ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2014 วันที่ 1 ก.ค.57 หัวหน้า คสช.จัดให้ คืนความสุข วีระ สมความคิด เขมรปล่อยตัวกลับไทยแล้ว สมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมนตรีประเทศกัมพูชา ได้สั่งปล่อยตัว นายวีระ สมความคิด ในเย็นวันนี้แล้ว ซึ่งถูกทางการเขมรจับกุมที่ชายแดนพิพาทไทย – เขมร ในข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย บุกรุกเขตทหาร และจารกรรมข้อมูล ตั้งแต่ปี 2553 โดยคดีถึงที่สุด มีคำพิพากษาให้จำคุก 8 ปี สมเด็จนโรดมสีหมุนี กษัตริย์กัมพูชา พระราชทานอภัยโทษต่อนายวีระ ตามรายงานของสมเด็จฮุนเซน ซึ่งคาดว่าจะเดินทางกลับถึงไทยในวันที่ 2 ก.ค.นี้ โดยเดินทางมาเที่ยวบิน PG 932 ถึงไทยในเวลา 11.25 น. และแถลงข่าวในช่วงบ่าย 2 ก.ค.57 ทางการกัมพูชายืนยันว่า การเสนอพระราชทานอภัยโทษครั้งนี้ ได้รับติดต่อเจรจาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยยื่นเงื่อนไขว่าจะดูแลแรงงานและนักโทษชาวกัมพูชาเป็นการตอบแทน การปล่อยตัวเกิดขึ้นภายหลังการประชุม ระหว่างสมเด็จฮุนเซน และคณะนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ ที่เดินทางเยือนกัมพูชา โดยได้มีการหยิบยกกรณีนายวีระ สมความคิด ซึ่งรับโทษอยู่ที่เรือนจำในกรุงพนมเปญ มาเป็นเวลากว่า 3 ปีแล้วนั้นขึ้นมาหารือ ซึ่งตามกฎหมายของกัมพูชาจะต้องรับโทษ 5 ปี จึงจะมีสิทธิขออภัยโทษได้ นายสีหศักดิ์ ได้หารือตามแนวทางที่ได้รับมอบหมายไปจากพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช. ที่ขอให้ฝ่ายกัมพูชาพิจารณาปล่อยตัวนายวีระ โดยคำนึงถึงข้อเท็จจริง และด้านมนุษยธรรม รวมทั้งความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ โดยฝ่ายไทยไม่ประสงค์จะแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของกัมพูชา สมเด็จฮุนเซน ได้นั่งรับฟังคำอธิบาย จากนั้นก็ได้หยิบกระดาษขึ้นมาหนึ่งแผ่น คือ พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ให้กับนาย วีระ โดยลงวันที่ 1 ก.ค.2557 พร้อมกับถามว่าจะรับตัวนายวีระ กลับวันใด คือ วันนี้ หรือ วันพรุ่งนี้ นายสีหศักดิ์ จึงเรียนว่า พ.ร.ฎ.อภัยโทษ ลงวันที่วันที่ 1 ก.ค.57 จึงขอให้เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทย เดินทางไปรับตัวนายวีระในวันเดียวกันนี้ทันที ถ้าใครลืมไปแล้วว่าคนแดนไกล ที่ต้องระเห็จ ระเห เร่ร่อน อยู่ทุกวันนี้ เป็นฝีมือใคร ก็คุณวีระ นี่แหละที่เป็นคนร้องเรื่องทุจริตที่ดินรัชดา กับ ปปช. จนต่อมา คตส.ก็มีมติสั่งฟ้อง จนศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองตัดสินจำคุกคนแดนไกล และเผ่นป่าราบหนีออกนอกประเทศสมัยพวกตัวเองเป็นนายกฯ มาจนถึงทุกวันนี้ และคุณวีระ ยังมีร้องคนแดนไกลอีกหลายคดี จน คตส.ฟ้องไปที่ศาล คดีค่าศาลจนบัดนี้อยู่รวมกับคดีอื่นๆ อีกกว่า 10 คดี แต่คนแดนไกลไม่มาปรากฏตัวต่อศาลในนัดแรกแต่ละคดี ทำให้คดีหยุดนิ่งพิจารณาต่อไม่ได้ แต่ยังไม่จำหน่ายออกจากสารบบ..เมื่อไรที่ประเทศปลายทางที่คนแดนไกลอาศัย ยอมส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกลับมาไทย คดีที่รออยู่ที่ศาลจะ Run Auto ทันที เป็นไงกลศึกอัจฉริยะข้งเบ้ง เส้นผมบังภูเขา บทจะง่ายมันก็แสนง่ายดาย เพียงอาศัยจังหวะเวลา ไม่เสียเลือดเนื้อ ไม่ต้องใช้อาวุธ ไม่ต้องต่อสู้กัน ไม่ต้องคุยโม้มากเปลืองน้ำลายเหมือนนักการเมือง ไม่ต้องลงนามสัญญามีข้อพันธะประเทศผูกพัน MOU ใดๆ..ขนาดคนแดนไกล ที่ว่าแน่หนักหนา เป็นเพื่อนสนิทฮุนเซน และมีหลานเขยเป็นคนกัมพูชาก็ยังทำไม่ได้เลย ปูเน่าก็ไร้ฝีมือ ชายม่านรูดยิ่งหมดปัญญา ปึ้งเหม่งก็บ้อท่า เป็ดเหลิมขี้คุยที่เคยบินไปก็เจ้ง แป๊ะลิ้ม จอมด่าทุกคนที่คิดไม่เหมือนตนก็เจ้ง นักแสวงโชคทางการเมืองที่ดีแต่จ้อเอาหน้าทุกคนเจ้งหมด ถ้าใครจำได้เมื่อไม่กี่วันมานี้ เสธ ก็เคยบอกแล้วเรื่องแรงงานเขมรไทยมีแต่ได้กับได้ 5 ประการด้วยกัน และบอกแล้วว่างานนี้เห็นธาตุแท้สม รังสี ที่อเมริกาหนุนหลัง และว่าฮุนเซ็น จะต้องชิงโกยคะแนนนิยมจากงานนี้แน่ ตรงเป๊ะ !! ** ดูไขปริศนา..ข่าวลือแรงงานเขมร ที่ https://www.facebook.com/media/set/?set=a.246743462182355.1073742024.187529244770444&type=1 แรงงานเขมร ที่อพยพกลับไปมากขนาดราว 2 แสนคนนั้น ถ้าคูณ 5 จะมากถึง 1 ล้านคน ( แรงงาน 1 คนมีญาติ 5 คน ) มันเสี่ยงที่จะถูกสม รังสี ปลุกปั่นให้ก่อการประท้วงเหมือนคนงานโรงงานทอผ้า จนประทะกับทางการเขมรอย่างหนัก จนเกือบลุกลามกลายเป็นสงครามกลางเมือง ขืนปล่อยทอดเวลาให้คนงานในประเทศเขมรจำนวนมาก ตกงานรวดเดียวพร้อมกัน ในเวลาใกล้เคียงกันขนาดนั้น ไม่นานเท่าไรก็เกิดจลาจลแน่ และจะทำให้เสียคะแนนเสียงฮุนเซน ไปเป็นล้านคน แพ้เลือกตั้งสมัยหน้ากับ สม รังสี หลุดลุ่ยแน่ๆ ผลจากเสื้อแดงขายชาติปล่อยข่าวลือ เพื่อเอานักรบเขมรรับจ้างที่ตกค้าง แฝงตัวกลับไปเขมรแบบเนียนๆ กับแรงงานในครั้งนั้น ส่งผลให้รายได้จากแรงงานไม่ไหลเข้าประเทศเขมรทันที เหมือนปิดเขื่อน คิดดูว่าคนงาน 2 แสนคน รายได้ต่อเดือนมันจะหายไปเท่าไร มันมากสำหรับประเทศเขมรเขาที่เงินเดือนปริญญาตรีคิดเป็นเงินไทยราว 1,500 บาทต่อเดือนเท่านั้น และต้องพึ่งพารายได้จากการขายแรงงานในไทย หล่อเลี่ยงเศรษฐกิจเขาอย่างมาก บิ๊กสีเขียว หัวหน้า คสช.แค่ติดต่อเจรจาผ่านกระทรวงการต่างประเทศ บอกจะดูแลแรงงาน และนักโทษชาวกัมพูชาเป็นการตอบแทน ฮุนเซน ก็หัวร่อร่า ดีใจจนเนื้อเต้น รีบลดค่าทำหนังสือเดินทางชาวเขมรจาก 4 พันกว่าบาท เหลือแค่ 120 บาทเท่านั้นเอง เรียกว่าดีใจสุดๆ เพราะรอดตายแล้ว รีบปล่อยตัววีระ คืนมาทันที ไทย และ เขมร Win-Win ทั้ง 2 ประเทศเลยงานนี้ ในไทยได้ใจสายเสื้อเหลืองไปเต็มๆ , ได้สยบนักรบชุดดำเขมรในอนาคตไม่ให้กลับมา , นอกประเทศได้ใจฮวยเซงไปเนื้อๆ จนกดดันพวกแกนนำแดงที่หนีคดีจากไทย ที่ไปหลบอยู่ในเขมร ตาเหลือกเผ่นกลับออกมาจนเกลี้ยงเลย เช่น เจ้เพ็ญ มือปืน 10 ล้านกระบอก ดีเจอ้อม ไวพจน์ โกตี๋ ตั้ง อาชีวะ ฯลฯ และโอกาสจะเกิดการสู้รบแนวชายแดนเหมือนเคย ก็จะน้อยลงไปอีกมาก ส่วนคนแดนไกล ที่ทะเลาะเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดกับฮุนเซน ต่อไปก็เสียวสันหลังไม่กล้าเข้าไปเขมร เพราะกลัวโดนจับตัวส่งมาไทย..เป็นสัมภเวสีเร่ร่อนต่อไป และพื้นที่เคลื่อนไหวในโลกก็จะแคบลงเรื่อยๆ ตลอดเวลา ไม่มีมิตรแท้ และศรัตรูที่ถาวร..มีแต่ผลประโยชน์ของแต่ละฝ่ายเท่านั้น ที่เที่ยงแท้แน่นอน คนโบราณว่า คนพูดมากจะไม่ทำ..ส่วนคนทำจะไม่พูด..เป็นจริงเสมอ กลศึกพิชัยสงคราม เลือกใช้คนและยุทธวิธี ไม่ต้องเปิดเผยบอกขุนศึก และพลรบทุกเรื่องให้เสียการใหญ่ !! พวกที่กำลังโวยวายตอนนี้ เพราะเรื่องบางอย่างที่ไม่ได้ดั่งใจ ดูตัวอย่างนี้ไว้..ยืนหยัดในเป้าหมาย แต่ยืดหยุ่นวิธีการ มันชนะกันเห็นๆ แบบนี้แหละ !! @ เสธ น้ำเงิน4 https://www.facebook.com/topsecretthai หมายเหตุ โปรดงดโพสลิ้งใดๆ ทุกชนิด / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหากับผู้อ่าน / ออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบทความตอนนี้ / โพสภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช./ นำข่าวลือจากที่อื่นมาโพส ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อคเข้าเพจนี้ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2014 ตัวตนที่ไม่ต้องพราง อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 1, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 2, 2014 ไขปริศนา..อะไรคือชนวนก่อสงครามไปทั่วโลก และวิธีเอาตัวรอด (39 photos) วันที่ 30 มิ.ย.57 ไขปริศนา..อะไรคือชนวนก่อสงครามไปทั่วโลก และวิธีเอาตัวรอด บทความตอนนี้ยาวหน่อย ขอให้อ่านแบบมีสมาธิ เมื่อท่านอ่านจบ ท่านจะรู้สึกฉลาดขึ้นกว่าตอนก่อนอ่านแน่นอน แบบชนิดหลังมือเป็นหน้ามือ และจะรู้ถึงกลเกมส์ของมหาอำนาจต่อสถานการณ์ทั้งหลายบนโลกใบนี้ รวมทั้งแนะเคล็ดลับการปรับตัวรับกับสถานการณ์ในอนาคต พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) ในฐานะรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เดินทางเยือนสาธารณรัฐอินเดียอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 28-30 มิ.ย. ที่ผ่านมา ในฐานะแขกของสาธารณรัฐอินเดีย ถือว่าเป็นแขกจากต่างประเทศคณะแรกหลังจากอินเดียตั้งรัฐบาลใหม่ โดยมีเอกอัครราชฑูต ณ กรุงนิวเดลี ประจำสาธารณรัฐอินเดีย และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสาธารณรัฐอินเดียให้การต้อนรับ การเดินทางเยือนสาธารณรัฐอินเดีย ในครั้งนี้ เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์และมิตรไมตรีระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาล ในฐานะที่ พล.อ.ธนะศักดิ์ ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและในส่วนของกองทัพต่อกองทัพ สำหรับการเยือนอย่างเป็นทางการในครั้งนี้เพื่อยืนยันความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นมาอย่างยาวนาน และมิตรภาพที่ดีระหว่างกัน เนื่องจากทั้งสองประเทศ มีประวัติศาตร์ วัฒนธรรม ประเพณี ที่คล้ายคลึงกัน พร้อมทั้งการหารือความร่วมมือด้านความมั่นคง ในการเดินทางเยือนอินเดีย พล.อ.ธนะศักดิ์ ได้ประกอบพิธีวางพวงมาลาทหารที่เสียชีวิตในการรบเนื่องในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่อนุสาวรีย์ทหารผ่านศึก และตรวจแถวกองเกิยรติยศ 3 เหล่าทัพ ณ กระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐอินเดีย จากนั้นได้เข้าเยี่ยมคำนับ GENERAL BIkram singh (พลเอก บิกรัม ซิงค์ ) ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ควบตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบก สาธารณรัฐอินเดีย เพื่อพบปะสนทนาหารือข้อราชการ ที่เกี่ยวกับกิจการระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศที่ทำร่วมกันเสมอมา เช่น การฝึกร่วมต่างๆ นอกจากนี้ ได้พบกับ (Shri Arun jaitley) อรุณ เจตลี่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและกระทรวงกลาโหม เพื่อหารือร่วมกันถึงการที่จะทำให้ภูมิภาคเอเซีย มีความเจริญก้าวหน้าในทุกด้านไม่ว่าจะเป็นด้านสังคม เศรษฐกิจ และด้านความมั่นคงอย่างยั่งยืน โดยในช่วงค่ำได้มีการจัดเลี้ยงอาหารค่ำเพื่อต้อนรับ พล.อ.ธนะศักดิ์ โดยผู้บัญชาการสูงสุดอินเดีย รวมถึงอดีตเอกอัครราชทูตที่เคยประจำประเทศไทย สาธารณรัฐอินเดีย มีความเข้าใจเป็นอย่างดี สถานการณ์ไทยและพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อความสงบสุขและมีเสถียรภาพของไทย สำหรับด้านการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ยังคงมีความสัมพันธ์ และความร่วมมือระหว่างกันเช่นเดิมในทุกด้าน ไม่มีความวิตกกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในไทย นอกจากนี้ยังมีการพูดคุยเจรจาการก่อสร้างเส้นทางจากอินเดีย ผ่านเมียนมาร์ เข้าสู่ประเทศไทย ทั้งนี้ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2557 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จะเสด็จเยือนสาธารฌรัฐอินเดียอย่างเป็นทางการ ทางรัฐบาลอินเดียได้แจ้งว่าจะเตรียมให้การต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ จีนก็จะทำถนนเชื่อมกับไทย ผ่านประเทศลาวที่บ่อแตน ดังนั้นยุทธศาสตร์ อินเดีย –ไทย - จีน ที่เป็นเส้นทางสายไหมทางการค้าเส้นใหม่ ประชากรรวมกันกว่า 2,000 ล้านคน หรือราว 32 % ของประชากรทั้งโลก คิดดูว่าจะเฟื่องฟูรุ่งเรืองขนาดไหนขนาดไหน ทีนี้ลองมาดูเกมส์ของมหาอำนาจกันบ้าง ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ออกมาแฉว่า อเมริกากำลังแบล็คเมล์ฝรั่งเศสไม่ให้ขายเรือรบบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ มิสทรัล ให้แก่รัสเซีย ด้วยการเสนอช่วยผ่อนปรนค่าปรับของธนาคาร บีเอ็นพี พาริบาส์ ที่ลักลอบทำธุรกรรมทางการเงิน "เรารู้ว่าอเมริกากำลังกดดันไม่ให้ฝรั่งเศสขายเรือรบมิสทรัลให้แก่เรา โดยที่อเมริกาเสนอจะยกเลิกการคว่ำบาตรธนาคารดังกล่าว หรืออย่างน้อยปรับลดค่าปรับให้" เรื่องนี้มาจากการที่ ธนาคารบีเอ็นพี พาริบาส์ ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในฝรั่งเศส ลักลอบทำธุรกรรมทางการเงินในนามของประเทศที่อเมริกาขึ้นบัญชีดำ อเมริกาก็เลยขู่กรรโชกทรัพย์ ธนาคารฝรั่งเศสเอาดื้อๆ ว่าจะดำเนินคดีทางศาล จนธนาคารนี้ต้องเจรจายอมความ ตกลงชำระค่าปรับมูลค่าสูงถึง 8,900 ล้านเหรียญอเมริกา (ราว 2.7 แสนล้านบาท) ให้แก่ทางการอเมริกา เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกดำเนินคดีทางศาล ทำให้ ประธานาธิบดี ฟรองซัวส์ โอลองด์ ของฝรั่งเศส ฉุนขาด จึงไม่สนใจว่าอเมริกาจะวิพากวิจารณ์อย่างไร จึงเดินหน้าส่งมอบเรือรบบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ มิสทรัล จำนวน 2 ลำให้แก่รัสเซีย ต่อไปทันที อเมริกาจอมแบล็คเมล์ เอาเงินค่าปรับแม้เพื่อนสนิทตั้ง 2.7 แสนล้านบาท จากธนาคารฝรั่งเศสปล้นเพื่อนไปดื้อเลยๆ มีหรือฝรั่งเศสจะยอมเสียเงินฟรี เขาจึงขายเรือรบบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ให้กับรัสเซีย เพื่อฉีกหน้า และหักหลัง แก้แค้นมหามิตรอย่างอเมริกา ซะเลย.. ขืนฝรั่งเศสมีของดี และมีคนอยากมาซื้อแพงๆ แต่มัวเชื่อคำยุยงจากอเมริกาไม่ให้ขาย ก็อดตายกันพอดี..ฝรั่งเศสจัดตัดสินใจลอยแพโดดเดี่ยว อเมริกา ที่ชอบดักฟังเขาไปทั่วโลกดีนัก !! ใครคิดว่าการที่อเมริกาบุกอิรักในปี 2001 เบื้องหลังที่แท้จริงคืออะไร ?? ก็เพราะอิรัก ประกาศขายน้ำมันในสกุลเงินยูโร ซึ่งอเมริกายอมไม่ได้ แต่การที่บุกประเทศอื่นแบบดุ่มๆ ก็กลัวคำครหาว่าละเมิดกฎหมายของสหประชาชาติ เลยต้องมีการอ้างเรื่องซัดดัม ครอบครองอาวุธเคมี ตอนนี้ลองมาดูคำสารภาพจากผู้นำของอิรักดูบ้าง เมื่อนายกรัฐมนตรี นูรี อัล-มาลิกีแห่งอิรัก ระบุว่า การโจมตีของกองกำลังติดอาวุธไอซิล (กลุ่มรัฐอิสลามอิรักและเลอแวนต์) จะไม่รุกคืบอย่างรวดเร็วเช่นนี้ หากกองทัพอิรักมีกำลังทางอากาศอย่างเหมาะสม ซึ่งรวมถึงความพยายามร้องขอเครื่องบินขับไล่จากอเมริกา "ข้าพเจ้าขอพูดตามสัตย์จริงว่าเราโดนหลอกเมื่อเราลงนามเซ็นสัญญากับอเมริกา" ส่วนอเมริกาได้ปฎิเสธคำร้องเรียนของผู้นำอิรัก โดยระบุชัดว่าเครื่องบินขับไล่ของอเมริกาไม่ได้ล่าช้าในการจัดส่งแต่อย่างใด "เครื่องบินขับไล่เอฟ-16 จะไม่จัดส่งให้อิรักจนกว่าจะถึงฤดูใบไม้ร่วง ตามข้อตกลง ซึ่งต้องใช้เวลาอีกหลายเดือน และขณะนี้เราอยู่ในระหว่างการดำเนินการจัดส่ง"...จะเอาฮา กันไปถึงไหนเนี่ย อิรักไม่มีฤดูนี้ เพราะเป็นทะเลทราย แต่ตอนนี้ทหารอิรักโดนยิงตายเป็นใบไม้ร่วงแล้ว อเมริกา แถว่า การรุกคืบจู่โจมของกองกำลังก่อการร้ายในอิรักคงไม่สามารถยุติได้เพียงแค่ความสามารถของเครื่องบินขับไล่ 2 ลำได้ ประเทศอเมริกาแสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะไม่มีส่วนเข้าร่วมกับกองกำลังทหารอิรัก เพื่อโจมตีกลุ่มไอซิล หรือกลุ่มไอซิส จนกว่าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลอิรักใหม่...นั่นไง..อเมริกาเผยความต้องการแท้จริงแล้ว อิรักในขณะนี้จึงมุ่งเข้าหาความช่วยเหลือจาก รัสเซีย และเบลารุส ในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ ทีนี้พี่หมีรัสเซียเลยใจป้ำ ส่งเครื่องบินขับไล่ซุคฮอย 5 ลำของรัสเซีย เดินทางถึงประเทศอิรักแล้ว โดยถือเป็นเครื่องบินขับไล่ชุดแรกจากทั้งหมด 25 ลำ ภายใต้ข้อตกลงระหว่างรัฐบาลกรุงมอสโกกับกรุงแบกแดด สำหรับพี่หมี เงินไม่มีไร้ปัญหา เอาน้ำมันมาแลกจบ ไม่จู้จี้ ไม่ถามซอกแซก บริการขับเครื่องบินมาส่งถึงกระไดบ้าน พร้อมบริการล้างสี คาร์แคร์ให้เสร็จสรรพ..แถมตอนนี้รัฐบาลอิหร่าน ซีเรีย อิรัก ที่ประเทศติดกัน ก็เพิ่งเห็นแสงธรรม ยอมจับมือกันแล้ว เพื่อสู้กับกลุ่มติดอาวุธ ของอเมริกา และตุรกี มาดูอีกจุดว่าทำไมอเมริกาต้องโจมตีลิเบียในปี 2010 เบื้องหลังคือ ทาง กัดดาฟี ของลิเบียประกาศว่า จะค้าขายน้ำมัน โดยการใช้ทองคำเป็นการแลกเปลี่ยน ผลที่ตามมาก็คือ กัดดาฟี ถูกสร้างวาทะกรรมจากสื่อตะวันตกว่าเป็นผู้นำเผด็จการ และในที่สุดก็ถูกชาติตะวันตกโจมตีด้วยอาวุธจนเขาเสียชีวิต ที่นี้ลองมาดูทางซีเรียบ้าง ตลอดระยะเวลามากกว่า 3 ปีที่ผ่านมา อเมริกาและพันธมิตร ใช้สงครามตัวแทนโดยการให้บรรดาหน่วยงานลับทั้ง ซีไอเอ มอสสาด MI6 หน่วยข่าวกรองของตุรกี ซาอุดิ และพันธมิตรอื่นๆ สนับสนุนเงิน อาวุธหนัก อาหาร เวชภัณฑ์ ในเครือข่ายก่อการร้าย อัลเคด้า เพื่อโค่นล้มรัฐบาลซีเรียของนาย บาร์ชา อัล อัสสาด มีผู้บริสุทธิ์สังเวยชีวิตจำนวนมาก แต่อเมริกาและผองเพื่อนก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ จึงใช้มุกสาดโคลนโดยพยายามสร้างสถานการณ์โยนความผิด ไปให้รัฐบาลซีเรีย เรื่องการใช้อาวุธเคมี สังหารพลเรือนของตนจนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,400 คน แต่จริงๆ แล้วอาวุธนี้หนุนมาจากซาอุ นั่นเอง ทั้งนี้เพื่ออเมริกาจะได้ส่งกองกำลัง และทหารเข้าแทรกแซงสงครามกลางเมือง ตามที่เคยใช้ในภูมิภาคอื่น เพราะประชาชนชาวซีเรียส่วนใหญ่สนับสนุน รัฐบาลตนเอง เชื่อผู้นำ เพราะเห็นว่าทำเพื่อประเทศชาติ ไม่ยอมเป็นหุ่นเชิดของตะวันตก ดูได้จากผลการเลือกตั้งที่ นายอัสสาด ชนะอย่างท่วมท้นกว่า 90% ขณะที่เครือข่ายอัลเคด้า ที่ชาติตะวันตก และพันธมิตรหนุนหลัง พยายามก่อการโจมตีด้วยอาวุธ ขัดขวางการเลือกตั้งทุกวิถีทาง ก็เพื่อกีดกันไม่ให้ผู้อพยพขาวซีเรีย ข้ามพรมแดนเข้ามาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ที่ผ่านมา รัสเซีย มีส่วนปรับสมดุลของสงครามนี้ โดยแกล้งเอาเรือรบของตนเอง ไปจอดเล่นๆ กินกาแฟไว้ที่ชายฝั่งของซีเรีย เพื่อให้ความช่วยเหลือรัฐบาลของ อัสสาด เพราะรัสเซียเอง ก็ไม่ต้องการเสียพันธมิตรซีเรียในตะวันออกกลางไปอีก สงครามกลางเมืองในซีเรีย ที่แท้ก็คือสงครามตัวแทนระหว่าง มหาอำนาจทางเศรษฐกิจโลก ที่นำโดยอเมริกาและยุโรป ที่ผูกโยงกับค่าเงินดอลลาห์ กับอีกฝ่ายคือ รัสเซีย จีน อิหร่าน ซีเรีย ที่ค้าขายน้ำมันกันด้วยสกุลเงินหยวน โดยอ้างอิงจากราคาทองคำ ไก่เห็นตีนงู ๆ เห็นนมไก่ฉันท์ใด ชาติมหาอำนาจ เขาก็รู้มานานแล้วว่า อเมริกานั้นใส้กลวง ข้างนอกสดใส ข้างในเน่าเสีย ที่อ้างนักหนาว่ามีทองคำสำรองเป็นอันดับหนึ่งของโลกนั้น ความจริงคือโกหกคำโต อเมริกาไม่ได้มีทองคำอยู่แล้ว คนที่เปิดเผยเรื่องนี้ก็คือ นายโดมินิค สเตราซ์คานท์ อดีตประธานกองทุนไอเอ็มเอฟคนก่อน ไอเอ็มเอฟ ที่เขาบริหารเคยเรียกร้องให้อเมริกาชำระหนี้เงินกู้ในรูปของทองคำ แต่ถูกอเมริกาปฏิเสธ เลยเป็นที่มาของข้อกล่าวหาล่วงละเมิดทางเพศ อเมริกาแบล็คเมล์เขานั่นเอง ซึ่งภายหลังเขาก็พ้นข้อกล่าวหาดังกล่าว เพราะไปเปิดเผยเรื่องนี้กับ ผู้นำรัสเซียว่า “รัฐบาลอเมริกาไม่มีทองคำ” ที่อ้างว่า เก็บไว้ที่ ฟอร์ต น็อกซ์..รัสเซียเลยหัวเราะก๊ากๆ ตอนนี้เหลือเพียง 2 ประเทศเท่านั้น คือ ซีเรีย และอิหร่าน ที่ยังค้าขายน้ำมันในสกุลเงินอื่น ที่ไม่ใช่ดอลลาร์ ถ้าจีน และรัสเซีย เสียพันธมิตรหลักเหล่านี้ไป อเมริกาจะสามารถพิมพ์เงินดอลลาร์ออกมาได้เรื่อยๆ โดยที่เงินเหล่านี้ยังสามารถใช้ได้ แต่ถ้าอเมริกาและพันธมิตร ปล่อยให้ อิหร่าน และซีเรีย ซื้อขายแลกเปลี่ยนน้ำมันในสกุลเงินอื่นล่ะ ประเทศผู้ค้าน้ำมันอื่นๆ เช่น เวเนซุเอล่า ก็จะเข้ามาร่วมด้วย รวมกับกลุ่มประเทศที่เรียกว่า BRICS เมื่อทุกประเทศทั่วโลก เริ่มทยอยเทขายเงินดอลลาร์ เงินเหล่านี้ก็จะไหลกลับไปยังอเมริกา ผลก็คือจะทำให้เกิดอัตราเงินเฟ้อในอเมริกา และดอกเบี้ยทะยานสูงขึ้น และนั่นคือหายนะทางเศรษฐกิจของอเมริกานั่นเอง และส่งผลให้ธนาคารกลางอเมริกา จะไม่สามารถพิมพ์ออกมา กระตุ้นเศรษฐกิจอเมริกาได้อีกต่อไป ตอนนี้ทาง รัสเซีย และจีนก็ประกาศ ซื้อขายก๊าซล่วงหน้าระหว่างกันโดยตรงยาวถึง 30 ปี และประกาศเทขายเงินสกุลดอลลาร์ แต่ทำไมอเมริกายังไม่ตัดสินใจโจมตี จีน และ รัสเซีย ?? ก็เพราะ 2 ประเทศนี้ มีหัวรบนิวเคลียร์นั่นเอง อเมริกากลัวเขาจะสู้ ก็เลยแค่แหย่ และพยายามจะจุดชนวนสงครามในยูเครน ติดรัสเซียให้ได้ อเมริกา และตะวันตก จึงพยายามปิดล้อมมหาอำนาจ จีน และ รัสเซีย ทางเศรษฐกิจทุกเส้นทาง ที่เชื่อมต่อกับทางเดินของน้ำมัน โดยพยายามครอบงำ บรรดาประเทศที่รายล้อม จีน และรัสเซีย และดึงประเทศเหล่านี้ มาซุกปีกอเมริกาให้ได้ ถ้าประเทศไหนแข็งขืน อเมริกาก็จะสนับสนุนให้เกิดสงครามกลางเมือง หรือความวุ่นวาย วิกฤติการณ์ในยูเครน ติดรัสเซีย และในบางมณฑลของจีน เช่น ซินเจียง กลุ่มติดอาวุธอุยกู ชาวมุสลิม ในบริเวณพรมแดนไกล้กับ ปากีสถาน กำลังจะถูกจุดชนวนก่อความรุนแรงขึ้น สาเหตุจริงๆไม่ใช่เรื่องศาสนา แต่อเมริกาเอาเรื่องความแตกต่างทางศาสนา มาจุดชนวนความขัดแย้ง แต่สาเหตุแท้จริงๆ ก้คือ ข้อตกลงทางเศรษฐกิจระหว่าง จีน กับปากีสถาน คือ ความร่วมมือในการขนส่งน้ำมันจากเมืองท่าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของปากีสถาน ซึ่งมีท่อส่งน้ำมันจากอิหร่าน แอฟริกา และจากตะวันออกกลาง ทางบก ทางรถไฟ ผ่านปากีสถาน มายังจีนแผ่นดินใหญ่ บริเวณมณฑลซินเจียง ซึ่งถือเป็นหัวใจหลัก ทางเศรษฐกิจของจีนนั่นเอง หลังข้อตกลงระหว่างจีนกับ ปากีสถานราว 6 เดือน ดินแดนแถบนี้ ก็ถูกอเมริกาจุดชนวนสงคราม อ้างว่าต่อต้านก่อการร้ายขึ้นทันที ในบริเวณพรมแดนของปากีสถาน โดยมีองค์กรที่ให้ทุนสนับสนุนเจ้าเก่า เจ้าเดียวกันกับที่สนับสนุน เว็บไซต์ประชาไทยที่ถูกปิดไป คือ NED และ USAID ของ CIA อเมริกานั่นเอง และอเมริกาก็ใช้เครื่องบินไร้คนขับ โดรน สังหารผู้คนในละแวกนี้ มีพลเรือนที่บริสุทธิ์เสียชีวิตเป็นจำนวนมากไม่เว้นแต่ละวัน คนทั่วๆ ไปดูข่าวจะเข้าใจว่า เป็นเครือข่าย ก่อการร้าย อัลเคด้า..แต่จริงๆ ไม่ใช่ อเมริกา ต้องการตัดเส้นทางลำเลียงน้ำมันของจีน บังคับให้จีนยังต้องซื้อน้ำมัน จาก ซาอุดิ ในรูปสกุลเงินดอลลาร์ เพื่อเตะตัดขาจีน เศรษฐกิจจะได้ไม่แซงหน้าอเมริกานั่นเอง..คืออเมริกา มันอิจฉาตาร้อน จีน กับ รัสเซีย ว่างั้นเหอะ นี่คือเหตุผลที่ทางรัฐบาลไทย ยังไม่สามารถเปิดหน้าชก หันหลังให้อเมริกา และหันหน้าไปทางจีน แบบเป็นทางการ เพราะต้องแสร้งว่ายังพอถูไถกับอเมริกาอยู่ หากไทยร่วมลงทุนเส้นทางรถไฟจากตอนเหนือลงไปยังภาคใต้ ผ่านสามจังหวัดชายแดนไต้ หรือการขุดคอคลอดกระ ใน 3-4 แนว จีนพร้อมให้การสนับสนุนโครงการแน่ เพราะจีนเอง ก็ได้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าว แต่ไทยก็ต้องคอยสมดุลมหาอำนาจ ระวัง ประเทศที่ไม่เคยจริงใจกับใครอย่างอเมริกา เพราะเขาพร้อมสนับสนุน คนเสื้อแดงหัวรุนแรง เช่น คนแดนไกล มือปืน 10 กระบอก เจ๊เพ็ญ สุนัย ฯลฯ ที่ยังเคลื่อนไหวทั้งใน และนอกประเทศ ให้ออกมาสร้างความวุ่นวายเพื่อทำลายเสถียรภาพรัฐบาล และเศรษฐกิจของประเทศ เรากำลังอยู่ท่ามกลางสงครามค่าเงินดอลลาห์ และเงินหยวน ที่พร้อมประทุเผชิญหน้ากันทางทหาร ของบรรดาชาติมหาอำนาจได้ทุกเวลา ประเทศมหาอำนาจ เขาทำเพื่อผลประโยชน์ของพวกเขา ไม่มีมิตรแท้ และศรัตรูถาวร ถ้าเราก้าวพลาดแม้เพียงก้าวเดียว ประเทศเราก็เสี่ยงตกอยู่ในสภาพไม่ต่างจาก ยูเครน ซีเรีย และอิรัก และประเทศแถวตะวันออกกลางอื่น ที่มีแค่หยดเลือดและคราบน้ำตาของพี่น้องร่วมชาติ ที่ถูกชาติมหาอำนาจ อ้างเรื่องศาสนา มากหลอกให้เข่นฆ่ากันเอง ถ้าอนาคตเศรษฐกิจโลกเดินมาถึงทางตัน ประเทศเล็กๆอย่างเรา อย่ามัวแต่ไปหวังพึ่งพาการลงทุน จากต่างประเทศ เพราะเอาแน่นอนอะไรไม่ได้ ถ้าหันไปเต็มๆ อีกทาง ภัยคุกคามจากฝ่ายตรงข้าม ก็จะตามมาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ต้องเตรียมการแต่เนิ่นๆ ดังพระราชดำรัสล้นเกล้ารัชกาลที่ 3 ที่ทรงเตือนไว้ว่า "การศึกสงครามข้างญวนข้างพม่าก็เห็นจะไม่มีแล้ว จะมีอยู่ก็แต่ข้างพวกฝรั่ง ให้ระวังให้ดี อย่าให้เสียทีแก่เขาได้ การงานสิ่งใดของเขาที่คิด ควรจะเรียนเอาไว้ก็ให้เอาอย่างเขา แต่อย่าให้นับถือเลื่อมใสไปทีเดียว " ดังนั้นการเอาตัวรอดประการแรกคือ "การลดการถือครองเงินสกุลที่มีความเสี่ยง" เช่น ดอลลาห์ และยูโร เพราะนาทีต่อจากนี้ เงินสกุลหยวนมีแนวโน้มว่าจะมีความสำคัญ และมีบทบาทเพิ่มขึ้นในเวทีโลก ทั้งการค้าและการลงทุนอย่างต่อเนื่องในอนาคต ผู้ประกอบการไทย จึงควรหันมาใช้เงินสกุลหยวนในการค้าและการลงทุนมากขึ้น เพื่อเป็นหนึ่งในเครื่องมือการบริหารจัดการความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน และลดผลกระทบจากความผันผวนของเงินสกุลดอลลาห์ ที่ผ่านมาสามารถกำหนดราคาซื้อขาย ระหว่างเงินบาทกับเงินหยวนโดยตรงที่คุนหมิงของจีนแล้ว เพราะด้วยขนาดเศรษฐกิจ และมีแนวโน้มว่าเศรษฐกิจจีนจะขยายตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับทางการจีนมีนโยบายผลักดันการใช้เงินหยวน ให้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น จึงมีผู้สนใจใช้เงินหยวนในการทำธุรกรรมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศมากขึ้น เช่น กรณี “ อังกฤษเสนอตัวเป็นศูนย์กลางการชำระดุลสกุลเงินหยวน” หรือ กรณีรัสเซียตกลงกับจีนในการชำระค่าสินค้าด้วยเงินสกุลท้องถิ่นระหว่างกัน เมื่อประชาชนของทั้งสองประเทศ เริ่มมีความคุ้ยเคยในการชำระเงินสกุลท้องถิ่นระหว่างกันมากขึ้น จะช่วยเพิ่มทางเลือกในการใช้เงินสกุลท้องถิ่นให้กับภูมิภาคอื่นๆของโลก การที่เงินสกุลหนึ่งจะติดตลาดจนสามารถทำหน้าที่เป็นสกุลเงินสากลที่สมบูรณ์ ต้องมีองค์ประกอบหลายปัจจัย เช่น เป็นระบบอัตราแลกเปลี่ยนที่ยืดหยุ่น ความคล่องตัวในการเคลื่อนย้ายเงินทุน ตลาดเงินที่มีความลึกความกว้าง ที่จะทำให้ต้นทุนการทำธุรกรรมอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งกรณีของ “ อังกฤษที่เป็นศูนย์กลางทางการเงิน จะมีการโค้ดเงินหยวนกับเงินปอนด์โดยตรง “ ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินในจีน ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการโค้ดเงินหยวนเทียบกับเงินสกุลอื่นๆ บ้างแล้ว ทั้งเงินสกุลหลักและเงินภูมิภาค เช่น เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย เงินริงกิตมาเลเซีย เงินรูเบิลรัสเซีย หรือแม้แต่เงินบาทของไทย นาทีนี้นี่คือทิศทางสกุลเงินโลกที่จะมั่นคงในอนาคต คือเงินหยวน คนถือเงินดอลลาห์ไว้ตอนนี้ ยิ่งถือไว้ในมือ มันจะยิ่งด้อยค่าลงในอนาคต และเสี่ยงสูงขึ้นไปเรื่อยๆ พ่อค้าคนไหนใช้เงินดอลลลาห์ซื้อขายกัน..จะกลายเป็นแบ็งค์กงเต็ก !! การเอาตัวรอดประการที่สองคือ "รู้จักพึ่งตัวเอง ตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง" โดย "บริหารแบบคนจน..อย่ายึดติดกับตำรา" ตามพระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2534 ที่ทรงตรัสไว้เมื่อ 23 ปีที่แล้วว่า... “...ต้องแบบคนจน เราไม่เป็นประเทศร่ำรวย เรามีพอสมควร พออยู่ได้ แต่ไม่เป็นประเทศที่ก้าวหน้าอย่างมาก เราไม่อยากจะเป็นประเทศก้าวหน้าอย่างมาก เพราะถ้าเราเป็นประเทศก้าวหน้าอย่างมาก ก็จะมีแต่ถอยหลัง ประเทศเหล่านั้น ที่เป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมก้าวหน้า จะมีแต่ถอยหลัง และถอยหลังอย่างน่ากลัว แต่ถ้าเริ่มมีการบริหารที่เรียกว่า แบบคนจน แบบที่ไม่ติดกับตำรามากเกินไป ทำอย่างมีสามัคคีนี่แหละ คือเมตตากัน ก็จะอยู่ได้ตลอดไป คนที่ทำงานตามวิชาการจะต้องพึ่งตำรา เมื่อพลิกไปถึงหน้าสุดท้ายแล้ว ในหน้าสุดท้ายนั้นเขาบอก “อนาคตยังมี” แต่ไม่บอกว่าให้ทำอย่างไร ก็ต้องปิดเล่มคือปิดตำรา ปิดตำราแล้วไม่รู้จะทำอะไร ลงท้ายก็ต้องเปิดหน้าแรกใหม่ เปิดหน้าแรก ก็เริ่มต้นใหม่ ถอยหลังเข้าคลอง แต่ถ้าเราใช้ตำราแบบคนจน ใช้ความอะลุ่มอล่วยกัน ตำรานั้นไม่จบ เราจะก้าวหน้า"เรื่อยๆ"... @ เสธ น้ำเงิน4 https://www.facebook.com/topsecretthai หมายเหตุ โปรดงดโพสลิ้งใดๆ ทุกชนิด / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหากับผู้อ่าน / ออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในบทความตอนนี้ / โพสภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช./ นำข่าวลือจากที่อื่นมาโพส ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อคเข้าเพจนี้ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 2, 2014 (มีการแก้ไข) ถูกแก้ไข กรกฎาคม 2, 2014 โดย ginger 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 2, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 2, 2014 ข่าวว่าเตรียมไปอยู่มอนโตเนโก อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 2, 2014 ความต่างสุดขั้ว ขาว-ดำ ธรรม-อธรรม จริง-เท็จ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 2, 2014 เกาะติด จะบนหัว บนหน้าพี่มะว่าน้อง อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 2, 2014 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 2, 2014 ต่างก็เป็นกำล้งใจให้กันและกัน กอดหน่อยนะ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 2, 2014 หัวใจเต้นด้วยความเมตตา อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 2, 2014 ท. ทหารไทย ใจเต็ม อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น