ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

น้ำมัน NYMEX พุ่ง 88 เซนต์ขานรับผลประมูลพันธบัตรสเปน-ความเชื่อมั่นเยอรมนี

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 ธันวาคม 2554 20:42:31 น.

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบดือนม.ค.ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 88 เซนต์ แตะที่ 98.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ณ เวลา 12.04 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ (13 ธ.ค.) จากระดับปิดที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนวานที่ 97.77 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเยอรมนีเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ฟื้นตัวขึ้นในเดือนธ.ค. และสเปนสามารถประมูลพันธบัตรได้สูงกว่าเป้าหมาย

สถาบัน ZEW เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนเยอรมนีปรับตัวขึ้น 1.4 จุด สู่ระดับ -53.8 จุดในเดือนธันวาคม จากระดับต่ำสุดในรอบสามปีที่ -55.2 ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งแม้ตัวเลขติดลบบ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า สถานการณ์ทางเศรษฐกิจในเยอรมนีจะอ่อนแอลงในช่วง 6 เดือนข้างหน้า แต่สถาบัน ZEW ระบุว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้ร่วงถึงจุดต่ำสุดและเริ่มดีดตัวขึ้นแล้ว

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า สเปนสามารถระดมทุนจากการจำหน่ายพันธบัตรระยะสั้นได้ 4.94 พันล้านยูโร (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในวันนี้ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 4.25 พันล้านยูโร โดยให้อัตราผลตอบแทนในระดับที่ต่ำกว่าการประมูลครั้งก่อน

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.3%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในวันพรุ่งนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่ารัฐมนตรีพลังงานกลุ่มโอเปคจะกำหนดปริมาณการผลิตน้ำมันไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรล/วัน โดยมีเป้าหมายที่จะลดความขัดแย้งภายในกลุ่มโอเปค หลังจากสมาชิกโอเปคไม่สามารถตกลงกันได้ในการประชุมครั้งหลังสุดเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บายๆ ย่าหยา ตังเม พวงชมพู เด็กสยาม jojosung win win หัดเล่นgf และทุกคน

 

คำถามกวนที่ไม่ต้องรอเฉลย

 

ถ้าวันนี้เป็นวันจันทร์ วันอังคารเป็นวันอะไร? วันพรุ่งนี้

 

สัตว์บกอะไรตัวใหญ่กว่าช้าง? ช้างชุบแป้งทอด

 

มันอะไรกินไม่ได้? มันคือยาพิษ

 

 

พระอะไรไม่อยู่ในวัด? พระเอก

 

พระอะไรกินได้? พะโล้

 

ม้าอะไร คนนั่งได้ขี่ได้ แต่ไม่ยอมวิ่ง? ม้านั่ง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กรีซเผยยอดขาดดุลงบประมาณ 11 เดือนแรกปีนี้เพิ่ม 5% แต่ดีกว่าเป้าหมาย

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 13 ธันวาคม 2554 19:46:47 น.

รายงานเบื้องต้นของกระทรวงการคลังกรีซระบุว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลกรีซพุ่งขึ้น 5% สู่ระดับ 2.05 หมื่นล้านยูโร (2.65 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ จากปีที่แล้วที่ระดับ 1.95 หมื่นล้านยูโร

ส่วนรายได้ด้านการคลังในช่วง 11 เดือนแรกของปีนี้ หดตัวลง 3.1% เนื่องจากภาวะเศษฐกิจที่ถดถอยของกรีซได้ส่งผลกระทบต่อการจัดเก็บภาษี ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายของรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% หรือเพิ่มขึ้น 3.7 พันล้านยูโร เนื่องจากต้นทุนการชำระหนี้ปรับตัวสูงขึ้น 20%

อย่างไรก็ดี ยอดขาดดุลงบประมาณในช่วงเวลาดังกล่าวยังอยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย 2.1 หมื่นล้านยูโรที่รัฐบาลกำหนดไว้สำหรับปีงบประมาณ 2555 โดยรัฐบาลกรีซจะเปิดเผยการประเมินยอดขาดดุลงบประมาณขั้นสุดท้ายภายในเดือนนี้

เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา รัฐสภากรีซมีมติด้วยคะแนน 299 ต่อ 258 เสียง อนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดสำหรับงบประมาณประจำปี 2555 โดยมีเป้าหมายที่จะลดตัวเลขหนี้สาธารณะ และลดยอดขาดดุลงบประมาณให้ลงมาอยู่ที่ระดับ 5.4% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จากปีนี้ที่ระดับ 9% โดยผ่านการขึ้นภาษีและลดการใช้จ่ายในด้านต่างๆ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนของกรีซคาดว่า รัฐบาลของนายกรัฐมนตรี ลูคัส ปาปาเดมอส จะประสบความยากลำบากในการบังคับใช้มาตรการรัดเข็มขัด เมื่อพิจารณาจากบรรยากาศทางการเมืองที่เป็นลบทั้งภายในกรีซและประเทศอื่นๆในกลุ่มยูโรโซน ในขณะที่วิกฤตหนี้ยุโรปได้เพิ่มแรงกดดันให้กับประเทศเพื่อนบ้านเหล่านี้ด้วย

รายงานงบประมาณฉบับล่าสุดระบุว่า เศรษฐกิจกรีซมีแนวโน้มหดตัวลง 5.5% ในปีนี้ และคาดว่าจะหดตัวลงอีก 2.8% ในปีหน้า ซึ่งจะเป็นสถิติที่หดตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 5

หลังจากที่รัฐสภากรีซอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดแล้ว กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ก็ได้ตัดสินใจอนุมัติงินกู้เบิกจ่ายงวดที่ 6 มูลค่า 2.2 พันล้านดอลลาร์ยูโรให้กับกรีซนี้ ตามข้อตกลงที่กรีซทำร่วมกับไอเอ็มเอฟและสหภาพยุโรป (อียู) หลังจากรัฐบาลกรีซดำเนินมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจและการคลัง

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บายๆ ย่าหยา ตังเม พวงชมพู เด็กสยาม jojosung win win หัดเล่นgf และทุกคน

 

คำถามกวนที่ไม่ต้องรอเฉลย

 

 

ถ้าวันนี้เป็นวันจันทร์ วันอังคารเป็นวันอะไร? วันพรุ่งนี้

 

สัตว์บกอะไรตัวใหญ่กว่าช้าง? ช้างชุบแป้งทอด

 

มันอะไรกินไม่ได้? มันคือยาพิษ

 

 

 

พระอะไรไม่อยู่ในวัด? พระเอก

 

พระอะไรกินได้? พะโล้

 

ม้าอะไร คนนั่งได้ขี่ได้ แต่ไม่ยอมวิ่ง? ม้านั่ง

 

กวนจ๊ะ..กวน..กวน..มาซิมากวน(ก๊าลาแม) กัน อิอิอิ....

 

ขอบคุณนะนะนะ ginger ที่ให้ข่าวหลากหลาย บทความ แล้วก็..กวน..กวน(ชอบอ่ะ)

ขอบคุณนะมดแดง (วันนี้มานิดเดียว... รักนะ!)

ขอบคุณนะ news สำหรับกราฟ ตัวเลข (เวลานี้ตัวเลขไปที่ 1673 น่ะ)

ขอบคุณเพื่อนๆทุกๆคนที่แวะมาห้องนี้ทุกๆคนนะคะ

 

ค่ำนี้สงัดจังขอไปไหว้พระทำสมาธิล่ะนะ ราตรีสวัสจ๊ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับคุณ.. Ginger Moddang Chez NOT4545 ตังเม เด็กสยาม ย่าหยา พวงชมพู Chinchilla fung Mr.Li Ohshikung แสงแดด put42 bbeam mateenee ลูกน้ำเค็ม เฟิร์ส dep99 baskie30 GoldOfCourse Silver&Gold Goldbullish jojosung bmw2770 หัดเล่นgf และทุกท่านครับ :37 กราฟรายวันเป็นแดงแท่งห้าครับ :_10 ราคาตอนนี้ ทะลุ MA150ลงมาแล้วครับ

ราคาน่าจะลงสุดแล้วนะครับ ราคาคงต้องรีบาวแล้ว และน่าจะลงทดสอบแนวรับอีกรอบ

แบลคคิง

RSI Price Line เส้นเขียว32.04 ลดลงทิศทางวิ่งลงอยูใต้เส้นแดง และอยู่ใต้เส้นเหลืองครับ ตอนนี้ทะลุน้ำเงินล่างลงมาสุดด้านล่างแล้ว เกิด oversold แล้วครับหากลงต่อก็ไม่มาก ราคาพร้อมดีดได้ทุกเมื่อ น่าเสี่ยงเข้าLมากๆ

Trade Signal Line เส้นแดง 42.68 ค่าลดลงอยู่ต่ำกว่า 50 ขณะนี้แสดงทิศทางลง ครับ

Market base Line เส้นเหลืองอยู่ที่51.40ลดลงอีกเล็กน้อย

QQE เส้นฟ้า38.71ค่าลดลงเล็กน้อยวิ่งมาอยู่ใต้เส้นเหลือง44.91 ทิศทางวิ่งลงและอยู่ใต้เส้น 50 ครับแสดง ทิศทางลง

แนวต้าน 1637 1651 1668 1682

แนวรับ 1625 1615 ถ้าหลุดจากตรงนี้เผ่นก่อนเถอะขา L :_Rd

ขอให้โชคดีครับ :034

 

post-1891-0-67467200-1323819637_thumb.gif

ถูกแก้ไข โดย news

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี ทุกท่านครับ อากาศยังหนาวเหมือนเดิม กราฟ ปิด แท่งเมื่อวานยังแดงอยู่ครับ

ถือ s ต่อไป แต่ดู อินดี บางตัวเริ่มส่งสัญญาณการกลับตัว ต้องมาดูกันต่อป่าย

http://www.picza.net/show.php?id=vPlPEvZETP

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับ พี่ chez + พี่ bmw2770 + พี่ news + พี่ moddang + พี่ XAU-METALLIC + พี่ ginger + พี่ mtts + พี่ thank + พี่ fung + พี่ (^_^).เฟิร์ส.(^_^) + พี่ย่าหยา + พี่แม่มดหน่อย + พี่ mateenee + พี่สาวมือใหม่ + พี่ GoldofCourse + พี่หัดเล่น gf + พี่ deb99 + พี่ put42 และ พี่ๆ เพื่อนๆ ทุกคน

 

เมื่อวานราคาสามารถขึ้นไปสูงสุดที่ 1678 ก่อนโดนแรงขาย (ภาษาชาวบ้านเรียก "ทุบ") สวนลงมา

ตอนนี้ยืนอยู่ที่ 1625-1626

อาการยังร่อแร่เหมือนเดิม 55+

แต่ยังไงวันนี้ก็มีโอกาส rebound และปิดเป็นแท่งสีเขียวครับ

เพราะ มันมี Gap ที่ 1630.40 - 1631.32

นั่นหมายความว่า ถ้าราคาต่ำกว่า 1630.40 - 1631.32 เราสามารถซื้อได้ทุกราคา

แล้วไปปล่อย แถวๆ1630.40 - 1631.32 หรือมากกว่านะครับ

 

ป.ล. ความรู้จาก Kikkapu Sensei

http://www.thaigold.info/Board/index.php?/topic/782-%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%B2%E0%B8%9A-%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%B2%E0%B8%9A-%E0%B8%81%E0%B9%8A%E0%B8%B2%E0%B8%9A%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2/page__st__600

ถ้าผมผิดก็ว่าผมนะครับ มะใช่เฮียคิก 55+

 

โชคดีกันถ้วนหน้าครับ

ใกล้ปีใหม่แล้ว อย่าลืมใช้เงินกันเพื่อปรนเปรอความสุขของตัวเองนะครับ

ชีวิตมันสั้น จะตายวันตายพรุ่งก็ไม่รู้ 55+

ตายเป็นผีแล้วใช้เงินของมนุษย์ไม่ได้นะครับ

ใช้ได้แต่แบงค์กงเต๊ก 55+

ไม่รู้ว่าจะมีความสุขเท่าใช้เงินมนุษย์หรือเปล่า

^__________^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะ.

 

Ginger Chez Chinchilla fung Mr.Li Ohshikung put42 bbeam mateenee dep99 baskie30 GoldOfCourse Silver&Gold Goldbullish jojosung bmw2770 tato simsi Anew raty NuKkA goldtoy

 

หัดเล่นgf แสงแดด พวงชมพู ย่าหยา เด็กสยาม และทุกท่านค่ะ...

 

 

เอากราฟที่เคยโพสประจำมาให้ดูที่นี่เพราะมันเดาง่าย และบางท่านอาจพอมองได้บ้าง(มั๊ง)

 

แต่ดูช่วงนี้อาจตาลาย อยากให้ดูมุมกว้างๆ ว่าเห็นอะไร ถ้าเอามุมแคบมาเห็นชัดแต่ไม่รู้มาจากไหน

 

 

ดูแล้วราคาลงสุดจาก sto 9 5 5 แต่จะกลับตัวขึ้นไปได้หรือยังต้องรอดูว่าจะผ่านแนวต้านหรือไม่

 

ถ้าไม่ผ่านก็จะลงไปที่ 1615 1589 หรือต่ำกว่านั้น ช่วงนี้อ่านแนวรับไปก่อนนะ

 

อันนี้ประเมิน .....จากเส้นเช่นกัน ไม่มีการใช้ fibonacci มาเดาหรือวัด แต่ถ้าใช้เป็น เอามาคอนเฟริมก็น่าจะดี :17

 

 

 

post-21-0-77063400-1323824130_thumb.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"อากาศวันนี้"

 

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันพุธที่ 14 ธันวาคม 2554 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. บริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้มีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีอุณหภูมิสูงขึ้นแต่ยังมีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีก

 

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อนลง โดยตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไปมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร อนึ่ง หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้มีแนวโน้มเคลื่อนในแนวประเทศมาเลเซีย จะทำให้ภาคใต้ตอนล่างบริเวณจังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส มีฝนเพิ่มมากขึ้นในช่วงวันที่ 15-17 ธ.ค. 2554 นี้

 

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ อากาศเย็นถึงหนาวกับมีหมอกในตอนเช้า อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาอุณหภูมิสูงสุด 26-31 องศา สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด และมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 5-11 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศา อุณหภูมิสูงสุด 25-28 องศา สำหรับบริเวณยอดภู อากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-12 องศา

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

 

ภาคกลาง อากาศเย็นกับมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศา อุณหภูมิสูงสุด 27-28 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออก อากาศเย็นกับมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 16-20 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่ง ๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 28-31 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็นกับมีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 19-20 องศาอุณหภูมิสูงสุด 28-30 องศา ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม.

 

 

"เช้าวันพุธ อากาศเย้นเย็น ค่อยยังชั่วลมตะวันออกเฉียงเหนือพัดอ่อนตัวลงหน่อย" :_10

 

สวัสดีจ๊ะ ginger มดแดง news chez(chez1) คุณput42 คุณbaskie30 คุณfun Mr.Lee เด็กสยาม พวงชมพู และเพื่อนๆทุกๆคนนะคะ :uu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดี คุณๆ พ่อแม่พี่น้อง นักวิมือใหม่ เพื่อนๆ ที่ร้กทุกคน

 

ขยายตัวอ้กษร Ctrl+

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ยูโรร่วงหนัก หลังเยอรมนีขวางข้อเสนอเพิ่มทุน ESM

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 ธันวาคม 2554 07:21:23 น.

สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าประเทศยูโรโซนอาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ และข่าวที่ว่านายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ออกมาคัดค้านการเพิ่มทุนทรัพย์ให้กับกองทุนยุโรป ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รอบใหม่ในการประชุมครั้งล่าสุด

ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.17% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3030 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3184 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.67% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5481 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5585 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.12% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.980 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 77.890 เยน และพุ่งขึ้น 0.93% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9454 ฟรังค์ จากระดับ 0.9367 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.58% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0012 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0070 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.97% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7559 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7633 ดอลลาร์สหรัฐ

สกุลเงินยูโรร่วงลงทันทีที่มีข่าวว่า นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ปฏิเสธข้อเสนอให้มีการเพิ่มทุนทรัพย์ให้กับกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนกังวลว่า ศักยภาพในการปล่อยเงินกู้ของ ESM ในปัจจุบันที่ 5 แสนล้านยูโรนั้น อาจจะไม่เพียงพอต่อการช่วยเหลือสเปนและอิตาลี หากทั้งสองประเทศเผชิญกับวิกฤตการเงิน

ESM เป็นกองทุนให้ความช่วยเหลือประเทศยูโรโซน โดยที่ประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) มีมติให้ใช้ ESM ให้เร็วขึ้นจากเดิม 1 ปี โดยกำหนดว่าจะเปิดใช้ ESM ในเดือนก.ค. 2555 ส่วนกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) จะยังคงดำเนินงานต่อไปจนถึงกลางปี 2556

นอกจากนี้ สกุลเงินยูโรยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า ประเทศสมาชิก 27 ประเทศของอียูอาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ หลังจากมูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส, ฟิทช์ เรทติงส์ และสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้แสดงมุมมองในด้านลบต่อผลการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) ครั้งล่าสุด โดยมูดีส์ประกาศว่าจะทบทวนอันดับความน่าเชื่อถือของ 27 ประเทศสมาชิกอียูในช่วงไตรมาสแรกของปี 2555

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รอบใหม่ แต่กล่าวเพียงว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0 - 0.25% ไว้จนถึงกลางปี 2556

นอกจากนี้ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนต.ค.ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.55 ล้านล้านดอลลาร์ เพราะได้แรงหนุนจากการที่ภาคเอกชนมีความเชื่อมั่นและปรับเพิ่มสต็อกสินค้า

ทางการสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลราคานำเข้าและส่งออกเดือนพ.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรม และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนพ.ย.

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำร่วง $5.1 เหตุดอลล์แข็ง,ยอดค้าปลีกอ่อนแอ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 ธันวาคม 2554 06:59:24 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป และรายงานยอดค้าปลีกที่อ่อนแอของสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,663.1 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,627.80 - 1,681.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ดีดขึ้น 25.80 เซนต์ ปิดที่ 31.26 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาโลหะทองแดงส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 2.25 เซนต์ ปิดที่ 3.4415 ดอลลาร์/ปอนด์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 5.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,492.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.บวก 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 664.15 ดอลลาร์/ออนซ์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในช่วงเช้านั้นสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นขานรับข่าวรัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนจากการจำหน่ายพันธบัตรระยะสั้นได้ 4.94 พันล้านยูโร (6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เมื่อวานนี้ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ที่ 4.25 พันล้านยูโร โดยให้อัตราผลตอบแทนในระดับที่ต่ำกว่าการประมูลครั้งก่อน

อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำเริ่มอ่อนแรงลงหลังจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโร อันเนื่องมาจากการที่นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ออกมาปฏิเสธการเพิ่มทุนทรัพย์ให้กับกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) ซึ่งเป็นกองทุนให้ความช่วยเหลือประเทศยูโรโซนและจะทำหน้าที่แทนกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ในวันข้างหน้า

นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นอัตราขยายตัวยังนับว่าช้าที่สุดในรอบ 5 เดือน และยังต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้

อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์รายหนึ่งคาดว่า สถานการณ์ทางการเมืองที่ยังคงตึงเครียดในซีเรียและอิหร่าน อาจจะช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 ธันวาคม 2554 06:11:23 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รอบใหม่เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่เฟดระบุว่า ภาวะตึงตัวในตลาดการเงินทั่วโลกอาจจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 66.45 จุด หรือ 0.55% แตะที่ 11,954.94 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลบ 10.74 จุด หรือ 0.87% แตะที่ 1,225.73 จุด ดัชนี Nasdaq ปิดลบ 32.99 จุด หรือ 1.26% แตะที่ 2,579.27 จุด

 

--สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า อิหร่านจะปิดช่องทางลำเลียงน้ำมันที่ช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมันโลก ซึ่งจะช่วยหนุนสัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอีกในระยะใกล้นี้ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วของสหรัฐจะลดลง

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 2.37 ดอลลาร์ หรือ 2.42% แตะที่ 100.14 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

--สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรป และรายงานยอดค้าปลีกที่อ่อนแอของสหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 5.1 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 1,663.1 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สกุลเงินยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าประเทศยูโรโซนอาจจะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ และข่าวที่ว่านายกรัฐมนตรีเยอรมนีได้ออกมาคัดค้านการเพิ่มทุนทรัพย์ให้กับกองทุนยุโรป ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) รอบใหม่ในการประชุมครั้งล่าสุด

ค่าเงินยูโรร่วงลง 1.17% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3030 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3184 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนตัวลง 0.67% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.5481 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5585 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.12% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 77.980 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 77.890 เยน และพุ่งขึ้น 0.93% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9454 ฟรังค์ จากระดับ 0.9367 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้น 0.58% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0012 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.0070 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ร่วงลง 0.97% เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7559 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7633 ดอลลาร์สหรัฐ

 

--ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) ขานรับข่าวสเปนประสบความสำเร็จในการประมูลพันธบัตรเมื่อวานนี้ และดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนเยอรมนีที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งในเดือนธ.ค.

ดัชนี FTSE 100 ปิดบวก 62.29 จุด หรือ 1.2% แตะที่ 5,490.15 จุด

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดน้ำมัน NYMEX: น้ำมันดิบพุ่ง $2.37 จากข่าวอิหร่านเล็งปิดช่องแคบฮอร์มุซ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 ธันวาคม 2554 06:45:28 น.

สัญญาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (13 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า อิหร่านจะปิดช่องทางลำเลียงน้ำมันที่ช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าอาจจะเกิดภาวะตึงตัวในตลาดน้ำมันโลก ซึ่งจะช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นอีกในระยะใกล้นี้ นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้ปัจจัยบวกจากการที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วของสหรัฐจะลดลง

สัญญาน้ำมันดิบ NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 2.37 ดอลลาร์ หรือ 2.42% แตะที่ 100.14 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 97.64-101.25 ดอลลาร์

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 2.24 ดอลลาร์ หรือ 2.09% ปิดที่ 109.50 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 107.07-111.10 ดอลลาร์

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากสมาชิกคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งชาติในรัฐสภาอิหร่านเปิดเผยว่า อิหร่านจะปิดเส้นทางลำเลียงน้ำมันที่ช่องแคบฮอร์มุซ ซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมสำคัญที่เรือขนส่งน้ำมันขนาดใหญ่จะบรรทุกน้ำมันดิบจากอ่าวเปอร์เซียเพื่อนำไปส่งยังทั่วทุกมุมโลก

ทั้งนี้ แม้กระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าว แต่นักลงทุนก็ยังคงให้น้ำหนักกับข่าวนี้ และคาดการณ์ว่า การปิดช่องแคบฮอร์มุซจะส่งผลให้เกิดภาวะติดขัดด้านการลำเลียงน้ำมัน ซึ่งจะหนุนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้นอีกในระยะใกล้นี้

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล สต็อกน้ำมันกลั่นจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล สต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 1.5 ล้านบาร์เรล และอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.3%

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในคืนนี้ตามเวลาไทยเช่นกัน โดยมีการคาดการณ์ว่ารัฐมนตรีพลังงานกลุ่มโอเปคจะกำหนดปริมาณการผลิตน้ำมันไว้ที่ 30 ล้านบาร์เรล/วัน โดยมีเป้าหมายที่จะลดความขัดแย้งภายในกลุ่มโอเปค หลังจากสมาชิกโอเปคไม่สามารถตกลงกันได้ในการประชุมครั้งหลังสุดเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เฟดมีมติคงดอกเบี้ย 0-0.25% ย้ำเดินหน้าตรึงดอกเบี้ยต่ำจนถึงกลางปี 2556

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 14 ธันวาคม 2554 06:01:15 น.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25 % ในการประชุมเมื่อวานนี้ (13 ธ.ค.) พร้อมกับย้ำว่า เฟดจะยังคงรักษาอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปอย่างน้อยจนถึงกลางปี 2556

แถลงการณ์ภายหลังการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ระบุว่า คณะกรรมการเอฟโอเอ็มซีมีมติด้วยคะแนนเสียง 9 ต่อ 1 ให้คงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ 0-0.25% พร้อมกับเปิดเผยรายงานการประเมินเศรษฐกิจว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวปานกลาง แม้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลงก็ตาม

"แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ภาวะตึงตัวในตลาดการเงินทั่วโลกยังคงเป็นปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มที่จะเผชิญกับภาวะขาลง และเมื่อพิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันของสหรัฐแล้ว เฟดเล็งเห็นว่าควรจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษไปจนถึงกลางปี 2556" แถลงการณ์ของเฟดระบุ

นอกจากนี้ แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า "แม้มีข้อมูลบ่งชี้ว่าสภาวะตลาดแรงงานฟื้นตัวขึ้นในภาพรวม แต่อัตราว่างงานก็ยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก เฟดคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวปานกลางในช่วงหลายไตรมาสข้างหน้า และอัตราว่างงานจะขยับลงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายของผู้บริโภคยังคงขยายตัวต่อเนื่อง ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของภาคธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่ไม่รวดเร็วนัก และภาคครัวเรือนยังคงซบเซา"

ทั้งนี้ เฟดยืนยันว่า คณะกรรมการเฟดจะยังคงประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจจากข้อมูลที่ได้รับมาเป็นระยะๆ และเฟดพร้อมที่จะใช้เครื่องมือต่างๆเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง ควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพด้านราคา

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การประชุมในครั้งนี้นับเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายสำหรับปี 2554 ของเฟด ส่วนการประชุมเฟดครั้งต่อไปจะมีขึ้นในวันที่ 24-25 ม.ค.ปีหน้า

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...