มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

 

 

NOW26

 

 

Ylg Bullion

NOW26

 

 

Ylg Bullion

 

 

NOW26

 

 

NOW26

[ginger 11,058]

YLGResearch

[ginger 11,058]

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มกราคม 2560 07:37:45 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 24 ม.ค. 2560

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านมือสองตลอดปี 2559 ที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค.ที่ปรับตัวสูงขึ้น

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,912.71 จุด พุ่งขึ้น 112.86 จุด หรือ +0.57% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,600.96 จุด เพิ่มขึ้น 48.02 จุด หรือ +0.86% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,280.07 จุด เพิ่มขึ้น 14.87 จุด หรือ +0.66%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับศาลฎีกาอังกฤษที่วินิจฉัยว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษไม่สามารถประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป เพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ก่อนที่จะขอความเห็นชอบจากรัฐสภา

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 361.92 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,830.03 จุด เพิ่มขึ้น 8.62 จุด หรือ +0.18% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,594.94 จุด เพิ่มขึ้น 49.19 จุด หรือ +0.43% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,150.34 จุด ลดลง 0.84 จุด หรือ -0.01%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นบีที บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการสื่อสารโทรคมนาคมของอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นลอนดอนขยับลงเพียงเล็กน้อย เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับปัจจัยหนุนหลังจากศาลฎีกาอังกฤษที่วินิจฉัยว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษไม่สามารถประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป เพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ก่อนที่จะขอความเห็นชอบจากรัฐสภา

 

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,150.34 จุด ลดลง 0.84 จุด หรือ -0.01%

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) ขานรับข่าวการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันนี้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 53.18 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 55.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กและข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 4.80 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ระดับ 1,210.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 0.1 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 17.185 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 27.9 ดอลลาร์ หรือ 2.85% ปิดที่ 1,007.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 24.35 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 795.85 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้นหลังจากศาลฎีกาอังกฤษวินิจฉัยว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษไม่สามารถประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป เพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ก่อนที่จะขอความเห็นชอบจากรัฐสภา

 

เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2504 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2494 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7577 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7564 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.0728 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0739 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 113.87 เยน จากระดับ 113.03 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0014 ฟรังค์ จากระดับ 0.9990 ฟรังค์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 19,912.71 จุด เพิ่มขึ้น 112.86 จุด, +0.57%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,600.96 จุด เพิ่มขึ้น 48.02 จุด, +0.86%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,280.07 จุด เพิ่มขึ้น 14.87 จุด, +0.66%

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,830.03 จุด เพิ่มขึ้น 8.62 จุด, +0.18%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,594.94 จุด เพิ่มขึ้น 49.19 จุด, +0.43%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,150.34 จุด ลดลง 0.84 จุด, -0.01%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,706.30 จุด เพิ่มขึ้น 38.30 จุด, +0.68%

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,650.10 จุด เพิ่มขึ้น 39.10 จุด, +0.70%

 

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,447.95 จุด เพิ่มขึ้น 23.90 จุด, +0.25%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,787.99 จุด ลดลง 103.04 จุด, -0.55%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,065.76 จุด ลดลง 0.23 จุด, -0.01%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,142.55 จุด เพิ่มขึ้น 5.77 จุด, +0.18%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,370.65 จุด ลดลง 3.70 จุด, -0.05%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,949.86 จุด เพิ่มขึ้น 51.34 จุด, +0.22%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,041.95 จุด เพิ่มขึ้น 16.47 จุด, +0.54%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,680.69 จุด เพิ่มขึ้น 9.38 จุด, +0.56%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,375.58 จุด เพิ่มขึ้น 258.24 จุด, +0.95%

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ADVERTISEMENT

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2590202

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 112.86 จุด รับผลประกอบการ-ข้อมูลศก.สดใส

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มกราคม 2560 06:29:44 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 100 จุดเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงยอดขายบ้านมือสองตลอดปี 2559 ที่พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง และดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค.ที่ปรับตัวสูงขึ้น

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,912.71 จุด พุ่งขึ้น 112.86 จุด หรือ +0.57% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,600.96 จุด เพิ่มขึ้น 48.02 จุด หรือ +0.86% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,280.07 จุด เพิ่มขึ้น 14.87 จุด หรือ +0.66%

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทดูปองท์เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2559 อยู่ที่ 51 เซนต์ ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และช่วยหนุนหุ้นดูปองท์พุ่งขึ้น 4.5%

 

บริษัทอาลีบาบา กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซของจีน เปิดเผยรายได้พุ่งขึ้น 54% สู่ระดับ 5.32 หมื่นล้านหยวน (7.76 พันล้านดอลลาร์) ในไตรมาส 3/2559 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.01 หมื่นล้านหยวน โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นอาลีบาบาพุ่งขึ้น 3.1%

 

บริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน เปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2559 อยู่ที่ 1.58 ดอลลาร์ สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปิดปรับตัวลง 1.9%

 

ด้านบริษัทยาฮู อิงค์ เปิดเผยรายได้ในไตรมาส 4/2559 อยู่ที่ 1.47 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 1.38 พันล้านดอลลาร์ และยังเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/2558 ที่ระดับ 1.27 พันล้านดอลลาร์ โดยข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นยาฮูพุ่งขึ้น 3.5%

 

หุ้นกลุ่มบริษัทรถยนต์ทะยานขึ้น หลังจากหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้จัดประชุมกับผู้บริหารของบริษัทผลิตรถยนต์ชั้นนำของสหรัฐ ซึ่งได้แก่ เจเนอรัล มอเตอร์, ฟอร์ด มอเตอร์ และเฟียต ไคร์สเลอร์ ออโตโมบิล เมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการเพิ่มการจ้างงาน, การสร้างโรงงานใหม่ในสหรัฐ และจำหน่ายรถยนต์ในสหรัฐ

 

ทั้งนี้ หุ้นเจเนอรัล มอเตอร์ พุ่งขึ้น 1% หุ้นฟอร์ด มอเตอร์ ทะยานขึ้น 2.4% และหุ้นเฟียต ไคร์สเลอร์ พุ่งขึ้น 6%

 

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ โดยบริษัทไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค.ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.1 จากระดับของเดือนธ.ค.ที่ 54.3

 

ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ตลอดปี 2559 ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.45 ล้านยูนิต จากระดับ 5.25 ล้านยูนิตในปี 2558

 

อย่างไรก็ตาม ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.ลดลง 2.8% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.49 ล้านยูนิต เนื่องจากสต็อกบ้านในตลาดลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2542 ส่งผลให้ผู้ที่ต้องการซื้อบ้านมีตัวเลือกที่จำกัด

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2559, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนม.ค. , ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2590073

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร,เยน รับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มกราคม 2560 07:31:20 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินเยน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ดีดตัวขึ้นหลังจากศาลฎีกาอังกฤษวินิจฉัยว่า นายกรัฐมนตรีอังกฤษไม่สามารถประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป เพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ก่อนที่จะขอความเห็นชอบจากรัฐสภา

 

 

 

เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2504 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.2494 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.7577 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7564 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.0728 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0739 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 113.87 เยน จากระดับ 113.03 เยน และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0014 ฟรังค์ จากระดับ 0.9990 ฟรังค์

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยบริษัทไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค.ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.1 จากระดับของเดือนธ.ค.ที่ 54.3

 

ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ตลอดปี 2559 ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.45 ล้านยูนิต จากระดับ 5.25 ล้านยูนิตในปี 2558

 

ส่วนเงินปอนดพุ่งขึ้นหลังจากศาลฎีกาของอังกฤษได้วินิจฉัยว่า นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่สามารถประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป เพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากรัฐสภาได้

 

ทั้งนี้ ศาลฎีกาได้วินิจฉัยให้รัฐบาลอังกฤษต้องขออนุมัติรัฐสภาก่อนที่จะประกาศใช้มาตรา 50 ด้วยคะแนน 8 เสียง ต่อ 3 เสียง ซึ่งคำวินิจฉัยดังกล่าวทำให้รัฐสภามีโอกาสที่จะลดทอนแผนการถอนตัวจากสหภาพยุโรป

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2559, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนม.ค. , ยอดขายบ้านใหม่เดือนธ.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2590201

 

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดพุ่ง 303.24 จุด รับดาวโจนส์ดีดแรง,เงินเยนอ่อน

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มกราคม 2560 07:42:26 น.

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดพุ่งขึ้นกว่า 300 จุดในวันนี้ โดยได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ เงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐยังช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกของญี่ปุ่นปรับตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ด้วย

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิเปิดพุ่งขึ้น 303.24 จุด หรือ +1.61% แตะที่ 19,091.23 จุด

 

หุ้นที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ นำโดยหุ้นกลุ่มเหล็กและเหล็กกล้า กลุ่มหลักทรัพย์ และกลุ่มผู้ผลิตเครื่องจักร

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2590203

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็ง ฉุดทองคำปิดลบ 4.80 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มกราคม 2560 07:21:12 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นนิวยอร์กและข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 4.80 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ระดับ 1,210.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 0.1 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 17.185 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 27.9 ดอลลาร์ หรือ 2.85% ปิดที่ 1,007.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 24.35 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 795.85 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งติดตามความเคลื่อนของสกุลดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบ 6 สกุลเงินหลัก ปรับตัวขึ้น 0.43% แตะที่ 100.36 เมื่อคืนนี้ ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

 

นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่พุ่งขึ้นกว่า 100 จุด และข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ยังส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยบริษัทไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค.ของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.1 จากระดับของเดือนธ.ค.ที่ 54.3

 

ด้านสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ตลอดปี 2559 ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 5.45 ล้านยูนิต จากระดับ 5.25 ล้านยูนิตในปี 2558

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2590089

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก 43 เซนต์ รับกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันลดกำลังการผลิต

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มกราคม 2560 07:04:52 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (24 ม.ค.) ขานรับข่าวการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันนี้

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 43 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 53.18 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 55.44 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากรัฐมนตรีกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปกระบุว่า ขณะนี้ ประเทศผู้ผลิตน้ำมันสามารถลดการผลิตน้ำมันจำนวน 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ใกล้เคียงกับระดับ 1.8 ล้านบาร์เรล/วันที่ตกลงกันไว้

 

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า อิรักได้ปรับลดการผลิตน้ำมันลง 180,000 บาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะปรับลดลงอีก 30,000 บาร์เรลต่อวันภายในสิ้นเดือนนี้

 

ทางด้านบริษัทเบิร์นสไตน์ เอเนอร์จี ระบุในรายงานว่า ปริมาณน้ำมันในตลาดโลกได้ลดลง 24 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 5.7 พันล้านบาร์เรลในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ซึ่งปริมาณดังกล่าวเทียบเท่ากับการบริโภคน้ำมันในตลาดโลกราว 60 วัน

 

อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่สูงขึ้นในสรัฐ โดยเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันสหรัฐ รายงานว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีการใช้งานในสัปดาห์ที่แล้ว มีจำนวนเพิ่มขึ้น 29 แท่น สู่ระดับ 551 แท่น

 

นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในเวลา 22.30 น.ตามเวลาไทย

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2590079

 

ทรัมป์ลงนามคำสั่งประธานาธิบดีเดินหน้าก่อสร้างท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน,ดาโกต้า แอคเซส

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 มกราคม 2560 00:14:24 น.

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี 2 ฉบับในวันนี้ เพื่อเดินหน้าการก่อสร้างท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน เอ็กซ์แอล และท่อส่งน้ำมันดาโกต้า แอคเซส หลังจากที่การสร้างท่อส่งน้ำมันดังกล่าวประสบความล่าช้าจากการประท้วงของกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

 

ทั้งนี้ โครงการก่อสร้างท่อส่งน้ำมันคีย์สโตน เอ็กซ์แอลได้ถูกอดีตปธน.บารัค โอบามายกเลิกในปี 2015 โดยเขาระบุว่าโครงการดังกล่าวจะกระทบต่อความพยายามของสหรัฐในการบรรลุข้อตกลงแก้ปัญหาโลกร้อน ขณะที่กลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้ทำการประท้วงเป็นเวลากว่า 7 ปี

 

ส่วนการสร้างท่อส่งน้ำมันดาโกต้า แอคเซสก็ได้ถูกกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และชาวอินเดียนแดงในรัฐดาโกต้าประท้วงเป็นเวลาหลายเดือน เนื่องจากวิตกว่าจะส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำดื่ม

 

การดำเนินการของปธน.ทรัมป์จะช่วยให้ผู้ผลิตน้ำมันสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการขนส่งน้ำมันเข้าสู่ตลาด

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq30/2590052

[ginger 11,058]

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

 

 

 

 

NOW26

 

 

 

HSHsocial

 

 

 

 

NOW26

จับตาช่วง 100 วันแรก ทรัมป์ รับตำแหน่ง กับทิศทาง Fund Flow ไหลเข้าไทย

บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง จับตาช่วง 100 วันแรก หลัง “โดนัลด์ ทรัมป์” รับตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ กับโอกาสเห็น Fund Flow ไหลเข้าหุ้นไทยต่อเนื่อง ในขณะที่ “ทิสโก้” มองว่า นโยบาย “ทรัมป์”…

MONEYCHANNEL.CO.TH

พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์พ.ศ.2560มีผลบังคับใช้แล้ว

THAIPOST.NET

จีนเสนอตัวเป็นผู้นำโลกแทนสหรัฐ

MONEYCHANNEL.CO.TH

 

Wealth Station

 

 

 

 

 

ทรงกราฟค่อยๆ อ่อนกำลัง การลงต่ำกว่าโลว์ก่อนหน้าที่ 1195 1200 เป็นการทำจุดต่ำใหม่ซึ่งในเชิงทฤษฎีดาวน์ถือว่าจบขาขึ้นที่่พ้อยท์นั้น ถือว่าแท่งเทียนแดงในวันที่ผ่านมาเป็นอีกสัญญาณขายที่ค่อยๆ เผยภาพออกมา ทำให้ต้องระวัง การพักตัวลงของภาพหลักมากขึ้นซึ่งการกลับมา 1220 หรือ 1195 อีกครั้งน่าจะเป็นการเลือกทางแล้ว ขึ้นต่อไป 1240 ลงก็พักลง 1160 1180 แถวๆนั้น

[ginger 11,058]

 

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ประจำวันอังคาร ที่ 24 มกราคม 2560

ราคาทองปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังจากค่าเงินดอลลาร์ปรับลดลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์ที่บริเวณ 99.90 จุด ทำให้ราคาทองขึ้นมาทดสอบจุดสูงสุดบริเวณ 1,220 เหรียญได้อีกครั้ง และในวันนี้ติดตามคำวินิจฉัยของศาลเรื่องสมาชิกภาพของอังกฤษในยูโรโซซึ่งคาดว่าตลาดรับรู้ไปแล้วในสัปดาห์ก่อน ทำให้ทางเราคาดว่าตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆ จึงให้น้ำหนักการแกว่งตัวในกรอบมากกว่าปรับตัวขึ้นต่อแรงๆ ต่อ

ราคาทองคำปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.82 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ หรือคิดเป็น +0.65% โดยปิดที่ 1,217.38 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยราคาเมื่อวานนี้เคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,209.17 – 1,219.44 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์และราคาเคลื่อนไหวในเช้านี้บริเวณ 1,217 เหรียญ ราคาทองปรับตัวขึ้นได้ต่อหลังจากค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวลดลงทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบกว่า 7 สัปดาห์ โดยทำจุดต่ำสุดที่ 99.90 จุด โดยปัจจัยหลักคือความกังวลนโยบายของนายทรัมป์ ว่าจะสามารถทำได้จริงหรือไม่ และในวันนี้ติดตาม คำวินิจฉัยของศาลเรื่องสมาชิกภาพของอังกฤษในยูโรโซน ซึ่งคาดว่าตลาดได้รับรู้ไปแล้วพอสมควรในสัปดาห์ก่อนเกี่ยวกับกาแนวทางการออกจากยูโรโซนของอังกฤษทำให้ภาพรวมราคาทองคำได้ปรับตัวมาทดสอบจุดสูงสุดในระยะสั้นอีกครั้ง บริเวณ 1,220 เหรียญ ซึ่งคาดว่าราคาทองมีโอกาสแกว่งตัวในกรอบหากยังไม่สามารถผ่านจุดสูงสุดใหม่ได้ ผนวกกับตลาดขาดปัจจัยใหม่ๆ ในช่วงนี้ ทางเราจึงให้น้ำหนักแกว่งตัวในกรอบมากกว่า

 

คำแนะนำ : trading ในกรอบ follow เมื่อ breakout สำหรับนักลงทุนระยะกลางรอ long เมื่อย่อตัว

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy2401201782112375…

___________________________

[meng166 131]

:01

[ginger 11,058]

:01

 

ขอให้ meng news wannn Google Goldleng MegaGold Gotmotion Jainu อยากเล่นด้วยคน น้อย ตังเม .... ..... ....

พี่ๆน้องๆ เพื่อนๆที่รักทุกๆคน มีความสุข สมหวัง มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง ร่ำรวยๆๆๆ และโชคดีตลอดไป

 

 

พลิ้วไหวในสายลม！ชาวจีนทำบะหมี่รับตรุษจีน

การทำบะหมี่เพื่อเตรียมฉลองเทศกาลตรุษจีน เป็นประเพณีที่สืบทอดมายาวนานของหมู่บ้านฉินเจียชวน อำเภอชาง มณฑลเจียงซี เส้นหมี่ที่เรียงรายมองดูเหมือนกับด้ายสีเงินที่สะบัดพริ้วท่ามกลางสายลม กลายเป็นทัศนียภาพที่แปลกตาริมทะเลสาบโผหยาง

(ขอบคุณข่าวจาก China Face)

 

 

 

 

 

 

MTS GOLD GROUP

Ylg Bullion

 

 

 

MTS GOLD GROUP

 

 

 

 

YLGResearch

 

 

 

 

 

CLASSIC GOLD GROUP

 

News ญี่ปุ่นจับข้าราชการระดับสูงไทยขโมยภาพในญี่ปุ่น

 

NOW26

 

 

NOW26

 

 

 

NOW26

 

 

 

จีนมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิกต่อ แม้สหรัฐฯถอนตัวจาก TPP

เมื่อวันที่ 24 ม.ค. จีนกล่าวว่าจะผลักดันการผนวกด้านเศรษฐกิจระหว่างเอเชียกับแปซิฟิกอย่างเปิดกว้าง ครอบคลุม และโปร่งใสต่อไป ถึงแม้ว่าสหรัฐฯจะถอนตัวออกจากความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership: TPP) แล้วก็ตาม

หัวชุนหยิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวในงานแถลงข่าวว่า “จีนจะเดินหน้าเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) และการจัดตั้งเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิค (Free Trade Area of the Asia-Pacific: FTAAP) เพื่อเพิ่มแรงผลักดันใหม่ในการพัฒนาทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคและระดับโลก”

 

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯได้ลงนามเพื่อสั่งให้ถอนสหรัฐฯออกจากความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP)

ทั้งนี้ TPP เป็นข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก 12 แห่ง ถูกลงนามอย่างเป็นทางการเมื่อกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากเจรจากันนาน 5 ปี อย่างไรก็ตาม จีนไม่ได้เป็นหนึ่งในสมาชิกของข้อตกลงดังกล่าว

หัวชุนหยิงยังกล่าวอีกว่า จีนต้องการให้เกิดข้อตกลงการค้าเสรีที่เปิดกว้าง โปร่งใส และก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งสองด้านมาโดยตลอด อีกทั้งยังเชื่อว่าข้อตกลงทางการค้าใดๆ ควรจะผ่านการเจรจาจากทุกฝ่ายในฐานะที่เท่าเทียมกัน

“ภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกควรจะเดินหน้าต่อเพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลกที่กำลังซบเซา ตลอดจนก่อให้เกิดเศรษฐกิจการค้าที่เปิดกว้าง”

 

 

 

เม็กซิโกเตรียมกำหนดความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาใหม่

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (23 ม.ค. 2017) เอ็นริเก เปญา นิเอโต ประธานาธิบดีของเม็กซิโก ได้กล่าวถึงเป้าหมายของนโยบายต่างประเทศใหม่ ที่จัดทำขึ้นโดยคณะรัฐบาลของเขา ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับตัวให้เข้ากับรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐอเมริกา ที่นำโดย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ

ทรัมป์สนับสนุนนโยบายการค้าแบบคุ้มกันและนโยบายโดดเดี่ยวมากขึ้น เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมของสหรัฐอเมริกา และต้องการที่จะเจรจาเรื่องข้อตกลงเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) อีกครั้งระหว่างสหรัฐอเมริกา แคนาดา และเม็กซิโกเช่นเดียวกับเรื่องการสร้างกำแพงตามแนวชายแดนของสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกเพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานข้ามชาติที่ผิดกฎหมาย

 

ในการเจรจาร่วมกับทรัมป์ เปญา นิเอโต กล่าวว่าเขาจะดำเนินการตาม 10 เป้าหมายที่สำคัญรวมถึง "การคุ้มกันการค้าเสรี" ระหว่างสามประเทศด้วย

"การแลกเปลี่ยนทางการค้าระหว่างสามประเทศจะต้องได้รับการยกเว้นภาษีหรือค่าธรรมเนียมใดๆ ตามที่ได้พูดคุยกันไว้ตั้งแต่ปี 2008" แถลงการณ์จากสำนักงานของประธานาธิบดีระบุไว้ดังนี้

แต่สำหรับเรื่องการสร้างกำแพง เปญา นิเอโต กล่าวว่าเขาจะพยายามเพื่อรักษาพื้นที่ชายแดนดังกล่าวให้เป็นหนึ่งเดียวกัน แทนที่จะแบ่งแยกออกจากกัน

"ชายแดนของเราควรเป็นที่ว่างที่ดีที่สุด สำหรับการอยู่ร่วมกัน การพัฒนาอย่างปลอดภัย รุ่งเรือง และแบ่งปันร่วมกัน" ประธานาธิบดีกล่าว

==

ถูกแก้ไข มกราคม 30, 2017 โดย ginger

[ginger 11,058]

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

NOW26

 

 

 

 

 

ทีนิวส์ออนไลน์

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

NOW26

 

 

NOW26

[ginger 11,058]

วันศุกร์สวัสดี เพื่อน พี่น้องทุกท่าน

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบเงินสกุลหลัก รับปัจจัยตลาดหุ้นสหรัฐสดใส

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 27 มกราคม 2560 07:12:02 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) ด้วยปัจจัยบวกจากการที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นเหนือระดับ 20,000 จุดติดต่อกัน 2 วันทำการ ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง

 

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0695 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0729 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2600 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2623 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลีย อ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7546 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7551 ดอลลาร์

 

 

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 114.41 เยน จากระดับ 113.80 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9992 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0011 ฟรังก์สวิส

 

ดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 20,000 จุดติดต่อกัน 2 วันทำการเมื่อคืนนี้ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่หลายบริษัท เช่น คอมแคสต์, อีเบย์, ดาว เคมิคอล และดิอาจิโอ ผู้ผลิตวิสกี้ "Johnnie Walker"

 

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังได้รับปัจจัยบวกจากข้อมูลภาคบริการที่สดใสของสหรัฐ โดยบริษัทไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 55.1 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2015 หลังจากอยู่ที่ระดับ 53.9 ในเดือนธ.ค.

 

ทั้งนี้ ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2559, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ไตรมาส 4/2559 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2591411

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 32.40 จุด ขานรับผลประกอบการสดใส

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 27 มกราคม 2560 06:39:21 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) โดยดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทคอมแคสต์ อย่างไรก็ตาม ดัชนี NASDAQ และ S&P500 ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,100.91 จุด เพิ่มขึ้น 32.40 จุด หรือ +0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,655.18 จุด ลดลง 1.16 จุด หรือ -0.02% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,296.68 จุด ลดลง 1.69 จุด หรือ -0.07%

 

ดัชนีดาวโจนส์ปิดเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 20,000 จุดติดต่อกัน 2 วันทำการเมื่อคืนนี้ ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน โดยบริษัทคอมแคสต์เปิดเผยว่า บริษัทมีกำไร 89 เซนต์/หุ้น ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 87 เซนต์/หุ้น ส่วนรายได้อยู่ที่ระดับ 2.103 หมื่นล้านดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ 2.067 หมื่นล้านดอลลาร์

 

ทั้งนี้ ผลประกอบการที่แข็งแกร่งช่วยหนุนหุ้นคอมแคสต์ปิดตลาดทะยานขึ้น 2.8%

หุ้นอีเบย์พุ่งขึ้น 5% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ที่แข็งแกร่งในช่วงเทศกาลวันหยุด

ขณะที่หุ้นดิอาจิโอ ผู้ผลิตวิสกี้ "Johnnie Walker" และวอดก้า "Smirnoff" ปิดพุ่งขึ้น 3.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรช่วงครึ่งปีแรกพุ่งขึ้นแตะระดับ 1.9 พันล้านดอลลาร์

 

หุ้นดาว เคมิคอล พุ่งขึ้น 2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของตลาด

 

ส่วนหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ปิดขยับลง หลังจากจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ประกาศทุ่มเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าซื้อกิจการของบริษัท Actelion ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสวิตเซอร์แลนด์ อย่างไรก็ดี ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้น Actelion พุ่งขึ้น 20% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นซูริค

 

หุ้นแคเทอร์พิลลาร์ ปิดขยับลง 0.9% หลังจากแคเทอร์พิลลาร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยรายได้ 9.57 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาส 4 ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 9.84 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาส 4 ที่ระดับ 83 เซนต์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 66 เซนต์/หุ้น

 

อย่างไรก็ตาม แม้ดาวโจนส์ปิดตลาดในแดนบวก แต่ภาวะการซื้อขายถูกกดดันในระหว่างวัน จากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 22,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 259,000 ราย ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 247,000 ราย

 

ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ร่วงลง 10.4% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 536,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 588,000 ยูนิต

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2559, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนธ.ค., ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ไตรมาส 4/2559 และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq18/2591395

 

นิวยอร์กไทม์เผย ทรัมป์ เตรียมลงนามคำสั่งลดการให้เงินสนับสนุน UN

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2560 14:14:21 น.

หนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทม์ รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐ กำลังร่างคำสั่งพิเศษเพื่อปรับลดการให้เงินสนับสนุนแก่องค์การสหประชาชาติ (UN) ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวอาจส่งผลให้สหรัฐมีบทบาทน้อยลงใน UN

 

นิวยอร์ก ไทม์ รายงานว่า ร่างคำสั่งดังกล่าวระบุถึงการยุติการให้เงินสนับสนุนหน่วยงานของ UN หรือองค์กรระหว่างประเทศที่ให้สมาชิกภาพอย่างสมบูรณ์ต่อทางการปาเลสไตน์ หรือองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ สนับสนุนการทำแท้ง หรือหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือหรืออิหร่าน

 

 

 

ร่างคำสั่งดังกล่าวยังระบุถึงการปรับลดเงินทุนให้กับองค์กรใดๆก็ตามที่ได้รับอิทธิพลจากประเทศใดประเทศหนึ่งที่สนับสนุนการก่อการร้าย รวมทั้งองค์กรที่ถูกระบุว่าเป็นภัยต่อประชาชน หรือละเลิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ก่อนที่นายทรัมป์จะเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐเมื่อวันศุกร์นั้น เขาได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ UN โดยเขาได้ทวีตข้อความเมื่อเดือนธ.ค.ที่ผ่านมาว่า "UN เป็นแค่ชมรมที่ผู้คนมารวมตัวกัน พูดคุยกัน และใช้เวลาดีๆร่วมกัน"

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2591215

 

 

 

รัสเซียยันยังไม่เคยติดต่อโดยตรงกับทรัมป์นับตั้งแต่ที่เข้ารับตำแหน่ง

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2560 19:00:16 น.

นายดมิทรี เพสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า ทำเนียบเครมลินและทำเนียบขาวยังไม่เคยติดต่อกันโดยตรง นับตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งในวันศุกร์ที่ผ่านมา

 

"ยังไม่มีการติดต่อระหว่างฝ่ายบริหารของทั้งสองฝ่ายในขณะนี้ แต่งานประจำทางการทูตยังคงดำเนินต่อไป โดยสถานทูตของเราในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.ยังคงเปิดดำเนินการ และทำการติดต่ออย่างต่อเนื่องกับนักการทูตในกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ" เขากล่าว

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2591373

 

ปธน.เม็กซิโกปฏิเสธโครงการสร้างกำแพงกั้นสหรัฐ-เม็กซิโกของทรัมป์ ลั่นไม่จ่ายเงินเพื่อสร้างกำแพง

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2560 15:13:32 น.

นายเอ็นริเก เปนญา นิเอโต ประธานาธิบดีเม็กซิโก กล่าวว่า ประเทศเม็กซิโกปฏิเสธที่จะทำตามการตัดสินใจของสหรัฐ ที่จะสร้างกำแพงกั้นระหว่างชายแดนของทั้งสองประเทศ โดยเม็กซิโก "จะไม่ยอมจ่ายเงินเพื่อสร้างกำแพงใดๆก็ตาม"

 

"ผมรู้สึกเสียใจและขอปฏิเสธการตัดสินใจของสหรัฐในการสร้างกำแพงที่จะทำให้เราแตกแยกกันไปอีกนาน" นายเปนญา นิเอโตล่าวผ่านวิดีโอบนทวิตเตอร์

 

 

 

ท่าทีดังกล่าวของผู้นำเม็กซิโกเกิดขึ้นหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ได้ลงนามในคำสั่งรับรองโครงการสร้างกำแพงกั้นระหว่างเขตแดนของสหรัฐ-เม็กซิโก

 

"เม็กซิโกไม่มีความเชื่อมั่นใดๆในกำแพง และผมก็ได้เน้นย้ำหลายครั้งแล้วว่า เม็กซิโกจะไม่จ่ายเงินเพื่อการสร้างกำแพงใดๆก็ตาม"

 

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเม็กซิโกยังกล่าวว่า การตัดสินใจในขั้นต่อไปของเม็กซิโกจะขึ้นอยู่กับรายงานการประชุมของเจ้าหน้าที่ที่ขณะนี้กำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ในกรุงวอชิงตัน และการปรึกษาหารือร่วมกับวุฒิสมาชิกและที่ประชุมใหญ่ประจำรัฐสภา

 

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดี ให้ดำเนินการสร้างกำแพงกั้นชายแดนระหว่างสหรัฐกับเม็กซิโก เพื่อควบคุมการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและยกระดับความมั่นคงของประเทศ

 

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังลงนามในคำสั่งให้รัฐบาลระงับการมอบเงินช่วยเหลือให้แก่รัฐหรือเมืองต่างๆที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้อพยพผิดกฎหมาย หรือที่เรียกว่า "sanctuary states and cities"

 

โครงการสร้างกำแพงกั้นระหว่างเม็กซิโกและสหรัฐนี้ ถือเป็นหัวใจสำคัญของแคมเปญของทรัมป์ที่กำลังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในขณะนี้ โดยโครงการนี้ได้รับเสียงสนับสนุนจากผู้มีสิทธิ์ออกเสียงชาวอเมริกันที่มีรายได้ต่ำ ที่เชื่อว่าตำแหน่งงานในสหรัฐถูกผู้อพยพจากเม็กซิโกแย่งไป ขณะเดียวกัน ผู้ที่ต่อต้านโครงการนี้กลับมองว่านี่เป็นสัญลักษณ์ของการแบ่งแยกและความเกลียดชังชาติพันธุ์อื่นๆ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ชาญวิทย์ เอี่ยมอุดม/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2591261

 

ทรัมป์เล็งฟื้นบทลงโทษทรมานผู้ก่อการร้าย ลั่นหนามยอกเอาหนามบ่ง

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2560 17:29:56 น.

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ กล่าวว่า เขาเห็นด้วยให้มีการทรมานผู้ก่อการร้าย เพื่อเป็นการตอบโต้กลับด้วยวิธีการทำนองเดียวกัน

 

"ISIS กำลังทำในสิ่งที่ไม่มีใครเคยได้ยินมาตั้งแต่ยุคกลาง ตัวผมเองก็ควรเห็นด้วยกับการจับกรอกน้ำใช่ไหมครับ ผมคิดว่าเราต้องตอบโต้กลับด้วยวิธี "หนามยอกเอาหนามบ่ง" ปธน.สหรัฐเผยในระหว่างให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ ABC

 

 

 

ทรัมป์กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ เขาได้พบกับเจ้าหน้าที่ข่าวกรองอาวุโส ซึ่งเผยกับตนว่าการทรมานได้ผลแน่นอน

 

อย่างไรก็ตาม อำนาจสูงสุดในการตัดสินใจเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับนายเจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐ และนายไมค์ ปอมเปโอ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางของสหรัฐ (CIA) ซึ่งทั้งสองคนได้รับการแต่งตั้งเข้ามาดำรงตำแหน่งในสมัยปธน.ทรัมป์

 

"ถ้าเขาไม่ต้องการแบบนั้นก็ไม่เป็นไร แต่ถ้าต้องการ ผมก็จะดำเนินการไปทางนั้น" ปธน.สหรัฐกล่าว

 

ในขณะที่นายแมททิสเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า เขาไม่เชื่อว่าการทรมานจะได้ผล

ทั้งนี้ จากการที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้เดินหน้าสงครามปราบปราบการก่อการร้าย ทางหน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐจึงได้ตั้งคุกลับสำหรับผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายโดยเฉพาะ และมีข่าวแพร่งพรายว่า นักโทษในคุกมืดแห่งนี้ถูกทรมานสารพัดรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการจับกรอกน้ำ การทำให้อดนอน และการทำร้ายร่างกาย มาตรการดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับประเทศตะวันออกกลาง เป็นเหตุให้ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐและชาติตะวันออกกลางตึงเครียด สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2591353

 

จับตา 8 ก.พ. สภาอังกฤษเตรียมโหวตร่างกฎหมาย Brexit

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 มกราคม 2560 20:11:40 น.

นายเดวิด เดวิส รัฐมนตรีฝ่ายกิจการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ได้ยื่นร่างกฎหมาย Brexit เข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาในวันนี้ โดยร่างกฎหมายดังกล่าวจะส่งผลให้มีการประกาศใช้มาตรา 50 ของสนธิสัญญาลิสบอนของสหภาพยุโรป เพื่อเริ่มต้นกระบวนการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป

 

ทั้งนี้ รัฐสภาจะทำการอภิปรายร่างกฎหมาย Brexit ในวันที่ 31 ม.ค. และหลังจากนั้น จะเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมาธิการในระหว่างวันที่ 6-8 ก.พ.

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq37/2591376

[ginger 11,058]

NationTV22

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

 

ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเยี่ยมและพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดนครศรีธรรมราช และพระราชทานสิ่งของช่วยเหลือครอบครัวสมาชิก TO BE NUMBER ONE

ณ ศูนย์ศิลปาชีพบ้านเนินธัมมัง ต.แม่เจ้าอยู่หัว อ.เชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2560

.

ขอบพระคุณภาพจาก : FB_ส.ปชส. นครศรีธรรมราช

 

NationTV22

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

พักผ่อนท่องเที่ยว เดินทางปลอดภัย สุขสบายใจทั้งครอบครัวนะคะ

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 27 มกราคม 2560 07:44:12 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 ม.ค.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) โดยดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงบริษัทคอมแคสต์ อย่างไรก็ตาม ดัชนี NASDAQ และ S&P500 ปิดตลาดในแดนลบ เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายบ้านใหม่ที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 20,100.91 จุด เพิ่มขึ้น 32.40 จุด หรือ +0.16% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,655.18 จุด ลดลง 1.16 จุด หรือ -0.02% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,296.68 จุด ลดลง 1.69 จุด หรือ -0.07%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร นอกจากนี้ ตลาดยังขานรับข่าวบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสันของสหรัฐ ทุ่มเงินซื้อกิจการบริษัท Actelion ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสวิตเซอร์แลนด์

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 367.50 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 13 เดือน

 

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,867.24 จุด ลดลง 10.43 จุด หรือ -0.21% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,848.63 จุด เพิ่มขึ้น 42.58 จุด หรือ +0.36% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,161.49 จุด ลดลง 2.94 จุด หรือ -0.04%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับลงเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่ผันผวน เนื่องจากบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่เปิดเผยผลประกอบการที่สวนทางกัน ขณะที่ตลาดหุ้นได้ปัจจัยหนุนบางส่วนจากการที่รัฐบาลอังกฤษเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ที่ขยายตัวสูงกว่าคาดการณ์

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 2.94 จุด หรือ -0.04% ปิดที่ 7,161.49 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติปิดเหนือระดับ 20,000 จุดติดต่อกัน 2 วันทำการ ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและอุปสงค์พลังงาน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการปรับลดกำลังการผลิต

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 53.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 56.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) เนื่องจากภาวะการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ การที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นทะลุแนวต้านที่ระดับ 20,000 จุดติดต่อกัน 2 วันทำการนั้น ยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ระดับ 1,189.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 13 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 16.85 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดทรงตัวที่ระดับ 981.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 11.65 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 724.45 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) ด้วยปัจจัยบวกจากการที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นเหนือระดับ 20,000 จุดติดต่อกัน 2 วันทำการ ขานรับผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง

 

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0695 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0729 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์อ่อนค่าลงแตะ 1.2600 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2623 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลีย อ่อนค่าลง ที่ระดับ 0.7546 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7551 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 114.41 เยน จากระดับ 113.80 เยน แต่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9992 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0011 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,296.68 จุด ลดลง 1.69 จุด, -0.07%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,655.18 จุด ลดลง 1.16 จุด, -0.02%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 20,100.91 จุด เพิ่มขึ้น 32.40 จุด, +0.16%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,867.24 จุด ลดลง 10.43 จุด, -0.21%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,848.63 จุด เพิ่มขึ้น 42.58 จุด, +0.36%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,161.49 จุด ลดลง 2.94 จุด, -0.04%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,692.22 จุด เพิ่มขึ้น 8.29 จุด, +0.49%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,051.78 จุด เพิ่มขึ้น 11.84 จุด, +0.39%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,317.63 จุด เพิ่มขึ้น 23.85 จุด, +0.45%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,374.17 จุด เพิ่มขึ้น 325.05 จุด, +1.41%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,332.64 จุด เพิ่มขึ้น 9.28 จุด, +0.13%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,155.97 จุด เพิ่มขึ้น 6.41 จุด, +0.20%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,083.59 จุด เพิ่มขึ้น 16.65 จุด, +0.81%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,402.39 จุด เพิ่มขึ้น 344.89 จุด, +1.81%

 

*ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการวันที่ 26 ม.ค.เนื่องในวันชาติ

*ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดทำการวันที่ 26 ม.ค.เนื่องในวันชาติ

*ตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการวันที่ 26 ม.ค.เนื่องในเทศกาลตรุษจีน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2591509

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็ง ฉุดทองคำปิดร่วง 8 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 27 มกราคม 2560 07:29:44 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) เนื่องจากภาวะการซื้อขายในตลาดได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ การที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นทะลุแนวต้านที่ระดับ 20,000 จุดติดต่อกัน 2 วันทำการนั้น ยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

 

 

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 8 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ระดับ 1,189.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 13 เซนต์ หรือ 0.77% ปิดที่ 16.85 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดทรงตัวที่ระดับ 981.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 11.65 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 724.45 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งติดตามความเคลื่อนของสกุลดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบ 6 สกุลเงินหลัก ปรับตัวขึ้น 0.48% แตะที่ 100.40 เมื่อคืนนี้ ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ

 

นอกจากนี้ การที่ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 20,000 จุดติดต่อกัน 2 วันทำการ ยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยงที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า

 

ขณะที่ข้อมูลภาคบริการที่สดใสของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำเช่นกัน โดยบริษัทไอเอชเอส มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐ ดีดตัวสู่ระดับ 55.1 ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2015 หลังจากอยู่ที่ระดับ 53.9 ในเดือนธ.ค.

 

ทั้งนี้ ดัชนียังคงอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการ

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2591414

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก $1.03 หลังดาวโจนส์พุ่งหนุนความเชื่อมั่น

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 27 มกราคม 2560 07:09:23 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (26 ม.ค.) หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติปิดเหนือระดับ 20,000 จุดติดต่อกัน 2 วันทำการ ซึ่งช่วยหนุนความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและอุปสงค์พลังงาน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการปรับลดกำลังการผลิต

 

 

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.03 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 53.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.16 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 56.24 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นขานรับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ทะยานขึ้นเหนือแนวต้านทางจิตวิทยาที่ระดับ 20,000 จุดติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ ซึ่งช่วยให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจและอุปสงค์พลังงานในสหรัฐ

 

นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการปรับลดกำลังการผลิต โดยรัฐมนตรีกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และประเทศนอกกลุ่มโอเปก ระบุว่า ขณะนี้ ประเทศผู้ผลิตน้ำมันสามารถลดการผลิตน้ำมันจำนวน 1.5 ล้านบาร์เรล/วัน ใกล้เคียงกับระดับ 1.8 ล้านบาร์เรล/วันที่ตกลงกันไว้

 

ทางด้านอิรักได้ปรับลดการผลิตน้ำมันลง 180,000 บาร์เรลต่อวัน และคาดว่าจะปรับลดลงอีก 30,000 บาร์เรลต่อวันภายในสิ้นเดือนนี้

 

ทั้งนี้ ความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐและความคืบหน้าด้านบวกจากกลุ่มผู้ผลิตน้ำมัน ได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว โดยตัวเลขดังกล่าวสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ และใกล้เคียงกับตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบที่สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) เปิดเผยเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq35/2591400

 

ปตท.สผ.โกยกำไร1.3หมื่นล.บอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลเพิ่ม

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- ศุกร์ที่ 27 มกราคม 2560 00:00:56 น.

วิภาวดีรังสิต * ปตท.สผ. ฟุ้งปี 2559 กำไรสุทธิรวมเฉียด 1.29 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.79 บาท พลิกจากปีก่อนขาดทุนกว่า 3.15 หมื่นล้านบาท ด้านคณะกรรมการอนุมัติจ่ายเงินปันผลหุ้นละ 2.50 บาท ในวันที่ 10 เม.ย.60

 

นายสมพร ว่องวุฒิพรชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. (PTTEP) บริษัทกำไรสุทธิ 12,859.72 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.79 บาท เทียบ กับงวดเดียวกันของปีก่อนขาด ทุนสุทธิ 31,590.49 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 8.24 บาท

 

 

 

โดยในปี 2559 มีรายได้รวม 4,339 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 152,745 ล้านบาท ลดลง 1,275 ล้านดอลลาร์ หรือ 23% เมื่อเทียบกับปี 2558 ซึ่งมีรายได้รวม 5,614 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 191,908 ล้านบาท

 

ขณะที่มีค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น 3,711 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 131,019 ล้านบาทลดลง 2,239 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 38%

 

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสม ในอัตรา หุ้นละ 2.50 บาท กำหนดจ่ายในวันที่ 10 เม.ย.60

 

นายสมพรกล่าวว่า ด้าน การลงทุนซึ่งจะช่วยเพิ่มปริมาณสำรองปิโตรเลียมและปริมาณการผลิตให้กับ ปตท.สผ. ในอนาคตนั้น ปตท.สผ. ยังคงให้ความสำคัญที่จะเร่งรัดพัฒนาโครงการที่ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างรอการตัดสินใจได้แก่ แหล่งอุบล ในโครงการคอนแทร็ค 4 โครง การโมซัมบิก โรวูมา ออฟชอร์ แอเรีย วัน และโครงการแอลจี เรีย ฮาสสิ เบอร์ ราเคซ

 

นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นที่จะรักษาระดับการผลิตของโครงการในประเทศไทย คาดว่าปริมาณการขายปิโตรเลียมเฉลี่ยของปี 2560 อยู่ที่ประมาณ 312,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน รวมในขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันดิบในครึ่งปีแรกของปี 2560 ปตท.สผ. ยังคงมองว่าน่าจะอยู่ในช่วง 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล สูงขึ้นกว่าปีที่แล้ว.

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/tpd/2591429

 

ดอยซ์แบงก์เตือนปอนด์สูญเสียสถานะสกุลเงินในทุนสำรองระดับโลกจากปัจจัย Brexit

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 27 มกราคม 2560 01:15:53 น.

รายงานการวิจัยครั้งใหม่ของดอยซ์แบงก์ระบุว่า ปอนด์จะสูญเสียสถานะการเป็นสกุลเงินในทุนสำรองระดับโลก ทันทีที่สหราชอาณาจักรแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

 

การสูญเสียสถานะดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสหราชอาณาจักร เนื่องจากต้องพึ่งพาสถานะที่แข็งแกร่งของปอนด์ในการเป็นทุนสำรอง และการไหลเข้าของเงินทุน เพื่อช่วยลดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด

 

 

 

ทั้งนี้ ปอนด์ได้สูญเสียสัดส่วนการเป็นสกุลเงินในทุนสำรองเงินตราทางการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา และมีแนวโน้มลดลงต่อไป ขณะที่บทบาทของอังกฤษในเศรษฐกิจโลกได้ลดลงนอกภูมิภาคสหภาพยุโรป

 

รายงานระบุว่า มูลค่าของปอนด์ในการเป็นสกุลเงินในทุนสำรองเงินตราทางการของ IMF ได้ลดลงถึงครึ่งหนึ่งนับตั้งแต่ปี 2015 โดยร่วงลงจากระดับ 15% สู่ระดับต่ำกว่า 10%

 

รายงานบ่งชี้ว่า สัดส่วนของปอนด์ในทุนสำรองเงินตราทางการของ IMF อยู่ที่ระดับ 5% ในขณะนี้ เทียบกับ 20% ของยูโร และ 63% ของดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่สัดส่วนของ ปอนด์มีแนวโน้มลดลงต่อไป จากการที่หยวนมีบทบาทในการเป็นสกุลเงินในทุนสำรองทางการของ IMF นับตั้งแต่ปี 2015

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2591392

 

ประธานกรรมาธิการเศรษฐกิจ EU เตือนอังกฤษถูกกระทบมากขึ้นในปีนี้,ปีหน้าจาก Brexit

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 27 มกราคม 2560 00:48:56 น.

นายปิแอร์ มอสโควิซี ประธานกรรมาธิการเศรษฐกิจของสหภาพยุโรป (EU) ระบุเตือนในวันนี้ว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะได้รับผลกระทบมากขึ้นในปีนี้ และปีหน้าจากความไม่แน่นอนที่เกิดจากการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit)

 

อย่างไรก็ดี นายมอสโควิซียอมรับว่า ที่ผ่านมา อังกฤษได้ปรับตัวดีกว่าที่คาดไว้ นับตั้งแต่ที่มีการจัดการลงประชามติแยกตัวจาก EU

 

คำกล่าวของนายมอสโควิซีได้สอดคล้องกับการคาดการณ์ของคณะกรรมาธิการยุโรปก่อนหน้านี้ ที่ระบุว่าเศรษฐกิจอังกฤษจะมีการขยายตัวลดลงครึ่งหนึ่งในปีนี้

 

ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการยุโรปคาดการณ์ในเดือนพ.ย.ปีที่แล้วว่า เศรษฐกิจอังกฤษจะมีการขยายตัว 1.9% ในปี 2016 และการขยายตัวจะลดลงเกือบครึ่งหนึ่งในปี 2017 สู่ระดับ 1.0% ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนพ.ค.ปีที่แล้วที่ระดับ 1.9%

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ โทร.02-2535000 อีเมล์: kongkiat.k@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2591391

 

คอลัมน์: กลยุทธ์พิชิตหุ้น: ต่างชาติกลับลำ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ -- ศุกร์ที่ 27 มกราคม 2560 00:00:59 น.

ธวัชชัย ฐิติวณิชภิวงศ์

ในที่สุดยังไม่ทันสิ้นเดือนแรกของปีไก่ 2560 ดัชนีตลาดหุ้นไทยก็มีการพุ่งขึ้นทดสอบระดับ 1,600 จุด โดยวานนี้ (26 ม.ค.60) ดัชนีตลาดมีการขยับขึ้นไปทดสอบ 1,600.79 จุด แต่ยังไม่พร้อมที่จะยืนเหนือ 1,600 จุดทันที แน่นอนว่าต้องถูกนักเก็งกำไรกดดันลงมา เพราะเหมือนเป็นการกระโดดค้ำถ่อ ยังไม่สามารถยืนในระดับสูงได้ทันที ต้องมีการขยับปรับฐานไปอีกระยะหนึ่ง แต่การโชว์การพุ่งขึ้นไป 1,600 จุด ย่อมมีความหมาย เพราะเป็นการบอกให้รู้ว่าตลาดพร้อมที่จะขึ้นไปยืนในระดับดังกล่าวได้ในอนาคตอันใกล้

 

 

 

หากมองตามการเก็งกำไรในตลาดโลก ก็บอกไว้ว่าในเมื่อดาวโจนส์ก็ได้ขึ้นมาทดสอบระดับ 20,000 จุดได้ ตลาดหุ้นไทยก็ย่อมจะทดสอบ 1,600 จุดได้เช่นกัน เพราะเมื่อมาดูปัจจัยพื้นฐานที่ดีของไทยในปัจจุบัน บอกได้เลยว่า ดีกว่าสหรัฐมาก เพราะไทยยังคงใช้นโยบายค้ากับทุกประเทศ และไม่มีการกีดกันทางการค้าหากตลาดสหรัฐมีปัญหาก็ย่อมจะเจาะหาตลาดใหม่ได้ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียด้วยกันก็มีทั้งจีน อินเดียเป็นตลาดใหญ่ที่จะรองรับการค้าของไทยได้ไม่ยาก จึงไม่จำเป็นต้องผูกติดกับตลาดสหรัฐมากจนเกินไป

 

และได้บอกกันมาตลอดเวลาว่าไทยมีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีมาก มีเงินสำรองระหว่างประเทศสูง และล่าสุดการส่งออกก็พลิกกลับมาเป็นบวกได้แล้ว ยิ่งดูที่ดุลการค้าที่ไทยเกินดุลในปีกลายกว่า 7 แสนล้านบาท เท่ากับมีผลกำไรจากการค้ากับต่างประเทศมากมหาศาล ยิ่งทำให้ฐานะทางการเงินของไทยแข็งแกร่งมาก ทำให้นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนทุกตลาดสบายใจได้ว่าจะสามารถนำเงินกลับออกไปได้อย่างสะดวกตลอดเวลา และอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินของไทยก็ค่อนข้างมั่นคง ความเสี่ยงในการเข้ามาลงทุนก็ย่อมมีน้อยกว่าประเทศที่มีพื้นฐานอ่อนแอกว่า

 

ยิ่งขณะนี้มีการรายงานผลกำไรของปี 2559 ออกมา พบว่าธุรกิจส่วนมากมีกำไรเพิ่มมากขึ้น ทำให้การลงทุนจะได้ความคุ้มค่ามากขึ้น จึงทำให้นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นในช่วงต้นปีต้องกลับมาทบทวนการลงทุนใหม่ วานนี้จะพบว่านักลงทุนต่างชาติกลับลำกลับมาซื้อหุ้นอย่างหักโหมทันที โดยซื้อมากถึง 3,203.04 ล้านบาท ไม่ธรรมดาเลย มีผลให้ตลาดคึกคักมาก วอลุ่มหนาถึง 71,571.82 ล้านบาท ก็ได้แต่บอกว่าให้ทยอยลุ้นลงทุนต่อไป

 

ส่วนกลุ่มหุ้นที่น่ามองในกลุ่มพลังงาน ในเมื่อราคาน้ำมันสูง ธุรกิจมีกำไรดีแน่นอน ควรมองที่ TOP, BANPU และ SPRC กลุ่มวัสดุก่อ สร้างยังเติบโตสูงในปีนี้ จึงควรมองที่ SCC, TASCO และ EPG กลุ่มรับเหมาก่อสร้างยังมีราคาหุ้นไม่สูง แต่จะมีงานมากในปีนี้ จึงควรดูที่ SEAFCO, TPOLY และ UNIQ กลุ่มอสังหาฯ ยืนยันว่าธุรกิจปีนี้จะโตมากขึ้น จึงควรมองที่ LPN, SIRI และ SPALI ต่อไป หุ้นรายตัวที่เตะตามี CSS, KTB และ TWPC เป็นต้นศุกร์สุดสัปดาห์วันนี้เป็นวันตรุษจีน ตลาดอาจซึมลงบ้าง แต่คงไม่เงียบเหงา เพราะวอลุ่มยังหนามาก จึงน่าจะมีหุ้นไว้ในมือต่อไป.

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/tpd/2591431

[meng166 131]

:01

[jainu 37]

:01

เฮง เฮง รวย รวย ตลอดทั้งปีนะค่ะ คุณginger

[wann 334]

-

ถูกแก้ไข มกราคม 28, 2017 โดย wann

[ginger 11,058]

 

 

 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงร่วมงานตรุษจีนเยาวราช 2559

 

---

เครดิต : เรารักราชวงศ์จักรี "We love Chakri Dynasty"

 

 

 

 

 

เมื่อวันศุกร์ที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๐ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานภาพวาดฝีพระหัตถ์ รูปไก่มงคล สุขสันต์วันตรุษจีน พร้อม ดอกโบตั๋นร่ำรวย

 

ขอบคุณภาพ.ทวิตเตอร์ @pakapong_report

 

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

(ช่วงเช้า) ประชาชนต่างเดินแถวเป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อเข้ากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ถึงแม้อากาศจะร้อนสักปานใดก็ตาม เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2560

ภาพ อนันต์ จันทรสูตร์ (Anant Chantarasoot)

[ginger 11,058]

-

 

:01

เฮง เฮง รวย รวย ตลอดทั้งปีนะค่ะ คุณginger

ขอบคุณจ้า wannnn Jainu .... ....

เพื่อนพี่น้อง ทุกท่าน ... ... ...

 

 

 

 

อวยพรตรุษจีน 2017

อวยพรตรุษจีน 2017

 

YOUTUBE.COM

===

 

HSHsocial

 

ราคาทองคำวันนี้ 30 ม.ค. 60

http://bit.ly/2kJhy2f

 

 

 

ปฏิทินเศรษฐกิจ

บริษัทออสสิริส ค้าทองคำแท่ง เทรดทองคำแท่งออนไลน์ ราคาทองวันนี้

AUSIRIS.CO.TH

 

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า30-JAN-2017

 

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า30-JAN-2017

 

AUSIRIS.CO.TH

 

 

 

HSHsoci

 

 

NOW26

 

 

NOW26

 

• 
  

ถูกแก้ไข มกราคม 30, 2017 โดย ginger