ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

สวัสดีจ้า คุณๆ TNT2012 (สบายดีนะ ) Moddang Chez news bmw2770 mtts XAU_METTALLIC baskie30 GoldOfCourses brmaya NicetoMeetU NOTEC

Chinchilla goldgold raty ย่าหยา Hamsin fung Mr.Li NOT4545 แสงแดด Ohshikung put42 TNT2012 pun bbeam mateenee dep99 tanusg thon thun juy AIYA พวงชมพู เด็กสยาม น้อย ตังเม ลูกน้ำเค็ม natawut puggy กระต่ายทอง เด็กอู่ทอง ขอเล่นด้วยคน

หัดเล่นgf พิพพา jambo. A kungnang natawut melody jakung Silver&Gold Goldbullish

Silver&Gold Goldbullish jojosungfung foo thon win win pimmark pornsook GODRON

Toahoo&Darlie Copyman SUCHA Goldleng hunk hunk nrp หนูอร ..jiggadee JiJe..NPT..

goldfish Babygirl Kenh505018 madam puggy meng166 zv375 Touch.invest v.sun ...ยาย รี่

อยากเล่นด้วยคน กิบเก๋ กบจ๊า pookun

ขยายตัวอักษร Ctrl+....

 

 

 

ทำเนียบขาวชี้การส่งออกของสหรัฐจะโตต่อเนื่อง ถ้าวิกฤติหนี้ยุโรปคลี่คลาย

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555 14:31:39 น.

ทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะปรับตัวไปสู่การขยายตัวที่ยั่งยืน ในขณะที่การส่งออกจะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง"ในอัตรารวดเร็ว" ถ้าวิกฤติหนี้ยุโรปคลี่คลายลง

สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจระบุในรายงานเศรษฐกิจประจำปีต่อประธานาธิบดีโดยตั้งข้อสังเกตว่า การส่งออกของประเทศได้แตะระดับสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2554 แม้ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอลง "ความเสี่ยงที่รุนแรงที่สุดต่อความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องในด้านเหล่านี้อยู่นอกเหนือขอบเขตของสหรัฐ"emnb_1_370236.gif

"หากสามารถคลี่คลายวิกฤติหนี้ได้ การขยายตัวของการส่งออกและความคืบหน้าไปสู่การปรับสมดุลมีแนวโน้มดำเนินไปในอัตราที่รวดเร็ว" รายงานระบุ

นอกจากนี้ รายงานที่ปธน.โอบามายื่นต่อสภาคองเกรสยังระบุว่า การชะลอตัวในยุโรปอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐผ่านทางการค้าและการลงทุนโดยตรง รวมทั้งผ่านทางช่องทางการเงิน

ในด้านวิกฤติการเงินยุโรปที่ยืดเยื้อนั้น รายงานย้ำถึงจุดยืนของสหรัฐที่ว่า กลุ่มประเทศยุโรปควรเป็นแกนนำในการแก้ปัญหา

"คณะบริหารยังคงเรียกร้องให้มีการดำเนินการในหลายระดับในยุโรป เช่น การสร้างมาตรการปกป้องทางการเงินมากขึ้นเพื่อให้แน่ใจว่า รัฐบาลสามารถกู้ยืมโดยมีอัตราดอกเบี้ยที่สามารถจัดการได้ ขณะที่มีการดำเนินนโยบายเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับพื้นฐานการขยายตัวทางเศรษฐกิจและเพื่อลดหนี้สิน"

"การปรับตัวของเศรษฐกิจโลกและสหรัฐบางส่วนจะขึ้นอยู่กับการแก้ปัญหาในยูโรโซนอย่างรวดเร็ว" รายงานเสริม

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: suneeporn@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สภาคองเกรสสหรัฐผ่านร่างกม.ขยายการลดภาษีจ้างงาน,สวัสดิการว่างงาน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555 11:31:08 น.

สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้ลงมติผ่านร่างกฎหมายขยายการลดภาษีจ้างงานและสวัสดิการว่างงานสำหรับผู้ว่างงานระยะยาวตลอดปีงบประมาณ

สภาผู้แทนราษฎรซึ่งนำโดยพรรครีพับลิกันผ่านร่างกฎหมายขยายการลดภาษีจ้างงาน 2% สำหรับชาวอเมริกัน 160 ล้านคนและสวัสดิการว่างงานสำหรับผู้ว่างงานระยะยาวหลายล้านคนด้วยมติ 293 ต่อ 132 เสียงemnb_1_370236.gif

การผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวเป็นการขจัดอุปสรรคด้านนิติบัญญัติที่สำคัญก่อนที่จะมีการลงนามเป็นกฎหมายจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ เมื่อวานนี้วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกฎหมายดังกล่าวภายใน 1 ชั่วโมง หลังจากที่ร่างกฎหมายนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎร และหลังจากนี้ร่างกฎหมายนี้จะเข้าสู่การพิจารณาของปธน.โอบามา

ทำเนียบขาวเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ปธน.โอบามาจะลงนามในร่างกฎหมายดังกล่าวทันทีที่สภาคองเกรสผ่านมาตรการนี้

หากมีการอนุมัติร่างกฎหมายนี้ ก็จะทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีจ้างงานสำหรับชาวอเมริกันในวันที่ 1 มี.ค., เป็นการต่ออายุสวัสดิการว่างงานสำหรับผู้ว่างงานระยะยาว รวมทั้ง เป็นการหลีกเลี่ยงการลดค่าบริการทางการแพทย์ในโครงการประกันสุขภาพของรัฐบาล (Medicare) ลงอย่างมาก

ข้อตกลงนี้แสดงถึงชัยชนะสำหรับปธน.โอบามา และพรรคเดโมแครต ซึ่งระบุว่า การลดภาษีจ้างงานสำหรับชาวอเมริกันอาจจะเป็นแรงหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: suneeporn@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จนท.คลังเอเปกหารือเศรษฐกิจโลก,หนี้สินที่รัสเซียวานนี้

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555 13:37:54 น.

รมช.คลังและรองผู้ว่าการธนาคารกลางจากกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) หารือประเด็นเศรษฐกิจโลกและประเด็นหนี้ที่เมืองยารอสลาวี ทางตอนกลางของรัสเซียเมื่อวานนี้

นายเซอร์ไก สตอร์ชาค รมช.คลังรัสเซียกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ประเด็นสำคัญได้แก่ แนวทางในการบรรลุวัตถุประสงค์ในการลดการใช้จ่ายด้านงบประมาณ ขณะที่ดำเนินการกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

"มี่ความเห็นตรงกันอย่างชัดเจนว่า มี่ความเกี่ยวข้องกันโดยตรงระหว่างการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินและอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ระดับสูง" เขากล่าว

เขากล่าวว่า ในกลุ่มสมาชิกเอเปก สหรัฐและญี่ปุ่นเผชิญสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุดในด้านการสร้างความแข็งแกร่งด้านงบประมาณ ขณะที่สถานการณ์ในประเทศสมาชิกอื่นๆ"อยู่ในภาวะที่น่าพอใจ"

บางประเด็นที่มีการหารือในการประชุมครั้งนี้ จะรวมอยู่ในวาระการประชุมระหว่างรมว.คลังเอเปกและผู้ว่าการธนาคารกลางที่กำหนดไว้ในเดือนส.ค.ที่กรุงมอสโคว์emnb_1_370236.gif

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: suneeporn@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พระจักรพรรดิอากิฮิโตะทรงเข้ารับการผ่าตัดบายพาสหัวใจเช้าวันนี้

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555 10:08:37 น.

สำนักพระราชวังอิมพีเรียลเปิดเผยว่า สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโตะของญี่ปุ่นทรงเข้ารับการผ่าตัดบายพาสหัวใจในเช้าวันนี้ที่โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโตเกียว หลังจากที่ทรงได้รับการวินิจฉัยว่า มีพระอาการหลอดโลหิตตีบ

คาดว่าการผ่าตัดบายพาสดังกล่าวจะใช้เวลาราว 5 ชั่วโมง โดยเป็นการผ่าตัดครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2546 สำหรับพระจักรพรรดิอากิฮิโตะซึ่งมีพระชนมายุ 78 พรรษา โดยในปี 2546 นั้นพระองค์ทรงเข้ารับการผ่าตัดมะเร็งต่อมลูกหมาก

คาดว่าสมเด็จพระจักรพรรดิจะทรงสามารถเสด็จออกจากโรงพยาบาลได้ในราว 2 สัปดาห์ ถ้าไม่มีอาการแทรกซ้อน โดยสำนักพระราชวังเสริมว่า พระจักรพรรดิอาจจะทรงสามารถพระราชทานโอวาทในพิธีรำลึกวาระครบรอบ 1 ปีของแผ่นดินไหวและสึนามิที่เกิดขึ้นทางตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นในวันที่ 11 มี.ค.emnb_1_370236.gif

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: suneeporn@infoquest.co.th

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ว.วชิรเมธี (W.Vajiramedhi)

 

 

Even when it rains silver and gold,

The people’s wants are never fulfilled.

ต่อให้ฝนตกลงมาเป็นเงินทอง

ความต้องการของคนทั้งผองก็ไม่เคยเต็มอิ่ม

 

น กหาปณวสฺเสน ติตฺติ กาเมสุ วิชฺชติ(ขุ.ธ.๒๕/๔๐)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สหรัฐ,อียูเผยมีสัญญาณบวกอาจเริ่มเจรจาอิหร่านอีกครั้งประเด็นนิวเคลียร์

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555 17:09:51 น.

สหรัฐและสหภาพยุโรป (อียู) เมื่อวานนี้เห็นสัญญาณเชิงบวกในความเต็มใจของอิหร่านที่จะเริ่มการเจรจาอีกครั้งเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน

นางฮิลลารี คลินตัน รมว.ต่างประเทศของสหรัฐ ระบุถึงจดหมายที่อิหร่านส่งถึงนางแคเธอรีน แอชตัน ผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายต่างประเทศของอียูว่า เป็น"ขั้นตอนที่สำคัญขั้นหนึ่ง"emnb_1_370236.gif

"ตามที่ระบุในจดหมายในเดือนต.ค.ที่คุณแคธีส่งถึงอิหร่าน การหารือใดๆกับอิหร่านจำเป็นต้องเริ่มด้วยการหารือเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และดูเหมือนว่าการตอบกลับของอิหร่านต่อจดหมายของคุณแคธียอมรับภาวะนั้น" นางคลินตันกล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการประชุมกับนางแอชตันที่กระทรวงการต่างประเทศ

นายซาอิด จาลิลิ หัวหน้าผู้เจรจานิวเคลียร์ของอิหร่าน ส่งจดหมายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาตอบกลับต่อจดหมายของนาง

แอชตันในเดือนต.ค.ที่เสนอการเจรจาอีกครั้งโดยมีเงื่อนไขว่า อิหร่านจะต้องไม่กำหนดเงื่อนไขล่วงหน้า โดยจดหมายของอิหร่านแสดงว่า อิหร่านพร้อมที่จะเริ่มการเจรจาอีกครั้งกับ 6 ประเทศ อันได้แก่ อังกฤษ, จีน, ฝรั่งเศส, รัสเซีย, สหรัฐ และเยอรมนี

ด้านนางแอชตันกล่าวว่า เธอ"มีความระมัดระวังและมีทัศนะแง่บวก"เกี่ยวกับแนวโน้มการเริ่มเจรจาอีกครั้งกับอิหร่าน โดยเธอส่งจดหมายถึงอิหร่านในนาม 6 ประเทศดังกล่าว ซึ่งการเจรจาล่าสุดของประเทศเหล่านั้นกับอิหร่านล้มเหลวลงที่กรุงอิสตันบูล ประเทศตุรกีในเดือนม.ค.2554

"มีความเป็นไปได้ว่า อิหร่านอาจจะพร้อมที่จะเริ่มการเจรจา เราจะยังคงทำการหารือต่อไปและจะสร้างความมั่นใจว่า สิ่งที่เรากำลังมุ่งความสนใจนั้นมีความสำคัญ" เธอกล่าว โดยเสริมว่า "แต่ดิฉันมีความระมัดระวังและมีทัศนะแง่บวกในขณะเดียวกันสำหรับเรื่องนี้"

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนีย์พร เหลือทรัพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: suneeporn@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีจ้าทุกคน ย่าหยา มดแดง....

 

http://www.naewna.com/news.asp?ID=301724

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวต่างประเทศ ธนาคารโลกได้ประธานใหม่เม.ย. จีนแนะใช้ระบบคุณธรรมแทนโควตา gif.gif

gif.gif

วอชิงตัน ดี.ซี. (เอพี/รอยเตอร์) - ธนาคารโลกกำหนดวันเลือกประธานคนใหม่ เป็นวันที่ 20 เมษายนนี้ ซึ่งจะมาดำรงตำแหน่งแทนนายโรเบิร์ต เซลลิค ที่ประกาศจะลงจากตำแหน่งในเดือนมิถุนายน ด้านจีนแนะควรคัดเลือกโดยใช้ระบบคุณธรรม มากกว่าที่จะ มาจากธรรมเนียมปฏิบัติเดิมที่โควตาตำแหน่ง ประธานธนาคารโลกจะต้องเป็นของชาวอเมริกัน

 

การเลือกประธานคนใหม่จะตรงกับวันเริ่มต้นการประชุมร่วมในฤดูใบไม้ผลิระหว่างธนาคารโลกกับกองทุนการเงินระหว่าง ประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทั้งนี้ ธนาคารโลกจะเปิดรับสมัครผู้สนใจดำรงตำแหน่ง ดังกล่าวจนถึงวันที่ 23 มีนาคม โดยจะมาจาก ชาติสมาชิก 187 ประเทศของธนาคารโลก

 

ผู้สมัครทั้งหมดจะผ่านการคัดกรอง ให้เหลือ 3 คน สุดท้าย เพื่อเข้ารับการสัมภาษณ์ จากคณะผู้บริหารของธนาคารโลก ซึ่งมีอำนาจ ในการเลือกผู้ที่เหมาะสมเข้าดำรงตำแหน่งในการประชุมวันที่ 20 เมษายน

 

เป็นที่ทราบกันอย่างกว้างขวางว่ามีข้อตกลงอย่างไม่เป็นทางการระหว่างสหรัฐกับยุโรปมาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่องการแบ่งโควตาผู้บริหารสูงสุดในไอเอ็มเอฟ และธนาคารโลก โดยตำแหน่งประธานธนาคารโลกจะเป็นชาวอเมริกันและตำแหน่ง กรรมการผู้จัดการไอเอ็มเอฟจะมาจากยุโรป สหรัฐซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุดของธนาคารโลก ไม่น่าจะปล่อยให้ตำแหน่งประธานหลุดมือ ไปยังบุคคลจากประเทศอื่นที่ไม่ใช่ชาวอเมริกัน และถ้าไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ คาดว่ารัฐสภาสหรัฐจะประท้วงด้วยการลดเงินสนับสนุนธนาคารโลก

ขณะที่ก่อนหน้านี้ นายหลิว เหว่ยหมิน โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงว่า จีนหวังว่าธนาคารโลกจะคัดเลือกประธานคนต่อไปโดยใช้หลักคุณธรรมที่ให้มีการแข่งขันที่เปิดกว้างและยุติธรรม คำแถลงของ นายหลิว มีขึ้นหลังจากมีข้อตกลงอย่าง ไม่เป็นทางการมายาวนานเกือบ 68 ปี ระหว่างยุโรปกับสหรัฐว่า ตำแหน่งประธานธนาคารโลกเป็นโควตาของชาวอเมริกัน ในขณะที่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการกองทุน การเงินระหว่างประเทศ(ไอเอ็มเอฟ) เป็นของชาวยุโรป

 

อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีหลักประกันใดๆ ว่า ประธานธนาคารโลกคนใหม่จะไม่ใช่ ชาวอเมริกัน แม้จีนและอีกหลายประเทศพยายามกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลงข้อตกลง ระหว่างยุโรปกับสหรัฐเกี่ยวกับตำแหน่งประมุขสถาบันการเงินโลกทั้งสองแห่งนี้ ทั้งนี้ แม้ไอเอ็มเอฟได้ปฏิบัติตามนโยบายที่ให้การ คัดเลือกตำแหน่งกรรมการผู้จัดการมีลักษณะ เปิดกว้าง แต่ในที่สุดก็เลือก นางคริสติน ลาการ์ด อดีตรัฐมนตรีคลังฝรั่งเศส ซึ่งเป็นชาวยุโรปขึ้นดำรงตำแหน่ง

วันที่ 19/2/2012

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สหรัฐจับชายโมร็อกโก เตรียมบึ้มอาคารรัฐสภา gif.gif

gif.gif

วอชิงตัน ดี.ซี. (เอพี/เอเอฟพี/บีบีซี นิวส์)- เจ้าหน้าที่หน่วยสอบสวนกลางของสหรัฐ หรือ เอฟบีไอ ได้ควบคุมตัวชายชาวโมร็อกโก คนหนึ่งซึ่งพยายามจะระเบิดฆ่าตัวตายที่รัฐสภาสหรัฐ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

 

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เปิดเผยว่า ชายที่ถูกจับมีชื่อว่าอามีน เอล คาลิฟี วัย 29 ปี ซึ่งเป็นผู้อพยพมาจากประเทศโมร็อกโก และอาศัยอยู่ในรัฐเวอร์จิเนียของสหรัฐอย่างผิดกฎหมาย อัยการสหรัฐกล่าวว่า นายคาลิฟี พยายามจะเข้าไประเบิดฆ่าตัวตายภายในอาคารรัฐสภา เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเขาทำงาน ให้กับเครือข่ายอัล-เคดาและเป็นผู้ที่วางแผน กำหนดเป้าหมายและคิดหาวิธีการโจมตีด้วยตนเอง

 

เอกสารของศาลสหรัฐระบุว่า นายคาลิฟีได้เข้าร่วมประชุมที่เมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย เมื่อเดือนมกราคมปีที่แล้ว และ มีความชัดเจนว่าเขาต้องการเข้าร่วมในความ พยายามโจมตีบนแผ่นดินสหรัฐ นายคาลิฟีได้พยายามติดต่อกับกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรง และเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ที่ผ่านมา เขาได้รับคำแนะนำให้รู้จักกับชายคนหนึ่งชื่อ ยูซุฟ ซึ่งเป็นตัวแทนที่ไม่เปิดเผย

 

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุด้วยว่า นายคาลิฟีพิจารณาหลายเป้าหมายที่จะเข้าโจมตี เช่น สำนักงานของกองทัพสหรัฐ โบสถ์ชาวยิว และร้านอาหารที่มักมีเจ้าหน้าที่ทหารอเมริกัน เข้าไปใช้บริการ แต่ในที่สุดได้ตัดสินใจโจมตีอาคารรัฐสภาสหรัฐ หลังจากนั้นใช้เวลาเกือบ 1 เดือน ศึกษาหาข้อมูล และเข้าไปในอาคาร รัฐสภามาแล้วหลายครั้งเพื่อทำการสำรวจพื้นที่ เขายังได้ติดต่อประสานงานกับชายคนหนึ่งที่เขาคิดว่าเป็นเครือข่ายอัล-เคดา แต่แท้ที่จริงคือสายลับอเมริกัน ให้ช่วย กดรีโมทระเบิดให้ทำงานถ้าเขาเกิดปัญหากับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

 

นายคาลิฟีถูกนำตัวขึ้นศาลเมื่อวานนี้ เขาถูกตั้งข้อหาว่าพยายามใช้อาวุธทำลายล้างสูง เพื่อประทุษร้ายต่อทรัพย์สินของสหรัฐ ซึ่งจะได้รับโทษสูงสุดจำคุกตลอดชีวิตหากศาลตัดสินว่ามีความผิดจริงตามข้อกล่าวหา

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ครม.กรีซไฟเขียวมาตรรัดเข็มขัดครั้งสุดท้ายจุดไฟประท้วงฮือรอบใหม่

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ 2555 09:20:02 น.

คณะรัฐมนตรีกรีซให้การรับรองมาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติมเป็นครั้งสุดท้ายช่วงค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) แลกกับความช่วยเหลือทางการเงินจากนานาชาติในสัปดาห์หน้า เพื่อไม่ให้ประเทศต้องเข้าสู่ภาวะล้มละลายในเดือนมี.ค.นี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานบทสัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี ลูคัส ปาปาเดมอส ซึ่งเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีวาระพิเศษ เผยว่า ที่ประชุมกลุ่มยูโรโซนเพื่อหารือเรื่องการการปล่อยเงินกู้ก้อนใหม่ให้กับกรีซจะได้บทสรุปในวันจันทร์นี้ โดยนายกฯกรีซแสดงความมั่นใจว่าผลลัพธ์จะเป็นไปในทิศทางที่ดี หลังจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีให้การรับรองมาตรการหั่นลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีก 325 ล้านยูโร (ราว 427 ล้านดอลลาร์) ตามเงื่อนไขสุดท้ายที่เจ้าหนี้ คือสภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้กำหนดไว้ เพื่อแลกกับการปล่อยให้กู้เงินช่วยเหลือ 1.30 แสนล้านยูโร (1.70 แสนล้านดอลลาร์) นับเป็นเงินกู้ช่วยเหลือก้อนที่ 2 ในระยะเวลา 2 ปีemnb_1_370236.gif

สำหรับมาตรการรัดเข็มขัดล่าสุดประกอบไปด้วย หั่นลดเงินบำนาญลง 12% และลดเงินเดือนข้าราชการพลเรือน โดยจะเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาเพื่อลงคะแนนรับรองไม่เกินวันจันทร์นี้ให้ทันก่อนที่จะการประชุมครั้งสำคัญของกลุ่มยูโรโซนจะเริ่มต้นขึ้น รวมแล้วในปีนี้ กรีซจำเป็นจะต้องหั่นลดงบประมาณให้ได้ทั้งสิ้น 3.2 พันล้านยูโร เพื่อขอรับความช่วยเหลือจากนานาชาติให้ทันกำหนดใช้หนี้พันธบัตร 1.45 หมื่นล้านยูโรในวันที่ 20 มี.ค.นี้

นอกจากมาตรการรัดเข็มขัดแล้ว ขณะเดียวกันเจ้าหนี้ภาคเอกชนผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลกรีซจำต้องยอมปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อลดภาระหนี้ลงเกือบ 1 ใน 3 ของหนี้สิน 3.60 แสนล้านยูโร เนื่องจากหากกรีซผิดนัดชำระหนี้ ย่อมส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วทั้งภูมิภาคยูโรโซนและทั่วโลก

มาตรการรัดเข็มขัดล่าสุดตามมาด้วยปฏิกริยาระลอกใหม่ของสหภาพแรงงานและชาวกรีซ โดยสหภาพการค้าของทั้งแรงงานภาครัฐและเอกชนคือกลุ่ม GSEE และ ADEDY ได้เรียกร้องให้แรงงานออกมาร่วมตัวประท้วงหน้าที่ประชุมรัฐสภาในวันนี้

ขณะที่นักเรียนและนักศึกษาชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายและมหาวิทยาลัยมารวมตัวกันที่จตุรัสซินทักมาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ พร้อมกับชูป้ายระบุความไม่พอใจที่ “ภาระอันไร้ความชอบธรรมกองไว้บนบ่าของประชาผู้ยากไร้" ก่อนที่ผู้ประท้วงอีกหลายพันคนจะก่อหวอดสมทบตามเมืองต่างๆทั่วยุโรปและสหรัฐภายใต้สโลแกนที่ว่า “ตอนนี้พวกเราทุกคนเป็นชาวกรีซ"

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาริชาติ ชื่นชม โทร. อีเมล์: parichat@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดทุนแนะ รบ. พิสูจน์ฝีมือปลดบัญชีดำ FATF ก้องเกียรติ" รับไทยมีธุรกิจใต้ดินเยอะ blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 19 กุมภาพันธ์ 2555 08:11 น.

 

Share8

blank.gif TabOver.gif คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น 555000002368701.JPEG

blank.gif blank.gif ส.ธุรกิจตลาดทุน เร่งรัฐบาลผลักดัน กม. ฟอกเงิน 2 ฉบับ เพื่อให้เสร็จก่อนการเปิดประชาคม ศก.อาเซียน ในปี 58 เชื่อจะทำให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น ระยะเวลาการนำเงินไปลงทุนเพิ่มจาก 1 สัปดาห์ จะเพิ่มเป็น 2-3 สัปดาห์ พร้อมคาดตลาดหุ้นไทยครึ่งปีหลังสดใส แนวโน้มโตได้กว่า 10% "ก้องเกียรติ" ยอมรับ ไทยมีธุรกิจใต้ดินค่อนข้างมาก และรัฐบาลพิสูจน์ฝีมือปลดบัญชีดำ FATF ขณะที่ ตลท. เตรียมอธิบายแบล็คลิสต์เพื่อให้นักลงทุนเข้าใจ

 

นายไพบูลย์ นรินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย และนายกสมาคมวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวถึงกรณีที่คณะทำงานเฉพาะกิจเพื่อดำเนินมาตรการทางการเงินเกี่ยวกับการฟอกเงิน หรือ FATF ขึ้นบัญชีดำประเทศไทย ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานว่าด้วยการสกัดการฟอกเงินนั้น เชื่อว่าจะส่งผลกระทบในระยะยาว เพราะต่างประเทศต้องเพิ่มขั้นตอนการตรวจสอบที่มาของเงินไทยที่ไปลงทุนในประเทศ

 

"กรณีดังกล่าว เชื่อว่าจะทำให้ต้นทุนการดำเนินธุรกิจของต่างประเทศเพิ่มขึ้น รวมถึงระยะเวลาการนำเงินไปลงทุนที่จะเพิ่มขึ้นด้วย จากเดิมที่เคยใช้เวลา 1 สัปดาห์ อาจเพิ่มขึ้นเป็น 2-3 สัปดาห์ หากรัฐบาลไม่เร่งผลักดันกฎหมายการฟอกเงิน 2 ฉบับให้แล้วเสร็จก่อนการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทยแน่นอน"

 

ทั้งนี้ เชื่อว่าจะยังไม่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนในไทยในระยะสั้น เพราะอันดับความน่าเชื่อถือของไทยอยู่ที่ระดับ BBB+ ส่วนคาดการณ์การลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงครึ่งปีหลังจะปรับตัวดีขึ้นกว่าช่วงครึ่งปีแรก เพราะวิกฤตการเงินในยุโรปเริ่มคลี่คลายลงแล้ว เนื่องจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของประเทศอิตาลีและสเปนลดลงเหลือร้อยละ5 อีกทั้งสภาพคล่องของไทยยังอยู่ในระดับดี และได้รับอานิสงค์จากเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาในตลาดหุ้นอาเซียน จนทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 10

 

นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย พลัส กล่าวว่า การที่ไทยถูกขึ้นบัญชีดำโดย FATF กระทบต่อภาคเอกชน โดยเฉพาะในกรณีการนำเงินออกไปทำธุรกรรมในต่างประเทศ ที่อาจถูกตรวจสอบมากขึ้น ซึ่งเป็นความยุ่งยากและมีต้นทุนการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามในส่วนของการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ จะไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะเงินลงทุนทั้งหมดมีแหล่งที่มาชัดเจน และตรวจสอบได้

 

"ยอมรับว่าไทยมีธุรกิจใต้ดินค่อนข้างมาก สำหรับกรณีไทยถูกขึ้นบัญชีดำ เป็นเรืิ่องที่มีการส่งสัญญาณมานานแล้ว ให้ประเทศไทยปรับปรุงมาตรฐานกฎหมายตามที่ FATF ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ควรจริงจังในการสร้างความเชื่อมั่นต่อ FATF เพื่อนำไปสู่การปลดไทยออกจากบัญชีดำให้ได้"

 

ส่วนภาพรวมตลาดหุ้นไทยในช่วงนี้มีปัจจัยบวกสนับสนุนให้ตลาดเติบโตได้ดี โดยเฉพาะปัจจัยในต่างประเทศ ที่เศรษฐกิจของสหรัฐฟื้นตัวและยุโรปได้รับการช่วยเหลือ แต่การฟื้นตัวจะไม่ราบรื่นมากนัก และต้องใช้มาตรการเพิ่มสภาพคล่องเช่นเดียวกับสหรัฐฯ จึงเป็นช่วงที่ดีของตลาดหุ้นไทย

 

นายก้องเกียรติ เชื่อว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยจะเติบโตได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 5-10 หากไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เนื่องจากสภาพคล่องในระบบตลาดการเงินล้นระบบ อัตราดอกเบี้ยไม่มีสัญญาณการปรับขึ้น ขณะที่ผลกำไรสุทธิของบริษัทจดทะเบียนเติบโตร้อยละ 10

 

"ปีนี้จะไม่เห็นการเติบโตเกินกว่าระดับนี้ เนื่องจากตลาดหุ้นไทยยังขับเคลื่อนด้วยหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ ปตท และบ้านปู ซึ่งกำไรสุทธิต่อหุ้น หรือ P/E ของหุ้นใหญ่ในตลาดต่างประเทศ จะมี P/E ในระดับที่ยังต่ำกว่าประเทศไทยที่ 8-9 เท่า ฉะนั้น P/E ของหุ้นจะสูงกว่าหุ้นกลุ่มเดียวกันในตลาดโลก ซึ่งต้องรอให้หุ้นของตลาดโลกปรับตัวขึ้นก่อน จึงแนะนำในปีนี้ให้เลือกลงทุนโดยพิจารณาปัจจัยตลาดหุ้นต่างประเทศ และราคาหุ้นที่เป็นกลุ่มเดียวกัน"

 

นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ สายงานการตลาด ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า หลังจาก FATF ขึ้นบัญชีดำประเทศไทย ที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานการสกัดการฟอกเงิน ยังไม่ส่งกระทบชัดเจนต่อตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เพราะยังมีเม็ดเงินจากทั่วโลกเข้ามาลงทุนในไทยอยู่ และยังมีมูลค่าการซื้อขายปริมาณมากถึง 40,000 ล้านบาท แต่ยังนิ่งนอนใจไม่ได้ จึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการผลักดันกฎหมายฟอกเงินทั้ง 2 ฉบับให้เร่งดำเนินการด้วย

 

ทั้งนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดงาน Invest Thailand Fair ครั้งที่ 2 มหกรรมจัดทัพลงทุน ฟุ้น ฟิวเจอร์ ทองคำ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นด้านการลงทุน หลังเกิดวิกฤตอุทกภัยในปีที่ผ่านมา และปัจจัยด้านสถานการณ์การเมืองด้วย นอกจากนี้ ตลท. จะนำเรื่องการที่ FATF ขึ้นบัญชีดำประเทศไทย มาอธิบายและสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน รวมถึงการเพิ่มการลงทุนจากระบบออนไลน์ให้มากขึ้น รองรับกระแสโซเชียลมีเดียที่เติบโตในไทยด้วย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณ คุณgingerและเพื่อนๆทุกท่านที่เสนอข่าวสารมากครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...