ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
Nexttonothing

โอกาส "เงิน" (จริงๆ) : ระยะประชิด

โพสต์แนะนำ

คุณเม่าน้อย

 

ผมซื้อโลหะเงินตอนมันสูงสุดๆครับ ตอนนี้ไม่หยิบราคามาเปิดดูเลย ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ

 

สิ่งที่ผมคิดได้(และเชื่อ) ในตอนนี้ก็คือ ในระยะยาว การเก็บโลหะมีค่าไว้เพื่อเป็นการรักษากำลังซื้อ

เป็นสิ่งที่ดี จะเอา(โลหะเงิน และโลหะมีค่า)มาเก็งกำไรก็ได้เหมือนกัน แต่จะต้องเข้า และออกให้ถูกเวลา

ไม่งั้นเราก็จะต้องมายืนกันบนยอดดอยแบบนี้

:_cd

 

เอาใจช่วยครับ อยู่บนดอยกันหลายๆคนอบอุ่นดี

 

 

ตอนนี้ดี้ด้าลัลลามาก ตั้งเป้ารอขายแถวๆ2000$กันแล้ว

 

ผมรอขาย ๘๐๐๐ ยังลั้ลลาไม่ออกครับ

:_09

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณเม่าน้อย

 

ผมซื้อโลหะเงินตอนมันสูงสุดๆครับ ตอนนี้ไม่หยิบราคามาเปิดดูเลย ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ

 

สิ่งที่ผมคิดได้(และเชื่อ) ในตอนนี้ก็คือ ในระยะยาว การเก็บโลหะมีค่าไว้เพื่อเป็นการรักษากำลังซื้อ

เป็นสิ่งที่ดี จะเอา(โลหะเงิน และโลหะมีค่า)มาเก็งกำไรก็ได้เหมือนกัน แต่จะต้องเข้า และออกให้ถูกเวลา

ไม่งั้นเราก็จะต้องมายืนกันบนยอดดอยแบบนี้

:_cd

 

เอาใจช่วยครับ อยู่บนดอยกันหลายๆคนอบอุ่นดี

 

 

 

 

ผมรอขาย ๘๐๐๐ ยังลั้ลลาไม่ออกครับ

:_09

คุณเม่าน้อย

 

ผมซื้อโลหะเงินตอนมันสูงสุดๆครับ ตอนนี้ไม่หยิบราคามาเปิดดูเลย ปล่อยมันไว้อย่างนั้นแหละ

 

สิ่งที่ผมคิดได้(และเชื่อ) ในตอนนี้ก็คือ ในระยะยาว การเก็บโลหะมีค่าไว้เพื่อเป็นการรักษากำลังซื้อ

เป็นสิ่งที่ดี จะเอา(โลหะเงิน และโลหะมีค่า)มาเก็งกำไรก็ได้เหมือนกัน แต่จะต้องเข้า และออกให้ถูกเวลา

ไม่งั้นเราก็จะต้องมายืนกันบนยอดดอยแบบนี้

:_cd

 

เอาใจช่วยครับ อยู่บนดอยกันหลายๆคนอบอุ่นดี

 

 

 

 

ผมรอขาย ๘๐๐๐ ยังลั้ลลาไม่ออกครับ

:_09

 

เช่นกันครับ ผมก็ซื้อตอนราคาสูงสุดเหมือนกัน ถือมาจะครบสองปีแล้ว แต่ทำใจได้ไม่คิดมากแล้ว เพราะคิดยังไงถ้าขายไปก็ขาดทุนเยอะอยู่ดี รอสักวันมันต้องขึ้นกลับมาแน่ ๆๆ

 

ช่วยกันเป็นกำลังใจให้กันและกันดีกว่า คิดซะว่ากรรมเรายังมีอยู่เยอะ กรรมน้อยลงเมื่อไรหรือบุญมีมากขึ้นเมื่อไร เราคงจะหลุดพ้นมันไปได้เอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ระหว่างนั่งรอราคาโลหะเงินขึ้น ^_^

 

ตอนนี้หลายๆเวบที่เชียร์โลหะเงิน กำลังพูดถึงหนังที่พึ่งเข้าโรงที่อเมริกามาได้อาทิตย์กว่าๆ ที่ชื่อว่า "ลูปเปอร์"

 

แนวคิดของเรื่องนี้ก็คือ ในปี ๒๐๗๔ มีเครื่องมือที่ทำให้ย้อนเวลาไปในอดีตได้ แต่ก็ได้ถูกประกาศให้เป็นสิ่งผิด

กฏหมายไปแทบจะทันทีที่มีคนคิดเครื่องมือนั้นขึ้นมา ในปีเดียวกัน ก็มีเทคโนโลยีติดตามคนที่ใช้งานได้ดีมาก

จนกระทั่งแก๊งมาเฟียไม่รู้จะเอาศพไปทิ้งที่ไหน

 

สิ่งที่มาเฟียหัวใสพวกนี้คิดได้ก็คือ ส่งคนของพวกเขาย้อนไปในอดีต และตกลงกันว่า ถ้ามาเฟียส่งใครย้อนกลับไป

ก็ให้ฆ่าคนๆนั้นทิ้งซะ โดยที่เหยื่อคนนั้นจะมี เงินแท่ง ๒ แท่ง ผูกไว้กับตัว เพื่อเป็นค่าจ้างในการฆ่า

เพราะเงินจากอนาคต ไม่สามารถเอามาใช้ในอดีตได้

 

* * * * * * * * *

 

มาร์ติน อาร์มสตรอง เคยบอกไว้ว่า เหตุผลที่ธนบัตรของ อเมริกา เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในโลกก็คือ

อเมริกา ไม่เคยยกเลิกเงินกระดาษของตัวเอง ซึ่งเงินสกุลอื่นๆในโลก มีการเปลี่ยนแปลง / ยกเลิก ธนบัตรกันทั้งนั้น

(เหตุผลใหญ่ๆที่หลายๆประเทศมีการยกเลิกธนบัตรก็คือ เป็นการบังคับให้คนที่ทำธุรกิจผิดกฏหมาย หรือหนีภาษี

ที่เก็บเงินไว้ในตู้เซฟ ต้องแสดงตัว และเอาเงินออกมาแลกเป็นธนบัตรใหม่)

 

กระทั่งชาวอังกฤษที่อาศัยในไทย ยังเคยเปิดกระเป๋าตัง โชว์ธนบัตรสหรัฐที่ซ่อนไว้

เขาบอกว่า เวลาเดินทาง เงินดอลล่าร์ดีที่สุด เพราะที่ไหนๆก็รับ

 

* * * * * * * * *

 

ได้อ่าน/ฟัง เรื่องย่อของหนังเรื่องนี้ แล้ว ทำให้นึกถึงจินตนาการตอนสมัยเด็กๆ ที่ติดโดราเอมอนงอมแงม

ว่าถ้าเรามีเครื่องย้อนเวลา จะเอาเงินค่าขนมที่มี ไปซื้อขนมในอดีตขนกลับมา เพราะใครๆก็บอกว่า

สมัยก่อนของถูก เดี๋ยวนี้ของแพง เงินเท่าเดิม แต่ได้ขนมเยอะขึ้น กำไรเห็นๆ

 

แต่พอเริ่มได้เห็นเงินสมัยก่อน ถึงได้รู้ว่าแผนซื้อขนมมีจุดอ่อน เพราะเงินสมัยนั้น กับเงินสมัยนี้

หน้าตามันไม่เหมือนกัน ขนไป ก็ซื้อของกลับมาไม่ได้

 

ความคิดนี้ยังผ่านมาทักทายอยู่ตลอดจนโต ว่าจะแก้โจทย์นี้ได้อย่างไร จนถึงวันหนึ่ง

คิดได้ว่า ก็ซื้อทองแท่งกลับไปขายในอดีตสิ .... แต่น่าเสียดายที่ตอนนั้นไม่ได้คิดต่อ

จนเห็นภาพว่า ทำไม ทองคำถึงสามารถนำความมั่งคั่งส่งไปในอดีตได้ แต่เงินที่มีในมือนั้น ไม่สามารถใช้ได้

 

* * * * * * * * *

 

เท่าที่ฟังจากหลายๆคนพูดถึงหนังเรื่องนี้

ถ้าดูเอาสนุกก็น่าจะใช้ได้ เพราะไม่ใช่หนังบี มีดาราใหญ่ๆมาเล่น

 

ดูแบบจับผิด พลอตเรื่องก็มีรูโหว่หลายรู ก็อย่างว่า เรื่องย้อนเวลาหาอดีต คิดให้ครอบคลุมจริงๆคงยาก

 

แต่ถ้ามองในเรื่องจินตนาการของผู้แต่งเกี่ยวกับเรื่องการเงิน และภูมิศาสตร์การเมืองในอนาคตแล้ว

ส่วนตัวผมมองว่า มันน่าจะเป็นจุดแข็งของหนังเรื่องนี้ ที่จะช่วยเตือนคนดูได้

 

:bye

 

 

ที่มา :

 

http://www.youtube.com/watch?v=xS_yufV_3Rg

https://en.wikipedia.org/wiki/Looper_%28film%29

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ระยะกลาง-ยาว เงินน่าจะดีกว่าทองอีกมากนะครับ

 

เส้นชัยมันไม่ได้อยู่แค่ร้อยเมตรเท่านั้น เราวางแผนการลงทุนอย่างไรนั้นสำคัญมากกว่าครับคุณเม่าน้อย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เล่นเงินถ้าจับจังหวะดีกำไรเยอะ ครับ

 

ผมว่าตัวนี้เป็นตัวอย่างข้อคิดที่ดี สำหรับการลงทุนเงินเลยครับ

http://www.maoinvestor.com/2011/01/vi.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บางส่วนจากที่ผมลงในเฟซผมครับ

 

จากสถิติ ของสภาทองคาโลก (World Gold Council: WGC) พบว่าอินเดียเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคทองคาสูงที่สุดในโลก โดย ในปี 2553 อินเดียมีความต้องการบริโภคทองคาคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของความต้องการบริโภคทองคารวมทั้งโลก คิดเป็นน้าหนักรวม 963.1 ตัน แบ่งเป็นเครื่องประดับทองคา 745.7 ตัน และทองคาล้วนๆ (ทองคาแท่ง, เหรียญทองคา ฯลฯ) อีก 217.4 ตัน นอกจากทองคาแล้วอินเดียยังเป็นตลาดที่มีความต้องการบริโภคเพชรมากที่สุดเป็น อันดับ 6 ของโลก สาหรับเงิน (Silver) อินเดียมีความต้องการบริโภคเงินปีละ 4,000 ตัน ทั้งนี้ สาเหตุที่อินเดียมีความต้องการบริโภคทองคา โลหะมีค่าอื่นๆ เพชรและอัญมณีอื่นๆ จานวนมหาศาลเป็นเพราะอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของอินเดียเติบโตต่อ เนื่องมาโดยตลอด โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลัก คือ วิถีชีวิตของผู้บริโภคชาวอินเดีย (Lifestyle) ที่เปลี่ยนไป จานวนคนรวยและคนชั้นสูงที่เพิ่มขึ้น จานวนสตรีทางานและมีรายได้ของตนเองที่เพิ่มขึ้น และรสนิยมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคที่เริ่มเลือกซื้อสินค้าเครื่องประดับที่ มียี่ห้อ

การ ประกาศปรับอัตราอากรขาเข้าทองคาและเงินดังกล่าวของรัฐบาลอินเดียในครั้งนี้ แม้ว่ารัฐบาลจะสามารถสกัดการนาเข้าโลหะมีค่าทั้งสองชนิดเพื่อลดการไหลออกของ เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ ได้ แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องระลึกถึงด้วยก็คือ การนาเข้าทองคาและเงินของผู้นาเข้า นอกจากจะนาเข้ามาเพื่อบริโภคภายในประเทศแล้ว ยังมีการนาเข้าโดยอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของอินเดียเพื่อนาโลหะมี ค่าดังกล่าวมาประกอบในการผลิตและแปรรูปเป็นเครื่องประดับเพื่อการส่งออก (Re-Export) โดยการส่งออกอัญมณีและเครื่องประดับของอินเดียได้เติบโตอย่างก้าวกระโดดจาก มูลค่าการส่งออก 29 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงปี 2552-2553 เพิ่มขึ้นเป็น 43 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ในช่วงปี 2553-2554 หรือมีอัตราการเจริญเติบโตถึงร้อยละ 47 ทั้งนี้ อุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของอินเดียเป็นอุตสาหกรรมที่มีความสาคัญ อย่างมากในการนารายได้เงินตราต่างประเทศเข้าประเทศโดยมีสัดส่วนถึงร้อยละ 16.67 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าของอินเดีย การประกาศปรับอัตราอากรขาเข้าทองคาและเงินดังกล่าวของรัฐบาลอินเดียก็ย่อมจะ ทาให้ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของเครื่องประดับอินเดียในตลาดโลกลด ลง ซี่งรัฐบาลอินเดียก็ต้องวิเคราะห์ถึงผลได้-ผลเสียของนโยบายดังกล่าวด้วย

 

จะลงทุนกับโลหะเงินต้องทาใจว่า มีขาใหญ่คอยดักทุบอยู่นะ

โพสต์ 25 กุมภาพันธ์ 2012 - 09:25

ขาทุบดัมพ์ขายเงิน 102.5ล้านออนซ์ใน 7 นาที แต่ทุบราคาไม่สาเร็จ

Cartel Dumps 102.5 Million Ounces of Paper Silver in 7 Minutes, Yet RAID FAILS!

--------------------------------------------------------------------------------------------

555 ขายสัญญากระดาษของโลหะเงิน102.5ล้านออนซ์ภายใน7นาที คิดเป็นโลหะเงินจริงตามสัญญาทั้งหมด 3,187.75ตันน้อยกว่าจีนนาเข้าโลหะเงินตลอดปี2010ประมาณ400ตันเอง

ปี2011ผลผลิตโละเงินทั่วโลกประมาณ800ล้านออนซ์ 7นาทีขายโลหะเงินในปริมาณ1/8ของกาลังการผลิตทั้งโลกใน1ปี

เมื่อครบสัญญาและไม่รีบชิงปิดสัญญาก่อนจะมีของจริงส่งมอบมั้ย ถ้ารีบชิงปิดสัญญาจานวนมากละก็ราคาพุ่งแน่ ผมเคยอ่านในพันธ์ทิพย์คุณevanderบอกว่า เขาซื้อขาขึ้นเพลินไปหน่อยเลยปริมาณที่กาหนด ดังนั้นเมื่อครบสัญญาต้องรับเป็นของอย่างเดียวชาระผลต่างราคาไม่ได้

ขาย102.5ล้านออนซ์เป็นสัญญาของเดือนไหนบ้าง ถ้าต้องส่งมอบของจริงแค่ครึ่งเดียวก็แย่แล้ว สัญญาก่อนหน้านี้ที่shortไว้แล้วก็น่าจะเยอะนะ

------------------------------------------------------------------------------------------------------

ดูภาพที่คุณMOR LEKจะเห็นว่ำเขำให้ยืมโลหะเงินไปทุบรำคำตลำดโลกโดยให้ยืมแล้วยังแถมค่ำทุบให้คนยืมนิดหน่อย

Silver Lease Rates Plunging to 1 Year Lows

 

http://silverdoctors...-to-1-year.html

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

โพสต์ 05 มีนำคม 2012 - 05:09

ปริมำณทองคำและโลหะเงินที่ขึ้นมำแล้ว(อยู่บนโลก) ที่ยังไม่ได้ขุด ปริมำณที่ถือครองโดยธนำคำรกลำงทั่วโลก หลำยครั้งทำให้ผู้อ่ำนสับสน ผมเลยไล่หำข้อมูลจำกหลำยที่เพื่อสรุปให้ชัดเจนขึ้น ผิดพลำดอย่ำงไรหรือข้อมูลไม่ตรงกับข้อมูลที่หลำยท่ำนมี ช่วยให้ข้อมูลแย้งด้วยนะครับ เพื่อเพื่อนๆจะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง ตัวเลขที่ผมหำมำบำงส่วนไม่ระบุปีพ.ศ. ดังนั้นข้อมูลจะคลำดเคลื่อนบ้ำงในตัวเลขแต่น่ำจะทำให้มองภำพได้ชัดขึ้น

ตั้งแต่เริ่มแรกโลกเรำมีปริมำณทองคำมำกกว่ำ โลหะเงิน ปริมำณแร่ทีผลิตได้จะได้โลหะเงินประมำณ10-16เท่ำต่อทองคำ1เท่ำ ปัจจุบันผลิตแร่เงินได้ประมำณ10เท่ำต่อทองคำ1เท่ำ ทองคำที่ขุดขึ้นมำอยู่บนโลกไม่ค่อยสูญหำยไปไหนแต่โลหะเงินโดนกดรำคำจนถูกมำก ทำให้ขั้นตอนในกำรรีไซเคิลกลับมำใช้ใหม่ไม่คุ้มค่ำทำงเศรษฐกิจ สุดท้ำยโลหะเงินจึงสูญหำยเป็นขยะไป

---ในปี1950โลหะเงินที่อยู่บนโลกมี ถึง1หมื่นล้ำนออนซ์

----จำกกำรประมำณกำรณ์ แร่เงินที่ยังไม่ขุดเหลืออยู่ประมำณ5.1แสนตัน(ไม่รู้ว่ำตัวเลขนี้สำรวจปีไหน ) ปริมำณกำรบริโภคของโลหะเงินต่อปีประมำณ2.5หมื่นตัน แร่ทองคำที่ยังไม่ขุดผมยังไม่เจอข้อมูลครับ

----ปริมำณทองคำที่ขุดขึ้นมำทั้งหมดถึงปีพ. ศ.2515มีประมำณ 3พันล้ำนออนซ์(9.3หมื่นตัน) แต่หลังจำกนั้นเทคโนโลยีที่ทันสมัยขึ้นทำให้ปริมำณกำรขุดขึ้นมำเพิ่มขึ้น อย่ำงมำกมำย

--ปี1990ปีเดียวขุดทองคำได้1.74พันตัน

--ปีค.ศ.2010 จีนนำเข้ำโลหะเงิน3.58พันตัน

--ปี2011อินเดียนำเข้ำโลหะเงิน4.8พันตัน

---ถึงปัจจุบันมีโลหะเงินอยู่บนโลกประมำณแค่1พันล้ำนออนซ์(3.1หมื่นตัน) ทองคำที่อยู่บนโลกประมำณ7พันล้ำนออนซ์(ประมำณ2.2แสนตัน) ทองคำอยู่ในควำมครอบครองของธนำคำรกลำงทั่วโลกประมำณ3หมื่นตัน

------------------------------------------------------------------------------------------

ปี2005 จีนส่งออกโลหะเงิน 2,934ตัน

ปี2006 จีนส่งออกโลหะเงิน 1,075ตัน

ปี2007 จีนนาเข้าโลหะเงิน 1,118ตัน

ปี2008 จีนนาเข้าโลหะเงิน 1,964ตัน

ปี2009 จีนนาเข้าโลหะเงิน 876ตัน

ปี2010 จีนนาเข้าโลหะเงิน 3,475ตัน

http://seekingalpha....on-for-the-west

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------

หานาเข้าโลหะเงินของจีนในปี2011 ยังไม่ได้ แต่รู้สึกว่าปลายปี2011จีนนาเข้าโลหะเงินลดลงพอควร จีนนาเข้าลดลงน่าจะมีส่วนทาให้ราคาโลหะเงินราคาไม่ขึ้น ส่วนอินเดียปี2011นาเข้าเพิ่มขึ้น(เป็น4800ตัน) มีการคาดการณ์ว่าปี2012อินเดียจะนาเข้าทะลุ5,000ตันแต่สุดท้ายพลิกล็อค ต้นปี2012รัฐบาลจีนเก็บภาษีนาเข้าทองคาและโลหะเงินเพิมเนื่องจากอินเดียขาด ดุลการค้ามากไป ส่งผลการนาเข้าทองคาและโลหะเงินของอินเดียลดลงไปเยอะ

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

จากสถิติของสมาคมผู้ประกอบการสื่อสารและอิเล็กทรอนิกส์ของญี่ปุ่นระบุว่า เครื่องโทรศัพท์จานวน 66,000 เครื่องสามารถรีไซเคิลโลหะทองได้ 1 กิโลกรัม จานวน 97,000 เครื่องรีไซเคิลโลหะเงินได้ 1 กิโลกรัม

http://www.cbh.moph....g/telephone.htm

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ปัจจุบันจานวนผู้ใช้งานโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั่วโลก เพิ่มขึ้นจากปี พ.ศ. 2543 ที่มีจานวน 12.4 ล้านคน[2] มาเป็น 4,600 ล้านคน[3] ถ้าคิดว่าเป็น4600ล้านเครื่อง จากข้อมูลข้างบนคิดเป็นโลหะเงิน47 ตัน

http://th.wikipedia....%B8%B7%E0%B8%AD

--------------------------------------------------------------------------------------------------------

ทองคา99.9% ตอนนี้ราคากิโลละประมาณ1,642,886บาท ใช้เป็นวัตถุดิบผลิตโทรศัพท์ได้ประมาณ66,000เครื่อง ประมาณว่าโทรศัพท์1เครื่องมีต้นทุนเฉพาะต้นทุนทองคาประมาณ24.89บาท/เครื่อง

โลหะเงิน99.9% ตอนนี้ราคากิโลละประมาณ31,886บาท ใช้เป็นวัตถุดิบผลิตโทรศัพท์ได้ประมาณ97,000เครื่อง ประมาณว่าโทรศัพท์1เครื่องมีต้นทุนเฉพาะต้นทุนโลหะเงินประมาณ 0.33บาท/เครื่อง ถ้าราคาโลหะเงินขยับเป็น3เท่าจากราคาปัจจุบัน ต้นทุนโลหะเงินต่อโทรศัพท์1เครื่องก็ยังแค่1บาทต่อเครื่องเอง ดังนั้นต้นทุนของโลหะเงินในการผลิตโทรศัพท์น้อยมาก การการขึ้นราคาโลหะเงินแทบจะไม่มีผลต่อราคาต้นทุนวัตถุดิบ

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Siam Silver

กระทรวงการคลังของอเมริกา เป็นหนี้เท่าไหร่? ( บทความแปลสั้นๆจากเวปหนึ่ง )

ถ้าบทความต่อไป ไม่ทาให้คุณกลัวหัวหด ไม่ทาให้คุณกลัวต่อเงินกระดาษ แล้วเปลี่ยนมาเก็บทองคา หรือ โลหะเงิน แล้ว ก็แสดงว่าความคิดคุณได้ตายไปแล้ว หรือ ไม่ก็แสดงว่า คุณ ไม่สนใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวอีกแล้ว

นาย Tim Geithner รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของอเมริกา ได้ถูกสอบถามจากคณะรัฐมนตรี ในที่ประชุมเมื่อวานนี้ ว่า ถ้าคุณสามารถ ขอเพิ่ม หนี้ ที่สภาสามารถให้อนุมัติได้ คุณจะเพิ่มไปถึงเท่าไหร่? นาย Tim Geithner รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ตอบว่า "มันจะมาก - มากจนคุณต้องกลัว และ อิดอัดที่จะรับรู้มัน"

Geithner: “That I’d have to get to you in writing, I can’t do it in my head though.” (note: in the background someone says "he can't put that in writing.")

ถ้าคุณต้องการคาตอบ ผมไม่สามารถคิดมันขึ้นมาได้ในตอนนี้ ผมต้องไปคิดเป็นตัวเลขมาอีกที

Gowdy: “How about a round number?”

งั้นขอตัวเลขรวมๆ

Geithner: “No idea….

ผมคิดไม่ออก....

Gowdy: “$20 trillion?”

$20 ล้าน ล้าน?

Geithner: “I just can’t do it in my head.”

ผมคิดไม่ออกจริงๆ

Gowdy: “$50 trillion?”

$50 ล้าน ล้าน?

Geithner: “I don’t know..."

ผมไม่รู้จริงๆ....

Gowdy: “A lot? Can we agree it would be a lot?”

งั้นเรามาเห็นพ้องต้องกันว่า มันจะเป็นตัวเลขที่มากมาย?

Geithner: “It would be a lot. It would make you uncomfortable.”

มันจะเป็นตัวเลขที่มากมาย..จนคุณต้องอิดอัด

เห็นได้จากวีดีโอว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไม่ปฎิเสธกับตัวเลข $20 ล้าน ล้าน หรือ แม้แต่ $50 ล้าน ล้าน

นี่คือความเป็นจริงของ เศรษฐกิจ อเมริกาในตอนนี้ ถึงแม้ว่าตัวเลขการเป็นหนี้จริงๆของสหรัฐอมริกาจะถูกบิดเบือนโดยรัฐบาล แต่นี่คือความจริง อีกไม่นาน เศรษฐกิจโลกคงจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง แล้ววันนี้ คุณได้เตรียมพร้อมอะไรหรือยัง?

Thursday, March 22, 2012

 

---ข้อความบางส่วนจาก บทความโอกาสเงินของเงินจริงๆ5

สนใจอ่านเพิ่ม ไปที่http://www.facebook.com/groups/135029796643588/ ใต้รูปภาพสมาชิกตรงกลางเยื้องขวานิดๆ มีคำว่าไฟล์ กดที่ไฟล์แล้วเลือกอ่านไฟล์ที่สนใจครับ(กำลังตามแก้ทั้งหมดที่ทำให้เป็นPDF ไฟล์นะครับจะได้อ่านง่าย)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บิกซ์ เวียร์ เขียน / ลุงจิมเอามาฝาก (ฟังหูไว้หูนะครับ

  • ซีตีแบงค์ ตอนนี้เป็นขาใหญ่เจ้าใหม่ในการควบคุมราคาโลหะเงิน
  • ซีอีโอ และ ซีโอโอ ของธนาคาร ลาออกอย่างกระทันหัน
  • ในที่สุด เจ พี มอรอน และซีตีกรุ๊ป จะไม่สามารถถอนตัวออกจากสถานะที่ใช้ในการควบคุมราคา เพราะฉะนั้นเตรียมตัวรัดเข็มขัดขี่จรวดโลหะเงินได้

 

ที่มา : http://www.jsmineset.com/2012/10/16/jims-mailbox-1067/

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สงสัยจริง ถ้า JP ล้มจริงจะเกิดอะไรขึ้น

 

สัญญาที่ถือๆไว้ ที่ว่ากดราคาไว้ ถ้ามันเจ๊ง ไม่มีจ่ายจะเกิดอะไรขึ้น

 

จะมีคนมาถือแทน หรือ "ไม่หนี ไม่มี ไม่จ่าย แล้วๆกันไป" จะเกิดอะไรขึ้น

 

ถ้าระบบซื้อขายโลหะเงิน แบบกระดาษ ล้มกระดาน ราคาจะขึ้นจริงเหรอ?

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถ้าล้ม

ชาวบ้าน ตาสี ตาสา และนักลงทุนรายย่อยทั่วไปคงเจ็บตัวไม่น้อย

มี เอ็ม เอฟ โกลบอล เป็นตัวอย่างให้ชมแล้ว จากข่าวที่ได้อ่าน

ไม่มีนักลงทุนได้เงินคืนเต็มร้อยสักคน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถ้าล้ม

ชาวบ้าน ตาสี ตาสา และนักลงทุนรายย่อยทั่วไปคงเจ็บตัวไม่น้อย

มี เอ็ม เอฟ โกลบอล เป็นตัวอย่างให้ชมแล้ว จากข่าวที่ได้อ่าน

ไม่มีนักลงทุนได้เงินคืนเต็มร้อยสักคน

 

แล้วกรณีแบบนี้ คาดว่าจะมีผลยังไงกับราคาละครับ

 

paper default หมด true value ของ โลหะ มันอยู่ที่ตรงไหน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แล้วกรณีแบบนี้ คาดว่าจะมีผลยังไงกับราคาละครับ

 

paper default หมด true value ของ โลหะ มันอยู่ที่ตรงไหน

 

แหะๆ กรณีนี้ผมก็ได้แต่เดาละครับ ...

เจอบทสัมภาษณ์ ลอนดอย เทรดเดอร์ น่าจะพอช่วยตอบคำถามนี้ได้

  • (พูดถึง แอลบีเอ็มเอ และไครม์เม็กซ์)
  • ตอนนี้ปัญหาก็คือมีคนสั่งซื้อโลหะมีค่า(ของจริง)เป็นจำนวนมาก (แบบที่ซื้อที่เป็นสิบๆตันนะ แบบทีละสิบๆกรัมแบบคนทั่วไปไม่นับ) และคำสั่งซื้อพวกนั้นก็ค้างอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโลหะเงิน
  • ทุกวันนี้ มีคนที่เข้ามาซื้อของจริงโดยไม่สนใจราคาเป็นจำนวนมาก ยิ่งราคาตกแบบนี้ ยิ่งทำให้จำนวนโลหะมีค่าที่ต้องส่งมอบมีจำนวนสูงมากขึ้นไปอีก
  • ซักวันหนึ่ง ราคาโลหะเงินก็จะไม่สามารถควบคุมด้วยตลาดกระดาษได้อีกต่อไป และเมื่อถึงตอนนั้น ตลาดที่ซื้อขายของจริงจะเป็นตัวตัดสินราคา และ ณ ตอนนั้น คุณจะได้เห็นราคาที่แท้จริงของโลหะเงินเป็นครั้งแรก และมันจะทำให้คนทั่วไปงงเป็นไก่ตาแตก

ที่มา : http://kingworldnews.com/kingworldnews/KWN_DailyWeb/Entries/2012/10/17_London_Trader_-_The_LBMA_Is_A_Massive_Ponzi_Scheme.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำหรับเพื่อนๆที่ซื้อเม็ดเงินเก็บเพื่อรอขายหวังกำไรจริงๆ

บ้างทีสิ่งที่เราเห็น ข้อมูลที่เราอ่าน สิ่งที่เราวิเคราะห์คาดการณ์

ผลออกมาในอนาคตอาจไม่เป็นอย่างที่คิดก็ได้นะค่ะ

ช่วงหลังมานี้เม่าน้อยได้คุยกับหลายๆคนกว้างขึ้นเรื่องเม็ดเงินที่ซื้อเก็บไว้

เช่น เจ้าของธุรกิจ เจ้าของอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับแร่โลหะต่างๆ นักธุรกิจนักลงทุน

อาการของหลายคนที่เราได้เล่าให้เขาฟังว่าเอาเงินเก็บเกือบทั้งหมดไปซื้อเม็ดเงิน200กิโล

เขาแสดงอาการตกใจอย่างมาก อย่างกับเราเอาเงินไปลงแชร์ลูกโซ่

ก็ทำใจแล้วค่ะเราโง่เองเชื่อคนง่ายตอนนี้รอแค่ได้ทุนคืน

และร้านที่ซื้อ รับซื้อกลับแบบไม่ตุกติก เพราะตอนซื้อเจ้าของร้านที่ขาย

ยังบอกเองว่าซื่อไปทำอะไรเยอะแยะ ช่วงราคาขึ้นสูงๆอาจไม่รับซื้อกลับนะ

ในอินเตอร์เน็ตเราไม่รู้ว่าใครจะให้ข้อมูลที่แท้จริงหรือหวังดีประสงค์ร้าย

เพื่อล่อเม่าน้อยอย่างเราให้ติดกับแล้วก็ค่อยย้อมใจให้ความหวังกับการรอคอยที่เลื่อนลอย

เหมือนหลายคนที่เล่นหุ้น เขาบอกว่าพวกโบรกเกอร์ค่อยวิเคราะห์ให้เราซื้ออันนี้ขายอันนั้น

แต่ที่จริงแล้วตัวโบรกเกอร์เองตั้งแต่เขาเกิดมาเขาไม่เคยซื้อหุ้นของตัวเองเลย

และพอถามว่าทำไมคุณไม่ซื้อบ้างละ ไม่มีคำตอบ ยิ้มกินคอมอย่างเดียว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณเม่าน้อย

อ่านบทความคุณแล้ว เห็น ใจครับ แต่นี้คือการลงทุนที่มีความเสี่ยง. ส่วนร้านเงินเค้าตอบในมุมมองพ่อค้าที่ซื้อมาขายไปครับ. ไม่ใช้มุมมองของนักเก็งกำไร

พี่ในนี้ส่วนใหญ่ก็นักลงทุนในมุมมองของนักกำไรครับ. คงอึดอัดเหมือนคุณ น๊ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...