ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

มีแต่วันนี้ที่มีค่า

ไม่มีวันหน้าวันหลัง

 

เมื่อวานก็สายเกินแล้ว

พรุ่งนี้ก็สายเกินไป

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอากราฟมาดูรอบเย็น

 

 

20015516.50.gif

 

 

 

จากกราฟ ดูที่ macd ทั้งรายวัน ราย 4 ราย 1 แล้ว เหนื่อยใจ จะลงไปทดสอบแถวเส้น 75 100 200 ต่อไป หวังว่าคงได้เก็บของ ( มั๊ง)

 

 

เอาของเมื่อเช้ามาเทียบ

 

 

 

200155.gif

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดลบ 0.28 จุด แกว่งตัว-upside จำกัด/สัปดาห์หน้าเข้าตรุษจีนตลาดเงียบ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 17:20:52 น.

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,058.66 จุด ลดลง 0.28 จุด(-0.03%)มูลค่าการซื้อขาย 26,363.04 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยขยับขึ้นแตะจุดสูงสุดของวันอยู่ที่ระดับ 1,063.44 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,056.06 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 225 หลักทรัพย์ ลดลง 225 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 154 หลักทรัพย์

นายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัว โดยมี upside จำกัด ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาปัจจัยบวกของตลาดฯมาจาก Sentiment จากต่างประเทศมาก ทั้งจากการประมูลพันธบัตรของยุโรปออกมาดีได้ผลตอบแทน(Yield)ต่ำ แต่ปัญหาจากทางยุโรปยังไม่จบ ซึ่งคงจะต้องติดตามดูต่อไป และตลาดฯยังได้รับผลบวกจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯก็ออกมาดีด้วย

อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเรายังมีความกังวลกำไรของบริษัทจดทะเบียนปีนี้ที่คาดว่าจะมีการเติบโตชะลอลง โดยคาดว่ากำไรปีนี้จะเติบโตเฉลี่ย 8-9% ต่ำกว่าปีที่แล้วที่คาดว่ากำไรจะเติบโตเฉลี่ย 16% นอกจากนี้ในแง่ valuation ของตลาดบ้านเราจะสูงกว่าภูมิภาค

แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายอดิศักดิ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยคงเงียบ ๆ เนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน ซึ่งตลาดจีน, ฮ่องกง และไต้หวัน ก็จะปิดทำการ วอลุ่มเทรดตลาดบ้านเราคงจะน้อยลงด้วย อย่างไรก็ดี สัปดาห์หน้าตลาดฯยังได้แรงหนุนจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)วันที่ 25 ม.ค.ซึ่งตลาดฯคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง

พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,032-1,048 จุด แนวต้าน 1,062-1,076 จุด โดยแนะนำนักลงทุนที่มีหุ้นอยู่มากก็ให้ถือไปก่อนได้ เนื่องจากโมเมนตัมของตลาดฯยังไม่เสีย

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,559.75 ล้านบาท ปิดที่ 46.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,384.77 ล้านบาท ปิดที่ 150.00 บาท ลดลง 3.00 บาท

STA มูลค่าการซื้อขาย 1,371.30 ล้านบาท ปิดที่ 20.80 บาท เพิ่มขึ้น 1.20 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,297.82 ล้านบาท ปิดที่ 123.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท

ESSO มูลค่าการซื้อขาย 1,203.89 ล้านบาท ปิดที่ 12.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบใจ มดแดง เอาของเมื่อเช้ามาเทียบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 20 มกราคม 2555 โดย YLG

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 17:20:47 น.

กรุงเทพฯ--20 ม.ค.--PRdd

 

สภาวะตลาดวันที่ 20 มกราคม 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,648.04 — 1,658.49 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG12 อยู่ที่ 24,900 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 280 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,180 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG12 อยู่ที่ 966 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 19 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 985 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.04 น.ของวันที่ 20/01/12)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 23 มกราคม 2555

การเคลื่อนไหวของราคาทองคำได้รับอิทธิพลมาจากการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมัน ซึ่งสังเกตุได้จากความสัมพันธ์ระหว่างราคาทองคำกับราคาน้ำมันที่มีความสัมพันธ์กันค่อนข้างสูง สำหรับการอ่อนตัวลงของราคาน้ำมันนั้นเกิดจาก ความกังวลเกี่ยวกับอุปสงค์พลังงานในสหรัฐฯ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า ปริมาณการใช้น้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลงอย่างมาก แม้ EIA ระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเกินคาดก็ตาม ทำให้ราคาทองคำชะลอตัวลงหลังจากปรับตัวขึ้นมาต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตามการปรับตัวลงของราคาทองคำยังคงถูกจำกัดอยู่พอสมควรเพราะการอ่อนตัวลงของเงินสกุลดอลลาร์เนื่องจากการแข็งขึ้นของเงินสกุลยูโร หลังจากการประมูลพันธบัตรของสเปนและฝรั่งเศสสำเร็จไปได้ด้วยดี เบื้องต้นหากราคาทองคำปรับตัวขึ้นบริเวณโซน 1,660 - 1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์ขึ้นไปนักลงทุนที่ไม่อยากแบกรับความเสี่ยงจนเกินไปสามารถแบ่งขายทำกำไรออกมาบ้างเพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน สำหรับมุมมองของวายแอลจีนั้นประเมินว่าหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านโซน 1,670 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ให้ระมัดระวังการขายทำให้ต้องจับตาโซนนี้อย่างใกล้ชิด โดยหากราคาย่อตัวหลุดแนวรับบริเวณ 1,643 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้จับตาดูบริเวณ 1,634 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งจุดนี้นักลงทุนสามารถเข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรระยะสั้นได้ท้ายนี้อยากแนะนำให้นักลงทุนติดตามกระแสข่าวที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด เพราะราคาทองคำนั้นอ่อนไหวต่อกระแสข่าวที่เกี่ยวข้องกับราคาน้ำมันค่อนข้างมาก

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำในระยะสั้นยังเคลื่อนไหวในกรอบซึ่งบริเวณแนวต้าน 1,667 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,675 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยบริเวณนี้อาจโดนแรงขายออกมาซึ่งนักลงทุนยังคงต้องระมัดระวัง โดยให้ดูว่าราคาจะผ่านแนวต้านได้หรือไม่ ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้แนะนำให้ถือต่อไป เพื่อไปขายทำกำไรที่แนวต้านถัดไป และหากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลงมา ไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไรระยะสั้น โดยเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,643 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,634 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,643 (24,540บาท) 1,634 (24,400บาท) 1,625 (24,270บาท)

แนวต้าน 1,667 (24,890บาท) 1,675 (25,020บาท) 1,684 (25,150บาท)

 

GOLD FUTURES (GFG12)

แนวรับ 1,643 (24,820บาท) 1,634 (24,680บาท) 1,625 (24,550บาท)

แนวต้าน 1,667 (25,180บาท) 1,675 (25,300บาท) 1,684 (25,430บาท)

 

SILVER FUTURES (SVG12)

แนวรับ 30.08 (954บาท) 29.81 (946บาท) 29.05 (922บาท)

แนวต้าน 30.86 (979บาท) 31.20 (989บาท) 31.70 (1,005บาท)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับคุณchez,พี่มดแดง,คุณginger,คุณbmw2770,คุณbaskie30,คุณnicetomeetU,คุณย่าหยา

สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆทุกๆท่านครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คณะผู้ตรวจสอบหนี้เดินทางถึงกรุงเอเธนส์ ขณะกรีซหารือแผนสวอปพันธบัตร

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 20:33:22 น.

คณะผู้ตรวจสอบหนี้ระหว่างประเทศเดินทางถึงกรุงเอเธนส์แล้วในวันนี้เพื่อประเมินว่า กรีซได้ดำเนินการขอความช่วยเหลือทางการเงินอย่างเพียงพอหรือไม่ ในขณะที่การเจรจาระหว่างทางการกรีซกับเจ้าหนี้ภาคเอกชนในประเด็นการสวอปพันธบัตรที่จำเป็นต่อการเลี่ยงผิดนัดชำระหนี้ยังดำเนินต่อไป

เจ้าหน้าที่จากสหภาพยุโรป (อียู) ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้เข้าพบกับนายอีแวนเจลอส เวนิเซลอส รัฐมนตรีคลังกรีซ โดยจะมีการพิจารณาสถานะการคลังสาธารณะของกรีซเพื่อสร้างความมั่นใจในความถูกต้องด้านการปฏิรูปของกรีซที่จำเป็นต่อการได้รับเงินกู้ช่วยเหลือ

ทั้งนี้ นายเวนิเซลอสจะเริ่มเจรจากับเจ้าหนี้ภาคเอกชนเป็นวันที่สาม เพื่อขอให้เจ้าหนี้เอกชนยอมปรับลดมูลค่าการถือครองพันธบัตรกรีซลง 1 แสนล้านยูโร (1.29 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือคิดเป็น 50% เพื่อแลกกับการจ่ายเงินสดและการออกพันธบัตรใหม่ที่มีระยะเวลาไถ่ถอนนานออกไป แต่การเจรจาได้หยุดชะงักไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากเกิดการไม่เห็นด้วยกับอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรล็อตใหม่

ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายกำลังพิจารณาข้อเสนอให้มีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า 4% ซึ่งจะค่อยๆปรับเพิ่มขึ้นจนถึงปี 2563

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 26 มกราคม 2555

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 18:03:43 น.

แบงก์ ออฟ อเมริกา ซึ่งเป็นธนาคารรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐเมื่อพิจารณาจากสินทรัพย์ เปิดเผยว่า รายได้สุทธิในช่วงไตรมาส 4 ปี 2554 อยู่ที่ 1.58 พันล้านดอลลาร์ หรือ 15 เซนต์ต่อหุ้น เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2553 ที่ขาดทุน 1.6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 16 เซนต์ต่อหุ้น

 

-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านเดือนธ.ค.ร่วงลง 4.1% แตะที่ 657,000 ยูนิต/ปี จากระดับ 685,000 ยูนิต/ปีของเดือนพ.ย. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 680,000 ยูนิต/ปี

 

-- รายงานดัชนีสำรวจภาคธุรกิจรายเดือน (BSI) ของธนาคารคอมมอนเวลธ์ แบงก์ระบุว่า ชาวออสเตรเลียยังคงเพิ่มการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเป็นไปด้วยความระมัดระวัง โดยตัวเลขการใช้จ่ายในเศรษฐกิจโดยรวมเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค.

 

-- นายมิเชล บาร์นิเยร์ กรรมาธิการฝ่ายการตลาดภายในของอียู กล่าวว่า ประเทศในยุโรปจะรอดจากวิกฤตหนี้หากทำตามขั้นตอนต่างๆ อาทิ การกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างชาติสมาชิกยูโรโซน รวมถึงการคุมเข้มข้อกำหนดทางการเงิน

 

-- กระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า จีนมีรายได้ด้านการคลังเพิ่มขึ้น 24.8% แตะที่ระดับ 10.37 ล้านล้านหยวน (1.64 ล้านล้านดอลลาร์) ในปี 2554

 

-- กระทรวงทรัพยากรมนุษย์และความมั่นคงสังคมของจีน (MOHRSS) รายงานว่า อัตราการว่างงานในเขตเมืองเมื่อปี 2554 ที่ผ่านมาอยู่ที่ 4.1% เท่ากับปี 2553

 

-- รายงานดัชนีสำรวจภาคธุรกิจรายเดือน (BSI) ของธนาคารคอมมอนเวลธ์ แบงก์ระบุว่า ชาวออสเตรเลียยังคงเพิ่มการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเป็นไปด้วยความระมัดระวัง โดยตัวเลขการใช้จ่ายในเศรษฐกิจโดยรวมเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนธ.ค.

 

-- ไมโครซอฟท์รายงานผลประกอบการรายไตรมาสอย่างสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากยอดขายในส่วนของ gaming และ server ปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งสามารถชดเชยรายได้ที่ลดลงในธุรกิจระบบปฏิบัติการวินโดวส์

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยูโรร่วงจากระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์ ขณะกรีซเจรจาข้อตกลงสวอปพันธบัตร

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 20:06:01 น.

เงินยูโรอ่อนค่าลงจากระดับสูงสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง โดยทางการกรีซกับเจ้าหนี้เอกชนพยายามหาทางบรรลุข้อตกลงการสวอปพันธบัตร

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลง 0.4% แตะ 1.2913 ดอลลาร์ ณ เวลา 06.58 น.ตามเวลานิวยอร์ก หลังจากพุ่งแตะระดับ 1.2986 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม

ด้านเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าหาสกุลเงินดอลลาร์ที่ปลอดความเสี่ยง ส่วนเงินยูโรที่ใช้ร่วมกันใน 17 ประเทศยังคงเดินหน้าขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 7 สัปดาห์ หลังจากที่สเปนและฝรั่งเศสประสบความสำเร็จในการขายพันธบัตร โดยมีอัตราผลตอบแทนต่ำเมื่อวานนี้ในการประมูลพันธบัตรระยะกลางและระยะยาวครั้งแรกนับตั้งแต่ถูกสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

นายกรัฐมนตรีลูคัส ปาปาเดมอส ของกรีซ เดินหน้าเจรจาต่อเนื่องกับคณะผู้เจรจาจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) ซึ่งเป็นตัวแทนของเจ้าหนี้เอกชน ในประเด็นการทำข้อตกลงสวอปพันธบัตร ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำเพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Analysis: ปิดตำนาน โกดัก เหยื่อรายล่าสุดของวิวัฒนาการเทคโนโลยี

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 20 มกราคม 2555 18:37:45 น.

บริษัท อีสต์แมน โกดัก ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการผลิตฟิล์มถ่ายรูปรายใหญ่ของสหรัฐ ได้ยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สินจากการล้มละลายตามกฎหมายมาตรา 11 แห่งสหรัฐอเมริกาเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (19 ม.ค.) ซึ่งถือเป็นการปิดฉากผู้ผลิตฟิล์มถ่ายรูปที่ครองตลาดโลกมายาวนานถึง 131 ปี

การล้มละลายของบริษัทระดับ "ไอคอน" อย่างโกดัก ถือเป็นเหยื่อรายล่าสุดของการวิวัฒนาการเทคโนโลยีระบบดิจิตอล ที่ทำให้คนหลายรุ่นที่เติบโตมากับ "โลโก้สีเหลือง" และวลีคุ้นหูของคนในยุคนั้นที่ว่า "โกดัก โมเมนท์" ต่างกันรู้สึกเศร้าใจไปกับข่าวนี้

 

*ดิ้นจนเฮือกสุดท้าย

 

นายอันโตนิโอ เปเรซ ซีอีโอของโกดักกล่าวว่า คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายการจัดการทุกคน มีความเชื่อที่เหมือนกันว่า "การยื่นขอพิทักษ์ทรัพย์สินจากการล้มละลายถือเป็นขั้นตอนที่จำเป็นและถูกต้องสำหรับอนาคตของโกดัก"

แถลงการณ์ของบริษัทระบุว่า มีเพียงโกดักและบริษัทในเครือในสหรัฐเท่านั้นที่ต้องปรับโครงสร้างองค์กร และโกดักจะยังคงให้บริการลูกค้าทุกรายทั่วโลกในระหว่างที่เรื่องอยู่ในกระบวนการยื่นขอพิทักษ์จากการล้มละลาย

"กฎหมายมาตรา 11 ไม่ได้หมายความว่าโกดักจะต้องออกไปจากแวดวงธุรกิจ เราเลือกที่จะดำเนินการในขั้นตอนดังกล่าว ก็เพื่อที่จะรุกคืบไปสู่การสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งขึ้นในอนาคตสำหรับโกดัก เราคาดหวังว่าหลังจากการปรับโครงสร้างองค์กรเสร็จสิ้นแล้ว กิจการของโกดักจะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง" นายเปเรซกล่าว

 

* เมื่อยักษ์ใหญ่ล้ม

 

โกดักพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะกอบกู้บริษัทซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานถึง 131 ปีให้คืนชีพอีกครั้ง

นับตั้งแต่ที่นายจอร์จ อีสต์แมน เริ่มจดทะเบียนบริษัทที่กรุงนิวยอร์กเมื่อปีพ.ศ. 2431 โกดักก็กลายเป็นชื่อที่คุ้นเคยของครัวเรือนชาวอเมริกันและทั่วโลกมาหลายต่อหลายรุ่น ในฐานะผู้ผลิตฟิล์มและกล้องถ่ายรูป

กิจการของโกดักเฟื่องฟูนานอยู่หลายทศวรรษ ด้วยผลกำไรและเงินสดหมุนเวียนมูลค่ามหาศาล โดยเฉพาะในปีพ.ศ. 2524 ที่โกดักสามารถทำยอดขายทะลุ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นรายได้ที่บรรดาบริษัทคู่แข่งทำได้ก็แค่ในฝันเท่านั้น

แต่ในขณะที่โกดักกำลังเพลิดเพลินอยู่กับช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์นั้น โลกของเราก็ก้าวเข้าสู่ "ยุคดิจิตอล" อย่างรวดเร็วจนคนส่วนใหญ่คาดไม่ถึง และในยุคดิจิตอลนี้เอง ทำให้โกดักตามไม่ทันคู่แข่งอย่าง นิคอน โซนี่ และแคนนอน จนท้ายที่สุดโกดักต้องเสียส่วนแบ่งตลาดให้คู่แข่งเหล่านี้

นับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2543 - 2546 เป็นต้นมา กำไรของโกดักทรุดฮวบลงกว่า 70% และส่วนแบ่งตลาดก็ทรุดตัวลงอย่างหนักในช่วงเวลาดังกล่าว จากนั้นนับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2548 โกดักต้องสูญเงินเป็นจำนวนมากในทุกๆ ขณะที่จำนวนพนักงานที่มีอยู่มากถึง 145,000 ตำแหน่งในยุคที่กิจการรุ่งเรือง กลับลดลงเหลือเพียง 17,000 ตำแหน่งในปัจจุบัน และมูลค่าตลาดของโกดักมีไม่ถึง 150 ล้านดอลลาร์ จากเมื่อ 15 ปีก่อนที่สูงถึง 3.1 หมื่นล้านดอลลาร์

จากนั้น โกดักต้องปรับโครงสร้างองค์กรด้วยความรู้สึกที่เจ็บปวด แต่ก็ยังไม่สามารถรักษาบริษัทได้รอดพ้นจากการยื่นล้มละลายได้

โรเบิร์ก ซาโลมอน ศาสตราจารย์ประจำภาควิชาธุรกิจจากมหาวิทยาลัยสเติร์น ในนครนิวยอร์ก กล่าวว่า "ในฐานะบริษัทผลิตฟิล์มรุ่นเก่า โกดักได้พลาดโอกาสมากมายในการก้าวเข้าสู่โลกดิจิตอล ประการแรกคือโกดักประเมินผลกระทบของดิจิตอลที่จะมีต่อธุรกิจของตนเอง 'ต่ำเกินไป' และโกดักเพิกเฉยต่อสิ่งที่จะเอื้ออำนวยต่อธุรกิจของบริษัท เมื่อโกดักพยายามกระโจนเข้าสู่โลกดิจิตอล ทุกอย่างก็สายเกินไปเสียแล้ว และท้ายที่สุดโกดักก็พบว่า ตนเองไม่มีที่ยืนในโลกดิจิตอล"

 

* บทเรียนของโกดัก

 

เมื่อมองย้อนกลับไปที่ประวัติศาสตร์อันยาวนานของโกดักก็พบว่า โกดักยืนยงอยู่แถวหน้าของแวดวงอุตสาหกรรมภาพถ่ายมาเป็นเวลานาน จวบจนกระทั่งในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

การล้มละลายของโกดักจะกลายเป็นกรณีศึกษาที่ควรค่าแก่การพินิจพิเคราะห์มากที่สุดในมหาวิทยาลัยด้านธุรกิจ และเป็นบทเรียนที่ดีที่ควรเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง

ซาโลมอนกล่าวว่า ประวัติศาสตร์ไม่เคยคอยใคร เมื่อเทคโนโลยีภาพถ่ายก้าวล่วงจาก "ยุคของฟิล์ม" ไปสู่ "ยุคดิจิตอล" โกดักกลับไม่มีไหวพริบ และที่สำคัญ โกดักไม่กล้าพอที่จะก้าวออกจากจุดเดิม แต่กลับเลือกที่จะยึดติดอยู่กับธุรกิจฟิล์ม ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ดั้งเดิม และโกดักได้แต่มองดูธุรกิจของตนเองเลือนหายไปต่อหน้าต่อตา

"ถ้าคุณเป็นจ่าฝูงที่แข็งแกร่งและมีพลานุภาพในอุตสาหกรรมประเภทใดประเภทหนึ่ง สิ่งที่คุณต้องทำคือตรวจตราและสำรวจเทคโนโลยีใหม่ๆอยู่ตลอดเวลาในช่วงที่เทคโนโลยีเหล่านี้เริ่มเป็นที่สนใจของตลาด คุณไม่ควรรอนานเกินไป คุณควรจะปรับตัวเองเข้าสู่ธุรกิจใหม่ๆเหล่านั้นเสียแต่เนิ่นๆ" ซาโลมอนกล่าว

เพราะสำหรับบริษัทที่อยู่ในโลกของการแข่งขันที่ดุเดือดแล้ว การนวัตกรรมจะมีความหมายก็ต่อเมื่อมันสามารถทำเงินได้เท่านั้น แม้โกดักได้ครอบครองสิทธิบัตรมากมาย รวมถึงเทคโนโลยีกล้องดิจิตอล แต่กลับไม่สามารถทำเงินจากเทคโนโลยีดังกล่าวได้ และทำได้แต่เพียงมองดูค่ายอื่นๆ เช่น แอปเปิล, เอชทีซี และซัมซุง เจริญรุ่งเรืองและเก็บเกี่ยวผลประโยชน์มหาศาลเท่านั้น ซาโลมอนกล่าว

 

บทวิเคราะห์โดย หนิว ไห่หรง จากสำนักข่าวซินหัว

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ค่ำวันศุกร์...สวัสดีจ้ะ ginger มดแดง news chez คุณbaskie30 คุณNicetoMeetu คุณohshikung คุณหัดเล่นgf พวงชมพู พิพพา น้องรี

คุณmateenee คุณput42 คุณfung Mr.Li คุณjuy คุณbab99.....และเพื่อนๆทุกๆคนนะจ้ะ...

 

#!

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขนมเทศกาล 1 ปีมี 2 ครั้ง"ขนมเทียน " "ขนมเข่ง" (ไม่ใช่ เทศกาลถ้ามีเวลาลองทำดูนะคะ)

 

2_1__1.JPG

 

ส่วนผสมแป้ง

  • แป้งข้าวเหนียว 5 ถ้วย
  • น้ำตาลปึก1 ½ ถ้วย
  • น้ำมันพืช1/4 ถ้วย
  • น้ำสะอาด 2ถ้วย

  • ส่วนผสมไส้ถั่วเค็ม
  • ถั่วเขียวนึ่งสุกบดละเอียด1 ½ ถ้วย
  • น้ำตาลทรายป่น ¼ ถ้วย
  • เกลือป่น 3 ช้อนชา
  • พริกไทยป่น 1 ½ ช้อนชา
  • หอมแดงสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมันพืช ¼ ถ้วย

  • วิธีทำ
  • 1. ผสมน้ำกับน้ำตาลปึก นำไปตั้งไฟพอน้ำตาลละลาย ทิ้งไว้ให้เย็น
    2. นวดแป้ง น้ำมัน และส่วนผสมของน้ำตาลที่เย็นแล้ว จนนุ่มมือดี หมักทิ้งไว้ 2-3 ช.ม.
    3. เคล้าถั่วเขียว เกลือป่น น้ำตาลทรายป่น พริกไทยป่นให้เข้ากัน
    4. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอร้อน เจียวหอมแดงสับละเอียดให้เหลือง แล้วตักขึ้น
    5. ผัดส่วนผสมถั่วเขียวให้นุ่ม ใส่หอมเจียว ผัดให้เข้ากัน ตักขึ้นพักให้เย็น แล้วปั้นเป็นก้อนกลมขนาดประมาณ 1 นิ้ว 6. แบ่งแป้งเป็นก้อนๆ คลึงให้เป็นก้อนกลม แผ่ออก ใส่ไส้ หุ้มไส้ให้มิด แล้วใส่ในใบตองที่เจียน และทาน้ำมันไว้แล้ว ห่อเป็นรูปสามเหลี่ยมปิรามิด เรียงในรังถึงให้เต็ม นำไป
    นึ่งในน้ำเดือด ประมาณ 30 นาที ยกลง จัดใส่จาน พร้อมเสิร์ฟ
  • 2k90691d4ba7.jpg
  • ส่วนผสม
    แป้งอเนกประสงค์ (แป้งข้าวเหนียว) 500 กรัม
  • - น้ำ 2 1/2 ถ้วย
    - น้ำตาลทราย 3 1/2 ถ้วย
    - มะพร้าวทึนทึกขูด
  • วิธีทำ
    - เทแป้งและน้ำตาลใส่ชาม แล้วค่อยๆเทน้ำใส่ นวดให้เข้ากัน จนเป็นเนื้อเดียวกัน
    - เอากระทงใบตองแห้งทาน้ำมันให้ทั่ว ใส่มะพร้าวที่ขูดด้วยมือไว้ก้นกระทง
    - ค่อยๆตักแป้งที่ละลายแล้วใส่จนเกือบเต็ม
    - ตั้งน้ำให้เดือดในลังถึง นึ่งขนมประมาณ 30 นาที

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"รายงานแผ่นดินไหว "

 

ขนาด : 4.1 ริกเตอร์ จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว : MOLUCCA SEA วันที่ : 20 มกราคม 2555 18:54 น. ละติจูด : 0° 55' 48'' เหนือ ลองจิจูด : 126° 45' 00'' ตะวันออก ความลึกจากระดับผิวดิน : 10 กิโลเมตร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"ปตท.-บางจากขึ้นน้ำมันเบนซิน-โซฮอล์ 50 สตางค์พรุ่งนี้"

 

ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ ปตท. และ บางจาก ได้ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันกลุ่มเบนซิน แก๊สโซฮอล์ 50 สตางค์ต่อลิตร ส่วนน้ำมันดีเซล และ E85 คงราคาเดิม โดยมีผลตั้งแต่เวลา 05.00 น.วันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ จะส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินออกเทน 91 ปรับขึ้นไปอยู่ที่ 39.40 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 31.76 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 36.01 บาทต่อลิตร น้ำมัน E20 ราคาอยู่ที่ 35.01 บาทต่อลิตร และ น้ำมัน E85 ราคาอยู่ที่ 22.36 บาทต่อลิตร ส่วนน้ำมันดีเซลคงราคาเดิมที่ 31.13 บาทต่อลิตร

อย่างไรก็ตาม สำหรับสาเหตุของการปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันในครั้งนี้ เป็นผลมาจากต้นทุนราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ทำให้ค่าการตลาดของผู้ค้าน้ำมันอยู่ในระดับต่ำ จึงจำเป็นต้องปรับราคาขายปลีกให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...