มือใหม่หัดวิเคราะห์

ย่าหยา · มีนาคม 5, 2012

http://www.youtube.com/watch?v=OzzOvCYQPa4&feature=plcp&context=C34b2ddbUDOEgsToPDskILHLNB3et9SQIaSaJ_7LFR

ย่าหยา · มีนาคม 5, 2012

อีก...สองวัน..ก็ถึงวันมาฆะบูชา...ซี่งตรงกับวันพุธที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๕ นะคะ....

ถูกแก้ไข มีนาคม 5, 2012 โดย ย่าหยา

ginger · มีนาคม 5, 2012

นายกฯออสเตรียแย้มกรีซอาจต้องการความช่วยเหลือเพิ่ม เหตุเงินช่วยรอบ 2 ไม่เพียงพอ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 5 มีนาคม 2555 11:58:59 น.

หนังสือพิมพ์ Oesterreich ของออสเตรียรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของนายเวอร์เนอร์ เฟย์มันน์ นายกรัฐมนตรีของออสเตรียว่า กรีซอาจต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม เนื่องจากมาตรการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบที่ 2 นั้น ยังไม่เพียงพอ

"ผมคงไม่เชื่อถ้าหากมีใครพูดว่า ความช่วยเหลือที่ให้กับกรีซนั้นเพียงพอแล้ว สถานการณ์ของกรีซนั้นจะขึ้นอยู่กับว่า รัฐบาลกรีซสามารถปฏิบัติตามมาตรการต่างๆตามที่สัญญาที่ให้ไว้ในการ เลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมาได้หรือไม่"

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีออสเตรียกล่าวว่า สหภาพยุโรป (อียู) ยังต้องสนับสนุนประเทศยูโรโซนต่อไป ไม่เพียงแต่กรีซเท่านั้น แต่ยังต้องสนับสนุนโปรตุเกส อิตาลี และสเปนด้วย

ในช่วงปลายเดือนก.พ.ที่ผ่านมา รัฐสภากรีซมีมติอนุมัติมาตรการลดการใช้จ่ายฉบับใหม่ เพื่อให้กรีซมีคุณสมบัติในการรับความช่วยเหลือด้านการเงินรอบที่ 2 ซึ่งจะช่วยให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้พันธบัตรที่จะครบ กำหนดไถ่ถอนในเดือนหน้า

มาตรการดังกล่าวประกอบไปด้วยการปรับลดเงินบำเน็จบำนาญลงประมาณ 10-20% รวมทั้งไม่มีการปรับขึ้นเงินเดือนและปรับลดเงินเดือนข้าราชการพล เรือน และปรับลดอัตราค่าแรงขั้นต่ำรายเดือนในภาคเอกชนลง 22% ซึ่งมาตรการเหล่านี้มีเป้าหมายที่จะช่วยให้รัฐบาลกรีซสามารถลดการขาด ดุลการคลัง และเพื่อให้กรีซมีคุณสมบัติในการรับความช่วยเหลือด้านการเงินรอบ ที่ 2

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th

ginger · มีนาคม 5, 2012

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 5 มีนาคม 2555 09:52:43 น.

กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส

Price Movement

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวันศุกร์ปิดที่ 1,709.80 USDต่อออนซ์ ลดลง 12.40 USDต่ออออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,705.40 — 1,725.40 USDต่อออนซ์ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาราคาขึ้นไปทำ high บริเวณ 1,790 USDต่อออนซ์ แต่มีแรงขายทำกำไรในวันพุธทำให้ราคาปรับลดลงแรงประมาณ 100 USDต่อออนซ์ แต่สามารถ rebound ขึ้นมาได้บริเวณ 1,725 USDต่อออนซ์ แต่หลังจากนั้น การแข็งค่าของเงิน USD การอ่อนค่าลงของราคาน้ำมัน และการที่นักลงทุนยังมีความกังวลต่อการแก้ปัญหาหนี้ของยุโรป เมื่อสเปนไม่ทำตามข้อตกลงด้านการคลังใหม่ของ EU โดยสเปนกำหนดเป้าหมายยอดขาดดุลปีนี้ต่ำกว่าที่ตกลงไว้กับ EU และค่าเงินยูโรยังถูกกดดันจากการร่วงลงของยอดค้าปลีกในเยอรมัน ส่งผลกดดันราคาทองคำให้มีราคาปิดลดลงในวันศุกร์ ในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,714 USDต่อออนซ์ คาดว่า กรอบความเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้อยู่ระหว่าง 1,600 — 1,800 USDต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามฝ่ายวิจัยยังคงมีมุมมองในเชิงบวกต่อราคาทองคำ ถ้าหากราคายังยืนเหนือบริเวณ 1,700 USDต่อออนซ์ได้ นักลงทุนที่เปิด Long ไว้ถือต่อ โดยในระยะ 1 สัปดาห์ มีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,746 USDต่อออนซ์ โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,680 ส่วนนักลงทุนระยะกลาง ( 3 เดือน) คาดว่าอยู่ในกรอบ 1,650 — 1,850 ที่เปิด Long ไว้บริเวณ 1,700 ถือต่อ โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,800/1,850 USDต่อออนซ์ โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,680 USDต่อออนซ์

Technical Analysis

ภาพกราฟในรายวันมีแนวต้านแรกบริเวณเส้น MA 34 วัน 1,725 และถัดไปบริเวณเส้น MA 9 วัน 1,746 ส่วนแนวรับมีที่บริเวณ 1,700/1,688 USDต่อออนซ์ คาดว่าในสัปดาห์นี้ราคามีโอกาสแกว่งตัว side way ในกรอบ 1,700 — 1,746 การยืนเหนือ 1,745 ในสัปดาห์นี้ได้ ราคาอาจไปต่อบริเวณ 1,750/1,760 ในสัปดาห์ถัดไป ส่วนการไม่สามารถยืนเหนือ 1,700 ได้ราคาอาจปรับลดลงมาที่บริเวณ 1,680/1,650 ภาพกราฟในราย 2 ช.ม. ราคามีแนวโน้มจะขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,720/1,740 แนะนำ นักลงทุนระยะสั้น ถือต่อ โดยมีจุด Stop loss บริเวณ 1,680

Key Point in Precious Market

- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำในช่วงนี้ได้แก่ ปัจจัยบวก การเข้าซื้อของนักลงทุนระยะกลาง — ยาว ที่จะมีความต้องการซื้อทองคำเพิ่มขึ้น เมื่อราคาทองคำปรับตัวลดลงแรง ( Buy the dip) ปัจจัยลบ เช่น ค่าเงิน USD มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น และการร่วงลงของค่าเงินยูโร ราคาน้ำมันอ่อนค่าลง เนื่องจากซาอุดิอารเบียปฏิเสธข่าวไฟไหม้ท่อส่งน้ำมัน

- ประเด็นที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันพฤหัสบดีที่ 8 มี.ค. การปรับลดลงของราคาน้ำมัน เมื่อจะมีการประชุมระหว่างสหรัฐและอิสราเอลในวันนี้กรณีอิหร่าน ยูโรโซนจะเพิ่มขนาดกองทุนช่วยเหลือถาวรของยุโรปก่อนสิ้นเดือนนี้หรือ ไม่ ในการประชุมวันที่ 30/31 มี.ค.

- การรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันจันทร์ ยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนม.ค.ดัชนีภาคบริการเดือนก.พ. วันพุธ การจ้างงานทั่วประเทศเดือนก.พ. ธนาคารกลางสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่สองสำหรับประสิทธิภาพการผลิต และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 4/2011 สต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ วันศุกร์ ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนม.ค. การจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ. สต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนม.ค.

- SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,293.68 ตัน

ราคาโลหะเงินปิดลดลง 1.14 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 34.53 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 34.38 — 35.56 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ขายโลหะเงินจำนวน 3.75 ตัน เหลือจำนวน 9,763.25ตัน ส่วนโลหะเงินมีแนวรับบริเวณ 34.3/33.7 แนวต้านบริเวณ 35.6/ 36.2 แนะนำนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 33.8 — 36.2

ถูกแก้ไข มีนาคม 5, 2012 โดย ginger

bbeem · มีนาคม 5, 2012

ขอบคุณค่ะ :ghost

ginger · มีนาคม 5, 2012

ราคาน้ำมัน WTI พุ่ง 59 เซนต์เช้านี้ หลังโอบามาใช้กำลังทหารยับยั้งอิหร่าน

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 5 มีนาคม 2555 10:52:13 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก พุ่งขึ้น 59 เซนต์ แตะที่ 107.92 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ (5 มี.ค.) หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐอาจจะใช้กำลังทหารในการยับยั้งอิหร่านจากการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และจากข่าวที่ว่า บริษัทเอนบริดจ์ ประกาศปิดท่อส่งน้ำมันในมลรัฐอิลลินอยส์

ประธานาธิบดีโอบามาแถลงในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการสาธารณะอ เมริกัน-อิสราเอลเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐไม่ลังเลที่จะใช้กำลังทางทหารกับอิหร่านหากจำเป็น แต่ก็ยังพอมีเวลาที่สหรัฐจะใช้วิธีการทางการทูตและการคว่ำบาตรต่อ อิหร่าน

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ได้รับแรงหนุนมากขึ้นจากข่าวที่ว่า บริษัทเอนบริดจ์จำเป็นต้องปิดท่อส่งน้ำมัน 14/64 และ 6A หลังจากมีผู้เสียชีวิต 2 คนและบาดเจ็บอีกหลายคน จากเหตุการณ์ปะทะ ซึ่งส่งผลให้ประกายไฟที่แท่นสูบน้ำมันซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเองนิว ลีน็อกซ์ มลรัฐอิลลินอยส์

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.t

ginger · มีนาคม 5, 2012

hi bbeem yahya

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 5 มีนาคม 2555 09:45:49 น.

กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

- ยูโรร่วงหลังสเปนลดขาดดุลงบประมาณได้น้อยกว่าที่อียูกำหนด

- สัปดาห์นี้รอติดตามตัวเลขจ้างงานสหรัฐ

- ยังต้องระวังแรงขายหากหลุดแนวรับ 1,690 ดอลลาร์

ราคาทองคำและโลหะเงินสัปดาห์ก่อนมาปรับตัวลงแรง โดยมีปัจจัยลบจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์และแรงขายทำกำไรภายหลัง ประธานธนาคารกลางสหรัฐไม่ได้ระบุถึงเรื่องการผ่อนคลายนโยบายการเงิน เพิ่มเติม ซึ่งเป็นประเด็นหลักที่ทำให้ราคาทองในช่วงต้นปีดีดตัวขึ้น จึงกลับมีแรงเทขายออกมามาก และกดดันให้ราคาทองในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวลงมากกว่า 3 % และยังมีแนวโน้มที่ราคาจะปรับฐานลงต่อในสัปดาห์นี้ การเก็งกำไรระยะสั้นจึงยังต้องระวังแรงขายที่อาจมีกลับออกมา แต่สำหรับการลงทุนในระยะยาวโดยเฉพาะการลงทุนผ่านทองคำแท่งนั้น ด้วยระดับราคาที่ปรับตัวลงมาพอสมควร ประกอบกับแนวโน้มการเคลื่อนไหวโดยรวมของราคาทองยังคงคาดว่าจะปรับตัว ขึ้นได้ต่อ จึงยังสามารถทยอยสะสมในช่วงที่ราคาปรับฐานลงได้ต่อไป โดยในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาทองจะแกว่งตัวในกรอบแคบลง เพื่อรอติดตามรายงานตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศของสหรัฐในวันพุธ และการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะรายงานพร้อมกับระดับอัตราการว่างงานใน คืนวันศุกร์ ซึ่งมีแนวโน้มว่าตัวเลขดังกล่าวจะออกมาดีขึ้นต่อเนื่องจากการรายงาน ครั้งก่อน โดยระดับอัตราการว่างงานนั้นเป็นตัวเลขที่ธนาคารกลางสหรัฐนำไปใช้ เพื่อประกอบการตัดสินใจดำเนินนโยบายการเงิน หากตัวเลขออกมาดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อน ก็จะเป็นประเด็นลบกดดันราคาทองผ่านการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ที่มีแนว โน้มแข็งค่าขึ้นทั้งจากการคาดการณ์โอกาสที่น้อยลงของการผ่อนคลายนโย บายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐ และประเด็นปัญหาเศรษฐกิจในยุโรปที่กลับมากดดันการลงทุน หลังประเทศสมาชิกในกลุ่มยุโรปบางประเทศไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลง เรื่องการขาดดุลงบประมาณได้ตามที่กลุ่มยุโรปกำหนด ดังนั้นการเคลื่อนไหวของราคาทองในสัปดาห์นี้จึงยังต้องระวังแรงขายที่ อาจมีกลับออกมา ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของทั้งราคาทองและโลหะเงินซึ่งราคาดีด ตัวกลับในช่วงปลายสัปดาห์ ยังต้องระวังว่าจะเป็นการดีดตัวทางเทคนิคซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงสั้นๆ หลังจากราคาปรับฐานลงแรง ก่อนที่ราคาจะปรับฐานลงต่อ แนวรับในระหว่างวันของราคาทองอยู่ที่บริเวณ 1,700-1,705 และ 1,685-1,690 ดอลลาร์ หากหลุดแนวรับหลังคาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมามากจนราคาทองปรับฐานลงสู่แนว รับบริเวณ 1,650 ดอลลาร์ ต่อไป ส่วนแนวต้านของวันยังอยู่ที่บริเวณ 1,725-1,730 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นแนวต้านเดิมของเมื่อวันศุกร์ ส่วนราคาโลหะเงินคงยังต้องระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีกลับออกมามาก หากราคาปรับฐานลงหลุดแนวรับบริเวณ 34 ดอลลาร์ ก่อนที่ราคาจะปรับฐานลงสู่แนวรับบริเวณ 33.50 ดอลลาร์ ต่อไป

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนเม.ย.55

Close chg. Support Resistance

25,030 -100 25,000/24,900 25,100/25,200

คาดว่าราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะปรับฐานลงต่อ หรือหากดีดตัวกลับคงยังไม่สามารถผ่านแนวต้านที่ 1,725-1,730 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ จึงสามารถรอเปิดสถานะขายที่บริเวณแนวรับดังกล่าว โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่ 1,740 ดอลลาร์

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนเม.ย.55

Close chg. Support Resistance

1,081 -2 1070/1060 1,090/1,100

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาโลหะเงินปรับฐานลงแรงกว่าราคาทองโดย เปรียบเทียบ ในระหว่างวันจึงมีแนวโน้มที่ราคาโลหะเงินจะดีดตัวกลับ แต่หากยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 35-35.20 ดอลลาร์ขึ้นไปได้ คาดว่าจะมีแรงขายกลับออกมา และกดดันให้ราคาปรับตัวลงต่อ การเก็งกำไรระยะสั้นที่บริเวณแนวต้านดังกล่าว โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 35.50 ดอลลาร์

ginger · มีนาคม 5, 2012

รายงานภาวะเศรษฐกิจญี่ปุ่น ประจำสัปดาห์วันที่ 20 กุมภาพันธ์ - 2 มีนาคม 2555

ข่าวเศรษฐกิจ กระทรวงการคลัง -- จันทร์ที่ 5 มีนาคม 2555 11:48:16 น.

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ ดังนี้

1. ดัชนีเศรษฐกิจที่สำคัญในเดือนกุมภาพันธ์ 2555

2. รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความเห็นชอบแนวทางการปรับปรุงระบบภาษีและระบบประกันสังคม

1. ดัชนีเศรษฐกิจที่สาคัญในเดือนมกราคม 2555

1.1 ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Output) เดือนมกราคม 2555 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0

กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรม (Ministry of Economic Trade and Industry)ได้เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Output) ของเดือนมกราคม 2555 เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว มาอยู่ที่ระดับ 95.3 (ปี 2548=100) ซึ่งเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเวลา 2 เดือน เนื่องจากแก้ไขปัญหาการขาดแคลนชิ้นส่วนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุ การณ์อุทกภัยในประเทศไทยแล้ว ทาให้มีการผลิตรถยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น

1.2 ดัชนีราคาผู้บริโภค (Core Consumer Price Index)

กระทรวงมหาดไทยและการสื่อสารได้เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคยกเว้นอาหารสด (CPI,

ปี 2548=100) ประจำเดือนมกราคม 2555 ลดลงร้อยละ 0.1 อยู่ที่ 99.3 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า ซึ่งลดลงติดต่อกันเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว เนื่องจากราคาโทรทัศน์จอแบน LCD ลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งราคาเครื่องใช้ไฟฟ้า ต่างๆ เช่น ตู้เย็นก็ลดลงด้วย

1.3 อัตราการว่างงาน (Unemployment Rate)

อัตราการว่างงานเดือนมกราคม 2555 อยู่ที่ร้อยละ 4.6 ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนที่แล้วที่มีอัตราว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 4.2 ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน

1.4 การใช้จ่ายบริโภคเดือนมกราคม 2555 ลดลงร้อยละ2.8

กระทรวงมหาดไทยและการสื่อสารได้เปิดเผยว่าการใช้จ่ายบริโภค ประจำเดือนมกราคม 2555 ลดลงร้อยละ 2.8 เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อนหน้า ซึ่งลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ 2 เดือน

2. รัฐบาลญี่ปุ่นให้ความเห็นชอบแนวทางการปรับปรุงระบบภาษีและระบบประกันสังคม

คณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นในการประชุมเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2555 ได้ให้ความเห็นชอบแนวทางการปรับปรุงระบบภาษีและระบบประกันสังคม ซึ่งรวมถึงการปรับขึ้นอัตราภาษีผู้บริโภคจากปัจจุบันที่อยู่ที่ร้อยละ 5 เป็นร้อยละ 8 ในเดือนสิงหาคม 2557 และไปเป็นร้อยละ 10 ในเดือนตุลาคม 2558 โดยรัฐบาลจะดาเนินการร่างกฏหมายในการปรับขึ้นภาษีให้แล้วเสร็จแล้ว นาเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาภายในเดือนมีนาคม 2555 แต่เนื่องจากพรรค Liberal Democratic Party: LDP และพรรค New Kimeito ที่เป็นพรรคฝ่ายค้านได้ปฎิเสธคำเชิญเข้าร่วมหารือ

ในการยกร่างกฎหมายในการปรับขึ้นภาษีของนาย Yoshihiko Noda นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น จึงทำให้เกิดความไม่แน่นอนว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะสามารถได้รับ ความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรได้เมื่อใด

นอกจากนี้ ในฝ่ายรัฐบาลเองนั้น พรรค People’s New Party ซี่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็ได้มีข้อสังเกตในการที่จะปรับขึ้นอัตราภาษี ผู้บริโภค และในพรรค Democratic Party of Japan: DPJ ที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาลเองก็ยังมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยอยู่ เช่น นาย Ichiro Ozawa อดีตหัวหน้าพรรค DPJ ทาให้รัฐบาลได้ให้รัฐมนตรีของพรรค DPJ ทำการจัดประชุมเพื่อชี้แจงแก่ประชาชนตามจังหวัดต่างๆ

สำนักงานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและการคลัง ณ กรุงโตเกียว

ที่มา: Macroeconomic Analysis Group: Fiscal Policy Office

Tel 02-273-9020 Ext 3665 : www.fpo.go.th

ginger · มีนาคม 5, 2012

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000028936

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9550000028905

luck · มีนาคม 5, 2012

สวัสดีค่ะ คุณginger news ย่าหยา พี่มดแดง พี่แสงแดด fung goldtoy กระต่ายทอง กบจ๊า และทุกๆคน

ขอบคุณมากค่ะ

ginger · มีนาคม 5, 2012

สวัสดีค่ะ คุณginger news ย่าหยา พี่มดแดง พี่แสงแดด fung goldtoy กระต่ายทอง กบจ๊า และทุกๆคน

ขอบคุณมากค่ะ

เจาะน้ำมันกลางกรุงพรุ่งนี้ - “คำนูณ” หวั่นสารเคมีปนเปื้อนน้ำประปา

http://www.manager.c...D=9550000029011

ธสน. แถลงผลการดำเนินงานปี 2554

ข่าวเศรษฐกิจ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า -- จันทร์ที่ 5 มีนาคม 2555 15:13:45 น.

นายคนิสร์ สุคนธมาน กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) แถลงผลการดำเนินงานปี 2554 ว่า ธสน. มีกำไรสุทธิ 605 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 317.7 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 145 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ดอกเบี้ยรับที่สูงขึ้น จากยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.9 จากปีที่ผ่านมา โดย ณ สิ้นปี 2554 มียอดคงค้างเท่ากับ 65,449 ล้านบาท ส่วนใหญ่เกิดจากการขยายตัวของสินเชื่อระยะยาวทั้งในประเทศและต่าง ประเทศ รวมทั้งในปีที่ผ่านมาธนาคารมีค่าใช้จ่ายที่ลดลงทั้งในด้านของค่าใช้ จ่ายดำเนินงานทั่วไป และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยอันเกิดจากการบริหารจัดการด้านต้นทุนที่ดีขึ้น

นอกจากนี้ในด้านคุณภาพสินทรัพย์และความมั่นคงทางการเงิน ในปี 2554 หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Non-performing Loans: NPLs) ณ สิ้นปีเท่ากับ 3,340 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5.10 ของยอดเงินให้สินเชื่อ ลดลงจาก ณ สิ้นปี 2553 ที่มีอัตราส่วนเท่ากับร้อยละ 6.27 ในขณะที่มีอัตราส่วนสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 68.8 ในปี 2553 เป็นร้อยละ 89.9

กรรมการผู้จัดการ ธสน. เปิดเผยต่อไปว่า ในปี 2554 ธสน. ได้อนุมัติวงเงินให้แก่ผู้ประกอบการทั้งสิ้น 41,331 ล้านบาท หรือร้อยละ 120.15 ของเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ทั้งปีที่ 34,400 ล้านบาท โดยเป็นวงเงินสินเชื่อจำนวน 36,855 ล้านบาท ซึ่งในจำนวนนี้เป็นวงเงินอนุมัติให้แก่ผู้ส่งออก ผู้นำเข้า และนักลงทุนไทยในประเทศเพื่อพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของภาค การส่งออกและภาคการผลิตของประเทศจำนวน 29,049 ล้านบาท และอนุมัติวงเงินให้แก่นักลงทุนไทยที่ไปลงทุนในต่างประเทศ 7,806 ล้านบาท รวมทั้งในด้านส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในปี 2554 มียอดปริมาณธุรกิจสะสมสินเชื่อระยะสั้นเพื่อเตรียมการส่งออกจำนวน 174,783 ล้านบาท

สำหรับการให้บริการประกันการส่งออก ในปี 2554 ธสน. ได้อนุมัติวงเงินรับประกันให้แก่ผู้ส่งออกจำนวน 4,477 ล้านบาท เพื่อช่วยป้องกันความเสี่ยงให้แก่ผู้ส่งออกไทยจากการไม่ได้รับ ชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศซึ่งอาจเกิดจากความไม่แน่ นอนของเศรษฐกิจโลก โดยจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ส่งออกในการขยายการส่งออกไปยัง ตลาดเดิมและตลาดใหม่มากขึ้น โดยในปี 2554 ธสน. มียอดแจ้งรับประกันการส่งออกจำนวน 134,692 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23.92 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2553 และยอดภาระผูกพันการรับประกันการส่งออก ณ สิ้นปี 2554 เท่ากับ 35,916 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.61 จาก ณ สิ้นปี 2553

ทั้งนี้ การดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลในการสนับสนุนผู้ส่งออกขนาดกลางและขนาด ย่อม (SMEs) ในปี 2554 ธสน. ได้อนุมัติวงเงินให้แก่ผู้ส่งออก SMEs เพิ่มขึ้นจำนวน 13,498 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 36.63 ของวงเงินสินเชื่อทั้งหมด 36,855 ล้านบาท โดยมีปริมาณธุรกิจสะสมทั้งปีคิดเป็นประมาณร้อยละ 55 ของปริมาณธุรกิจสะสมทั้งหมดของธนาคารและจำนวนลูกค้าที่เป็นผู้ส่งออก SMEs มีสัดส่วนสูงถึงประมาณร้อยละ 80 ของลูกค้าทั้งหมดของธนาคาร

นายคนิสร์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2555 ธสน. ตั้งเป้าหมายในการขยายตัวของสินเชื่อประมาณร้อยละ 5 จากยอดคงค้างเงินให้สินเชื่อในปี 2554 โดยจะยังคงรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรให้ใกล้เคียงกับปีที่ ผ่านมา สำหรับการดำเนินงานในปี 2555 ธสน. จะดำเนินงานเชิงนโยบายในการสนับสนุน SMEs ด้านสินเชื่อและรับประกันการส่งออกมากขึ้น ซึ่งจะมุ่งเน้นสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพ SMEs ให้เป็นผู้ส่งออกเพิ่มขึ้นด้วยการจัดอบรมให้ความรู้ความเข้าใจใน การทำธุรกิจส่งออก รวมทั้งส่งเสริมผู้ส่งออก SMEs เดิมให้เพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดการค้าระหว่างประเทศ

--ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย-

ถูกแก้ไข มีนาคม 5, 2012 โดย ginger

ย่าหยา · มีนาคม 5, 2012

ginger · มีนาคม 5, 2012

S&P รายงาน: ภาพความเสียหายที่เริ่มชัดเจนขึ้นจากอุทกภัยที่ผ่านมาส่งผลลบอย่างรุนแรงต่อภาคธุรกิจประกันภัยของไทย

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 5 มีนาคม 2555 14:48:01 น.

กรุงเทพฯ--5 มี.ค.--จิ๊กซอ คอมมิวนิเคชั่น

ตามรายงานของสถาบันจัดอันดับ S&P เปิดเผยว่า มหาอุทกภัยในประเทศไทยเมื่อปีกลายที่ผ่านมาอาจส่งผลร้ายต่อบริษัทประกัน ภัยในเอเซียมากกว่าที่ได้มีการคาดการณ์กันไว้ก่อนหน้า ทั้งนี้ ตามรายงานของ S&P ในหัวข้อ “อุทกภัยไทยทำให้ผลประกอบการและเงินทุนของบริษัทประกันภัยในเอเซีย ซบเซา” S&P ได้ประเมินความเสียหายเบื้องต้นในปัจจุบันสำหรับบริษัทประกันภัยไว้ ที่ประมาณ US$16,000 ล้าน - US$18,000 ล้าน อีกทั้ง S&P ยังได้รายงานเพิ่มเติมว่า ความสูญเสียที่สูงกว่าที่ได้มีการประเมินไว้อาจนำไปสู่การจัดอันดับ ที่เป็นผลลบต่อบริษัทประกันภัยในภูมิภาค

การประกาศผลประกอบการในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาของบริษัทประกันภัย และบริษัทรับช่วงต่อการประกันภัย ให้ภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน การประเมินความเสียหายในพื้นที่ประสบภัยจากทีมปรับประเมินความเสีย หายทำใหับริษัทประกันภัยบางรายปรับประมาณการความเสียหายสุทธิเพิ่ม ขึ้น โดยในบางบริษัทปรับเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าจากเดิม

“ในทัศนะของเรายังคงมองธุรกิจประกันภัยในประเทศไทยติดลบ ทั้งนี้จากการประเมินผลประกอบการที่ตกต่ำลงรวมทั้งฐานเงินทุนที่อาจ อ่อนแอลงในกลุ่มบริษัทประกันภัยที่ได้รับผลกระทบ” คอนนี่ หว่อง นักวิเคราะห์เครดิตของ S&P กล่าว “บางบริษัทประกันภัยอาจได้รับอานิสงค์จากบริษัทรับช่วงต่อการประกันภัย คุ้มครองความเสียหายให้ในท้ายที่สุดหรือมีแหล่งเงินทุนจากภายนอก แต่อย่างไรก็ตาม โดยรวมแล้วเราคาดว่าภาคธุรกิจประกันภัยของไทยจะรายงานการขาดทุนจาก ความเสียหายที่เกิดขึ้น”

ตามรายงานกล่าวว่าผลขาดทุนของบริษัทประกันภัยในธุรกิจประกันภัยไทยสูง มากจนทำให้ความเห็นก่อนหน้าของ S&P ซึ่งเคยมองธุรกิจประกันภัยไทยว่าห่างไกลจากคำว่า วิบัติภัย เปลี่ยนไป“เราคาดว่าข้อตกลงและเงื่อนไขสำหรับการรับช่วงต่อการ ประกันวิบัติภัยจะยังคงความรัดกุมและศักยภาพในการรับช่วงต่อการประกัน วิบัติภัยจะยังคงตึงตัวซึ่งจะมีผลทำให้ราคาของการรับช่วงต่อการประกัน วิบัติภัยถีบตัวสูงขึ้นอย่างมาก อย่างไรก็ตามเราคาดว่าราคาสำหรับการรับประกันภัยที่ไม่เกี่ยวข้องกับ การประกันวิบัติภัยจะยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถแข่งขันได้ ทั้งนี้เพื่อชดเชยกับแน้วโน้มของราคาที่ถีบตัวสูงขึ้นโดยรวม โดยเฉพาะในตลาดของประเทศไทย” มิส หว่องกล่าว S&P ประมาณการตัวเลขขาดทุนสะสมเบื้องต้นของ 3 บริษัทประกันภัยยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นไว้ที่ ?920,000 ล้าน (US$11,900 ล้าน) และขาดทุนสุทธิที่ ?447,000 ล้าน (US$5,800 ล้าน) 3 บริษัทยักษ์ใหญ่ได้แก่ Tokio Marine Group, MS&AD Insurance Group และ NKSJ Group เราเชื่อว่าความสูญเสียจากอุทกภัยก่อให้เกิดความเสียหายมากกว่า 2 ใน 3 ของความเสียหายทั้งหมดเพราะว่าความเสียหายหลักๆมาจากนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นแหล่งลงทุนใหญ่ของญี่ปุ่น ดังนั้น บริษัทประกันภัยญี่ปุ่นจึงถือว่าบอบช้ำอย่างหนักแม้ว่าจะมีฐานการเงิน ที่แข็งแกร่งก็ตามที

รายงานยังให้ข้อสังเกตว่าบริษัทเล็กๆในภูมิภาคที่รับช่วงต่อการ ประกันภัยและบริษัทประกันภัยท้องถิ่นจะบอบช้ำที่สุดหากความเสียหายใน ขั้นสุดท้ายสูงกว่าฐานการเงินของบริษัท ความเสียหายจากบริษัทประกันภัยท้องถิ่นและบริษัทรับช่วงต่อการประกันภัย ในภูมิภาคอาจพุ่งทะยานขึ้นเมื่อความคุ้มครองจากบริษัทต้นสังกัดเกิดอ่อน แรงลง อนึ่ง ขณะที่บริษัทประกันภัยและบริษัทที่รับช่วงต่อการประกันภัยในภูมิภาคต้อง แบกรับภาระขาดทุนอันสืบเนื่องมาจากอุทกภัยเกือบทั้งหมด บริษัทข้ามชาติที่รับช่วงต่อการประกันภัยก็ไม่อาจหลีกพ้นชะตาเดียวกัน ไปได้เนื่องจากการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตลาดในภูมิภาคนี้ อย่างไรก็ดี ฐานการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัทข้ามชาติเหล่านี้และการที่มีบริษัท รับช่วงต่อการประกันภัยหรือการจ่ายสินไหมทดแทนคืนให้จะช่วยให้บริษัท ข้ามชาติเหล่านี้สามารถแบกรับภาระขาดทุนได้

ย่าหยา · มีนาคม 5, 2012

put42 · มีนาคม 5, 2012

แดดบ่ายนี้ร้อนจริงๆคะ ทั้งหุ้นทั้งทองก็ร้อนแดงไม่แพ้กันเลย :Announce

เข้าสู่ระบบ

มือใหม่หัดวิเคราะห์

โพสต์แนะนำ

ย่าหยา 395

แชร์โพสต์นี้

ลิงก์ไปโพสต์

แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ย่าหยา 395

แชร์โพสต์นี้

ลิงก์ไปโพสต์

แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ginger 11,058

แชร์โพสต์นี้

ลิงก์ไปโพสต์

แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ginger 11,058

แชร์โพสต์นี้

ลิงก์ไปโพสต์

แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

bbeem 71

แชร์โพสต์นี้

ลิงก์ไปโพสต์

แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ginger 11,058

แชร์โพสต์นี้

ลิงก์ไปโพสต์

แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ginger 11,058

แชร์โพสต์นี้

ลิงก์ไปโพสต์

แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ginger 11,058

แชร์โพสต์นี้

ลิงก์ไปโพสต์

แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ginger 11,058

แชร์โพสต์นี้

ลิงก์ไปโพสต์

แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

luck 512

แชร์โพสต์นี้

ลิงก์ไปโพสต์

แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ginger 11,058

แชร์โพสต์นี้

ลิงก์ไปโพสต์

แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ย่าหยา 395

แชร์โพสต์นี้

ลิงก์ไปโพสต์

แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ginger 11,058

แชร์โพสต์นี้

ลิงก์ไปโพสต์

แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ย่าหยา 395

แชร์โพสต์นี้

ลิงก์ไปโพสต์

แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

put42 92

แชร์โพสต์นี้

ลิงก์ไปโพสต์

แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้ 0 สมาชิก

สมาชิก