ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ctrl +,- ปรับตัวหนังสือใหญ่-เล็ก

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรขยับขึ้น ขณะตลาดจับตาประชุมผู้นำยูโรโซน

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 กันยายน 2554 07:09:55 น.

สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) เนื่องจากตลาดคาดว่าการประชุมระหว่างผู้นำกรีซ เยอรมนี และฝรั่งเศส ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเย็นวันพุธตามเวลาไทยนั้น จะมีการหารือกันถึงแนวทางการช่วยเหลือกรีซและยับยั้งการลุกลามของหนี้สาธารณะในยุโรป อย่างไรก็ตาม ยูโรขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป ขณะที่สกุลเงินฟรังค์สวิสและเงินเยนพุ่งขึ้นเนื่องจากนักลงทุนยังคงมองว่าเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

 

 

 

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.07% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3682 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3672 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.48% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5782 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5858 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.44% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.860 เยน จากระดับ 77.200 เยน และอ่อนตัวลง 0.08% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8796 ฟรังค์ จากระดับ 0.8803 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.33% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0318 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0352 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8248 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8245 ดอลลาร์สหรัฐ

 

สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นต่อเนื่องจากวันจันทร์ ขานรับรายงานของไฟแนนเชียลไทมส์ที่ระบุว่า อิตาลีกำลังเจรจากับเจ้าหน้าที่จีนเพื่อขอให้จีนให้เข้าซื้อพันธบัตรอิตาลี นอกจากนี้ ยูโรยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนคาดว่าในการประชุมระหว่างผู้นำกรีซ เยอรมนี และฝรั่งเศส ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเย็นวันพุธตามเวลาไทยนั้น จะมีการหารือกันถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือกรีซและยับยั้งการลุกลามของหนี้สาธารณะในยุโรป

 

ยูโรได้ปัจจัยบวกมากขึ้นเมื่อนางแองเจลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี แสดงความเห็นเมื่อวานนี้ว่า กรีซดำเนินการมาถูกขั้นตอนแล้วเพื่อให้ได้รับเงินช่วยเหลืองวดต่อไป และระบุว่าการปล่อยให้กรีซผิดนัดชำระหนี้จะส่งผลกระทบต่อประเทศอื่นๆที่ใช้สกุลเงินยูโร ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวบ่งชี้ว่าผู้นำเยอรมนีจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันการผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ

 

นางแมร์เคลกล่าวว่า ยูโรโซนยังไม่มีกลไกรองรับการล้มละลายของประเทศสมาชิก จึงทำให้ยูโรโซนต้องพึ่งพากลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) พร้อมกับแสดงความเชื่อมั่นว่า พรรคร่วมรัฐบาลของเธอจะสามารถรวบรวมเสียงข้างมากได้โดยไม่ต้องพึ่งพาพรรคฝ่ายค้าน ในการลงมติเรื่องการมอบอำนาจเพิ่มเติมให้แก่กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ในวันที่ 29 ก.ย.นี้

 

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นแตะ 1.3415 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.294 แสนล้านดอลลาร์ของเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 1.320 แสนล้านดอลลาร์

 

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนส.ค., ยอดค้าปลีกเดือนส.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนก.ค., ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนส.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนก.ย.ของสหรัฐ

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 กันยายน 2554 06:06:40 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหุ้นที่ร่วงลงเมื่อวันก่อน นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดว่าในการประชุมระหว่างผู้นำกรีซ เยอรมนี และฝรั่งเศส ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเย็นวันพุธตามเวลาไทยนั้น จะมีการหารือกันถึงแนวทางการช่วยเหลือกรีซและยับยั้งการลุกลามของหนี้สาธารณะในยุโรป อย่างไรก็ตาม บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเต็มไปด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงกังวลเรื่องปัญหาหนี้กรีซ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 44.73 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 11,105.85 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 10.60 จุด หรือ 0.91% ปิดที่ 1,172.87 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 37.06 จุด หรือ 1.49% ปิดที่ 2,532.15 จุด

 

-- สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และจากการที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐจะร่วงลงอย่างหนัก ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการพลังงานในสหรัฐยังคงแข็งแกร่ง

 

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 2.02 ดอลลาร์ หรือ 2.29% ปิดที่ 90.21 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเข้าซื้อสัญญาทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรป นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 16.8 ดอลลาร์ หรือ 0.9% แตะที่ 1,830.1 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) เนื่องจากตลาดคาดว่าการประชุมระหว่างผู้นำกรีซ เยอรมนี และฝรั่งเศส ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเย็นวันพุธตามเวลาไทยนั้น จะมีการหารือกันถึงแนวทางการช่วยเหลือกรีซและยับยั้งการลุกลามของหนี้สาธารณะในยุโรป อย่างไรก็ตาม ยูโรขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป ขณะที่สกุลเงินฟรังค์สวิสและเงินเยนพุ่งขึ้นเนื่องจากนักลงทุนยังคงมองว่าเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

 

ค่าเงินยูโรดีดตัวขึ้น 0.07% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3682 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3672 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ร่วงลง 0.48% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5782 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5858 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง 0.44% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 76.860 เยน จากระดับ 77.200 เยน และอ่อนตัวลง 0.08% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8796 ฟรังค์ จากระดับ 0.8803 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.33% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0318 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0352 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับขึ้น 0.04% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8248 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8245 ดอลลาร์สหรัฐ

 

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มธนาคาร ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมระหว่างผู้นำกรีซ เยอรมนี และฝรั่งเศส ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเย็นวันพุธตามเวลาไทย

 

ดัชนี FTSE 100 ปรับตัวขึ้น 44.63 จุด หรือ 0.9% ปิดที่ 5,174.25 จุด

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

โฆษกรัฐบาลกรีซยืนยันกรีซรอดพ้นจากความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้แล้ว

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 กันยายน 2554 09:43:40 น.

นายอิเลียส มอสเซียลอส โฆษกรัฐบาลกรีซเปิดเผยว่า กรีซรอดพ้นจากความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้แล้ว พร้อมปฏิเสธปัญหาที่ยังยืดเยื้อในการทำให้กรีซเผชิญภาวะล้มละลายในช่วงหลายสัปดาห์หรือหลายเดือนข้างหน้า

 

"นโยบายที่รัฐบาลกรีซบังคับใช้ ทำให้เรารอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้" นายมอสเซียลอสกล่าวในระหว่างการสัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ในท้องถิ่น โดยได้แสดงความคิดเห็นต่อการวิเคราะห์จากสื่อต่างประเทศและบางถ้อยคำของเจ้าหน้าที่ยุโรปที่สร้างความวิตกกังวลในสัปดาห์นี้ จนเป็นเหตุให้ตลาดหุ้นร่วงลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรกรีซและต้นทุนการกู้ยืมของประเทศที่ประสบปัญหาพุ่งขึ้น

 

 

เขาเสริมว่า ภารกิจสำคัญประการแรกของกรีซคือการสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจผ่านมาตรการรัดเข็มขัดและการปฏิรูป รวมถึงการดำเนินงานตามข้อสรุปของผู้นำยูโรโซนเมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ปูทางให้มีการชำระเงินในแผนการช่วยเหลือกรีซรอบสองเพื่อแก้วิกฤตหนี้สินที่สร้างความตื่นตระหนกทั่วโลก

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าในวันนี้นายจอร์จ ปาปันเดรอู นายกรัฐมนตรีกรีซจะจัดการประชุมทางโทรศัพท์กับนางแองเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี และนายนิโคลาส์ ซาร์โกซี ประธานาธิบดีฝรั่งเศส

 

ทั้งนี้ กรีซซึ่งแบกรับภาระหนี้สินกว่า 3.40 แสนล้านยูโร (ประมาณ 4.896 แสนล้านดอลลาร์) สามารถรอดพ้นจากภาวะล้มละลายในเดือนพ.ค.2553 เพราะได้รับเงินช่วยเหลืองวดแรกมูลค่า 1.10 แสนล้านยูโร (ประมาณ 1.585 แสนล้านดอลลาร์) จากสมาชิกยูโรโซน สหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) โดยแลกกับมาตรการที่เด็ดขาดของกรีซในการลดยอดขาดดุลงบประมาณและการพัฒนาประเทศภายในระยะเวลา 3 ปี

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำนักงบประมาณสหรัฐปรับลดคาดการณ์ GDP ในปท.ปีนี้เหลือ 1.5% จากเดิม 2.3%

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 กันยายน 2554 08:16:27 น.

สำนักงานงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐ (CBO) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในปีนี้ลงเหลือ 1.5% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.3% และได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีหน้าลงเหลือ 2.5% จากเดิม 2.7% เนื่องจากผลกระทบของอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงมาก ซึ่งทำให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มซบเซาลงด้วย

 

 

นอกจากนี้ CBO คาดว่า อัตราว่างงานของสหรัฐจะยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 9% ไปจนถึงปลายปีหน้า ซึ่งย่ำแย่กว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าอัตราว่างงานในปีนี้จะอยู่ที่ 8.9% และลดลงสู่ระดับ 8.5% ในปีหน้า

 

นายดั๊กลาส เอลเมนดอร์ฟ ผู้อำนวยการ CBO กล่าวในระหว่างการแถลงต่อสภาคองเกรสสหรัฐว่า รัฐบาลกลางสหรัฐกำลังเผชิญกับอุปสรรคด้านงบประมาณในขณะนี้ พร้อมกับเตือนว่า หากรัฐบาลยังคงดำเนินนโยบายการคลังในรูปแบบปัจจุบันต่อไป ก็จะทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณสูงขึ้นอีก เนื่องจากจำนวนผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆนั้น จะทำให้ต้นทุนสวัสดิการการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้น และจะทำให้รัฐบาลขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นด้วย

 

ทั้งนี้ CBO คาดว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1.28 ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นอัตราส่วน 8.5% ของจีดีพี ซึ่งนับเป็นอีกปีหนึ่งที่ยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐเคลื่อนไหวอยู่เหนือระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธนาคารกลางญี่ปุ่นเตือนความเสี่ยงจากปัญหาหนี้ยุโรปกำลังขยายวงกว้าง

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 กันยายน 2554 11:57:40 น.

นายริวโซ มิยาโอะ สมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) กล่าวว่า ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เกิดจากปัญหาหนี้สินในยุโรปนั้น กำลังขยายวงกว้าง และเป็นหนึ่งในประเด็นหลักที่ก่อให้เกิดความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น

 

"ขณะที่เศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า ก็มีความกังวลว่าอุปสงค์จากต่างประเทศจะซบเซาเกินคาด ซึ่งอาจขะฉุดการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น" นายมิยาโอะกล่าวที่เมืองฮาโกะดาเตะ จังหวัดฮอกไกโด

 

 

สำหรับกรณีที่วิกฤตหนี้สินกรีซลุกลามไปยังอิตาลีและสเปนนั้น นายมิยาโอะกล่าวว่าควรจับตาดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากเริ่มมีความชัดเจนว่าปัญหาดังกล่าวกำลังส่งผลกระทบต่อภาคการเงินและเศรษฐกิจ

 

นอกจากนั้นเขายังกล่าวว่า เงินเยนที่แข็งค่าต่อเนื่อง รวมถึงค่าไฟที่ปรับตัวสูงขึ้นอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนจากไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ไปใช้แหล่งพลังงานอื่นนั้น ทำให้เกิดความกังวลเรื่องเศรษฐกิจมากขึ้นไปอีก

 

ธนาคารกลางญี่ปุ่นใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม ด้วยการขยายโครงการเข้าซื้อสินทรัพย์เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม เพื่อรับมือกับเงินเยนที่แข็งค่า ซึ่งนายมิยาโอะกล่าวว่าการรับมือกับสถานการณ์อย่างเหมาะสมถือเป็นสิ่งสำคัญเมื่อถึงเวลาที่จำเป็น สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures Insight

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 14 กันยายน 2554 11:44:53 น.

กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

คำแนะนำการลงทุน Gold Futures

DAY TRADER

GFV11 ซื้อในช่วงราคา 26000 — 26140 ขายในช่วงราคา 26300 — 26420

GFZ11 ซื้อในช่วงราคา 26270 — 26410 ขายในช่วงราคา 26690 — 26850

SWING TRADER

 

ทิศทางราคาทองคำ แนวโน้มระระยะสั้นรายชั่วโมงเริ่มเป็นสัญญาณหยุดตกและเป็นสัญญาณกลับตัว แนวรับอยู่ที่ระดับ1830เหรียญ และแนวต้านอยู่ที่ระดับ1860เหรียญ นักลงทุนรายวัน เก็งกำไรในภาวการณ์การแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น คาดว่าราคาจะเคลื่อนตัวในช่วง1830-1860เหรียญ นักลงทุนรายสัปดาห์ ทยอยซื้อสะสมและเพิ่มพอร์ทเป็น 40% โดยหวังว่าจะมีการซื้อเพิ่มจากเมื่อวานแล้วบางส่วน GFV11 รอเข้าซื้อที่ระดับ 26570 รอขายที่ระดับ 26750

 

ปัจจัยสำคัญ

High Light สำนักงานงบประมาณแห่งรัฐสภาสหรัฐ (CBO) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐในปีนี้ลงเหลือ 1.5% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.3% และได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีหน้าลงเหลือ 2.5% จากเดิม 2.7% เนื่องจากผลกระทบของอัตราว่างงานที่อยู่ในระดับสูงมาก ซึ่งทำให้เศรษฐกิจมีแนวโน้มซบเซาลงด้วย

 

กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นแตะ 1.3415 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 1.294 แสนล้านดอลลาร์ของเดือนก.ค. และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 1.320 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งการที่ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐพุ่งขึ้นเหนือระดับ 1.23 ล้าล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค.นั้น ถือเป็นหลักฐานล่าสุดที่บ่งชี้ว่า สถานการณ์คลังของสหรัฐยังคงอ่อนแอ

 

สกุลเงินยูโรดีดตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ก.ย.) เนื่องจากตลาดคาดว่าการประชุมระหว่างผู้นำกรีซ เยอรมนี และฝรั่งเศส ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเย็นวันพุธตามเวลาไทยนั้น จะมีการหารือกันถึงแนวทางการช่วยเหลือกรีซและยับยั้งการลุกลามของหนี้สาธารณะในยุโรป อย่างไรก็ตาม ยูโรขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป ขณะที่สกุลเงินฟรังค์สวิสและเงินเยนพุ่งขึ้นเนื่องจากนักลงทุนยังคงมองว่าเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ

 

GOLD Market Recap : 13/09/2011

MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,831 $ ส่วน Gold Future V11 เปิดที่ 26,640 บาท สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 26,250 บาท โดยเปิดลดลง 150 บาท ตลาดทองคำ ( ราคาต่างประเทศ ) อยู่ในทิศทางปรับฐาน และค่าเงินบาทอ่อนค่าลง ขณะนี้อยู่ที่ระดับ 30.30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ สำหรับในช่วงเช้าราคาทองคำวิ่งในทิศทาง Sideway โดยวิ่งในกรอบแคบๆที่ระดับ 1,828-1,831 เหรียญ ช่วงบ่ายราคาทองคำวิ่งในทิศทางขาลงโดยลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1792 เหรียญ และสามารถดีดกลับมายืนอยู่ ณ ตอนนี้ที่ระดับ 1820 เหรียญ Gold Future V11 ปิดตลาดที่ 26,280 บาท ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำแท่งมีการปรับขึ้นลงระหว่างวัน 8 ครั้ง โดยปิดลดลง 200 บาท ที่ระดับ 26,050 บาท โดยที่ตลอดทั้งวันนักลงทุนซื้อขายกันอย่างระมัดระวังเนื่องจากราคาทองคำวิ่งในลักษณะปรับฐาน

 

NIGHT RECAP : ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1830 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1797 - 1830 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1820 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1810 — 1832 เหรียญ และกลับมาปิดตลาดที่ 1830 เหรียญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หวัดดีค่ะ

 

เมื่อซักครู่ นั่งดู กลุ่ม ma มองไปมองมา ก็น่าจะดีนะ น่าจะดีดนะ หรือดิ่งดีล่ะ ถ้าไม่โดนทุบไปจน

เสียรูปแบบ !19 !Hot

 

 

แนวรับ 1792 1780 1774 1767...1750

 

แนวต้าน 1844 1850 1855 1864 ...1904

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี มดแดง put42 และทุกคน

 

In Focus: ยูโรโซนเปิดไซเรน จับตากรีซ-ฝรั่งเศส-เยอรมนีถกวิกฤตหนี้คืนนี้

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 กันยายน 2554 13:28:08 น.

แว่วเสียงไซเรนในยูโรโซนยังคงกระตุกทุกโสตประสาทให้พุ่งความสนใจไปยังต้นเสียงเหมือนเช่นเคย โดยเฉพาะในสัปดาห์นี้ที่มีกระแสความตื่นตระหนกเกิดขึ้นมากมาย จนกลายเป็นสัญญาณอันตรายที่ทำให้ผู้นำกรีซ ฝรั่งเศส เยอรมนีจัดการประชุมทางโทรศัพท์ในวันนี้เวลา 23:00 น.ตามเวลาในประเทศไทย

 

เป็นที่ทราบกันดีว่า ความเคลื่อนไหวในยูโรโซนตั้งแต่ต้นสัปดาห์มาจนถึงวันนี้ยังคงอยู่ท่ามกลางสัญญาณอันตรายจากวิกฤตหนี้สาธารณะที่ยุ่งยากและยุ่งเหยิงทั้งกระแสความหวาดหวั่นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้ อิตาลีอ้อนจีนซื้อพันธบัตรรัฐบาล บุคคลสำคัญของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ลาออกแบบช็อกวงการ และธนาคารของฝรั่งเศส 2 แห่งถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ

 

 

 

กรีซ...ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย

จากอดีตศูนย์กลางอารยธรรมกรีกโบราณที่รุ่งเรืองที่สุดเมื่อ 800 ปีก่อนคริสตกาล ในปีคริสตศักราช 2011 กรีซได้เปลี่ยนสถานภาพไปเป็นศูนย์กลางแห่งวิกฤตหนี้ที่ไม่พึงปรารถนา จนนำมาซึ่งความเสี่ยงต่อการผิดนัดชำระหนี้ หลังจากที่ประเทศคว้าน้ำเหลวในการดำเนินมาตรการทางการคลังเพื่อแลกกับการได้รับความช่วยเหลือทางการเงินจากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)

 

ต้นสัปดาห์มานี้ สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่งพร้อมใจรายงานถึงความหวั่นวิตกของนักลงทุนในประเด็นดังกล่าว ขณะที่นายฟิลิปปอส ซาชินิดิส รมช.คลังกรีซก็ตอกย้ำความวิตกกังวลของนักลงทุนด้วยการออกมายอมรับว่า รัฐบาลกรีซมีเงินสดก้นกระเป๋าสำหรับการบริหารประเทศเหลือเพียงแค่หนึ่งเดือน!

 

สัญญาณอันตรายดังกล่าวเริ่มปรากฏให้เห็นตั้งแต่ช่วง 8 เดือนแรกปีนี้ เมื่อกรีซมีตัวเลขขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น 22% ซึ่งสะท้อนถึงความล้มเหลวในการดำเนินมาตรการลดรายจ่ายภาครัฐจนทำให้ความเชื่อมั่นที่นักลงทุนมีต่อตราสารหนี้กรีซถอยหลังลงคลอง มิหนำซ้ำรัฐบาลกรีซยังคาดว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ในปีนี้จะติดลบมากกว่า 5% ซึ่งสูงกว่าการคาดการณ์ของคณะกรรมการกิจการยุโรปที่ประเมินว่า จะติดลบ 3.8%

 

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในกรีซได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อการแก้ปัญหาหนี้สินในประเทศที่ไร้ซึ่งสภาพคล่องแห่งนี้ ขนาดที่ผู้เชี่ยวชาญระดับเกจิฟันธงว่า งานนี้คงกรีซคงเอาตัวรอดลำบาก เพราะไม่ว่าประเทศไหนหรือเทพเจ้ากรีกชื่อดังจากแห่งหนใดก็ไม่สามารถชี้ทางสว่างเพื่อกอบกู้ศรัทธาของนักลงทุนที่มีต่อยูโรโซนให้กลับคืนมาได้ดังเดิม

 

อิตาลี...ชวนจีนชิม (บอนด์) สปาเกตตี้กันมั้ย?

อิตาลีเป็นอีกประเทศที่หายใจรดต้นคอกรีซมาติดๆ ในภาวะที่สถานะการคลังสั่นคลอนจนต้องบากหน้าไปหาพญามังกรและอ้อนวอนให้จีนลองชิมพันธบัตรของแดนสปาเกตตี้แทนการซดบะหมี่กวางตุ้งไปพลางๆ

 

โดยเมื่อวานนี้ (13 ก.ย.) สำนักข่าวซินหัวรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ว่า ทางการอิตาลีได้เข้าพบกับประธานของไชน่า อินเวสต์เมนต์ คอร์ป (ซีไอซี) ซึ่งเป็นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของจีนที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเข้าหารือกับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานแห่งรัฐเพื่อการกำกับดูแลอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (SAFE) ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารจัดการทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนมูลค่า 3.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อโน้มน้าวให้จีนลงทุนซื้อในพันธบัตรของอิตาลี

 

ข่าวความเคลื่อนไหวข้างต้นมีขึ้นในขณะที่อิตาลีกำลังอยู่ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน เมื่อหนี้สาธารณะของประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยุโรปแห่งนี้จ่อพุ่งสูงสุดเป็นอันดับสองรองจากกรีซในปีนี้ ขณะที่นักลงทุนก็ไม่มั่นใจในฐานะการคลังของอิตาลีพราะการประมูลพันธบัตรรัฐบาลครั้งนี้ทำให้อิตาลีต้องจ่ายอัตราผลตอบแทนสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ นับแต่เริ่มมีการใช้สกุลเงินยูโรเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้ว

 

นายแซร์จิโอ มากีโอนเน ซีอีโอของเฟียตได้กล่าวแสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์นี้ว่า สถานการณ์ในปัจจุบันมีความเสี่ยงที่จะลุกลามจนคุมไม่อยู่ ขณะที่กูรูในตลาดเงินมองว่า ตลาดผันผวนก็เพราะนักลงทุนต้องการเห็นการแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในอิตาลี หรือแม้กระทั่งในยูโรโซน ตลอดจนท่าทีของเยอรมนีกลับแสดงให้เห็นว่าไม่มีใครที่กุมบังเหียนและเสนอนโยบายของยูโรโซนที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเลย

 

เยอรมนี...คีย์แมนแห่งอีซีบีไขก๊อกช็อกวงการ (การเงิน)

ในขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กำลังตรากตำอยู่กับปัญหาคาราคาซังในยูโรโซน ไฟแห่งการทำงานที่เคยลุกโชนของนายเจอร์เกน สตาร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของอีซีบีซึ่งเป็นผู้แทนคนสำคัญของเยอรมนีกลับมอดดับลง จนนำมาซึ่งการประกาศลาออกที่สร้างความโกลาหลต่อตลาดโลกเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

การลาออกก่อนครบวาระการดำรงตำแหน่ง 3 ปีของนายสตาร์กได้สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนอย่างมหาศาลในยามที่เยอรมนีกำลังถูกจับตามองในฐานะเสาหลักของยูโรโซนผู้เป็นแกนนำการกอบกู้วิกฤตหนี้ในภูมิภาคดังกล่าว โดยสาเหตุของการสละเก้าอี้มาจากความขัดแย้งเกี่ยวกับโครงการซื้อพันธบัตรที่เปรียบเสมือนอาวุธหลักของอีซีบีผู้ถือครองพันธบัตรรัฐบาลกรีซ อิตาลี สเปน ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส เป็นมูลค่า 1.35 แสนล้านยูโร

 

สตาร์ก ผู้เป็นเจ้าของแนวความคิดที่ว่า การแทรกแซงตลาดเป็นสิ่งเลวร้ายในเชิงหลักการนั้น ไม่เห็นด้วยกับแนวทางที่อีซีบีจะใช้เงินทุ่มซื้อพันธบัตรกรีซที่มีภาระหนี้สินอันหนักหน่วง เช่นเดียวกับผลสำรวจชาวเยอรมันมากกว่าค่อนประเทศที่ไม่หลงใหลได้ปลื้มไปกับความใจดีของรัฐบาลเยอรมนีในการใช้ภาษีของประชาชนมาแบกรับภาระหนี้ของประเทศอื่นที่ตนมิได้เป็นผู้ก่อ

 

ไมค์ เลนฮอฟฟ์ หัวหน้านักกลยุทธ์จากบริษัทเบรวิน ดอลฟิน กล่าวว่า การลาออกของคีย์แมนแห่งอีซีบีครั้งนี้ถือเป็นข่าวร้ายสำหรับธนาคารและตลาดหุ้น สิ่งใดที่ทำให้อีซีบีอ่อนแอลง สิ่งนั้นไม่ส่งผลดีต่อตลาดแน่ เพราะนั่นกำลังทำลายความเชื่อมั่นของต่างชาติที่มีต่ออีซีบีและยูโรโซน เช่นเดียวกับนักเศรษฐศาสตร์จากบาร์เคลย์ แคปิตอล ที่ระบุว่า ท่าทีดังกล่าวทำให้ตลาดเริ่มมั่นใจว่าเยอรมนีกำลังหมดศรัทธาต่อยูโรโซน

 

ฝรั่งเศส...แบงก์พาณิชย์ผวาหลังมูดีส์ลดเครดิต

ภาคธนาคารในแดนน้ำหอมไม่ใช่อะไรที่ชวนดอมดมอีกต่อไป เมื่อหุ้นของธนาคารยักษ์ใหญ่ 3 แห่งของฝรั่งเศสอย่างบีเอ็นพี พาริบาส์ โซซิเอเต เจเนราล (ซอคเจน) และเครดิต อะกริโคล กอดคอร่วงกราวจากข่าวมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ลงมือเชือดอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารซอคเจนและเครดิต อะกริโคลไปในวันนี้

 

การลงทุนในผลิตภัณฑ์ทางการเงินของกรีซ คือที่มาของสัญญาณอันตรายอันเป็นต้นเหตุที่ทำให้ธนาคารข้างต้นถูกลดอันดับเครดิต เนื่องจากธนาคารชั้นนำในแดนน้ำหอมถือครองพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้เอกชนของกรีซถึง 5.67 หมื่นล้านดอลลาร์ ตอกย้ำด้วยข้อมูลของธนาคารเพื่อการชำระหนี้ระหว่างประเทศ (BIS) ที่ว่า ธนาคารในฝรั่งเศสมีการลงทุนโดยรวมในตราสารหนี้กรีซมากที่สุด

 

ก่อนหน้านี้ ซอคเจน ธนาคารรายใหญ่อันดับสองของฝรั่งเศสที่ลงทุนในพันธบัตรกรีซเป็นมูลค่าประมาณ 900 ล้านยูโรประกาศแผนขายสินทรัพย์เพื่อระดมทุนให้ได้ 4 พันล้านยูโร (5.4 พันล้านดอลลาร์) ภายในปี 2556 โดยมีเป้าหมายที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธนาคาร หลังจากมูลค่าของธนาคารลดลงเกือบครึ่งหนึ่งในเดือนที่แล้ว

 

แต่ถึงกระนั้นซอคเจนยืนยันว่า ความเสี่ยงของธนาคารต่อหนี้สาธารณะในกรีซ ไอร์แลนด์ อิตาลี โปรตุเกส และสเปน อยู่ในระดับต่ำและสามารถจัดการได้อีกทั้งธนาคารกำลังมีการลดจำนวนพนักงานลงอย่างมากในหลายประเทศ เช่นเดียวกับผู้ว่าการธนาคารกลางฝรั่งเศสที่ออกมาเบรกตัวโก่งว่า ธนาคารฝรั่งเศสไม่ได้ตกอยู่ในความเสี่ยงอะไรทั้งสิ้น และไม่ว่าสถานการณ์ของกรีซจะเป็นเช่นไร ฝรั่งเศสก็รับมือไหวอยู่แล้ว

 

นานาประเทศ...นานาทัศนะ

ณ เวลานี้ หลายประเทศอาจเริ่มนับถอยหลังการประชุมผู้นำกรีซ ฝรั่งเศส เยอรมนีที่จะเปิดฉากขึ้นในคืนนี้ หลังจากที่วิกฤตหนี้ยูโรโซนได้สร้างความกังวลใจให้กับมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกาอยู่ไม่น้อย ดังจะเห็นได้จากการวิ่งรอกเข้าออกประเทศต่างๆของนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐ

 

ล่าสุดขุนคลังแห่งพญาอินทรีมีกำหนดเดินทางเยือนโปแลนด์เป็นเวลา 1 วันในสัปดาห์นี้ เพื่อเข้าพบบรรดารัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศยูโรโซนเป็นครั้งแรก ท่ามกลางความปริวิตกว่า กรีซอาจประสบภาวะล้มละลายและสูญเสียศักยภาพในการชำระหนี้ โดยเขาได้เอ่ยปากแนะนำให้รัฐมนตรีคลังในยุโรปแสดงความคิดเห็นไปในทิศทางเดียวกันเพื่อลดความสับสนในตลาดการเงิน

 

ด้านประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้ว่า ผู้นำกลุ่มประเทศยูโรโซนต้องแสดงให้ตลาดเชื่อมั่นว่า พวกเขาสามารถแก้วิกฤติหนี้ของยุโรปได้ พร้อมทั้งเตือนว่า เศรษฐกิจโลกจะยังคงอ่อนแอไปจนกว่าวิกฤติในยูโรโซนจะได้รับการแก้ไข

 

ความคิดเห็นของสหรัฐปรากฎออกมาในทิศทางเดียวกับคณะกรรมาธิการอียูที่มองว่า สถานการณ์เศรษฐกิจในยุโรปยังคงเปราะบาง โดยรายงานดังกล่าวบ่งชี้ด้วยว่า อัตราส่วนหนี้สินต่อตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและอาจอยู่ที่ 83.3% ของจีดีพีในปีหน้า โดยเฉพาะกรีซอาจมีอัตราส่วนหนี้สินเพิ่มขึ้นเป็น 166.1% ของจีดีพี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในยุโรป

 

ฟากฝั่งผู้นำแห่งมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของเอเชียอย่างนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีน ก็แสดงความกังวลต่อปัญหายุ่งยากนานัปการที่ยุโรปเผชิญมาเป็นเวลานาน พร้อมย้ำถึงความเต็มใจที่จะให้ความช่วยเหลือโดยเพิ่มการลงทุนในยุโรป ตลอดจนสนับสนุนความพยายามของยูโรโซนในการจัดการวิกฤตหนี้สิน แต่ขณะเดียวกันก็เรียกร้องให้ประเทศที่พัฒนาแล้วลดการขาดดุลงบประมาณและเพิ่มการจ้างงานมากกว่าที่จะหวังพึ่งจีนอยู่ฝ่ายเดียว

 

...เสียงไซเรนเตือนภัยที่ดังขึ้นอันเนื่องมาจากสถานการณ์ไม่ปกติสามารถสร้างความตกใจให้แก่ผู้คนทั่วไปได้ฉันใด เสียงไซเรนเตือนภัยที่ดังขึ้นในยูโรโซนก็สามารถสร้างความตื่นตระหนกให้แก่นักลงทุนได้ฉันนั้น และไม่ว่าการประชุมผู้นำกรีซ ฝรั่งเศส และเยอรมนีที่ตลาดกำลังจับตามองในคืนนี้จะออกมาในทิศทางไหน เชื่อได้ว่าไซเรนที่ดังแว่วมาแต่ไกลคงมิอาจเงียบดับลงได้ในชั่วข้ามคืน...

 

--อินโฟเควสท์ โดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผอ.IMF หนุนแทรกแซงตลาด FX แบบประสานงานกันมากกว่าการลุยเดี่ยวแบบญี่ปุ่น

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 กันยายน 2554 14:37:48 น.

นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เรียกร้องให้มีการแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราโดยมีการประสานงานกัน โดยนางลาการ์ดได้แสดงความคิดเห็นดังกล่าวในระหว่างการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ซึ่งบ่งชี้ว่าเธอไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐบาลญี่ปุ่นแทรกแซงตลาดฝ่ายเดียวเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา

 

"ดิฉันมั่นใจว่า นโยบายค่าเงินและอัตราแลกเปลี่ยน และความเคลื่อนไหวที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ก็คือการประสานงานร่วมกัน" เธอกล่าว

 

ประเทศอุตสาหกรรมในกลุ่ม G7 เคยเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตราโดยผ่านการประสานงานร่วมกัน เพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยนหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิเมื่อวันที่ 11 มี.ค.

 

นางลาการ์ดกล่าวว่า บทเรียนที่เธอได้จากการที่ญี่ปุ่นแทรกแซงตลาดเพียงลำพังก็คือว่า เมื่อมีการประสานงานกันเป็นอย่างดีแล้ว ก็ควรจะเก็บเรื่องนี้เป็นความลับ และจากนั้นจึงค่อยออกแถลงการณ์ ซึ่งการดำเนินการเช่นนี้จะทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผู้ว่าแบงก์ชาติฝรั่งเศสไม่หวั่นมูดีส์ลดอันดับ 2 แบงก์ ชี้ลดแค่ 1 ขั้น

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 กันยายน 2554 14:56:12 น.

นายคริสเตียน นอยเออร์ ผู้ว่าการธนาคารกลางฝรั่งเศส กล่าวถึงกรณีที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ลดอันดับความน่าเชื่อถือธนาคารโซซิเอเต เจนเนอราล และเครดิต อะกริโคล ว่า การตัดสินใจลดอันดับเครดิตดังกล่าวไม่ถือเป็นข่าวที่เลวร้าย ก่อนหน้านี้ ธนาคารของฝรั่งเศสมีอันดับความน่าเชื่อถือที่ดี และอยู่ในระดับเดียวกับธนาคารรายใหญ่ๆของยุโรป เช่น เอชเอสบีซี บาร์เคลย์ส ดอยช์ แบงก์ และเครดิต สวิส

 

 

"การลดอันดับครั้งนี้ เป็นการลดอันดับลงเพียงเล็กน้อย และอันดับความน่าเชื่อถือที่จัดทำโดยมูดีส์ก็สูงกว่าหน่วยงานจัดอันดับความน่าเชื่อถืออื่นๆอยู่แล้ว ดังนั้น การจัดอันดับครั้งนี้ทำให้ธนาคารอยู่ในอันดับเดียวกันหรือดีกว่าอันดับความน่าเชื่อของธนาคารอื่นๆเพียงเล็กน้อย

 

วันนี้ มูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของเครดิต อะกริโคล เอสเอ และโซซิเอเต เจนเนอราล หรือซอคเจนลง 1 ขั้น โดยให้เหตุผลเรื่องการลงทุนในกรีซของธนาคารทั้ง 2 แห่ง

 

ทั้งนี้ มูดีส์ได้ลดอันดับความน่าเชื่อถือของซอคเจนลง 1 ขั้น สู่ระดับ Aa3 จากระดับ Aa2 โดยให้แนวโน้มความน่าเชื่อถือในระยะยาวเป็นลบ

 

ส่วนเครดิต อะกริโคล นั้น มูดีส์ได้ลดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงิน (BFSR) ของเครดิต อะกริโคลลง 1 ขั้น สู่ระดับ C จากระดับเดิมที่ C+

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ว.วชิรเมธี (W.Vajiramedhi)

‎"เราสร้างวาสนาแล้ววาสนาก็สร้างเรา, ถ้าเกิดมาแล้วพัฒนา ยิ่งเกิดมานาน ยิ่งสุขทุกสถาน"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หวัดดีค่ะ

 

เมื่อซักครู่ นั่งดู กลุ่ม ma มองไปมองมา ก็น่าจะดีนะ น่าจะดีดนะ หรือดิ่งดีล่ะ ถ้าไม่โดนทุบไปจน

เสียรูปแบบ !19 !Hot

 

 

แนวรับ 1792 1780 1774 1767...1750

 

แนวต้าน 1844 1850 1855 1864 ...1904

 

 

รูปบน-ล่าง 1821 - 1830

 

140954ma1821-crop-vert.jpg

 

 

ดูกราฟราย 1 หลังโพสเสร็จ sto 9 5 5 ตัดขึ้นชัดเจน เดี๋ยวคงได้เห็นอะไรดีๆ

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะ คุณมดแดง

แฮะๆ ดีๆนี่ขึ้นใช่ไหมค่ะ :blink:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รูปบน-ล่าง 1821 - 1830

 

140954ma1821-crop-vert.jpg

 

 

ดูกราฟราย 1 หลังโพสเสร็จ sto 9 5 5 ตัดขึ้นชัดเจน เดี๋ยวคงได้เห็นอะไรดีๆ

 

ขอบใจ มดแดง ให้ทะลุแนวต้าน 1-2 ไปได้ :) มีลุ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...