ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 23, 2014 แอนดี้ ลูอิส มนุษย์เชือกท้ามฤตยูระดับโลกกำลังเดินไต่เชือกเส้นเดียวแบบไม่มีอุปกรณ์ช่วย หรือ สแลคไลน์ ระยะทาง 179 เมตร ระหว่างตึก ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ และโรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิล์ด โดยใช้เวลา 1 ชั่วโมง 5 นาที จัดโดยเรโซนา เมนพรีเซ็นท์ เวิลด์ เรคคอร์ด เบรกกิ้ง สแลคไลน์ อีเว้นท์ Photographer วิสันต์ โพธิ์งาม #nationphoto อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 23, 2014 วันที่ 23 ก.ค.57 ชาวบ้านยโสธร เจอปลาช่อนขนาดยักษ์ยาว 3 เมตร ชาวบ้านอำเภอค้อวัง จ.ยโสธร ทำการหาปลา แล้วไแเจอปลาคล้ายปลาช่อน ไม่เหทือนปลาไทย คล้ายไปทางปลาแถวลุ่มน้ำอเมซอน อเมริกาใต้ ขนาดยาว 3 เมตร หนักราว 100 กิโลกรัม ไม่มีใครกล้าซื้อ หรือทำกิน ปลาพันธ์ไทย ไม่น่าตัวใหญ่มากขนาดนี้ และมันต้องปลาเล็กปลาน้อยอื่นๆ เป็นอาหารแน่ ต้องกินเท่าไรมันถึงจะอิ่มเนี่ย ส่งผลต่อสมดุลระบบนิเวศ และเจ้าหน้าที่ๆ เกี่ยวข้องน่าจะลงพื้นที่ตรวจสอบ มันไม่น่าจะมีตัวเดียว ถ้าเกิดมีเป็นฝูง มันสามารถรุมกินเด็กๆ ที่ลง เล่นน้ำช่วงน้ำมากหน้าฝน ฉีกกินเป็นอาหาร ให้หายวับไปในพริบตาได้เลย คนไทยชอบนำปลาอันตรายจากเมืองนอกเข้ามา เป็นปลาปิรันย่า แล้วปล่อยลงแหล่งน้ำ ปลาพวกนี้มันดุ จะกัดปลาอื่นกระจุยหมดแน่ และปลาอื่นจะสูญพันธ์ได้ @ เสธ น้ำเงิน2 ttps://www.facebook.com/thailandcoup หมายเหตุ โปรดงดโพสลิ้งใดๆ ทุกชนิด / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหา / ออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้ / โพสภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช./ นำข่าวลือมาโพส ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้ วันที่ 23 ก.ค.57 ปืนใหญ่ไทยของจริง สมัยอยุธยาแตกครั้ง 2 อยู่ที่อินเดีย ในภาพคือปืนใหญ่ของไทย สมัยกรุงอโยธยาแตกครั้งที่ 2 และพม่าได้ขนกลับอาณาจักรพุกามไป ต่อมาอังกฤษมายึดพม่าเป็นเมืองขึ้นได้ และยึดอินเดีย เป็นอาณานิคม ปืนใหญ่นี้ก็ถูกขนจากพม่า ไปไว้ที่อินเดีย ปืนใหญ่นี้สภาพค่อนข้างสมบูรณ์ ลวยลายศิลปะยังแสดงออกเอกลักษณ์ไทย ถ้าได้กลับมาอยู่ไทย คงจะเหมาะสมไม่น้อย เพราะเป็นของเก่าแก่ของบรรพบุรุษเผ่าไทยของเรา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลองไปคิดโจทย์การบ้านนี้ดู ยามที่ไทยกับอินเดีย กำลังสัมพันธ์เฟื่องฟูยามนี้ และราชวงศ์ของไทย ก็ทรงกำลังเยือนอินเดียตามคำเชิญอย่างเป็นทางการ หากปล่อยให้เนิ่นนานเลยไปถึงเลือกตั้ง นักแสวงโชคทางการเมืองคงไม่สน เพราะต้องการประมูลประเทศขายให้ตะวันตกมากกว่า @ เสธ น้ำเงิน3 https://www.facebook.com/thailandcoup วันที่ 23 ก.ค.57 บรรยากาศท้องฟ้า แถวลาดพร้าว หลังคนเสนียดไม่อยู่ บรรยากาศท้องฟ้าสดใสสวยงาม ของย่านลาดพร้าว กทม. ยามสิ่งคล้ายคน ที่นำพาความซวยไปทุกที่ ไป เหยียบแผ่นดินไหนพินาศที่นั่น ตอนนี้ระเห็ดไปเช้งเม้งไม่อยู่ในไทย และยามราชอาณาจักรไทย มีรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวเพื่อการปฏิรูป ที่กำหนดไม่ให้นักการเมืองเป็น นายกฯ หรือ ครม. และไม่ให้ผู้สังกัดบริษัทการเมืองมาก่อน เป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติ ที่มีหน้าที่ออกกฎหมาย และมีกำแพงกั้นอีกหลายชั้น ด่านสุดท้ายสุดโหด คือ คสช.ยืนจังก้ากั้นอยู่ แถม คสช.คงมีอยู่ต่อไป และมีอำนาจเหนือ อำนาจทั้ง นิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการอีก สามารถใช้กระบองศักดิ์สิทธิ์นี้ยับยั้งทุกอย่างเพื่อการสร้างสรรได้อีกด้วย ทำงานคู่ขนานเชิงกำกับรัฐบาล ที่จะมีผู้หน้ากลม มีพุง โหดแต่ใจดี เป็นนายกฯ และ รมต.กลาโหม , ประธานสภากลาโหม ช่วงต้น ต.ค.57 เป็นรูปแบบปกครองภูมิปัญญาไทย ที่ตะวันตกมึน จนรัฐบาลตะวันตกแต่ละประเทศอมสากไปแล้ว เหลือแต่ภูติ..เอ้ย..ทูต บางตนเท่านั้น ที่ดิ้นเร่าๆ เหมือนโดนข้าวสารเสก ส่วนตะวันตก ตอนนี้ก็ไม่มีประเทศใดกล้าให้แก็งค์ล้มเจ้าเสรีเทย ใช้ดินแดนของตนเอง เป็นสำนักงานที่ตั้งองค์กร ฯ เพราะเกรงคำว่า "เผาไปเลยพี่น้อง" พอคนแดนไกลมาที่ฮ่องกง ก็โดนหน่วยงานลับของจีน เดิน ตามประกบหน้า ขู่หลัง จนสมุนบริวารแดงขนหัวตั้ง แตกกระเจิงไม่กล้าเข้าใกล้ กลัวโดนหน่วยลับของจีนอุ้ม อ้าว..เหมาโรงแรมหรูฮ่องกงให้บริวารไว้ยกฟลอร์ โดนหน่วยลับจีนขู่แค่เนี้ยะ โล่งโจ้งทั้งชั้นเลย..ป๊อดว่ะ !! @ เสธ น้ำเงิน1 https://www.facebook.com/thailandcoup หมายเหตุ โปรดงดโพสลิ้งใดๆ ทุกชนิด / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหา / ออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้ / โพสภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช./ นำข่าวลือมาโพส ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 23, 2014 (มีการแก้ไข) วันที่ 23 ก.ค.57 ศาลออกหมายจับอดีตรองประธานสภาแดงจอมหมิ่น พ.อ.อภิวันท์ ฉายา "รองโรมานอฟ" แกนนำกลุ่มติดอาวุธแดง นปช. ลูกกะโล่คางคกตู่ เป็น อดีตรองประธานสภาผู้แทนฯ สังกัดขบวนการล้มเจ้าเผาไทย ผู้ขึ้นพูดหลายครั้งบนเวทีอาฆาตมาดร้าย ให้ร้าย และหมิ่นเบื้องสูง เขาจะยกฝรั่งเศสโมเดล และเนปาลโมเดล มาปลุกปั่นแดงเสมอ มานับครั้งไม่ถ้วนนานกว่า 7 ปี รัฐบาลเลือกตั้งไม่ยอมจับ เขาจึงลอยนวลมาตลอด บัดนี้ยุค คสช.ที่มีความจงรักภักดี มากกว่ารัฐบาลเลือกตั้ง ตำรวจ ได้เสนอศาลออกหมายจับเขาเรียบร้อยแล้ว ถ้าเขาอยากรอดคุก จะต้องหนีหัวซุกหัวซุนไปตลอดชีวิต และถ้้าสู้คดีมาตรา 112 นี้ ที่ผ่านมาไม่มีใครรอดคุกเลยสักราย บางคนก็ตายคาคุก ... ... ... ... หากหมิ่นเบื้องสูง และหลักฐานแน่นพอ ในยุคนี้ต้องเก็บคดีเก่าๆ มาโค่นต้นไม้พิษพวกนี้ให้หมดป่า..ใครไม่จงรักภักดี เชิญออกจากประเทศไทย ไปฉลองเช้งเม้งที่ฝรั่งเศสโน่น @ เสธ น้ำเงิน3 https://www.facebook.com/thailandcoup หมายเหตุ โปรดงดโพสลิ้งใดๆ ทุกชนิด / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหา / ออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้ / โพสภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช./ นำข่าวลือมาโพส ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้ ถูกแก้ไข กรกฎาคม 23, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 23, 2014 (มีการแก้ไข) \ “สมเด็จพระเทพฯ” เสด็จพระราชดำเนินเยือนเมืองกัลกัตตา สาธารณรัฐอินเดีย วานนี้ (22 ก.ค. 57) สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปท่าอากาศยานกองบัญชาการ กองทัพอากาศ ดอนเมือง เพื่อประทับเครื่องบิน บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด มหาชน เที่ยวบินพิเศษที่ พีจี 1 เสด็จพระราชดำเนินเยือนเมืองกัลกัตตา สาธารณรัฐอินเดีย มีรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายต่างๆ ทั้งทหาร ตำรวจ ข้าราชการฝ่ายอัยการ แม่บ้านเหล่าทัพ แม่บ้านตำรวจ ผู้แทนสภากาชาดไทย โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และลูกเสือชาวบ้าน เฝ้าทูลละอองพระบาทส่งเสด็จ การเสด็จพระราชดำเนินครั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงนำนักเรียนนายร้อย ชั้นปีที่ 4 พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา และข้าราชการกองวิชาประวัติศาสตร์ โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า ไปทัศนศึกษาสถานที่สำคัญต่างๆของเมืองกัลกัตตา สาธารณรัฐอินเดีย เมืองที่ได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมอินเดีย http://welovethaikin...B8%9E%E0%B8%A3/ ถูกแก้ไข กรกฎาคม 23, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
milo 888 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 23, 2014 แต่ภาพออกมาดูไม่ดีเลย ถ้าข้างล่างเป็นวัดปทุม อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
milo 888 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 23, 2014 สองสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ หากใครได้เล่นเฟซบุ๊คคงจะรู้ดีว่า หน้าเพจของท่านจะเต็มไปด้วยเรื่องราว.. ระหว่างโค้ชเช กับน้องก้อยแทบทุกวัน เรื่องราวใหม่ๆ ข้อมูลต่างๆ ทยอยอัพกันแบบไม่หยุดหย่อน ไม่ใช่แค่ในเฟซเท่านั้น ประเด็นนี้ยังเป็นประเด็นที่พูดถึงกันในสังคมจริงๆ อีกด้วย คำถามที่ถามกันบ่อยคือ “แกคิดว่าใครถูก” “แกเข้าข้างใคร” ซึ่งคำตอบของผมที่ตอบทุกคนจากใจจริงๆ ไม่ใช่ตอบสวยๆ ออกสื่อเท่านั้น คือ “ไม่รู้ใครผิดใครถูก ไม่รู้ว่า ก้อยไร้ระเบียบวินัยขนาดไหน และไม่รู้ว่า โค้ชทำเกินกว่าเหตุหรือเปล่าด้วย ไม่รู้จริงๆ” ถ้าเอากันจริงๆ ผมก็เชื่อว่า หลายคนก็ไม่รู้แบบผม แต่ก็ตัดสินกันไปเสียแล้ว และมองๆ ดู สังคมไทยก็ตัดสินกันไปเสียแล้ว ผมคงไม่อาจไปวิพากษ์วิจารณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ แต่ผมจะพูดถึงเรื่องนี้ ในแง่ของบทเรียนที่เราน่าจะเรียนรู้ได้ จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น สิ่งที่นักศึกษานิเทศศาสตร์ได้เรียนรู้จากเรื่องนี้คือ ทฤษฎีที่เรียกว่า Spiral of Silence ซึ่งเป็นทฤษฎีที่กล่าวว่า คนเราเมื่อรู้ว่าอยู่ในเสียงส่วนน้อย มักจะไม่กล้าแสดงความคิดเห็น แต่เมื่อรู้ว่าตัวเองอยู่ในเสียงส่วนใหญ่ มักกล้าที่จะแสดงความคิดเห็นออกมาเต็มที่ ในกรณีที่เกิดขึ้นนี้ ในช่วงที่ข่าวนี้ออกแรกๆ จะสังเกตเห็นว่ายังไม่ค่อยมีใครวิพากษ์วิจารณ์ฝ่ายใดมากเท่าไหร่ ช่วงนี้ คงต้องเรียกว่า เป็นช่วงทำงานของกองเชียร์เพื่อเรียกเสียงข้างมากมาอยู่กับตนเองให้ได้ กองเชียร์ของแต่ละฝ่ายก็พยายามหาข้อมูลทำลายชื่อเสียงอีกฝ่ายอย่างเมามัน บางฝ่ายก็รีบออกสื่อเพื่อเรียกคะแนนความเห็นใจ พูดแบบนี้ก็คงไม่ผิดนัก ฝ่ายหนึ่งออกสื่อว่าถูกทำร้าย ฝ่ายหนึ่งน้อยใจจะไม่กลับ...เรียกว่า ถ้าเป็นมวยก็สมน้ำสมเนื้อกันพอดู แต่เมื่อกองเชียร์ของโค้ชเกิดเยอะกว่า ลูกศิษย์ลูกหาแห่ออกมาให้กำลังใจกันเยอะกว่า ฝ้ายน้องก้อยที่มานำในช่วงแรกในฐานะผู้ถูกทำร้าย กลับกลายเป็นศิษย์อกตัญญูไปเสียอย่างนั้น เมื่อเสียงส่วนใหญ่เริ่มแห่ไปทางโค้ชเช จึงไม่แปลกที่จะเกิดปรากฏการณ์ โค้ชเชฟีเวอร์ ขึ้น หลายๆ คนเริ่มออกมาชื่นชมโค้ชเช และว่าน้องก้อย โดยกองเชียร์น้องก้อยที่ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ หรือ แค่คนที่ไม่เชียร์โค้ชเชก็จะเงียบและไม่พูดอะไร เพราะกลัวเจ็บตัว จึงไม่แปลกที่คนที่เสียเปรียบหรือฝ่ายแพ้จะดูเหมือนถูกโดดเดี่ยวอยู่บ่อยครั้ง อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้จำนวนคนที่ชอบโค้ชเชมีมากขึ้นๆ เกิดขึ้นจากสิ่งที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Confirmation bias ซึ่งกล่าวว่า คนเรามักจะคิดว่าตัวเองถูก และหาข้อมูลเพื่อสนับสนุนว่าตัวเองถูกอยู่เสมอ และไม่ค่อยสนใจข้อมูลที่ค้านกับความคิดของตัวเอง บรรดาแฟนคลับของโค้ชเช ก็ไม่ผิดแปลกไปจากแนวคิดนี้เท่าไหร่ ต่างคนต่างหาข้อมูลว่า โค้ชเชดีอย่างไร และส่งต่อให้กับใครต่อใคร ส่วนข้อมูลที่ค้านก็หยุดและไม่ส่ง ทำให้กระแสเข้าข้างโค้ชเชหยุดไม่อยู่ คราวนี้น้องก้อยผู้ถูกคนมองว่า ไร้วินัย อกตัญญูจะทำอย่างไร ฝืนสู้ต่อก็มีแต่ด้านลบ จะไปเอาข้อมูลอะไรมาสู้ก็คงไม่ทัน เพราะข้อมูลต่างๆ ก็จะกลายเป็นข้อมูลที่แฟนโค้ชเชที่มีอยู่มากมายไม่รับแล้ว เพราะการรับข้อมูลของคนเรานั้น คนเราจะนำข้อมูลที่ได้มาไปใส่ในส่วนใดส่วนหนึ่งในสมอง นั่นคือ ไม่ใส่ไปในส่วนของเห็นด้วย ก็ใส่ในส่วนของเฉยๆ หรือไม่ก็ใส่ในส่วนของไม่เห็นด้วยหรือต่อต้าน ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ข้อมูลชุดหลังๆ ที่แพร่เพื่อทำลายโค้ชเชนั้นไม่ได้รับการตอบรับเท่ากับข้อมูลที่มาในช่วงแรกๆ เพราะคนรับสารเชื่อในชุดข้อมูลเดิม และต่อต้านชุดข้อมูลใหม่ไปเสียแล้ว ตอนนี้สิ่งที่น้องก้อยจะทำได้คงต้องเลือกว่า จะอยู่ในวงการให้คนเห็นใจโดยการขอโทษ หรือแสดงสปิริตวางมือสักพัก...แต่ถ้าสู้คงมีแต่เสียกับเสีย ส่วนโค้ชเชคงไม่ต้องทำอะไรมาก ให้อภัย หรือไม่ให้ คนก็พร้อมจะเข้าใจโค้ชเชอยู่แล้ว ที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ผมไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใดทั้งสิ้น แต่ถ้าถามผมว่า ผมสงสารใคร คงต้องบอกว่า ผมสงสารและเห็นใจน้องก้อยครับ เพราะความที่เป็นครูมานาน เห็นเด็กวัยรุ่นมากมาย เด็กวัยรุ่นหลายคนคิดว่า ตัวเองถูกเสมอและจะทำในสิ่งที่คิดว่าถูกโดยไม่คำนึงถึงผลที่จะตามมาให้รอบคอบ ซึ่งเป็นเรื่องปกติครับ แต่เราต้องอธิบายให้พวกเขาเข้าใจแค่นั้นเอง การกระทำของน้องก้อย ก็คือ การกระทำของวัยรุ่นทั่วไปที่เมื่อมีแต่คนเอาใจ เป็นคนสำคัญ จึงอาจเผลอคิดว่า ทุกคนต้องยอมฉันและฉันสามารถชนะทุกคนได้ สิ่งที่น้องก้อยขาดไป คือการคิดให้รอบคอบเสียก่อนว่า ถ้าเอาเรื่องนี้ไปฟ้องสื่อ ไปเอาเรื่องโค้ชเขาแล้ว แล้วเราเกิดไม่ชนะ ไม่มีคนเข้าข้างเราแล้ว เราจะทำอย่างไร ได้จะคุ้มเสียไหม ผู้ใหญ่ที่อยู่รอบข้างน้องก้อยไม่ให้คำปรึกษาที่สมควร สำหรับผมหมัดของโค้ชเชที่เกิดขึ้นนี้ ไม่รู้ว่ามันแรงหรือค่อย หรืออาจไม่ใช่หมัด ไม่มีใครทราบ แต่ที่แน่ๆ คือ หมัดนี้ก็สามารถน็อคน้องก้อยได้สนิททีเดียวครับ http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/opinion/nation_u/20140723/594538/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88....html 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
milo 888 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 23, 2014 (มีการแก้ไข) -ซ้ำครับ- ถูกแก้ไข กรกฎาคม 23, 2014 โดย milo อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
anunya01 0 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 23, 2014 งาน PART TIME คีย์ข้อมูล จ่ายรายวัน สำหรับ นักเรียน นักศึกษา พนักงานประจำ หรือผู้ที่ว่างงาน ลักษณะงาน : เป็นการคีย์ข้อมูลผ่านระบบ Internet และ ส่งe-mail โดยจะจัดเตรียมข้อมูลไว้ให้ มีระบบสอนงานให้ก่อน และมีโปรแกรมเฉพาะทาง เพื่อใช้ในการทำงานโดยตรง ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ สามารถรับกลับไปทำที่บ้านได้ คุณสมบัติ 1.อายุ 18 ปีขึ้นไป 2.จบการศึกษา ม.3 ขึ้นไป 3.มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน ที่ได้รับมอบหมาย 4.ถ้ามีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต จะพิจารณาเป็นพิเศษ เอกสารที่ต้องนำมา สำเนาบัตรประชาชน 1 ฉบับ สำเนาบัญชีธนาคารหน้าแรก 1 ฉบับ (ยกเว้นธนาคารออมสิน และ ธกส.) <สนใจติดต่อ> คุณศิรินทรา Tel. 088-8739629 , 089-6637013 กรุณาจดหมายเลขนี้ B-195298 มาด้วยนะค่ะ ที่ตั้ง : ถ.แจ้งวัฒนะ หลักสี่ ม.ราชภัฏพระนคร การเดินทาง รถโดยสารประจำทาง 29ก.,59,95ก,150,356,ปอ.59,ปอ.513,ปอ.356,ปอ.523,ปอ.554,ปอ.524,รถตู้ปากเกร็ด อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 24, 2014 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 24, 2014 ส่วนหนึ่งจากพระนิพนธ์ ของ หม่อมเจ้า ภีศเดช รัชนี เกี่ยวกับการประพาสต้นบนดอย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งกับผู้เข้าเฝ้าฯราวร้อยคน ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐานว่า โครงการหลวงเกิดขึ้นเพราะท่านไปเที่ยว คำว่า “ไปเที่ยว” นี้ เราท่านน่าจะว่า “ประพาสต้น” มากกว่า เพราะนอกจากจะเป็นราชาศัพท์ที่ถูกต้อง แต่ออกจะไม่ใช้กันแล้ว ยังทำให้เราเห็นภาพ พระพุทธเจ้าหลวงเวลาเสด็จประพาสต้น ไปเที่ยวบ้านชาวบ้าน โดยที่เขาไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร จึงไม่ประหม่ามาก คุยคล่องถึงการกินอยู่ ทำให้ท่านสามารถพระราชทานความช่วยเหลือได้ ตามพระราชอัชฌาสัย ส่วนพระราชนัดดา คือรัชกาลที่ 9 ของเรานี้ เมื่อทรงแปรพระราชฐานไปเชียงใหม่ เพื่อทรงตากอากาศ จะเสด็จไปหน้าหนาว จึงเรียกว่าพักร้อนอย่างที่ใคร ๆ เขามักจะเรียกกันไม่ได้ นอกจากนี้ ท่านไม่ได้ทรงพัก แต่มักจะเสด็จดั้นด้นไปทอดพระเนตรชีวิตของคนบนดอย ซึ่งสำหรับคนอื่น ๆ ยังกับว่าอยู่คนละโลกกับเรา เช่นราว 30 ปีมาแล้ว จะไปพระธาตุดอยสุเทพ มีถนนลูกรังที่รถยนต์ขึ้นได้แต่ลำบาก จากนั้น ถ้าจะไปบ้านแม้วดอยปุย ก็ต้องเดินเอา นอกจากจะจ้างเสลี่ยงนั่งให้เขาหาบโยกเยกไป ในเมื่อระยะใกล้ ๆ ต้องใช้เวลานาน เดินทางเช่นนี้ ดอยจึงพ้นหูพ้นตา ของคนไทยส่วนมาก โดยเฉพาะพวกเกษตร เว้นแต่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่หมู่บ้านแม้วใกล้พระตำหนักนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินแบบทรงเดินไป ท่านรับสั่งถามแม้วที่นั่นว่า นอกจากปลูกฝิ่นขายแล้ว เขามีรายได้จากพืชพันธุ์อื่นอีกหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้ถ้าเป็นคนอื่นถึงจะไม่ต้องเป็นตำรวจถามก็ตาม เขาคงบอกว่า “เปล่า ๆ ฝิ่นบ่ดี เฮาบ่ปลูก” และยิ่งกว่านั้น เขาปลูกโดยวิธีที่ทำลายสิ่งแวดล้อม เช่นป่าและหน้าดิน บริเวณต้นน้ำลำธาร เกิดความเสียหาย ที่กระจายลงสู่ส่วนอื่น ๆ ของประเทศอีกด้วย แต่สำหรับกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เขาเห็นได้ชัดว่า ท่านทรงสนพระทัย ทรงเห็นใจเขา มีพระราชประสงค์จะช่วย จึงไม่ปิดบังความจริงอะไร ทำให้ทรงทราบว่า นอกจากฝิ่นแล้ว เขายังเก็บท้อพื้นเมืองขาย ซึ่งแม้แต่ลูกจะเล็กก็ตาม แต่ก็ยังได้เงินเท่า ๆ กัน โดยที่ทรงทราบว่า ที่สถานีทดลองผลไม้เมืองหนาวของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ใกล้พระตำหนักภูพิงค์ ได้เอากิ่งท้อลูกใหญ่ของฝรั่งมาต่อกับต้นตอพันธุ์พื้นเมืองได้ (แต่ยังไม่ทราบว่าท้อฝรั่งพันธุ์ไหนดี) จึงโปรดเกล้าฯ ตั้งโครงการหลวงขึ้น ให้ค้นคว้าหาพันธุ์ที่เหมาะสำหรับบ้านเรา เพราะถ้าลูกใหญ่แล้ว จะต้องทำเงินได้ดีกว่าฝิ่นแน่ นอกจากนี้ ยังมีรับสั่งให้พยายามปลูกพืชเมืองหนาวอย่างอื่น เช่น แอปเปิ้ล สาลี่ พลับ กับผักและดอกไม้ด้วย เพราะผลิตผลเหล่านี้ ถ้านำมาขายในสวนที่ร้อนของเมืองเราแล้ว ควรจะราคาแพงแน่ ดังนั้น โครงการปลูกพืชแทนฝิ่นอันแรกของโลกก็เกิดขึ้น และเมื่อประมาณ 25 ปีต่อมา โครงการควบคุมยาเสพติด ของสหประชาชาติก็ทูลเกล้าฯ ถวายเหรียญทอง เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณในการแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยส่งเสริมให้ชาวเขาเลิกปลูกฝิ่น แต่ปลูกพืชอื่นทดแทน ตามกระแสรับสั่ง โครงการหลวงต้องหาพืชเมืองหนาวมาปลูกบนดอย ซึ่งนอกจากฝิ่นแล้วไม่มีใครทราบว่ามีอะไรที่ปลูกได้ แปลว่าต้องทำโครงการวิจัย คือทดลองมากมาย การวิจัยย่อมต้องใช้คนและเงิน สำหรับคนนั้น แม้แต่ที่เพียบพร้อมด้วยความสามารถก็หาไม่ยาก เพราะเหล่านักวิทยาศาสตร์ทางเกษตร ทั้งจากมหาวิทยาลัยและสถาบัน มีความจงรักภักดีจะทำถวาย โดยเฉพาะเมื่อจะทำงานได้ปลอดโปร่ง ไม่มีแถบแดงพันแข้งพันขา เพราะมีรับสั่งให้ลดขั้นตอน อนึ่ง การที่อาจารย์วิจัยจริง ๆ ก็ได้ เรื่องที่เกิดขึ้นในประเทศเราไปสอน แทนที่จะดูเอาในตำราที่ฝรั่งเขียนไว้สำหรับเรื่องเมืองอื่น ปัจจัยสำคัญอีกส่วนหนึ่งของการวิจัย คือเงินนั้น เราค่อนข้างจะมีจำกัด เพราะต้องขอพระราชทานพระราชทรัพย์มาใช้ แต่วันหนึ่ง เราเผอิญเจอเจ้าหน้าที่ฝ่ายวิจัยของกระทรวงเกษตรอเมริกาที่มาเมืองเราเพื่อแสวงหาหน่วยงานที่ต้องการเงินจำนวนมาก สำหรับหาพืชมาปลูกแทนฝิ่น เพราะประชาชนของเขาติดยาเสพติดกันมากมาย และตอนนั้นมีแต่โครงการหลวงเท่านั้น มีความสามารถแต่ขาดเงิน ผลของการเจรจาระหว่างสองฝ่ายก็คือ กระทรวงเกษตรอเมริกาทำสัญญาจ้างโครงการหลวง ให้วิจัยหาพืชมาปลูกแทนฝิ่น เราได้เงินมาใช้ 150 ล้านบาท ดังนั้น เมื่อคนกับเงินมาเจอกัน ในโครงการหลวง และเมื่อเวลาผ่านไปกว่า 20 ปี เราก็หาพืชสำหรับปลูกบนดอยได้ราว 100 อย่าง แต่ละอย่างมีข้อแม้ว่า ต้องทำรายได้ให้คนปลูก มากกว่าฝิ่น ซึ่งพืชเหล่านี้เป็นผักเมืองหนาวอร่อย ๆ 60 ชนิด ดอกไม้ที่สวยเท่านั้น 20 ไม้ผล 12 และพืชไร่ เช่น ถั่วแดงหลวง ถั่วขาว มันฝรั่ง กับต้นแฟล็กซ์ที่เอาใยมาทอผ้าลินิน และเมล็ดมาคั้นเอาน้ำมันลินสีด นอกจากนี้ เรายังมีพืชในร่ม คือเห็ดอีก 2-3 อย่าง เช่น เห็ดหอมและเห็ดกระดุม เป็นต้น คิดดูผมรู้สึกว่าพืชแต่ละอย่างของเรานั้น ถ้าไม่สวยก็อร่อย ดังนั้น นอกจากจะดีสำหรับผู้ปลูกแล้ว ผู้ซื้อยังได้รับประโยชน์ด้วยมาก ตอนแรก ๆ ถึงแม้เราจะไม่มีพืชใหม่ ๆ มาส่งเสริมให้ปลูกบนดอยมากนักก็ตาม เราก็พยายามเอาผลการวิจัยจะใช้ให้เป็นประโยชน์ โดยทำสิ่งที่ควรทำให้ครบถ้วนตามขั้นตอน ซึ่งการกระทำเช่นนี้เรียกกันว่า “ครบวงจร” แต่ต้องขออธิบายด้วยว่า วงของเรานี้มีหลายวง ที่ต่างก็สัมผัสกันแบบตราของโอลิมปิก และแต่ละวงไม่ได้นิ่งอยู่กับที่ แต่ขยายใหญ่ออกไปมากบ้างน้อยบ้าง โดยทุกวงมีผลสะท้อนไปยังวงอื่น ๆ วงแรกที่เราต้องกระทำคือ สำรวจดินและน้ำ สำหรับเรื่องของดิน เราต้องทราบอย่างแน่นอนว่า ส่วนไหนเป็นบริเวณที่ชัน ดินไม่ดี หรือไม่ก็หน้าดินตื้น ที่เหล่านี้ เรากำหนดให้เป็นป่า โดยขีดเส้นกั้นอย่างชัดแจ้ง กันไม่ให้ไร่ไหลมากินที่ป่า กับทั้งไม่ให้มีการปลูกป่า ในที่ซึ่งเหมาะแก่การทำไร่นาสวนอีกด้วย วงต่อไปก็คือ ปลูกป่าในที่ซึ่งควรเป็นป่า แต่โล้นเตียนไปแล้ว โครงการเราส่งเสริม “ป่าชาวบ้าน ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา” ดังเราจะกล่าวถึงต่อไป เมื่อทรงตั้งโครงการหลวงแล้วไม่นาน เวลาเสด็จประพาสต้นบนดอยก็ประกอบด้วยการปีนป่ายเขามาก ในเรื่องนี้ ผมถูกพวกในวังที่ต้องเดินตามเสด็จนินทามากมายว่า นำเสด็จด้วยพระบาทไปเป็นชั่วโมง ๆ เพื่อให้ทอดพระเนตรต้นกาแฟเพียง 2-3 ต้น ซึ่งก็จริงอยู่ แต่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีรับสั่งเองว่า การที่เสด็จไปนั้นทำให้ชาวเขาเห็นว่ากาแฟนั้นสำคัญ จึงสนใจที่จะปลูก บัดนี้ กาแฟบนดอยมีมากมาย และก็เริ่มเรื่องจาก 2-3 ต้นนั้นเอง เรื่องหนึ่งซึ่งผมเห็นว่า ออกจะประหลาดเกี่ยวกับการประพาสต้น ก็คือ สมเด็จพระบรมราชินีนาถ สำหรับทุกท่าน รวมทั้งผู้ชาย การตามเสด็จเป็นเรื่องที่หนักหนา (ไม่นับสมาชิกโครงการหลวง ที่เดินขึ้นดอยเป็นอาชีพ) เวลาปีนเขาชัน ๆ หน่อย ผมยังจำเสียงคล้ายกับรถจักรไอน้ำจูงขบวนรถไฟขึ้นเขาหันกลับไปดูก็เห็นทหาร ในขบวนหอบเป็นจังหวะ หนักอย่างนี้แล้ว ทำไมสมเด็จฯ พระวรกาย "อรชร อ้อนแอ้น" จึงตามเสด็จฯ ได้ด้วยพระพักตร์อันยิ้มแย้ม? การที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จประพาสต้นบนดอยนี้เป็นเหตุและเยี่ยงอย่างให้พวกเราเที่ยวดั้นด้นบนดอยด้วยความภูมิใจจนตราบเท่าทุกวันนี้ เรามักจะเจออะไรแปลก ๆ สนุก ๆ และดี ๆ จึงคิดว่าควรจะเอามาเล่าสู่กันฟังเป็นการเฉลิมพระเกียรติให้ทราบกันว่า การช่วยชาวเราด้วยการช่วยชาวเขานั้น เกิดขึ้นได้อย่างไร I Will Do For King อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 24, 2014 "เรื่องที่จะช่วยชาวเขาและโครงการชาวเขานั้น มีประโยชน์โดยตรงกับชาวเขา ที่จะส่งเสริมและสนับสนุนให้ชาวเขามีความเป็นอยู่ดีขึ้น สามารถเพาะปลูกสิ่งที่เป็นประโยชน์ และเป็นรายได้กับเขาเอง ที่มีโครงการนี้จุดประสงค์อย่างหนึ่งก็คือ มนุษยธรรม หมายถึงให้ผู้ที่อยู่ในถิ่นทุรกันดารสามารถที่จะมีความรู้และพยุงตัว มีความเจริญได้ อีกอย่างหนึ่งก็เป็นเรื่องช่วยในทางที่ทุกคนเห็นว่าเขาจะเลิกปลูกยาเสพติด คือ ฝิ่น ทำให้นโยบายการระงับ การปราบปรามการสูบฝิ่นและการค้าฝิ่นได้ผลดี อันนี้เป็นผลอย่างหนึ่ง ผลอีกอย่างหนึ่งซึ่งสำคัญมากก็คือ ชาวเขาเป็นผู้ทำการเพาะปลูก โดยวิธีที่จะทำให้บ้านเมืองของเราไปสู่หายนะได้ โดยที่ถางป่าแล้วปลูก ก็เท่ากับช่วยบ้านเมืองให้มีความดี ความอยู่กินดี และความปลอดภัยได้อีกทั่วประเทศ เพราะถ้าสามารถทำโครงการนี้ได้สำเร็จ ให้ชาวเขาอยู่เป็นหลักเป็นแหล่ง สามารถที่จะอยู่ดีกินดีพอสมควร และสนับสนุนนโยบายที่จะรักษาป่าไม้ รักษาดิน ให้เป็นประโยชน์ต่อไป ประโยชน์อันนี้จะยั่งยืนมาก" พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากภาพ: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทอดพระเนตรกิจการร้านค้าชาวเขาที่บ้านแม้วดอยปุย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 24, 2014 หน่วยเฉพาะกิจสันติสุข จังหวัดชายแดนใต้ วันที่ 23 ก.ค.57 “กิจกรรมหมอเดินเท้าเข้าชุมชน” ชุดทักษิณสัมพันธ์ \ ร่วมกับ ชุดสันติสุข ดำเนินกิจกรรมหมอเดินเท้าเข้าชุมชน ออกบริการรักษาพยาบาลเบื้องต้นให้กับ ปชช. ในพื้นที่ บ.บละแต ม.๔ ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 24, 2014 (มีการแก้ไข) วันที่ 22 ก.ค.57 ไขปริศนา..นายกรัฐมนตรีคนต่อไป ลำดับที่ 29 ของราชอาณาจักรไทย..เขาคือใคร? พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผบ.ทบ. ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานประชุม คสช. ครั้งที่ 7/2557 โดยมีรองหัวหน้า คสช. เลขาธิการ คสช. เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เข้าร่วมประชุมกันโดยพร้อมเพรียง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวเปิดประชุมว่า ในวันนี้มีภารกิจสำคัญต้องเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรับพระราชทานรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ที่ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว จากนั้นเวลา 16.45 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ พระตำหนักเปี่ยมสุข วังไกลกังวล อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ที่ทรงลงพระปรมาภิไธยแล้ว ** ดูและดาวโหลด รายละเอียดทุกมาตราจากราชกิจจานุเบกษาที่http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2557/A/055/1.PDF รัฐธรรมนูญ คือ กฎหมายสูงสุดในการปกครองประเทศไทย เปรียบเสมือนโครงสร้างหลักของประเทศ และจะมีกฎหมายอาญา แพ่ง ปกครอง และกฎหมายลูกอื่นๆ อีกมากมาย ที่จะต้องตราขึ้นใหม่ และแก้ไขของเดิม ให้สอดรับกับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ โลกเปลี่ยนไปแล้ว แยกการเมืองการปกครองในโลกนี้ออกเป็น 2 ค่ายสำนักคิด คือ ตะวันตก ทุนนิยมสุดโต่ง และตะวันออก อนุรักษ์นิยม รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวนี้ จึงออกแนวไปทางตะวันออก ที่มีการและเป็นรูปแบบที่มีลักษณะเฉพาะของภูมิปัญญาไทย เศรษฐกิจพอเพียง อนุรักษ์นิยม ที่เหมาะสมกับประเพณี วัฒนธรรม ของไทย โดยไม่ลอกเลียนฝรั่งหัวแดงมา รัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราวพุทธศักราช 2557 นี้ ให้ไว้ ณ วันที่ 22 กรกฎาคม 2557 เป็นปีที่ 69 ในรัชกาลปัจจุบัน ความเป็นมาโดยย่อของรัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราว คือ เกิดสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมืองขึ้นในกรุงเทพ และ พื้นที่ใกล้เคียงต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน จนลุกลามไปสู่แทบทุกภูมิภาคของประเทศ ประชาชนแตกแยกเป็นฝ่ายต่าง ๆ ขาดความสามัคคี และมีทัศนคติไม่เป็นมิตรต่อกัน บางครั้งเกิดความรุนแรง ใช้กำลังและอาวุธสงครามเข้าทำร้ายประหัตประหารกัน สวัสดิภาพและการดำรงชีวิตของประชาชนไม่เป็นปกติสุข การพัฒนาเศรษฐกิจและการเมืองการปกครองชะงักงัน กระทบต่อการใช้อำนาจในทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร และในทางตุลาการ การบังคับใช้กฎหมายไม่ได้ผล นับเป็นวิกฤติการณ์ร้ายแรงที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน แม้หลายฝ่ายจะพยายามแก้ไขปัญหาด้วยกลไกและมาตรการต่างๆ และพยายามปรองดองกัน แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ กลับจะเกิดข้อขัดแย้งใหม่ เป็นวังวนแห่งปัญหาไม่รู้จักจบสิ้น ในขณะที่ความขัดแย้งได้ขยายตัวกว้างขวางออกไป และมีแนวโน้มจะรุนแรงมากขึ้น จนถึงขั้นจลาจลได้ทุกขณะ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อชีวิต ทรัพย์สิน ความสะดวกสบายของประชาชนผู้สุจริต กระทบต่อการทำมาหากินและภาวะหนี้สินของเกษตรกร โดยเฉพาะชาวนา การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ การป้องกันปัญหาจากภัยธรรมชาติ ความเชื่อถือในอำนาจรัฐ และความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ ทั้งยังเปิดช่องให้มีการก่ออาชญากรรม และความไม่สงบอื่นเพิ่มขึ้น อันจะเป็นการทำลายความมั่นคงของชาติ และความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขในที่สุด คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จึงจำเป็นต้องเข้ายึด และควบคุมอำนาจการปกครองประเทศเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และประกาศให้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2550 สิ้นสุดลง “ ยกเว้นความในหมวด 2 พระมหากษัตริย์ “ โดยกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาไว้ 3 ระยะ คือ - ระยะเฉพาะหน้า เป็นการใช้อำนาจสกัดการใช้กำลังและการนำอาวุธมาใช้คุกคามประชาชน ยุติความหวาดระแวงและแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองการปกครอง ที่สะสมมากว่า 6 เดือนให้คลี่คลายลง - ระยะที่สอง จัดให้มีรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว จัดตั้งสภาขึ้นทำหน้าที่ในทางนิติบัญญัติและให้มีคณะรัฐบาลบริหารราชการแผ่นดิน แก้ไขสถานการณ์อันวิกฤติให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ ฟื้นฟูความสงบเรียบร้อย ความรู้รักสามัคคี และความเป็นธรรม แก้ปัญหาเศรษฐกิจ สังคม การเมืองการปกครอง จัดให้มีกฎหมายที่จำเป็นเร่งด่วน จัดตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติและองค์กรต่าง ๆ เพื่อให้มีการปฏิรูปในด้านการเมืองและด้านอื่น ๆ และให้มีการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่วางกติกาการเมืองให้รัดกุม เหมาะสม ป้องกันและปราบปรามการทุจริต สามารถตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็ว และเป็นธรรม - ระยะที่สาม การจัดการเลือกตั้ง ส่งมอบภารกิจ แก่ผู้แทนปวงชนชาวไทย และ คณะรัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินในระยะต่อไป รัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราวพุทธศักราช 2557 นี้ มีจำนวนทั้งสิ้น 48 มาตรา สาระสำคัญ คือ ได้บัญญัติพระราชอำนาจไว้อย่างชัดเจน ทรงไว้ซึ่งพระราชอำนาจในการตราพระราชกำหนด และพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ ทำหนังสือสัญญากับนานาประเทศ และ แต่งตั้งข้าราชการ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรตามรัฐธรรมนูญ และพระราชอำนาจในการอื่นๆ ตามประเพณีการปกครองประเทศไทย ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 1. ฝ่ายนิติบัญญัติ มีอำนาจหน้าที่ในการกำหนดกฎหมาย และพิจารณาสนธิ สัญญาที่เกี่ยวพันกับต่างประเทศ มีอำนาจให้ความห็นชอบแต่งตั้งและถอด ถอนนายกรัฐมนตรี ควบคุมการบริหารของนรัฐบาลโดยจำกัดเพียงตั้ง กระทู้ถามแต่ไม่รวมถึงการอภิปรายเพื่อซักฟอก รวมถึงให้ความเห็นชอบ การดำรงตำแหน่งของบุคคลบางตำแหน่ง - มีสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) 220 คน ทำหน้าที่ออกกฎหมาย - อายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี ( ลูก หลาน นักการเมื่ออายุต่ำกว่านี้ กินแห้ว ) - ไม่เคยดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมืองภายในเวลา 3 ปี (นักการเมืองร้องจ๊ากเป็นแถว) - ห้ามดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี หรือสมาชิกสภาปฏิรูป ในเวลาเดียวกัน - หัวหน้า คสช.จะ คัดเลือกเอง ..อิอิ 2. สภาปฏิรูป (สปร.) ทำหน้าที่ พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่คณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญเสนอมา และยังมีหน้าที่กำหนดวาระการปฏิรูปประเทศ - มีสมาชิกสภาปฏิรูป (สปร.) 250 คน มีที่มาจาก 2 กลุ่ม คือ - ตัวแทนจังหวัด เสนอชื่อให้ คสช. 5 คน และ คสช. คัดให้เหลือ 1 คน รวม 77 คน..อิอิ - ตัวแทนกลุ่มอาชีพ 1 ด้าน ได้แก่ ด้านการเมือง กฎหมาย การ ปกครองส่วนท้องถิ่น การศึกษา เศรษฐกิจ สาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม พลังงาน สื่อสารมวลชน และอื่นๆ - มีคณะกรรมการสรรหาด้านละ 1 ชุด ใช้วิธีเสนอชื่อ...อิอิ - ต้องมีองค์กรหรือนิติบุคคลหรือ สถบันการศึกษาเสนอชื่อเข้ามาได้องค์กรละ 2 คน - รวมแล้วได้รายชื่อ 550 คน ส่งให้ คสช. เลือกเหลือ 173 คน..อิอิ - นำไปรวมกับตัวแทนจังหวัด แล้วจะถูก คสช. คัดเลือกให้เหลือ 250 คน..อิอิ 3. คณะกรรมาธิการยกร่าง รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ - มีจำนวน 36 คน - ต้องไม่เคยดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองอย่างน้อย 3 ปีย้อนหลัง..อิอิ - ไม่เคยอยู่ในองค์กรอิสระ..อิอิ - ต้องร่างภายใต้กรอบสำคัญ อาทิ กรอบของสภาปฏิรูปแห่งชาติ และกรอบของ รธน.ชั่วคราว เป็นต้น ** ทั้ง สนช. และ สปร. จะได้รับการแต่งตั้งภายในเดือน กันยายน 57 เพื่อเดินหน้าเฟสที่สอง ที่จะใช้เวลาไม่เกิน 1 ปี 4. ฝ่ายบริหาร มีหน้าที่ ด้านการบริหารประเทศ - นายกรัฐมนตรี เกิดจากมติของสภานิติบัญญัติ ที่ คสช.ตั้ง..อิอิ - นายกฯ ต้องไม่เคยดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองภายในเวลา 3 ปี..อิอิ - นายกฯ ตั้งรัฐมนตรีอื่นๆ อีกไม่เกิน 35 คน - คสช. สามารถเสนอให้ สภานิติบัญญัติ ลงมติให้นายกฯ พ้นจากตำแหน่งได้..อิอิ 5. คณะรักษาความสงบแห่งชาติ - ให้คงอำนาจของ คสช. ไว้อยู่ต่อ รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง - หัวหน้า คสช.จะเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติม ผู้ดำรงตำแหน่งใดใน คสช.ก็ได้ แต่ไม่เกิน 15 คน..อิอิ - มีอำนาจเสนอแนะให้ ครม. พิจารณาปฏิบัติในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง - จัดประชุมร่วมระหว่าง คสช. กับ ครม. - คณะรัฐมนตรี และ คสช. จะมีมติร่วมกันให้แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญนี้ก็ได้..อิอิ - โดยจัดทำเป็นร่างรัฐธรรมนูญ เสนอต่อ สนช. ที่ คสช.แต่งตั้งมา ( อิอิ) เพื่อให้ความเห็นชอบ มาตรา 44 ยักษ์มีกระบองไว้ทุบยามฉุกเฉิน - ในกรณีที่หัวหน้า คสช. เห็นเป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการปฏิรูปในด้านต่าง การรักษาความมั่นคง ไม่ว่าจะเกิดขึ้นภายใน หรือ ภายนอกราชอาณาจักร ให้หัวหน้า คสช.มีอำนาจสั่งการระงับยับยั้ง หรือกระทำการใด ๆ ได้ ทางนิติบัญญัติ ในทางบริหาร หรือ ในทางตุลาการ (มีอำนาจเหนือ 3 อำนาจเบย..ขึ้นอยู่กับว่าจะเรียกใช้อำนาจเมื่อไรเท่านั้น ) - และให้ถือว่าคำสั่ง หรือการกระทำ รวมทั้งการปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว เป็นคำสั่งหรือการที่ชอบด้วยกฎหมาย และเป็นที่สุด..อิอิ..หมัดเด็ดมาก ** รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ห้าม หัวหน้า คสช. เป็นนายกฯ “ในเวลาเดียวกัน พร้อมกันได้” และยังสามารถควบเป็น รมต.กลาโหม ซึ่งเป็นประธานสภากลาโหมโดยตำแหน่งอีกด้วย..และแนวโน้มว่าบิ๊ก 3 สี จะไม่ต่ออายุราชการ และรับปากใครบางคนว่าจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของ ครม.ใหม่ นั่นหมายถึงตำแหน่งข้าราชการใน 3 กองทัพ จะไหลขึ้นตามปกติ แม่ทัพภาค ก็จะไหลขึ้นเป็น 5 เสือ ทบ.อีก..อันจะทำให้นายกฯ คนใหม่ –หัวหน้า คสช.กระชับอำนาจได้เบ็ดเสร็จมากขึ้นกว่าเดิม เสมือนตำแหน่งนายกเป็นยักษ์ ตำแหน่งหัวหน้า คสช.เป็นกระบอง ถ้ายักษ์และกระบอง คือ คนๆ เดียวกัน ก็จะมีอำนาจเต็มมาก..นายกฯ และ บุคคลผู้นั้น ก็สามารถใช้อำนาจตามมาตรา 44 ได้อีกด้วย..หมากเกมส์นี้ได้ 3 เด้งเลย !! มาตรา 48 บรรดาการกระทำทั้งหลาย ซึ่งได้กระทำเนื่องในการยึดและควบคุมอำนาจการปกครองแผ่นดิน เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ก่อน – หลัง ของหัวหน้า และ คสช. รวมทั้งการกระทำทั้งหลายทุกสิ่งทุกอย่าง ถูกกฎหมายทั้งหมด..อิอิ 6. รัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังเน้นปิดจุดสำคัญอีก 3 จุด คือ - การรับรองความเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียวจะแบ่งแยกมิได้...เพราะในช่วงที่มีความขัดแย้งอย่างสูง เผาไทยถึงขั้นปลุกปั่นมวลชนของฝั่งตัวเอง ถึงขั้นแบ่งแยกประเทศกันอยู่ จึงมีการระบุให้ชัดเจน - การให้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่เหมาะสมกับสภาพสังคมของไทย..ในช่วงที่ผ่านมาเผาไทย และกลุ่มติดอาวุธ นปช.มีการนำสถาบันฯ ไปเป็นส่วนหนึ่งของปลุกปั่นมวลชน มีการวิพากษ์วิจารณ์กันกว้างขวาง ถึงความเหมาะสมของระบอบการปกครองของประเทศไทย - กลไกที่มีประสิทธิภาพที่ทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยเฉพาะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและพรรคการเมือง สามารถปฏิบัติหน้าที่หรือดำเนินกิจกรรมได้โดยอิสระ ปราศจากการครอบงำหรือชี้นำ โดยบุคคลหรือคณะบุคคลใด ๆ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย...เพื่อป้องกัน “บุคคลภายนอก” เช่น คนแดนไกล ที่มีบารมีมากกว่า “รัฐบาล-ข้าราชการ” เข้ามาบังคับบัญชาสั่งการ เบื้องหลังรัฐธรรมนูญฉบับนี้ บิ๊กสีเขียว มอบหมายให้มีการตั้งคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะพิเศษ ขึ้นมา เพื่อจัดทำร่าง “รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว” เป็นกาลเฉพาะ คนสำคัญประกอบด้วย มีชัย ฤชุพันธุ์ ,วิษณุ เครืองาม, บวรศักดิ์ อุวรรณโณ, พรเพชร วิชิตชลชัย ตอนแรกที่ คสช.ตั้งที่ปรึกษาชื่อคุ้นๆ นี้ ช่วงนั้นมีภาคประชาชนบางกลุ่มก็ดิ้นๆ ว่าเคยรับใช้คนแดนไกลมาก่อน แต่ เสธ บอกแต่แรกแล้วว่าให้ใจเย็นๆ อดีตเก่าคนอย่าไปคำนึงถึง ทุกคนมีความหลังไม่มากก็น้อย ใช้คนเก่ามาปิดจุดอ่อน คือ แม่ทัพที่ฉลาดเฉลียว ดั่งตำราซุนวู ไม่ต้องพูดมากเหมือนนักการเมือง พอเขาร่างมาก็แก้จนกว่าจะเหมาะสม พอใจ กลายเป็น " รัฐธรรมนูญฉบับรังเกียจนักการเมือง" ขึ้นมาตามที่เห็น ดาบนักรบ ไม่ต้องชักพร่ำเพรื่อให้เปลืองแรง แต่ออกจากฝักแว๊บเดียวฟันฉั่วขาดสะพายแล่งเลย ถ้าอยากรู้ว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีประโยชน์ต่อประชาชนหรือไม่ ดูไม่ยาก..ถ้ามีนักการเมือง และเครือข่ายออกมาดิ้นๆๆ ยุแยง นั่นแหละคือตัวชี้วัดว่ามันเจ๋ง สุดท้ายคนเก่าก็ทำได้ดี ปิดช่องว่าง ให้ยักษ์มีกระบองอันเบ้อเร่อ ยืนจังก้า ซ่อนอาวุธลับลวง พราง เสียจนนักแสวงโชคทางการเมืองจุกอก อึ้ง ทึ่ง เสียว ไปตามๆ กัน..ผู้รู้จึงกล่าวเตือนใจคนชอบติ และโวยวาย ตีตนไปก่อนไข้ ว่า “ แม้เป็นเรื่องจริง หากยังไม่ถึงเวลาที่ควรติ-ชม ก็อย่าไปติ หรือ ชม นิ่งไปเสียดีกว่า “ เวลาเท่านั้นที่จะพิสูจน์ผลงานของเขา แต่หาใช่อดีตของเขาเหล่านั้นไม่ ส่วน พรเพชร เขาเป็นนักกฎหมายคนแรกที่ บิ๊กสีเขียว ได้เชิญเข้าไปช่วยงานด้านกฎหมายให้แก่ คสช. เขาเคยดำรงตำแหน่งผู้พิพากษาศาลฎีกา ประธานศาลอุทธรณ์ ภาค 4 ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา เคยเป็นองค์คณะฟาดฟันคดีคนแดนไกล ในคดีสำคัญๆ มานับนับไม่ถ้วน เป็นอดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ปี 2549 และเมื่อปี 2556 เขาได้รับการสรรหา ให้มาดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน แทนประวิช ที่ลาออกไปดำรงตำแหน่งคณะกรรมการการเลือกตั้ง อารมณ์ ความรู้สึก วิธีการ ของผู้บริหารประเทศ แต่ละคนมีหลายแบบ การประชุม คสช. เพื่อบริหารราชการแผ่นดิน ที่นำโดย บิ๊กสีเขียว ได้อนุมัติงบประมาณเพื่อการบริหารประเทศไปแล้วจำนวนมาก และอนุมัติไปแล้วหลายโครงการ ทั้งโครงการใหม่-โครงการเก่า-โครงการผูกพันข้ามปี ผู้เข้าร่วมประชุม ส่วนใหญ่จะเป็นบิ๊กทหาร ซึ่งมีตำแหน่งใน คสช. มีบีกสีเขียว นั่งหัวโต๊ะเป็นประธานในที่ประชุม และมี คสช. นั่งร่วมประชุมตามลำดับ มีบิ๊กข้าราชการพลเรือนเข้าร่วมประชุม เช่น เลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการสภาพัฒน์ฯ ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เพียงเท่านั้น ส่วนปลัดกระทรวง จะนั่งรออยู่อีกห้องหนึ่ง เมื่อมีวาระที่เกี่ยวข้องเท่านั้น จึงถูกเรียกให้มาชี้แจงต่อที่ประชุม คสช. โดย เลขาธิการ ครม. เป็นคนรวบรวมวาระการประชุม และจัดลำดับผู้เข้าชี้แจงเกือบทั้งหมด ทำงานประสานกับ รอง ผบ.ทบ. เลขาธิการ คสช. บิ๊กสีเขียว จะขึงขังกับการใช้งบประมาณมากที่สุด มักจะพูดกับ บิ๊กข้าราชการ ที่เข้ามานำเสนอโครงการเข้าสู่ที่ประชุม คสช. อยู่หลายครั้ง ตัวอย่าง คีย์เวิร์ดที่ บิ๊กสีเขียว ชอบพูดกลางวงประชุม คสช. ที่สำคัญ เช่น - ผมฟังคุณแล้วถ้าทำแบบนี้ตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนนี้ประเทศไทยกลายเป็นประเทศมหาอำนาจไปแล้ว - ผมให้โอกาสคุณไปแล้ว ก็ไปทำให้ดีแล้วกัน ไม่งั้นละน่าดู - ผมอนุมัติงบไปแล้วขอให้ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า เรื่องหัก 30 เปอร์เซ็นต์ ไม่ต้องเอามาให้ผม ไม่ต้องเอามาให้ คสช. เราไม่เอาสักบาทเดียว ให้เอางบประมาณไปใช้พัฒนาประเทศ เมื่อ บิ๊กสีเขียว พูดเสร็จ บิ๊ก คสช.-บิ๊กข้าราชการ บางคนอมยิ้ม บางคนเงียบ ทำให้ บิ๊กข้าราชการ รับไปเป็นนโยบายปฏิบัติงานกันอย่างขึงขัง เพราะไม่สามารถเดาได้ว่าคีย์เวิร์ดที่ บิ๊กสีเขียว ส่งถึงจะพูดแกมหยอกหรือพูดจริงจัง ดังนั้น บิ๊กข้าราชการ จึงต้องทำงานเกิน 100 % เอาไว้ก่อน..นี่คือเบื้องหลังที่มาว่าทำไมช่วงนี้ข้าราชการฟิตกันจัง ไม่งั้นก็จะเด้งดึ๋งๆๆ ไปเป็นร้อยคนตามที่เห็น ที่ผ่านมาในการประชุมต่างๆ หากหน่วยงานจ่ายค่าเบีี้ยประชุมให้บิ๊กสีเขียวหัวหน้า คสช.ท่านจะใส่ซองคืนหน่วยงานนั้นๆ เซ็นต์ชื่อเฉพาะลงทะเบียนประชุม แต่ไม่เซ็นชื่อรับค่าเบี้ยประชุม เพื่อประหยัดให้กับราชการ และเฉลยเหตุผลว่า ท่านมีเงินเดือน ผบ.ทบ.มากพออยู่แล้ว และที่ทำงานต่างๆ อยู่ก็เพื่อชาติบ้านเมือง และการประชุมก็เป็นงานตามตำแหน่ง และหน้าที่รับผิดชอบของท่านรับผิดชอบอยู่แล้ว ล่าสุดมีคำสั่งให้ทหารจากกรมโยธาธิการ เร่งเปลี่ยนเครื่องสุขภัณฑ์ ภายในห้องน้ำทุกห้องในตึกไทยคู่ฟ้าใหม่ทั้งหมด โดยเฉพาะห้องทำงานของ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ก่อนหน้านี้ “โถปัสสาวะชาย ” ถูกถอดออกไป ในสมัยของ ปูเน่า มีคำสั่งให้เร่งนำ “โถปัสสาวะชาย “ กลับมาติดตั้งดังเดิม ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวอย่างสุขภัณฑ์แบบเหมาะสมไม่แพง ไปให้ว่าที่ นายกฯ คนใหม่ เลือกตามอัธยาศัย นอกจากนี้ ยังสั่งให้นำโคมไฟทุกดวงลงมาทำความสะอาด ถอดผ้าม่าน และพรมปูพื้นไปซักทำความสะอาด รวมทั้งเปลี่ยน ผ้าบุโซฟา และ ผ้าบุเก้าอี้ ภายในห้องรับรองทั้งหมด ทั้ง ห้องสีงาช้าง ห้องสีเขียว และ ห้องสีม่วง ทั้งนี้ เพื่อให้สีของที่นั่งเป็นไปในโทนเดียวกัน แต่ไม่รู้ท่านเลือกโทนลายพราง หรือเปล่า และไม่รู้มีบังเกอร์ ประดับดอกไม้ชมพูด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรีของไทย คนต่อไปคือลำดับที่ 29 ของไทย จะเป็นใครยังไม่รู้แต่ที่แน่ๆ เป็นผู้ชาย ที่จงรักภักดีแน่นอน..อาจหน้ากลม แก้มยุ้ย ลงพุง โหด แต่ใจดี..คริคริ ขออัญเชิญ พระบรมราโชวาท ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2512 “ ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติ สุขเรียบร้อย จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากอยู่ที่การส่งเสริมให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้" @ เสธ น้ำเงิน1 https://www.facebook.com/topsecretthai หมายเหตุ โปรดงดโพสลิ้งใดๆ ทุกชนิด / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหา / ออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้ / โพสภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช./ นำข่าวลือมาโพส ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้ ถูกแก้ไข กรกฎาคม 24, 2014 โดย ginger 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 24, 2014 วันที่ 24 ก.ค.57 ประท้วงใหญ่อิสราเอล ที่ซิดนีย์ ออสเตรเลียอีกแล้ว วันก่อนมีการจัดชุมนุมใหญ่ ที่เมืองซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลย แสดงการประท้วงอิราเอล ที่ฆ่าล้างเผ่าพันธ์ ชาวปาเลสไตน์ เพื่อไล่ชิงดินแดนอันน้อยนิด ใครจะรู้บ้างว่า ที่ออสเตรเลีย นี่แหละเป็นที่รับสมัครเยาวชน เพื่อฝึกอาวุธที่นี่เลย แล้วไปปฏิบัติการทางทหารแถวตะวันออกกลางหลายประเทศ เช่น การระเบิดพลีชีพ ที่อิรักเมื่อวันก่อน ก็ฝีมือนักรบออสเตรเลีย อายุแค่ 18 ปีเท่านั้น นี่หรือประเทศที่เรียกร้องให้ไทยเป็นประชาธิปไตย ประเทศตนเอง ยังหนุนการก่อการร้ายแบบลับๆ ในประเทศอื่นอยู่เลย ตอนนี้ยอดการตายของ พลเรือนปาเลสไตน์พุ่งไปกว่า 600 คน บาดเจ็บเกิน 5,000 คนแล้ว แล้วคิดดูว่าเด็ก 25% มันจะมากกี่คน ผู้หญิง คนแก่ อีก พวกเขาไม่ได้เป็นนักรบอะไรเลย ในฉนวนการ์ซ่าตอนนี้ ตึกทุกหลังโดนถล่มไล่ที่พังหมดเลย ไม่มีแม้แต่ที่จะหลบความร้อน คนปาเลสไตน์จะร้อน และอดน้ำตายอีกจำนวนมาก ในท่ามกลางระเบิดขนาดใหญ่ลงตลอดเวลา..ชัดไหมว่านี่คือ "ระเบิดไล่ที่" ที่บอกมาแต่แรก แต่บางคนไม่เชื่อ @ เสธ น้ำเงิน4 https://www.facebook.com/thailandcoup อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ กรกฎาคม 24, 2014 (มีการแก้ไข) วันที่ 24 ก.ค.57 กองกำลังติดอาวุธนิยมรัสเซีย สอยเครื่องบินรบ Su-25 ยูเครนร่วง 2 ลำอีกแล้ว ได้เกิดเหตุปะทะกันอย่างดุเดือดระหว่าง กองกำลังติดอาวุธนิยมรัสเซีย และกองทัพยูเครนในแคว้นโดเนตส์ โดยมีการระดมยิง และระเบิดใกล้กับสนามบิน และสถานีรถไฟ ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ต่อมาขณะที่เครื่องบินรบ Su-25 กำลังให้การสนับสนุนทางอากาศ แก่กองทหารราบของรัฐบาลยูเครน ได้ถูกกองกำลังติดอาวุธนิยมรัสเซีย ยิงตกด้วยจรวดทั้ง 2 ลำ ใกล้กับหมู่บ้าน ดมีทริฟกา ห่างจากจุดที่เที่ยวบิน MH17 ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ มุ่งไปทางชายแดนรัสเซีย ราว 45 กิโลเมตรตกในพื้นที่ยึดครอง ใกล้บริเวณใกล้เคียงกับที่เที่ยวบิน MH17 ตก นักบินจากเครื่องบินรบทั้ง 2 ลำดีดตัวออกมาได้ทัน แต่ยังไม่มีการให้รายละเอียดว่าพวกเขารอดชีวิตมาได้ในสภาพใด สื่อมวลชนของค่ายไซออนนิสต์ AFP พยายามเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ แต่ต้องล่าถอยออกมา เพราะกองกำลังติดอาวุธฯ กราดยิงเข้าใส่รถยนต์ของพวกเขา ขณะแล่นอยู่ห่างจากหมู่บ้าน ดมีทริฟการาว 10 กิโลเมตร เครื่องบินรบ Su-25 ยูเครน บินให้ว่อน เพื่อโจมตีภาคพื้นดิน..มิน่า ถึงใช้เครื่องรุ่นนี้ บินตามหลังเครื่องมาเลย์ MH17 แค่ 3 กม.เท่านั้น..แล้ว...??? @ เสธ น้ำเงิน4 https://www.facebook.com/thailandcoup หมายเหตุ โปรดงดโพสลิ้งใดๆ ทุกชนิด / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหา / ออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้ / โพสภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช./ นำข่าวลือมาโพส ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้ วันที่ 24 ก.ค.57 รัสเซีย ส่งเรือรบ และเรือดำน้ำลำใหม่เข้าไปประจำการรับมือนาโต้ ภายหลังมอสโกผนวกคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งเป็นดินแดนเก่าของยูเครน เข้าเป็นส่วนหนึ่งของประเทศได้เพียงไม่กี่เดือนก่อน เมื่อเดือนที่แล้ว รัสเซียได้ประกาศแผนพัฒนาเมืองเซวัสโตปอล เมืองท่าให้ไครเมีย ให้สำเร็จเสร็จสิ้นภายในปี 2030 เป็นต้นว่า การสร้างโรงกำเนิดไฟฟ้าเพื่อให้เมืองนี้ลดการพึ่งพากระแสไฟฟ้าจากยูเครน และได้เริ่มลงมือขยายและปรับโฉม “กองเรือทะเลดำ” ซึ่งมีฐานในคาบสมุทรไครเมีย ด้วยการส่งเรือรบ และเรือดำน้ำลำใหม่เข้าไปประจำการเพิ่ม ใครจำได้ไหม ที่จุดนี้คือจุดรบแตกหักระหว่างฮิตเลอร์ แห่งเยอรมัน กับ สตาลิน ของอดีตสหภาพโซเวียต มาแล้ว สงครามจุดนี้อุบัติขึ้นเมื่อไร ระฆังสงครามโลกครั้งที่ 3 เคาะเป๊งยกแรกเมื่อนั้น รัสเซีย ได้เริ่มก่อตั้งกองเรือทะเลดำอันทรงพลัง ซึ่งมีศักยภาพในระดับที่ต่างจากหน่วยรบทางอากาศ ทหารขีปนาวุธชายฝั่ง ทหารปืนใหญ่ ตลอดจนนาวิกโยธินโดยสิ้นเชิง และกำลังเตรียมฐานทัพ และลูกเรือไว้สำหรับเรือรบและเรือดำน้ำลำใหม่ เป็นการก่อร่างสร้างฐานให้แก่อนาคตของกองเรือ ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว ทั้งนี้ กองเรือทะเลดำของรัสเซีย มีฐานทัพอยู่ใน เซวัสโตปอล ซึ่งเป็นเมืองท่าที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ในคาบสมุทรไครเมีย กองเรือของรัสเซีย สามารถเข้าไปตั้งฐานทัพในเมืองนี้ ภายหลังแดนหมีขาว ทำข้อตกลงร่วมกับยูเครน ก่อนที่รัสเซียจะผนวกคาบสมุทรไครเมีย เมื่อเดือนมีนาคม 57 ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย กล่าวในการประชุมร่วมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติของเขาว่า รัสเซียจะยกระดับศักยภาพด้านกลาโหม เพื่อรับมือกับอิทธิพลขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งคืบคลานเข้าใกล้พรมแดนรัสเซียเข้าไปทุกที เขาจำเป็นต้องประกาศใช้มาตรการกลาโหมทั้งหมดของรัสเซียอย่างเต็มที่ และทันท่วงที รวมทั้งในไครเมีย และเซวัสโตปอล ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เขาต้องสร้างโครงสร้างพื้นฐานของกองทัพขึ้นมา โดยเริ่มต้นจากศูนย์ นอกจากนี้ รัสเซียยังประกาศว่า มีแผนดำเนินโครงการสร้างสะพานเชื่อมคาบสมุทรไครเมียเข้ากับภาคใต้ของรัสเซีย รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียแถลงว่า กองเรือทะเลดำของรัสเซียจะได้รับมอบเรือรบ และเรือดำน้ำลำใหม่ในปีนี้ เมื่อมะกัน และ EU เตรียมโจมตีรัสเซีย มีหรือที่คนอย่าระดับปูตินจะไม่รู้อะไร ชั้นเชิงการเมืองเขา ไอ้มาม่าเทียบไม่ติด.. ใครที่คิดว่าสงครามคงไกลตัว คิดใหม่ได้ เพราะฟิลิปปินส์ เพิ่ง ประกาศให้พลเมืองเขา 13,000 คน อพยพออกจากประเทศลิเบีย ข้ามแดนไปประเทศใกล้เคียงแล้ว และเขากำลังส่งเครื่องบินไปรับ ใครมีญาติคนไทยทำงานอยู่ลิเบีย คอยเช็คข่าวด้วย กลุ่มติดอาวุธสุนีย์ ที่มะกันหนุนหลัง เขาจับตัวเรียกค่าไถ่ ถ้ารู้ว่าไม่ใช่คนมุสลิม เขาตัดคอลูกเดียว คนฟิลิปปินส์สังเวยมาแล้ว !! @ เสธ น้ำเงิน4 https://www.facebook.com/thailandcoup ถูกแก้ไข กรกฎาคม 24, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
