THAI BAHT SPOT RATE FIXING อยู่ที่ระดับ 35.9650 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- ช่วงเย็นนี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 116.37 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 116.70/75 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0045 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.0430/0435 ดอลลาร์/ยูโร

- สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ภาพรวมเดือน พ.ย.59 อยู่

ที่ 109.61 ขยายตัว 3.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (YOY) และขยายตัว 2.07%จากเดือน ต.ค.59 (MOM) โดยอุตสาหกรรมที่

ส่งผลให้เป็นบวก ได้แก่ เหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก ชิ้นส่วนอิเล็คทรอนิกส์ อาหารทะเลกระป๋องและแช่แข็ง น้ำมันปิโตรเลียม และรถ

ยนต์ โดยมีอัตราการใช้กำลังการผลิตรวมในเดือน พ.ย.อยู่ที่ 66.71% พร้อมประเมินว่า ดัชนี MPI ในปี 60 จะขยายตัวได้ 1%

เนื่องจากสถานการณ์โดยรวมอยู่ในช่วงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทำให้จะมีการลงทุนต่างๆ มากขึ้น

- บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวถึงภาพรวมราคาทองคำในตลาดโลกปี 60 วายแอลจี

ประเมินกรอบความเคลื่อนไหวราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,090 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 18,600 บาทต่อบาททองคำ และแนวต้านอยู่ที่

1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 21,500 บาทต่อบาททองคำ

สำหรับประเด็นหลักที่อาจเป็นปัจจัยกดดันความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในปี 60 คือ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ

ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ 3 ครั้งตามคาดหรือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่รวดเร็วมากกว่า

3 ครั้งอาจยิ่งหนุนให้สกุลเงินดอลลาร์ และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรให้พุ่งขึ้นซึ่งเป็นปัจจัยหนักที่จะกดดันราคาทองคำ นอกจากนี้การ

คาดการณ์ในเชิงบวกต่อนโยบายของนาย โดนัลด์ ทรัมป์จะกระตุ้นความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงของนักลงทุนต่อเนื่องในปีหน้าซึ่งความ

ต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้เกิดแรงขายทองคำที่อยู่ในสินทรัพย์ปลอดภัยเช่นกัน

- คณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) รายหนึ่ง แสดงความวิตกกังวลว่าราคาหุ้นและเงิน

ดอลลาร์สหรัฐอาจจะร่วงลงอย่างหนัก หากความหวังที่มีต่อนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ อ่อนแรง

ลง โดยมองว่าความเคลื่อนไหวในตลาดเงินภายหลังชัยชนะของนายทรัมป์นั้น ส่วนหนึ่งมาจากการเก็งกำไร จึงเป็นไปได้ว่าตลาดจะมี

การปรับตัวครั้งใหญ่

- หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำแบงก์ ออฟ คอมมูนิเคชั่นส์ คาดการณ์ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของจีนในเดือน

ธ.ค.นี้ น่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือเป็นระดับที่ทรงตัวจากเดือนพ.ย. สำหรับดัชนี CPI

ตลอดทั้งปีคาดว่า จะขยายตัวประมาณ 2% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของรัฐบาลที่ตั้งไว้ที่ประมาณ 3%

- ทางการเกาหลีใต้ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจประจำปี 2560 ลดลงมาเหลือ 2.6% จากเดิมคาดว่า

จะโต 3% เนื่องจากการบริโภคและการส่งออกได้อ่อนแรงลง นอกจากนี้เกาหลีใต้ยังได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจในปีนี้

ด้วยเช่นกัน โดยคาดว่าปีนี้เศรษฐกิจเกาหลีจะขยายตัว 2.6% ลดลงจากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 2.8%

ทั้งนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้มีแผนที่จะจัดสรรงบประมาณปี 2560 โดยจะเน้นหนักในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากเกิดความวิตก

กังวลเกี่ยวกับภาวะการบริโภคถดถอย ซึ่งหมายถึงการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในการใช้จ่ายของผู้บริโภค ท่ามกลางความไม่แน่นอน

ที่ปรากฎให้เห็นเพิ่มขึ้น

- กลุ่มผู้บริหารในภาคธุรกิจของอังกฤษ ออกมาเรียกร้องให้บรรดา CEO ของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ช่วย

กันกดดันรัฐบาลให้เปิดเสรีทางการค้ากับอังกฤษ ภายหลังจากที่อังกฤษลงประชามติแยกตัวออกจาก EU (Brexit) ซึ่งส่งผลให้เกิด

ความวิตกว่า EU จะดำเนินนโยบายกีดกันการค้ากับอังกฤษ

- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์,

สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย., ดุลการค้าเดือนพ.ย. และดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศเดือนธ.ค.จากเฟดชิคาโก

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2577722

ทรัมป์เผยสปรินท์เตรียมจ้างงานในสหรัฐ 5,000 ตำแหน่ง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559 15:00:01 น.

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เปิดเผยว่า สปรินท์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของสหรัฐ จะจ้างงานในสหรัฐ 5,000 ตำแหน่ง ขณะที่บริษัทสตาร์ทอัพอย่าง วันเว็บ จะจ้างงาน 3,000 ตำแหน่งในสหรัฐ

นายทรัมป์เผยว่าได้มีการบรรลุข้อตกลงดังกล่าวผ่านทางนายมาซาโยชิ ซัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทซอฟท์แบงก์ กรุ๊ป ผู้ให้บริการโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งถือหุ้นประมาณ 80% ในสปรินท์ โดยเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แถลงในนิวยอร์กว่า ซอฟท์แบงก์มีแผนที่จะลงทุน 5 หมื่นล้านดอลลาร์ในสหรัฐ และจ้างงานใหม่ 50,000 ตำแหน่ง

ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐกล่าวว่าเขาได้รับโทรศัพท์จากผู้บริหารของสปรินท์ว่า บริษัทจะจ้างงานในสหรัฐ 5,000 ตำแหน่ง โดยตำแหน่งงานดังกล่าวจะมาจากการยกเลิกการจ้างงานในประเทศอื่นๆ โดยนายทรัมป์ยังได้กล่าวขอบคุณนายมาซาโยชิและบุคคลอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ทั้งนี้ ซอฟท์แบงก์เปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ว่าจะลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ในวันเว็บ ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพในธุรกิจการสื่อสารผ่านดาวเทียมของสหรัฐ และถือเป็นขั้นตอนแรกในการทำตามคำสัญญาที่ผู้บริหารของบริษัทได้ให้ไว้กับนายทรัมป์

"และวันเว็บ ซึ่งเป็นบริษัทใหม่ จะจ้างงาน 3,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง" นายทรัมป์กล่าว สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2577659

ส.ว.สหรัฐเรียกร้องคว่ำบาตรรัสเซีย อ้างอยู่เบื้องหลังชัยชนะของทรัมป์ในศึกเลือกตั้งชิงเก้าอี้ปธน.

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559 15:56:44 น.

สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐจำนวน 3 คน กล่าวเตือนรัสเซียและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินว่า รัสเซียอาจจะถูกคว่ำบาตร เนื่องจากการเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อเดือนที่แล้ว

ทั้ง สมาชิกวุฒิสภาทั้ง 3 อ้างว่า การแทรกแซงของรัสเซียได้รับการสนับสนุนข้ามพรรคจากฝั่งสมาชิกวุฒิสภา

ด้านโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา กำลังพิจารณาและมีแนวโน้มว่า จะประกาศมาตรการตอบโต้รัสเซียอย่างเร็วที่สุดในวันพฤหัสนี้

การคว่ำบาตรครั้งนี้อาจครอบคลุมด้านเศรษฐกิจและความสัมพันธ์ทางการทูตของทั้งสองประเทศ

ด้านนางมาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ได้ออกมาตอบโต้คำกล่าวอ้าง และระบุในแถลงการณ์ว่า รัสเซียพร้อมจะตอบโต้สหรัฐ หากสหรัฐเลือกที่จะดำเนินมาตรการที่ไม่เป็นมิตรต่อรัสเซีย

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ชาญวิทย์ เอี่ยมอุดม/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2577716

โอบามา ต่อสายตรง ทรัมป์ หลังประเด็นอิสราเอลคุกรุ่น

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559 12:50:58 น.

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยทั้งสองฝ่ายระบุว่าการสนทนาครั้งนี้ดำเนินไปด้วยดี ในขณะที่บรรยากาศความตึงเครียดประเด็นอิสราเอลและการถ่ายโอนอำนาจไปยังคณะบริหารชุดใหม่เริ่มคุกรุ่น

"การหารือทางโทรศัพท์ในวันนี้ก็เหมือนกับทุกๆครั้ง นับตั้งแต่ที่การเลือกตั้งได้ผ่านพ้นไป เป็นการสนทนากันในเชิงบวกและเน้นไปที่การถ่ายโอนอำนาจที่ราบรื่น มีประสิทธิภาพ" แถลงการณ์ของทำเนียบขาวระบุ

"ประธานาธิบดีและว่าที่ประธานาธิบดียืนยันจะติดต่อกันในช่วงหลายสัปดาห์ข้างหน้า และตกลงให้คณะทำงานของแต่ละฝ่ายร่วมมือกันต่อไป เพื่อให้การถ่ายโอนอำนาจในวันที่ 20 ม.ค. ราบรื่น"แถลงการณ์ทำเนียบขาวระบุ

ในขณะที่นายทรัมป์เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวนอกบ้านพักในรัฐฟลอริดาว่า โอบามาได้พูดคุยอย่างเป็นมิตรมาก และคุยกันในเรื่องทั่วๆไป

การหารือครั้งนี้มีขึ้น หลังจากที่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) มีมติให้อิสราเอลยุติการตั้งถิ่นฐานในดินแดนปาเลสไตน์ซึ่งรวมถึงพื้นที่เยรูซาเลมตะวันออก โดยสหรัฐได้งดออกเสียงและงดใช้สิทธิยับยั้งที่เรียกว่าวีโต้ในการลงมติครั้งนี้ ขณะที่นายทรัมป์ ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นผ่านทางทวิตเตอร์ว่า ขอให้อิสราเอลยืนหยัดอย่างเข้มแข็งไว้ จนกว่าเขาจะเข้ามาทำหน้าที่ประธานาธิบดีในเดือนม.ค.ที่จะถึงนี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2577580

นายกฯอิสราเอลฉุนคำพูดรมว.ตปท.สหรัฐ หลังถูกประณามเรื่องการขยายเขตที่อยู่อาศัย

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 29 ธันวาคม 2559 12:14:57 น.

นายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวโจมตีคำพูดของนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ เกี่ยวกับนโยบายของสหรัฐในตะวันออกกลาง โดยนายเนทันยาฮูกล่าวว่า นายแคร์รีนั้น "หมกมุ่น" และ "ไม่เป็นธรรม"

นายเนทันยาฮูระบุในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ผ่านทางโทรทัศน์ว่า "แคร์รีใส่ใจกับปัญหาการตั้งถิ่นฐานมากจนเกินไป แทนที่จะแก้ไขในส่วนต้นตอของความขัดแย้ง" และกล่าวว่า ตนนั้นทั้ง "ผิดหวัง" และ "ประหลาดใจ" กับสิ่งที่นายแคร์รีพูด พร้อมทั้งตั้งคำถามว่า "นี่คือสิ่งที่รัฐมนตรีต่างประเทศของชาติมหาอำนาจควรให้ความสำคัญจริงๆหรือไม่"

นอกจากนี้ นายเนทันยาฮุยังกล่าวว่า ตนเองมุ่งมั่นที่จะร่วมมือกับรัฐบาลของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ เรื่องการ "ยกเลิก" มติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งประณามการขยายเขตที่อยู่อาศัยของอิสราเอล

ทั้งนี้ นายแคร์รีได้กล่าวสุนทรพจน์เป็นเวลากว่า 70 นาที ในช่วงก่อนที่นายบารัค โอบามา จะสิ้นสุดการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเพียงไม่กี่สัปดาห์ โดยเนื้อหาสำคัญอยู่ที่การกล่าวเตือนอิสราเอลว่า การสร้างที่อยู่อาศัยของอิสราเอลเป็นภัยต่อการตั้งรัฐปาเลสไตน์ และการนำมาซึ่งสันติภาพระหว่างทั้งสอง

อย่างไรก็ตาม ก่อนการขึ้นพูดของนายแคร์รีจะมีขึ้น นายโดนัลด์ ทรัมป์ได้ออกมาสนับสนุนอิสราเอล และกล่าวให้กำลังใจว่า อิสราเอลจำเป็นต้องเข้มแข็ง และรอการเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของตนในวันที่ 20 ม.ค.

ด้านนายเนทันยาฮูได้ตอบกลับข้อความบนทวิตเตอร์ของทรัมป์ว่า "ขอบคุณสำหรับมิตรภาพอันอบอุ่นและแรงสนับสนุนอิสราเอลที่ชัดเจน" พร้อมด้วยภาพธงชาติของอิสราเอลและสหรัฐ และแท็กชื่อบุตรชายและบุตรสาวของทรัมป์

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้มีมติให้อิสราเอลยุติการก่อสร้างที่พักอาศัยในเขตเยรูซาเล็มตะวันออกและเขตเวสต์แบงก์ พร้อมทั้งประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการละเมิดกฎหมายนานาชาติแบบซึ่งหน้า

ในปัจจุบัน มีชาวยิวกว่า 500,000 คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว โดยพื้นที่นี้ถูกอิสราเอลเข้ายึดครองเมื่อปี 2510 ในช่วงสงคราม และถือเอาเป็นดินแดนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของตนเองตลอดมา แม้ว่าจะถูกประณามจากนานาประเทศก็ตาม

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ชาญวิทย์ เอี่ยมอุดม/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2577564

ถูกแก้ไข ธันวาคม 29, 2016 โดย ginger

ginger · ธันวาคม 30, 2016

สวัสดีส่งท้ายปี สบสิ่งสุขสันต์

เดินทาง ขับรถ รื่นใจ ปลอดภัยตลอดทาง

มีความรักเติมเต็ม อบอุ่นใจ ไปสู่ครอบครัว ญาติมิตร

โชคดี มีทุกสิ่งดี พออยู่เสมอ

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 30 ธันวาคม 2559 07:49:04 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 29 ธ.ค.2559

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรเพื่อปรับโพสิชั่น ก่อนที่จะถึงวันหยุดในเทศกาลปีใหม่ ขณะที่ภาวะการซื้อขายในช่วงปลายปีเป็นไปอย่างเงียบเหงา แม้ว่าสหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาค่อนข้างเป็นบวก ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,819.78 จุด ลดลง 13.90 จุด หรือ -0.07% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,432.09 จุด ลดลง 6.47 จุด หรือ -0.12% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,249.26 จุด ลดลง 0.66 จุด หรือ -0.03%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) โดยตลาดปรับตัวลงเป็นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มธนาคาร รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของภาคธนาคารในอิตาลี โดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคาร Banca Monte dei Paschi di Siena (BMPS) ซึ่งใหญ่เป็นอันดับ 3 ของอิตาลี

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 360.26 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,838.47 จุด ลดลง 9.54 จุด หรือ -0.20% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,451.05 จุด ลดลง 23.94 จุด หรือ -0.21% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,120.26 จุด เพิ่มขึ้น 14.18 จุด หรือ +0.20%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) โดยดัชนี FTSE 100 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ด้วยแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวก 14.18 จุด หรือ +0.20% แตะที่ 7,120.26 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ การอ่อนแรงลงของตลาดหุ้นสหรัฐยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 17.2 ดอลลาร์ หรือ 1.51% ปิดที่ระดับ 1,158.10 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ หรือ 1.12% ปิดที่ 16.218 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 902.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7.40 ดอลลาร์ หรือ 1.1% ปิดที่ 674.90 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) และสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ต่างก็รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 29 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 53.77 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 8 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 56.14 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) จากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ดอลลาร์ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 116.58 เยน จากระดับ 117.17 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0228 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0291 ฟรังก์สวิส

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0491 ดอลลาร์จากระดับ 1.0405 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2244 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2215 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7204 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7182 ดอลลาร์

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,249.26 จุด ลดลง 0.66 จุด, -0.03%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,432.09 จุด ลดลง 6.47 จุด, -0.12%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 19,819.78 จุด ลดลง 13.90 จุด, -0.07%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,838.47 จุด ลดลง 9.54 จุด, -0.20%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,451.05 จุด ลดลง 23.94 จุด, -0.21%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,120.26 จุด เพิ่มขึ้น 14.18 จุด, +0.20%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,366.15 จุด เพิ่มขึ้น 155.47 จุด, +0.59%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,637.93 จุด เพิ่มขึ้น 7.63 จุด, +0.47%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,889.15 จุด ลดลง 9.15 จุด, -0.32%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,302.57 จุด เพิ่มขึ้น 93.12 จุด, +1.79%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 21,790.91 จุด เพิ่มขึ้น 36.17 จุด, +0.17%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 664.72 จุด เพิ่มขึ้น 1.22 จุด, +0.18%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,840.64 จุด ลดลง 5.80 จุด, -0.08%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,096.10 จุด ลดลง 6.41 จุด, -0.20%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,026.46 จุด เพิ่มขึ้น 1.97 จุด, +0.10%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,145.14 จุด ลดลง 256.58 จุด, -1.32%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,153.09 จุด ลดลง 48.31 จุด, -0.53%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,699.10 จุด เพิ่มขึ้น 14.10 จุด, +0.25%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,746.70 จุด เพิ่มขึ้น 14.30 จุด, +0.25%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2577903

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 13.90 จุด นักลงทุนขายทำกำไรก่อนสิ้นปี

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 30 ธันวาคม 2559 06:29:28 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรเพื่อปรับโพสิชั่น ก่อนที่จะถึงวันหยุดในเทศกาลปีใหม่ ขณะที่ภาวะการซื้อขายในช่วงปลายปีเป็นไปอย่างเงียบเหงา แม้ว่าสหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาค่อนข้างเป็นบวก ซึ่งรวมถึงจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานที่ปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,819.78 จุด ลดลง 13.90 จุด หรือ -0.07% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,432.09 จุด ลดลง 6.47 จุด หรือ -0.12% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,249.26 จุด ลดลง 0.66 จุด หรือ -0.03%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไรเพื่อปรับโพสิชั่น ก่อนที่จะถึงวันหยุดในเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา

ภาวะการซื้อขายในช่วงปลายปีเป็นไปอย่างเงียบเหงา แม้ว่าทางการสหรัฐได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ค่อนข้างเป็นบวกเมื่อคืนนี้ก็ตาม โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ธ.ค. สู่ระดับ 265,000 ราย ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และนับเป็นสัปดาห์ที่ 95 ติดต่อกันแล้วที่ตัวเลขดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2514

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 5.945 แสนล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 1.2% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว

ทั้งนี้ การที่ภาคธุรกิจเพิ่มสต็อกสินค้าคงคลังถือเป็นสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจ เนื่องจากสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจที่เพิ่มสูงขึ้นจะมีส่วนสนับสนุนการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลการค้าเดือนพ.ย.ของสหรัฐออกมาค่อนข้างอ่อนแอ โดยยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 5.5% หรือ 3.4 พันล้านดอลลาร์จากเดือนต.ค. สู่ระดับ 6.53 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดนำเข้ายังคงสูงกว่ายอดส่งออก โดยยอดส่งออกสินค้าในเดือนพ.ย.ลดลง ลดลง 1.2 พันล้านดอลลาร์จากเดือนต.ค. สู่ระดับ 1.217 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น 2.2 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.870 แสนล้านดอลลาร์

หุ้นเซียร์ส โฮลดิ้ง พุ่งขึ้น 10% หลังจากมีรายงานว่า ทางบริษัทได้รับวงเงินกู้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาวะสภาพคล่องตึงตัวภายในองค์กร

ส่วนหุ้นนิวมอนท์ ไมนิ่ง ปรับตัวขึ้น 7.6% ขณะที่หุ้นฟอร์เทรส ไบโอเทค ทะยานขึ้น 21% หลังจากบริษัทประกาศความคืบหน้าในการพัฒนายารักษาโรคมะเร็ง

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2577823

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์อ่อนเทียบเงินสกุลหลัก จากแรงเทขายทำกำไรก่อนปีใหม่

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 30 ธันวาคม 2559 07:17:47 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) จากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ดอลลาร์ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งในช่วงก่อนหน้านี้

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยนที่ระดับ 116.58 เยน จากระดับ 117.17 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0228 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0291 ฟรังก์สวิส

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0491 ดอลลาร์จากระดับ 1.0405 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.2244 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2215 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7204 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7182 ดอลลาร์

ดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรก่อนหน้าช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ หลังจากที่ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 วันทำการก่อนหน้านี้ ด้วยแรงหนุนจากความคาดหวังของนักลงทุนที่ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะดำเนินนโยบายที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐในปีหน้า

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 รายในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ธ.ค. สู่ระดับ 265,000 ราย ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และนับเป็นสัปดาห์ที่ 95 ติดต่อกันแล้วที่ตัวเลขดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 ราย ซึ่งยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 2514

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งในเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 0.9% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 5.945 แสนล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 1.2% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว

นอกจากนี้ ทางการสหรัฐยังเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 5.5% หรือ 3.4 พันล้านดอลลาร์จากเดือนต.ค. สู่ระดับ 6.53 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากยอดนำเข้ายังคงสูงกว่ายอดส่งออก

ทั้งนี้ ยอดส่งออกสินค้าในเดือนพ.ย.ลดลง ลดลง 1.2 พันล้านดอลลาร์จากเดือนต.ค. สู่ระดับ 1.217 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น 2.2 พันล้านดอลลาร์ สู่ระดับ 1.870 แสนล้านดอลลาร์

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2577832