ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกจากคาดการณ์เฟดใช้ QE3

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2554 07:45:28 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการเมื่อคืนนี้ (31 ส.ค.) เนื่องจากตลาดขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อในโรงงานอุตสาหกรรมที่พุ่งขึ้นเกินคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหลังจากรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) บ่งชี้ว่า คณะกรรมการเฟดบางคงเสนอให้มีการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสาม (QE3) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 2.9% แตะที่ 237.43 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 5784.85 จุด พุ่งขึ้น 140.93 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3256.76 จุด พุ่งขึ้น 97.02 จุด

 

นักลงทุนขานรับรายงานการประชุมเฟดที่ระบุว่า คณะกรรมการกำหนดนโยบายบางคนของเฟดได้ระบุถึงความเป็นไปได้ที่จะมีการใช้มาตรการ QE3 ซึ่งรวมถึงการเข้าซื้อพันธบัตรของรัฐบาลสหรัฐอีก นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมในสหรัฐ พุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 4.532 แสนล้านดอลลาร์ มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.9%

 

ตลาดหุ้นยุโรปได้ปัจจัยบวกเพิ่มขึ้นเมื่อมีรายงานว่า คณะรัฐบาลของนางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้อนุมัติข้อเสนอการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขบางด้านในกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ซึ่งรวมถึงการเพิ่มอำนาจให้กับกองทุนดังกล่าวในการเข้าซื้อพันธบัตรของประเทศยูโรโซน โดยคณะรัฐบาลเยอรมนีจะยื่นข้อเสนอดังกล่าวต่อรัฐสภาในวันที่ 5 ก.ย. และสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจะลงมติข้อเสนอมาตรการดังกล่าวในวันที่ 29 ก.ย.นี้

 

หุ้นสมิธ แอนด์ เนฟิว ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ทางกายภาพสำหรับใช้ในวงการแพทย์ พุ่งขึ้น 4.9% หลังจากหนังสือพิมพ์เดอะ เดลี เมล์รายงานว่า บริษัท ไบโอเมติก อิงค์ อาจจะเสนอซื้อกิจการสมิธ แอนด์ เนฟิว มูลค่า 900 เพนซ์ต่อหุ้น

 

หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์พุ่งขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นบีเอ็มดับเบิลยูพุ่งขึ้น 3.9% ขณะที่หุ้นพิเรลลี แอนด์ ซี ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของยุโรป พุ่งขึ้น 6.7% และหุ้นวาเลโอ เอสเอ ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 ของฝรั่งเศส ทะยานขึ้น 8.8%

 

อย่างไรก็ตาม หุ้นดอยช์ เทเลคอม ร่วงลง 7.6% ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดในรอบ 15 เดือนหลังจากมีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐขัดขวางไม่ให้บริษัทเอทีแอนด์ที ควบรวมกิจการกับที-โมบาย ยูเอสเอ เพราะเกรงว่าจะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยีไร้สาย

 

ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารของกรีซร่วงลง โดยหุ้นพิเรอุส แบงก์ ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 4 ของกรีซ ดิ่งลง 15% หลังจากธนาคารอย่างขาดทุนอย่างหนักในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากมีการปรับลดมูลค่าพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่ทางธนาคารถือครองอยู่ ขณะที่หุ้นเนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ ดิ่งลง 8.3% และหุ้นอีเอฟจี ยูโรแบงก์ เออร์กาเซียส์ ทรุดตัวลง 17%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เกาหลีใต้เผยดัชนี CPI ทะลุ 5% ในเดือนส.ค. แม้รัฐบาลคุมเข้มเงินเฟ้อ

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2554 09:16:05 น.

เกาหลีใต้เผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งชี้วัดเงินเฟ้อ ขยายตัวทะลุ 5% เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 3 ปีในเดือนสิงหาคม ก่อให้เกิดความหวั่นเกรงว่าแรงกดดันเงินเฟ้อกำลังเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่ารัฐบาลจะใช้มาตรการควบคุมเงินเฟ้อก็ตาม

 

สำนักงานสถิติเกาหลีใต้รายงานว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทะยาน 5.3% ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว หลังจากที่ขยายตัว 4.7% ในเดือนกรกฎาคม ส่วนเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนสิงหาคมขยับขึ้น 0.9%

 

 

ดัชนี CPI เดือนสิงหาคมนับว่าสูงสุดนับตั้งแต่ที่ดัชนีพุ่งแตะ 5.6% เมื่อเทียบรายปีเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2551 และทะยานเหนือระดับ 5% เป็นครั้งแรกในรอบ 35 เดือน นอกจากนั้นยังทะลุเพดานขั้นสูงที่ธนาคารกลางเกาหลีใต้กำหนดไว้ที่ 2-4% เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกันแล้ว

 

ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาพลังงานและอาหารที่มีความผันผวน ขยายตัว 4% ในเดือนสิงหาคมเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว นับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2552 ซึ่งทะยานแตะระดับ 4.2% การที่ดัชนี CPI พื้นฐานขยายตัวเร็วขึ้นก่อให้เกิดความกังวลมากขึ้นว่า เงินเฟ้อจากต้นทุนสินค้าอาจลุกลามไปถึงเงินเฟ้อจากอุปสงค์

 

ปัจจัยหลักที่ทำให้เงินเฟ้อขยายตัวเร็วขึ้นคือราคาอาหารที่พุ่งสูง อันเป็นผลมาจากฝนที่ตกหนักในเดือนสิงหาคมและต้นทุนเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยที่สูงขึ้น อย่างค่าเช่าที่พักอาศัยที่สูงขึ้น เป็นต้น

 

หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในระดับสูงจะสร้างแรงกดดันต่อธนาคารกลางเกาหลีใต้ ซึ่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมาแล้ว 3 ครั้งในเดือนมกราคม มีนาคม และมิถุนายน รวม 0.75% ก่อนที่จะตรึงดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม โดยให้เหตุผลเรื่องความไม่แน่นอนจากภายนอก อย่างปัญหาหนี้ในสหรัฐและยุโรป สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

...คนดีทำให้คนอื่นดีได้ หมายความว่าคนดี ทำให้เกิดความดีในสังคม คนอื่นก็ดีไปด้วย. ความเลวนั้นจะทำให้คนดีเป็นคนเลวก็ยาก

แต่เป็นไปได้.ถ้าคนดีเข้มแข็งในความดี จะทำให้คนเลวมาทำให้คนดีเป็นคนเลวยาก.สำคัญอยู่ที่ความเข้มแข็งของคนดี...

 

 

...A good person can make another person good; it means that goodness will elicit goodness in society; other person will also be good.

Evil will make a steadfast good person bad only with great difficulty; however, it is not impossible.

If good people hold on tenaciously to their goodness, it will be difficult for evil people to influence them.

The important thing is the strong will of the good person...

 

คัดตัดตอนจากพระราชดำรัสพระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคลเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา

ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต เมื่อวันพุธที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๓๙

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะคุณ ginger สำหรับบทความดีๆมีมาให้อ่านและเป็นข้อคิดทุกๆวัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คำตอบ เพราะ เส้น30วันกลับตัวขึ้นจากที่มุ่งหน้าลง

 

แล้วราคาก็ขึ้นมาถึง 1839 ตอนที่เขียน 1824 แต่ตอนนี้ย่อลงมาอีก ทำให้มีเสียวว่าขึ้นหรือลงดีนะ ขอติดไว้แค่นี้ก่อนนะคะ เช้านี้มีธุระจนถึงเที่ยง

 

 

เมื่อสักครู่ลองอ่านกราฟเล่นๆนะคะ

ลองอ่านกราฟเล่นๆนะคะ จากกราฟ ราย4 moving average

 

ระยะสั้น

 

5 ขาวมุ่งหน้า ลง

10 น้ำตาลอ่อน วิ่งขึ้นดูตามลักษณะเส้นทะแยงขึ้น

15 ขนานป็นแนวราบเท่ากับsideway

 

ระยะกลาง

 

30 น้ำตาลเข้ม ขึ้น

50 ฟ้าใสลง

75 เขียวอ่อนขึ้น

 

ระยะยาว

 

100 ฟ้า ขึ้น

200 น้ำเงินขึ้น

 

ตอนนี้ต้องการดูแค่ระยะสั้นดูแค่5และ 10 ก็พอจากการมองเส้นขาวลง เท่ากับ ในเวลาอันใกล้ลง

 

แต่เส้น 10 ดูมีแรงเพราะ เส้นพุ่งขึ้น

 

เมื่อประเมิน 2 เส้นนี้ดูว่า 10 น่าจะมีแรงมากกว่า กับอีกทั้งเส้นอื่นๆขึ้นเท่ากับมีแรงสนับสนุนการขึ้น

 

แต่ประมาทไม่ได้เพราะ 50 ค่อยๆลง

 

ตอนนี้ลักษณะแต่ละเส้นแลดูอยู่ห่างๆกันไม่มากไม่น้อย.............น่าคิด

 

200 ยังขึ้นเรื่อยๆ

post-21-077106300 1314836600.gif

 

การจะประเมินว่าขึ้นหรือลง ถ้า ma ,มันชัดเจน ก็ไม่ดูอย่างอื่นเลย

 

แต่แบบนี้คงต้องมาดูราย 1 และรายวัน ประกอบ ถามว่าดูจากอะไร มดแดงดู stochatic 955 & macd 12 26 9 ประกอบกัน

 

มันอธิบายยากนะคะ เพราะมันเป็นแค่ช่วงสั้น ที่ เราต้องพลิกกราฟไปมา บางครั้งถ้ามันไม่ค่อยขยับก็โอเค

 

แต่บางครั้งมันเป็นแค่เสี็ยวนึง เช่นเมื่อคืนตอนลง 1811 ถามว่าอยากซื้อใหม ถ้าซื้อก็ขายได้แล้ว อยาก...แต่กลัวพลิกล็อก ไม่อยากเครียดเพราะซื้อไว้แล้วที่แถวๆ 1822 ขอ พอเพียงเผื่อลงมาอีกก็น่าจะมีตังช้อนอีก

 

สำหรับวันนี้

 

ถ้ามือใหม่ก็รอเส้น ขาวตัดน้ำตาลขึ้นเป็นสัญญานซื้อ แต่ sto ราย 4 ตัดลง ก็คงลงต่ออีกค่ะ แต่รายวันตัดขึ้นมากกว่าเมื่อวาน ก็ต้องเดาว่าลงแล้วขึ้นต่อ

 

 

แล้วว่างๆจะมาดูแนวรับ ต้านอีกทีนะคะ

 

ส่วนตัวมีภาระที่ต้องทำค่ะ จึงไม่สามารถให้รายละเอียดมากกว่านี้ ช่วงนี้ แค่นี้ก็มีคนใกล้ๆเหล่ๆ อยู่นะ

 

ขอบคุณคุณมดแดงมากๆครับ มือใหม่ได้ความรู้เพิ่มเยอะเลยครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาระกิจเสร็จเร็วกว่าที่คาด อาจเป็นเพราะผลบุญและ เชื่อมั่น ในการทำดี คิดดี แล้วคงได้ดี

 

เอากราฟมาแปะก่อนออกไปทำธุระที่รองๆลงมา

 

 

อ่านคร่าวๆ ยืนยันความเห็นเหมือนเมื่อเช้า ลงเพื่อจะขึ้นต่อ ยิ่งดู ma รายวัน 5..10 + stochatic แล้วชัวร์

 

อ่านแค่ ma นะคะ ยังไม่อ่าน stochatic :lol:

 

 

กราฟ1 ดูแล้วลง :P

 

คือรับรู้ได้เร็วๆนี้ แหมเรื่องเวลาเอาแน่ไม่ค่อยได้ ถ้าดูเองจะรุ้ว่าเร็วแค่ไหน บางทีภายในไม่กี่นาที

 

บางทีเป็นช.ม ทั้งนี้ต้องดูกราฟระยะสั้นกว่านี้ประกอบด้วย เช่น 30 นาที หรือ 15 นาที ถ้าไปในทางเดียวกันก็เร็ว

 

post-21-003994400 1314851352.gif

 

มีโอกาสขึ้นมากกว่าลงในระยะวันสองวันประมาณนี้ในกราฟ 4 :D

 

post-21-045482700 1314851369.gif

 

มีโอกาสขึ้นมากกว่าลงวันนี้ กราฟรายวัน :)

 

010954daily.11.10-crop.gif

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พายุโซนร้อน คาเทีย จ่อทวีความรุนแรงเป็นเฮอริเคนคืนนี้

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2554 11:51:12 น.

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐ (NHC) รายงานว่า พายุโซนร้อนคาเทีย ซึ่งกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกของตะวันตกเฉียงเหนือผ่านมหาสมุทรแอตแลนติก มีแนวโน้มว่าจะทวีความรุนแรงเป็นเฮอริเคนในคืนนี้ตามเวลาท้องถิ่น

 

NHC เปิดเผยเมื่อเวลา 16.40 น.ตามเวลาชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐว่า พายุคาเทียอยู่ห่างจากหมู่เกาะลีเวิร์ดในทะเลแคริบเบียนไปทางทิศตะวันออกราว 1,285 ไมล์ (2,070 กิโลเมตร) มีความเร็วลมสูงสุดเกือบ 70 ไมล์/ชั่วโมง เพิ่มขึ้นจาก 65 ไมล์/ชั่วโมง และหากความเร็วลมเพิ่มขึ้นถึง 74 ไมล์/ชั่วโมง ก็จะกลายเป็นพายุเฮอริเคน ขณะเดียวกันพายุกำลังเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 20 ไมล์/ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้เคลื่อนตัวไปถึงน่านน้ำทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเปอร์โตริโกในวันที่ 4 กันยายนนี้

 

 

AccuWeather หน่วยงานพยากรณ์อากาศเอกชนคาดการณ์ว่า พายุลูกนี้จะเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือและออกสู่ทะเลไปในที่สุด แต่หากมีการเปลี่ยนเส้นทางไปทางทิศตะวันตกจะทำให้พายุขึ้นฝั่งที่แคนาดาตะวันออก ซึ่งเป็นแหล่งส่งออกน้ำมันหลัก

 

บริษัทน้ำมันบีพี พีแอลซี ของอังกฤษ ได้เริ่มอพยพคนงานที่ไม่มีความจำเป็นต้องทำหน้าที่ในบริเวณดังกล่าวกว่า 500 คนออกจากแพลตฟอร์มในพื้นที่เซาท์เทิร์น กรีน แคนยอน และพร้อมระงับการดำเนินงานรวมถึงอพยพคนงานทั้งหมดหากจำเป็น ขณะที่บริษัท อนาดาร์โก ปิโตรเลียม คอร์ป จากเท็กซัส ก็อพยพคนงานที่ไม่จำเป็นจากแพลตฟอร์มในกันนิสัน แนนเซ่น และบูมแวง บริเวณอ่าวฝั่งตะวันตกแล้ว

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นนิวยอร์ค : ดาวโจนส์ปิดบวก 0.18% หลังเผยรายงานประชุมเฟด

 

ตลาดหุ้นสหรัฐปิดปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในการซื้อขายที่ผันผวนหลังรายงานการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สนับสนุนการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะดำเนินการอีกครั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

 

ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 20.70 จุดหรือ 0.18% สู่ 11,559.95, ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 2.84 จุดหรือ 0.23% สู่ 1,212.92และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 14.00 จุดหรือ 0.55% สู่ 2,576.11

 

ปริมาณการซื้อขายเบาบางราว 7.2 พันล้านหุ้นในตลาดหุ้นนิวยอร์ค, ตลาดหุ้นอเมริกัน (American Stock Exchange) และตลาดหุ้น Nasdaqซึ่งต่ำกว่าปริมาณเฉลี่ยต่อวันของปีที่แล้วที่ 8.47 พันล้านหุ้น โดยมีหุ้นบวกนำหน้าหุ้นลบประมาณ 19 ต่อ 11 ในตลาดนิวยอร์คและ 13 ต่อ 12 ในตลาด Nasdaq

 

ตลาดร่วงลงมากถึง 1% ในช่วงเช้าหลัง Conference Boardเปิดเผย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐร่วงลงในเดือนส.ค.สู่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปี ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากความขัดแย้งทางการเมืองเกี่ยวกับข้อตกลงด้านงบประมาณ

 

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์เปิดเผยข้อมูลบ่งชี้ว่า ราคาบ้านเดี่ยวในสหรัฐลดลงเล็กน้อยในเดือนมิ.ย. (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดน้ำมันนิวยอร์ค : น้ำมันดิบพุ่งขึ้น 1.63 ดอลล์,จับตาพายุแคเทีย

 

ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน และปิดตลาดที่ระดับปิดสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันอังคาร ในขณะที่นักลงทุนจับตาดูพายุโซนร้อนแคเทีย และรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำวันที่ 9 ส.ค.ทำให้นักลงทุนมีความหวังว่าเฟดอาจจจะดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

 

ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนต.ค.ทะยานขึ้น 1.63 ดอลลาร์ หรือ 1.87 % มาปิดตลาดที่ 88.90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 86.46-89.21 ดอลลาร์ โดยระดับปิดวันอังคารถือเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่ปิดที่ 91.93 ดอลลาร์ ในวันที่ 3 ส.ค. ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดกรุงลอนดอนทะยานขึ้น 2.14 ดอลลาร์ หรือ 1.91 % สู่ 114.02 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 111.16-114.25 ดอลลาร์

 

ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐรายงานว่า พายุโซนร้อนแคเทียกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 18 ไมล์ต่อชั่วโมง (30กิโลเมตรต่อชั่วโมง) และอาจจะกลายเป็นพายุเฮอริเคนในช่วงเย็นวันพุธหรือเช้าวันพฤหัสบดี และจะกลายเป็นพายุเฮอริเคนขนาดใหญ่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของหมู่เกาะลีเวิร์ดภายในวันอาทิตย์นี้ อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ขณะนี้การคาดการณ์เส้นทางที่แน่นอนของพายุแคเทียเป็นสิ่งที่ไม่สามารถกระทำได้

 

โพลล์รอยเตอร์คาดว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะผลิตน้ำมันเฉลี่ยราว 30.15 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนส.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดในรอบเกือบ 3 ปี และเพิ่มขึ้นจากระดับ 30.07 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนก.ค.

 

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 ส.ค.ในวันพุธนี้

 

การปิโตรเลียมสหรัฐ (API) รายงานหลังจากตลาดปิดทำการในวันอังคารว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 5.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว,สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้น 276,000 บาร์เรล, สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 3.1 ล้านบาร์เรล ส่วนอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันลดลง 2.1 % (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค : ตัวเลขศก.อ่อนแอหนุนทองปิดพุ่งขึ้น 2%

 

ราคาทองที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 2 % ในวันอังคาร โดยไดรับแรงหนุนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่อยู่ในระดับอ่อนแอในสหรัฐ, จากความกังวลเรื่องหนี้ยูโรโซน และจากการที่นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาชิคาโกกล่าวว่า เขาสนับสนุนให้เฟดดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐมากยิ่งขึ้น

 

ราคาสัญญาทองส่งมอบเดือนธ.ค.ในตลาดสหรัฐปิดตลาดพุ่งขึ้น 2.1 % หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,786.20-1,839.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ราคาทองพุ่งขึ้นมาแล้ว 8 % ในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมา โดยได้รับแรงหนุนจากถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟดในวันศุกร์ที่แล้ว ซึ่งช่วยกระตุ้นการ คาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจดำเนินมาตรการใหม่ในการกระตุ้นตลาด

 

ราคาทองได้รับแรงหนุนเพิ่มเติมจากรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 9 ส.ค. ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเฟดพิจารณาทางเลือกหลายทางในการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งรวมถึงการเชื่อมโยงแนวโน้มในนโยบายอัตราดอกเบี้ยเข้ากับอัตราการว่างงานที่เฉพาะเจาะจง

 

สำหรับราคาโลหะมีค่าที่ตลาด COMEX ในวันอังคารมีดังต่อไปนี้

 

ปิดที่ระดับ (ดอลลาร์/ออนซ์) เปลี่ยนแปลง (ดอลลาร์)

 

ทองเดือนธ.ค. 1,829.80 + 38.20

 

เงินเดือนก.ย. 41.398 + 85.20 (เซนต์)

 

พลาตินั่มเดือนต.ค. 1,853.10 + 28.10

 

พัลลาเดียมเดือนก.ย. 777.05 + 23.10 (รอยเตอร์)

 

 

 

ตลาดเงินนิวยอร์ค : ยูโรร่วงหลังปัจจัยลบกระตุ้นนักลงทุนเลี่ยงความเสี่ยง

 

ยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆในวันอังคาร ขณะที่ปัจจัยลบต่างๆ อาทิ ความขัดแย้งเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือกรีซและความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐที่ร่วงลง ส่งผลกระทบต่อความต้องการเสี่ยง

 

ทั้งนี้ ดอลลาร์อยู่ที่ 76.670 เยน เทียบกับระดับปิดวันจันทร์ที่ 76.830 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.4463 ดอลลาร์ และ 110.89 เยน เทียบกับระดับปิดวันจันทร์ที่ 1.4508 ดอลลาร์ และ 111.50 เยน

 

ความวิตกเกี่ยวกับหนี้ยูโรโซนส่งผลกระทบต่อยุโรป ขณะที่ฟินแลนด์เสนอว่า กรีซจะต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันสำหรับความช่วยเหลือเพิ่มขึ้น และส่งผลให้มีข้อเรียกร้องเดียวกันจากออสเตรีย, เนเธอร์แลนด์, สโลวีเนีย และสโลวาเกีย

 

ยูโรลดช่วงติดลบลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมเดือนส.ค.บ่งชี้ว่า กรรมการเฟดบางคนต้องการดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับเยน ขณะที่ยูโรปรับตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์และเยน โดยผลการประมูลพันธบัตรที่ซบเซาของอิตาลี, ความเห็นของนายฌอง คล็อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และรายงานความเชื่อมั่นที่อ่อนแอในยูโรโซนถ่วงยูโรลง

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือนส.ค.ในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 75,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. หลังเพิ่มขึ้น 117,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. (รอยเตอร์)

 

 

ตลาดเงิน Emerging Asia : วอน,ริงกิตแข็งค่า เก็งเฟดออกมาตรการกระตุ้น

 

วอนและริงกิตดีดตัวขึ้น ขณะที่กลุ่มนักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์เพิ่มสัดส่วนการถือครองเงินเอเชียส่วนใหญ่ ท่ามกลางดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณ

 

ว่าอาจจะออกมาตรการใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

 

วอนแข็งค่าขึ้นขณะที่กลุ่มนักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์ขายดอลลาร์ และจากอุปสงค์ของนักลงทุนในต่างประเทศ

 

ดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนค่าลง สวนกระแสเงินเอเชียที่แข็งค่าขึ้น ขณะที่กลุ่ม leveraged account และกลุ่มนักเก็งกำไรอินเตอร์แบงก์ซื้อคืนดอลลาร์ก่อนวันหยุด นักลงทุนหลายคนคาดว่าธนาคารกลางสิงคโปร์เข้าซื้อคืนดอลลาร์ด้วย ขณะที่คนอื่นๆปฏิเสธจความเป็นไปได้ดังกล่าว

 

บาท/ดอลลาร์ภาคบ่ายยังแกว่งตัวในกรอบแคบ หลังตลาดขาดปัจจัยชัดเจนเข้ามาชี้นำ ขณะที่การปรับตัวลงของตลาดหุ้นไทย ทำให้เงินบาทแกว่งไปในทางอ่อนค่าบ้างเล็กน้อย บาท/ดอลลาร์ อยู่ที่ 30.00/05 จาก 29.97/30.02 ช่วงเช้า ขณะที่ในตลาด offshore อยู่ที่ 30.01/04 จาก29.98/99 ช่วงเช้า (รอยเตอร์)

 

 

 

ดัชนีค่าระวางเรือ (Baltic Dry Index)

ปิดวานนี้ (30 ส.ค.) ลบ 4 จุด หรือ 0.26% สู่ระดับ 1537

 

ระดับสูงสุดของปีนี้อยู่ที่ 1693 และระดับต่ำสุดของปีนี้อยู่ที่ 1043

 

ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 554

 

ความเคลื่อนไหวของดัชนีในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมามีดังนี้:-

 

วันที่ ระดับปิด เปลี่ยนแปลง (จุด)

 

29 ส.ค. ตลาดปิดทำการวันหยุด

 

26 ส.ค. 1541 -41

 

25 ส.ค. 1582 -20

 

24 ส.ค. 1602 +37

 

23 ส.ค. 1565 +50 (รอยเตอร์)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีเพื่อนๆทุกท่าน :lol: ขอบคุณmoddang chez news ginger สำหรับข้อมูลข่าวสารต่างๆ:lol: :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures Insight

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2554 11:40:05 น.

กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

คำแนะนำการลงทุน Gold Futures

DAY TRADER

GFV11 ซื้อในช่วงราคา 25970 — 26140 ขายในช่วงราคา 26510 — 26770

GFZ11 ซื้อในช่วงราคา 26320 — 26470 ขายในช่วงราคา 26760 — 26970

SWING TRADER

 

ทิศทางราคาทองคำยังเป็นทิศทางขาขึ้นแต่ว่ามีการแกว่งระหว่างการซื้อและการขายสลับกัน แนวรับอยู่ที่ระดับ1815เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ1840เหรียญ นักลงทุนรายวัน เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวของตลาด คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวอยู่ในช่วง1815-1840เหรียญ นักลงทุนรายสัปดาห์ ทยอยเข้าซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวและขายทำกำไรตามการแกว่งตัวของราคาทองคำ ถือครองพอร์ทเท่าเดิมที่ 40% GFV11 รอเข้าซื้อที่ระดับ 26250 รอขายที่ระดับ 26400

 

ปัจจัยสำคัญ

High Light ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านตลาดแรงงานในสหรัฐเปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 91,000 ตำแหน่งในเดือนส.ค. โดยบริษัทสหรัฐตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนส.ค.

 

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมภายในประเทศ พุ่งขึ้น 2.4% ในเดือนก.ค. สู่ระดับ 4.532 แสนล้านดอลลาร์ หลังจากที่ตัวเลขดังกล่าวหดตัวลง 0.4% ในเดือนมิ.ย. นอกจากนี้ ยอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมในเดือนก.ค.ยังขยายตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.9% เพราะได้แรงหนุนจากความต้องการรถยนต์และเครื่องบินที่ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังคงอยู่ในระยะฟื้นตัว

 

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ส.ค.พุ่งขึ้น 5.3 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 357.1 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.2 ล้านบาร์เรล

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำยังคงปิดในแดนบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากเทรดเดอร์คาดว่า นักลงทุนจะยังคงเข้าซื้อทองคำอย่างต่อเนื่องในเดือนก.ย. เนื่องจากใกล้จะถึงช่วงเทศกาลเฉลิมฉลองและเทศกาลวิวาห์ในประเทศอินเดีย นอกจากนี้คาดว่า เทศกาลวันหยุดยาวในประเทศจีนซึ่งจะมีขึ้นในช่วงต้นเดือนต.ค.นี้ จะช่วยให้ปริมาณการซื้อทองคำสูงขึ้นด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 1 กันยายน 2554 09:46:50 น.

กรุงเทพฯ--1 ก.ย.--คลาสสิกโกลด์ ฟิวเจอร์ส

Price Movement

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดเพิ่มขึ้น 1.90 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,831.70 USDต่อออนซ์ ราคาปรับขึ้นแรง หลังจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด ทำให้มีความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น

 

Key Points in Gold Market

- ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,813.60 — 1,842.70 USDต่อออนซซ์ ราคาทองคำถูกแรงขาย ทำกำไรในตลาด COMEX ช่วงเปิดตลาด ทำให้ราคาปรับลดลงไปที่บริเวณ 1,813 USDต่อออนซ์ หลังจากนั้นมีแรงซื้อกลับเข้ามาทำให้ราคาขึ้นไป high บริเวณ 1,842 USDต่อออนซ์ ประกอบกับการประกาศตัวเลขตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศ (ADP Employer Services) เพิ่มขึ้น 91,000 ตำแหน่งต่ำกว่าคาด แต่ยอดสั่งซื้อของโรงงานเพิ่มขึ้นเกินคาด 2.4% ในเดือนก.ค.ดีกว่าคาด

 

 

- ราคาในช่วงเช้าวันนี้เคลื่อนไหวระหว่าง 1,820— 1,824 USDต่อออนซ์ คาดว่าวันนี้ราคาทองคำมีแนวโน้มเป็น side way โดยมีแนวรับบริเวณ 1,810/1,788 ส่วนแนวต้านบริเวณ 1,840/1,850 USD ต่อออนซ์ แนะนำ เปิด Long บริเวณแนวรับ 1,810 USDต่อออนซ์

 

- ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 11613.53 จุด ปรับเพิ่ม 53.58 จุด หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่ายอดสั่งซื้อของโรงงานอุตสาหกรรมภายในประเทศพุ่งขึ้น เกินคาดในเดือนก.ค. ( - )

 

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าอยู่ที่ระดับ 1.436 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโร ขณะที่สกุลเงินยูโรอ่อนตัวลงเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤต หนี้ยุโรป ( - )

 

- ราคาน้ำมัน Nymex ปิดที่ 88.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับลด 0.09 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาด( - )

 

- ราคา Silver ปิดเพิ่มขึ้น 0.30 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 41.77 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 41.14 — 42.10 USDต่อออนซ์ ราคา Silver ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันและโลหะพื้นฐาน iShares Silver Trust ถือครองโลหะเงินจำนวนเท่าเดิม 9,746.80 ตัน สำหรับวันนี้คาดว่า Silver มีแนวรับบริเวณ 41.1 แนวต้านบริเวณ 42.5 คำแนะนำ เปิด Long บริเวณแนวรับ

 

- SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1232.31 ตัน

Technical Analysis:

ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,810 แนวต้านที่ 1,840 แนวโน้มราคาเมือวาด trend lineจะได้รูปสามเหลี่ยนมแนวโน้มราคาใกล้จะbreak แนวต้านที่ 1840 ยังคาดว่าราคามีแนวโน้ม side way up

 

ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 41.1 และแนวต้านที่ 42.5 แนวโน้มคาดว่าทะยอยปรับตัวขึ้นแนวโน้ม side way up

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณทุกๆวัน มากๆค่ะ คุณginger moddang news chez และทุกท่าน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณทุกท่านสำหรับ บทความการนำเสนอกราฟเพื่อประกอปในการตัดสินใจ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...