มือใหม่หัดวิเคราะห์

[ginger 11,058]

(เพิ่มเติม) ญี่ปุ่นเผยยอดขาดดุลการค้าเดือนม.ค.พุ่งแตะ 1.48 ล้านล้านเยน หลังส่งออกชะลอตัว

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 11:52:13 น.

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นในเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.48 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นสถิติที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 33 ปี เนื่องจากยอดการส่งออกชะลอตัวลง อันเป็นผลมาจากการแข็งค่าของเงินเยนและเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง

ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกเดือนม.ค.ของญี่ปุ่นหดตัวลง 9.3% จากปีที่แล้ว มาอยู่ที่ระดับ 4.51 ล้านล้านดอลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 อันเนื่องมาจากการร่วงลงของยอดส่งออกสินค้าประแภทเซมิคอนดัคเตอร์และชิ้นส่วนอเล็กทรอนิกไปยังประเทศอื่นๆในภูมิภาคเอเชีย

ขณะที่ยอดการนำเข้าขยายตัว 9.3% สู่ระดับ 5.99 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นการขยายตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 25 เนื่องจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ปรับตัวสูงขึ้นเมื่อญี่ปุ่นนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซธรรมชาติเหลวเพิ่มขึ้น ในขณะที่การเติบโตของสาธารณูปโภคภายในประเทศช่วยหนุนการผลิตพลังงานความร้อนให้กลายเป็นทางเลือกใหม่ในช่วงที่การผลิตพลังงานนิวเคลียร์ต้องหยุดชะงักลง อันเนื่องมาจากสึนามิที่สร้างความเสียหายให้กับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิม่า ไดอิจิ

รายงานของกระทรวงการคลังระบุว่า จีนยังคงเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่สุดของญี่ปุ่น และในเดือนม.ค.ที่ผ่านมานั้น ญี่ปุ่นขาดดุลการค้ากับจีนมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่ 5.879 แสนล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th

[put42 92]

ขอบคุณคะ คุณnews ginger ย่าหยา baskie30 กระต่ายทอง(น่ากินมาก...)

[ginger 11,058]

สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futuresภายในประเทศ ณ วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 เวลา 09.00น.

 

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 10:46:53 น.

กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

 

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,731 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,726 เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.79 กับ 30.83 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,200 บาท กับ 25,300 บาท และกลับมาปิดที่ 25,200 บาท กับ 25,300 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4,349 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 11,472 คู่สัญญา และ Silver Futures อยู่ที่ 3 คู่สัญญา ปริมาณการซื้อขาย Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1% แบบ 10 บาท ลดลง 2% GFG12 ปิดที่ 25,340 บาท เและ GFJ12 ปิดที่ 25,540 บาท และ GF10G12 ปิดที่ 25,340 บาท และ GF10J12 ปิดที่ 25,540 บาท

สัญญา Comex ปิดลดลง 2.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,725.9 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 15.4 เซนต์ ปิดที่ระดับ 33.21 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำที่ 1,281.28 ตัน (คงทองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 93 เซนต์ ปิดที่ระดับ 103.24 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 45.79 จุดปิดที่ระดับ 12,949.87 จุด

Ratio Gold / Silver เท่ากับ 51.9 ต่อ 1

 

ข่าวที่สำคัญ

- นายอาลี-อัคบาร์ ซาเลฮี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศอิหร่าน ซึ่งกล่าวระหว่างเปิดแถลงข่าวและถ่ายทอดสดผ่านเพรสทีวี สถานีดาวเทียมของท้องถิ่นว่า อิหร่านและ 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ บวกเยอรมนี (จี5+1) จะเปิดเจรจารอบใหม่ประเด็นโครงการทดลองอาวุธนิวเคลียร์ ที่อิสตันบูล ประเทศตุรกี อิหร่านเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์เลวร้ายที่สุดแล้ว ท่ามกลางคำขู่จากชาติตะวันตก ชาติตะวันตกน่าจะเลือกที่จะปฏิสัมพันธ์กับอิหร่าน ไม่ใช่เผชิญหน้ากัน

- กระทรวงน้ำมันอิหร่านประกาศหยุดส่งออกน้ำมันให้กับบริษัทในสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสแล้ว แม้จะยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนก่อนที่สหภาพยุโรปจะประกาศระงับการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน นายอาลีเรซา นิคซาด-ราห์บาร์ โฆษกกระทรวงน้ำมัน เผยว่า กระทรวงเคยประกาศก่อนหน้านี้ว่าอาจจะยุติการส่งออกน้ำมันไปยังบางประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (อียู) และล่าสุดกล่าวว่า กระทรวงน้ำมันหยุดขายน้ำมันให้กับบริษัทในสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสแล้ว เรามีลูกค้าน้ำมันของเราเอง และมีการพิจารณาตัวแทนบริษัทเหล่านั้นแล้ว เราจะขายน้ำมันดิบให้กับลูกค้ารายใหม่แทนบริษัทในสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส อย่างไรก็ดี โฆษกกระทรวงไม่ได้ระบุว่า จะหยุดขายน้ำมันให้กับบริษัทในสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสเป็นระยะเวลาเท่าใด

- คอนเฟอเรนซ์ บอร์ดเผยดัชนีชี้นำศก.สหรัฐเดือนม.ค.พุ่งสูงสุดในรอบกว่า 3 ปี ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 0.4% แตะ 94.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2551 และทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน ต่อเนื่องจากที่ขยายตัว 0.5% ในเดือนธ.ค. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีจะเพิ่มขึ้น 0.5 การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐนับตั้งแต่ตัวเลขจ้างงานไปจนถึงภาคการผลิตและยอดค้าปลีกล้วนบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีปัจจัยหนุนอยู่มากจากช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 2554 ซึ่งทำให้ตลาดการเงินผ่อนคลายจากความกังวลที่ว่าเศรษฐกิจอาจชะลอลงในไตรมาสนี้

- สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายขยายการลดภาษีจ้างงานและสวัสดิการว่างงานสำหรับผู้ว่างงานระยะยาวตลอดปีงบประมาณ หากมีการอนุมัติร่างกฎหมายนี้ ก็จะทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีจ้างงานสำหรับชาวอเมริกันในวันที่ 1 มี.ค., เป็นการต่ออายุสวัสดิการว่างงานสำหรับผู้ว่างงานระยะยาว ข้อตกลงนี้แสดงถึงชัยชนะสำหรับปธน.โอบามา และพรรคเดโมแครต ซึ่งระบุว่า การลดภาษีจ้างงานสำหรับชาวอเมริกันอาจจะเป็นแรงหนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

- รมว.คลังสหรัฐได้ให้การสนับสนุนมาตรการปฏิรูปเศรษฐกิจฉบับล่าสุดของกรีซ และกล่าวว่าสหรัฐจะผลักดันกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ให้สนับสนุนกรีซในเรื่องการเงิน กรีซได้ทำตามเงื่อนไขเบื้องต้นทั้งหมดของข้อตกลงการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่สองมูลค่า 1.30 แสนล้านยูโร (1.704 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และสหภาพยุโรป (อียู) แล้ว ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยปูทางสู่การทำข้อตกลงสว็อปพันธบัตรกับเจ้าหนี้เอกชน ซึ่งจะช่วยลดภาระหนี้สินของกรีซ

- ธนาคารกลางจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) โดยมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อระยะสั้น และรับมือกับวิกฤตการณ์ในตลาดต่างประเทศ โดยจะให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.เป็นต้นไป ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนประกาศลด RRR ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ลง 0.50% มาอยู่ที่ระดับ 20.5% และลด RRR สำหรับธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลางลง 17% โดยคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดราว 4 แสนล้านหยวน

 

ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์

- Core CPI m/m จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.1% คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ 0.2 % ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ 0.2%

- CPI m/m จากตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.0% คาดการณ์ว่าจะออกมาอยู่ที่ 0.3% ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ 0.2%

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม

-ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ เนื่องจากเป็นวัน Presidents Day and Washington's Birthday. ตลาด Comex หยุด

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

Gold — ราคาทองคำเช้าวันนี้ดีดตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจากข่าวที่กรีซยอมปฏิบัติตามเงื่อนไขการเรียกร้องของกลุ่มทรอยก้าทุกประการ อีกทั้งการที่สหรัฐแสดงท่าทีเชิงบวกสนับสนุนกลุ่มทรอยก้าในการที่จะปล่อยเงินให้กรีซรอบ 2 นี้ ซึ่งถ้าหากเป็นไปตามคาดจริง จะทำให้ตลาดการเงินเข้าสู่ภาวะสมดุล ทำให้ทองคำกลับเป็นขาขึ้นอย่างสมบูรณ์ โดยมีแนวต้านที่ระดับ 1740 เหรียญ และแนวรับที่ระดับ 1710 เหรียญ ถ้าราคาสามารถผ่านแนวต้าน ที่ระดับ 1740 เหรียญได้ แนะนำให้ Follow buy ตาม โดยหลักๆ รอความชัดเจนของข่าว ถ้าราคาดีดไปไกลให้ระวังเรื่อง Sell on Fact ด้วย ซึ่งจะมีนักลงทุนบางประเภทรอขายทำกำไร สรุปได้ว่า ทองคำน่าจะเป็นขาขึ้น โดยมีแนวต้านที่ระดับ 1740 เหรียญ และแนวรับที่ระดับ 1710 เหรียญ

Gold Futures G12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,250 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,450 บาท

Gold Futures J12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,550 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,750 บาท

Silver Futures G12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,020 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,050 บาท

 

คำแนะนำ

สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)

เก็งกำไรในทิศทางขาขึ้น คาดว่าราคาน่าจะแกว่งตัว ในกรอบ 1720 - 1740 เหรียญ อย่างไรก็ดีทองคำยังถูกกดดันจากค่าเงินบาทที่แข็งค่ามากกว่า 8 สตางค์ จากระดับ 30.84 บาท มาอยู่ที่ 30.76 บาท ซึ่งจะทำให้การขึ้นของทองคำเป็นไปได้ไม่สมบูรณ์นัก

นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)

เข้าซื้อต่อเนื่อง ยังคงถือครองพอร์ท 50 %

นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง

เป็นการรอจังหวะซื้อสะสม ยังเป็นลักษณะถือครองพอร์ท 50 %

 

สรุปได้ว่า ภาพรวมหลักราคาทองคำน่าจะเป็นทิศทางขาขึ้น เป็นการรับข่าวของกรีซ

 

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้น และโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยง โปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 20, 2012 โดย ginger

[ginger 11,058]

S&P คงอันดับเครดิตญี่ปุ่นที่ AA- แต่เตือนอาจหั่นเครดิตหากแนวโน้มศก.อ่อนแอ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 14:06:29 น.

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นที่ AA- พร้อมกับคงแนวโน้มความน่าเชื่อถือไว้ที่ "เชิงลบ" อย่างไรก็ตาม เอสแอนด์พีเตือนว่า อาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่น หากแนวโน้มการเติบโตทางเศรษฐกิจในระยะกลางอ่อนแอลง

เอสแอนด์พีระบุในแถลงการณ์วันนี้ว่า "เอสแอนด์พียังคงอันดับความน่าเชื่อของญี่ปุ่นเอาไว้ก็เพราะญี่ปุ่นมีทรัพย์สินในต่างประเทศอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งมีระบบการเงินที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง และมีระบบเศรษฐกิจในลักษณะที่กระจายความเสี่ยง ในขณะที่สกุลเงินเยนก็ยังคงมีบทบาทในการเป็นสกุลเงินหลักๆในระบบทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ"

การประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของญี่ปุ่นในวันนี้ มีขึ้นหลังจากกระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นในเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 1.48 ล้านล้านเยน ซึ่งเป็นสถิติที่พุ่งขึ้นมากที่สุดในรอบ 33 ปี เนื่องจากยอดการส่งออกชะลอตัวลง อันเป็นผลมาจากการแข็งค่าของเงินเยนและเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

[ginger 11,058]

โอบามามั่นใจสหรัฐเพิ่มยอดส่งออก 2 เท่าได้แน่ เล็งคลอดแผนกระตุ้นเพิ่ม

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 14:00:00 น.

นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวระหว่างเยี่ยมชมโรงงานผลิตเครื่องบินของโบอิ้งในมลรัฐวอชิงตันว่า เป้าหมายของสหรัฐในการเพิ่มยอดส่งออกขึ้นอีกเท่าตัวภายในระยะเวลา 5 ปีนั้น เป็นเป้าหมายที่สามารถบรรลุผลได้ และรัฐบาลสหรัฐจะออกมาตรการใหม่ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการส่งออกของประเทศ

"เมื่อ 2 ปีก่อน ผมตั้งเป้าเพิ่มยอดส่งออกของสหรัฐขึ้นอีกเท่าตัวภายใน 5 ปี และมาถึงตอนนี้ เรากำลังจะบรรลุเป้าหมายนั้นได้ก่อนกำหนด แต่เราจำเป็นต้องทำอะไรมากกว่านี้ ทำให้ผมมีความยินดีที่จะประกาศมาตรการที่หลากหลาย ซึ่งจะช่วยให้บริษัทอเมริกันรายแห่งขายสินค้าทั่วโลกได้มากขึ้น สร้างงานให้กับประเทศ อีกทั้งช่วยสร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจ" นายโอบามากล่าว

ทั้งนี้ เนื้อหาในถ้อยแถลงนโยบายประจำปี 2553 นั้น นายโอบามาได้ประกาศแผนกระตุ้นการส่งออกของประเทศ ซึ่งมีเป้าหมายเพิ่มยอดส่งออกของสหรัฐขึ้นอีกเท่าตัวตลอดระยะเวลา 5 ปีจนถึงปี 2557

รายงานของรัฐบาลระบุว่า ยอดส่งออกของสหรัฐในปี 2554 ปรับเพิ่มขึ้น 34% เมื่อเทียบกับปี 2552 ด้วยมูลค่าการส่งออกเกินกว่า 2.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ

นายโอบามายังประกาศว่า รัฐบาลสหรัฐมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการใหม่ๆ หลายประการ ซึ่งรวมถึงให้การสนับสนุนด้านการเงินกับผู้ส่งออกขนาดเล็ก และปรับปรุงหน่วยงานด้านการค้าให้มีความคล่องตัว เพื่อช่วยให้บริษัทสหรัฐส่งออกสินค้าได้ง่ายขึ้น สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย มัณฑนา กิตติธรรมรักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

[ย่าหยา 395]

[ginger 11,058]

โพลล์ชี้ชาวกรีซส่วนใหญ่หนุนเป็นสมาชิกยูโรโซนต่อไป ขณะการประชุมเปิดฉากวันนี้

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 15:18:51 น.

ชาวกรีซหลายพันคนได้รวมตัวกันบนถนนหลายสายในกรุงเอเธนส์อีกครั้งเมื่อวานนี้ เพื่อประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดก่อนที่จะมีการประชุมที่บรัสเซลส์ ซึ่งจะมีการตัดสินใจเรื่องการอนุมัติเงินช่วยเหลือแก่กรีซ และจะช่วยให้กรีซสามารถเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนมีนาคม รวมทั้งสถานภาพสมาชิกยูโรโซนของประเทศในอนาคต

ผู้ประท้วงหลายรายได้ชูป้ายข้อความ "ต่อต้านอียูและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)" ที่หน้าตึกรัฐสภา เพื่อประณามเงื่อนไขอันสุดหินในการให้เงินช่วยเหลือจากต่างประเทศงวดที่ 2 เพื่อช่วยให้กรีซรอดพ้นจากการผิดนัดชำระหนี้ ก่อนที่กลุ่มประเทศยูโรโซนจะประชุมซึ่งอาจจะมีการอนุมัติเรื่องดังกล่าวในวันนี้

แต่ในขณะเดียวกัน ผลการสำรวจความคิดเห็นที่เปิดเผยในหนังสือพิมพ์ต่างๆ ระบุว่า ชาวกรีซส่วนใหญ่ยังคงสนับสนุนการเป็นสมาชิกยูโรโซน โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า ชาวกรีซตระหนักดีว่า หากแยกตัวออกจากยูโรโซนกรีซอาจจะต้องเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้จำนวนมาก

ทั้งนี้ 7 ใน 10 ของผู้ที่ตอบแบบสอบถามของหนังสือพิมพ์ซันเดย์ส เรียลนิวส์ ระบุว่ายังอยากให้กรีซเป็นสมาชิกยูโรโซนต่อไป แต่อย่างไรก็ดี มีจำนวนผู้ที่ตอบแบบสอบถามน้อยกว่าครึ่งหนึ่งที่เชื่อว่า กรีซจะยังคงเป็นสมาชิกยูโรโซนในปี 2558

นอกจากนี้ ประมาณ 95% ของชาวกรีซที่ตอบแบบสอบถามมีมุมมองที่เป็นลบเกี่ยวกับอนาคตของประเทศ โดยวิจารณ์ว่ามาตรการรัดเข็มขัดระยะเวลา 2 ปี และการปฏิรูปเป็นยาที่ผิดขนานในการแก้ปัญหาวิกฤติหนี้สิน

สแตธิส อาเนสทิส ประธานสหภาพแรงงาน GSEE ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานภาคเอกชน กล่าวต่อผู้ชุมนุมประท้วงในใจกลางกรุงเอเธนส์ที่จัดขึ้นพร้อมกับ ADEDY ซึ่งเป็นสหภาพแรงงานของภาครัฐบาลว่า "หลายๆ นโยบายที่เลือกใช้จะนำพาสังคมกรีซและประเทศไปสู่ภาวะถดถอยที่ย่ำแย่ลงกว่าเดิม รวมทั้งจมดิ่งลงสู่วัฏจักรแห่งความย่ำแย่ เราต้องต่อสู้กับสิ่งเหล่านั้นจนกว่าเราจะล้มมันได้" สำนักข่าวซินหัวรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th

[ย่าหยา 395]

[ginger 11,058]

Asia Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 15:31:35 น.

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดตลาดวันนี้พุ่งสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นหลังจากที่จีนระบุว่า จะช่วยเหลือยุดรป และสถานการณ์วิกฤตหนี้กรีซก็ส่งสัญญาณว่า กรีซอาจจะได้รับเงินช่วยเหลืองวดที่ 2

ดัชนี S&P/ASX 200 บวก 60.20 จุด หรือ 1.4% ปิดที่ 4,256.1 จุด

 

-- ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 7,954.82 จุด บวก 60.46 จุดในวันนี้ (20 ก.พ.) โดยหุ้นกลุ่มที่ไม่ปรับตัวผันผวนตามตลาด เช่นหุ้นกลุ่มพลาสติกและเคมีภัณฑ์ ทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุด ซึ่งสามารถชดเชยการร่วงลงอย่างหนักของหุ้นฮอนไฮ พรีซิชัน อินดัสทรี

 

-- ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสุงสุดในรอบ 6 เดือนครึ่งในวันนี้ (20 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนคลายวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทส่งออกญี่ปุ่น หลังจากสกุลเงินเยนอ่อนค่าลง

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ดัชนีนิกเกอิปิดพุ่งขึ้น 100.92 จุด หรือ 1.08% แตะที่ 9,485.09 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.

 

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหลักทรัพย์ลาวปิดปรับตัวขึ้นในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี LSX Composite Index ปิดปรับตัวขึ้น 2.16 จุด หรือ 0.24% ที่ระดับ 898.19 จุด มีปริมาณการซื้อขาย 117,279 หุ้น คิดเป็นมูลค่าประมาณ 531 ล้านกีบ (ราว 66,600 ดอลลาร์สหรัฐ)

 

-- ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดตลาดพุ่งขึ้นในวันนี้ เช่นเดียวกับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในเอเชีย หลังธนาคารกลางจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50%

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนี VN บวก 10.68 จุด หรือ 2.65% ปิดที่ 413.98 จุด

 

-- ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดตลาดวันนี้ขยับขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากจีนได้ปรับลดสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากเป็นครั้งแรกในปีนี้ เพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตบวก 6.42 จุด หรือ 0.27% ปิดที่ 2,363.6 จุด ส่วนดัชนีหุ้นเสิ่นเจิ้นบวก 1.31 จุด หรือ 0.01% ปิดที่ 9,616.65 จุด

 

-- ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ เนื่องจากธนาคารกลางจีนออกมาประกาศลดเพดานกันเงินสำรองของธนาคารพาณิชย์ลง ซึ่งช่วยกระตุ้นบรรยากาศการซื้อขายขึ้นมา อย่างไรก็ตามหุ้นของบริษัทด้านการเงินกลับปรับตัวลดลงจึงทำให้ภาพรวมของตลาดปรับตัวขึ้นไม่มากนัก ส่วนเงินว่อนแข็งค่าขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

สำนักข่าวยอนฮัพรายงานว่า ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นเกาหลีใต้ (KOSPI) ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.07% หรือ 1.43 จุด แตะ 2,024.9 จุด มีการซื้อขายในปริมาณมากถึง 723 ล้านหุ้น มูลค่า 5.96 ล้านล้านวอน (5.29 พันล้านดอลลาร์) โดยมีหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตรา 464 ต่อ 372

 

-- ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดปรับตัวลดลงในวันนี้ หลังจากที่นักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ขณะเดียวกันตลาดก็ไม่ค่อยตอบสนองต่อข่าวธนาคารกลางจีนปรับลดสัดส่วนการกันสำรองเงินฝาก (RRR) ครั้งแรกในปีนี้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ดัชนีฮั่งเส็งลดลง 66.83 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 21,424.79 จุด หลังจากเคลื่อนไหวในช่วง 21,393.48-21,760.34 จุด มีมูลค่าการซื้อขายเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว แตะที่ 7.055 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 9.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th-

[ginger 11,058]

“ปตท.-บางจาก” ขึ้นราคาขายปลีกเบนซิน 60 สต.ดีเซล 40 สต.พรุ่งนี้ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กุมภาพันธ์ 2555 14:08 น. คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น

“ปตท.-บางจาก” ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีก เบนซิน-แก๊สโซฮอล์ ลิตรละ 60 สตางค์ ดีเซลปรับขึ้น ลิตรละ 40 สตางค์ มีผลพรุ่งนี้ ส่งผลให้เบนซิน 91 แตะ 41 บาท ส่วนดีเซลใกล้ทะลุ 32 บาท

 

มีรายงานข่าวว่า บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) หรือ PTT และ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP ประกาศปรับขึ้นราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ลิตรละ 60 สตางค์ ส่วนดีเซล ปรับขึ้นลิตรละ 40 สตางค์ และแก๊สโซฮอล์ E85 ปรับขึ้นลิตรละ 30 สตางค์ มีผลตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2555 (พรุ่งนี้) เป็นต้นไป

 

ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาน้ำมันขายปลีกหน้าสถานีบริการน้ำมันของ ปตท.และ บางจาก ในเขตกรุงเทพฯ และ ปริมณฑล วันพรุ่งนี้ เป็นดังนี้ เบนซิน 91 ลิตรละ 40.91 บาท, แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 39.63 บาท, แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 37.88 บาท, แก๊สโซฮอล์ E20 ลิตรละ 36.88 บาท, แก๊สโซฮอล์ E85 ลิตรละ 23.68 บาท ส่วนดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 31.73 บาท

[ginger 11,058]

3สมมุติฐานหาก"กรีซ"ชวดเงินช่วยเหลือรอบใหม่

 

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

http://bit.ly/xVTfo1

[ginger 11,058]

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 17:00:00 น.

กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าของญี่ปุ่นในเดือนม.ค.พุ่งขึ้แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.48 ล้านล้านเยน เนื่องจากยอดการส่งออกชะลอตัวลง อันเป็นผลมาจากการแข็งค่าของเงินเยนและเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง

 

-- ธนาคารกลางจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) โดยมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อระยะสั้น และรับมือกับวิกฤตการณ์ในตลาดต่างประเทศ โดยจะให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.เป็นต้นไป

 

-- นายซี จินผิง รองประธานาธิบดีจีนกล่าวกับนางเอนดา เคนนี นายกรัฐมนตรีไอร์แลนด์ว่า จีนสนับสนุนความมีเสถียรภาพของเงินสกุลยูโรและยูโรโซน

 

-- -นักวิเคราะห์คาดว่า การที่ธนาคารกลางจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.50% จะช่วยระบายเงินทุนเข้าสู่ตลาดภายในประเทศราว 4 แสนล้านหยวน (6.354 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) อีกทั้งยังเป็นปัจจัยหนุนภาวะการซื้อขายในตลาดตลาดสินค้าโภคภัณฑ์

 

-- ธนาคารคอมมอนเวลธ์ แบงก์ (CBA) เปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของออสเตรเลียยังคงปรับตัวสูงขึ้น 0.6% ในเดือนม.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องากเดือนพ.ย.และธ.ค. เพราะได้รับแรงเคลื่อนจากยอดขายที่เติบโตในภาคร้านเสื้อผ้าการผู้ให้บริการสั่งสินค้าทางไปรษณีย์และทางโทรศัพท์

 

-- นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวระหว่างเยี่ยมชมโรงงานผลิตเครื่องบินของโบอิ้งในมลรัฐวอชิงตันว่า เป้าหมายของสหรัฐในการเพิ่มยอดส่งออกขึ้นอีกเท่าตัวภายในระยะเวลา 5 ปีนั้น เป็นเป้าหมายที่สามารถบรรลุผลได้ และรัฐบาลสหรัฐจะออกมาตรการใหม่ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการส่งออกของประเทศ

 

-- ชาวกรีซหลายพันคนได้รวมตัวกันบนถนนหลายสายในกรุงเอเธนส์อีกครั้งเมื่อวานนี้ เพื่อประท้วงมาตรการรัดเข็มขัดก่อนที่จะมีการประชุมที่บรัสเซลส์ ซึ่งจะมีการตัดสินใจเรื่องการอนุมัติเงินช่วยเหลือแก่กรีซ และจะช่วยให้กรีซสามารถเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ในเดือนมีนาคม รวมทั้งสถานภาพสมาชิกยูโรโซนของประเทศในอนาคต

 

-- สมาคมห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่นเปิดเผยวันนี้ว่า ยอดขายในห้างสรรสินค้าญี่ปุ่นในเดือนม.ค. ลดลง 1.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยคำนวณจากห้างสรรพสินค้าที่เปิดให้บริการไม่ต่ำกว่า 1 ปี (same-store basis) ขณะที่ยอดขายก่อนที่จะปรับตัวเลขจำนวนห้างสรรพสินค้าอยู่ที่ 5.526 แสนล้านเยน ในห้างสรรสินค้า 254 สาขาจากบริษัท 86 แห่ง สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปาริชาติ ชื่นชม/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th

[ginger 11,058]

http://bit.ly/xuhk75

 

http://bit.ly/yd3XCV

[ginger 11,058]

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 17:09:55 น.

กรุงเทพฯ--20 ก.พ.--PRdd

 

สภาวะตลาดวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,723.17 — 1,736.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG12 อยู่ที่ 25,350 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,360 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVG12 อยู่ที่ 1,041 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,041 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.21 น.ของวันที่ 20/02/12)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2555

ธนาคารกลางจีนประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ (RRR) โดยมีเป้าหมายที่จะผ่อนคลายภาวะตึงตัวด้านสินเชื่อระยะสั้น และรับมือกับวิกฤตการณ์ในตลาดต่างประเทศ โดยจะให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.เป็นต้นไปทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนประกาศลด RRR ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ลง 0.50% มาอยู่ที่ระดับ 20.5% และลด RRR สำหรับธนาคารขนาดเล็กและขนาดกลางลง 17% โดยคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ตลาดราว 4 แสนล้านหยวน หรือ 6.354 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ กระตุ้นให้ราคาทองคำให้มีการปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่กระทรวงน้ำมันอิหร่านประกาศหยุดส่งออกน้ำมันให้กับบริษัทในสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสทางอิหร่านไม่ได้ระบุว่า จะหยุดขายน้ำมันเป็นระยะเวลาเท่าใด ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นและเป็นแรงหนุนราคาทองคำอีกทาง แต่อย่างไรก็ตามคณะรัฐมนตรีกรีซให้การรับรองมาตรการรัดเข็มขัดเพิ่มเติมแลกกับความช่วยเหลือทางการเงินได้จุดไฟประท้วงรอบใหม่กับสหภาพแรงงานและชาวกรีซหลายพันคนออกมาร่วมตัวประท้วงก่อหวอดสมทบตามเมืองต่างๆทั่วยุโรป ซึ่งนักลงทุนควรติดตามประเด็นดังกล่าวเพราะหากเกิดความรุนแรงมากขึ้นจนอาจส่งผลกระทบต่อราคาทองคำให้กับมาผันผวนตามการเหวี่ยงตัวของเงินสกุลยูโร เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำมีการปรับตัวลงสู่แนวรับและมีการดีดตัวขึ้นซึ่งสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานที่เข้ามาหนุนราคาทองคำในช่วงที่ผ่านมา ส่งผลให้วายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำจะค่อยๆปรับตัวขึ้นไป โดยประเมินแนวต้านในบริเวณ 1,747 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาทองคำสามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวไปได้ วายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำมีแนวโน้มที่จะขึ้นทดสอบแนวต้านสำคัญในโซน 1,758- 1,763 ดอลลาร์ต่อออนซ์

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจี มีมุมมองว่าราคาทองคำยังสามารถที่จะขยับตัวขึ้นต่อไปได้แต่ในระยะสั้นอาจเห็นการย่อตัวลงได้บ้าง ซึ่งหากราคาทองคำดีดตัวขึ้นไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,747ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือไม่สามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ราคาทองคำอาจมีย่อตัวลงมา โดยประเมินแนวรับที่ 1,716 แต่หากสามารถยืนเหนือแนวรับได้ราคาก็พร้อมขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,758 หรือ 1,763 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนควรรอจังหวะการย่อตัวแล้วเข้าสะสมทองคำเช่นเดิม แต่ สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือต้องไม่ลืมถึงความเสี่ยงในการลงทุนที่ต้นเองสามารถรับได้

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,716 (24,970บาท) 1,711 (24,900บาท) 1,705 (24,810บาท)

แนวต้าน 1,747 (25,430บาท) 1,758 (25,590บาท) 1,763 (25,660บาท)

 

GOLD FUTURES (GFG12)

แนวรับ 1,716 (25,150บาท) 1,711 (25,070บาท) 1,705 (24,990บาท)

แนวต้าน 1,747 (25,600บาท) 1,758 (25,760บาท) 1,763 (25,830บาท)

 

SILVER FUTURES (SVG12)

แนวรับ 32.94 (1,024บาท) 32.69 (1,016บาท) 32.33 (1,005บาท)

แนวต้าน 33.91 (1,054บาท) 34.20 (1,063บาท) 34.75 (1,080บาท)

[ginger 11,058]

S&P คงเรตติ้งญี่ปุ่น AA- ภาพรวมเศรษฐกิจเป็นลบ

 

http://www.manager.c...D=9550000023048

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 20, 2012 โดย ginger