ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ดัชนีภาวะธุรกิจสหรัฐทะยานทุบสถิติ 9 เดือนหลังยอดออร์เดอร์ใหม่พุ่ง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 17 มกราคม 2555 22:19:10 น.

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนม.ค.พบว่า ดัชนีทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 13.48 จุด จากตัวเลขที่มีการปรับทบทวนที่ 8.19 จุดในเดือนธ.ค.

ยอดสั่งซื้อใหม่ๆที่เพิ่มมากขึ้น บวกกับสถานการณ์การจ้างงานที่กระเตื้องขึ้นทำให้ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมในเดือนนี้สูงกว่าคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งประเมินไว้เพียง 11.0 จุด และอยู่ในระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.ปี 2554

ส่วนในวันพรุ่งนี้ สหรัฐจะมีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจหลายตัว ได้แก่ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค.จากกระทรวงแรงงาน, ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนพ.ย.ที่จะรายงานโดยกระทรวงการคลัง ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค. และสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) จะรายงานดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาริชาติ ชื่นชม/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป: หุ้นยุโรปปิดพุ่ง รับข้อมูลศก.จีน,ผลประมูลบอนด์ EFSF

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 มกราคม 2555 08:01:24 น.

ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากนักลงทุนมองว่า การที่เศรษฐกิจจีนขยายตัว 8.9 % ในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ช้าที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง จะทำให้ทางการจีนเริ่มหันมาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากข่าวความสำเร็จในการประมูลขายพันธบัตรของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF)

ดัชนี Stoxx 600 พุ่งขึ้น 0.9% ปิดที่ 253.27 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 2 ส.ค.

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีพุ่งขึ้น 112.92 จุด หรือ 1.82% ปิดที่ 6,332.93 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 6,270.97 - 6,343.04 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปรับตัวขึ้น 44.99 จุด หรือ 1.4% ปิดที่ 3,269.99 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3,243.37 - 3,292.59 จุด

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษดีดขึ้น 36.51 จุด หรือ 0.65% ปิดที่ 5,693.95 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,657.44 - 5,724.41 จุด

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ว่า จีดีพีของจีนขยายตัว 9.2% ในปี 2554 จากสถิติปีก่อนหน้านั้น ส่วนจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2554 ขยายตัว 8.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 2 ปีครึ่ง ทำให้นักลงทุนมองว่าจะปูทางให้รัฐบาลจีนหันมาใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ธนาคารกลางจีนได้อัดฉีดเงินมูลค่า 1.96 แสนล้านหยวน หรือ 2.68 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ เข้าสู่ตลาดการเงินโดยผ่านการซื้อคืนพันธบัตรอายุ 14 วัน โดยให้อัตราดอกเบี้ย 5.47%

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้แรงหนุนจากรายงานที่ว่า กองทุน EFSF สามารถระดมทุนด้วยการขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนล็อตใหม่ได้ 1.501 พันล้านยูโรเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลายุโรป ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดการเงินยังคงมีความเชื่อมั่นในตราสารหนี้ของ EFSF ถึงแม้ว่า EFSF เพิ่งจะถูกสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือก็ตาม

หุ้นกลุ่มรถยนต์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นอุตสาหกรรม 19 ประเภทที่คำนวณในดัชนี Stoxx 600 โดยหุ้นเดมเลอร์ทะยานขึ้น 3.8% และหุ้นเรโนลท์พุ่งขึ้น 2.6%

อย่างไรก็ตาม หุ้นเอสซาร์ เอ็นเนอร์จีซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันและผลิตกระแสไฟฟ้า ร่วงลง 26% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงหนักสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. 2553 หลังจากศาลฎีกาอินเดียตัดสินให้เอสซาร์แพ้คดีเกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 60.01 จุดขานรับข้อมูลศก.จีน-สหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 มกราคม 2555 06:31:16 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (17 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4 ของจีนและดัชนีภาวะธุรกิจในรัฐนิวยอร์กของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด ซึ่งข้อมูลดังกล่าวสามารถสกัดปัจจัยลบจากการที่สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 9 ประเทศในยูโรโซน

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวก 60.01 จุด หรือ 0.48% แตะที่ 12,482.07 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 4.58 จุด หรือ 0.36% แตะที่ 1,293.67 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น 17.41 จุด หรือ 0.64% แตะที่ 2,728.08 จุด

ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับรายงานของสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน (NBS) ว่า จีดีพีของจีนขยายตัว 9.2% ในปี 2554 จากสถิติปีก่อนหน้านั้น ส่วนจีดีพีไตรมาส 4 ปี 2554 ขยายตัว 8.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี

ทั้งนี้ แม้ว่าจีดีพีไตรมาส 4 ขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 10 ไตรมาส แต่ก็ยังสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ส่วนจีดีพีตลอดปี 2554 นั้น แม้ขยายตัวได้น้อยกว่าปี 2553 ที่ระดับ 10.3% แต่ก็ยังสูงกว่าเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้ที่ 8%

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า จีดีพีที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดของจีนช่วยพยุงตลาดหุ้นนิวยอร์กเอาไว้จนแทบจะไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวเอสแอนด์พีประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของฝรั่งเศสและอีก 8 ประเทศของยุโรโซน รวมทั้งลดอันดับความน่าเชื่อถือของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ลง 1 ขั้น

ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกมากขึ้นเมื่อธนาคารกลางเยอรมนี (บุนเดสแบงก์) รายงานว่า กองทุน EFSF สามารถระดมทุนด้วยการขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนล็อตใหม่ได้ 1.501 พันล้านยูโรเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลายุโรป ด้วยอัตราส่วนความต้องการซื้อต่อปริมาณที่นำออกจำหน่ายอยู่ที่ 3.1 เท่า ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดการเงินยังคงมีความเชื่อมั่นในตราสารหนี้ของ EFSF ถึงแม้ว่า EFSF เพิ่งจะถูกเอสแอนด์พีปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือก็ตาม

ขณะเดียวกันมีรายงานว่า รัฐบาลสเปนสามารถระดมทุนจากการประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 12 เดือนและ 18 เดือนได้ 4.88 พันล้านยูโรหรือประมาณ 6.23 พันล้านดอลลาร์ โดยต้นทุนในการกู้ยืมลดลง และรัฐบาลกรีซสามารถประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนได้ 1.625 พันล้านยูโร หรือประมาณ 2.06 พันล้านดอลลาร์ โดยต้นทุนในการกู้ยืมลดลงเช่นกัน

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากรายงานของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กที่ระบุว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนม.ค.ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนที่ 13.48 จุด จากระดับ 8.19 จุดของเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มการฟื้นตัวที่ดีของเศรษฐกิจสหรัฐ

หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นลงคละเคล้ากันไป โดยหุ้นธนาคารเวลส์ ฟาร์โก ดีดตัวขึ้น 0.7% หลังจากธนาคารเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด แต่หุ้นซิตี้กรุ๊ป อิงค์ ร่วงลง 8.2% และหุ้นเอ็มแอนด์ที แบงก์ ร่วงลง 1.6% หลังจากธนาคารทั้งสองแห่งรายงานผลประกอบการที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของตลาดวอลล์สตรีท

หุ้นคาร์นิวาล ซึ่งเป็นผู้ประกอบการเรือสำราญรายใหญ่ระดับโลก ร่วงลง 13.7% หลังจากเรือคอสต้า คอนคอร์เดีย ของบริษัทอับปางลงนอกชายฝั่งทัสแคนของอิตาลี ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 คน และทางการอิตาลีกำลังดำเนินคดีกับกัปตันเรือในข้อหาประมาทจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., กระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนพ.ย., ธนาคารกลางสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการผลิตในภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิตเดือนธ.ค. และสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB) จะเปิดเผยดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.

วันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค., กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค. และกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์ สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติจะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค.

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000007528

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ดัชนีมีแนวรับ 1,045 จุด แนวต้าน 1,060 จุด blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 มกราคม 2555 05:07 น.

 

Share

blank.gif ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1,056.54 จุด เพิ่มขึ้น 19.53 จุด(+1.88%)มูลค่าการซื้อขาย 24,030.95 ล้านบาท ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในช่วง 1,042 - 1,056 จุด นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้นกันถ้วนหน้า อย่างไรก็ดี สถานการณ์ในยุโรปยังเป็นเรื่องที่จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งในสัปดาห์นี้ก็มีการประมูลพันธบัตรกันหลายประเทศ

แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(18 ม.ค.) ดัชนีมีแนวรับ 1,045-1,050 จุด และแนวต้าน 1,060-1,062 จุด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เวิลด์แบงก์ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้เหลือ 2.5% จากผลกระทบหนี้ยุโรป

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 18 มกราคม 2555 09:10:05 น.

ธนาคารโลกปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2555 ลงมาอยู่ที่ระดับ 2.5% จากเดิมที่คาดว่า จะขยายตัว 3.6% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญความเสี่ยงจากวิกฤตหนี้ยุโรป

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คติธรรมคำสอน ของ สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต พรหมรังสี )

 

เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ

ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต ) กล่าวว่า เคล็ดลับสู่ความสำเร็จสุดยอดในทางธรรม คือ จะต้องมีสัจจะอันแน่วแน่ และมีขันติธรรมอันมั่นคง จึงจะฝ่าฟันอุปสรรค บรรลุความสำเร็จได้ อาตมามีกฎอยู่ว่า เช้าตีห้าไม่ว่าฝนจะตก ฟ้าจะร้อง อากาศจะหนาว

ต้องตื่นทันที ไม่มีการผัดเวลา แล้วเข้าสรงน้ำ ชำระกายให้สะอาด แล้วจึงได้สวดมนต์และปฏิบัติสมถกรรมฐานหนึ่งชั่วโมง

พอหกโมงตรงก็ออกบิณฑบาต

เพื่อปฏิบัติตามปฏิปทาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

 

ฝึกจิตให้ได้ผลต้องตรงต่อเวลา

กลับจากบิณฑบาตแล้ว ก็เอาอาหารตั้งไว้ ตักน้ำใส่ตุ่ม เสร็จแล้วฉันอาหารเช้า โดยปกติอาตมาฉันมื้อเดียวเว้นไว้มีกิจนิมนต์

จึงฉันสองมื้อ สี่โมงเช้าถึงเที่ยง ถ้ามีรายการไปเทศน์ ก็ไปเทศน์ตามที่นัดไว้

วันไหนไม่ติดเทศน์ก็จะปิดประตูกุฏิทันที ไม่ให้ใครๆเข้าไป

ในช่วงเวลานั้นเป็นเวลาศึกษาตำรา เวลาบ่ายโมงจึงออกรับแขก บ่ายสามโมงไม่ว่าใครจะมาอาตมาจะให้ออกจากกุฏิไปหมด

เพราะถึงเวลาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

ฉะนั้น จุดสำคัญจงจำไว้ เราจะปฏิบัติเพื่อหลุดพ้น ต้องมีสัจจะเพื่อตน โดยไม่เห็นแก่หน้าใคร ถึงเวลาทำสมาธิต้องทำ ไม่มีการผัดผ่อนใดๆ ทั้งสิ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หวัดดีค่ะ เพื่อนๆ

 

 

 

ติดเอาคอมพ์มาด้วย มีเวลาเลยลองดูที่เครื่องนี้บ้าง ก็ไม่เลวนะคะ แนวรับ ต้านตามรูปเลย แนวโน้มลงต่อนะคะ อิอิ เหมือนที่เล็งไว้

 

 

 

180155fiboarctrendma.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคับทุกคน :32 วันนี้อาจจะแนวขัดใจใครหลายๆคนหน่อยนะครับ :ghost

มาดูกราฟกันเลย18-1-12-02.jpgจากเมื่อวานที่เอากราฟราย4มาให้ดูผมเคยบอกว่าคลื่น3ราย4(4h3)น่าจะเป็นคลื่นขยาย พอมาดูในรายชม.หากนับคลื่นก็ได้คลื่นย่อย5คลื่นดังนี้ :ghost พอจบ5คลื่นย่อยก็ได้คลื่น1ของรายชม(1h1) พอดี มันก็เลยย่อลงมา ย่อมาแรงซะด้วยเลยต้องมาดูกราฟราย1518-1-12-01.jpg

อ้าวนับได้5คลื่นย่อยของA(15mA) คิดว่าคงจะรีบาวขึ้นก่อนทำBมีสามเป้าที่คาดว่าจะถึงแล้วทำCต่อก็จะจบ2รายชม(1h2) แถวๆ 1636-1628 :_10

สรุปเลยละกัน ถ้าวันนี้มันลงมา1636-1628 ผมจะโดดขึ้น :gvmeไม่รู้ว่าจะโดดลงเหวป่าวว้า :033

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากค่ะ คุณginger พี่มดแดง news bmw2770 baskie30 ย่าหยา

สวัสดีค่ะ ทุกๆคน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลืมบอกไปราคาที่ผมบอกไม่รู้จะได้เห็นในเวลากลางวันรึป่าว :_02 ฝรั่งมันคงไม่ให้เราซื้อแท่งราคาถูกง่ายๆหรอก :uu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หาอะไรอ่าน ลบอะไรบางอย่างที่เกินไป เพื่อให้คอมพ์เร็วขึ้น ระหว่างรอๆๆๆ

 

 

เลยเอามาให้อ่าน

 

 

บทความโดยคุณลุงโฉลก เซฟไว้นานแล้ว ขอบคุณคุณลุงโฉลกมากค่ะ

 

 

กฎเหล็ก 3 ข้อ เริ่มมาจากทฤษฎีดาว Dow's Theory

 

Technical analysis เริ่มต้นจาก Dow’s Theory โดย Charles H. Dow และ Edward D. Jones ก่อตั้ง Dow Jones & Company ในปี 1882 และเริ่มสร้าง Dow Jones Industrial Average (^DJX) และ Dow Jones Transport Average (^DJT) ปัจจุบันนี้ มี Dow Jones Averages ต่างๆอยู่ในตลาดถึง 1,740 Indices

Dow’s Theory มีหลักที่สำคัญอยู่ 8 ข้อ คือ......(ขอย้ำ 8 ข้อ นะครับ)ใครรู้บ้างว่า 8 ข้อ เริ่มแรก มีอะไรบ้างน้อ..?.......

ตอบ..................

 

Dow’s Theory มีหลักที่สำคัญอยู่ 8 ข้อ คือ

 

1. The Averages discount everything ราคาที่ปรากฎในตลาด เป็นผลมาจากความปรารถนาของมหาชน ไม่ว่า Fundamentals หรือ Indicators อื่นๆ จะแสดงอะไรก็ตาม ให้ถือ Price Pattern ของ Index เป็นใหญ่ อย่าไปเชื่อข้อมูลลับที่ลือกันในตลาด

 

2. There are three trends in stock prices นักลงทุนต้องแยกแยะ

2.1 Primary Tide เป็น Major long-term trend และ

2.2 Secondary Reactions เป็น Intermediate-term trend และ

2.3 Ripples เป็น Minor day-to-day fluctuations สำหรับ Short-term traders

 

3. Bull Market คือ Primary Tide อยู่ใน Up-trend ประกอบด้วยคลื่น 3 คลื่น

3.1 คลื่นแรก (Wave 1) มาจากนักลงทุนที่มีความสามารถเห็นแนวโน้มก่อนตลาด

3.2 คลื่นที่สอง (Wave 3) เป็นคลื่นของนักลงทุนทั่วๆไป เข้ามาตามสัญญาณ และ

3.3 คลื่นที่สาม (Wave 5) เมื่อตลาด Bullish เต็มที่ แมงเม่าเข้ามาบินว่อนเล่นไฟ

 

4. Bear Market คือ Primary Tide อยู่ใน Down-trend ประกอบด้วยคลื่น 3 คลื่น

4.1 คลื่นแรก (Wave 1) มาจากนักลงทุนที่มีความสามารถเห็นแนวโน้มก่อนตลาด

4.2 คลื่นที่สอง (Wave 3) เป็นคลื่นของนักลงทุนทั่วๆไป ตกใจขาย และ

4.3 คลื่นที่สาม (Wave 5) เมื่อตลาด Bearish เต็มที่ แมงเม่าขาย at any price

 

5. The two Averages must confirm each other การกำหนด Primary Tide ว่าเป็น Bullish ทั้ง ^DJI และ ^DJT ต้องมี New Higher Peaks และการกำหนด Primary Tide ว่าเป็น Bearish ทั้ง ^DJI และ ^DJT ต้องมี New Lower Troughs ข้อนี้เราเอามาดัดแปลง โดยพิจารณาหุ้นแต่ละตัวหรือแต่ละ Sector เปรียบเทียบกับ SET Index หรือ SET100 Index

 

6. Use only Closing price at the end-of-day ราคาระหว่างวันไม่นำมาพิจารณา การอยู่ไกล้ตลาดมากเกินไปมักทำให้ตัดสินใจผิดพลาด

 

7. The Primary Tide remains in effect until reversal has been signalled by both averages แปลง่ายๆว่า อย่ารีบขายหมู

เมื่อ ย้อนกลับไปอ่านบทเริ่มต้นของบทความนี้ ผมเขียนว่า “Dow’s Theory มีหลักที่สำคัญอยู่ 8 ข้อแต่เขียนเอาไว้แค่ 7 ข้อ ไม่รู้ว่ามีใครสงสัยบ้างว่าข้อที่ 8 คืออะไร

 

 

8. The Theory is not infallible. If someone did find such a system, then he or she will own the world in relatively short order and speculation as we know it will not exist.

 

คงไม่ต้องแปลนะครับ ถ้าทฤษฎีต่างๆ ถูกต้องแน่นอน 100% พวกเราคงรวยกันเป็นแน่ การที่เราสามารถมองเห็น Pattern ต่างๆได้ก่อนคนอื่น ทำให้เราสามารถเข้าตลาดได้ก่อนคนอื่น และออกได้ก่อนคนอื่นด้วย โดย Average แล้ว Chance ของเราจะดีกว่าคนอื่น Probability ที่จะได้กำไรสูงกว่าคนอื่น แต่ก็ไม่ไช่การ Guarantee ว่าจะถูกเสมอไป ดังนั้น การ Apply century old Dow’s theory กับการลงทุนของพวกเรา จึงเป็นการเพิ่ม Probability ของการได้กำไร และเพื่อป้องกัน Short fall ของ Dow’s theory

 

ในข้อสุดท้ายนี้ ลุง โฉลกจึงขอเสนอ CDC Theory ข้อที่ 1 เพื่อนำไปต่อท้ายเป็น Dow’s theory ข้อที่ 9 ว่า Take good care of the Stop Loss and the profit will look after itself.

 

บทความโดย : UNCLE CHALOKE

จันทร์ 13 พ.ย. 06

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ความคืบหน้าของการดำเนินการกรณีสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยออกประกาศเตือนการเดินทางมายังกรุงเทพฯ เนื่องจากความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ก่อการร้าย

ข่าวต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ -- พุธที่ 18 มกราคม 2555 11:02:17 น.

กรุงเทพ--18 ม.ค.--กระทรวงการต่างประเทศ

 

เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๕ นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับความคืบหน้าของการดำเนินการของกระทรวงการต่างประเทศ กรณีสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยออกประกาศเตือนการเดินทางมายังกรุงเทพฯ เนื่องจากความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายในกรุงเทพฯ ว่า เมื่อวันที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๕๕ เวลา ๑๖.๐๐ น. นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้เชิญนาง Judith B. Cefkin อุปทูต สหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย มาพบหารือที่กระทรวงการต่างประเทศ

ในโอกาสดังกล่าว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้แสดงความห่วงกังวลที่สหรัฐอเมริกา โดยสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยได้ออกประกาศคำเตือนดังกล่าว โดยในส่วนของไทย เห็นว่าเรื่องนี้ต้องมีการดำเนินการอย่างระมัดระวัง เนื่องจากมีผลกระทบต่อประเทศไทยโดยรวม โดยเฉพาะเมื่อคำนึงถึงว่าได้มีการประสานงานระหว่างกันก่อนหน้านี้และนับตั้งแต่ฝ่ายไทยได้ทราบเบาะแสเรื่องนี้มาตั้งแต่ปลายปี ๒๕๕๔ ได้มีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำถึงความสำคัญของการต่อต้านการก่อการร้าย และเห็นว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องมีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น

ปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้ย้ำขอให้ฝ่ายสหรัฐอเมริกาพิจารณาเกี่ยวกับการออกประกาศคำเตือน โดยคำนึงถึงการดำเนินการของฝ่ายไทยและพัฒนาการในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ แม้ฝ่ายความมั่นคงยังคงระดับการเตรียมพร้อมรับมือและเข้มงวดกวดขันเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อเป็นมาตรการเฝ้าระวังไว้ก่อน ซึ่งอุปทูตสหรัฐฯ รับที่จะคำนึงถึงข้อมูลเหล่านี้ พร้อมทั้งได้ขอบคุณฝ่ายไทยสำหรับการดำเนินการต่าง ๆ และการให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ ซึ่งได้สร้างความมั่นใจให้กับฝ่ายสหรัฐอเมริกา

ต่อข้อซักถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า กระทรวงการต่างประเทศจะเชิญเอกอัครราชทูตประเทศอื่น ๆ ที่ออกประกาศคำแนะนำการเดินทางเกี่ยวกับกรณีนี้มาชี้แจงด้วยหรือไม่นั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศกล่าวว่า คงจะต้องพิจารณาเป็นรายกรณี โดยประเทศที่ออกประกาศเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งขณะนี้มีจำนวน ๑๕ แห่ง ส่วนใหญ่จะอ้างประกาศคำเตือนของสหรัฐอเมริกา และเป็นการให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ไม่ได้เป็นการยกระดับคำเตือน หรือห้ามคนชาติเดินทางมายังไทย เพียงแต่แจ้งให้ติดตามข่าวสารและใช้ความระมัดระวัง

 

กองการสื่อมวลชน กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ โทร. 643-5170 โทรสาร. 643-5169 E-mail : div0704@mfa.go.th--จบ--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...