ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

จากกราฟที่ให้มา ขอถามคุณmoddang. คุณnews หน่อยน่ะครับว่าโอกาสที่จะเห็นราคา1790-1799น้อยมากแล้วใช่ไหมครับหรือราคาจะยืนอยู่บริเวณนี้เป็นไปได้สูง??

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures Insight

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 31 สิงหาคม 2554 11:59:25 น.

กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

คำแนะนำการลงทุน Gold Futures

DAY TRADER

GFV11 ซื้อในช่วงราคา 26020 — 26150 ขายในช่วงราคา 26440 — 26580

GFZ11 ซื้อในช่วงราคา 26170 — 26360 ขายในช่วงราคา 26610 — 26730

SWING TRADER

 

ทิศทางราคาทองคำเริ่มเข้าสู่ภาวะขาขึ้นอีกครั้ง แนวรับอยู่ที่ระดับ1820เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ1850เหรียญ นักลงทุนรายวัน เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวอยู่ในช่วง1820-1850เหรียญ นักลงทุนรายสัปดาห์ เข้าช้อนซื้อจากเมื่อวานนี้ 30% และยังคงเข้าช้อนซื้ออย่างต่อเนื่องเมื่อราคาอ่อนตัวเนื่องจากมีสัญญาณซื้อ ถือครองพอร์ทเพิ่มขึ้นเป็น 40%

 

GFV11 รอเข้าซื้อที่ระดับ 26370 รอขายที่ระดับ 26550

ปัจจัยสำคัญ

High Light สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนิวยอร์ก ไมอามี และบอสตัน ปรับตัวลดลง 0.1% เมื่อเทียบเป็นเดือน ในเดือนมิ.ย. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัวจากระดับของเดือนพ.ค. และหากเทียบเป็นรายปีพบว่า ราคาบ้านร่วงลง 4.5%

 

คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระชั้นนำระดับโลกเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 44.5 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2552 จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 59.2 จุด เนื่องจากชาวอเมริกันวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มรายได้และการจ้างงาน

 

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการคลังของยุโรป หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลอิตาลีสามารถประมูลขายพันธบัตรได้น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวผันผวนหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในการประชุมเดือนก.ย.

 

GOLD Market Recap : 30/08/2011

MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,795 $ ส่วน Gold Future Q11 เปิดที่ 25,550 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 25,600 บาท โดยเปิดลดลง 250 บาท ตลาดทองคำ ( ราคาต่างประเทศ ) อยู่ในทิศทางปรับฐาน และค่าเงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 30.12 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สำหรับในช่วงเช้าราคาทองคำวิ่งในทิศทาง Side Way โดยวิ่งในกรอบแคบๆที่ระดับ 1,796-1,791 เหรียญ ช่วงบ่ายราคาทองคำยังคงวิ่งในทิศทาง Side Way Down โดยวิ่งในกรอบ 1,781-1,799 เหรียญ Gold Future Q11 ประกาศราคา Final Settlement Price ที่ 25,560.18 บาท ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำแท่งมีการปรับขึ้นระหว่างวัน 1 ครั้ง โดยปิดลดลง 50 บาท ที่ระดับ 25,550 บาท โดยที่ตลอดทั้งวันนักลงทุนซื้อขายกันอย่างระมัดระวังเนื่องจากราคาทองคำวิ่งในลักษณะ Side Way Down

 

NIGHT RECAP : ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1796 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1784 - 1799 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1796 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1800 — 1840 เหรียญ และกลับมาปิดตลาดที่ 1829 เหรียญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีตลาดรวมต่างประเทศ เงิน ทอง โลหะ น้ำมัน ตลาดหุ้น โภคภัณฑ์ เรือขนส่ง

การเงิน-หลักทรัพย์ - ตลาดหลักทรัพย์

Wednesday, 31 August 2011 08:44

Share this

Twitter Yahoo Googlize this Facebook

Hear this text

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์ค : ดาวโจนส์ปิดบวก 0.18% หลังเผยรายงานประชุมเฟด

 

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในการซื้อขายที่ผันผวนหลังรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะดำเนินการอีกครั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

 

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 20.70 จุดหรือ 0.18% สู่ 11,559.95, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 2.84 จุดหรือ 0.23% สู่ 1,212.92และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 14.00 จุดหรือ 0.55% สู่ 2,576.11

 

ปริมาณการซื้อขายเบาบางราว 7.2 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค, ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaqซึ่งต่ำกว่าปริมาณเฉลี่ยต่อวันของปีที่แล้วที่ 8.47 พันล้านหุ้น โดยมีหุ้นบวกนำหน้าหุ้นลบประมาณ 19 ต่อ 11 ในตลาดนิวยอร์คและ 13 ต่อ 12 ในตลาด Nasdaq

 

ตลาดร่วงลงมากถึง 1% ในช่วงเช้าหลัง Conference Boardเปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงในเดือนส.ค.สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากความขัดแย้งทางการเมืองเกี่ยวกับข้อตกลงด้านงบประมาณ

 

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า ราคาบ้านเดี่ยวในสหรัฐลดลงเล็กน้อยในเดือนมิ.ย. (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค : น้ำมันดิบพุ่งขึ้น 1.63 ดอลล์,จับตาพายุแคเทีย

 

ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน และปิดตลาดที่ระดับปิดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันอังคาร ในขณะที่นักลงทุนจับตาดูพายุโซนร้อนแคเทีย และรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 9 ส.ค.ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดอาจจจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

 

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนต.ค.ทะยานขึ้น 1.63 ดอลลาร์ หรือ 1.87 % มาปิดตลาดที่ 88.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 86.46-89.21 ดอลลาร์ โดยระดับปิดวันอังคารถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ปิดที่ 91.93 ดอลลาร์ ในวันที่ 3 ส.ค. ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนทะยานขึ้น 2.14 ดอลลาร์ หรือ 1.91 % สู่ 114.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 111.16-114.25 ดอลลาร์

 

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า พายุโซนร้อนแคเทียกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 18 ไมล์ต่อชั่วโมง (30กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และอาจจะกลายเป็นพายุเฮอริเคนในช่วงเย็นวันพุธหรือเช้าวันพฤหัสบดี และจะกลายเป็นพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่เกาะลีเวิร์ดภายในวันอาทิตย์นี้ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ขณะนี้การคาดการณ์เส้นทางที่แน่นอนของพายุแคเทียเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกระทำได้

 

โพลล์รอยเตอร์คาดว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะผลิตน้ำมันเฉลี่ยราว 30.15 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนส.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี และเพิ่มขึ้นจากระดับ 30.07 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค.

 

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 ส.ค.ในวันพุธนี้

 

การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานหลังจากตลาดปิดทำการในวันอังคารว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว,สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 276,000 บาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 2.1 % (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค : ตัวเลขศก.อ่อนแอหนุนทองปิดพุ่งขึ้น 2%

 

ราคาทองที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 2 % ในวันอังคาร โดยไดรับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อยู่ในระดับอ่อนแอในสหรัฐ, จากความกังวลเรื่องหนี้ยูโรโซน และจากการที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกกล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐมากยิ่งขึ้น

 

ราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดสหรัฐปิดตลาดพุ่งขึ้น 2.1 % หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,786.20-1,839.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ราคาทองพุ่งขึ้นมาแล้ว 8 % ในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดในวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งช่วยกระตุ้นการ คาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจดำเนินมาตรการใหม่ในการกระตุ้นตลาด

 

ราคาทองได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 9 ส.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเฟดพิจารณาทางเลือกหลายทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการเชื่อมโยงแนวโน้มในนโยบายอัตราดอกเบี้ยเข้ากับอัตราการว่างงานที่เฉพาะเจาะจง

 

สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันอังคารมีดังต่อไปนี้

 

ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)

 

ทองเดือนธ.ค. 1,829.80 + 38.20

 

เงินเดือนก.ย. 41.398 + 85.20 (เซนต์)

 

พลาตินั่มเดือนต.ค. 1,853.10 + 28.10

 

พัลลาเดียมเดือนก.ย. 777.05 + 23.10 (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดเงินนิวยอร์ค : ยูโรร่วงหลังปัจจัยลบกระตุ้นนักลงทุนเลี่ยงความเสี่ยง

 

ยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆในวันอังคาร ขณะที่ปัจจัยลบต่างๆ อาทิ ความขัดแย้งเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือกรีซและความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่ร่วงลง ส่งผลกระทบต่อความต้องการเสี่ยง

 

ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 76.670 เยน เทียบกับระดับปิดวันจันทร์ที่ 76.830 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4463 ดอลลาร์ และ 110.89 เยน เทียบกับระดับปิดวันจันทร์ที่ 1.4508 ดอลลาร์ และ 111.50 เยน

 

ความวิตกเกี่ยวกับหนี้ยูโรโซนส่งผลกระทบต่อยุโรป ขณะที่ฟินแลนด์เสนอว่า กรีซจะต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับความช่วยเหลือเพิ่มขึ้น และส่งผลให้มีข้อเรียกร้องเดียวกันจากออสเตรีย, เนเธอร์แลนด์, สโลวีเนีย และสโลวาเกีย

 

ยูโรลดช่วงติดลบลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนส.ค.บ่งชี้ว่า กรรมการเฟดบางคนต้องการดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับเยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์และเยน โดยผลการประมูลพันธบัตรที่ซบเซาของอิตาลี, ความเห็นของนายฌอง คล็อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และรายงานความเชื่อมั่นที่อ่อนแอในยูโรโซนถ่วงยูโรลง

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนส.ค.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 75,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังเพิ่มขึ้น 117,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. (รอยเตอร์)

 

 

ตลาดเงิน Emerging Asia : วอน,ริงกิตแข็งค่า เก็งเฟดออกมาตรการกระตุ้น

 

วอนและริงกิตดีดตัวขึ้น ขณะที่กลุ่มนักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์เพิ่มสัดส่วนการถือครองเงินเอเชียส่วนใหญ่ ท่ามกลางดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณ

 

ว่าอาจจะออกมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

 

วอนแข็งค่าขึ้นขณะที่กลุ่มนักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์ขายดอลลาร์ และจากอุปสงค์ของนักลงทุนในต่างประเทศ

 

ดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนค่าลง สวนกระแสเงินเอเชียที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่กลุ่ม leveraged account และกลุ่มนักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์ซื้อคืนดอลลาร์ก่อนวันหยุด นักลงทุนหลายคนคาดว่าธนาคารกลางสิงคโปร์เข้าซื้อคืนดอลลาร์ด้วย ขณะที่คนอื่นๆปฏิเสธจความเป็นไปได้ดังกล่าว

 

บาท/ดอลลาร์ภาคบ่ายยังแกว่งตัวในกรอบแคบ หลังตลาดขาดปัจจัยชัดเจนเข้ามาชี้นำ ขณะที่การปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทย ทำให้เงินบาทแกว่งไปในทางอ่อนค่าบ้างเล็กน้อย บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 30.00/05 จาก 29.97/30.02 ช่วงเช้า ขณะที่ในตลาด offshore อยู่ที่ 30.01/04 จาก29.98/99 ช่วงเช้า (รอยเตอร์)

 

 

 

ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index)

ปิดวานนี้ (30 ส.ค.) ลบ 4 จุด หรือ 0.26% สู่ระดับ 1537

 

ระดับสูงสุดของปีนี้อยู่ที่ 1693 และระดับต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 1043

 

ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554

 

ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-

 

วันที่ ระดับปิด เปลี่ยนแปลง (จุด)

 

29 ส.ค. ตลาดปิดทำการวันหยุด

 

26 ส.ค. 1541 -41

 

25 ส.ค. 1582 -20

 

24 ส.ค. 1602 +37

 

23 ส.ค. 1565 +50 (รอยเตอร์)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จากกราฟที่ให้มา ขอถามคุณmoddang. คุณnews หน่อยน่ะครับว่าโอกาสที่จะเห็นราคา1790-1799น้อยมากแล้วใช่ไหมครับหรือราคาจะยืนอยู่บริเวณนี้เป็นไปได้สูง??

 

2-3 วันนี้คนซื้อทองเพิ่มขึ้น กองทุนก็ซื้อกลับแล้ว

 

ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค : ตัวเลขศก.อ่อนแอหนุนทองปิดพุ่งขึ้น 2%

 

ราคาทองที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 2 % ในวันอังคาร โดยไดรับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อยู่ในระดับอ่อนแอในสหรัฐ, จากความกังวลเรื่องหนี้ยูโรโซน และจากการที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกกล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐมากยิ่งขึ้น

 

ราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดสหรัฐปิดตลาดพุ่งขึ้น 2.1 % หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,786.20-1,839.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ราคาทองพุ่งขึ้นมาแล้ว 8 % ในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดในวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งช่วยกระตุ้นการ คาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจดำเนินมาตรการใหม่ในการกระตุ้นตลาด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับคุณgingerสำหรับข้อมูลคือจะสะสมเพิ่มแต่ยังมีความขยาดกับเหตสึนามิที่ลง200$(กลัวมันมารอบสอง)หาจังหวะเก็บหรือระบายของเก่าก่อนแต่สุดท้ายมันก็ต้องขึ้น100%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับคุณgingerสำหรับข้อมูลคือจะสะสมเพิ่มแต่ยังมีความขยาดกับเหตสึนามิที่ลง200$(กลัวมันมารอบสอง)หาจังหวะเก็บหรือระบายของเก่าก่อนแต่สุดท้ายมันก็ต้องขึ้น100%

 

ขึ้นไป40 เหรียญ อาจมีขายกันบ้าง ในบ้านเรา

 

ขอโทษ เพิ่งได้เปิด com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Asia Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียประจำวันที่ 31 สิงหาคม 2554

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 31 สิงหาคม 2554 15:42:06 น.

ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ นำโดยแรงซื้อหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ ที่ยังคงได้รับอานิสงส์จากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ Hon Hai Precision Industries ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ให้กับบริษัทแอปเปิล

 

ดัชนีเวทเต็ดบวก 95.17 จุด หรือ 1.24% ปิดที่ 7,741.36 จุด

-- ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้ขยับขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและแดนลบตลอดทั้งวัน

 

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ปิดบวก 27.30 จุด หรือ 0.6% ปิดที่ 4,296.5 จุด

-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดบวกในวันนี้ (31 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินอีกในการประชุมครั้งหน้า แต่นิกเกอิปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนส.ค.ของสหรัฐร่วงลงอย่างหนัก

 

ดัชนีนิกเกอิปิดบวก 1.30 จุด หรือ 0.01% แตะที่ 8,955.20 จุด

-- ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดตลาดพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในภูมิภาคที่ปิดเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในการประชุมครั้งต่อไป

 

ดัชนี VN บวก 5.54 จุด หรือ 1.30% ปิดที่ 424.71 จุด

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดเพิ่มขึ้นในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมีความหวังว่าสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่

 

ดัชนีคอมโพสิตปิดเพิ่มขึ้น 36.29 จุด หรือ 1.97% แตะที่ 1,880.11 จุด

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหลักทรัพย์ลาวปิดปรับตัวลดลงในวันนี้

ดัชนี LSX Composite Index ปิดลดลง 5.76 จุด หรือ 0.57% ที่ระดับ 998.78 จุด

-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่า การควบคุมสินเชื่ออย่างเข้มงวดมากขึ้นจะส่งผลกระทบต่ออัตราการขยายตัวของรายได้ ประกอบกับได้รับปัจจัยลบจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่อ่อนตัวลง

 

ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดขยับขึ้น 0.75 จุด หรือ 0.03% ปิดที่ 2,567.34 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นบวก 53.03 จุด

 

-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดพุ่งสูงขึ้นในวันนี้ ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ปิดปรับตัวในแดนบวกขานรับกระคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินอีกในการประชุมครั้งหน้า

 

ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 330.68 จุด หรือ 1.64% ปิดที่ 20,534.85 จุด

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำวันนี้

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 31 สิงหาคม 2554 14:20:39 น.

กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

ข้อมูลทองคำวันนี้

- ราคาสมาคม เปิดที่ 25,950-26,050

- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,833

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 29.99-30.02

- GFQ11 Hi- Low 25,810-25,330 ปิดที่ 25,560.18

Gold & Silver Insight

สัญญาทองคำ และ โลหะเงินตลาด COMEX ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 38.20 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 1,829.80 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 85.2 เซนต์ ปิดที่ 41.398 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากสหรัฐและยุโรปเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้กระตุ้นให้นักลงทุนแห่ซื้อทองเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในการประชุมเดือนก.ย.

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 20.70 จุด หรือ 0.18% แตะระดับ 11,559.95 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 2.84 จุด หรือ 0.23% แตะที่ 1,212.92 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 14.00 จุด หรือ 0.55% แตะที่ 2,576.11 จุด หลังจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า คณะกรรมการเฟดได้หารือกันเกี่ยวกับขอบข่ายการใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรครั้งใหม่ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดว่าเฟดอาจจะประกาศใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจครั้งใหม่ในการประชุมเดือนก.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นในกรอบจำกัด เพราะได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ลดลงมาอย่างมาก

 

สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดบวก 1.63 ดอลลาร์ หรือ 1.87% แตะที่ 88.90 ดอลลาร์/บาร์เรล เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่าพายุโซนร้อน "เคเทีย" ได้ก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแอตแลนติกและคาดว่าจะทวีความรุนแรงจนกลายเป็นพายุเฮอริเคนในช่วงเย็นวันพุธ ขณะเดียวกันมีการคาดการณ์ว่าพายุเคเทียอาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันของสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ในการประชุมเดือนก.ย.นี้

 

กองทุน SPDR Gold Trust กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 31 สิงหาคม ซื้อเข้า 1.51ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1230.8ตัน เข้าสู่ระดับ 1232.31ตัน

 

USD/EU ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการคลังของยุโรป หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลอิตาลีสามารถประมูลขายพันธบัตรได้น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวผันผวนหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในการประชุมเดือนก.ย.ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.31% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.4463 ดอลลาร์ต่อยูโร จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.4508 ดอลลาร์ต่อยูโร โดยค่าเงินดอลล่าร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 1.4427 ดอลล่าร์ต่อยูโร

 

USD/JPY ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ 0.21% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.670 เยนต่อดอลล่าร์ จากระดับ 76.830 เยนต่อดอลล่าร์ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 76.63 เยนต่อดอลลาร์

 

USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดวานนี้ อยู่ที่ระดับ 30.01-30.04 บาทต่อดอลล่าร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักระหว่างวัน โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 29.99-30.02บาทต่อดอลล่าร์

 

ข่าวเศรษฐกิจโลก

- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนิวยอร์ก ไมอามี และบอสตัน ปรับตัวลดลง 0.1% เมื่อเทียบเป็นเดือน ในเดือนมิ.ย. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัวจากระดับของเดือนพ.ค. และหากเทียบเป็นรายปีพบว่า ราคาบ้านร่วงลง 4.5% อย่างไรก็ตาม เดวิด บลิทเซอร์ ประธานคณะกรรมการฝ่ายจัดทำดัชนีราคาบ้านของสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ ระบุว่า แม้ราคาบ้านปรับตัวลดลงในเดือนมิ.ย. แต่ในไตรมาส 2 ปีนี้ ราคาบ้านปรับตัวสูงขึ้น 3.6% ซึ่งฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลง 4.1% ในไตรมาสแรก ซึ่งส่งสัญญาณถึงการฟื้นตัวของราคาบ้าน นอกจากนี้ ยังไม่พบว่ามีเมืองใดที่รายงานว่าราคาบ้านร่วงลงต่ำสุดในเดือนมิ.ย.บลิทเซอร์กล่าวว่า ราคาบ้านใน 19 เมืองจากทั้ง 20 เมืองที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ได้ทำการสำรวจนั้น ปรับตัวสูงขึ้นในเดือนมิ.ย. ขณะเดียวกันมีรายงานว่าราคาบ้านใน 12 เมืองปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน

 

- คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระชั้นนำระดับโลกเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 44.5 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2552 จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 59.2 จุด เนื่องจากชาวอเมริกันวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มรายได้และการจ้างงาน ลินน์ ฟรังโค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเพื่อผู้บริโภคของคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด กล่าวว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐถดถอยลงอย่างมากในเดือนส.ค. เนื่องจากผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นลบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะสั้นของสหรัฐ ซึ่งส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะการอภิปรายเรื่องเพดานหนี้ที่ยืดเยื้อยาวนานในรัฐสภาสหรัฐ และความหวั่นวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐลงจากระดับ AAA

 

- คณะกรรมธิการยุโรปเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจใน 17 ชาติสมาชิกกลุ่มยูโรโซนพบว่า ตัวเลขความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจในเดือนส.ค.ลดลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันแล้ว ขณะที่ความหวาดวิตกว่าเศรษฐกิจจะเข้าสู่ภาวะชะลอตัวมีเพิ่มขึ้นเรื่อย มีรายงานว่า ดัชนีบ่งชี้ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ หรือ อีเอสไอ ซึ่งคำนวนจากผลสำรวจภาคธุรกิจและผู้บริโภค พบว่า ในเดือนส.ค.ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโรโซน ลดลง 4.7 จุด มาอยู่ที่ 98.3 ขณะที่ดัชนีของสหภาพยุโรป (อียู) ลดลง 5.0 จุดมาอยู่ที่ 97.3 ความเชื่อมั่นในเดือนส.ค.ในกลุ่มประเทศยูโรโซนลดลงในธุรกิจทุกภาคส่วน โดยความเชื่อมั่นในธุรกิจการเงินและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทำสถิติลดลงมากที่สุด ความเชื่อมั่นในธุรกิจบริการทางด้านการเงินที่ทรุดตัวลงอย่างหนักไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายแต่อย่างใด หลังจากที่ตลาดการเงินทั่วยุโรปกำลังประสบภาวะผันผวน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures Insight

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 31 สิงหาคม 2554 11:59:25 น.

กรุงเทพฯ--31 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

คำแนะนำการลงทุน Gold Futures

DAY TRADER

GFV11 ซื้อในช่วงราคา 26020 — 26150 ขายในช่วงราคา 26440 — 26580

GFZ11 ซื้อในช่วงราคา 26170 — 26360 ขายในช่วงราคา 26610 — 26730

SWING TRADER

 

ทิศทางราคาทองคำเริ่มเข้าสู่ภาวะขาขึ้นอีกครั้ง แนวรับอยู่ที่ระดับ1820เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ1850เหรียญ นักลงทุนรายวัน เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวอยู่ในช่วง1820-1850เหรียญ นักลงทุนรายสัปดาห์ เข้าช้อนซื้อจากเมื่อวานนี้ 30% และยังคงเข้าช้อนซื้ออย่างต่อเนื่องเมื่อราคาอ่อนตัวเนื่องจากมีสัญญาณซื้อ ถือครองพอร์ทเพิ่มขึ้นเป็น 40%

 

GFV11 รอเข้าซื้อที่ระดับ 26370 รอขายที่ระดับ 26550

ปัจจัยสำคัญ

High Light สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยว่า ราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนิวยอร์ก ไมอามี และบอสตัน ปรับตัวลดลง 0.1% เมื่อเทียบเป็นเดือน ในเดือนมิ.ย. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัวจากระดับของเดือนพ.ค. และหากเทียบเป็นรายปีพบว่า ราคาบ้านร่วงลง 4.5%

 

คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระชั้นนำระดับโลกเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 44.5 จุดในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2552 จากเดือนก.ค.ที่ระดับ 59.2 จุด เนื่องจากชาวอเมริกันวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มรายได้และการจ้างงาน

 

ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการคลังของยุโรป หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลอิตาลีสามารถประมูลขายพันธบัตรได้น้อยกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวผันผวนหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ในการประชุมเดือนก.ย.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จากกราฟที่ให้มา ขอถามคุณmoddang. คุณnews หน่อยน่ะครับว่าโอกาสที่จะเห็นราคา1790-1799น้อยมากแล้วใช่ไหมครับหรือราคาจะยืนอยู่บริเวณนี้เป็นไปได้สูง??

กราฟรายวันเป็นแท่งเขียวแล้ว

ราคาตอนนี้น่าจะถือได้ว่ายืนเหนือ 1800 แล้วครับ

วันนี้ร่วงมา ก็ติดแนวรับแถวๆ 1822 รับอยู่ครับ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทครามน่าสนใจ

 

เตือนราคาทองอาจปรับตัวลง จากแรงขายในช่วงระยะสั้น

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 31 สิงหาคม 2554 09:57 น.

 

Share

 

 

       ASTVผู้จัดการรายวัน - เตือน นักลงทุนราคาทองคำอาจดิ่งลง จากความกังวลของนักลงทุนระยะสั้น ยังไม่ใกล้ที่จะเกิดฟองสบู่ แต่ เตือนนักลงทุน ระวังความเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้เสมอ

       

       ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ TMB หรือ TMB Analytics มองว่า ราคาทองคำขาขึ้นมีปัจจัยพื้นฐานหนุนต่างจากฟองสบู่ทองคำปี 1980 เตือนความเสี่ยงของการหักหัวลง อาจมาจากความตื่นกลัวอย่างฉับผลันของนักเก็งกำไรระยะสั้นที่มีความอ่อนไหวต่อราคาสูง ซึ่งในปี 1979 ราคาทองคำเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 125 นับจากต้นปี ต่อมาในปี 1980 ภายในเวลาเพียง 20 วันแรกของปี ราคาทองคำพุ่งทะยานอีกร้อยละ 52 จนถึงจุดสูงสุดที่ 850 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ก่อนจะดิ่งลงอย่างรวดเร็วและลดลงต่อเนื่องมาจนถึงปี 2000 เหตุการณ์ทั้งหมดกินระยะเวลาขาขึ้นประมาณ 10 ปี และขาลงอีกประมาณ 20 ปี บทเรียนในครั้งนั้นบอกอะไรต่อนักลงทุนในทองคำบ้าง

       

       โดยในช่วงที่ผ่านมาไม่ใช่ครั้งแรกที่ราคาทองคำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนบางคนเรียกว่าเกิดภาวะฟองสบู่ทองคำ หากแต่ย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษ 1970 จะพบว่าราคาทองคำเคยปรับตัวสูงขึ้นอย่างรุนแรงมาแล้ว โดยในช่วงทศวรรษที่ 70 เกิดวิกฤตราคาน้ำมันขึ้นหลายรอบ ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลก ซึ่งราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นหลายระลอกนี้ผลักดันให้ราคาทองคำพุ่งสูงตามไปด้วย แต่สุดท้ายก็จบลงด้วยฟองสบู่แตกในปี 1980

       สภาวะแวดล้อมปี 1980 และ 2011 ความเหมือนที่แตกต่าง

       

       ราคาทองคำช่วงปี 1970-1980 เพิ่มขึ้นเร็วและแรงโดยมีราคาสูงสุดในปี 1980 มากกว่าราคาในปี 1970 ประมาณ 16 เท่า ขณะที่ช่วงปี 1999-ปัจจุบัน ราคาทองคำเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่องค่อยเป็นค่อยไปกว่า โดยที่ผ่านมา 11 ปีเพิ่มขึ้นเพียง 6.3 เท่า ขณะที่ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน วิกฤตเศรษฐกิจหลักในช่วงทศวรรษ 70 ต่างกับปัจจุบันค่อนข้างมาก โดยช่วง 1970-1980 เกิดปัญหาด้านอุปทาน (Supply shock) ซึ่งเป็นผลมาจากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น ดังนั้นเมื่อราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังปี 1980 ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจก็ผ่อนคลายลงได้ ขณะที่ปัจจุบัน ปัญหาเศรษฐกิจเกิดมาจากปัจจัยภายในของระบบเศรษฐกิจประเทศใหญ่อย่างสหรัฐและกลุ่มยุโรป ซึ่งทางออกคงไม่ง่ายเหมือนวิกฤตเศรษฐกิจครั้งก่อน

       

       ทองคำนั้นเริ่มไม่ปรับตัวตามราคาน้ำมันเสมอไป เห็นได้ชัดเจนในช่วงปี 2009 ที่ราคาน้ำมันลดลงอย่างรุนแรงแต่ราคาทองคำกลับไม่ได้ลดลงตามไปด้วย ต่างกับทศวรรษที่ 70 ที่ราคาน้ำมันมีผลต่อราคาทองคำอย่างชัดเจน

       

       ทั้งนี้มูลค่าที่แท้จริงของทองคำในปัจจุบันยังต่ำกว่าจุดสูงสุดในปี 1980 ประมาณร้อยละ 17.4 เพราะฉะนั้นความเสี่ยงของการหักหัวลงอย่างรุนแรงจึงยังไม่สูงเท่า คำนวนจากราคาทองคำปรับด้วยเงินเฟ้อ จะพบว่าถ้าปรับด้วยราคาฐานปัจจุบันแล้ว ราคาทองคำที่จุดสูงสุดในปี 1980 จะเท่ากับ 2,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งปัจจุบันราคาทองคำทำจุดสูงสุดที่ประมาณ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แปลว่าปัจจุบันทองคำยังไม่สามารถทำมูลค่าสูงสุดได้เหมือนอย่างปี 1980 ข้อสังเกตจากมูลค่าที่แท้จริงในทองคำยังบอกได้ว่า นักลงทุนที่เข้าซื้อทองคำช่วงใกล้ฟองสบู่แตกในปี 1980 ถึงแม้จะถือไว้นานกว่า 30 ปีมาจนถึงปัจจุบันแล้วก็ตาม ผลตอบแทนจากทองคำของนักลงทุนที่เล่นกับฟองสบู่ก็ยังคงขาดทุนในมูลค่าที่แท้จริงอยู่ดี

       

       นอกจากนี้ด้วยโครงสร้างและบริบททางเศรษฐกิจที่ต่างไปจากปี 1980 ทำให้ทองคำอาจจะยังไม่ถึงจุดสูงสุดที่จะทำให้เกิดฟองสบู่แตก แต่อย่างไรก็ดี นักลงทุนควรระลึกถึงความเสี่ยงและผลขาดทุนที่อาจเกิดขึ้นได้เสมอ อย่างน้อยที่สุดก็จะได้ไม่ต้องถือทองคำไว้กว่า 30 ปีโดยที่ยังขาดทุนในมูลค่าที่แท้จริงเหมือนอย่างฟองสบู่ทองคำครั้งที่ผ่านมา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จากกราฟที่ให้มา ขอถามคุณmoddang. คุณnews หน่อยน่ะครับว่าโอกาสที่จะเห็นราคา1790-1799น้อยมากแล้วใช่ไหมครับหรือราคาจะยืนอยู่บริเวณนี้เป็นไปได้สูง??

 

ตอบยากนะคะ

 

เพราะเส้น ma 100 วันอยู่ที่ 1780 = แนวรับ

เส้น 30 วันอยู่ที่ 1790....มีสิทธิ์เหมือนกันนะคะ

เส้น 75 วันอยู่ที่ 1807.....

 

ยิ่งตอนนี้กำลังป้วนเปี้ยนอยู่แถวๆ 1830- 1807

 

และsto ราย4 ทำท่าย่ออีก ก็ไม่ทราบว่าจะลงได้แค่ไหน

 

เขียนไปเขียนมาเห็น 1822 อีก เพราะกราฟ 1 กำลังลงมา และคงลงได้อีกนะคะ

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...