ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 7, 2014 (มีการแก้ไข) นี้เป็นภาพถ่ายของเด็กทารกที่น่ารักที่สุด โพสต์เมื่อ: 30 กันยายน 2557 กดถูกใจเลย เราจะทำให้คุณมีความสุขมากขึ้นทุกวัน! ชีวิตใหม่มักจะให้ความหวังและบรรยากาศที่สดใส! ชีวิตใหม่มักจะให้ความหวังและบรรยากาศที่สดใส ขอให้ชีวิตของเราเต็มไปด้วยความรัก ถูกแก้ไข ตุลาคม 7, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 7, 2014 Watercolor by .Direk Kingnok HUAHIN Watercolour Art Workshop by 6 Thailand Masters of Watercolourist 1.Tawee Kesa-Ngam 2.Banlu Wiriyapornprapas 3.LaFe 4.Bancha Sriwong-Rach 5.Adisorn Pornsirikarn 6.Direk Kingnok เสาร์-อาทิตย์ 8-9 พฤศจิกายน 2014 วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2014 09:00 น.ร่วม Workshop เขียนรูปทะเล ที่เขากระโหลก 14:00 น.ร่วมWorkshop ที่บ้านศิลปินหัวหิน 19:00 น.ร่วมสัมนาหัวข้อ "IWSกับบทบาทสีน้ำไทยและสีน้ำโลก" Normal Class 2,999 บาท (เฉพาะค่าร่วมWorkshop วันเสาร์ที่8 ,Lunch and Buffet ,ไม่รวมค่าที่พัก) Special Class ติดต่อเจ้าหน้าที่ ณ บ้านศิลปินหัวหิน จัดโดย Baansillapinhuahin Artistvillage and IWS-Thai เบอร์โทรติดต่อ 085-786 7539 คุณเจนี่ โอนเงินเพื่อจอง ธนาคารไทยพาณิชน์ บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี มัทยา มอร์แกน และ ทวีเกษางาม รับจำนวนจำกัด อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 7, 2014 Watercolor by Patricia Guzman อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 7, 2014 Wang Shaobo อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 8, 2014 แฉ..ความลับ 2 hours ago · Edited วันที่ 6 ต.ค.57 ไขปริศนา..ตัวตนแก็งค์โคนันคุง นักมโน หรือ พิน็อคคิโอเมืองไทย ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรม และอนุกรรมการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง พร้อม ตัวแทนจากเครือข่ายเพื่อสิทธิแรงงานข้ามชาติ และที่ปรึกษากฎหมายฝ่ายต่างประเทศ ได้เข้าพบ อัยการจังหวัดเกาะสมุย เพื่อติดตามสำนวนคดีนายวิน หรือเวพิว และนายซอ หรือซอริน หรือโซเรน แรงงานต่างด้าวจากเมืองยะไข่ สัญชาติพม่า ผู้ต้องหาฆ่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษที่ริมชายหาดด้านปลายแหลม จปร.หาดทรายรี หมู่ 2 ต.เกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมการสิทธิฯ ระบุว่า ซึ่งรู้สึกสบายใจที่เอกสารและหลักฐานที่อยู่ในสำนวนเป็นไปตามระเบียบในการฟ้องร้อง และที่เรือนจำ อ.เกาะสมุย กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และคณะ ได้เข้าพบ ผู้บัญชาการเรือนจำอำเภอเกาะสมุย และขอเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาทั้ง 2 รายที่อยู่ในความดูแลของเรือนจำ ที่ผ่านมาได้มีตัวแทนสถานทูตพม่าเข้ามาเยี่ยมผู้ต้องหาทั้ง 2 ซึ่งจากการพูดคุยกับ 2 ผู้ต้องหา มีสีหน้าที่ปลงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทั้ง 2 คนได้ยอมรับต่อหน้ากรรมการสิทธิฯ ว่า “ เป็นผู้ที่ได้ก่อเหตุจริง “ ส่วนบาดแผลผู้เสียชีวิตที่มีบาดแผลคล้ายมีด ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนกล่าวว่า “ไม่ได้ใช้มีด" ใช้เพียงจอบตีเท่านั้น เรื่องนี้กรรมการสิทธิมนุษยชน ได้ให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย เพราะผู้ต้องหาทั้ง 2 ยอมรับว่าวันก่อเหตุได้ดื่มทั้งเบียร์และไวน์ อยู่ในอาการมึนเมา ซึ่งต้องเข้าใจการทำงานของตำรวจด้วย จากการมาดูในพื้นที่ พบว่าผู้ต้องหาได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน ตำรวจได้พยามยามทำให้ครบถ้วนกระบวนการยุติธรรม อ้าว..แก๊งค์โคนันคุง นิยมพิราบกระป๋อง และแดง นปช. หน้าแตกเพล้งครั้งที่หมื่นแปด.. เพราะผู้ต้องหาพม่า 2 คน ยอมรับสารภาพต่อคณะกรรมการสิทธิ์อีกรอบแล้ว ว่าเขา 2 คนฆ่า นักท่องเที่ยวอังกฤษจริง โคนันคุงเอ้ย..เลิกแถเหอะ เรื่องนี้แจ้งเกิดไม่ได้แล้ว ทำอย่างไรผู้ต้องหาพม่า 2 คน ก็ยืนกรานกระต่ายขาเดียว ว่าพวกเขาเป็นฆ่า แม้ว่าแก๊งค์โคนันคุง จะดูถูกว่าเขาเป็นแพะ จะบังคับเขาว่าอย่าสารภาพ จะฆ่าเขาให้ตาย แต่พวกเขาไม่ยอม เขายืนกรานว่าพวกเขาฆ่านักท่องเที่ยวเองลูกเดียว และการที่แก๊งค์โคนันคุง ไปกล่าวโทษคนโน้นคนนี้มั่วไปหมด โดยอ้างแค่ภาพถ่ายมัวๆ โดยไม่ได้ยึดหลักฐาน DNA และหลักฐานวัตถุของจริง ตามระบบกฎหมายไทย เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนเขาชัดๆ เพราะแก๊งค์โคนันคุงอ้างว่า ตัวเองอยู่อเมริกา ไกลขนาดนั้นแล้วจะมารู้ดีกว่าทางการไทย กล่าวโทษคนนั้น คนนี้ อันนั้นมันมโนแล้ว เกิดวันหน้า แก๊งค์โคนันคุง อยากจะกล่าวหาใคร ก็โจมตีให้ร้ายอยู่แบบนี้ หวังสร้างกระแสให้เกลียดชังกัน ประเทศชาติก็ปั่นป่วนไปหมด ผู้คนไม่รู้หน้าที่ตนเอง สับสนอลม่าน “ ก่อนที่เรียกร้องสิทธิให้ใคร ต้องพิจารณาว่าไปละเมิดสิทธิใครเขาหรือเปล่า ?? ” และถามผู้ต้องหาพม่าเขาหรือยัง ว่าเขายอมให้แก๊งค์โคนันคุง ไปแก้ต่างให้เขา ถ้าเขาไม่ยินยอม แล้วมีสิทธิอะไรไปละเมิดสิทธิผู้ต้องหาพม่าเขา 2 คน ก็เขาจะยอมรับสารภาพ ใครที่ไปขัดขวางพวกเขา ก็คือการละเมิดสิทธิเขาไม่ใช่หรือ คิดประเด็นนี้บ้างหรือเปล่า ?? พอเอ่ยถึงแก็งค์แบ่งงานกันทำ ความเหมือนที่แตกต่าง ชื่อแก็งค์ "โคนันคุง" โดยไม่ได้เอ่ยเฉพาะเจาะจงว่าเป็นเพจ เว็ป หรือใคร เพื่อลอกล่อให้แก็งค์นี้ ที่กำลังหลอกลวงปั่นหัวคนไทยให้แสดงตัวตนที่แท้จริง แล้วหนึ่งในแก็งค์นี้ก็ตกหลุมพลางเข้าจังเบอ " กินปูนร้อนท้อง" ทำการแคปเจอหน้าเพจนี้ ตัดต่อข้อความ แล้วเอาไปโพสหน้าเพจ หลอกสมาชิกต่อ สมาชิกเพจนั้น หลายคนเชื่อเข้าไปอีก โดยไม่ทันสังเกตุข้อความปลอมตัดต่อ กับข้อความจริงต้นฉบับที่เพจนี้ เมื่อโคนันคุง หลงกลถูกเผยตัว ก็จะได้เผยแนวคิด ที่แก็งค์โคนันคุง เคยโพสแสดงความเห็นไว้ในอดีต ภาพแรก ที่โคนันคุงถามว่า บก.ลายด่าง ผิดอะไร...ตอบว่าเข้าถูกแจ้งข้อหาผิดมาตรา 112 หมิ่นเบืี้องสูง และ บก.ลายด่าง ก็หลบหนีประกาศ คสช.ที่ให้มารายงานตัว...แหม คนอื่นเขารู้กันไปทั่วนะ แค่นี่ทำเป็นงง..ฮา ภาพที่สอง โคนันคุงพยายามแก้ตัว แทนเปิ้ล สหายสุดซอย ว่าไม่เกี่ยวกับชายชุดดำปี 53 สุดท้ายเจอ ผบ.ตำรวจ แฉ หลักฐานสลิปใบโอนเงินธนาคาร จากเปิ้ล ไปให้ชายชุดดำ ทุกเดือน...หน้าแตกบานทะโรก ป่านนี้ใช้ครีมอะไรทา ก็รักษาไม่หาย แหม..แค้น ผบ.ตำรวจที่ทำให้หน้าแตกล่ะซิ..ฮา ภาพที่สาม โคนันคุง พยายามจะช่วยแดง นปช. ให้ได้ว่า ที่ใส้เดือนเต้น กับเสี่ยเครื่องใช้ไฟฟ้า ไปจัดชุมนุมแดง นปช.เมื่อเดือน พ.ค.57 นั้น ถนนอักษะ กทม.จุมวลชนเสื้อแดงรับจ้างได้ 5 แสนคน...ก๊าก ผลออกมาเป็นอย่างไรก็รู้กันอยู่ หมื่นคนยังไม่ถึงเลย วันสุดท้ายเหลือ 200 คนด้วยซ้ำ ภาพที่สี่ โคนันคุง พยายามจะช่วยแดง นปช. แถว่า สปป.ล้านนา ที่เผาไทยจะขอแยกประเทศนั้น คือ สมัชชาปกป้องประชาธิไตย แต่ในความจริงก็โกหกประชาชนอีก เพราะศาลได้ตัดสินจำคุกแกนนำแดง นปช.เชียงราย ไปแล้ว ในข้อหานำป้าย สปป.ล้านนา ขอแบ่งแยกประเทศไปติดที่สะพานลอย..แถช่วยพวกที่ไรพลาดทุกที ภาพที่ห้า โคนันคุงร่วมกับอีกแก็งค์ ที่เคยแอบอ้างชื่อหลวงปู่พุทธอิสระ เพืีอหลอกลวงประชาชนให้ไปลงชื่อผ่านเว็ปแห่งหนึ่ง เพื่อนำไปสร้างหลักฐานเท็จ ยื่นต่อ คสช. เรื่องพลังงาน ได้ทำการสร้างเพจใหม่ ให้คนไทยไปลงชื่อ ยื่นถึงประเทศอังกฤษ ให้เข้ามาละเมิดอำนาจอธิปไตย แทรกแซงกระบวนการยุติธรรมของไทย ทีนี้พอจะเห็นหรือยัง ว่าแก็งค์โคนันคุง เขาหนุนฝ่ายไหนป่วนเมืองอยู่ และมีเจตนาต่อรัฐบาลบิ๊กตู่ อย่างไร ถึงดิสเครดิสการทำงานของเจ้าหน้าที่ไทยตลอดเวลา และเมื่อเรื่องเก่าถูกจับได้ ก็จะสร้างเรื่องใหม่ไปเรื่อยๆ จนล่าสุด แก็งค์โคนันคุง ถึงกับมีการเรี่ยไร ขอโอนเงินบริจาคสมาชิกเพจ เพื่อเอาไปซื้ออุปกรณ์มโน นัยว่าจะเอาไปจับเท็จพม่า (ฮามาก)..แก็งค์โคนันคุง ว่างๆ ชวนเพื่อนๆ ในห้องราชดำเนิน ของเว็ปแห่งหนึ่ง จัดมิทติ้งกันนะ พี่คางคกตู่ ใส้เดือนเต้น เลี้ยงเอง แก็งค์เดิม ที่เก่า เวลาเดิมนะ..ก๊าก บอกแล้วว่าเรื่องบังเอิญไม่มีจริงในโลก ทุกอย่างล้วนมีที่มา ก่อนที่จะดูว่าปัจจุบันเขาทำอะไรให้ประชาชน มันต้องดูประวัติ แนวคิด ก่อนจะไปเชื่อเขาด้วย ว่าอดีตเขาเคยแถ อะไรมาก่อน โคนันคุง กินปูนร้อนท้อง หลงกลลวง สุดท้ายก็กลายเป็นพิน็อคคิโอ ดีๆ นี่เอง..ฮา @ เสธ น้ำเงิน1 https://www.facebook.com/topsecretthai 2พม่ายอมรับต่อกก.สิทธิฆ่านักท่องเที่ยวจริง.... อ่านต่อได้ที่ : http://bit.ly/1xlxM1X อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 8, 2014 (มีการแก้ไข) แฉ..ความลับ added 6 new photos. 32 mins · วันที่ 7 ต.ค.57 ไขปริศนา..ช็อตต่อช็อต ฆาตรกรรม 2 นักท่องเที่ยวเกาะเต่า ละเอียดครบหลักฐาน พยาน ผู้ต้องหาสำนึกผิดสารภาพ คดีฆาตรกรรม 2 นักท่องเที่ยวเกาะเต่า ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันทำงานอย่างเต็มที่ โดยยึดหลักความถูกต้อง ดำเนินการตามพยานหลักฐานทั้งพยานบุคคล พยานวัตถุ พยานทางนิติวิทยาศาสตร์ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน เป็นแรงงานชาวพม่าได้ แต่เมื่อจับกุมคนร้ายได้ ก็มีคำถามทั้งภายในและต่างประเทศ รวมทั้งในโลกโซเชียล ที่มีการแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา บางข้อมูลไม่มีข้อเท็จจริง เป็นการมโนไปเอง การจับกุมผุ้ต้องหาในคดีนี้ หลักฐานสำคัญมี 5 ประเด็น คือ 1. พยานบุคคล คือ นายเมา และ นายเล 2. การพิสูจน์ทราบ DNA 3. ภาพจากกล้องวงจรปิด 4. โทรศัพท์ของนายเดวิด 5. คำรับสารภาพของผู้ต้องหาต่อหน้าทนายความ คดีนี้ จากการสอบสวน ผู้ตายทั้ง 2 คน เดินเข้ามาท่องเที่ยวเมื่อวันที่ 12 ก.ย.2557 โดยมาเที่ยวคนละกลุ่ม และมาเจอกันที่โอเชี่ยนวิวบังกะโล ซึ่งเป็นที่พัก เป็นการรู้จักกันโดยบังเอิญ คืนวันเกิดเหตุ 14 ก.ย.2557 ผู้ตายทั้งสองคน พร้อมกลุ่มเพื่อนได้ไปชมการถ่ายสดการแข่งขันฟุตบอลระหว่างทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ต กับทีมสวอนซี ที่ช็อปเปอร์บาร์ จากนั้นเพื่อนผู้ตายได้ขอตัวกลับห้องพัก ส่วนผู้ตายได้ไปเที่ยวต่อที่เอซีบาร์ จนเวลา 06.30 น.วันทึ่ 15 กันยายน 2557 พบศพผู้เสียชีวิตเป็นชาวต่างชาติ 2 ราย บริเวณหาดทรายรี ต.เกาะเต่า อ.เกาะพงัน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งตำรวจได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยทันที พร้อมประสานศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ให้เดินทางเข้าตรวจที่เกิดเหตุ และเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ศพผู้หญิงอยู่ในสภาพเปลือย ถูกตีด้วยของแข็ง และมีแผลที่ใบหน้า และมีร่องรอยการมีเพศสัมพันธ์ ผล DNA ในช่องคลอด ทวารหนัก และนม บ่งชี้ว่าเป็น DNA ของคนเอเชีย ไม่ใช่คนยุโรป โดยพบก้นบุหรี่ เสื้อผ้าผู้ตาย รองเท้าแตะ จอบที่คนร้ายใช้ก่อเหตุ ถุงยางอนามัย 1 ชิ้น เจ้าหน้าที่ได้เก็บไว้ตรวจสอบ เบื้องต้นไม่มีประจักษ์ พบเห็นขณะเกิดเหตุ แรกๆ ในการสอบสวนคดีนี้ มีการตั้งข้อสันนิษฐานในประเด็นต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะการสืบสวน เนื่องจากคดีนี้ไม่มีประจักษ์พยาน เริ่มต้นการสืบสวน โดยเริ่มจากเบาะแสที่ได้รับ มีการคัดกรองพื้นที่ แต่อะไรก็ไม่ง่าย มีการส่งทีมสืบสวนจากส่วนกลาง ลงไปสมทบ ทำให้การทำงานละเอียด และรอบคอบขึ้น มีการคัดกรองบุคคล โดยเชื่อว่าคนร้ายต้องเข้ามายังจุดที่เกิดเหตุในเวลาที่กำหนด จึงสืบสวนจากพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เชื่อมโยงพยานวัตถุ ทั้งก้นบุหรี่ จอบ ผลการตรวจสภาพศพ นอกจากนั้น มีการควานหาบุคคลที่ใกล้ชิดกับที่เกิดเหตุให้มากที่สุด โดยเชื่อว่าบุคคลเหล่านี้่ น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีมากที่สุด โดยการตรวจสอบบุคคลที่อยู่ในละแวกใกล้เคียง ตรวจสอบทุกคนที่สามารถเข้าถึงที่เกิดเหตุทั้งหมด ทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าว ประกอบกับพยานบุคคล จากการตรวจวัตถุพยาน พบ DNA ที่ก้นบุหรี่ และ DNA ในตัวของ น.ส.ฮานนาห์ นอกจากนั้นการสืบสวน ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้กับที่เกิดเหตุ ก็พบเพียงชายต้องสงสัย ไม่สวมเสื้อ วิ่งผ่านไป-มา ผ่านมาหน้ากล้อง ในส่วนของงานพิสูจน์หลักฐาน แบ่งเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกการเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของศูนย์พิสูจน์หลักฐานพื้นที่ อีกส่วนคือการตรวจ DNA เปรียบเทียบ อยู่ในความรับผิดชอบของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง สำหรับที่เกิดเหตุพยานวัตถุที่เก็บได้ ประกอบด้วย จอบ ถุงยาง และก้นบุหรี่ ซึ่งจุดที่เก็บได้อยู่ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 65 เมตร โดยในวันที่ 16 ก.ย.ได้มีการส่งหลักฐานมาให้ กองพิสูจน์หลักฐานกลาง ตรวจ ซึ่งผลการตรวจ DNA “ คราบเลือดที่จอบ” เป็นของ น.ส.ฮานนาห์ ดังนั้น จึงมั่นใจว่า คนร้ายใช้จอบเป็นอาวุธ ส่วน DNA ที่ก้นบุหรี่ 3 อัน อันแรกเป็นบุหรี่ยี่ห้อมาร์โบโร สีขาว ไม่พบ DNA มีเพียงคราบลิปสติกสีแดงติดอยู่ ก้นบุหรี่อันที่ 2 เป็นบุหรี่ยี่ห้อ LM แดง พบ DNA ของ 1 คน ตั้งสมมติฐานว่า คนร้ายคนแรก และก้นบุหรี่อันที่ 3 เป็นบุหรี่ยี่ห้อ LM แดง พบ DNA ของ 2 คน ตั้งสมมติฐานว่า คนร้ายคนแรก และคนที่สอง เมื่อได้ตัวอย่าง DNA จากก้นบุหรี่ ก็ประสานกับสถาบันนิติเวชวิทยา ซึ่งเป็นผู้ตรวจศพ ก็พบว่า มี 1 คน ที่มี DNA ซ้อนกันอยู่ แสดงให้เห็นว่า คดีนี้มีผู้เกี่ยวข้องอย่างน้อย 3 คน สำหรับการตรวจเปรียบเทียบ DNA กลุ่มในตัวอย่าง ที่มีการเก็บจากบุคคลในพื้นที่ 243 คน จนถึงเมื่อวันที่ 28 ก.ย. แบ่งเป็นชาวต่างชาติ 187 ราย ชาวไทย 56 ราย ปรากฏว่า ผล DNA ไม่ตรงกับ DNA ที่ก้นบุหรี่ เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลจากกล้องวงจรปิด ตามความยาวของหาดทรายรี ทั้งหมด 2.6 ก.ม. ที่วัดในแนวตรง จำนวน 355 ตัว แล้วเสียไปจำนวนหนึ่ง แต่ถึงวันที่จับผู้ต้องหาได้ยังเก็บได้แค่ 106 ตัว การเก็บ DNA ทางเจ้าหน้าที่ก็มีการเก็บจากใกล้ไปหาไกล ไม่ใช่ว่าเก็บทั้งเกาะ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่จะทำเช่นนั้น โดยเฉพาะ 2 ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุม ไม่ได้มีการเก็บตัวอย่างเอาไว้ตอนแรกตามที่แก๊งค์โคนันคุงต้มประชาชน แต่มาเก็บหลังจากตกเป็นผู้ต้องสงสัยแล้ว เนื่องจาก 2 รายนี้รายแรกทำงานอยูที่บาร์แห่งหนึ่ง ซึ่งยังอยู่ไกลออกไปประมาณ 1.6 ก.ม.จากจุดเกิดเหตุ รายที่ 2 อยู่ที่ท่าเรือ ห่างประมาณ 1 ก.ม.จากจุดเกิดเหตุ ซึ่งยังไม่อยู่ในรัศมีที่จะเดินไปเก็บตัวอย่างดี DNA ตอนแรก ซึ่งต่อมาตำรวจได้มีการจำลองเหตุการณ์ในสถานที่เกิดเหตุ ในช่วงเวลาเดียวกัน ที่คาดว่าคนร้ายน่าจะลงมือก่อเหตุ ชุดสืบสวนได้ข้อมูลว่าก่อนเกิดเหตุมีพยาน เห็นว่าก่อนเกิดเหตุมีชาย 3 คนไปนั่งเล่นกีตาร์ ได้ยินเสียงร้องเพลงใกล้เคียงกับบริเวณที่พบศพฝรั่ง โดยพยานยืนยันว่าเพลงที่ร้อง “ ไม่ใช่เพลงไทย ไม่ใช่ภาษาฝรั่ง” แต่เป็นภาษายะไข่ เมื่อไปตรวจกล้องวงจรปิดมีชาย 3 คน เข้ามาซื้อบุหรี่และสุรา แล้วนำมานั่งดื่มกิน และเล่นกีตาร์ร้องเพลงภาษายะไข่บนขอนไม้ ตรงจุดที่พบก้นบุหรี่ ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณจุดเกิดเหตุประมาณ 20 เมตร จากนั้นก็มีการต่อจิกซอว์ จนพบว่าทั้ง 3 คน มีความเชื่อมโยงกับคดีอย่างมีนัยยะสำคัญ การตรวจก้นบุหรี่ จึงเป็นหลักฐานสำคัญ ที่มีการบ่งชี้สำคัญ ถึงตัวบุคคลที่มาเกี่ยวข้องกับคดี เพราะว่า DNA ที่พบในก้นบุหรี่ไปตรงกับ DNA ที่พบในช่องคลอดของ น.ส.ฮานนาห์ ทำให้มีความเชื่อมโยงกัน ระหว่างผู้สูบบุหรี่กับผู้ที่ก่อเหตุ ทำให้สามารถกำหนดจุดในการติดตามคนร้ายได้ จากนั้นเจ้าหน้าที่นำตัว นายเมา ทำงานอยู่ที่สถานบันเทิง ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่เกิดเหตุมากนัก มาสอบถาม ได้ให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี จนนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหาอีก 2 คนได้ โดย ตำรวจจึงได้เชิญตัวนายวิน อายุ 21 ปี สามารถควบคุมตัวได้ที่ท่าเทียบเรือ ในเขตเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี นายซอ อายุ 21 ปี คนงานชาวยะไข่ พม่า เป็นลูกจ้างร้านอาหารบริเวณเกาะเต่า ซึ่งตกเป็นผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ จากการสอบสวนนายวิน ให้การว่า ขณะที่ตนเองและเพื่อนไปนั่งดื่มกินเหล้ากันอยู่ที่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ จังหวะนั้นสังเกตเห็นนักท่องเที่ยวหนุ่มสาวชาวอังกฤษทั้ง 2 คนเดินมาด้วยกัน เดินจูงมือมาตามแนวชายหาด ก่อนเดินผ่านหน้า หลบเข้าไปบริเวณหลังโขดหิน เพื่อพลอดรักกัน ทำให้ทั้ง 2 คน เกิดอารมณ์ทางเพศ ส่วนนายเมา ได้กลับไปหาภรรยาที่ที่พักก่อนเกิดเหตุ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จึงแอบเดินติดตามไปพร้อมหยิบจอบที่วางอยู่ติดมือไปด้วย จากนั้นใช้จอบที่ถือมาฟาดเข้าที่ศีรษะของฝรั่งหนุ่มจนล้มคว่ำ และลากตัวลงไปริมทะเล ก่อนหันมาร่วมกับนายซอ ข่มขืนแหม่มสาวจนสำเร็จความใคร่ แล้วใช้จอบกระหน่ำตีหลายครั้งจนเสียชีวิตจริง หลังจากนั้นได้ขโมยโทรศัพท์มือถือของเหยื่อผู้ชายไปด้วย กระทั่งมาทราบข่าวอีกวันว่า 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษเสียชีวิตทั้งคู่ ก็ยังทำตัวเป็นปกติ เพื่อไม่ให้ผิดสังเกต เมื่อเจ้าหน้าที่มาเชิญตัวไปสอบสวน หรือเก็บ DNA ก็พยายามหลบเลี่ยงไปก่อนเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึง ทำให้ก่อนหน้านี้ไม่ถูกคุมไปเค้นสอบเหมือนแรงงานคนอื่น แต่สุดท้ายมาพบเจ้าหน้าที่ทีมสืบสวน และถูกนำตัวมาสอบสวนหาความจริง จนถูกจับกุมตัวในที่สุด จนกระทั่งวันที่ 2 ก.ย.57 มีการส่งตัวอย่างเยื้่อบุกระพุ้งแก้ม ของผู้ต้องสงสัย 3 คนมาตรวจอีกครั้ง ผลปรากฏว่าตรงกับตัวอย่าง DNA ที่พบในวัตถุ และตรงกันกับ DNA ที่พบในศพที่ส่งมาตรวจก่อนหน้านี้ ภาพจากกล้องวงจรปิด จึงเห็นทั้ง 3 คนเดินเข้าไปที่บ้านของนายเมา แล้วจึงมีภาพทั้ง 3 คนซ้อนรถจักรยานยนต์ ถือกีตาร์ มุ่งหน้าไปทางจุดเกิดเหตุ จากนั้นก็มีภาพ ผู้ต้องหาวิ่งไปมาระหว่างที่พักกับจุดเกิดเหตุ เมื่อไปเช็กกล้องวงจรปิดอีก 50 กว่าตัวในบริเวณดังกล่าว “ก็ไม่พบคนอื่นอีกเลย” จึงทำให้สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัย 3 คนนี้ได้ สำหรับ DNA ที่พบที่ก้อนบุหรี่ LM แดงอันแรก คือ นายเมา ส่วนที่ก้อนบุหรี่ LM แดงอีกอัน เป็นของนายเมา และนายเวพิว นอกจากนั้นยังพบ DNA ของนายเวพิว ที่หัวนมด้านขวา และช่องคลอดของ น.ส.ฮานนาห์ ส่วน DNA ของนายซอลิน ตรงกับตัวอย่าง DNA ที่พบในทวารหนัก และหัวนมด้านขวาของ น.ส.ฮานนาห์ แพทย์จากสถาบันนิติเวชวิทยา ผู้ผ่าชันสูตรศพ ระบุว่า ศพ น.ส.ฮานนาห์ ที่มาถึงมีสภาพกึ่งเปลือยเปื้อนทรายพบคราบเลือด สภาพศพเริ่มเน่า ไม่ผ่านการรักษา มีบาดแผลอย่างรุนแรงที่บริเวณศีรษะและใบหน้า จากของเเข็งไม่มีคม ซึ่งสามารถเข้ากันได้กับวัตถุของกลางในคดี พบการถูกทำร้ายทางเพศ ผลตรวจทางพิษวิทยา “ ไม่พบสารเสพติดวัตถุออกฤทธิ์ทางจิตประสาท “ ในปัสสาวะและเลือด “ ไม่พบสารพิษ” จากอาหารในกระเพาะอาหาร ผลตรวจทางชีวเคมี พบ DNA ของบุคคลอื่น 2 คนที่บริเวณหน้าอกขวา พบอสุจิบุคคลอื่น 1 คนในช่องคลอด พบอสุจิ และ DNA ของบุคคลอื่น 2 คน ในทวารหนัก สรุปสาเหตุ การเสียชีวิต มาจากได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะ จาก “ของแข็งไม่มีคม” กระทบกระแทกอย่างรุนแรง ถูกตีด้วยของแข็ง และของมีแผลที่ใบหน้า สำหรับนายเดวิด สภาพศพที่ส่งมาสภาพเปลือย เริ่มเน่า ไม่ผ่านการรักษา บาดเจ็บอย่างรุนแรงที่ศีรษะและใบหน้า จาก “ของแข็งไม่มีคม” เข้ากันได้กับวัตถุของกลางในคดี ไม่พบการถูกทำร้ายทางเพศ การตรวจภายใน พบน้ำในช่องอก 2 ช่อง ปอดพองลมบวมน้ำเต็มช่องอก ตรวจทางพิษวิทยาไม่สารเสพติดวัตถุออกฤทธิ์ทางจิตประสาทในปัสสาวะและเลือด ไม่พบสารพิษจากอาหารในกระเพาะอาหาร ผลตรวจทางเคมี ไม่พบอสุจิในทวารหนัก สาเหตุการตาย สรุปสาเหตุการเสียชีวิตมาจากได้รับบาดเจ็บรุนแรงที่ศีรษะ “ จากของแข็งไม่มีคม “ กระทบกระแทกอย่างรุนแรง มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ต้นคอ และด้านท้ายทอยจนกะโหลกศีรษะแตก ร่วมกับการจมน้ำทะเล สำคัญคือ ผลการตรวจ DNA ที่สามารถยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แม้พยานบุคคล ก็ไม่สามารถหักล้างพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาตร์ได้ การตรวจสอบ DNA ในคดีนี้ ทางตำรวจ ร่วมมือกับหลายหน่วยงานเข้ามาร่วมตรวจสอบด้วย เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ , มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ , จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , นอกจากนี้ยังได้มีการหารือกับทาง พญ.พรทิพย์ ด้วย จากการสอบสวนผู้ต้องหา “ให้การรับสารภาพ” จึงได้มีการจัดทนายความให้กับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นสิทธิตามกฎหมาย ก่อนสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ ขั้นตอนการสอบสวน ที่มีการให้ร้ายเจ้าหน้าที่ว่า มีการใช้กำลังบังคับให้สารภาพนั้น จากบันทึกคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน “มีทนายความร่วมรับฟัง” และหลังมีการสอบปากคำ ได้มีการส่งตัวผู้ต้องหา “ไปตรวจร่างกาย โดยมีใบรับรองแพทย์” เนื่องจากที่ผ่านมา มีกลุ่มผู้ไม่หวังดีกับไทย ใช้ประเด็นในการทำลายน้ำหนักการสอบสวนของตำรวจ ตำรวจ รู้ทันกลุ่มนี้ จึงไม่ยอมทำร้ายร่างกาย หรือบังคับขู่เข็ญ ตามที่ถูกใส่ร้าย การสอบสวนเป็นไปอย่างโปร่งใส ประเด็น เกี่ยวกับบาดแผล บริเวณใบหน้าของนายเดวิด ที่มโนกันว่ามีการใช้อาวุธชนิดอื่น ก็ยืนยันโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้วว่า เป็นบาดแผลที่เกิดจากของแข็งไม่มีคม ซึ่งสามารถเข้ากันได้ดีกับวัตถุของกลางในคดี คือ จอบ ข้อแตกต่าง ระหว่างบาดแผลที่เกิดจากของแข็งมีคม กับ ไม่มีคม ถ้าของแข็งมีคมบาดแผลจะเรียบไม่มีขอบช้ำ เรียบตลอดทางจนถึงกระดูก ส่วนของแข็งไม่มีคมบาด แผลจะช้ำ ไม่เรียบ ที่กระดูกก็จะมีรอยแตก กรณีบาดแผลของนายเดวิด เป็นแผลที่เกิดจากการถูกของแข็งไม่มีคมกระแทกอย่างรุนแรง ที่ใบหน้ามีกระดูก บนแตกยุบ ขากรรไกรบนแตก เบ้าตาก็แตก บริเวณคางจะมี 2 แผล ลักษณะการบุบของกะโหลก เหมือนกันทั้งฮันนาห์และเดวิด ประเด็น เรื่องถุงยางอนามัย ที่ตรวจพบ DNA ของน.ส.ฮานนาห์ เพียงคนเดียว ที่บริเวณด้านนอกของถุงยางนั้น ตำแหน่งที่พบถุงยาง อัดแน่นไปด้วยทราย อาจมีการปนเปื้อน เป็นไปได้ว่า ผิวสัมผัสด้านใน มีโอกาสจะตรวจไม่พบ หรือเป็นไปได้ว่า ไม่มีการหลั่งอสุจิ จึงไม่พบ DNA ในถุงยาง ประเด็น บางแก๊งค์แย่หนักใส่ความว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ที่ลงมือฆ่า การพบ DNA ในช่องคลอดของ น.ส.ฮานนาห์ เป็นการสมยอมนั้น การสืบสวนตามคำให้การ และวัตถุพยาน มีมูลเหตุจูงใจ เชื่อว่า มีการลงมือทำร้าย จนเหยื่อไม่อยู่ในภาวะที่ขัดขืนได้ โดยที่เหยื่อไม่เสียชีวิตทันที ก่อนลงมือข่มขืน จากนั้นจึงได้ลงมือทำร้ายซ้ำจนเสียชีวิต เพื่ออำพรางคดี อีกเหตุคือ ไม่พบบุคคลอื่น เข้าไปในที่เกิดเหตุ ในช่วงเวลานั้น ข้อมูลจึงเป็นข้อยุติในขณะนี้ ประเด็น เรื่องโทรศัพท์มือถือ เป็นของนายเดวิด ที่ผู้ต้องหาได้ขโมยไปด้วยในวันเกิดเหตุ ไม่ใช่ของ น.ส.ฮานนาห์ ตามที่แก๊งค์โคนันคุงหลอกประชาชน โดยโทรศัพท์ของนายเดวิดไม่ได้มีการนำมาคืนก่อนหน้านี้ และเจ้าหน้าที่ก็ได้ตรวจสอบอีมี่ของเครื่องแล้ว ตรงกับของผู้เสียชีวิตจริง ทางญาติของผู้เสียชีวิต เป็นคนให้ข้อมูลเลขอีมี่กับทางตำรวจ ตำรวจจึงได้ซักถามผู้ต้องหา ซึ่งให้การรับสารภาพว่า ได้นำไปฝากเพื่อนไว้ โดยเพื่อนคนดังกล่าวระบุว่า ได้ทุบโทรศัพท์ ก่อนนำใส่ถุงพลาสติก ไปโยนทิ้งไว้ที่ป่าหญ้าหลังบ้าน ต่อมาตำรวจได้สอบปากคำเพื่อนคนดังกล่าว แล้วกันไว้เป็นพยานแล้ว ประเด็น ที่ไม่มีการเก็บตัวอย่าง DNA ของสองผู้ต้องหาในช่วงแรกก่อน เนื่องจากขั้นตอนการทำงานจะต้องเก็บ DNA ผู้ต้องสงสัยที่อยู่วงรอบที่เกิดเหตุ แต่นายเวพิล และ ซอริน อาศัยอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุไป 1.0 - 1.5 กิโลเมตร ซึ่งภายหลังการตรวจ DNA นายเมา 1 ในชายสามคนที่ปรากฎภาพวงจรปิดหน้าร้านสะดวกซื้อขณะซื้อบุหรี่ ให้การสอดคล้องกับวัตถุพยาน จึงนำไปสู่การนำตัวผู้ต้องหาอีก 2 คนมาตรวจ DNA สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เป็นชนกลุ่มน้อยชาวยะไข่ ซึ่งคนกลุ่มนี้ ถึงแม้ไม่รู้จักกัน ทำงานและพักคนละที่ แต่มีความแนบแน่น เนื่องจากเป็นคนเชื้อชาติเดียวกัน ใช้ภาษาเดียวกัน เมื่อเดินทางมาต่างถิ่น ซึ่งผ่านความยากลำบาก จึงยิ่งมีความแนบแน่น การมาก่อเหตุ ก็ไม่มีการเตรียมการกันมาก่อน เพียงบังเอิญผ่านมาเจอเหตุการณ์ ทำให้มีแรงจูงใจ บวกกับการดื่มเบียร์เข้าไป ทำให้ก่อเหตุดังกล่าว ท่าทีของสถานทูตอังกฤษ และสถานเอกอัครราชทูตพม่า กับการปิดคดีนี้ของไทยนั้น ทางสถานทูตอังกฤษ แสดงความขอบคุณรัฐบาล และตำรวจที่ให้ความร่วมมือในการคลี่คลายคดี และได้มีการประสาน เพื่อติดตามความคืบหน้า ผ่านมาทางตำรวจสากล ส่วนทางสถานเอกอัครราชทูตพม่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ พร้อมตัวแทนแรงงาน นักสิทธิมนุษยชน มาติดตามคดี และขอเข้าพบผู้ต้องหา ซึ่งทางราชทัณฑ์ก็ให้เข้าพบ ทางคดีตำรวจได้ชี้แจงให้ทราบ ซึ่งทางสถานทูตม่า ก็แสดงความพอใจ ที่ผ่านมา มักมีการตั้งต้องข้อสังเกตุมาโดยตลอดว่า ตำรวจจับแพะ นั้นเป็นเรื่องของอดีตสมัยรัฐบาลเลือกตั้ง ซึ่งหลังจากที่ ผบ.ตำรวจ คนใหม่ ที่บิ๊กตู้ใจ มารับตำแหน่ง ไม่มีปัญหานี้เกิดขึ้น การชี้แจงทุกขั้นตอน เพื่อไม่ให้กลุ่มที่หลอกลวงปลุกปั่นประชาชนให้เกิดความสับสนในสังคม ทำให้สังคมเข้าใจผิดๆ โดยเฉพาะพวกนักสืบไซเบอร์ แก๊งค์โคนันคุง ที่ชอบมโนไปเองแบบผิดๆ ภาพเผยแพร่ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ก็ตรวจสอบให้ทุกประเด็น จนทำให้การทำงานล่าช้า เหมือนต้องการถ่วงเวลาตำรวจ มีหลายข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง สร้างความสับสน ไม่อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง อยากให้แก๊งค์โคนันคุง เลิกเสีย เพราะไม่เกิดประโยชน์ และจะยิ่งสร้างความวุ่นวายให้สังคมมากขึ้น การจะเอาแค่ภาพถ่าย ข่าวทางสื่อ ข่าวปล่อยข่าวลือ หรือ ความคิดตนเอง มาปรักปรำคนอื่น แบบนั้นกฎหมายไทยไม่ยอมรับ และในสากลเขาไม่ทำกัน เพราะแบบนั้นคือ บังคับยัดเยียดข้อหา และไม่โปร่งใส ไม่เป็นธรรม ผู้พิจารณาหลักฐานทุกชิ้น ไต่สวนผู้ต้องหา พยาน คือศาลเท่านั้น ที่จะชี้ว่าสิ่งไหนผิดหรือถูก แต่ถ้าใครยังสงสัยก็ไปติดต่อผู้ต้องหาขอไปเป็นพยานในชั้นศาลได้ แต่ในชั้นนี้ผู้ต้องหาเขายอมรับความผิด ต่อหน้าทนายความ ต่อหน้ากรรมการสิทธิ เพราะสำนึกได้ ตำรวจแต่ละยุคสมัยรัฐบาลไม่เหมือนกัน ปัจจุบันรัฐบาลได้เปลี่ยนตัวหัวหน้าองค์กรใหม่ และโล๊ะทิ้งลงไป ตั้งแต่ระดับรองถึงผู้บังคับบัญชาระดับล่าง หากเราไม่ให้โอกาสผู้บังคับบัญชาใหม่ขององค์กร ที่เขาตั้งใจทำงาน เพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของประเทศไทย และยังตามจับชายชุดดำมาตั้งมากมาย ที่ก่อเหตุเผาเมืองช่วงปี 53 , ปี 56-57 สมัยทำร้าย กปปส.ที่ทำให้คนไทยปลอดภัย ไม่ต้องถูกแก๊งค์ติดอาวุธแดง นปช.ฆ่าตายเพราะสงครามกลางเมืองหลายหมื่นคน มองเขามุมนี้ เราจะเห็นว่าเขาไม่ไปเสียเลยทั้งหมด หากแคลงใจหัวหน้าหน่วยคนใหม่เขาไปเสียทุกเรื่อง ทั้งที่เขาตั้งใจกอบกู้ชื่อเสียงของชาติ แล้วเขาจะเอากำลังใจที่ไหนมาทำงาน และปกป้องชีวิต ทรัพย์สินคนไทยอีก 67 ล้านคน ส่วนแก๊งค์โคนันคุง ที่อยากจะช่วยผู้ต้องหาชาวพม่าให้พ้นผิด และทำลายชื่อเสียงประเทศไทยได้ถามความยินยอมเขาหรือยัง หรือ มโนไปเอง และการกล่าวหาใส่ร้ายตัดสินคดีผู้อื่น ทั้งที่ตนเองไม่ใช่ศาลไทย แบบนั้นกฎหมายไทย และสากลไม่ยอมรับ !! กลับไปดูดนมนอน และเวิ่นเว้อเพื้อฝัน กับ บก.ลายด่าง , แก๊งค์แดงติดอาวุธ นปช. , และ สปป.ล้านนา เหมือนอย่างเคยทำจะต้มทุยได้ดีกว่า !! @ เสธ น้ำเงิน2 https://www.facebook.com/topsecretthai ถูกแก้ไข ตุลาคม 8, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 8, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 8, 2014 กองทัพภาคที่ 1 (1st Army Area) September 29 ปลูกป่าไม้อย่างไรไม่ให้น้ำท่วม โดย ศผข.ทภ.1 การเกิดอุทกภัยอย่างรุนแรงในทุกภาคของประเทศ โดยเฉพาะภาคกลางและกรุงเทพมหานครเมื่อปลายปี ที่แล้ว มีสาเหตุสำคัญประการหนึ่งคือการตัดไม้ทำลายป่า จึงไม่มีต้นไม้ใหญ่ที่จะชะลอความแรงของน้ำที่ไหลลงมา ดังที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำรัส แก่นายกรัฐมนตรีและคณะที่เข้าเฝ้าฯ เพื่อกราบบังคมทูลถวายรายงาน เกี่ยวกับการวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ณ ห้องประชุมชั้น ๑๔ อาคารเฉลิม พระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ ๒๔ ก.พ.๕๕ ความว่า “...ภาคเหนือมีการทลายของดิน ของภูเขา อันนี้อันตรายมาก จึงต้องหาวิธีแก้ไขเรื่องป่าไม้เป็นสำคัญ แต่ลำบาก เพราะว่าความโลภของคน ต้นไม้ที่ชอบทำลายคือต้นไม้คุณภาพ ต้นไม้แข็งแรง เป็นต้น...” ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นความสำคัญของป่าไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเกิดปัญหาฝนแล้งหรือน้ำท่วม มีสาเหตุสำคัญมาจากการทำลายป่าไม้ พระองค์จึงทรงมีพระราชหฤทัยที่มุ่งมั่นจะแก้ไข ปรับปรุงและพัฒนาป่าไม้ให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ดังเดิม โดยเฉพาะป่าไม้ที่เป็นต้นน้ำลำธารให้คงสภาพอยู่เช่นเดิม เพื่อป้องกัน อุทกภัยที่จะเกิดขึ้นมาเป็นเวลากว่า ๕๐ ปีแล้ว ซึ่งมีพระราชดำริในการปลูกป่าทั้งการปลูกโดยไม่ต้องปลูก ด้วยการทิ้งป่าเอาไว้ไม่ต้องไปทำอะไร ป่าจะเจริญเติบโตขึ้นมาเองตามธรรมชาติ ดังเช่นที่เขาชะงุ้ม จ.ราชบุรี การปลูกป่า ๓ อย่าง คือไม้ใช้สอย ไม้กินได้ ไม้เศรษฐกิจ การปลูกป่าชายเลน ป่าพรุ และป่าเปียกเพื่อเป็นแนวป้องกันไฟป่า ส่วนการปลูกป่าทดแทนในส่วนที่ถูกทำลายนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าควรจะปลูกไม้โตเร็ว ที่ใช้ประโยชน์หลายอย่างสำหรับราษฎร คละไปกับไม้ยืนต้นเนื้อแข็งเช่นไม้สักไม้ยาง เพื่อป้องกันการพังทลายของดิน และต้องมีการลงโทษผู้ที่ตัดไม้ทำลายป่าอย่างจริงจัง ดังพระราชดำรัสที่ได้พระราชทาน ดังนี้ “...หลักการปลูกป่าคือต้องปลูกต้นไม้ขึ้นเร็ว ผสมกับต้นไม้ขึ้นช้าเพื่อช่วยป้องกันน้ำท่วม ต้องปลูกต้นไม้เนื้อแข็ง แต่ว่าเมื่อขึ้นช้าก็ป้องกันยากไม่ให้ถูกทำลาย การปลูกแซมยาก จึงต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้มีการทำลาย แล้วให้มีการลงโทษหนักเพื่อไม่ให้ถูกทำลาย...” นอกจากนี้แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริว่า การที่จะรักษาป่าให้คงอยู่เพื่อป้องกันอุทกภัยนั้น จะต้องปลูกไม้หลายชนิดผสมผสานกัน โดยได้พระราชทานพระราชดำรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ แก่นายกรัฐมนตรีและคณะที่เข้าเฝ้าฯ ณ ห้องประชุมชั้น ๑๔ อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช เมื่อวันที่ ๒๔ ก.พ.๕๕ ว่า “...การปลูกต้นไม้ที่จะช่วยในเรื่องของระบบปัญหาน้ำท่วม ดินถล่ม เพราะต้องใช้เวลาเป็นแรมปีถึงจะช่วยได้ พื้นที่ที่มีปัญหาต้องปลูกต้นไม้ที่ขึ้นเร็ว ที่ประมาณ ๑๐ ปีโตใช้การได้ และผสมกับต้นไม้ที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะใช้งานได้ ใช้งานในฐานะเป็นไม้ และเป็นต้นไม้ที่จะป้องกันน้ำท่วม จากพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานเกี่ยวกับการปลูกป่าไม้ เพื่อป้องกัน อุทกภัยนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 8, 2014 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 8, 2014 (มีการแก้ไข) หมอเขียว แฟนคลับ ถูกแก้ไข ตุลาคม 8, 2014 โดย ginger 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 8, 2014 Picture-icon land อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 8, 2014 Vincent van Gogh (1853-1890), Square Saint-Pierre at sunset, May 1887. Van Gogh Museum, Amsterdam. — อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
Dark Tiger 3 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 8, 2014 ผมว่าลองศึกษาข้อมูลดีๆดีกว่าน่ะครับ จริงอยู่ที่คุณ csi la อยู่คนล่ะฝั่งกะรัฐบาล แต่ในเนื้อหาในนั้นเขาก้อไม่ได้มโนไปเอง เขาตั้งข้อพิรุจมากมายของตำรวจ ผมว่าคนส่วนใหญ่ในเว็บก้อไม่ได้บอกว่าพม่าไม่ข่มขืนน่ะ แต่ยังจับตัวคนร้ายไม่ครบไง ผมว่าคุณมองกลางๆอย่างไร้อคติ ร่องรองบนลำตัวกะใบหน้าของเดวิท ยังไงก้อไม่ใช่จอบแบบฮันน่า แต่ทำไมเหมารวมว่าอาวุธสังหารเป็นจอบ และที่เขาบอกกำลังพลอดรักกันทำไมไม่มี dna ของเดวิทในตัวฮันน่า และทำไมถึงมีร่องรอยอสุจิทางทวารเดวิท ทำไมการเกงเปื้อนเลือดถึงมีขาไปอยู่ในกระเป๋า ชอน เพื่อนเดิวิท ทำไม ชอน มีร่องรอยแผลลักษณะเดียวกับเดวิททั้งแขนและขา และยิ่งงง ทำไมปล่อยตัว ชอน กลับไปทั้งที่น่าจะพบหลักฐานหลายๆอย่างในตัว ชอน ทำไมมีลูก ผญบ.ชื่อ นมจากเต้า มีรูปในกล้องวงจรปิด ใกล้เวลาเกิดเหตุ และ ใกล้สถานที่เกิดเหตุ แถมมีการตัดต่อกล้องวงจรปิดขาดหายไป 2 นาทีกว่าที่มีบุคคลอื่นติดอยู่ในกล้องด้วย แถมทางบ้านนมจากเต้า ก้อเต้าข่าวว่าไม่ได้ติดต่อลูกชายหลายเดือนแล้ว และบอกนมจากเต้าก้อไม่ได้กลับบ้านเป็นเดือนๆแล้ว ทั้งๆที่ก่อนวันเกิดเหตุ 1 วันเขายังฉลองอยู่บนเกาะเต่าเลย แถมโพสลงเฟสกะเพื่อนในกลุ่มเลย ถ้าบริสุทธิ์จะเต้าเรื่องทำไม น่าสงสัย ยิ่งน่าสงสัยกว่าก้อตำหนวดไทยนี่ล่ะ ทำไมไม่สอบสวนตรวจ นมจากเต้า แถไปเรื่อยตั้งแต่หัวยันหาง ผมว่าฝรั่งเขาเข้าใจน่ะไม่ว่าใครฆ่านักท่องเที่ยวแต่ต้องจับจริงไม่ใช่ แค่ แพะม่า 2 ตัว ตัวขนาดเท่าลูกหมาตัวสูงยังไม่ถึง 150เลย จึงทำให้เขาเข้าใจ และทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกปลอดภัย แล้วอีกอย่าง ผมก้อขอแบนเที่ยวเกาะเต่า ตลอดจนกว่าจะมีสิ่งที่พิสูจน์ยืนยันให้ผมเข้าใจว่าจับคนร้ายได้จริงและครบทุกคน ทั้งหัวหน้าลูกน้อง แล้วอีกอย่างน่ะ ผมไปเที่ยวมาแล้วพักที่หาดนี้แหละ pub bar เขาเปิดทั้งคืน และมีหมดเหล้า ยา(เสพติด) ครบหมดน่ะ เข้าใจยังว่าเจ้าของ pub bar ส่วนใหญ่ควรเป็นผู้มีอิทธิพลไหม ผมขอบอกว่าคนเสื้อแดงบางคนเขาก้อเป็นยาติพี่น้องผมถึงแม้ความคิดเห็นต่างกับผม แต่คุยกันได้ อันไหนดีก้อว่าดี อันไหนไม่ดีก้อว่า ไม่ใช่ว่าคนเสื้อแดงทำอะไรก้อผิดหมด ต้องดูเจตนาด้วย แล้วที่ใครๆก้อไม่เชื่อตำรวจ เพราะ ให้ข่าวไม่เคยตรงกันสักครั้งเลย คุณไปหาข่าวเก่ามาอ่านดีๆน่ะ แถมออกมาพูดออกสื่อบางครั้งบอกขัดแย้งกันเองกะคราวที่พูดมาก่อนๆด้วย กลับไปกลับมา ผมว่าน่าให้ตำรวจทีมสืบสวนเข้าเครื่องจับเท็จ ถามคำเดียวว่า จับแพะใช่ไหมก้อพอมั้ง ดูอย่างอดีตคดี เชอรี่แอน แพะติดคุกฟรี บางคนตรอมใจตายในคุก แต่ตำรวจที่ทำคดีกลับได้เป็นใหญ่เป็นโต พอเรื่องแดงก้อแค่โดนย้าย แค่นั้นจบ แต่แพะบางคนตายในคุกไปแล้ว เขาให้เงินเยียวยามีประโยช์นอะไร ไมไม่เอาตำรวจผู้ทำผิดจับแพะมาลงโทษ หว้าเหว่กะกระบวนยุติธรรมของไทยนัก ผมเห็นควรปฎิรูปกระบวนการ มิใช่ให้ตำหนวดไทยมีอำนาจคับฟ้าในการทำคดีตั้งแต่สืบสวน สอบสวน เก็บหลักฐาน รวบรวมพยาน จับกุม แจ้งข้อหา ดำเนินคดีทุกขั้นตอน มีแต่แค่เอาสำนวนให้อัยการสั่งฟ้อง คิดกันเล่นๆถ้าตำหนวดเข้าข้างผู้ร้ายแล้วแกล้งไม่เก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ บางคนทำลายหลักฐานให้เลยล่ะ นี่แหละหว้าเหว่กะตำหนวดไทย อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 8, 2014 (มีการแก้ไข) ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร บอกว่าสะเทือนใจ "พ.อ. อภิวันท์ วิริยะชัย" เสียชีวิต ''ยืนยัน'' เป็นนักประชาธิปไตย-สุภาพบุรุษ !!! ==== รายงานพิเศษ : แกะรอยล่า ปิดจ๊อบเกาะเต่า http://bit.ly/1s9117R Cr มานิกา สวัสดิ์พันธ์ "ว่าด้วยเรื่องราว จากเพจ"CSILA" ภาพนี้จริงหรือไม่ ภาพโดย เพจ"Red Buffalo"ค่ะ ..ในเพจ"CSILA" เรื่องคดี ตอนแรกก็น่าสนใจ แต่ตอนหลังเหมือนนวนิยายสืบสวนมากไปหน่อยค่ะ การวิพากษ์วิจารณ์ก็พอหอมปากหอมคอ เรื่องนี้เกี่ยวพันกับบุคคลหลายฝ่าย ถ้ามากไปก็จะกลายเป็นแต่งเรื่องหรือผูกเรื่อง และจะเป็นการชี้นำ ทั้งๆที่ยังไม่มีข้อพิสูจน์อะไรเลย เดี๋ยวจะกลายเป็นนวนิยายสืบสวนไปนะค่ะ ถูกแก้ไข ตุลาคม 8, 2014 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ ตุลาคม 8, 2014 วันที่ 8 ต.ค. 57 จ๊ะเอ๋..แก๊งค์เสรีเทย แฉว่า แก๊งค์โคนันคุง ก็คือ ทีม บก.ลายด่าง ซะแล้ว หลักอาชญวิทยาที่ว่า ผู้กระทำผิดย่อมทิ้งร่องรอย และเปิดเผยตัวตนในที่สุด เป็นจริงมาตั้งแต่มีตำรานี้ เมื่อถูกวางกับดัก ให้สังคมรุกเร้า ก็จะร้อนรน และพวกเดียวกัน ก็จะพยายามเข้ามาช่วย จนกลายเป็นร่องรอยชัดเจน จนนำไปชี้ตัวตนได้ในที่สุด ในภาพ องค์กรเสรีเทย ของเผาไทย ได้แฉ เปิดหน้ากาก แก๊งค์โคนันคุง พิน็อคคิโอเมืองไทย ซะแล้ว ว่าเป็นทีม บก.ลายด่าง...ก๊าก เอ้า ใครเป็นทุยแดง เจ้าของคอกเรียกไปกินหญ้าแล้ว เดินส่ายเขา สั่นกระดึงกรุ๋งกริ๋ง ไปตามที่เจ้าของคอกเรียกระดมพล อ้างฉากบังหน้าว่าไม่แบ่งสี แต่เบื้องหลังระดมคน และพยายามหาเหตุต่างๆ นาๆ ป้ายสีดิสเครดิส ทำลายชื่อเสียงของประเทศไทย ยังรู้จักกลลวง จริงคือเท็จ เท็จคือจริง จริงคือจริง เท็จคือเท็จ น้อยไปเสียแล้ว ต้องไปฝึกมาใหม่อีกเยอะ !! แก๊งค์โคนันคุง แย่แล้ว...โถ สงสารอ่ะ..น้ำตาจิไหล...ฮามาก @ เสธ น้ำเงิน1 https://www.facebook.com/thailandcoup อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น