มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ย่าหยา 395]

http://www.youtube.com/watch?v=Z_r3CPxF64U&feature=youtu.be

[baskie30 6,060]

กราฟนี้ฝากเป็นแนวทางสำหรับเพื่อนๆทุกคนช่วยตรวจการบ้านของผมด้วยนะครับ ลองขยับตัวเลขใหม่บางทีผมอาจจะนับผิดคาดเคลื่อนได้ พอนับๆดูแล้วขยับคลื่นย่อยด้วยทำให้คาดการณ์ว่าทองอาจจะวิ่งแบบนี้ลำดับคลื่นก็อาจจะเป็นแบบนี้

[ginger 11,058]

แมร์เคลยืนยันเยอรมนีไม่เพิ่มเงินสมทบกองทุน EFSF แม้ถูก S&P ลดเครดิต

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2555 12:06:54 น.

นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้แสดงจุดยืนว่า เธอไม่สนับสนุนให้ดำเนินการตามคำเรียกร้องของตลาดในเรื่องการเพิ่มเงินทุนสมทบให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) แม้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 9 ประเทศยูโรโซน และลดอันดับความน่าเชื่อถือของ EFSF ด้วยก็ตาม

"ดิฉันกำลังพยายามดูอยู่ว่า เยอรมนีสามารถจะทำอะไรเพื่อประเทศอื่นๆในยูโรโซนได้มากกว่านี้" นางแมร์เคลกล่าวในระหว่างการแถลงข่าวเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เยอรมนีจะสร้างความแข็งแกร่งในยูโรโซนได้อย่างไร ภายหลังจากถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ

หลังจากที่ S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถืของกองทุน EFSF ลงสู่ระดับ AA+ จากระดับ AAA เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งทิ้งระยะห่างเพียง 3 วันหลังจากที่ S&P ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 9 ประเทศยูโรโซน รวมถึงฝรั่งเศสและออสเตรียนั้น ตลาดการเงินและเจ้าหน้าที่ก็ได้เรียกร้องให้เยอรมนีและประเทศอื่นๆในยุโรปที่มีอันดับเครดิต AAA ช่วยเพิ่มการจ่ายเงินสมทบให้กับกองทุน EFSF

อย่างไรก็ตาม เยอรมนีแสดงท่าทีไม่เต็มใจที่จะเพิ่มการจ่ายเงินสมทบในกองทุน EFSF โดยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นายวูล์ฟกัง ชอยเบิล รมว.คลังเยอรมนีกล่าวว่า ฐานเงินทุนของ EFSF "มีขนาดใหญ่พอ" ที่จะดำเนินการตามกลไกที่กำหนดไว้ในระยะหลายเดือนข้างหน้านี้

ขณะที่นางแมร์เคลกล่าวว่า เธอไม่เชื่อว่าการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 9 ประเทศในยูโรโซนสามารถผลักดันให้เยอรมนีดำเนินการใดๆได้มากไปกว่าที่เป็นอยู่

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สถานะของกองทุน EFSF จำเป็นต้องพึ่งพาการรับประกันจากประเทศยูโรโซนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ AAA รวมถึงเยอรมนี ลักเซมเบิร์ก ฟินแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ เพื่อสนับสนุนศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ให้กับประเทศที่ประสบปัญหาหนี้ โดยศักยภาพในการปล่อยเงินกู้ของ EFSF ในปัจจุบันอยู่ที่ 4.40 แสนล้านยูโร หรือ 5.63 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th

[ย่าหยา 395]

ถูกใจกรรมการฯ สาวจีน​โชว์ เสียงแมนฯ "ไชน่า ​ก็อต ทา​เลนต์ 2012"

 

เอเยนซี - "พาน เชี่ยนเชี่ยน" สาวจากมณฑลซานตง ประ​เทศจีน หนึ่ง​ใน​ผู้​เข้า​แข่งขัน​แสดง​ความสามารถ​บน​เวที "​ไชน่า ​ก็อต ทา​เลนต์" โชว์เหนือความคาดหมาย กับการขับร้องเลียนเสียงนักร้องชายหลายคน รวมทั้งเสียงของหลิวเต๋อหัว, เฟ่ย อี้ว์ชิง, หยังคุน จน​ชนะใจกรรมการและผู้ชม เป็นดาวเด่นบนเวที ประกวด "ไชน่าก๊อตทาเลนต์" ปีนี้

 

รายงานข่าว (16 ม.ค.) กล่าวว่า "พาน เชี่ยนเชี่ยน" อายุ 24 ปี เป็นชาวซานตง ปัจจุบันทำอาชีพ รับจ้างใช้แรงงาน การร้องเพลงเป็นสิ่งที่เธอทำอยู่ตลอดเวลาทุกครั้งที่มีโอกาส โดยไม่เกี่ยวว่าจะเป็นที่ไหน เธอกล่าวว่า ชอบเดินร้องเพลงไปเรื่อยๆ มันเป็นความสุขที่ไม่ต้องเสียเงิน เธอมีความฝันที่จะช่วยน้องชายให้ประสบความสำเร็จด้านการกีฬา เพราะเขามีพรสวรรค์ที่ดี และต้องการเข้าประกวดฯ ไชน่าก็อตทาเลนต์ เพื่อจะได้นำเงินรางวัลไปส่งเสริมความฝันของน้อง และความเป็นอยู่ที่ดีของครอบครัว

 

คลิปบันทึกการประกวด "ไชน่า ก็อตทาเลนต์ 2012" ของ"พาน เชี่ยนเชี่ยน"

#!

[ginger 11,058]

สวัสดี คุณๆ ย่าหยา oniphand juy ยาย พวงชมพู baskie30 foo fung น้อย ตังเม หัดเล่นgf ... ...

 

 

นักเศรษฐศาสตร์โนเบลชี้มาตรการรัดเข็มขัดยิ่งทำให้วิกฤตหนี้ยุโรปเลวร้ายลง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2555 11:05:10 น.

นายโจเซฟ สติกลิซ นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลในปี 2544 เตือนว่า นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลยุโรปจะยิ่งทำให้วิกฤตหนี้ยุโรปทวีความรุนแรง มากกว่าที่จะช่วยแก้ปัญหา

"ธนาคารกลางยุโรปมุ่งเน้นไปที่เรื่องเงินเฟ้อ โดยไม่สนใจประเด็นอื่นๆที่เป็นศูนย์กลางของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ยุโรปจะไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นจากวิกฤตหนี้สาธารณะได้หากไม่ผลักดันเศรษฐกิจให้ขยายตัว และระบุว่ามาตรการรัดเข็มขัดไม่ได้หนุนเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้น" สติกลิซกล่าว

สติกลิซกล่าวว่า ที่ผ่านมานั้น ยุโรปมุ่งเน้นในเรื่องการขาดดุลมากเกินไป และระบุว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในยูโรโซนมีต้นตอมาจากปัญหาการเมือง ขณะเดียวกันเขาย้ำว่า สหภาพยุโรป (อียู) ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องวินัยการคลัง และรัฐบาลของอียูไม่แข็งแกร่งพอที่จะผลักดันมาตรการต่างๆให้ประสบความสำเร็จได้

นอกจากนี้ สติกลิซตำหนิว่า มาตรการรัดเข็มขัดยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่าเดิม โดยระบุว่าในปี 2471 ประธานาธิบดีเฮอร์เบิร์ต ฮูเวอร์ ของสหรัฐ ได้นำมาตรการรัดเข็มขัดมาใช้ จนทำให้ตลาดหุ้นทรุดตัวลงอย่างหนัก และนำไปสู่วิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในช่วงเวลาดังกลาว สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th

[ย่าหยา 395]

http://www.youtube.com/watch?v=iFgjULhhNwM&feature=player_embedded#t=12s

[ย่าหยา 395]

หวัดดียามบ่ายจ๊ะ ginger baskie30 jumboA พวงชมพู พิพพา และเพื่อนๆทุกๆคนนะจ้ะ....

 

ล้างบ้านอยู่จ๊า ข่าว 2รายการตั้งใจจะโพสให้เร็วกว่านี้ แต่ก็ช้าไปหน่อยยย.....นะ...(เป็นว่า มาช้า...ดีกว่าไม่มา...แฮะ.แฮะ)

 

ขอไปทำงานต่อ...นะ

[ginger 11,058]

เป็นไงกันบ้าง ลุ้นทอง ลุ้นอั่งเปา ลุ้นได้เที่ยวหรือพาใครเที่ยวตรุษจีน

 

ขอให้เฮง สุขกาย สบายใจ ทุกๆคนทั้งครอบครัว

 

ขอบคุณ ผู้มีอุปการคุณ พ่อแม่ ผู้ใหญ่... ...พี่ๆน้องๆเพื่อน...

 

พี่น้องรี .... ... คุณงูดิน คุณหมอเล็ก ... ... พิมพ์ชื่อทุกท่านไว้แบบล่องหน

 

 

 

ญี่ปุ่นถือครองพันธบัตรสหรัฐทะลุ 1 ล้านล้านดอลล์เป็นครั้งแรกในเดือนพ.ย.

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2555 11:14:23 น.

ข้อมูลล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐบ่งชี้ว่า มูลค่าการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของญี่ปุ่น ณ สิ้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 1.0389 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.99 หมื่นล้านดอลลาร์จากเดือนต.ค. นับเป็นการทะลุหลัก 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก

ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมีสาเหตุมาจากการที่ญี่ปุ่นเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเพิ่มขึ้น โดยใช้เงินทุนในรูปสกุลดอลลาร์ที่ได้จากการเข้าแทรกแซงตลาดปริวรรตเงินตรา ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นได้ขายเงินสกุลเยนและซื้อเงินสกุลดอลลาร์เป็นจำนวน 9 ล้านล้านเยนในการแทรกแซงครั้งนั้น

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ญี่ปุ่นยังคงเป็นผู้ถือครองพันธบัตรสหรัฐรายใหญ่อันดับสองรองจากจีน โดยมีมูลค่าการถือครองทั้งสิ้น 1.1326 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นเดือนพ.ย. ลดลง 1.5 พันล้านดอลลาร์

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

[ginger 11,058]

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 18 มกราคม 2555 โดย YLG

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 18 มกราคม 2555 17:27:46 น.

กรุงเทพฯ--18 ม.ค.--PRdd

 

สภาวะตลาดวันที่ 18 มกราคม 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,643.84 — 1,658.49 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG12 อยู่ที่ 25,100 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 150 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,250 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG12 อยู่ที่ 963 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 7 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 970 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.47 น.ของวันที่ 18/01/12)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 19 มกราคม 2555

กองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) ขายตั๋วเงินคลังอายุ 6 เดือนล็อตใหม่ได้ 1.501 พันล้านยูโร รวมถึงกรีซที่เปิดเผยว่า รัฐบาลกรีซเปิดประมูลตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนได้ 1.625 พันล้านยูโร หรือประมาณ 2.06 พันล้านดอลลาร์ โดยต้นทุนในการกู้ยืมลดลงเล็กน้อย ซึ่งไม่แตกต่างจากสเปนที่ประสบความสำเร็จในการประมูลพันธบัตร ปัจจัยดังกล่าวกดดันให้เงินสกุลดอลลาร์อ่อนตัวลง นำมาซึ่งการเข้าซื้อทองคำเพื่อเก็งกำไร นอกจากการอ่อนตัวของเงินสกุลดอลลาร์จะส่งผลให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้น ซึ่งราคาทองคำปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญ แต่ไม่สามารถผ่านแนวต้านสำคัญในโซน 1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ ทำให้เกิดแรงขายทางเทคนิคออกมา ขณะที่อินเดียผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ของโลกได้ปรับภาษีนำเข้าทองขึ้นเป็น 2% ของมูลค่าจากอัตราก่อนหน้านี้ที่ 300 รูปีต่อ 10 กรัม และภาษีโลหะเงินขึ้นเป็น 6% ของมูลค่าจาก 1,500รูปี (29.20 ดอลลาร์) ต่อกิโลกรัมซึ่งกดดันราคาทองคำให้อ่อนตัวลง ประกอบอินเดียจะยังคงซื้อน้ำมันจากอิหร่านต่อไปแม้ว่าสหรัฐจะใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านก็ตามยังกดดันให้ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงมาเช่นกัน เบื้องต้นวายแอลจีประเมินราคาทองคำ ราคาทองคำมีโอกาสจะอ่อนตัวลงสู่แนวรับสำคัญในบริเวณ 1,634 หรือ 1,625 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับนักลงทุนระยะสั้นสามารถเสี่ยงซื้อในบริเวณแนวรับเพื่อหาจังหวะขายทำกำไรเมื่อราคาทองคำดีดตัวขึ้น โดยการเข้าลงทุนต้องไม่ลืมตั้งจุดขายทำกำไรและจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน ในขณะที่นักลงทุนระยะกลางถึงยาวอาจต้องรอการปรับฐานของราคาทองคำเพื่อเข้าสะสม

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,634 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณแนวรับ 1,625 หรือ 1,614 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,667 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,672 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,634 (24,600บาท) 1,625 (24,470บาท) 1,614 (24,300บาท)

แนวต้าน 1,667 (25,100บาท) 1,672 (25,180บาท) 1,684 (25,360บาท)

 

GOLD FUTURES (GFG12)

แนวรับ 1,634 (24,890บาท) 1,625 (24,750บาท) 1,614 (24,580บาท)

แนวต้าน 1,667 (25,380บาท) 1,672 (25,460บาท) 1,684 (25,640บาท)

 

SILVER FUTURES (SVG12)

แนวรับ 29.45 (949บาท) 29.15 (939บาท) 28.70 (925บาท)

แนวต้าน 30.75 (990บาท) 31.00 (998บาท) 31.27 (1,006บาท)

[tanawatbkk 60]

สวัสดีครับคุณ.. News Ginger Moddang Chez NOT4545 ตังเม เด็กสยาม ย่าหยา พวงชมพู Chinchilla fung Ohshikung แสงแดด put42 bbeam mateenee ลูกน้ำเค็ม เฟิร์ส dep99 baskie30 GoldOfCourse Silver&Gold Goldbullish jojosung bmw2770 หัดเล่นgf และทุกท่านครับ

ขอบคุณสำหรับทุกข้อมูลข่าวสารครับ...

[ginger 11,058]

http://bit.ly/xy3tXb

 

http://bit.ly/A6UkG5

 

http://bit.ly/zCD1fY

[baskie30 6,060]

ดูเหมือนจะเบรคไฮเดิมขึ้นไปได้นิดหน่อยแล้ว

[chez 237]

กราฟ H1 (รายหนึ่งชม.)

ราคาหลุด สามเหลี่ยม Ascending Triangle ขึ้นไป....แล้วกลับมา test เส้นสีเหลือง.....

เป้าหมาย ประมาณ 1700+- จ้ะ....(ถ้า test แล้วเส้นสีเหลืองเอาอยู่อ่ะนะ)

 

ใครยังไม่รู้จัก Ascending Triangle ไปอ่านที่หน้าแรกของกระทู้นี้ได้เลยคับ...จ้าวนายยยย

[ginger 11,058]

 

... ประเทศไทยนี่ทำไมอยู่ได้ ก็เพราะพวกเราทุกคน ถ้าเราสร้างความดี คือทำปฏิบัติในสิ่งที่บริสุทธิ์ใจที่สุจริต ที่ตั้งใจดีมันอาจมีผิดพลาดบ้าง

แต่ว่าไม่ได้ตั้งใจผิดพลาด ตั้งใจทำดี ก็เป็นการสร้างกำลังของบ้านเมือง ทำให้เป็นเหมือนฉีดยาป้องกันโรค

ซึ่งถ้าเราฉีดยาป้องกันโรควันนี้ พรุ่งนี้ไม่ใช่ไม่ได้ผล

หมอก็ทราบดี ถ้าเราฉีดยา ต้องได้ครบโดสถึงจะป้องกันโรคภัยไข้เจ็บได้ การป้องกันให้ครบโดส เราต้องทำในสิ่งที่ดีที่ชอบตลอดไปเป็นเวลานาน

อาจน่าเบื่อ แต่แม้กระนั้นอย่าเพิ่งท้อใจ แม้กระนั้น บางทีเราทำตลอดชีวิตแล้ว ก็ยังไม่พอ แต่ทำไมเมืองไทยอยู่ได้

ก็เพราะว่าบรรพบุรุษของเราทำมาเป็นแรมปีเป็นร้อยๆ ปี ทำมาด้วยความสุจริตใจ...

พระราชดำรัส

พระราชทานแก่นักศึกษา พ่อค้า ประชาชน มูลนิธิ องค์การต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๑๘

ณ ศาลาดุสิดาลัย พระราชวังดุสิต

วันพฤหัสบดีที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๑๘

(หน้า ๒๖๕)

[ginger 11,058]

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 19 มกราคม 2555

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2555 17:08:20 น.

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ยืนยันว่า ไอเอ็มเอฟจะเพิ่มทุนทรัพย์อีก 5-6 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อเพิ่มศักยภาพด้านการปล่อยเงินกู้ โดยมีเป้าหมายที่จะป้องกันเศรษฐกิจทั่วโลกไม่ให้ได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรปที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น

 

-- สำนักงานสถิติของออสเตรเลีย (ABS) รายงานวันนี้ว่า อัตราการว่างงานของออสเตรเลียเดือนธ.ค.ทรงตัวที่ระดับ 5.2% ขณะที่ตัวเลขผู้ว่างงานลดลง 29,300 คน แตะระดับ 11,421,300 คนในเดือนธ.ค. เนื่องจากภาคเอกชนมีการจ้างงานเต็มเวลาเพิ่มขึ้น

 

-- นายโจเซฟ สติกลิซ นักเศรษฐศาสตร์เจ้าของรางวัลโนเบลในปี 2544 เตือนว่า นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลยุโรปจะยิ่งทำให้วิกฤตหนี้ยุโรปทวีความรุนแรง มากกว่าที่จะช่วยแก้ปัญหา

 

-- ข้อมูลล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐบ่งชี้ว่า มูลค่าการถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของญี่ปุ่น ณ สิ้นเดือนพ.ย.ที่ผ่านมา อยู่ที่ระดับ 1.0389 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.99 หมื่นล้านดอลลาร์จากเดือนต.ค. นับเป็นการทะลุหลัก 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก

 

-- กระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยข้อมูลวานนี้ว่า ตัวเลขการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนในปี 2554 ปรับสูงขึ้น 9.72% เมื่อเทียบกับปี 2553 สู่ระดับ 1.16 แสนล้านดอลลาร์ แต่ตัวเลขดังกล่าวยังต่ำกว่าการลงทุนช่วง 11 เดือนแรกของปี ซึ่งเพิ่มขึ้น 13.15%

 

-- นางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้แสดงจุดยืนว่า เธอไม่สนับสนุนให้ดำเนินการตามคำเรียกร้องของตลาดในเรื่องการเพิ่มเงินทุนสมทบให้กับกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) แม้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของ 9 ประเทศยูโรโซน และลดอันดับความน่าเชื่อถือของ EFSF ด้วยก็ตาม

 

-- นายลีออน พาเนตตา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐกล่าวว่า ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในกองกำลังประจำการของสหรัฐที่อ่าวเปอร์เซีย ถึงแม้ว่าจะได้รับคำขู่จากอิหร่านเมื่อเร็วๆ นี้

 

-- บริษัท อีสต์แมน โกดัก ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการผลิตฟิล์มถ่ายรูปรายใหญ่และมีอายุยาวนานถึง 131 ปีของสหรัฐ ได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สินจากการล้มละลายตามกฎหมายมาตรา 11 แห่งสหรัฐอเมริกาแล้วในช่วงเช้าวันนี้

 

-- คณะกรรมการประสานงานด้านการลงทุนของอินโดนีเซีย (BKPM) เปิดเผยวันนี้ว่า การลงทุนในประเทศและต่างประเทศของอินโดนีเซียในปี 2554 ขยายตัวสูงขึ้น 20.5% เมื่อเทียบกับปี 2553 สู่ระดับ 251.3 ล้านล้านรูเปียห์ (ประมาณ 2.77 หมื่นล้านดอลลาร์)

 

-- ธนาคารกลางฟิลิปปินส์มีมติลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% สู่ระดับ 4.25% เพื่อปกป้องเศรษฐกิจจากภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งถือเป็นการลดดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.2552

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th-